++++เรื่องถึง..Bigyak+++++

อาภาภัส

ดวงจันทร์หลังคืนวันพระ มันยังคงงามเด่นกลมโตและใสกระจ่าง สีเหลืองนวลตาของแสงจันทร์ ยามที่ฉันช้อนสายตาเงยมอง มันทำให้ฉันอมยิ้ม  เธอมาในความมืดแห่งรัตติกาล  เธอ มักถามฉันว่า
    ทำอะไรอยู่  ไม่ไปไหนเหรอ ทำไมไม่ออกไปเที่ยวกับเพื่อน ไปคุยกับใคร
    คำที่ฉันตอบเสมอ   ก็ไม่มีใคร
    ..........................
    เรามักคุยกันหลายอย่างจิปาถะ  ในระยะแรกฉันรูว่าเธอพูดน้อยเธอพูดอะไรทุกครั้งฉันต้องตลก 
   เธอมักถามว่าอะไรตลก ตลกตรงไหน ฉันตอบไม่ถูกหรอกนะ  ฉันอยากจะบอกกับเธอว่ากับคนธรรมดาอย่างฉันผู้หญิงคนนึงไม่ได้มีความสวยเป็นอาภรณ์ ฉันมีเพียง
หัวใจดวงหนึ่ง  หัวใจที่เหมือนหลายคนอาจจะมองข้าม และ บอกว่า อ่อนไหว 
หรือมักคิดอะไรแปลกๆ  แต่ฉันอยากได้แต่ความรู้สึกที่จริง  เธอเป็นหนึ่งคนที่แม้เราจะไม่เคยเห็นหน้ากัน ฉันอยากบอกไว้ตรงนี้ว่า ขณะที่คุยกัน แค่ตัวอักษรแต่ฉันสื่อได้ถึงความรู้สึกห่วงและไม่ห่วง  และคนอย่างฉันคลื่นวัดความรู้สึกมันเป็นหัวใจ และเป็นหัวใจที่ฉันบอกกับตัวเองว่าฉันเคารพมัน.
   ไม่น่าเชื่อเลยแค่จะเขียนเล่าเรื่องถึงเธอฉันหลับไปสามตลบแล้ว..  ข้ามวันข้ามคืนเขียวนะสำหรับเรื่องนี้  ....เอางี้ดีกว่านะ  เวลาตอนนี้หกโมงกว่าพอดี  ไม่มีแสงอาทิตย์ ไม่มีแสงจันทร์ มองผ่านม่านลายฉลุออกไป คงเห็นแต่ท้องฟ้าสีขาว  บรรยากาศข้างนอกเมื่อมองจากภายในบ้านมันก็มองดูได้แค่เห็น ต้นชมพู่หน้าบ้าน แต่ตอนนี้ผลมันเหลือน้อยลงเพราะลมพัดหล่นตอนสุกมาหลายราตรีแล้ว แล้วยังต้นมะม่วงอีกสามสี่ต้นที่บางต้นผลถูกเก็บกินจนเกือบหมด และบางต้น ผลก็ยังสุกไม่หมด 
   ให้พูดจากใจเลยนะถ้ามีเธออยู่ตรงนี้ฉันคงอยากให้เธอเป็นคนเก็บผลไม้ แล้วฉันก็คงยืนมองดูเธอแล้วก็หัวเราะ จะถามไหมว่าทำไม ตอบชัดเลย ฉันคนบ้านนอก เธอคนเมืองกรุง ขี่เครื่องบินเป็นการพักผ่อน เธอคงทำแต่งาน งาน แล้วก็งาน ก็ยังดีนะ ที่เธอมาคุยกับฉันด้วยความเมตตา ฉันซาบซึ้ง ให้เธอเก็บมะม่วงก็เป็นการขอบคุณไง ลองดูบ้างสิชีวิตธรรมดาแต่อยู่ในธรรมชาตินะ
        ตอนนี้สิ่งที่ฉันได้ยินคงเป็นเสียงนกที่ต่างตะโกนกู่บอกกันว่าใกล้มืดแล้ว
ฉันนั่งฟังเสียงจนอดใจไม่ไหว ต้องลุกออกไปนอกบ้าน ลมเย็นพัดมาพอที่จะทำให้ระฆังแขวนรูปปลาหน้าบ้านดังกรุ๋งกริ๋ง  อยากบอกเธอว่าบรรยากาศยามเย็นยามนี้ดูสบายๆ  ความเป็นธรรมชาติเป็นสิ่งที่ฉันชื่นชมและชื่นชอบจนเป็นแรงบันดาลใจในความรู้สึกของฉัน ที่ฉันจะบวกกับจินตนาการและใช้ความรู้สึกเติมลงที่จะเขียนหนังสือเก็บไว้อ่าน หรือสื่อให้ผู้อื่นมีใจที่สร้างความสุขได้เช่นกัน
        ฉันชอบในธรรมชาติของเด็ก เด็กมักบริสุทธิ์  อย่างมีอยู่วันหนึ่งตอนเย็น
วันนั้นฉันมีกล้องถ่ายรูปอยู่ในมือ ฉันเห็นเด็กห้าคนเดินคุยกันมา  เด็กผู้ชายตัวเล็กสุด ส่วนผู้หญิงที่เหลืออีกสี่คนก็รูปร่างสูงอ้วนผอมแตกต่างกันไป ความเป็นธรรมชาติของพวกเขา กระตุ้นหัวใจฉันในยามที่มองเห็น รอยยิ้มของเด็กคำพูดที่ใสๆ ฉันจำได้ว่าฉันยิ้มกับพวกเขาแล้วทักทายว่า
        สวัสดีค่ะเด็กๆ  รู้ไหมเขาตอบพร้อมกันเลย สวัสดีค่ะครับ  รอยยิ้มบนใบหน้า และกิริยาที่เป็นธรรมชาติกระตุ้นหัวใจให้ฉันเติมยิ้ม และหัวใจก็อ่อนโยนลง  ฉันเอ่ยถามพวกเขาว่า เล่นกันสนุกไหมคะ  ตอบพร้อมกันอีกแล้ว สนุกค่ะ
เสื้อผ้าที่มิใช่ตามแฟชั่น แต่แต่งตามฐานะที่มีดูสมน่ารักกับความเป็นเด็กเสริมให้ค่าความเป็นเด็กมีราคาที่เราผู้ใหญ่ต้องพึงเอาใจใส่ในความรู้สึก
       ถ่ายรูปให้เอามั้ยคะ   เอาค่ะ ยิ้มหวานหมดทุกคนเลย  ไม่มีกั๊กอารมณ์ว่าจะต้องวางท่า เธอทักฉันก่อน และที่ฉันประทับใจสุดๆก็คือ เด็กๆไปยืนเรียงอยู่ริมสนาม เรียงจากสูงไปต่ำที่มันพิเศษสำหรับฉันคือพวกเขายกแขนพาดบ่าเชื่อมต่อกันทั้งห้าคน เรียงจากสูงตัวอ้วนสุด ผมหน้าม้าสวมเสื้อยืดสีเหลืองกางเกงขาสั้นสีครืม  คนที่สองผอมหน่อย คนที่สามมีเปียสองข้างอ้วนบั่กท่าทางเอาเรื่อง เจ้าหล่อนนุ่งกางเกงขายาวที่รัดตัวเจ้าหล่อนเลยละ คนที่ยังจำติดตาก็เห็นเป็นคนที่สี่ ก็ทรงผมน่ะสิ ผมทรงน้ำพุแขนบางๆลำตัวบางๆยืนเหมือนจะล้มให้ได้นั่นละ ฉันเลยตอนเด็กๆทรงน้ำพุที่บานเหมือนดอกพู่ระหง  หนูน้อยหนุ่มเดียวผมสั้นเกรียน ผอมก่อกก๋อยดูจะตื่นกว่าเพื่อนยืนเบียดชิดแม่ทรงน้ำพุเหมือนเรียกหาความมั่นใจ สวมเสื้อกล้ามไม่มีแขนสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน
แต่ดูเหมือนกางเกงมันยาวใหญ่เกินตัว  ทุกคนยิ้มหวานแจ่มใส พร้อมใจกันยิ้มรับกล้องถ่ายรูป ฉันกดไปหลายรูป แล้วฉันจึงเดินตรงเข้าไปหาพวกเขา
    นื่จ้ะรางวัลเด็กดี ฉันหอมแก้มพวกเขาทีละคน ทุกคนเอียงแก้มด้วยความยินดี ไม่มีใครจะโชคดีเท่าฉันแล้วในเวลานี้ ไมตรีที่จริงใจ จากเด็กๆที่ไม่จำเป็นต้องรู้จักมาก่อน เด็กๆหยิบยื่นให้ผู้ใหญ่ด้วยความรู้สึกเต็มหัวใจและความจริงใจ
    แล้วเราจะพบกันได้ยังไงอีกล่ะคะ จะได้เอารูปให้  
   ไม่เป็นไรค่ะ หนูมาที่นี่บ่อยมาก  ยายตัวโตสุดพูด
   จ้ะ  งั้นเราคงได้เจอกันอีก  สวัสดีนะคะ
  สวัสดีค่ะ พร้อมกันอีกแล้ว แต่คราวนี้เสียงดังฟังชัด
   ฉันเล่าให้คุณฟังเพราะฉันนึกถึงส่วนดีของคุณเช่นกัน ในยามที่ฉันนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ฉันนั่งพิมพ์งาน และในวันที่ใครๆเขาไปเที่ยวในวันแห่งความรัก
ฉันก็ยังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์  ไม่มีใคร  แต่จำได้ไหม ฉันมีคุณ คุณคุยเป็นเพื่อนฉันเป็นระยะ ฉันไม่รู้หรอกนะ เรื่องที่ฉันเขียนถึงคุณ คุณจะได้อ่านหรือไม่
แต่ฉันก็เขียนและเล่าถึงเรื่องนี้เพื่อคุณนะ.คุณบิ๊กยักษ์ 
   
  
....  
 
 
   
 
 
   : : เพิ่มรูปภาพ : : 
 
 รูปภาพ :  
- กว้างและสูงไม่เกิน 480 pixel 
- ขนาดไม่เกิน 100K  
 คำบรรยาย :   
     
 Scoop ID :   2162  
 Posted by :   รหัสสมาชิก : 7446 - อาภาภัส  
 Source :   ความรู้สึกถึงคนที่เคยคุยในคอม 
 Date - Time:   08 เม.ย. 47 - 21:54 
 Note :   ไมตรีจิตของคุณยิ่งใหญ่ ฉันบอกแค่ว่าถ้าคุณมีตัวจริง ฉันก็มีคุณตามที่ฉันเคยบอกในคอม 
 ส่งให้เพื่อน  เพจ-มือถือ  Bookmark  แจ้ง Admin 
 
   
 
 
 
 ความคิดเห็น : ช่วยกันอ่านนะคะ  ผู้ใหญ่หรือเด็กก็เหมือนกันแหละค่ะ  ตรงหัวใจที่ต้องมีไว้ แล้วบอกให้รู้ว่ามี ชีวิต   แล้วอย่าลืมทำอะไรเพื่อเด็กๆเยอะๆนะ  
 จาก : รหัสสมาชิก : 7446 - อาภาภัส  
 รหัส - วัน เวลา : 7370 - 08 เม.ย. 47 - 21:59 
 
 
 
 : : ความคิดเห็นของคุณ : : 
 
 ความคิดเห็น :   (ไม่จำกัดตัวอักษร)  
 จาก : รหัสสมาชิก : 7446 - อาภาภัส 
     
 
  : : กลับไปหน้าที่แล้ว : :				
comments powered by Disqus
  • เลิฟลี่(ลืมล็อกอิน)

    10 เมษายน 2547 02:39 น. - comment id 72723

    มาให้กำลังจัยคับผม
  • อาภาภัส

    19 เมษายน 2547 20:53 น. - comment id 73270

    ตอบขอบคุณคุณเลิฟลี่ค่ะ
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน