สักวัน...ฉันจะรักเธอ (ตอนที่ 1)

JoyLek

จ้า เอื้อมมือดึงโน้ตเล็กๆ ที่แปะอยู่หน้าประตูห้อง
        เย็นนี้ไม่ว่าง ซ้อมฮอกกี้ ... แอ๋ม 
     เฮ้อ! อีกแล้ว...แอ๋มเป็นอย่างนี้ทุกที...มักจะมีข้ออ้างเรื่องซ้อมกีฬาจนเพื่อนๆ ชักไม่ค่อยจะชอบหน้า...
     ที่จริง...แอ๋มไม่ได้สนใจกีฬามากมายนักหรอก...ที่กระตือรือร้นก็เพราะรุ่นพี่ในชมรมฮอกกี้นั่นต่างหาก
        พวกพี่เค้าหล่อๆ ทั้งนั้นเลยแก  แอ๋มมักจะกลับมาเล่าให้ฟังเสมอ
        พี่ๆ เค้าลง Sociology ด้วยหล่ะ วันพุธจะชี้ให้ดู 
       จ้ามีโอกาสเห็น บรรดาพี่ๆ ของแอ๋มในสัปดาห์ถัดมา
          เรียน ถาปัด ใช่ป่ะ จ้าถามถึงหนุ่มหล่อที่แอ๋มชี้ให้ดู ซึ่งขณะนี้นั่งเรียนข้าง อุ๋มเหรัญญิกของภาควิชาฯ ทั้งคู่กำลังคุยกันอย่างออกรส 
         รู้ได้ไง 
         เหมือนเคยเจอ
         พี่ดล ถาปัด ปี 3 แอ๋มกระซิบ 
         ฉันชอบคนนี้แหละ...อีกคนก็หล่อนะ ผมยาวๆ ที่นั่งด้านซ้ายน่ะ 
        จ้ามองตาม...หนุ่มผมยาวเคลียไหล่ ผิวคล้ำ หน้าตาคมคาย
         ฮื่อ ดูดี
        จ้าเห็นด้วย แต่อดแปลกใจไม่ได้...
       คณะสถาปัตย์ฯ ต้องลงทะเบียนเรียนวิชาทางสังคมด้วยหรือ...ไม่น่าจะเป็นไปได้ ถ้าเป็นวิชาพื้นฐานบังคับก็น่าจะต้องเรียนตั้งแต่อยู่ปี 1 แล้ว 
       จ้าก้มหน้าก้มตาจดตามแผ่นใสของอาจารย์ สัญชาตญาณบอกว่าอาจารย์เริ่มเหล่แล้ว เพราะเสียงคุยดังขึ้นเรื่อยๆ
        นี่! ด้านหลังน่ะ ถ้าคุณไม่เรียนก็กรุณาอย่ารบกวนคนอื่น 
       นักศึกษาเกือบ 200 คนในห้องเรียนรวม หันไปมองต้นเหตุที่ทำให้การสอนหยุดชะงัก
      ...พี่ดลและยัยอุ๋มโดนเต็มๆ...
        สมน้ำหน้า! อยาก present ว่าสนิทกับพี่ดลดีนัก เสียงแอ๋มลอยมา แต่จ้าไม่สนใจแล้วตอนนี้เพราะกลัวอาจารย์เล็งเหมือนกัน
       บรรยากาศในห้องเรียนเริ่มอึดอัด เมื่ออาจารย์อารมณ์เสีย 
        ช้าๆ ก็ได้แก จ้าเก็บกระเป๋าและเดินออกนอกห้องทันทีเมื่อเสียงกริ่งดังหมดเวลา
        หิว 
        เดี๋ยวสิ 
        เร็วๆ เที่ยงแล้วคนเยอะ 
        แกว่าพี่คนนั้นเป็นไง แอ๋มยังสนใจไม่เลิก ชี้ให้ดูรุ่นพี่กลุ่มเดิมที่ทยอยเดินตามมา
       ก็โอเค จ้ามองผ่านๆ ไปได้ยัง 
        เอ๋... คราวนี้จ้าเป็นฝ่ายสะดุดตากับชายหนุ่มที่เดินมากับ เฟื่อง เพื่อนของหล่อนเอง 
       คนนั้นหน้าคุ้นจัง ใช่คนตะกี้ที่เธอชี้ให้ดูหรือเปล่า 
       คนที่ฉันชี้ให้ดูยืนอยู่ข้างพี่ดล ส่วนคนที่เดินมากับยัยเฟื่องนะเป็นอีกคน แต่หน้าคล้ายๆ กัน เหมือนคู่แฝดเลยใช่ไหม 
       ฉันว่าคนนี้หน้าตาคมกว่านะ 
       สนใจป่ะ แอ๋มถามเสียงเจ้าเล่ห์
       อย่าหาเรื่องให้ฉันเลย ไปเถอะหิว
                                                ***********************
       ยัยแอ๋มไม่มาอีกแล้วเหรอ อุ๋มถามห้วนๆ ตามเคย
       ซ้อมกีฬา
       มันขายบัตรกระทงได้กี่ใบ ฝากแกมารึเปล่า
       คงหมดมั้ง ไม่เห็นว่าอะไร จ้าพยายามแก้ตัวให้เพื่อน เพราะขี้เกียจฟังอุ๋มบ่นไม่เลิก  แต่ไม่นานก็มีเรื่องให้ต้องฟังเสียงบ่นอีกจนได้
      นี่แกรู้เรื่องยัยเฟื่องยัง
      ทำไมอีกหล่ะ หล่อนถามไปอย่างนั้นเอง ใจจดจ่ออยู่กับการหัดพับกลีบกระทงมากกว่า
      มันคืนบัตรทุกใบ ฉันเลยด่าเข้าให้ 
      อ้าว 
      จะไม่ให้โมโหได้ไง คุยนักคุยหนาว่ามีคนมาจีบเยอะ แต่ไม่เห็นขายบัตรได้...พวกผู้ชายขายไม่ได้มันยังซื้อไว้บ้าง ไม่เอามาคืนหมดแบบนี้   
      อายมั้ง คงไม่กล้าขาย 
      หน้ามันคงไม่บางขนาดนั้นหรอก ฉันว่ามันโม้มากกว่าว่ามีคนมาจีบ 
      ดังไปอุ๋ม
    อุ๋มถอนใจ...หันไปทางเพื่อนคนอื่นๆ
      เก็บของเถอะเพื่อนๆ จะห้าทุ่มแล้ว เดี๋ยวเข้าหอไม่ทัน 
    หอพักนักศึกษาหญิงจะปิดตอน 4 ทุ่มครึ่ง และจะเปิดให้เข้าได้อีกประมาณ 5-10 นาทีตอนเที่ยงคืน 
     จ้า แอ๋มเรียกจากโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าหอ มีชายหนุ่มนั่งอยู่ด้วยกลุ่มใหญ่
     รู้จักพี่ๆ ชมรมฮอกกี้หน่อยสิ ทั้งน้ำเสียงและหน้าตาแอ๋มดูระรื่นจนปิดไม่มิด
    จ้ายกมือไว้รวมๆ 
     นี่จ้าค่ะ เพื่อนส่วนใหญ่พักหอ 14 แต่เรา 2 คนโดนจับมาอยู่หอนี้ 
     สวัสดีครับน้องจ้า จำพี่ได้ไหม เราเคยเจอกันตอนงานวันเกิดน้องโมไง  ดลยิ้มชิงทักทายก่อนใคร
     ค่ะ 
     โมไหน 
     เพื่อนสมัยประถมน่ะ เรียน ถาปัด จ้าอธิบายสั้นๆ พลางมองไปรอบโต๊ะ
     ไม่แนะนำตัวกันหน่อยเหรอ แอ๋มทวงชายหนุ่มที่เหลือ
     พี่ชื่อตุ๊ หนุ่มผมยาว ผิวคล้ำ ที่จ้าเห็นเมื่อวันพุธพูดขึ้น
     ต๊ะครับ คนนี้จ้าจำได้ว่าเดินตามยัยเฟื่อง...ท่าทางกะล่อนไม่เบา 
     ต๋อมครับผม น้ำเสียงเจือแววขันๆ จ้าไม่ทันนึกอะไร เพราะมัวจ้องหน้าคนพูด
     ...ใบหน้าขาวๆ ตี๋ๆ สร้างความหวั่นไหวในหัวใจได้อย่างประหลาด 
      แต๋มครับ จ้าถอนสายตามายังคนสุดท้าย...เผลอยิ้มกว้างตอบ...
     เขาไปคนที่พกพาความหล่อมาน้อยที่สุดหากเปรียบเทียบกับเพื่อนทุกคน...แต่รอยยิ้มนั่นกลับดูจริงใจที่สุด
     ในเมื่อไม่ยอมบอกชื่อจริงก็ตามใจ คงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกกระมัง 
       กระทงไปถึงไหนแล้ว คุยไปได้สักพัก แอ๋มก็เปลี่ยนเรื่อง
       ก็พอสมควร
       อุ๋มบ่นถึงฉันรึเปล่า 
       เหมือนเดิมแหละ บ่นให้เฟื่องอีกคน จ้าเล่าค่อยๆ เหลือบมองทางชายหนุ่ม...เขายังส่งยิ้มหวานมาให้
       เอาบัตรกระทงมาคืนทุกใบ 
       เฮ้ย! ทำงั้นได้ไง 
       ก็ทำไปแล้ว ทะเลาะกันใหญ่ ฉันงงเหมือนกันเฟื่องน่ะเค้าออกจะสวย เห็นว่ามีหนุ่มมาหลีเยอะ ทำไมขายบัตรไม่ได้ก็ไม่รู้ 
     แอ๋มแอบสะกิดใต้โต๊ะ แต่อารมณ์อยากแกล้งคนมีมากกว่า จ้าจึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
       อยากรู้จริงๆ ผู้ชายสั่วๆ ที่ไหนวะ จีบสาวทั้งทีไม่ลงทุนเลย งกฉิบหายบัตรกระทงแค่ 30 บาทยังไม่ช่วยอุดหนุน 
     สะอึก! กันไปตามๆ กัน 
     คามินยิ้มแห้งๆ 
       ผู้ชายสั่วๆ คนนั้นพี่เองครับน้องจ้า 
      ...จำไว้ ทีหลังอย่ามาทำหน้าทะเล้นแถวนี้... 
      อุ๊ย! ขอโทษ จ้าไม่รู้จริงๆ ทำท่าตกอกตกใจ แต่แววตาสมเพชหน่อยๆ
      พี่เค้าซื้อบัตรจากฉันแล้ว แอ๋มช่วยแก้หน้าให้
     จ้าหันไปแอบยิ้มอีกทาง พลันเห็นแม่บ้านเดินมาเปิดประตู จึงถือโอกาสชิ่งเอาตัวรอด
      ลานะคะ ไว้เจอกันใหม่ หันไปยิ้มหวานให้ ผู้ชายสั่วๆ นิดนึงก่อนลุกขึ้น  ส่วนแอ๋มยังทำท่าว่าจะลาพี่ๆ ไม่จบสักที
      วางระเบิดไว้แล้วก็สะบัดก้นหนีเลยนะ 
    จ้าหันมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่ม...เขาเดินตามมาจนเกือบจะถึงประตูหอพัก
     สะใจมากไหมที่ฉีกหน้าคนอื่นได้ คามินถามเสียงเรียบ ยิ้มบางๆ ที่มุมปาก แต่ดูคล้ายแยกเขี้ยวจะขย้ำคอคนตรงหน้าเสียมากกว่า
     รู้ทันแบบนี้ไม่สนุกเลย จ้าอมยิ้ม
     ขอโทษแล้วไง 
     มีวิธีเรียกร้องความสนใจแปลกดีนี่ คามินพูดเบาๆ หลีกทางให้นักศึกษาหญิงคนอื่นๆ ที่กำลังทยอยเข้าหอพัก
     มาเป็นแฟนพี่ไหม 
    รอยยิ้มเป็นต่อจางลงไปทันที
     ...ดูถูก!...
    ผู้ชายปากพล่อย!
      อย่ามาทำปากหวานแถวนี้เลยพี่ เก็บปากไว้จีบสาวปัญญาอ่อนที่อื่นเถอะ หญิงสาวเดินผ่านเข้าประตูไม่ใส่ใจเขาอีก
     ให้เวลาถึงวันลอยกระทงนะ ไม่งั้นหมดสิทธิ์ แล้วจะเสียใจ คามินตะโกนแซว
     ...รอไปเถอะ... หน้าอย่างนายฉันคุยด้วยก็บุญแล้ว...
     ...คิดว่าตัวเองหล่อนักรึไง...จะหันไปโต้ตอบอยู่แล้วเชียว...แต่พอเห็นหน้าตี๋ๆ ขาวๆ ที่มองมาของอีกคนก็พลอยทำให้เปลี่ยนใจ
                                       *******************
      วันลอยกระทง...มีการออกร้านโดยนักศึกษาแต่ละภาควิชาตลอดเส้นทางไปสู่บึงใหญ่ภายในมหาวิทยาลัย
     จ้าและเพื่อนๆ สาละวนอยู่หลังซุ้ม เร่งมือทำกระทงใบตอง เพื่อให้ทันกับลูกค้าที่นำบัตรมาแลกและซื้อด้วยเงินสดหน้างาน 
      ใครจะไปลอยกระทงก็ไปเลยนะ ผลัดกันไป อุ๋มตะโกนบอกเพื่อนในซุ้ม
      อุ๋มเห็นแอ๋มไหม 
      ฉันให้ไปซื้อลวดกับธูป...ทำไม 
      เปล่า คิดว่ายังไม่มา 
    จ้าก้มหน้าก้มตากับการเจียนใบตองต่อ อยากให้แอ๋มอยู่จะได้ชวนไปเดินเที่ยวงานบ้าง 
     จ้าๆ มาหน้าร้านด่วน เพื่อนชายร้องเรียกจากหน้าซุ้ม
     ซื้อกระทงแถวหนุ่มๆ ไปกกกอดคร้าบ...บ ซื้อกระทงซุ้มนี้แถมคู่ลอย 
    หนุ่มในภาคฯ ตะโกนขายกระทงอย่างไม่ย่อท้อ พยายามงัดกลยุทธ์เด็ดเพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาด 
     สวัสดีน้องจ้า พี่ดลทักก่อนเช่นเคย 
     สวัสดีค่ะ 
     มารับกระทง เลือกให้ทีสวยๆ นะ 
    4 หนุ่มสมาชิกชมรมฮอกกี้ยืนเรียงหน้าสลอน ขาดเพียงหนุ่มหน้าตี๋ที่จ้าแอบปิ๊งไปหนึ่งคน แต่วันนี้มีสาวหน้าตาจิ้มลิ้มมาแทน
     ...หูหนวก ตาบอดจังเธอ ผู้ชายในมหาลัย มีเยอะแยะ แต่เลือกจะมาลอยกระทงกับอีตานี่...
     บัตรกี่ใบ 
     4 ใบครับผม 
   แม่ค้าบรรจงเลือกกระทงให้และรับบัตรมาเก็บลงกระป๋อง...จนถึงคนสุดท้าย 
     ...คู่ปรับ!...
      ไหนบอกซื้อกระทงแถมคู่ลอย คามินทวง
      เฟื่องไม่อยู่ จะรอไหมล่ะ 
    เพื่อนๆ ฮาครืน
      โห...เล่นแรง เขาเสียงอ่อย...รับกระทงแล้วส่งต่อให้สาวน้อยข้างๆ 
      พี่ๆ ตั้งใจมาชวนน้องจ้าตะหาก ดลช่วยกู้สถานการณ์
      ไปไหนไม่ได้เลย หลังร้านกำลังยุ่ง หรือจะรอให้เฟื่องกลับมาก็ได้นะ จ้าเน้นให้คนสะดุ้งเล่น
     ไปๆ คามินต้อนเพื่อนๆ หนี เพราะรู้สึกเสียวหลัง แต่ไม่วายหันมาสั่งลา
     ไม่รู้หล่ะ บอกว่าแถมคู่ลอยก็ต้องแถมสิ เดี๋ยวมาใหม่...พี่จองจ้าแล้ว ห้ามเบี้ยว 
    หญิงสาวยิ้ม เริ่มหมดความอดทนกับคนตรงหน้า 
     งั้นซื้อกระทงอีกใบสิคะ รับรองใบนี้แถมคู่ลอย 
     ปัทม์ขอกระเป๋า หนุ่มที่หน้าหล่อน้อยกว่าใครควักกระเป๋าสตางค์ให้เพื่อน 
     มัดจำไว้ก่อนนะ แล้วจะมารับ คามินยื่นเงินให้ด้วยท่าทางยั่วๆ 
    เพื่อนในซุ้มหัวเราะกันคิกคัก เมื่อเจอลูกเล่นของลูกค้าหนุ่ม...จ้าหัวเราะไม่ออก รับเงิน 10 บาทมาแค้นๆ 
      พี่คามินน่ารักดีนะ อุ๋มพูดเมื่อเขาเดินลับไปแล้ว 
       ...อ้อ! ชื่อ คามิน...
      ท่าทางจะยังไงๆ ซะแล้ว 
      รับประทานไม่ลงหรอกกะล่อนแบบนี้ จีบยัยเฟื่องอยู่แท้ๆ กล้าควงสาวอื่นมาซุ้มเราเฉย 
      อะไรกัน เพื่องเดินมาถึงซุ้มทันได้ยินพอดี
      ..........  จ้ากับอุ๋มเงียบทั้งคู่
      พี่คามินมาตะกี้ 
     เฟื่องตาโต
       เหรอ...ว๊า! น่าเสียดาย พี่เค้าฝากอะไรถึงฉันหรือเปล่า 
       ไม่นี่ อุ๋มชิงตอบ
       เดี๋ยวคงแวะมาอีกรอบ  จ้าบอกอย่างอดใจไว้ไม่อยู่...ภาวนาให้เขามาเถอะอยากให้เพื่อนตาสว่างเสียที
       ฉันมีธุระต้องกลับก่อนด้วยสิ เฟื่องละล้าละลัง
       ถ้าเขามาอีกฝากขอโทษด้วยนะ 
     จ้าและอุ๋มพยักหน้าด้วยความรู้สึกแตกต่างกันไป
     ผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง จ้าลืม เจ้าของเงินมัดจำ ไปแล้วด้วยซ้ำ ถ้าไม่ได้ยินเสียงอุ๋มดังขึ้น
      จ้า ลูกค้าแก 
      หญิงสาวลุกขึ้นด้วยอาการเซ็งๆ 
      ...เจ้ากรรมนายเวรกันซะจริงๆ...
      เบื้องหน้า...ปัทม์...คามินและคู่ควงคนใหม่
      จ้ามองด้วยสายตาเหยียดๆ 
      ...เชอะ! ยืนแทบจะไม่อยู่ ยังเจ้าชู้ไม่เลิก...
      คามินยื่นเงินส่วนที่เหลือให้ พร้อมทวงสัญญา
        ไปลอยกระทงกับพี่ได้หรือยัง 
      โห...ความเจ้าชู้ฝังลึกอยู่ในสายเลือดจริงๆ 
      ...ตีหัวคนเมาจะผิดไหมนี่...
        พี่มีคู่ลอยแล้วไง จ้าคงไม่ต้องไปแล้วมั้ง 
        ผิดสัญญา เขาว่างั้น
      หญิงสาวถอนใจ อยากจะไล่ไปให้พ้นหน้าร้านเร็วๆ
        เฟื่องฝากขอโทษพี่ด้วย เขาติดธุระ แต่ถ้าพี่อยากได้คู่ลอยจริงๆ ก็จะไปตามให้ 
      ได้ผล...คนเมา ทำปากขมุบขมิบให้ได้ยิน...ฝากไว้ก่อน...
        ปีหน้าจะมาชวนน้องจ้าใหม่ คามินไม่ยอมแพ้
        ชาติหน้าเถอะพี่ ปีหน้าเร็วไป 
      ชายหนุ่มอึ้ง...เจ็บใจ แต่คิดคำพูดไม่ทัน ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้สมองเขาแล่นช้าไปเยอะ
        ปีนขึ้นไปทำไมนะ คานน่ะ มันสูงนะน้อง! 
        กรี๊ด! ไอ้ขี้เมามันแช่ง...
       ............โปรดติดตามตอนที่ 2.........				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน