ประากยชล - ไอตะวัน 5
TANOI_ZA
ตอนที่ห้า ตื่นจากฝันดี เผชิญฝันร้าย
เอ้ะ! เพดาน ที่นอน แล้วนั่นเสียงอะไร อ้อ! โทรศัพท์ อ้าว! ยายกลอนโทรมาทำไมแต่เช้า ในขณะที่ฉันกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ ฉันก็เพิ่งรู้ว่าโทรศัพท์ที่ดังมันไม่ใช่โทรศัพท์ของฉัน แต่มันเป็นของไอตะวันต่างหาก ในแว้บแรกฉันคิดว่าทำไมไอตะวันถึงมีเบอร์โทรศัพท์ยายกลอนคนที่เขาเกลียดนักเกลียดหนาได้ แต่แล้วความคิดที่ว่า
ไอรู้จักคนที่ชื่อเหมือนยายกลอนด้วยเหรอ ฉันไม่เห็นรู้จักเลย ก็เข้ามาแทนที่ทันที
ฉันจึงหันไปมองหาเจ้าของโทรศัพท์แต่ก็ไม่พบ ทำให้ฉันคิดว่าจะรับโทรศัพท์ดีหรือเปล่า อีกใจหนึ่งก็อยากจะรับ แต่ถ้ารับฉันอาจจะได้ตื่นจากฝันเร็วกว่าที่คิดก็ได้ อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากรับ ฉันยังเห็นแก่ตัวที่จะรั้งตัวของไอไว้กับฉัน แต่ถ้าไม่รับฉันก็ต้องเก็บความสงสัยที่ค้างคาใจไว้อย่างนี้ต่อไป ในที่สุดโทรศัพท์ก็ตัดสายไปก่อนที่ฉันจะตัดสินใจทำอะไรไป ตามมาด้วยเสียงเปิดประตูห้องน้ำ ทำให้ฉันสะดุ้งและแกล้งนอนหลับต่อทันที
ฉันจะแกล้งนอนหลับทำไมละเนี้ย เสียงฝีเท้าเดินตรงมาหยุดอยู่ข้างๆ ฉัน
เขาจะจับได้ว่าฉันแกล้งหลับหรือเปล่านะ (ฉันจะกลัวไปทำไมกัน กับอีแค่เรื่องแกล้งนอนหลับมันถึงกับทำให้ดาวอังคารตกมาชนโลกเลยหรือไงกัน) และเสียงกดโทรศัพท์ก็ดังขึ้น บอกไม่ถูกเลยว่าใจมันรู้สึกเจ็บแบบไหน เขาทำให้ฉันน้อยใจว่าเขาไม่คิดจะดูฉันที่ไม่สบายก่อนที่จะจับโทรศัพท์เลยหรือไง สักพักก็มีเสียงพูดขึ้นว่า
โทรมาทำไมแต่เช้าคนจะหลับจะนอน
ก็ตื่นแล้วไม่ใช่หรือไงกัน ฉันคิดค่อนขอดเขาอยู่ในใจ
แต่โทรมาก็ดีแล้ว คุณรู้ไหมว่าคุณสร้างความเดือดร้อนให้ผมขนาดไหน คุณทำให้ผมเบี้ยวนัดเพื่อนสนิทคุณเมื่อคืนนี้ จนเขาไม่สบายไข้ขึ้นสูงอยู่ตอนนี้ แล้วยังวันนั้นอีกวันที่มีความสำคัญสำหรับชลวันที่ผมบอกรักเธอ ทั้งๆ ที่วันนั้นผมควรจะให้ความสำคัญกับเธอคนเดียวให้นานที่สุด แต่ผมก็.. หมอนฉันเริ่มเปียกหยดน้ำตา ตั้งแต่ได้ยินเขาพูดว่า ทำให้ผมเบี้ยวนัด ฉันรู้สึกโชคดีจริงๆ ที่ฉันแกล้งหลับ เพราะฉันจะได้ร้องไห้ถนัดๆ และเขาจะได้คุยโทรศัพท์สะดวกๆ ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะได้ยิน ฉันไม่ได้ยินที่กลอนพูดหรอก แต่ก็พอเดาได้ว่ากลอนเป็นห่วงฉันมาก เพราะคำพูดที่ไอตอบกลับไป
ไม่เป็นอะไรมาก คุณไม่ต้องมาเยี่ยมถึงที่นี่หรอก แค่ไม่สบายแค่นี้ผมดูแลเองได้ หรือว่าคุณอยาก. เขาเงียบไปพร้อมกับหัวใจฉันที่หยุดเต้นเพื่อรอฟังถ้อยคำต่อไปของเขา ฉันกลัวเหลือเกินว่าวันนี้ฉันจะได้ยินอะไรหลายอย่างๆ ที่ทำร้ายจิตใจฉัน
ถ้าคุณเป็นห่วงชล คุณก็เลิกยุ่งกับผมเถอะ เลิกยุ่งเกี่ยวกันเด็ดขาด คุณไม่รู้หรือไง ว่าผมยังรักคนอื่นไม่ได้ ถ้าผมยังไม่เลิกเป็นห่วงคุณ มันหมายความว่าไงนะ ประโยคเมื่อกี้ฉันไม่เข้าใจเลย แต่ฉันก็ไม่อยากฟังแล้ว
ผมทนเห็นคุณกับไอ้กวีทะเลาะกันอย่างนี้ไม่ได้ ผมอยากให้คุณมีความสุข เพราะฉะนั้นตราบใดที่ผมยังรู้ว่าคุณยังไม่มีความสุข ผมก็ยังรักคนอื่นไม่ได้คุณเข้าใจไหม ผมยังรักชลไม่ได้เพราะคุณยังไม่มีความสุขกับคนอื่นเลย คราวนี้เข้าใจชัดเลย เมื่อกี้อุตส่าห์ทำเป็นไม่เข้าใจ แต่ไอก็ยังคอยตอกย้ำว่าไม่ได้รักฉันให้ชัดมากยิ่งขึ้นไปอีก น้ำตามันไหลเป็นทางไม่ยอมหยุด จนฉันผล็อยหลับไป ในฝันเขาพูดต่อไปว่า
ผมไม่อยากทำให้ชลเสียใจหรือเป็นอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ถ้าในโลกแห่งความจริง เขาพูดอย่างนี้ก็คงดี ถ้าสาเหตุที่เขาไม่อยากให้กลอนมายุ่งเกี่ยวกับเขาเป็นแบบนี้ ฉันคงจะร้องไห้น้อยกว่าตอนนี้ เพราะถึงอย่างไรเขาก็ยังนึกถึงฉันบ้าง แต่ในความเป็นจริงไม่มีสักคำไม่มีถ้อยคำใดที่ฟังแล้วสามารถแปลได้ว่าเขาคิดถึงใจฉัน
เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่ทราบ รู้แต่ว่าไม่อยากตื่นขึ้นมาตอนนี้ ฉันกลัวใจตัวเอง กลัวว่าจะทำเป็นไม่รู้เรื่องที่ไอตะวันคุยกับกลอนเมื่อครู่นี้ไม่ได้ ทั้งคู่เหมือนคนที่ฉันไม่รู้จักเลยสักนิด ทั้งคู่มีเรื่องที่ปิดบังฉันมีเรื่องที่ฉันคนที่เฮ้อไม่รู้จะเอาตัวเองไปวางไว้ที่ฐานะอะไรสำหรับเขา
เอาไงดีนะเรา จะถามกันตรงๆ เลย หรือจะทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วก็รั้งเขาไว้ดี แต่ฉันยังทำใจไม่ได้เลยนะ ไอตะวันขอฉันทำใจก่อนนะคะ ไว้สักวันที่ฉันทำใจได้ฉันจะปล่อยคุณไป สักพักก็มีมืออุ่นๆมาอังที่หน้าผาก ฉันอยากจะร้องไห้ออกมาทั้งๆอย่างนั้น แต่บางสิ่งบอกให้ฉันทนไว้ก่อน อย่าเพิ่งร้องไห้ออกมาเลย
ชล ชล แม้แต่เสียงที่เรียกชื่อของฉันก็อ่อนโยน ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาไม่ได้เรียกชื่อฉันด้วยความรัก
ตื่นมากินข้าว กินยาก่อนเถอะนะ เดี๋ยวค่อยพักผ่อน นอนอย่างเดียว เดี๋ยวจะยิ่งแย่ ฉันนอนทำใจอยู่เป็นพัก จนเขาต้องเรียกฉันอีกครั้ง
ยังไม่ตื่นอีกเหรอ ชลๆ ตื่นมากินข้าวก่อนนะเดี๋ยวค่อยนอนต่อ มืออุ่นเริ่มเขย่าแขนฉันเบาเป็นการเรียกสติ ฉันจึงลืมตาขึ้นและส่งยิ้มให้เขา
เช้านั้นผ่านไปด้วยดี เขาไม่ทันได้สังเกตสิ่งผิดปกติที่ฉันพยายามซ่อนเขาไว้ เราสองคนกลับกรุงเทพกันวันนั้นเลย เพราะฉันอยากกลับไปพักที่บ้าน เขาอนุญาติให้ฉันพักได้จนกว่าจะหายไข้ ซึ่งเป็นการดีที่ฉันจะหลบหน้าเขา
วันถัดมาฉันไม่ไปทำงานตามที่เขาอนุญาติ ฉันนอนทั้งวัน นอนแบบจะพยายามตื่นจากฝันร้ายที่ฉันได้ยินเขาคุยกับกลอนวันนั้น
.ก๊อกๆ.
เชิญค่ะ ใจเต้นแรงขึ้นตามเสียงจังหวะการเคาะประตู เพราะตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานแล้ว จะต้องเป็นเขาแน่ๆเลย เพราะว่าเขาจะต้องไปรับตาเค้กด้วย เพราะฉะนั้นต้องเป็นเขาแน่ๆ
ขออนุญาตินะครับ คุณคนสวยจอมเปิ่น น้ำตาหยดแรกหล่นลงบนผ้าห่ม ทันทีที่ฉันรู้ว่าเขาไม่ใช่ไอตะวัน
ทำไมกัน ฉันจะหลบหน้าเขาไม่ใช่เหรอ จะเสียใจทำไมที่ไม่ใช่ไอตะวัน เขาไม่มาเยี่ยมก็ดีแล้วนี่
คุณร้องไห้ทำไมครับ ดีใจที่เห็นผมขนาดนั้นเชียว พอเขาถามฉันออกมา ฉันก็เริ่มสงสัยว่าทำไมเขาถึงรู้จักบ้านฉันได้ ก็แค่ช่วยฉันตอนที่หลงทางแค่ครั้งเดียวเอง แต่สีหน้าฉันมันคงงงมากเลยละมั้ง เขาจึงรีบตอบคำถามโดยที่ฉันยังไม่ได้เอ่ยปาก
อ้อ ผม ไอเมฆ น้องชายของเพื่อนคุณไงครับ ผมน้องพี่ไอตะวันน่ะครับ วันนี้พี่ไอตะวันมีธุระด่วน ต้องไปประชุมที่อิตาลี 2 อาทิตย์ เลยมอบหน้าที่ดูแลคุณและไปรับลูกชายคุณที่ร.ร.แทน ตั้งแต่ที่ได้ยินเขาคุยโทรศัพท์ แต่ละอย่างที่ฉันได้ยินทำร้ายกันเหลือเกิน
ไปประชุมที่อิตาลี ไปจริงๆ น่ะเหรอ , เพื่อนคุณ ฉันเป็นแค่เพื่อนเขางั้นเหรอ เขาบอกคนในครอบครัวเขาว่าอย่างนั้นเหรอ และฉันเผลอก็ถามเขาออกไปตามที่ใจสงสัยด้วยว่า
ไปประชุมจริงๆ เหรอ เขาอึ้งไปสักครู่ เหมือนกับว่าเริ่มเห็นความผิดปกติของฉัน
ไปจริงๆ สิ ผมยืนยันได้ ว่าแต่ลูกคุณนี่ซนไม่ใช่เล่นเลยนะครับ แสบด้วย แบบนี้ผมชอบ เขาเริ่มเปลี่ยนเรื่องคุย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ฉันพอจะมีอารมณ์คุยด้วย เราสามคนจึงคุยกันสนุกขึ้น ทำให้ฉันลืมเรื่องนั้นไปได้ชั่วเวลาหนึ่ง
หลังจากนั้น 1 วัน พอฉันหายป่วย ฉันจึงตัดสินใจขับกระป๋องน้อยไปรับไปส่งตาเค้กเอง เพราะไม่อยากรบกวนคนอื่นนานๆ แต่ทว่าเย็นวันนั้นเอง กระป๋องน้อยของฉันก็มีโอกาสได้ต้อนรับไอเมฆมาเป็นผู้โดยสาร เขาอ้างว่ารถเสียฉันจึงจำใจพาเขาไปรับตาเค้กที่ร.ร.ด้วยกัน แถมตอนเย็นยังขอฝากท้องที่บ้านฉันอีก แต่เนื่องจากการบ้านการเรือนของฉันเป็นที่หนึ่งถ้านับจากที่โหล่ ทำให้อาหารมื้อนั้นมีแต่ ไข่กับไข่และไข่ โดยที่เราสามคนช่วยกันทำ วุ่นวายน่าดู ไข่เกือบจะไม่เป็นไข่แน่ะ นี่ถ้าวันนี้พ่อกับแม่ฉันอยู่คงไม่กินข้าวเย็นแน่ๆ เลย แต่เขาก็ยังอุตส่าห์ชมว่าฉันทำอาหารอร่อยอีก
อร่อยจังเลยครับ ผมไม่ได้กินข้าวอร่อยๆ แล้วมีความสุขแบบนี้มานานแล้ว
คนที่นั่งกินด้วยไม่ถูกใจเหรอคะ
คุณชลรู้ได้ยังไงครับ
พี่คุณก็เป็นนี่คะ ตอนที่พี่คุณไปกินข้าวกับเรา 2 แม่ลูกครั้งแรกก็พูดแบบนี้ เพียงแต่ว่า..เราไม่ได้กินข้าวที่บ้าน เราไปกินข้างนอกกัน จะว่าไปแล้วพี่คุณก็ไม่เคยมากินข้าวที่บ้านฉันเลย คุณโชคดีกว่าอีกนะ ไว้วันหลังฉันจะพาเขามากินที่บ้านมั่งดีกว่า เขาอมยิ้มแล้วมองหน้าฉันนิ่ง จนฉันเริ่มรู้สึกเขินๆ เหมือนกันที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาจ้องหน้ากันนานๆ แบบนี้
คุณนี่ อะไรๆ ก็มีแต่เรื่องพี่ชายผมนะ แต่ก็ดีแล้วที่ตอนนี้คุณพอพูดถึงเรื่องพี่ผมได้อย่างมีความสุขบ้าง พูดเสร็จความเงียบก็เข้าแทรกระหว่างวงสนทนา จะไม่ให้ฉันเงียบได้ไงละ ก็เขาพูดแทงใจขนาดนั้น และตัวป่วนก็ผล็อยหลับไปแล้วด้วยการพูดคุยจึงเริ่มไม่ค่อยอ้อมค้อมมากนัก
คุณรู้เหรอ
ไม่รู้หรอก พี่กับผมยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย แต่เดี๋ยวก็คงรู้ เขาจ้องหน้าฉันเหมือนจะรอฟังคำตอบ
คุณจะไม่มีทางได้รู้หรอก เพราะเขาไม่รู้ว่าฉะ.คุณอย่าเพิ่งรู้เลยนะ ขอฉันแก้ปัญหานี้เองเถอะ รับรองฉันจะไม่เอาเปรียบใครเลย ขออย่างเดียวคุณอย่าเพิ่งบอกอะไรพี่ชายคุณนะ
ผมไม่บอกอยู่แล้ว เพราะว่าผมไม่ชอบบังคับใครให้เล่าเรื่องส่วนตัว ถ้าเขาไม่ยอมเล่า ความเงียบเข้าแทรกระกว่างเรา 2 คนอีกครั้ง ฉันเริ่มรู้สึกอยากร้องไห้อีกครั้ง เขาจึงชวนฉันไปส่งเขากลับบ้าน
ผมจะกลับบ้านแล้วไปส่งผมหน่อยสิ ฉันไม่มีอารมณ์จะตอบอะไรได้แต่ลุกขึ้นอุ้มตาเค้กไปนอนที่ห้อง แล้วหยิบกุญแจรถเดินนำเขาออกมาที่รถ
ระหว่างทางกลับบ้าน อยู่ๆ เขาก็พูดขึ้นว่า
คุณมีความฝันไหม ผมมีนะแต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว คุณดูผับตรงนั้นสิ เห็นเวทีไหม ผมน่ะอยากขึ้นไปยืนเล่นกีต้าร์ตัวโปรดของผมแล้วก็ร้องเพลงที่ผมแต่งให้คนที่มาเที่ยวที่ร้านฟังนะ
ทำไมถึงเป็นไปไม่ได้ละ
ก็ผมต้องเรียนหนักตั้งแต่มัธยมจนจบมหาวิทยาลัย ทำงานก็ต้องแบกรับชีวิตพนักงานทั้งบริษัทนี่ครับ
ไม่จำเป็นหรอกนะเมฆ มันไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องขึ้นไปยืนบนบันไดขั้นสูงสุดของความฝันคุณก็ได้ คุณก็แค่ไปยืนตรงขั้นที่มันสวยที่สุดในสายคุณคนเดียวก็พอ แค่คุณไปยืนร้องเพลงเล่นกีตาร์ตัวโปรดของคุณบนนั้น นั่นก็สวยได้แล้วนะถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ขั้นสูงสุดแบบที่คนอื่นเขาได้ยืนกัน เขายิ้มตอบกลับพร้อมสายตาที่ฉันไม่อยากจะแปลความหมาย เพราะฉันไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นระหว่างฉันกับไอเมฆ
ขอบคุณนะชล คุณให้กำลังใจผมได้มากเลย
สักพักเราก็เดินทางมาถึงบ้านของไอตะวัน แค่เห็นหน้าบ้านฉันก็อยากจะร้องไห้เพราะความคิดถึงเขาแล้ว นี่มันกี่วันแล้วนะที่ฉันไม่ได้เห็นหน้าเขาเลย โทรศัพท์ก็ไม่ได้คุยกัน นี่เขาไม่คิดถึงฉันบ้างเลยหรือไงกัน
ระหว่างทางกลับบ้านฉันก็นั่งร้องไห้คนเดียว นั่งคิดถึงอะไรหลายๆ อย่างระหว่างฉันกับไอตะวันและกลอน จนกระทั่งถึงบ้าน
โปรดติดตามตอนต่อไป (ด้วยนะคะ อิๆ)
ฟ้าที่เริ่มหม่นหมองครั้งที่แล้วตอนนี้เป็นฝนที่ตกหนักในใจประกายชลแล้ว แต่มันจะเป็นแค่เม็ดฝนหรือเปล่า คนที่ไม่เคยมีพิษมีภัยกับใครซุ่มซ่ามไปวันๆมีความสุขไปวันๆอย่างเธอจะเจ็บปวดโดยคนที่เธอรักได้อย่างไม่น่าฝังใจ แล้วยังไอเมฆน้องชายของไอตะวันที่เข้ามาป้วนเปี้ยนกับเธออีก เขาต้องการอะไรกันแน่ ตอนหน้าเรื่องราวยังไม่จบเพียงแค่นี้แน่ๆ ต้องรอนะคะ
TANOI_ZA