อยากให้ลมหนาวพัดหวนมาอีกครั้ง

แชมป์

1
ทำไมวันนี้อากาศค่อนข้างอบอ้าวกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ผมพึมพัมอยู่กับตัวเองขณะที่กำลังพาเจ้ามอเตอร์ไซด์คันน้อย ขับขี่ออกไปเรื่อยๆตามเส้นทางที่คุ้นเคย แม้จะรู้ถึงจุดหมายที่ใจนึก แต่ดูท่าคงอีกนานกว่าจะถึง เพราะพาหนะสองล้อคันนี้ดูเชื่องช้าลงนักตามเวลากาลเวลาที่โรยร่วง ผมเพียงได้แค่หวังว่ามันคงจะทำได้ดีกว่านี้ ถ้ามันสามารถย้อนกลับไป เมื่อครั้งมันยังหนุ่ม   
   
แม้ในใจกำลังรอความหวัง กลีบเมฆสักก้อน สายลมอ่อนโยน พัดผ่านมาทางที่ผมจะไป เผื่อก้อนเมฆนั้นจะช่วยบดบังแสงอาทิตย์ที่กำลังเล่นสนุกกับคนข้างล่าง แต่ในความคิดกลับกำลังจมอยู่กับเรื่องราวบางส่วนของ นวนิยายเล่มหนึ่งที่ยังประทับอยู่ในใจ
2
ธันวาขี่เจ้าดอกไม้ผ่านสายฝนปรอยไปบนถนนห้วยแก้ว ถนนที่มีชื่อเหมือนสายน้ำ ลมฝนดูเงื่องหงอยกว่าวันวาน จากคำทักทายกลายเป็นคำอำลา สี่ปีกว่าแล้วเหนอที่ธันวาใช้ชีวิตเวียนวนอยู่ในเชียงใหม่กับเพื่อนๆ กับกองหนังสือเรียน ชีวิตประจำวันกับเรื่องราวมากมายที่ต้องรีบทำให้เสร็จไปในวันหนึ่งๆ ธันวาได้ละเลยเพื่อนเก่าไป ความสัมพันธ์จึงจืดจางลง วันนี้เอง ธันวารู้สึกว่าฤดูฝนที่ผ่านมา เธอโปรยเม็ดลงมาทักทายน้อยกว่าเมื่อแรกรู้จัก และฤดูหนาวนี้เพื่อนเก่ามาล่าช้ากว่าที่เคยนัดกันไว้ในปลายหนาวโน้น เหมือนเธอไม่ไม่ยี่หระต่อการมา บางทีเธออาจนึกน้อยใจ
3
อยากให้ลมหนาวพัดหวนมาอีกครั้ง เป็นสิ่งบังเอิญเมื่อแรกพบในร้านหนังสือ ภาพวันนั้นยังจำได้ หนังสือนวนิยายหลายเล่มถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ ในชั้นหนังสืออลูมิเนียมสีขาวสะอาดตา ใกล้กับทางออกซึ่งคนส่วนมากมักใช้เป็นทางเข้า 
    ฟ้าบ่กั้น จากบทประพันธ์ของ ลาว คำหอม ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ คือแรงดึงดูดให้ผมเข้าไปในร้านหนังสือในวันนั้น หนังสือดีสักเล่มคงไม่ต่างจากมิตรแท้ในวันที่ไม่มีใคร เป็นความคิดแรกเมื่อยามที่รู้ว่า ชีวิตนี้ไม่ได้มีแค่เพียงหนังสือเรียน และฟ้าบ่กั้นคงจะเป็นมิตรอีกคนที่ทำให้ผมเรียนรู้สิ่งที่ดีจากอดีตที่ผ่านมาของเขาทว่า
ก่อนที่ปลายนิ้วจะทำความรู้จักฟ้าบ่กั้น แต่ปลายสายตากลับชำเลืองเห็น หนังสือเล่มหนึ่งที่อยู่ชั้นถัดไป อยากให้ลมหนาวพัดหวนมาอีกครั้ง คือหนังสือที่ดูแปลกจากพวก เพราะมีแค่เล่มเดียวเท่านั้น ทำไมถึงมีเล่มเดียว?เป็นความคิดแรกที่ผ่านแว่วเข้ามา ทำไมถึงมีชื่อคล้ายกับ ยามเมื่อลมพัดหวน หรือจะนำมาทำใหม่ แต่คงไม่ใช่เพราะชื่อผู้ประพันธ์ไม่ได้พิมพ์ว่า ว.วินิจฉัยกุล แล้วทำไมหนังสือเล่มนี้ถูกจัดอยู่ในแถวเดียวกับหนังสือรางวัลวรรณกรรมต่างๆ ไม่น่าเชื่อว่าหนังสือเล่มเดียวจะทำให้มีคำถามมากมายกับผมเช่นนี้? ทำไมและทำไม?? เร็วเท่าความคิด  ผมขอพักจากฟ้าบ่กั้น เพื่อค้นหาคำตอบในหนังสือที่ชื่อว่า อยากให้ลมหนาวพัดหวนมาอีกครั้ง
4
ช่วงเวลาที่นิ้วชี้ของมือขวาพลิ้กมุมบนของกระดาษด้านเดียวกันในหนังสือเล่มนี้ ผมยังไม่สามารถคลี่คลายคำตอบในบางคำถามได้ และไม่นานนักหนังสือจึงถูกวางลงในที่ควรจะวาง เพราะดูเค้าว่าฝนคงจะโปรยเม็ดในอีกไม่ช้า 
ระหว่างที่เดินผ่านประตูทางเข้าซึ่งคนส่วนมากมักใช้เป็นทางออก ผมหันกลับไปมองที่ชั้นหนังสือแล้วพลางชำเรืองไปบนเมฆหมอกทมึน แล้วบอกกับตัวเองว่า อีกไม่นานฟ้าคงบ่กั้น จากนั้นจึงรีบสตาร์ทเพื่อนคู่ใจฝ่าสายฝนออกมา โดยที่เกรงเหมือนกันว่า อยากให้ลมหนาวพัดหวนมาอีกครั้ง ของอภิชาติ เพชรลีลา ในกระเป๋าสะพาย จะเปียกปอนเหมือนตัวผมหรือไม่
5
สำหรับใครบางคนอาจจะมีอดีตอันสวยงามและหอมหวาน วันและเวลาในห้วงนั้นจึงยากที่จะลบเลือนออกจากความทรงจำ แต่สำหรับใครอีกหลายคนอดีตอาจเป็นฝันร้ายที่แสนทรมาน วันและเวลานั้นอาจไม่อยู่ในความทรงจำแม้เพียงเสียดเสี้ยว ซึ่งบางคนนั้นอาจจะพยายามลบเลือนหรือบางทีอาจแสร้งทำ
สำหรับชีวิตหนึ่งจะมีสักกี่คนที่อยากย้อนกลับไปสู่ห้วงในอดีต อดีตที่อีกฝากนั้นงดงามในความทรงจำ แต่อีกด้านในหนึ่งก็แฝงด้วยความโศกเศร้าของการสูญเสียบางสิ่ง อย่างไม่มีวันคืนกลับ
คงจะดีกว่าถ้าเราไปพบตัวเราเองในอดีต ที่ผลิบานเหมือนดอกไม้ในวันแรกแย้ม เหมือนดังท้องฟ้าสีฟ้าใสดูสบายตา แต่ในความฝันอาจไม่ตรงกับความจริง และในหนังสือนวนิยายแห่งกาลเวลาของหนุ่มสาวเล่มนี้ มันพอทำให้ผมยอมรับความเป็นจริงที่เกิดกับชีวิตคนเรา ชีวิตที่มีทั้งสีขาวในยามที่อยู่บนความสุขและหมองหม่นคล้ายสีดำในยามที่จมอยู่ในความทุกข์ ไม่มีใครที่หลีกพ้นได้
 6
ตัวละครในเรื่องไม่ว่าจะเป็น ธันวาผู้มาพร้อมกับบทเพลงในใจ โกอิ้งโอม ของมาร์ค นอพ์เลอร์ หรือไม่ก็บทประพันธ์ของจอห์น สไตน์เบ็ค ในเรื่อง ตอร์ติย่าแฟรท กลางหนุ่มน้อยคณะเกษตรผู้ที่ศรัทธาในความเชื่อที่ว่า วรรณกรรมนั้นสามารถเปลี่ยนโลกของเราได้ โส่ยสาววิจิตรศิลป์ผู้มีดวงตาที่สดชื่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิ และชอบอ่านเรื่องของ พิบูลศักดิ์ ละครพล และเพื่อนๆอีกหลายคน ที่พวกเขามีรังรักร่วมหลังเดียวกัน ณ บ้านเชิงดอย จังหวัดเชียงใหม่
พวกเขาเหล่านี้มี อดีต ปัจจุบันและอนาคต ที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขายึดมั่นเหมือนกันคือ ความศรัทธาในสิ่งที่ตนเองเชื่อและในสิ่งที่ตนเองรัก โดยมีมิตรภาพเป็นโซ่คล้องสายสัมพันธ์ ให้ความเหมือนที่แตกต่างนั้น สามารถหล่อหลอมรวมกันได้อย่างลงตัว
7
ทันใดที่เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ปิดฉากลง ทว่าดูเหมือนเป็นเพียงการเริ่มต้น มันคงไม่เพียงแค่เหล่าตัวละครในนวนิยายเล่มนี้ มันอาจรวมไปถึงตัวละครที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง  ซึ่งไม่อาจคาดเดาบทบาทของตัวเองในวันพรุ่งนี้ได้ ที่ทำได้คงเพียงทำวันนี้ให้ดีที่สุด เหมือนกับชีวิตเรานั้นเริ่มต้นขึ้นได้ทุกวันฟ้าใหม่ 
ความรัก ความหวัง ความศรัทธาและมิตรภาพ ผมยังไม่อยากนึกคิดเลยว่า ถ้าชีวิตหนึ่งเกิดมาแล้วขาดสิ่งเหล่านี้ไป ชีวิตจะมีความอะไรนอกจากอยู่ไปวันต่อวัน คำว่า ชีวิต คงไม่ต่างอะไรไปกว่าร่างที่ไร้วิญญาณ
ความหลังที่ผ่านมา คงจะมีทั้งรื่นรมย์และตรอมตรม ไม่ว่าอย่างไรผมคงจะเก็บมันไว้ อดีตที่สวยงามคงช่วยให้ผมมีพลังในวันที่ไม่อยากก้าวไปข้างหน้า ปัจจุบันที่เผชิญกับความทุกข์คงช่วยทำให้ผมรู้ว่าวันนี้ยังดีกว่าเมื่อวันวาน วันวานที่เราเคยฝ่าฝันมาได้
   8
ผมคงจะถึงจุดหมายในอีกไม่ช้า ถ้าเจ้ากรรมฟ้าฝนกลับลงเม็ดมาเสียก่อน จากแรกหยดที่พอทำให้รู้สึกหาที่กำบังฝน แต่ไม่นานน้ำจากฟ้าก็เทกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย อย่างไม่หยี่ระต่อคนข้างล่าง เช่นเดียวกับพระอาทิตย์ทอแสงลงมาเต้นระเริงอย่างสนุกกับผิวคนบนพื้นดินในช่วงเช้า ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลงง่าย อาจคงเป็นเพราะเข้าใกล้ต้นฤดูหนาวในปลายฤดูฝน
ผมและเพื่อนซี้สองล้อต่างหลบฝนอยู่ใต้ชายคาของศาลารอรถประจำทางในมหาวิทยาลัย ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงออกอาการหงุดหงิด ที่ฝนเจ้ากรรมทำให้ผมล่าช้าในการเดินทาง พอมาวันนี้ผมกลับคิดได้ว่า การที่เราคิดแต่เพียงจะเดินทางไปยังจุดมุ่งหมายที่ตั้งใจในทีแรก ถึงแม้มันเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ แต่ในช่วงระยะทางระหว่างจุดเริ่มต้นและจุดสุดท้าย เราอาจมองข้ามบางสิ่งและบางอย่างข้างทางไป ซึ่งสิ่งเหล่านั้นอาจช่วยให้เราเข้าใจความหมายอะไรมากกว่าจุดมุ่งหมาย ความภูมิใจ แต่ผมคิดว่าเราจะได้เรียนรู้และรู้จัก ความงดงามพร้อมกับความสำเร็จของชีวิต
ระหว่างที่นั่งรอน้ำฝนจะขาดสาย ไม่รู้เหมือนกันว่าผมนั่งฮัมเพลงไปกี่เพลงแล้ว  พลางคิดว่า ใครกันหนอที่คิดเวลาฝนตกแล้วจึงรู้สึกเศร้า ผมว่าฝนวันนี้ทำให้ผมร่าเริงอย่างบอกไม่ถูก เหมือนมีเพื่อนๆอยู่รอบกาย แต่ความจริงกลับกลายเป็น ต้นไม้ ดอกไม้แถวนั้น แต่ก็ยังหวังเล็กๆว่าคงจะมีสาวน้อยใบพริ้มเพราสักคนมาหลบฝนใต้ชายคาเดียวกัน
แต่ตอนนี้รู้สึกเหมือนฝนจะเริ่มเพลาแล้ว เอ๊ะ! นั่น รุ้งนี่นา จำไม่ได้เหมือนกันว่าไม่เห็นสะพานเจ็ดสีที่ลัดผ่านผืนฟ้าและผืนน้ำมานานเท่าไหร่ ดูกี่ทีก็ยังเหมือนเดิมนะ				
comments powered by Disqus
  • ทิกิ_tiki unlogged-in

    31 มีนาคม 2547 18:36 น. - comment id 72346

    มาเป็นกำลังใจค่ะ
    
  • กัลปพฤกษ์

    1 เมษายน 2547 19:43 น. - comment id 72401

    น่าอ่าน น่าติดตามดี แถมให้ข้อคิดที่ดี ๆ กับชีวิตอีกด้วย
    ลีลาการเขียนชื่นชอบมากครับ
    
  • แชมป์

    8 เมษายน 2547 22:58 น. - comment id 72653

    ขอบคุณทุกคนที่ติชมมานะฮะ จะพยายามส่งงานเขียนมาเรื่อย 
    ปล  มีอีกหลายสิบเรื่อง
  • เพลงกลางป่า

    1 กุมภาพันธ์ 2548 19:57 น. - comment id 82481

    ขอบคุณครับ พี่แชมป์เล่น MSN ป่าวครับเนี่ย ผมเล่นนะครับ touchdeep1@hotmail.com
    
    หรือพี่จะเมลมาคุยกับผมได้ที่ steve_lj9003@yahoo.com นะครับ ผมเพลงกลางป่านะครับ พี่แชมป์แต่งได้ดีจริงๆครับ จะรออ่านครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน