กล่องของแม่

zonkung

แม่ก้าวเดินอย่างมั่นคงมาขึ้นรถ มั่นคงจนฉันใจหาย หนักมั๊ยแม่ อิ๋วถือกล่องให้แล้วกัน ฉันเอื้อมมือไปฉวยกล่องเก่าๆ นั้นจากมือแม่แต่ไม่สำเร็จ แม่เม้มปากอย่างเด็ดเดี่ยว และตามองถนนอย่างระมัดระวัง ส่วนมือประคองกล่องที่ว่าไว้อย่างมั่นคง วันสุดท้ายแล้วที่แม่จะอยู่ในความดูแลของฉัน เมื่อตอนคุยกันกับแม่ความโล่งอก ทำให้ฉันมีความสุขมาก สุขที่แม่เข้าใจความจำเป็นของลูกที่ตัดสินใจส่งแม่ไปอยู่ที่อื่น แน่นอน ตรงนั้น ตรงที่ใหม่ที่แม่จะไปอยู่ทุกคนจะมีความสุข เพราะเป็นสถานที่ สำหรับคนอายุรุ่นราว คราวเดียวกัน สถานที่ซึ่งรวมเอาคนที่มีความรู้สึก ความต้องการ ความคิดอ่านและอะไรต่อมิอะไรหลาย ๆ อย่างที่ เหมือนกันมาไว้ใต้ชายคาเดียวกัน มันเป็นทฤษฎีที่ถูกต้อง! ทฤษฏีของการแยกประเภทแยกโลกออกจากกันให้ชัดเจน เพื่อลดความขัดแย้งในต่างประเทศที่ พัฒนาแล้วสังคมล้วนเป็นเช่นนี้ 
ไปก็ไปซี ว่าแต่แกจะกินอยู่ยังไงล่ะ แม่ตอบง่ายๆ ใจวาบลึกเหมือนกันกับคำพูดของแม่ ที่ห่วงฉันจะอยู่จะกินยังไงต่อไป แม่อย่างห่วงเลย อิ๋วโตแล้ว ฉันตอบแม่อย่างเด็ดเดี่ยวบ้าง นับแต่วันที่คุยกันแล้ว แม่ก็ยังดำเนิน ชีวิตปกติ เพื่อรอวัน ย้ายบ้าน แม่ไม่ได้ลุกขึ้นมาเก็บสมบัติของแม่ อย่างที่ฉันคิดไว้ แม่ไม่ได้มีอาการซึมเศร้าเหงาหงอย อย่างที่พวกเราพี่ๆ น้องๆ กลัวกันและแม่ไม่ได้พูดจาโต้แย้งกับฉันเหมือนเรื่องอื่นๆ ที่เคยเป็นมา พวกพี่ๆและบรรดาสะใภ้ กับเขยทั้งหลายเสียอีกที่รุมถล่มฉันอยู่หลายวัน แม่คนเดียว อยู่อีกไม่กี่ปี อิ๋วก็ไม่น่าจะ ต้องผลักไสแกไปอย่างนั้นนี่ พี่สาวคนโต คนแก่ก็ยังงี้แหละ บ่นบ้างว่าบ้าง จะอะไรกันนักหนา ชั่วดีก็แม่เราจะส่งแกไปทำไมกัน แม่คงเสียใจพิลึก แกลองไปคิดดูใหม่ดีๆ แล้วกันว่าจะส่งแม่ไปจริงเหรอ เออ..เอาเข้าไปได้พวกดีแต่พูด พูดกันดีนักแต่ไม่เห็นมีใครมาดูดำดูดีแม่ซักคนนอกจากฉัน! ใช่ว่าฉันจะสวยน้อยกว่า พี่อ้อย พี่แอ๊ว และพี่อ๋อม และใช่ว่าความรู้จะด้อยกว่าพี่คนอื่น ๆ เพียงแต่แม่พวกนั้น มันเกิดก่อนเลยได้โอกาสตัดช่องน้อยแต่งงานกัน ไปหมดแล้ว ฉันเลยกลายเป็นคนสุดท้าย ที่พลาด เก้าอี้ดนตรีไปซะฉิบ ตกที่นั่งต้องมานั่งเลี้ยงแม่ ทนฟังแม่ บ่นและคอยเถียงกับแม่ในทุกเรื่อง 
แม่ขึ้นรถเรียบร้อยพร้อมเอากล่อง ของแม่วางบนตักโดยไม่ยอมให้ฉันเอาไปวางไว้เบาะหลัง พอพ้นซอยเท่านั้นแหละรถติดเป็นแพเต็มถนน ฟ้าที่ดำทะมึนตั้งกะเช้าก็สำแดงอาการทันที กลายเป็นฝนตกลงมาห่าใหญ่ โดยไม่ต้องมีอารัมภบท มันดูน่าเบื่อเหลือเกินสำหรับอาการฝนตกรถติด แม่หนาวมั๊ย จะได้หรี่แอร์ แต่แเม่สั่น หน้า ตั้งแต่ออกจากบ้านแม่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย แม่เอาของมาน้อยจัง ในเมื่อแม่ไม่พูดฉันเลยต้องพูดไม่งั้นคงเครียดเป็นบ้า กับประโยคนี้ ของฉันแม่เริ่มพูดขึ้นมาได้ ที่เอามานี่ก็ทั้งชีวิตแล้วอย่างอื่นไม่รู้ จะเอาไปทำไม มันไม่จำเป็น เสื้อสองชุด รองเท้าแตะคู่ก็พอเอาไปมากเดี๋ยวโดนขโมยน่ะซี ฉันลอบถอนใจ ยังดีที่แม่คุยขึ้นมาบ้าง แม้จะเป็นการพูดแบบมองโลกในแง่ ลบไปหน่อยก็ตามแม่ก็ยังงี้แหละ กลัวของหายกลัวคนมาขโมยของของตัวบางทีโวยวายแทบตายปรากฏว่าของที่ว่าหายนั้น อยู่ในลิ้นชักของตัว เองแท้ๆ 
รถบนถนนขยับได้ทีละนิดสลับกับ อาการหยุดนิ่งอยู่กับที่ทีละนานๆ ฝนบนฟ้าก็เทลงมา ยังกะเทวดากำสรวลฉันมองดูกล่องบนตักแม่ที่แม่ใช้ใส่ของไปบ้านใหม่ มันเป็นกล่องกระดาษสีน้ำตาลเก่าแก่ ด้วยกาลเวลากล่องแบบนี้เดี๋ยวนี้เขาคงเลิกผลิตแล้ว และผงซักฟอกยี่ห้อนั้นก็เลิกผลิตไปนานหลายปีแล้วยิ่งดูจากวันเดือนปีที่ผลิตตรงข้างกล่อง ยิ่งเห็นว่ามันเก่าเชียวลังผงซักฟอกของแม่จะว่าไปจริงๆ ขนาดกำลังพอดีเพราะพอวางบนตักแล้ว ขนาดพอดีกับตักแม่เลยมีรอยปะตามวิธีการของแม่อยู่หลาย แห่งรวมทั้งเชือกฟางสีชมพูหม่น ที่แม่ใช้รัดรอบกล่องหลายทบเพื่อเสริมความแข็งแรงไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแม่ไม่เปลี่ยนกล่องใหม่ ทั้งที่เราก็มีกล่องแบบนี้หลายใบอยู่ วันนี้แม่ประคองกล่องของแม่อย่างเบามือ มันดูน่าขันยังกะพวกบ้านนอกเวลาจะกลับบ้าน วันก่อนฉันเอากระเป๋าใบเก่งของฉันให้แม่ แต่แม่ไม่เอา ย้ายไม่ได้ ย้ายแล้วเดี๋ยวมันสับสนกันหมดเอาไว้ในกล่องน่ะดีแล้ว ตั้งแต่จำความได้ก็เห็นแม่ลากเจ้ากล่องใบนี้เข้าๆออกๆ อยู่หลายหนแต่ไม่มีใครเคยถามแม่ซักที ว่ามีอะไรในนั้นพวกเรามักเรียกว่า กล่องของแม่ ก็เท่านั้นและเป็นอันรู้กันว่าห้ามย้าย ห้ามรื้อกล่องของแม่เป็นอันขาดไหนๆ แม่จะไม่อยู่แล้ว ฉันเลยถามขึ้นว่ามีอะไรในกล่องมั่งล่ะ
แม่มีอาการกระตือรือร้นเชียวเวลาพูดถึงกล่องของแม่รีบดึงเชือกฟางสีชมพูที่ผูกบนกล่องออกมาอย่างเบามือ แล้วเริ่มหยิบของในนั้นออกมาให้ดู มีแต่ข้าวของเกี่ยวกับพวกแกทั้งนั้นแหละ บนๆ นี่ก็รูปพวกหลานทั้งหลาย ล่างๆ ก็จะเป็นรูปพวกแก" แม่หยิบสมุดอัลบั้มใส่รูปขึ้นมาหนึ่งเล่ม แล้วเปิดดูทีละหน้าพร้อมกับยิ้มกว้าง นี่ตาเอกตอนเกิดใหม่ๆ ตัวมันแดงเชียว หน้าเหมือนแม่มันยังกะแกะพอโตแล้วซนเป็นบ้า ยายมันเลี้ยงซะเสียคน นี่ก็เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของแม่คือมีช่องว่างเป็นต้องจิกลูกสะใภ้และครอบครัว แม่ยังหยิบโน่นหยิบนี่ออกมาอย่างช้า ๆ พวกรูปทั้งนั้นแหละมีทั้งรูปลูกชาย ลูกสาว หลานยาย หลานย่า รูปวันแต่งงาน รูปรับปริญญา รูปเด็กเกิดใหม่ รูปที่พวกลูก ๆหลานๆ ไปเที่ยวต่าง จังหวัดกัน แม่เก็บไว้ยังกะของมีค่าแล้วก็มาถึง บรรดากระดาษรุ่งริ่ง กระดาษพวกนั้นบางและเก่า จนแทบจะกระจายเมื่อโดนลมจากเครื่องปรับอากาศหน้า รถ อุ๊ย! อะไรน่ะ 
ฉันรีบปัดหน้ากากเครื่องทำความเย็น ให้พ้นหน้าตักแม่ก่อนที่กระดาษคร่ำคร่าพวกนั้นจะร่วง ปลิวไปตามแรงลมวันเกิดพวกแกกับพวกหลาน ๆ ไง ฉันเก็บไว้ทุกคนแหละ ไม่ยังงั้นเวลาไหว้พระจำไม่ได้ว่าเกิดกันเมื่อไหร่เรามันครอบครัวใหญ่ จำไม่หมดนี่..นี่..แผ่นนี้วันเกิดตาอึ่ง (คือพี่ชาย ฉัน) ตอนมีลูกคนแรกมันสับสนวุ่นวายไปหมด ทีแรกไม่รู้จะจดวันเกิดลูกยังไงดีแต่ยายน่ะซีรีบฉีกปฏิทินออกมายัดใส่ มือ บอกว่า เอ้า! วันเกิดลูกเก็บไว้ซะตั้งกะนั้นมาพอใครเกิด ฉันก็ฉีกวันที่ เก็บไว้ทุกที ฉันมันคนไม่รู้หนังสือไม่เหมือนพวกแกหรอก มีคอมพิวเตอร์มีอะไรกัน แต่ไม่เห็นมีใครจำวันเกิดแม่ได้ซักคนวันตายพ่อยังไม่รู้เลยฉันต้องนั่งไหว้อยู่คนเดียวทุกปี น้ำเสียงของแม่ไม่มีอาการน้อยใจหรือเสียใจอาจเพราะแม่กำลังชื่นชมของที่เก็บไว้ในกล่องอยู่ก็ได้ ปฏิทินที่แม่ว่านั้นเป็นกระดาษสีนวล บาง ๆ ใบใหญ่บ้างเล็กบ้างตามแต่ว่าปีไหน เขาจะผลิตปฏิทินออกมาขนาดไหนตอนเด็ก ๆ อาเจ๊ร้านขายของชำแถว บ้านจะเอามาแจกให้ทุกปี พอเขาเลิกแจกแม่ต้องไปซื้อที่ตลาดเก่าเยาวราชนู่นแหละ ตอนหลังพี่อึ่งเป็นคนเอามาให้ทุกปี เพราะที่บ้านเขามีคนเอามาให้แต่เขาไม่แขวนเพราะเชย มันเป็นปฏิทินทางจันทรคติ ที่แยกวันที่ออกเป็นวันละหนึ่งแผ่น ตัวเลขวันที่พิมพ์ตัวโตสีดำเด่นอยู่กลางหน้ากระดาษ ถ้าเป็นวันหยุดตัวเลขจะเป็นสีแดงแทนพวกเราทุกคนคุ้นกับปฏิทินของแม่ดี เพราะแม่สอนพวกเราทุกคนหัดอ่าน หนึ่ง สอง สาม จากปฏิทินพวกนี้แหละ พี่อั๋นนั้นโดนแม่ตีมือมากที่สุดเพราะอ่านไปฉีกเล่นไป อย่าฉีกเดี๋ยวแม่ไหว้เจ้าไม่ถูก แม่จะหวงปฏิทินมากเพราะบนกระดาษแต่ละใบนั้นนอกจากวันที่ตัวมหึมาเห็นเด่นชัด โดยไม่ต้องใส่แว่นแล้วยังมีคำทำนายสั้นๆอยู่ด้วยสำหรับคน เกิดในวันนั้น และมีฤกษ์ผานาที กำกับไว้ว่าวันนั้นควรทำการมงคลหรือไม่ควรทำอะไรและที่สำคัญใบ้หวย...แม่น!
ลูกแปดคนก็มีแต่แกนี่แหละที่เล่นเอา ฉันไม่เป็นอันกินอันนอน อ้าว! ทำไมล่ะ เออนี่เป็นความรู้ใหม่ทีเดียวสำหรับฉัน ตอนแกเกิดในปฏิทินเขาเขียนไว้ว่า ชะตาไม่ดี เลี้ยงยาก ไอ้ฉันเลยร้องไห้ซะเป็นวรรคเป็นเวรพ่อแกเค้าหาว่าบ้า เฮ้อ! จริงไม่จริงคนเป็นแม่ก็ต้องเชื่อไว้ก่อนน่ะแหละของมันอยู่ในท้องมาตั้งเก้าเดือน ใครไม่รักไม่หวงก็บ้าแล้ว ผู้ชายจะมารู้อะไร เค้าไม่ได้มาอุ้มท้องแบบเรานี่ พูดถึงพ่อแล้วแม่อดค้อนลมค้อนแล้งไม่ได้ ก่อนจะพูดต่อว่า พอออกจากโรงพยาบาล อยู่เดือนยังไม่ครบดีฉันก็รีบไปไหว้เจ้าเลย ย่าแกด่าซะไม่มีดี เค้าห่วงกลัวเราไม่สบาย ได้ตอนนั้นเราก็ไม่รู้เลยเสียอกเสียใจยกใหญ่พอไปไหว้เจ้าเสี่ยงเซียมซีก็พูดเหมือนกัน เค้าว่าแกเลี้ยงยากเพราะดวงมันมายังงั้น แต่จะมีความก้าวหน้าในชีวิต เฮ้อ! ไอ้ฉันน่ะ เลี้ยงแกมาชนิดไม่ยอมให้ใครอุ้มเลยกลัวพี่เอาไปทำแข้งขาหัก ไปโรงเรียนก็จุดธูปทุกเช้า ให้แคล้วคลาดเวลาไปไหนๆ ก็ต้องบนพระทุกที่ให้แกไปดีมาดี กว่าจะโตมาได้ เฮ้อ! แม่ถอนใจอยู่หลายครั้งกว่าจะพูดจบได้ 
ความเงียบเกิดขึ้นพักใหญ่ นอกจากเสียงฝนและเสียงเครื่องปรับอากาศในรถแล้ว มันเงียบจนฉันรู้สึกเหมือนอยู่ที่ไหนซักแห่งในโลกที่ไม่ใช่บนถนนมีรถติดเป็นแพอย่างนี้ แกจะเอาฉันย้ายไปอยู่ไอ้เนิร์สซิ่งโฮมของแกฉันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรหรอก คนแก่แล้วมีที่นอนมีข้าวกินสามมื้อก็พอ ห่วงก็แต่แกน่ะแหละอีกไม่กี่ปี จะสามสิบห้าอยู่แล้วต้องระวังตัวให้ดี อย่าลืมไปทำบุญไหว้พระซะ จะได้อายุมั่น ขวัญยืน ถ้าฉันยังอยู่กะแกก็จะได้ไปจัดการให้ แต่ต่อไปแกต้องทำเองแล้วค่ำมืดดึกดื่น เข้าบ้านออกบ้านต้องระวังหน่อย แม่พูดพร้อมกับที่ค่อยๆ เรียงกระดาษและรูปทั้งหมด ลงไปในกล่องของแม่อย่างเดิม 
ไอ้กล่องนี่ไม่ได้เปลี่ยนเลยนะตั้งกะมีลูกคนแรก มีอะไรฉันก็เรียงลงไปเรื่อยๆ หลายสิบปีแล้ว แต่มันยังกะคอมพิวเตอร์พวกแกเลยนะ แถมแม่นไม่มีอะไรเท่า พวกแกซะอีกหลง ๆ ลืม ๆ ฉันไม่เคยรู้เลยว่ากล่องของแม่จะบันทึกชีวิตของครอบครัวเราไว้ได้มากขนาดนี้ มิน่าแม่จะจำวันสำคัญของพวกเราได้ แม่น อย่างไม่น่าเชื่อจนพวกเราแอบเรียกแม่ว่า สมอง คอมพิวเตอร์ ที่แท้แม่มีทีเด็ดตรงกล่องนี่เองเห็นแม่ลากออกมาดูบ่อยๆ แล้วเก็บไว้อย่างดีทุกที
ฉันคงนั่งนิ่งไปนานถ้าแม่ไม่พูดขึ้นว่า แกก็อย่าไปคิดอะไรมากเลยฉันรู้ว่าพวกพี่ ๆ เค้าเอาภาระมาใส่แกมากเกี่ยวกับตัวฉันแต่คนเดี๋ยวนี้มันก็ภาระแยะ ไหนจะส่งลูกไปโรงเรียน ไหนจะเอาลูกไปสอบไปวิ่งเต้นเรื่องนั้น เรื่องนี้ ผัวมันยัง ต้องไปตีกอล์ฟอีก แม่พวกสะใภ้ ก็ต้องวิ่งกลับไปดูพ่อแม่เค้า อะไรๆ ฉันก็รู้แต่ทำไงได้ล่ะคนมันยังไม่ถึงคราวตาย มันก็ต้องอยู่ไปยังงี้แหละ ใช่ว่าอยากตายก็จะได้ตายซะที่ไหน แก่แล้วลำบากไปไหน ต้องอาศัยคนอื่น ทำอะไรก็ต้องออกปากไหว้วานคนนั้น คนนี้ มันเหมือนต้องบากหน้าไปอ้อน วอนเค้า ไอ้ที่เคยคล่องๆ ก็กลายมาเป็นภาระความจริงไอ้ที่แกไม่มีผัวฉันก็ห่วงอยู่เหมือนกัน บางทีถ้าไม่มีภาระเรื่องแม่แกอาจจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาซักที 
เงาดำในใจฉันเริ่มคลี่ขจายออกกลายเป็นเพียงหมอกบางๆ ฉันแหงนหน้าไปดูท้องฟ้านอกรถ ฝนเริ่มบางตา แสงสว่างสามารถส่องผ่านเมฆมาได้บ้าง แกอย่าห่วงฉันเลย ห่วงตัวเองดีกว่า ไอ้ที่ฉันจะไปอยู่มันคงดีเพราะราคามันแพง จะมีคนแก่ ซักกี่คนที่ได้ไปอยู่ที่แพง ๆ อย่างนั้นห่วงตัวเองเถอะ ถ้าเจอคนดีพอใช้ได้ ก็อย่าเลือกมากมาย รีบแต่งงาน รีบมีลูก แก่แล้วจะได้ไม่ลำบากดูอย่างชั้นซี อย่างน้อยถึงลูกไม่มีมาดูแล เวลาให้ ก็ยังมีคนส่งเงินมาให้ใช้ถ้าไม่มีลูกจะยิ่งลำบากมากกว่านี้ ฉันไม่รู้จะพูดอะไร เงียบกันไปพักหนึ่ง ฉันบอกแม่ว่า อิ๋วจะไปหาแม่บ่อยๆ อย่าพูดยังงั้นเลยเดี๋ยวนี้การจราจรมันสาหัสเหลือเกิน เวลาก็ไม่ค่อยมี เรื่องต้องทำก็มีแยะไปหมดเอาเป็นว่าว่างก็มาแล้วกัน แต่ถึงพวกแกไม่มา ฉันก็ไม่เดือดร้อนหรอก ชีวิตทั้งชีวิตของชั้นอยู่ในนี้หมดแล้ว อยากเห็นหน้าลูกก็ดูเอาในนี้ อยากเห็นหน้าหลานก็ดูเอาในนี้ ไม่ต้องมานั่งคอยให้เสียเวลา เปิดกล่องของแม่มา ก็เห็นหน้าพวกแกได้ทันที 
แม่ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อกอดกล่องให้กระชับขึ้น รถบนถนนเริ่มเคลื่อนตัวช้าๆ พร้อมกับฝนที่ขาดเม็ด อีกไม่กี่เมตรจะถึงสี่แยกแล้ว และมีป้ายให้กลับรถได้ ฉันพารถเบียดเข้าเลนขวาเพื่อกลับรถแม้รถคันอื่น จะบีบแตรด่ากันเสียงขรม แต่ฉันไม่สนใจ ฉันกำลังนึกถึงตัวเองตอนแก่ และมีกล่องอย่างแม่สักใบ คงดีไม่น้อยที่จะได้อวดลูกๆ ของฉันถึง กล่องของแม่ 
รักแม่ ดูแลและตอบแทนแม่ของคุณ ให้มากๆ ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นี่แหละ ทำซะก่อนที่จะรู้สึกเสียใจ ในชีวิตนี้คุณมีแม่เพียงคนเดียวนะ คนอื่นคุณหาใหม่ได้อีกเยอะ จริง มั๊ย!!!!				
comments powered by Disqus
  • วรรณกาญจน์

    30 สิงหาคม 2545 20:21 น. - comment id 66235

    จ้า ประทับใจมาก แต่ เอ! ทำไมถึงไม่มีชื่อผู้เขียนล่ะซน
  • บุษราคัม

    31 สิงหาคม 2545 22:10 น. - comment id 66238

    เยี่อมมากน้องรัก แต่งได้ประทับใจมากค่ะ ฝีมือพัฒนาไปไกลเลยนะคะ อนาคตรุ่งแน่นอนค่ะ
  • zonkung

    31 สิงหาคม 2545 23:58 น. - comment id 66242

    เอ่อ อันนี้ผมป่าวแต่งเองนะฮับ ก้อเขียนบอกแย๊ว ว่านำมาจากเวบไซต์ อื่น ครับผม..
    
    แมวซน
  • โคลอน

    1 กันยายน 2545 23:12 น. - comment id 66247

    ประทับใจมากจ๊ะ
  • Jennie เจ

    2 กันยายน 2545 21:51 น. - comment id 66252

    เยี่ยมมากเลยพี่ซน ประทับใจมาก
  • ละอองน้ำ

    3 กันยายน 2545 13:47 น. - comment id 66258

    ประทับใจจังเลยซน....เมี๊ยว
  • J&J

    4 กันยายน 2545 13:05 น. - comment id 66280

    อืม สะเทือนใจเหมือนกันนะ
  • กลิ่นดิน

    15 กันยายน 2545 21:07 น. - comment id 66389

    ซึ้งมากเลยล่ะ
  • 13 นางมาร

    29 กันยายน 2545 19:51 น. - comment id 66546

    น้องซน หลอกให้พี่อ่าน นึกว่าน้องเขียน
    ซึ่งจังเลย

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน