นานเท่าไรแล้วที่ผมไม่ได้เจอหน้าผู้บังเกิดเกล้าทั้งสอง ญาติพี่น้อง และผองเพื่อน นับตั้งแต่จำความได้ท่ามกลางความซิวิไลซ์ของเมืองหลวง พ่อแม่ และพี่ ๆ ต่างต้องการความมั่งมีไม่รู้จักพอ ทุกคนต่างหวังที่จะมีให้ได้มากที่สุด ขณะที่ผมหวังเพียงแค่วันนี้มีก็พอ .. ผมถูกมองว่าเป็นตัวทำให้ตระกูลต้องพินาศ เพียงเพราะผมรู้จักพอ ผมไม่เข้าใจ ทำไมสิ่งที่ผมพอคนอื่นถึงบอกว่ายังไม่พอ พี่แต่ละคนมักทำสีหน้าดั่งตัวอิจฉาในละครหลังข่าว บางทีก็ทำหน้าเศร้าเหมือนละครน้ำเน่าในสภา พอออกมาก็เฮฮากันเหมือนเดิม .. เมื่อถึงเวลาแบ่งสมบัติ แน่นอน ความยุติธรรมอาจจะมีอยู่ในโลก อาจจะมีอยู่ในประเทศเรานี้ แต่ไม่ใช่ในครอบครัวผม ผมไม่อยากให้สมบัติซึ่งเป็นของนอกกายต้องเป็นเหตุชนวนร้ายให้พี่น้องต้องตายไปจากกัน เมื่อให้อะไร เท่าไร ก็ก้มรับไปอย่างไม่ใยดี ถือคติที่ว่า ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ..พี่ ๆ ทุกคนได้สมบัติกันเท่า ๆกัน ส่วนผมนั้นได้เพียงสิ่งเดียว ที่แม้นั่งคิดนอนคิด พินิจพิจารณาอย่างไรก็ยังไม่เห็นว่ามันมีราคาค่างวดอะไรมากไปกว่า ..ห้องเก่า ๆ ห้องหนึ่ง ..!! แล้วผมก็ได้รู้ว่า ห้องเก่า ๆ ห้องหนึ่งของผมนี้แม้ไม่มีราคาค่างวดที่แพงมากมายถ้าเทียบกับของพี่ ๆ แต่ผมก็ค้นพบความสุนทรีย์ในตัวของมัน เมื่อวันหนึ่ง ขณะที่ผมนอนนิ่งในมุมห้อง มีเพียงลมหายใจเท่านั้นที่บอกว่าผมยังมีชีวิตอยู่ ..พลันแสงจากภายนอกก็สาดส่องเข้ามา ก่อนจะมีเงาของสิ่งมีชีวิตเยื้องกรายบุกรุกเข้ามาภายใน ผมยังคงไม่ขยับตัว คอยสังเกตการณ์ต่อไปอย่างเงียบ ๆ และแล้วประตูก็ถูกปิดลง ..ความมืดมาเยือนอีกครั้ง ..แต่ไม่นานความสว่างจากแสงไฟก็ฉายขึ้น .. ไฟบนเพดานถูกเปิดขึ้นโดยผู้บุกรุกผู้นั้น ..!! ผมเห็นเธออย่างชัดเจน ..แต่เธอหาได้มองเห็นผมไม่ คงเป็นเพราะผมอยู่มุมห้องที่ยากต่อการสังเกต เธอจัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยอยู่ทีเดียว ผิวขาว ผมยาว ตาโต แก้มสีชมพูซึ่งถูกพอกให้ขาวด้วยครีมยี่ห้อดัง เธอหยิบหยิบสิ่งหนึ่งออกมาจากตะกร้า แล้วป้ายยาสีขาวลงบนแปรงอันนั้น ก่อนที่จะยัดเข้าปากเพื่อถูฟัน ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ก็อดตกใจไม่ได้ เมื่อเห็นมีฟองออกจากปากเธอ ..แต่เธอก็หาได้ร้องทุรนทุรายดั่งคนที่ทำร้ายตัวเองด้วยการกินยาพิษไม่ แล้วสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น .. เธอค่อย ๆ แกะผ้าถุงซึ่งนุ่งกระโจมอก เผยให้เห็นสัดส่วนบนเรือนร่างได้อย่างถนัดตา น้ำในตุ่มถูกเธอตักขึ้นมาแล้วราดบนเรือนร่างเบา ๆ จากขันแรกเป็นขันที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ตามลำดับ จนร่างเธอเปียกโชก ผมอดหนาวแทนเธอไม่ได้จนขนลุกซู่ ..แล้วเธอก็ค่อย ๆ บีบอะไรบางอย่างซึ่งบรรจุอยู่ในขวดพลาสติกแบน ๆ มันเป็นของเหลวสีขาว เธอใช้มันไล้ทาทั่วเรือนร่างอันขาวจนมันเกิดฟอง ทุกซอก ทุกมุมที่เธอลูบไล้ มันรันจวนใจของผมยิ่งนัก .. เมื่อเธอลูบไล้จนทั่วตัวจนหนำใจแล้ว เธอก็จ้วงน้ำตักราดตัวเองอีกครั้ง ..ก่อนที่จะใช้ผ้าเช็ดตัวให้แห้ง แล้วปิดไฟก้าวออกไปจากห้องแคบ ๆ นี้ .. ความมืดเข้ามาเยือนอีกครั้ง แต่ในใจผมเป็นดุจดั่งเปิดไฟไสวแสงจ้า ..ในเมื่อภาพเมื่อสักครู่ยังคงติดตาติดใจผมไปอีกนาน ..ผมยังนึกดีใจไม่หายเลยที่พ่อแม่ยกห้องนี้ให้ผม ถ้าพี่ ๆ รู้ว่าห้องนี้มีดีอย่างนี้เค้าจะยังอยากมีอยากได้อะไรแพงๆ อีกไม๊น๊า ..?!? พรุ่งนี้หรือวันต่อๆ ไป ผมก็คงจะยังได้ดูเธอต่อโดยไม่รู้จักเบื่อ บางวันก็มีคนอื่นเข้ามาบ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นผลพลอยได้ แต่ที่ไม่เข้าใจถึงทุกวันนี้ก็คือ ..ทำไม เวลาผมร้องทักทายเพื่อหวังให้เธอได้เห็นผมบ้าง มักได้คำตอบว่า เฮ้อ ..วันนี้ดวงซวยแน่ ๆ เลย โดนจิ้งจกในห้องน้ำทัก ..
25 มีนาคม 2547 19:06 น. - comment id 72100
อืมม์ คำคม คารมคนนะคะ
25 มีนาคม 2547 19:45 น. - comment id 72107
ยังสงสัยในเนื้อเรื่อง ว่าเรื่องจบหรือยัง เพราะจับต้นชนปลายยังไม่ถูก ถ้อยคำสำนวนที่ใช้ ดีครับ เรื่องราวชวนให้ติดตามและสงสัย
25 มีนาคม 2547 23:29 น. - comment id 72115
กะแล้วว่าต้องเป็นจิ้งจกแหงๆ ... เขียนได้ดีค่ะ น่าติดตามดีเหมือนกัน
22 ธันวาคม 2547 14:41 น. - comment id 80101
ก็งั้น ๆ แหละ