เรื่องของไอ้มาด..สุดหล่อ
ดอกแก้ว
พระอาทิตย์หัวเหน่งเปล่งแสงแสบตาแต่เช้า แม้นอนคลุมโปงโก่งก้นก็หารอดพ้นแสงที่เสนอหน้าเข้ามาแยงตาถึงในผ้าห่มไม่ โอ..พระเจ้า.นี่หรือวันหยุด
ว่าจะนอนให้เต็มอิ่มซะหน่อย เสียงยายทองสุขข้างบ้านตีลูกก็ดังรบกวนโสตประสาทซะเหลือเกิน ยัยคนนี้ซาดิสก์ เลี้ยงลูกด้วยลำแข้งของแกเองจริงๆ
อยากตะโกนบอกว่า "ฆ่ามันเลยเป็นไงยายทองสุข" ก็กลัวว่าแกจะฆ่าซะจริงๆ บาปกรรมคนบอกเปล่าๆ เฮ้ออออ
แต่ว่าไอ้แดงน้อยลูกแกมันก็น่าฆ่าทิ้งจริงๆนะ ร้องได้ร้องดี เดินหางานต่อดีกว่าเราวันนี้
หยิบแปรงสีฟันขนฟูคู่ชีพบีบลมของยาสีฟันลงไป ( เนื้อหมดแล้วเหลือแต่ลมครับท่าน ตกงานอยู่ ) อุเหม่..สภาพเหมือนแปรงขัดส้วมเลย
ผ้าขนหนูผืนเก่าที่นุ่งทีไรก็ตูดขาดทุกที ไม่เป็นไร๊คนรูปหล่อทำไรไม่น่าเกลียดอยู่แล้ว ไอ้มาดยิ้มกับตัวเองด้วยความภูมิใจดีนะที่เกิดมาหน้าตาดี
ยังพอมีสิ่งที่จะเร้าใจสาวๆแถวนี้อยู่บ้าง เดินมายี่สิบซอยแล้วงานก็ไม่มี หิวก็หิว เงินก็ไม่มีสักแดงเดียว ทำไงดีน๊าาาาา โอยยยหิวจนตาลาย
มองหาใครที่รู้จักสักคนก็หามีไม่ ทำไงดี ทำไงดี อา.ได้การล่ะ เด็กนั่นนั่งกินไอติมอยู่คนเดียว เสร็จเรา..ไอ้มาดเหลียวซ้ายแลขวาไม่มีใคร
โอกาสทองมาถึงแล้ว เด็กอายุสองขวบจะช่วยเหลือตัวเองได้ยังไงกับการจู่โจมของมัน
ไอ้มาดตรงลิ่วเข้าหาเด็กน้อยอย่างอุกอาจ ในมือถือท่อนไม้อันเขื่องที่หยิบมาจากป้ายรถเมล์ ( มาจากไหนก็ไม่รู้
เหมือนในหนังบู๊ที่อยู่ๆก็มีปืนซ่อนอยู่ให้พระเอกนั่นแหละครับ )
เงื้อมสุดแขนฟาดผั๊วะๆๆ เลือดสีแดงๆไหลนองพื้น อา..ไอ้มาดทำอะไรลงไปคุณผู้อ่าน.
ร่างน้อยๆของเขียดเหยียดขิ้งนิ่ง นี่แหละเค๊าเรียกตายหยังเขียด เอ๊ะ??เลือดเขียดสีอะไรนะแดงรึเปล่า
เด็กน้อยอ้าปากค้างด้วยความตกใจกลัวคิดไม่ถึงโลกนี้จะมีคนที่โหดร้ายขนาดไอ้มาดได้ มือก็ปล่อยโคนไอติมสุดรักเกือบจะตกถึงพื้นอยู่แล้ว
ไอ้มาดไม่รอช้า..พลาดโอกาสนี้คงรอไปอีกนาน สวมวิญญาณผู้รักษาประตูเก่าจากทีมโรงเรียนโคกกระเซ็น กระโดดรับโคนไอติมโดยไม่หกสักหยด
อะฮ๊า..เสร็จเรา คงพอประทังชีวิตไปได้ชั่วคราว
ไอ้มาดสุดหล่อเดินเลียไอติมหนีไปอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่สนใจเสียงด่าทอจากเด็กสองขวบที่นึกเสียดายขึ้นมาเพราะมันไม่โดนพื้น
ปากจัดจริงๆเด็กคนนี้สงสัยพ่อแม่ไม่สั่งสอน ไอ้มาดคิดในใจ
"อ้าว..มาดไปไหนมาจ๊ะ???" เสียงหวานหูที่คุ้นเคยแว่วมาแต่ไกลทักทายอย่างกันเองที่สุด
"ทำงานมาครับ" ไอ้มาดเก๊กเสียงให้หล่อใกล้เคียงกับใบหน้าของตัวเอง ช่ายยย..จะบอกตุ๊กตาแม่ยอดยาหยีของมันได้ยังไง
ว่าตกงานอยู่ 5 5 อายเค๊าตายเลย
"ไปนะจ๊าาาา"
"คร๊าบบบผม" ไอ้มาดฉีกยิ้มถึงรูหูมองตามหลังแม่พยาบาลหวานใจด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม
ไม่ลืมที่จะมองต่ำลงถึงก้นอันงอนเช้งของหล่อน "ไอ้บ้า! มองเธอแบบนั้นได้ยังไงกัน" มันบอกกับตัวเอง แต่ก็งอนจริงๆนี่หว่า นะ..
ว่าแต่ว่าเมื่อตะกี้เธอเห็นท่ารับไอติมอันน่าประทับใจของมันรึเปล่าหว่า 555 เห็นดีม๊ะ
ขอย้อนกลับไปเมื่อประมาณสามเดือนที่แล้ว ขณะที่ไอ้มาดกำลังพาใบหน้าอันหล่อเหลา
หนวดเคราที่โกนซะเกลี้ยงเกลาด้วยยิลเลตของไอ้หวินเพื่อนรักที่ให้ยืมมา โอน้ำใจเพื่อนฝูงทำให้ไอ้มาดดูหล่อมีคลาสขึ้นเยอะ
( คนละคนกับปู้จิ้งหวิน แห่งฟงหวินขี่พายุทะลุฟ้านะครับ )
กำลังเดินวิจัยฝุ่นอยู่อย่างสุดเซ็ง เหงื่อไหลอาบใบหน้าอันหล่อเหลานั้นดูแล้วเท่สมบุกสมบันดี
คงดีกว่านี้ถ้าเย็นนี้จะมีข้าวกินแทนอาหารญี่ปุ่นที่กินอยู่ทุกวี่วันสักมื้อ เฮ้อออมาม่ามันก็เบื่ออ่ะนะกินบ่อยๆ
" ช่วยด้วยค่าาาาา คนกระชากกระเป๋า ซ่อยแหน่..ซ่อยแหน่"
เสียงร้องขอความช่วยเหลือของหญิงสาวที่ตกใจจนสำเนียงบ้านเกิดแถวกาฬสินธุ์แป้ดออกมา
อุ๊ย..แป้ด..น่าเกลียดนะครับ
ไอ้มาดหันควับตามเสียงร้อง ปล่าววว..ไม่ได้คิดจะช่วยเหลืออะไรหรอกครับแค่จะมองว่าเสียงไผวะคือคนบ้านเฮาแท้ทันทีที่ประสบพบพักตร์
เลือดพระเอกที่มีอยู่ในกายไอ้มาดเต็มเปี่ยมฉีดพล่าน ว๊าว! พยาบาลสาวสวยซะด้วยแฮะชอบซะแล๊ววววว.นั่นแน่ ! เอาแล้วไงพระเอกของเรา
เอาวะ..เป็นไงเป็นกันต้องช่วยเธอหน่อย ไอ้หน้าปลาจวดนั่นวิ่งมาทางนี้พอดี ขอเป็นพระเอกกะเค๊าสักวันเถอะวะ
ไม่รอช้า ไอ้มาดเตะพาดกลางลำของไอ้มือกาวที่วิ่งมาอย่างเหมาะเจาะ มันล้มลงไปกลิ้งโค่โล่จุกท้องอยู่ริมฟุตบาท
รอให้ตำรวจมาลากคอ ตำรวจก็แบบนี้แหละครับมาเก็บกวาดทุกที ฮ่าๆๆก็หนังไทยนี่นะ
" ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริงๆ ถ้าไม่ได้คุณดิฉันคงแย่ค่ะ "
ตุ๊กตาสาวพยาบาลที่กลายเป็นหวานใจของไอ้มาดไปซะแล้วอย่างไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัวกล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจที่สุด
ไอ้มาดเก๊กหน้าหล่อยิ้มที่มุมปากอย่างที่มันคิดว่าหล่อที่สุดเพราะเคยฝึกยิ้มบ่อยๆหน้ากระจกใบน้อยที่บ้านเช่าแคบๆของมัน
" ไม่รู้จะขอบคุณยังไง ขอตาเลี้ยงข้าวสักมื้อนะคะ "
เธอยิ้มอย่างที่ไอ้มาดไม่เคยเห็นใครจะยิ้มหวานปานจะกระชากใจหนุ่มรูปหล่ออย่างมันได้ขนาดนี้
" ไม่เป็นไรครับ อะฮ๊า..อย่าลำบากเลยครับ ผมทำไปเพราะไม่อยากเห็นผู้หญิงถูกรังแกน่ะครับ "
ว๊าว ! พูดออกไปได้ไงเนี่ยเหมือนพระเอกหนังไทยเลย ช่างขัดกับเสียงร้องจ๊อกๆๆของท้องไส้ตอนนี้ที่เฝ้ารอคนมีน้ำใจสักคนมาประทานข้าวให้สักมื้อ
แฮ่ะๆ ก็ไม่ได้กินข้าวมาตั้งแต่เช้าแล้วนี่ครับพระเอกของเรา
" ไม่เป็นไรค่ะ ให้ตาเลี้ยงเถอะนะคะ เป็นการตอบแทนค่ะ คนมีน้ำใจขนาดนี้จะไม่ตอบแทนได้ไงล่ะคะ
" เฮ้อออโล่งอกไปทีที่เธอไม่รีบร้อนรับคำปฏิเสธของมัน ก็หิวจะตายอยู่แล๊ววววว แกล้งเก๊กมาดพระเอกไปงั้นเองอ่ะ 555
" ทานอะไรล่ะคะ ตามสบายเลยค่ะ เชิญเลยนะคะ " สาวเจ้าเอ่ยปากถามผู้มีพระคุณผู้หล่อเหลาด้วยความสำนึกในความดีเมื่อตะกี้
ไอ้มาดได้แต่ยืนเก้อๆ ไม่รู้จะกินอะไรดี มันช่างน่ากินไปหมด ที่สำคัญไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรบ้างน่ะสิครับไม่เคยกินนี่นา..
ฮ่าๆๆๆน่าสงสาร รู้จักก็แต่ส้มตำปูที่ส่งกลิ่นยั่วน้ำลายชาวอีสานอย่างมันนี่แหล่ว
แต่ครั้นจะบอกว่ากินส้มตำ..มันก็ขัดกับหน้าตาอันหล่อเหลาซะเหลือเกินนี่สิ ทำไงดีน๊าาาา
ไม่อยากให้สาวเจ้ารู้ว่า " มันเป็นลาวววว "
" ตามสบายนะคะ ตาขอสั่งส้มตำก่อนละค่ะ อู๊ยยยย..ได้กลิ่นปลาร้าแล้วน้ำลายหกค่ะ ซู๊ดดดด
" อ้าว! ลาวเหมือนกันนี่หว่าไอ้มาดคิดในใจ แต่อุบไว้ก่อนยังไม่บอกว่ามันสุดแสนจะดีใจจะได้กินส้มตำซะที
" ส้มตำก็ดีครับผมทานได้ " ฮั่นแน่.เข้าใจหาทางออกแฮะพ่อพระเอกกกก
" ต้องขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยตาไว้ " เธอกล่าวขอบคุณอีกครั้งอย่างซาบซึ้งเป็นครั้งที่ 80 ที่นั่งกินส้มตำอยู่
ไอ้มาดอร่อยจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง ขี้มูกขี้ตาไหลโอยยยยแซ่บหลาย ช่างไม่เก็บอาการเอาซะเลย ฮ่าๆๆๆพ่อพระเอกของเรา
" เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้มั๊ยครับ?" ไอ้มาดคิดในใจ
"เพี๊ยะ !"
เสียงฝ่ามือนิ่มๆของเธอฟาดเปรี๊ยงที่ใบหน้าของไอ้มาด
ไอ้มาดได้แต่ทำหน้างงๆ ระคนตกใจ ..อะไรวะ นี่แค่คิดในใจเท่านั้นเองนะ รู้ได้ไงเนี่ย?? โอสมกับที่เป็นพยาบาล ช่างมีจิตวิทยาสูงส่ง
" แมงวันน่ะค่ะ ร้านนี้แมงวันเยอะนะคะ เนี่ยตัวเบ่อเริ่มเลย "
โห.นี่ตบแมงวันหรอกเหรอ???? ฮ่าๆๆๆ นึกว่ารู้ว่าคิดอะไร
ตั้งแต่วันนั้นสองคนก็รู้จักทักทายกันเรื่อยมา รู้แล้วนะครับว่ารู้จักกันได้ไง
ตอนต่อนี้หายไปไหนก้ไม่รู้นะ
หลายวันแล้วที่ไอ้มาดไม่ได้เห็นหน้าขาวๆก้นงอนๆของเธอ เธอคงยุ่งน่ะก็เลยไม่มีเวลาเดินผ่านมาให้ไอ้มาดได้ยลโฉม
ก็แหงแซะหละเธอไม่ได้ตกงานเหมือนกระทาชายนายมาดสุดหล่อนี่นะจะได้มีเวลาว่างทั้งวัน
พูดซะเสียภาพพจน์พระเอกเลยนะครับ ที่จริงไอ้มาดก็พยายามหางานทำอยู๊..แต่ทำไงได้ล่ะครับโผล่จอกหลอกหน้าไปสมัครงานที่ไหนเค๊าก็บอกว่า
"งานนี้ไม่เหมาะกะคนหน้าตาดีอย่างคุณหรอกค่ะ " โห....ปลื้มซะไม่มีอ่ะ ควรจะดีใจรึว่าเสียใจดีเนี่ยไอ้มาดเอ๋ยไม่น่าเกิดมาหน้าตาดีเลยเอ็ง
แต่เอ๊ะ..รึว่าเค๊าพูดประชดเอ็งล่ะ
ทุกค่ำคืนไอ้มาดได้แต่กอดหมอนนอนฝันถึงเธอ น้ำลายงี้ไหลเป็นทาง ฮ่าๆๆ ภาพพจน์พระเอกแทบจะไม่เหลือให้เห็น อนิจจาหมอนที่เคยนุ่ม
สะอาดน่าหนุนนอนบัดนี้เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความรักของไอ้มาด คราบน้ำลายครับคราบน้ำลาย อย่าคิดเป็นอย่างอื่นเด็ดขาด
เพราะเขาคือพระเอกของเรื่องครับเสียหมดเลย
ตุ๊กตาจ๋า..ตุ๊กตาจ๋า...หลุดออกมาจากปากห้อยๆของมันอยู่บ่อยๆ พอๆกับสันแข้งของไอ้หวินเพื่อนรักที่ต้องทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของเจ้านาย
เวลาที่ไอ้มาดละเมอเพ้อพก เมื่อไหร่น๊า....หมอนที่หนุ่นนอนจะกลายเป็นตักนุ่มๆของยาหยีเจ้าของหัวใจของไอ้มาด
เฮ้ออออ...คงมีวันหรอกนะ นั่นไง..เธอมาแล๊วววว
ไอ้มาดสุดแสนจะดีใจหลังจากที่เงียบเหงาส้วมซึมเอ๊ยเศร้าซึมมาหลายวัน
ตุ๊กตาเธอเดินมาแล้ว คงกลับบ้านมาน่ะ..เธอเป็นคนติดบ้านมากกกกกขอบอก หยุดเป็นไม่ได้กลับบ้านลูกเดียว
ผิดกับไอ้มาดที่แทบจะจำบ้านของตัวเองไม่ได้แล้ว นั่นคงเป็นความแตกต่างทางพื้นฐานครอบครัวกระมัง
ตุ๊กตามาจากครอบครัวที่สมบูรณ์ อบอุ่นทุกสภาวะ ส่วนไอ้มาดมาจากเศษของคำว่าครอบครัว
เธอพาก้นงอนๆของเธอเดินใกล้เข้ามาๆๆ เฮ๊ยยย..ยางงงง เดินมาไม่ถึงรู้ได้ไงว่าก้นงอน เอ๋า..ก็ความรู้เก่าเนาะ
ที่จริงหุ่นขนาดสูง 155 อย่างเธอจะทำให้ก้นงอนได้ขนาดไหนกันเชียวนะว่ามั๊ย??เอาน่า...งอนและดูดีสำหรับไอ้มาดก็แล้วกัน
สัดส่วนก็คงสัก 32 25 34 ไอ้ละมั๊ง??เอ๊า..ยังไม่จบอีกเดาเข้าปายยย ฮ่าๆๆ
ดอกไม้เหี่ยวๆที่แอบเด็ดมาจากข้างทางถูกแอบไว้ด้านหลังรอต้อนรับที่เธอกลับมาหลังจากที่หายไปหลายวัน
เธอต้องดีใจแน่..ไอ้มาดอม่ยิ้มที่จะได้ทำคะแนน
" สวัสดีคร๊าบตุ๊กตา..ดอกไม้สำหรับคุณครับ " ฮ่วย..ใครมาชิงพูดก่อนพระเอกของเรา
อ๋อ..แบรทพิท นายตำรวจหนุ่มเพื่อนเก่าของเธอนั่นเอง มาพร้อมดอกไม้ช่อโต คงซื้อมาหลายตังค์ละมั๊ง
แต่ใครอนุญาตให้มันแย่งมอบดอกไม้ก่อนพระเอกได้ไงวะ ทำงี้ได้ไง???ทำงี้ด้ายงายยยยหา.....
ไอ้มาดสวมบทผู้ร้ายชั่วคราวสวมเสื้อแจคเก็ตหนังสีดำยาวถึงเข่าเหมือนคีอานูรีฟส์ในหนังเดอะเมทริกซ์
สวมแว่นกันแดดสีดำ พร้อมปืนกลมืออันโต กระหน่ำยิงไปที่ร่างของนายตำรวจหนุ่มนับร้อยๆนัด
ใบหน้าหล่อๆเกือบจะสูสีกับมันแหลกเละด้วยรูกระสุน นอนกองเอาะเยาะอยู่ตรงฟุตบาทนั่นเอง
ฮ่าๆๆสะใจ นอนทับขี้หมาอีกต่างหากล่ะ
แต่....ได้แต่คิดเท่านั้นครับท่าน แล้วเค๊าก็เดินคู่เธอผ่านไป ทิ้งไอ้มาดคอตกอยู่กับดอกไม้เหี่ยวๆไร้ค่าไม่แพ้กัน
เพื่อนเก่า..อย่างน้อยก็เก่ากว่าไอ้มาดล่ะ เพื่อนที่เธอชื่นชมและพูดถึเค๊าให้ฟังอยู่บ่อยๆ
จึ๊กๆๆๆๆ ตายซะเถอะแก........โปสเตอร์แบรทพิทสุดโปรดถูกมีดปลอกผลไม้จิ้มจึ๊กๆๆๆ
ขาดหมดเลยอ่ะ น่าสงสารที่บังเอิญชื่อเหมือนมารหัวใจไอ้มาด ฮ่าๆๆ เค๊าจะสะดุ้งมั๊ยล่ะไอ้มาดเอ๋ย
จะว่าไปแล้วไอ้มาดใช่ว่าจะไม่รู้ว่าแทบจะไม่มีทางที่จะเด็ดดอกฟ้าลงมาตีเข่าได้
มันดูต้อยต่ำเกินไปในทุกแง่มุม จะอาจหาญเอาอะไรไปรบราฆ่าฟันแย่งหัวใจเธอมาครองจากใครต่อใครได้
ไอ้มาดได้แต่ถอนใจ....สิ่งเดียวที่มีกว่าใครคือหัวใจที่มีเพียงเธอ
จ๊อกๆๆๆ โอยยยยหิวข้าว...หาแย่งอะไรเด็กแถวนี้กินอีกดีกว่า ค่อยว่ากันใหม่
ฮ่าๆๆ
แจ๊ะ -_-! เวร ไอ้มาดเหยียบขี้หมา เวรกรรมมีจริงแฮะ
--------------------------------------------------------------------------------
ตอน.....ไอ้มาดไม่สบาย
วันนี้ไอ้มาดไม่สบาย ที่จริงเป็นไข้หวัดนิดเดียวแต่หาเรื่องอยากไปโรงพยาบาล 5 5 5 แปลกมํ๊ยล่ะล่ะครับ
ปกติแล้วถ้าไม่สาหัสจริงๆไม่มีวันหรอกครับ ( ความลับก็คือ..ไอ้มาดมันกลัวเข็ม "จิ้มตูด" 5 5 5 เออนะใครกันเป็นคนบัญญัติคำนี้ "ตูด"
ฟังดูน่าเกลียดพิลึก )
อาบน้ำแต่งตัวแต่เช้า ช่างเป็นคนไข้ที่ร่าเริงแจ่มใสซะจริงๆไอ้มาดของเรา หวีผมซะเรียบแปล้เลยอ่ะ หล่อสุดชีวิต
นี่มันจะไปโรงพยาบาลรึว่าจะพาสาวไปเที่ยวกันแน่นะ 5 5 5 สองโมงกว่าๆ ไดอ้มาดก็มานั่งยิ้มเผล่อยู่โรงพยาบาลเรียบรอ้ยแล้ว
นี่ขนาดมาแต่เช้ายังต้องรอคิวยาวววววเลยอ่ะ ได้หมายเลขตั้งเกือบร้อยแน่ะ แต่ไม่เป็นไร๊ไอ้มาดเต็มใจรอ
มันนั่งรวมอยู่กับคนอีกนับรัอยสองร้อยที่มารอรับบริการ "จิ้มตูด" อย่างจิตใจไม่ค่อยอยู่กะเนื้อกะตัวเท่าไหร่ รอและรอใคร??
ตายล่ะเมื่อเช้ารีบไปหน่อย ลืมถ่ายทุกข์ แก๊สในลำไส้ใหญ่ก็เริ่มจะเกินพิกัดที่จะสามารถขมิบ ขเม้ม ขยุ้มเอาไว้ได้แล้ว อา.ห์
ทำไงดีนะ ไอ้มาดนั่งบิดไปบิดมาอย่างคนเสียศูนย์ 5 5 5 ( ก็ปล่อยเล๊ยยย การกลั้นตดนั้น เป็นบาป ค่อยๆบรรจงปล่อย ไม่มีใครรู้อยู่แล้ว )
เอาวะ ไอ้มาดค่อยๆคลายกล้ามเนื้อ " ตรงนั้น" เบาสุดชีวิต อาห์ โล่งอกไปที ไม่มีเสียงอย่างที่กังวลซะหน่อย แต่กลิ่นนี่สิ โอ๊ววววพระเจ้า
ยอดผักกะถินริมรั้ว กะผักชะอม ช่างคงกลิ่นไว้ได้อย่างสมบูรณ์ดีแท้ ดูเหมือนจะกลิ่นแรงกว่าตอนที่กินเข้าไปซะอีกนะเนี่ย 5 5 5
" เอ๊..ใครตดวะ?" ไอ้มาดรีบประกาศตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ท่าทางหัวเสีย แมงวันหัวเขียวบินกันว่อนเลยอ่ะ 5 5 5 จมูกไวจริงๆ
เกือบเที่ยงแล้ว ไอ้มาดยังคงต้องรอ รอคิวน่ะไม่เป็นไร แต่รอคนนี่สิ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ประสบพบพักตร์แม่น้องรักพยาบาลหวานใจของมัน
ที่จริงไอ้มาดรู้ว่าเธอทำงานอยู่ที่อีกตึกนึง หวังเพียงว่าเธอจะเดินผ่านมาให้ชื่นชม ( ว๊าววว) บ้างเท่านั้น
เท่านั้นจริงอ่ะ??? จริ๊งงงไม่โกหกอ๊ะๆๆก็ได้ๆๆ กะว่าจะส่งจอมอน้อยที่อุตส่าห์เขี่ยไว้เมื่อคืนก่อนตอนวางแผนว่าวันนี้จะป่วย
โหลงทุนนะ ^_^ ท้องไส้ก็สุดจะปั่นป่วน ไอ้ตัวหัวหน้าทีมแทบจะดันตัวเองออกมาสู่สายตาชาวโลกอยู่แล้ว
โอยยยยจะไปเข้าห้องน้ำก็กลัวว่าจะพลาดโอกาส ถ้าหวานใจเดินผ่านมา ได้แต่บิดไปบิดมา
ว๊าวววนั่นไงเธอเดินมาแล้ววววว ชุดเขียวปลิวว่อนเลยอ่ะ เดินมาไกลไกลท่าทางรีบร้อน
ตึกมันยาวครับต้องเข้าใจ มือที่กำจดหมายน้อยอยู่เปียกหมดแล้ว 5 5 5 ตื่นเต้นจัด อีกสองช่วงเสาเธอก็จะมาถึงแล้ว แว๊บบบเอ๋า..เธอแวะเข้าห้องน้ำ
อ๋อที่เห็นท่าทางรีบร้อนเธอคง 5 5 5 เอาล่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว รีบทำธุระก็คงออกมาทันเธอ ไปล่ะ จ๊วดดดดดเหมือนกัน
ไอ้มาดพุ่งเข้าสุขาวดีแดนสวรรค์อย่างรวดเร็วสุดชีวิต ห้องน้ำชายหญิงติดกันแบบว่าเก็บเสียงไม่มิดกันเลยล่ะ
อ๊าาาา.ห์ ปู๊ดดดด..ป๊าดดด..ดังสนั่นลั่นสุขาวดี รีบก็รีบกลัวจะออกไปไม่ทันเธอ
เสียงกห้องโน้นก็ดังไม่แพ้กัน 5 5 5 เอาล่ะในเมื่อเธอไม่อายแล้วเราจะอายทำไมกันล่ะ สุดๆไปเล๊ยยยยยย.อู๊ววว อ๊าาาา.
เสียงเงียบไปแล้ว.ประตูถูกเปิดออก ไอ้มาดยิ้มเผล่อย่างสบายตัว โล่งงงงงสุดๆ ล้างมือ ล้างหน้า หวีผมเรียบแปล้ตามเดิม
"คือหล่อแท้" ออกมายืนรอเธออยู่หน้าห้องน้ำหญิง
"อ้าว..มาด มาโรงพยาบาลเป็นอะไรจ๊ะ?ไม่สบายเหรอ??"
แหมแก้มใสๆของเธอ น่าหอมจริงๆวันนั้น เอ๊ย..วันนี้ ริมผีปากสีชมพูอ่อนของเธอก็น่าเฮ้อออ..ไอ้มาดแอบถอนใจ
เวลาเอื้อนเอ่ยก็แสนจะไพเราะเสนาะหู
แต่เสียงในห้องน้ำเมื่อตะกี้ ช่างไม่เข้ากับบุคลิกอันนางเอ๊กกกนางเอกของเธอเลย 5 5 5
"เป็นไข้นิดหน่อยน่ะครับ มารอคิวตั้งตะเช้าแล้ว ท้องเสียก็เลยเข้าห้องน้ำ คุณตาท้องเสียเหมือนกันเหรอครับ เสียงดังเชียว ^_^ "
" อุ๊ย! เปล่าค่ะ ตาแค่มาฉิ๊งฉ่อง แล้วก็ล้างมือนิดหน่อยน่ะค่ะ พอดีเพิ่งทานส้มตำมา ไม่รู้ใครเข้าหอ้งน้ำเสียงดัง น่าเกลียดเนี่ยตาเสียเลยนะคะ
ว่าแต่เสียงจากฝั่งโน้นน่ะเสียงมาดเหรอ?สุดๆไปเลยนี่
" เอ๋า.ไอ้เราก็นึกว่าเธอเป็นแนวร่วม เลยปล่อยซะเต็มที่ ที่แท้เธอแค่มาฉิ๊งฉ่อง
"เอ่ออออ.ผมเองครับ " เอ๋า..ว่าจะบอกว่าเปล่าซะหนอ่ย โกหกไม่เป็นนี่นะ ไอ้มาดคนซื่อ อายแทบแทรกแผ่นหินอ่อนหนี5 5 5
"ไปค่ะ เดี๋ยวตาลัดคิวให้" อีกสิบนาทีต่อมา จึ๊ก..อ๊ากกกกกกกกกกก..
5 5 5 5 5 คุ้มมั๊ยนะวันนี้ทั้งเจ็บทั้งอายเลยพระเอกของเรา
--------------------------------------------------------------------------------
เรื่องของนายจุ้ย
เช้าวันเสาร์ อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าปราศจากเมฆหมอกแต่งแต้ม
คงมีแต่กลิ่นชื้นๆของหยาดฝนที่โปรยปรายลงมาชะโลมดินเมื่อค่อนรุ่ง ฝากร่องรอยความชุ่มฉ่ำไว้บนพุ่มไม้ใบหญ้าเขียวขจี
แมงปอตาโตโผผินลิ่วล้อเล่นลม เฮ้ออออ.. วันหยุดสุดสวย นอนต่ออีกสักนิดดีมั๊ย?? อุ๊ย ! ไม่ได้สิ วันนี้มีนัดดูหนังกะตุ๊กตา
"ช้าอีกแล้วนะยะ ไปเหอะหนังฉายแล้วเนี่ย ทำไมเป็นผู้ชายที่ชักช้าอืดอาดขนาดนี้น๊าาาานายจุ้ย"
หนังเริ่มฉายแล้ว ภายในโรงหนังมือสนิทมีเพียงแสงสว่างจากจอที่พอจะทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆรอบข้างได้บ้าง
ดูดวงตากลมโตใสแป๋วคู่นี้สิ นี่กระมังที่ทำให้หนุ่มน้อยประทับใจในครั้งแรกที่พบกันเมื่อหลายเดือนก่อน
จมูกเชิดของเธอบ่งบอกถึงนิสัยซุกซนดื้อรั้นอยู่บ้างในบางโอกาส ริมฝีปากชมพูจิ้มลิ้มขอเธอเผยให้เห็นฟันซี่สวยในยามทีเธอพอใจ
ทุกถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ยถึงจะดูนุ่มนวลชวนฝัน แต่ก็เต็มไปด้วยความไม่เดียงสา หาจริตใดๆไม่
ไม่แปลกใจเลยสักนิดที่หัวใจของหนุ่มน้อยจะตกเป็นของเธอก่อนที่ตัวเธอจะรู้ตัวเสียอีก
จุ้ยมองสาวน้อยที่นั่งอยู่ข้างกายด้วยสายตาของคนที่ตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก
อยากจะจับมือน้อยเรียวงามของเธอมากุมไว้แล้วพร่ำบอกถึงความรู้สึกที่คับแน่นเต็มอกตอนนี้ว่า
รักเธอนะ รักเธอนะมีวิธีไหนบ้างที่จำทำให้เธอรู้สึกแบบเดียวกันนี้ได้
แต่เขาจะทำอย่างนั้นอีกครั้งได้อย่างไรในเมื่อได้ทำไปแล้วครั้งหนึ่ง
และมันเกือบจะทำให้เสียเธอไป
"เราเป็นเพื่อนกันนะจุ้ย ขอบคุณมากสำหรับความรู้สึกนั้น แต่เก็บมันไว้เถอะเรารับมันไว้ไม่ได้หรอก อย่าทำให้เราต้องลำบากใจเลยนะ"
ตุ๊กตาบอกกับเขาเมื่อหลายวันก่อน จุ้ยได้แต่ก้มหน้ายอมรับและเฝ้าเก็บงำความรักที่ไม่สมบูรณ์นั้นไว้ลำพังรอการเปิดเผยอีกครั้ง
แต่เขาจะทำได้หรือ???
บ่ายคล้อยๆของวันอาทิตย์ ตะวันใกล้จะลับขอบฟ้าไปแล้ว แสงแดดสีทองจับยอดตึกสูงระฟ้าดูแปลกตาดีเหมือนกัน
ถึงบรรยากาสจะดูแปลกใหม่แต่ก็ไม่สามารถผ่อนคลายความเหงาในหัวใจของหนุ่มน้อยให้เบาบางลงไปได้
สองอาทิตย์แล้วที่ต้องจากหญิงผู้เป็นที่รักมาเมืองหลวงด้วยหน้าที่บางอย่าง
ทุกค่ำคืนจุ้ยได้แต่นั่งมองรูปถ่ายใบเล็กที่แอบหยิบมาจากกระเป๋าสตางค์เมื่อตอนที่ตุ๊กตาทำหล่นไว้ด้วยหัวใจปรารถนา
คิดถึงเธอ..และ คิดถึงเธอถ้าเธออยู่ที่นี่ด้วย แสงนวลจากโคมไฟคงไม่เหงาอย่างนี้
อาหารค่ำผ่านไปแล้ว ความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดของจุ้ยยังจดจ่ออยู่ที่เธอ
กับรูปถ่ายใบเล็กเดิมๆที่สีเกือบจะซีดอยู่แล้วเพราะต้องทำหน้าที่อย่างหนักอยู่ตลอดเวลา
นั่นจดหมายฉบับแรกที่ตุ๊กตาเขียนถึงเขาจากจำนวนหลายฉบับที่เค๊าเขียนถึงเธอ เนื้อความในจดหมายบอกว่าเธอก็คิดถึงและเป็นห่วงไม่แพ้กัน
ตลอดระยะเวลาสองเดือนที่เขาจากมา ถึงแม้จะเป็นความรู้สึกแบบเพื่อนฝูงแต่ก็ทำให้เขาอดปลื้มใจและแอบยิ้มกับตัวเองไม่ได้ในทุกครั้งที่เปิดอ่าน
"ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีด้วยนะ เราจะรอวันที่เธอกลับมา จุ้ย " แน่นอนเขาบอกกับตัวเองว่าจะไม่ยอมต้องเจ็บป่วยหรือเป็นอะไรไป
จะกลับไปพบเธอในเร็ววันพร้อมร่างกายและหัวใจที่สิทธิการเป็นเจ้าของเป็นของเธอเต็มเปี่ยม
เขาร่างข้อความจดหมายที่จะส่งถึงตุ๊กตาเอาไว้ในใจสวยหรูทุกถ้อยคำ สรรหาคำพูดแทนความรู้สึกรักล้นใจเอาไว้มากมาย
แต่คืนนี้ยังก่อน พรุ่งนี้มีภารกิจต้องทำ " ราตรีสวัสดิ์กำลังใจของผม " จุ้ยบอกกับรูปถ่ายใบน้อยหลังฝากจุมพิตหนึ่งทีก่อนจะหลับฝันหวาน
สามเดือนแล้วกับชีวิตที่นี่ ช่างเป็นสามเดือนที่ยาวนานเหลือเกินสำหรับเขา ท่าทีของตุ๊กตาดูเปลี่ยนไป
ดูเธอจะยอมรับความรู้สึกนั้นของเขาได้มากขึ้น ท่าทีหงุดหงิดรำคาญใจเมื่อเขาเอ่ยความรู้สึกในใจเริ่มน้อยลง
จนแทบจะไม่มีให้เห็นเลยในระยะหลังๆนี้ จนทำให้จุ้ยแอบคิดในใจว่าเขาเริ่มจะได้รับสิ่งที่เขาพยายามเป็นผู้ให้
แต่เพียงผู้เดียวมาโดยตลอดกลับคืนมาบ้างแล้ว
ความเหงาหงอยแทบจะไม่มีโอกาสเข้ามาเกาะกินหัวใจของเขาได้อีก แสงแดดดูสดใส แสงไฟยามค่ำคืนก็ดูมีชีวิตชีวา
ดวงดาวบนท้องฟ้าเฝ้ากระซิบกับเขาว่า ความพยายามของนายเป็นผลแล้ว จุ้ย.. ใช่แล้ว
พรุ่งนี้ถึงเวลาที่เราจะได้กลับไปหาเธอ การรอคอยที่ยาวนานสิ้นสุดกันเสียที
" พรุ่งนี้เราจะได้พบเธอ เธอจะไม่ปฏิเสธเราอีกแล้ว" จุ้ยเฝ้าบอกกับตัวเอง พรุ่งนี้พรุ่งนี้
เที่ยงตรง..แดดน่าจะตรงหัวถ้าสามารถมองเห็นได้ในวันนี้ วันแห่งความยินดีของเขาอากาสน่าจะแจ่มใสกว่าที่เป็น
ไม่เป็นไร..จุ้ยบอกกับตัวเอง ต้องรีบไปให้ถึงบ้านตุ๊กตาก่อนฟ้าจะรั่วลงมาในอีกไม่กี่นาที
เธอจะต้องดีใจแน่ที่เขากลับมาโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้าแบบนี้ เขากะเซอร์ไพรส์เธอเต็มที่
อยากเห็นสีหน้าที่แสนจะยินดีเวลาได้เจอกัน รอยยิ้มที่สดใส และหัวใจน้อยๆสวยงามที่พร้อมจะมอบเป็นของขวัญรับการกลับมาของเขา
" ตุ๊กตาของผม..ผมมาแล้ว " เสียงแห่งความยินดีในหัวใจเขา เหมือนเสียงกลองที่ดังกระหึ่มอยู่ตลอดระยะทางก่อนถึงบ้านเธอ
" จวนแล้ว..อีกนิดเดียว "
" ตุ๊กตาเพิ่งเดินทางไปต่างประเทศกับคุณพ่อเมื่อเช้านี้เอง นี่จดหมายของเธอ "
รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจสามเดือนที่เฝ้าตั้งตารอคอย ความหวังที่จะได้เห็นหน้าเปื้อนยิ้มไร้เดียงสาของสาวน้อยเจ้าของหัวใจนี้พลันหายไปหมดสิ้น
" จุ้ยนี่คงเป็นจดหมายฉบับสุดท้ายที่ตาจะเขียนถึงเธอ คุณพ่อต้องย้ายไปประจำที่ออสเตรเลีย
ท่านให้ตาไปเรียนต่อที่นั่นด้วย ก็คงหลายปีจุ้ยกว่าจะได้กลับมา อนาคตของตายังยาวไกล
ขอโทษด้วยนะที่ต้องทำแบบนี้ ตาเองก็เสียใจไม่แพ้เธอ ตัดใจเถอะนะ อย่ารออย่าทำให้ตาต้องมีห่วง ลาก่อน.."
เหมือนฟ้าจะรับรู้ถึงความรวดร้าวในใจเขาได้ สายฝนและหยาดน้ำตาอาบใบหน้า ทั้งร่างกายเขาเปียกปอนกลางพายุฝน
ไม่สนใจป้านวลที่ร้องเรียกให้เขาเข้าบ้าน
จะให้ทำไงได้ล่ะ เข้าไปให้ป้านวลรู้ว่าบัดนี้หัวใจของเขาแหลกสลายไปแล้วด้วยกระดาษใบน้อยที่แกยื่นให้น่ะเหรอ???
อย่าเลย...เหงาแทบขาดใจก็ยังมีสายฝนเป็นเพื่อนและปกปิดอาการต่อคนรอบข้างได้ ลาก่อน..ตุ๊กตา ทุกสิ่งในชีวิตผม
ท้องฟ้าคร่ำครวญหวนไห้ สายฟ้าฟาดเปรี้ยงบาดใจ แต่นั่นมันน้อยไปเมื่อเทียบกับหัวใจที่แหลกสลายของเขาตอนนี้ ลาก่อน
" ป้านวลขาตาลืมของสำคัญค่ะ ตุ๊กตาคู่รักที่จุ้ยให้ตอนวันเกิดน่ะค่ะ ก็เลยเลื่อนเวลาเดินทาง
เอ๊ะแถวปากซอยคนมุงอะไรกันคะเต็มเลย "
เมื่อวิ่งมาถึง ตุ๊กตาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง อยากให้มันเป็นแค่ภาพลวงตาหรือแค่ฝันไป
ร่างของหนุ่มน้อยที่เฝ้ารำพึงรำพันฝากรักเธอ รักเธอ และรักเธอสุดหัวใจนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ตรงหน้า
น้ำฝนรอบกายเป็นสีแดงสดด้วยเลือดของเขา เสื้อที่เธอเคยซื้อให้เมื่อวาเลนไทน์ที่ผ่านมาเปียกโชกเพราะน้ำฝน
กระเป๋าเดินทางใบเล็กฉีกกระจุยด้วยแรงชนของรถ ในมือของเขากำกระดาษเปียกน้ำไว้แน่น ใช่..จดหมายจองตุ๊กตาสุดที่รักของเขานั่นเอง
" จุ้ย..ตากลับมาแล้ว ตาตั้งใจกลับมาหาเธอ ตื่นสิคนดีของตา ตาจะมาบอกว่าตารักเธอ ตารักเธอนะ ตื่นสิจุ้ยอย่าทำอย่างนี้กับตานะ
เธอเป็นยังงี้เพราะจดหมายฉบับนี้ของตาเหรอ ฮือๆๆ? ?"
ก้มกอดร้องไห้คร่ำครวญปริ่มว่าจะขาดใจร่างสงบนิ่งของจุ้ยหาได้ตอบรับใดๆต่อเธอไม่
จากนี้ไปเธอจะไม่มีเขาคอยพร่ำคำรักให้ฟังอีกแล้ว จุ้ยผู้น่าสงสารที่สุดตลอดเวลาที่ผ่านมาตาขอโทษที่ไม่ได้ตอบแทนความรู้สึกดีๆเหล่านั้นให้เธอ
แต่จากนี้หัวใจตาจะเป็นของเธอ..นิรันดร์
พระอาทิตย์หัวเหน่งเปล่งแสงแสบตาแต่เช้า แม้นอนคลุมโปงโก่งก้นก็หารอดพ้นแสงที่เสนอหน้าเข้ามาแยงตาถึงในผ้าห่มไม่ โอ..พระเจ้า.นี่หรือวันหยุด
ว่าจะนอนให้เต็มอิ่มซะหน่อย เสียงยายทองสุขข้างบ้านตีลูกก็ดังรบกวนโสตประสาทซะเหลือเกิน ยัยคนนี้ซาดิสก์ เลี้ยงลูกด้วยลำแข้งของแกเองจริงๆ
อยากตะโกนบอกว่า "ฆ่ามันเลยเป็นไงยายทองสุข" ก็กลัวว่าแกจะฆ่าซะจริงๆ บาปกรรมคนบอกเปล่าๆ เฮ้ออออ
แต่ว่าไอ้แดงน้อยลูกแกมันก็น่าฆ่าทิ้งจริงๆนะ ร้องได้ร้องดี เดินหางานต่อดีกว่าเราวันนี้
หยิบแปรงสีฟันขนฟูคู่ชีพบีบลมของยาสีฟันลงไป ( เนื้อหมดแล้วเหลือแต่ลมครับท่าน ตกงานอยู่ ) อุเหม่..สภาพเหมือนแปรงขัดส้วมเลย
ผ้าขนหนูผืนเก่าที่นุ่งทีไรก็ตูดขาดทุกที ไม่เป็นไร๊คนรูปหล่อทำไรไม่น่าเกลียดอยู่แล้ว ไอ้มาดยิ้มกับตัวเองด้วยความภูมิใจดีนะที่เกิดมาหน้าตาดี
ยังพอมีสิ่งที่จะเร้าใจสาวๆแถวนี้อยู่บ้าง เดินมายี่สิบซอยแล้วงานก็ไม่มี หิวก็หิว เงินก็ไม่มีสักแดงเดียว ทำไงดีน๊าาาาา โอยยยหิวจนตาลาย
มองหาใครที่รู้จักสักคนก็หามีไม่ ทำไงดี ทำไงดี อา.ได้การล่ะ เด็กนั่นนั่งกินไอติมอยู่คนเดียว เสร็จเรา..ไอ้มาดเหลียวซ้ายแลขวาไม่มีใคร
โอกาสทองมาถึงแล้ว เด็กอายุสองขวบจะช่วยเหลือตัวเองได้ยังไงกับการจู่โจมของมัน
ไอ้มาดตรงลิ่วเข้าหาเด็กน้อยอย่างอุกอาจ ในมือถือท่อนไม้อันเขื่องที่หยิบมาจากป้ายรถเมล์ ( มาจากไหนก็ไม่รู้
เหมือนในหนังบู๊ที่อยู่ๆก็มีปืนซ่อนอยู่ให้พระเอกนั่นแหละครับ )
เงื้อมสุดแขนฟาดผั๊วะๆๆ เลือดสีแดงๆไหลนองพื้น อา..ไอ้มาดทำอะไรลงไปคุณผู้อ่าน.
ร่างน้อยๆของเขียดเหยียดขิ้งนิ่ง นี่แหละเค๊าเรียกตายหยังเขียด เอ๊ะ??เลือดเขียดสีอะไรนะแดงรึเปล่า
เด็กน้อยอ้าปากค้างด้วยความตกใจกลัวคิดไม่ถึงโลกนี้จะมีคนที่โหดร้ายขนาดไอ้มาดได้ มือก็ปล่อยโคนไอติมสุดรักเกือบจะตกถึงพื้นอยู่แล้ว
ไอ้มาดไม่รอช้า..พลาดโอกาสนี้คงรอไปอีกนาน สวมวิญญาณผู้รักษาประตูเก่าจากทีมโรงเรียนโคกกระเซ็น กระโดดรับโคนไอติมโดยไม่หกสักหยด
อะฮ๊า..เสร็จเรา คงพอประทังชีวิตไปได้ชั่วคราว
ไอ้มาดสุดหล่อเดินเลียไอติมหนีไปอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่สนใจเสียงด่าทอจากเด็กสองขวบที่นึกเสียดายขึ้นมาเพราะมันไม่โดนพื้น
ปากจัดจริงๆเด็กคนนี้สงสัยพ่อแม่ไม่สั่งสอน ไอ้มาดคิดในใจ
"อ้าว..มาดไปไหนมาจ๊ะ???" เสียงหวานหูที่คุ้นเคยแว่วมาแต่ไกลทักทายอย่างกันเองที่สุด
"ทำงานมาครับ" ไอ้มาดเก๊กเสียงให้หล่อใกล้เคียงกับใบหน้าของตัวเอง ช่ายยย..จะบอกตุ๊กตาแม่ยอดยาหยีของมันได้ยังไง
ว่าตกงานอยู่ 5 5 อายเค๊าตายเลย
"ไปนะจ๊าาาา"
"คร๊าบบบผม" ไอ้มาดฉีกยิ้มถึงรูหูมองตามหลังแม่พยาบาลหวานใจด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม
ไม่ลืมที่จะมองต่ำลงถึงก้นอันงอนเช้งของหล่อน "ไอ้บ้า! มองเธอแบบนั้นได้ยังไงกัน" มันบอกกับตัวเอง แต่ก็งอนจริงๆนี่หว่า นะ..
ว่าแต่ว่าเมื่อตะกี้เธอเห็นท่ารับไอติมอันน่าประทับใจของมันรึเปล่าหว่า 555 เห็นดีม๊ะ
ขอย้อนกลับไปเมื่อประมาณสามเดือนที่แล้ว ขณะที่ไอ้มาดกำลังพาใบหน้าอันหล่อเหลา
หนวดเคราที่โกนซะเกลี้ยงเกลาด้วยยิลเลตของไอ้หวินเพื่อนรักที่ให้ยืมมา โอน้ำใจเพื่อนฝูงทำให้ไอ้มาดดูหล่อมีคลาสขึ้นเยอะ
( คนละคนกับปู้จิ้งหวิน แห่งฟงหวินขี่พายุทะลุฟ้านะครับ )
กำลังเดินวิจัยฝุ่นอยู่อย่างสุดเซ็ง เหงื่อไหลอาบใบหน้าอันหล่อเหลานั้นดูแล้วเท่สมบุกสมบันดี
คงดีกว่านี้ถ้าเย็นนี้จะมีข้าวกินแทนอาหารญี่ปุ่นที่กินอยู่ทุกวี่วันสักมื้อ เฮ้อออมาม่ามันก็เบื่ออ่ะนะกินบ่อยๆ
" ช่วยด้วยค่าาาาา คนกระชากกระเป๋า ซ่อยแหน่..ซ่อยแหน่"
เสียงร้องขอความช่วยเหลือของหญิงสาวที่ตกใจจนสำเนียงบ้านเกิดแถวกาฬสินธุ์แป้ดออกมา
อุ๊ย..แป้ด..น่าเกลียดนะครับ
ไอ้มาดหันควับตามเสียงร้อง ปล่าววว..ไม่ได้คิดจะช่วยเหลืออะไรหรอกครับแค่จะมองว่าเสียงไผวะคือคนบ้านเฮาแท้ทันทีที่ประสบพบพักตร์
เลือดพระเอกที่มีอยู่ในกายไอ้มาดเต็มเปี่ยมฉีดพล่าน ว๊าว! พยาบาลสาวสวยซะด้วยแฮะชอบซะแล๊ววววว.นั่นแน่ ! เอาแล้วไงพระเอกของเรา
เอาวะ..เป็นไงเป็นกันต้องช่วยเธอหน่อย ไอ้หน้าปลาจวดนั่นวิ่งมาทางนี้พอดี ขอเป็นพระเอกกะเค๊าสักวันเถอะวะ
ไม่รอช้า ไอ้มาดเตะพาดกลางลำของไอ้มือกาวที่วิ่งมาอย่างเหมาะเจาะ มันล้มลงไปกลิ้งโค่โล่จุกท้องอยู่ริมฟุตบาท
รอให้ตำรวจมาลากคอ ตำรวจก็แบบนี้แหละครับมาเก็บกวาดทุกที ฮ่าๆๆก็หนังไทยนี่นะ
" ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริงๆ ถ้าไม่ได้คุณดิฉันคงแย่ค่ะ "
ตุ๊กตาสาวพยาบาลที่กลายเป็นหวานใจของไอ้มาดไปซะแล้วอย่างไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัวกล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจที่สุด
ไอ้มาดเก๊กหน้าหล่อยิ้มที่มุมปากอย่างที่มันคิดว่าหล่อที่สุดเพราะเคยฝึกยิ้มบ่อยๆหน้ากระจกใบน้อยที่บ้านเช่าแคบๆของมัน
" ไม่รู้จะขอบคุณยังไง ขอตาเลี้ยงข้าวสักมื้อนะคะ "
เธอยิ้มอย่างที่ไอ้มาดไม่เคยเห็นใครจะยิ้มหวานปานจะกระชากใจหนุ่มรูปหล่ออย่างมันได้ขนาดนี้
" ไม่เป็นไรครับ อะฮ๊า..อย่าลำบากเลยครับ ผมทำไปเพราะไม่อยากเห็นผู้หญิงถูกรังแกน่ะครับ "
ว๊าว ! พูดออกไปได้ไงเนี่ยเหมือนพระเอกหนังไทยเลย ช่างขัดกับเสียงร้องจ๊อกๆๆของท้องไส้ตอนนี้ที่เฝ้ารอคนมีน้ำใจสักคนมาประทานข้าวให้สักมื้อ
แฮ่ะๆ ก็ไม่ได้กินข้าวมาตั้งแต่เช้าแล้วนี่ครับพระเอกของเรา
" ไม่เป็นไรค่ะ ให้ตาเลี้ยงเถอะนะคะ เป็นการตอบแทนค่ะ คนมีน้ำใจขนาดนี้จะไม่ตอบแทนได้ไงล่ะคะ
" เฮ้อออโล่งอกไปทีที่เธอไม่รีบร้อนรับคำปฏิเสธของมัน ก็หิวจะตายอยู่แล๊ววววว แกล้งเก๊กมาดพระเอกไปงั้นเองอ่ะ 555
" ทานอะไรล่ะคะ ตามสบายเลยค่ะ เชิญเลยนะคะ " สาวเจ้าเอ่ยปากถามผู้มีพระคุณผู้หล่อเหลาด้วยความสำนึกในความดีเมื่อตะกี้
ไอ้มาดได้แต่ยืนเก้อๆ ไม่รู้จะกินอะไรดี มันช่างน่ากินไปหมด ที่สำคัญไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรบ้างน่ะสิครับไม่เคยกินนี่นา..
ฮ่าๆๆๆน่าสงสาร รู้จักก็แต่ส้มตำปูที่ส่งกลิ่นยั่วน้ำลายชาวอีสานอย่างมันนี่แหล่ว
แต่ครั้นจะบอกว่ากินส้มตำ..มันก็ขัดกับหน้าตาอันหล่อเหลาซะเหลือเกินนี่สิ ทำไงดีน๊าาาา
ไม่อยากให้สาวเจ้ารู้ว่า " มันเป็นลาวววว "
" ตามสบายนะคะ ตาขอสั่งส้มตำก่อนละค่ะ อู๊ยยยย..ได้กลิ่นปลาร้าแล้วน้ำลายหกค่ะ ซู๊ดดดด
" อ้าว! ลาวเหมือนกันนี่หว่าไอ้มาดคิดในใจ แต่อุบไว้ก่อนยังไม่บอกว่ามันสุดแสนจะดีใจจะได้กินส้มตำซะที
" ส้มตำก็ดีครับผมทานได้ " ฮั่นแน่.เข้าใจหาทางออกแฮะพ่อพระเอกกกก
" ต้องขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยตาไว้ " เธอกล่าวขอบคุณอีกครั้งอย่างซาบซึ้งเป็นครั้งที่ 80 ที่นั่งกินส้มตำอยู่
ไอ้มาดอร่อยจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง ขี้มูกขี้ตาไหลโอยยยยแซ่บหลาย ช่างไม่เก็บอาการเอาซะเลย ฮ่าๆๆๆพ่อพระเอกของเรา
" เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้มั๊ยครับ?" ไอ้มาดคิดในใจ
"เพี๊ยะ !"
เสียงฝ่ามือนิ่มๆของเธอฟาดเปรี๊ยงที่ใบหน้าของไอ้มาด
ไอ้มาดได้แต่ทำหน้างงๆ ระคนตกใจ ..อะไรวะ นี่แค่คิดในใจเท่านั้นเองนะ รู้ได้ไงเนี่ย?? โอสมกับที่เป็นพยาบาล ช่างมีจิตวิทยาสูงส่ง
" แมงวันน่ะค่ะ ร้านนี้แมงวันเยอะนะคะ เนี่ยตัวเบ่อเริ่มเลย "
โห.นี่ตบแมงวันหรอกเหรอ???? ฮ่าๆๆๆ นึกว่ารู้ว่าคิดอะไร
ตั้งแต่วันนั้นสองคนก็รู้จักทักทายกันเรื่อยมา รู้แล้วนะครับว่ารู้จักกันได้ไง
ตอนต่อนี้หายไปไหนก้ไม่รู้นะ
หลายวันแล้วที่ไอ้มาดไม่ได้เห็นหน้าขาวๆก้นงอนๆของเธอ เธอคงยุ่งน่ะก็เลยไม่มีเวลาเดินผ่านมาให้ไอ้มาดได้ยลโฉม
ก็แหงแซะหละเธอไม่ได้ตกงานเหมือนกระทาชายนายมาดสุดหล่อนี่นะจะได้มีเวลาว่างทั้งวัน
พูดซะเสียภาพพจน์พระเอกเลยนะครับ ที่จริงไอ้มาดก็พยายามหางานทำอยู๊..แต่ทำไงได้ล่ะครับโผล่จอกหลอกหน้าไปสมัครงานที่ไหนเค๊าก็บอกว่า
"งานนี้ไม่เหมาะกะคนหน้าตาดีอย่างคุณหรอกค่ะ " โห....ปลื้มซะไม่มีอ่ะ ควรจะดีใจรึว่าเสียใจดีเนี่ยไอ้มาดเอ๋ยไม่น่าเกิดมาหน้าตาดีเลยเอ็ง
แต่เอ๊ะ..รึว่าเค๊าพูดประชดเอ็งล่ะ
ทุกค่ำคืนไอ้มาดได้แต่กอดหมอนนอนฝันถึงเธอ น้ำลายงี้ไหลเป็นทาง ฮ่าๆๆ ภาพพจน์พระเอกแทบจะไม่เหลือให้เห็น อนิจจาหมอนที่เคยนุ่ม
สะอาดน่าหนุนนอนบัดนี้เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความรักของไอ้มาด คราบน้ำลายครับคราบน้ำลาย อย่าคิดเป็นอย่างอื่นเด็ดขาด
เพราะเขาคือพระเอกของเรื่องครับเสียหมดเลย
ตุ๊กตาจ๋า..ตุ๊กตาจ๋า...หลุดออกมาจากปากห้อยๆของมันอยู่บ่อยๆ พอๆกับสันแข้งของไอ้หวินเพื่อนรักที่ต้องทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของเจ้านาย
เวลาที่ไอ้มาดละเมอเพ้อพก เมื่อไหร่น๊า....หมอนที่หนุ่นนอนจะกลายเป็นตักนุ่มๆของยาหยีเจ้าของหัวใจของไอ้มาด
เฮ้ออออ...คงมีวันหรอกนะ นั่นไง..เธอมาแล๊วววว
ไอ้มาดสุดแสนจะดีใจหลังจากที่เงียบเหงาส้วมซึมเอ๊ยเศร้าซึมมาหลายวัน
ตุ๊กตาเธอเดินมาแล้ว คงกลับบ้านมาน่ะ..เธอเป็นคนติดบ้านมากกกกกขอบอก หยุดเป็นไม่ได้กลับบ้านลูกเดียว
ผิดกับไอ้มาดที่แทบจะจำบ้านของตัวเองไม่ได้แล้ว นั่นคงเป็นความแตกต่างทางพื้นฐานครอบครัวกระมัง
ตุ๊กตามาจากครอบครัวที่สมบูรณ์ อบอุ่นทุกสภาวะ ส่วนไอ้มาดมาจากเศษของคำว่าครอบครัว
เธอพาก้นงอนๆของเธอเดินใกล้เข้ามาๆๆ เฮ๊ยยย..ยางงงง เดินมาไม่ถึงรู้ได้ไงว่าก้นงอน เอ๋า..ก็ความรู้เก่าเนาะ
ที่จริงหุ่นขนาดสูง 155 อย่างเธอจะทำให้ก้นงอนได้ขนาดไหนกันเชียวนะว่ามั๊ย??เอาน่า...งอนและดูดีสำหรับไอ้มาดก็แล้วกัน
สัดส่วนก็คงสัก 32 25 34 ไอ้ละมั๊ง??เอ๊า..ยังไม่จบอีกเดาเข้าปายยย ฮ่าๆๆ
ดอกไม้เหี่ยวๆที่แอบเด็ดมาจากข้างทางถูกแอบไว้ด้านหลังรอต้อนรับที่เธอกลับมาหลังจากที่หายไปหลายวัน
เธอต้องดีใจแน่..ไอ้มาดอม่ยิ้มที่จะได้ทำคะแนน
" สวัสดีคร๊าบตุ๊กตา..ดอกไม้สำหรับคุณครับ " ฮ่วย..ใครมาชิงพูดก่อนพระเอกของเรา
อ๋อ..แบรทพิท นายตำรวจหนุ่มเพื่อนเก่าของเธอนั่นเอง มาพร้อมดอกไม้ช่อโต คงซื้อมาหลายตังค์ละมั๊ง
แต่ใครอนุญาตให้มันแย่งมอบดอกไม้ก่อนพระเอกได้ไงวะ ทำงี้ได้ไง???ทำงี้ด้ายงายยยยหา.....
ไอ้มาดสวมบทผู้ร้ายชั่วคราวสวมเสื้อแจคเก็ตหนังสีดำยาวถึงเข่าเหมือนคีอานูรีฟส์ในหนังเดอะเมทริกซ์
สวมแว่นกันแดดสีดำ พร้อมปืนกลมืออันโต กระหน่ำยิงไปที่ร่างของนายตำรวจหนุ่มนับร้อยๆนัด
ใบหน้าหล่อๆเกือบจะสูสีกับมันแหลกเละด้วยรูกระสุน นอนกองเอาะเยาะอยู่ตรงฟุตบาทนั่นเอง
ฮ่าๆๆสะใจ นอนทับขี้หมาอีกต่างหากล่ะ
แต่....ได้แต่คิดเท่านั้นครับท่าน แล้วเค๊าก็เดินคู่เธอผ่านไป ทิ้งไอ้มาดคอตกอยู่กับดอกไม้เหี่ยวๆไร้ค่าไม่แพ้กัน
เพื่อนเก่า..อย่างน้อยก็เก่ากว่าไอ้มาดล่ะ เพื่อนที่เธอชื่นชมและพูดถึเค๊าให้ฟังอยู่บ่อยๆ
จึ๊กๆๆๆๆ ตายซะเถอะแก........โปสเตอร์แบรทพิทสุดโปรดถูกมีดปลอกผลไม้จิ้มจึ๊กๆๆๆ
ขาดหมดเลยอ่ะ น่าสงสารที่บังเอิญชื่อเหมือนมารหัวใจไอ้มาด ฮ่าๆๆ เค๊าจะสะดุ้งมั๊ยล่ะไอ้มาดเอ๋ย
จะว่าไปแล้วไอ้มาดใช่ว่าจะไม่รู้ว่าแทบจะไม่มีทางที่จะเด็ดดอกฟ้าลงมาตีเข่าได้
มันดูต้อยต่ำเกินไปในทุกแง่มุม จะอาจหาญเอาอะไรไปรบราฆ่าฟันแย่งหัวใจเธอมาครองจากใครต่อใครได้
ไอ้มาดได้แต่ถอนใจ....สิ่งเดียวที่มีกว่าใครคือหัวใจที่มีเพียงเธอ
จ๊อกๆๆๆ โอยยยยหิวข้าว...หาแย่งอะไรเด็กแถวนี้กินอีกดีกว่า ค่อยว่ากันใหม่
ฮ่าๆๆ
แจ๊ะ -_-! เวร ไอ้มาดเหยียบขี้หมา เวรกรรมมีจริงแฮะ
--------------------------------------------------------------------------------
ตอน.....ไอ้มาดไม่สบาย
วันนี้ไอ้มาดไม่สบาย ที่จริงเป็นไข้หวัดนิดเดียวแต่หาเรื่องอยากไปโรงพยาบาล 5 5 5 แปลกมํ๊ยล่ะล่ะครับ
ปกติแล้วถ้าไม่สาหัสจริงๆไม่มีวันหรอกครับ ( ความลับก็คือ..ไอ้มาดมันกลัวเข็ม "จิ้มตูด" 5 5 5 เออนะใครกันเป็นคนบัญญัติคำนี้ "ตูด"
ฟังดูน่าเกลียดพิลึก )
อาบน้ำแต่งตัวแต่เช้า ช่างเป็นคนไข้ที่ร่าเริงแจ่มใสซะจริงๆไอ้มาดของเรา หวีผมซะเรียบแปล้เลยอ่ะ หล่อสุดชีวิต
นี่มันจะไปโรงพยาบาลรึว่าจะพาสาวไปเที่ยวกันแน่นะ 5 5 5 สองโมงกว่าๆ ไดอ้มาดก็มานั่งยิ้มเผล่อยู่โรงพยาบาลเรียบรอ้ยแล้ว
นี่ขนาดมาแต่เช้ายังต้องรอคิวยาวววววเลยอ่ะ ได้หมายเลขตั้งเกือบร้อยแน่ะ แต่ไม่เป็นไร๊ไอ้มาดเต็มใจรอ
มันนั่งรวมอยู่กับคนอีกนับรัอยสองร้อยที่มารอรับบริการ "จิ้มตูด" อย่างจิตใจไม่ค่อยอยู่กะเนื้อกะตัวเท่าไหร่ รอและรอใคร??
ตายล่ะเมื่อเช้ารีบไปหน่อย ลืมถ่ายทุกข์ แก๊สในลำไส้ใหญ่ก็เริ่มจะเกินพิกัดที่จะสามารถขมิบ ขเม้ม ขยุ้มเอาไว้ได้แล้ว อา.ห์
ทำไงดีนะ ไอ้มาดนั่งบิดไปบิดมาอย่างคนเสียศูนย์ 5 5 5 ( ก็ปล่อยเล๊ยยย การกลั้นตดนั้น เป็นบาป ค่อยๆบรรจงปล่อย ไม่มีใครรู้อยู่แล้ว )
เอาวะ ไอ้มาดค่อยๆคลายกล้ามเนื้อ " ตรงนั้น" เบาสุดชีวิต อาห์ โล่งอกไปที ไม่มีเสียงอย่างที่กังวลซะหน่อย แต่กลิ่นนี่สิ โอ๊ววววพระเจ้า
ยอดผักกะถินริมรั้ว กะผักชะอม ช่างคงกลิ่นไว้ได้อย่างสมบูรณ์ดีแท้ ดูเหมือนจะกลิ่นแรงกว่าตอนที่กินเข้าไปซะอีกนะเนี่ย 5 5 5
" เอ๊..ใครตดวะ?" ไอ้มาดรีบประกาศตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ท่าทางหัวเสีย แมงวันหัวเขียวบินกันว่อนเลยอ่ะ 5 5 5 จมูกไวจริงๆ
เกือบเที่ยงแล้ว ไอ้มาดยังคงต้องรอ รอคิวน่ะไม่เป็นไร แต่รอคนนี่สิ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ประสบพบพักตร์แม่น้องรักพยาบาลหวานใจของมัน
ที่จริงไอ้มาดรู้ว่าเธอทำงานอยู่ที่อีกตึกนึง หวังเพียงว่าเธอจะเดินผ่านมาให้ชื่นชม ( ว๊าววว) บ้างเท่านั้น
เท่านั้นจริงอ่ะ??? จริ๊งงงไม่โกหกอ๊ะๆๆก็ได้ๆๆ กะว่าจะส่งจอมอน้อยที่อุตส่าห์เขี่ยไว้เมื่อคืนก่อนตอนวางแผนว่าวันนี้จะป่วย
โหลงทุนนะ ^_^ ท้องไส้ก็สุดจะปั่นป่วน ไอ้ตัวหัวหน้าทีมแทบจะดันตัวเองออกมาสู่สายตาชาวโลกอยู่แล้ว
โอยยยยจะไปเข้าห้องน้ำก็กลัวว่าจะพลาดโอกาส ถ้าหวานใจเดินผ่านมา ได้แต่บิดไปบิดมา
ว๊าวววนั่นไงเธอเดินมาแล้ววววว ชุดเขียวปลิวว่อนเลยอ่ะ เดินมาไกลไกลท่าทางรีบร้อน
ตึกมันยาวครับต้องเข้าใจ มือที่กำจดหมายน้อยอยู่เปียกหมดแล้ว 5 5 5 ตื่นเต้นจัด อีกสองช่วงเสาเธอก็จะมาถึงแล้ว แว๊บบบเอ๋า..เธอแวะเข้าห้องน้ำ
อ๋อที่เห็นท่าทางรีบร้อนเธอคง 5 5 5 เอาล่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว รีบทำธุระก็คงออกมาทันเธอ ไปล่ะ จ๊วดดดดดเหมือนกัน
ไอ้มาดพุ่งเข้าสุขาวดีแดนสวรรค์อย่างรวดเร็วสุดชีวิต ห้องน้ำชายหญิงติดกันแบบว่าเก็บเสียงไม่มิดกันเลยล่ะ
อ๊าาาา.ห์ ปู๊ดดดด..ป๊าดดด..ดังสนั่นลั่นสุขาวดี รีบก็รีบกลัวจะออกไปไม่ทันเธอ
เสียงกห้องโน้นก็ดังไม่แพ้กัน 5 5 5 เอาล่ะในเมื่อเธอไม่อายแล้วเราจะอายทำไมกันล่ะ สุดๆไปเล๊ยยยยยย.อู๊ววว อ๊าาาา.
เสียงเงียบไปแล้ว.ประตูถูกเปิดออก ไอ้มาดยิ้มเผล่อย่างสบายตัว โล่งงงงงสุดๆ ล้างมือ ล้างหน้า หวีผมเรียบแปล้ตามเดิม
"คือหล่อแท้" ออกมายืนรอเธออยู่หน้าห้องน้ำหญิง
"อ้าว..มาด มาโรงพยาบาลเป็นอะไรจ๊ะ?ไม่สบายเหรอ??"
แหมแก้มใสๆของเธอ น่าหอมจริงๆวันนั้น เอ๊ย..วันนี้ ริมผีปากสีชมพูอ่อนของเธอก็น่าเฮ้อออ..ไอ้มาดแอบถอนใจ
เวลาเอื้อนเอ่ยก็แสนจะไพเราะเสนาะหู
แต่เสียงในห้องน้ำเมื่อตะกี้ ช่างไม่เข้ากับบุคลิกอันนางเอ๊กกกนางเอกของเธอเลย 5 5 5
"เป็นไข้นิดหน่อยน่ะครับ มารอคิวตั้งตะเช้าแล้ว ท้องเสียก็เลยเข้าห้องน้ำ คุณตาท้องเสียเหมือนกันเหรอครับ เสียงดังเชียว ^_^ "
" อุ๊ย! เปล่าค่ะ ตาแค่มาฉิ๊งฉ่อง แล้วก็ล้างมือนิดหน่อยน่ะค่ะ พอดีเพิ่งทานส้มตำมา ไม่รู้ใครเข้าหอ้งน้ำเสียงดัง น่าเกลียดเนี่ยตาเสียเลยนะคะ
ว่าแต่เสียงจากฝั่งโน้นน่ะเสียงมาดเหรอ?สุดๆไปเลยนี่
" เอ๋า.ไอ้เราก็นึกว่าเธอเป็นแนวร่วม เลยปล่อยซะเต็มที่ ที่แท้เธอแค่มาฉิ๊งฉ่อง
"เอ่ออออ.ผมเองครับ " เอ๋า..ว่าจะบอกว่าเปล่าซะหนอ่ย โกหกไม่เป็นนี่นะ ไอ้มาดคนซื่อ อายแทบแทรกแผ่นหินอ่อนหนี5 5 5
"ไปค่ะ เดี๋ยวตาลัดคิวให้" อีกสิบนาทีต่อมา จึ๊ก..อ๊ากกกกกกกกกกก..
5 5 5 5 5 คุ้มมั๊ยนะวันนี้ทั้งเจ็บทั้งอายเลยพระเอกของเรา
--------------------------------------------------------------------------------
เรื่องของนายจุ้ย
เช้าวันเสาร์ อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าปราศจากเมฆหมอกแต่งแต้ม
คงมีแต่กลิ่นชื้นๆของหยาดฝนที่โปรยปรายลงมาชะโลมดินเมื่อค่อนรุ่ง ฝากร่องรอยความชุ่มฉ่ำไว้บนพุ่มไม้ใบหญ้าเขียวขจี
แมงปอตาโตโผผินลิ่วล้อเล่นลม เฮ้ออออ.. วันหยุดสุดสวย นอนต่ออีกสักนิดดีมั๊ย?? อุ๊ย ! ไม่ได้สิ วันนี้มีนัดดูหนังกะตุ๊กตา
"ช้าอีกแล้วนะยะ ไปเหอะหนังฉายแล้วเนี่ย ทำไมเป็นผู้ชายที่ชักช้าอืดอาดขนาดนี้น๊าาาานายจุ้ย"
หนังเริ่มฉายแล้ว ภายในโรงหนังมือสนิทมีเพียงแสงสว่างจากจอที่พอจะทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆรอบข้างได้บ้าง
ดูดวงตากลมโตใสแป๋วคู่นี้สิ นี่กระมังที่ทำให้หนุ่มน้อยประทับใจในครั้งแรกที่พบกันเมื่อหลายเดือนก่อน
จมูกเชิดของเธอบ่งบอกถึงนิสัยซุกซนดื้อรั้นอยู่บ้างในบางโอกาส ริมฝีปากชมพูจิ้มลิ้มขอเธอเผยให้เห็นฟันซี่สวยในยามทีเธอพอใจ
ทุกถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ยถึงจะดูนุ่มนวลชวนฝัน แต่ก็เต็มไปด้วยความไม่เดียงสา หาจริตใดๆไม่
ไม่แปลกใจเลยสักนิดที่หัวใจของหนุ่มน้อยจะตกเป็นของเธอก่อนที่ตัวเธอจะรู้ตัวเสียอีก
จุ้ยมองสาวน้อยที่นั่งอยู่ข้างกายด้วยสายตาของคนที่ตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก
อยากจะจับมือน้อยเรียวงามของเธอมากุมไว้แล้วพร่ำบอกถึงความรู้สึกที่คับแน่นเต็มอกตอนนี้ว่า
รักเธอนะ รักเธอนะมีวิธีไหนบ้างที่จำทำให้เธอรู้สึกแบบเดียวกันนี้ได้
แต่เขาจะทำอย่างนั้นอีกครั้งได้อย่างไรในเมื่อได้ทำไปแล้วครั้งหนึ่ง
และมันเกือบจะทำให้เสียเธอไป
"เราเป็นเพื่อนกันนะจุ้ย ขอบคุณมากสำหรับความรู้สึกนั้น แต่เก็บมันไว้เถอะเรารับมันไว้ไม่ได้หรอก อย่าทำให้เราต้องลำบากใจเลยนะ"
ตุ๊กตาบอกกับเขาเมื่อหลายวันก่อน จุ้ยได้แต่ก้มหน้ายอมรับและเฝ้าเก็บงำความรักที่ไม่สมบูรณ์นั้นไว้ลำพังรอการเปิดเผยอีกครั้ง
แต่เขาจะทำได้หรือ???
บ่ายคล้อยๆของวันอาทิตย์ ตะวันใกล้จะลับขอบฟ้าไปแล้ว แสงแดดสีทองจับยอดตึกสูงระฟ้าดูแปลกตาดีเหมือนกัน
ถึงบรรยากาสจะดูแปลกใหม่แต่ก็ไม่สามารถผ่อนคลายความเหงาในหัวใจของหนุ่มน้อยให้เบาบางลงไปได้
สองอาทิตย์แล้วที่ต้องจากหญิงผู้เป็นที่รักมาเมืองหลวงด้วยหน้าที่บางอย่าง
ทุกค่ำคืนจุ้ยได้แต่นั่งมองรูปถ่ายใบเล็กที่แอบหยิบมาจากกระเป๋าสตางค์เมื่อตอนที่ตุ๊กตาทำหล่นไว้ด้วยหัวใจปรารถนา
คิดถึงเธอ..และ คิดถึงเธอถ้าเธออยู่ที่นี่ด้วย แสงนวลจากโคมไฟคงไม่เหงาอย่างนี้
อาหารค่ำผ่านไปแล้ว ความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดของจุ้ยยังจดจ่ออยู่ที่เธอ
กับรูปถ่ายใบเล็กเดิมๆที่สีเกือบจะซีดอยู่แล้วเพราะต้องทำหน้าที่อย่างหนักอยู่ตลอดเวลา
นั่นจดหมายฉบับแรกที่ตุ๊กตาเขียนถึงเขาจากจำนวนหลายฉบับที่เค๊าเขียนถึงเธอ เนื้อความในจดหมายบอกว่าเธอก็คิดถึงและเป็นห่วงไม่แพ้กัน
ตลอดระยะเวลาสองเดือนที่เขาจากมา ถึงแม้จะเป็นความรู้สึกแบบเพื่อนฝูงแต่ก็ทำให้เขาอดปลื้มใจและแอบยิ้มกับตัวเองไม่ได้ในทุกครั้งที่เปิดอ่าน
"ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีด้วยนะ เราจะรอวันที่เธอกลับมา จุ้ย " แน่นอนเขาบอกกับตัวเองว่าจะไม่ยอมต้องเจ็บป่วยหรือเป็นอะไรไป
จะกลับไปพบเธอในเร็ววันพร้อมร่างกายและหัวใจที่สิทธิการเป็นเจ้าของเป็นของเธอเต็มเปี่ยม
เขาร่างข้อความจดหมายที่จะส่งถึงตุ๊กตาเอาไว้ในใจสวยหรูทุกถ้อยคำ สรรหาคำพูดแทนความรู้สึกรักล้นใจเอาไว้มากมาย
แต่คืนนี้ยังก่อน พรุ่งนี้มีภารกิจต้องทำ " ราตรีสวัสดิ์กำลังใจของผม " จุ้ยบอกกับรูปถ่ายใบน้อยหลังฝากจุมพิตหนึ่งทีก่อนจะหลับฝันหวาน
สามเดือนแล้วกับชีวิตที่นี่ ช่างเป็นสามเดือนที่ยาวนานเหลือเกินสำหรับเขา ท่าทีของตุ๊กตาดูเปลี่ยนไป
ดูเธอจะยอมรับความรู้สึกนั้นของเขาได้มากขึ้น ท่าทีหงุดหงิดรำคาญใจเมื่อเขาเอ่ยความรู้สึกในใจเริ่มน้อยลง
จนแทบจะไม่มีให้เห็นเลยในระยะหลังๆนี้ จนทำให้จุ้ยแอบคิดในใจว่าเขาเริ่มจะได้รับสิ่งที่เขาพยายามเป็นผู้ให้
แต่เพียงผู้เดียวมาโดยตลอดกลับคืนมาบ้างแล้ว
ความเหงาหงอยแทบจะไม่มีโอกาสเข้ามาเกาะกินหัวใจของเขาได้อีก แสงแดดดูสดใส แสงไฟยามค่ำคืนก็ดูมีชีวิตชีวา
ดวงดาวบนท้องฟ้าเฝ้ากระซิบกับเขาว่า ความพยายามของนายเป็นผลแล้ว จุ้ย.. ใช่แล้ว
พรุ่งนี้ถึงเวลาที่เราจะได้กลับไปหาเธอ การรอคอยที่ยาวนานสิ้นสุดกันเสียที
" พรุ่งนี้เราจะได้พบเธอ เธอจะไม่ปฏิเสธเราอีกแล้ว" จุ้ยเฝ้าบอกกับตัวเอง พรุ่งนี้พรุ่งนี้
เที่ยงตรง..แดดน่าจะตรงหัวถ้าสามารถมองเห็นได้ในวันนี้ วันแห่งความยินดีของเขาอากาสน่าจะแจ่มใสกว่าที่เป็น
ไม่เป็นไร..จุ้ยบอกกับตัวเอง ต้องรีบไปให้ถึงบ้านตุ๊กตาก่อนฟ้าจะรั่วลงมาในอีกไม่กี่นาที
เธอจะต้องดีใจแน่ที่เขากลับมาโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้าแบบนี้ เขากะเซอร์ไพรส์เธอเต็มที่
อยากเห็นสีหน้าที่แสนจะยินดีเวลาได้เจอกัน รอยยิ้มที่สดใส และหัวใจน้อยๆสวยงามที่พร้อมจะมอบเป็นของขวัญรับการกลับมาของเขา
" ตุ๊กตาของผม..ผมมาแล้ว " เสียงแห่งความยินดีในหัวใจเขา เหมือนเสียงกลองที่ดังกระหึ่มอยู่ตลอดระยะทางก่อนถึงบ้านเธอ
" จวนแล้ว..อีกนิดเดียว "
" ตุ๊กตาเพิ่งเดินทางไปต่างประเทศกับคุณพ่อเมื่อเช้านี้เอง นี่จดหมายของเธอ "
รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจสามเดือนที่เฝ้าตั้งตารอคอย ความหวังที่จะได้เห็นหน้าเปื้อนยิ้มไร้เดียงสาของสาวน้อยเจ้าของหัวใจนี้พลันหายไปหมดสิ้น
" จุ้ยนี่คงเป็นจดหมายฉบับสุดท้ายที่ตาจะเขียนถึงเธอ คุณพ่อต้องย้ายไปประจำที่ออสเตรเลีย
ท่านให้ตาไปเรียนต่อที่นั่นด้วย ก็คงหลายปีจุ้ยกว่าจะได้กลับมา อนาคตของตายังยาวไกล
ขอโทษด้วยนะที่ต้องทำแบบนี้ ตาเองก็เสียใจไม่แพ้เธอ ตัดใจเถอะนะ อย่ารออย่าทำให้ตาต้องมีห่วง ลาก่อน.."
เหมือนฟ้าจะรับรู้ถึงความรวดร้าวในใจเขาได้ สายฝนและหยาดน้ำตาอาบใบหน้า ทั้งร่างกายเขาเปียกปอนกลางพายุฝน
ไม่สนใจป้านวลที่ร้องเรียกให้เขาเข้าบ้าน
จะให้ทำไงได้ล่ะ เข้าไปให้ป้านวลรู้ว่าบัดนี้หัวใจของเขาแหลกสลายไปแล้วด้วยกระดาษใบน้อยที่แกยื่นให้น่ะเหรอ???
อย่าเลย...เหงาแทบขาดใจก็ยังมีสายฝนเป็นเพื่อนและปกปิดอาการต่อคนรอบข้างได้ ลาก่อน..ตุ๊กตา ทุกสิ่งในชีวิตผม
ท้องฟ้าคร่ำครวญหวนไห้ สายฟ้าฟาดเปรี้ยงบาดใจ แต่นั่นมันน้อยไปเมื่อเทียบกับหัวใจที่แหลกสลายของเขาตอนนี้ ลาก่อน
" ป้านวลขาตาลืมของสำคัญค่ะ ตุ๊กตาคู่รักที่จุ้ยให้ตอนวันเกิดน่ะค่ะ ก็เลยเลื่อนเวลาเดินทาง
เอ๊ะแถวปากซอยคนมุงอะไรกันคะเต็มเลย "
เมื่อวิ่งมาถึง ตุ๊กตาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง อยากให้มันเป็นแค่ภาพลวงตาหรือแค่ฝันไป
ร่างของหนุ่มน้อยที่เฝ้ารำพึงรำพันฝากรักเธอ รักเธอ และรักเธอสุดหัวใจนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ตรงหน้า
น้ำฝนรอบกายเป็นสีแดงสดด้วยเลือดของเขา เสื้อที่เธอเคยซื้อให้เมื่อวาเลนไทน์ที่ผ่านมาเปียกโชกเพราะน้ำฝน
กระเป๋าเดินทางใบเล็กฉีกกระจุยด้วยแรงชนของรถ ในมือของเขากำกระดาษเปียกน้ำไว้แน่น ใช่..จดหมายจองตุ๊กตาสุดที่รักของเขานั่นเอง
" จุ้ย..ตากลับมาแล้ว ตาตั้งใจกลับมาหาเธอ ตื่นสิคนดีของตา ตาจะมาบอกว่าตารักเธอ ตารักเธอนะ ตื่นสิจุ้ยอย่าทำอย่างนี้กับตานะ
เธอเป็นยังงี้เพราะจดหมายฉบับนี้ของตาเหรอ ฮือๆๆ? ?"
ก้มกอดร้องไห้คร่ำครวญปริ่มว่าจะขาดใจร่างสงบนิ่งของจุ้ยหาได้ตอบรับใดๆต่อเธอไม่
จากนี้ไปเธอจะไม่มีเขาคอยพร่ำคำรักให้ฟังอีกแล้ว จุ้ยผู้น่าสงสารที่สุดตลอดเวลาที่ผ่านมาตาขอโทษที่ไม่ได้ตอบแทนความรู้สึกดีๆเหล่านั้นให้เธอ
แต่จากนี้หัวใจตาจะเป็นของเธอ..นิรันดร์