ฉันขอร้องให้คุณมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีความสุขเพื่อคนที่รักคุณและเพื่อฉันด้วย ฉันอนุญาตให้คุณมีผู้หญิงอีกคนในชีวิตของคุณได้ แต่ต้องสัญญานะว่า ไม่ว่าวันจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด คุณจะมีฉันเสมอไป ฉันสัญญาว่าจะรอวันที่เราจะได้พบกันอีกครั้ง ผมจำคำพูดสุดท้ายของเธอได้เสมอ แล้วแทบจะขาดใจด้วยความที่ระลึกถึงเรื่องนั้น วันเวลาตั้งแต่ไม่มีเธอมันช่างผ่านไปช้าเสียเหลือเกิน ผมเองก็จมอยู่ในความทุกข์เสียเป็นนาน จนเมื่อ แม่มาร้องไห้ ขอร้องให้หยุดทำร้ายตัวเองเสียที ผมสงสารแม่เหลือเกินที่ต้องมารับความเจ็บปวดพร้อมกับผมในเรื่องนี้ด้วย สุดท้ายผมก็ต้องทำตามคำขอร้องของเธอคือต้องจำใจใช้ชีวิตต่อไปเพื่อคนที่รักผม เพื่อแม่ของผม นับแต่เธอไม่อยู่มีผู้คนมากมายเข้ามาในชีวิตผม มีคนถามผมว่าทำไมผมไม่หาใครซักคนมาเป็นเพื่อนใช้ชีวิตร่วมกัน แต่จะให้ผมใช้ชีวิตกับใครอื่นได้อย่างไรในเมื่อไม่ว่าเวลาจะเนิ่นนานเพียงใดเธอยังคงอยู่ ในใจผม ทุกๆ เช้าที่ผมตื่นสิ่งที่ผมปรารถนามากที่สุดคือการได้เจอเธอนอนซบอกผมอยู่บนที่นอน และปรากฏว่าสิ่งที่ผมต้องเผชิญอยู่อย่างแสนทุกข์ทรมานนั้นเป็นเพียงความฝัน ครั้งแรกทีเราเจอกัน ผมพบเธอที่แกรอรี่แห่งหนึ่งที่ จังหวัดเชียงใหม่ ผมจำเธอได้เพราะเราเรียนที่โรงเรียนมัธยมที่เดียวกัน และบังเอิญอีกที่ได้รู้อีกว่าเธอเรียนจบจาก มหาวิทยาลัยศิลปกร คณะจิตกรรม ผมจึงเข้าไปทักเธอด้วยว่ามั่นใจในหน้าตาของตัวเองพอสมควรหรือไม่ก็ใช้ความที่เป็นพี่น้องร่วมสถาบันนี่แหล่ะ แต่ปรากฏว่าเธอจำผมไม่ได้ เธอจึงเพียงยิ้มอย่างมีมารยาทให้ผมแล้วลาผมกลับ ใครจะรู้ล่ะว่าผลของการหน้าแตกครั้งนั้นทำให้ใจผมถึงขั้นหวั่นไหวเพ้อถึงรอยยิ้มนั้นเสมอมา และพระเจ้าก็เห็นใจผม เราได้พบกันอีกครั้งในงานปีใหม่ที่บ้านเพื่อนเธอที่บังเอิญว่าดันเป็นแฟนเพื่อนสนิทผม และที่ผมรู้เรื่องของเธอก็เพราะเพื่อนของผมคนนี้แหละ ในวันนั้นเธอดูดีน่ารักมาก จนผมกลัวว่าไอ้เพื่อนบ้าๆ ของผมจะคาบเธอไป แต่ด้วยว่าหน้าแตกไปแล้วครั้งนึง ผมจึงไม่กล้าเข้าไปเสนอหน้าอีกเป็นครั้งที่สอง แต่คงเพราะผมอาจจะโชคดีก็ได้ที่เธอเลือกที่จะเดินมาทักทายผมแทบทันทีที่เธอเห็นผม และตั้งแต่วินาทีนั้นเหมือนทุกสิ่งรอบข้างจะหมดความน่าสนใจไปในทันที เราได้คุยกันแล้ว อย่างน้อยผมก็เข้ามามีบทบาทในชีวิตเธอในวันนี้ และผมจะไม่ปล่อยให้เธอเขี่ยผมออกจากชีวิตของเธอในวันพรุ้งนี้ได้ ผมสัญญากับตัวเอง ทุกๆ อย่างดำเนินไปอย่างเพอร์เฟ็กเธอน่ารักเสมอทุกๆ คราวที่เราเจอกัน ผมมีความสุขที่เห็นหน้าเธอถึงเธอจะเอาแต่ใจตัวเองบ้างแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความน่ารักของเธอน้อยลงเลย ดอกรักของผมงอกงาม และงดงามจนใครๆ อิจฉา ด้วยมีเธอเป็นกำลังใจ ผมจึงพยายามขยันทำงานเก็บหอมรอมริบเงินทุกบาททุกสตางค์เพราะผมคิดว่ามันจะถึงเวลาที่ผมต้องมีใครมาเป็นภาระซักที ช่วงเวลานั้นถึงจะเหนื่อยและลำบากมากกว่าที่เคยเป็นมาแต่ผมไม่เบื่อเลยเพราะผมรู้ว่ายิ่งผมอดออมเท่าไรครอบครัวเล็กๆ ของเราก็เริ่มต้นเร็วขึ้นเท่านั้น ความจริงแล้วเราจะแต่งงานกันเลยก็ได้ แต่ผมกลัวว่าผมจะพาเธอมาลำบาก ผมอยากให้ใครๆ รู้ว่าเธออยู่กับผมอย่างสุขสบาย โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยฐานะทางบ้านของเธอ แล้วก็ถึงวันของเรา ผมมีแหวนเพชรวงเล็กๆ กับกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ คุกเข่าแล้วขอแต่งงานกับเธอ วันที่ 14 ก.พ. นี้คงเป็นวันที่เรามีความสุขที่สุด แม่เธอโทรมาหาผมเช้าวันนั้นด้วยเสียงสั่นเครือ รถเธอคว่ำ ผมลนลานทำอะไรไม่ถูกผมคว้าทุกอย่างที่อยู่ข้างตัวขึ้นรถไปหาเธอ แม่เธอนั่งร้องให้จับมือเธออยู่ ผมเห็นตัวเธอเปื้อนไปด้วยเลือด เธอมองผมด้วยรอยยิ้มจางๆ ผมวิ่งไปหาเธอ ในเวลานั้นเธอยังอยู่กับผม แต่ไม่นานพอเธอพอพูดประโยคสุดท้ายจบ ผมก็ไม่มีเธออีกต่อไปแล้ว ผมไปทันเพียงสวมแหวนให้เธอ รักเสมอ วอนวันคืนผ่านพ้นรวดเร็วดังฝัน รอคืนวันพบกันตามคำสัญญา
12 เมษายน 2547 10:11 น. - comment id 72824
เปิดตัวด้วยถ้อยคำที่เป็นประโยคตอนจบของเรื่อง ทำให้ผู้อ่านฉงนว่าทำไมเธอจึงใจสะปอร์ท อย่างนี้ เป็นเรื่องที่เศร้าอย่างกระทันหันจนแทบตั้งตัวไม่ติดครับ
12 เมษายน 2547 12:14 น. - comment id 72838
ใจหายวูบเลย..ค่ะ T - T
12 เมษายน 2547 17:38 น. - comment id 72859
เหมือนเคยเห็นใน แจ่มใส นะครับ เหมือนเปี๊ยบเลย
13 เมษายน 2547 07:52 น. - comment id 72882
ดีใจมากเลยค่ะที่เข้ามาพิจารณ์ให้ แล้วถ้าที่อ่านเจอที่แจ่มใสก็อย่า งงล่ะ คนเดียวกัน ที่คุณกัลปพฤกษ์ว่า เศร้ากระทันหัน หลายคนที่อ่านเค้าก็ว่าอย่างนั้น ดิฉันเลยคิดว่าจะเขียนตอนจบเพิ่มใหม่ คิดว่าดีใหมค๊ะ
12 มิถุนายน 2547 02:33 น. - comment id 74656
อ่านได้อารมณ์ดีนะคับ แต่อยากอ่านยาวมากกว่านี้ กำลังอินเลยอ่ะ
13 มีนาคม 2548 15:56 น. - comment id 83484
เศร้าเนอะ