เรื่องมันเริ่มขึ้นตอนที่ฉันไปฝึกงานตอน summer ตอนอยู่ปี 2 ฉันเลือกที่จะไปฝึกงานที่บ้านเพื่อน ฉันและเพื่อนๆ อีก 3คน ได้ไปพักที่บ้านของญาติเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเจ้าของบ้านไม่ค่อยได้อยู่บ้านสักเท่าไหร่นัก ซึ่งทุกๆคนน่าจะรู้ว่าการพักอยู่บ้านคนอื่นมันน่าอึดอัดเพียงใด ห้องที่พวกเราพักกันไม่มี furniture สักชิ้น ไม่มีโทรทัศน์ วิทยุ ไว้ดูไว้ฟังยามเหงา ไม่ใช่ว่าบ้านหลังนี้ไม่มีหรอกนะ มันมีแต่ว่ามีอยู่ในห้องเจ้าของบ้าน ซึ่งไม่ใช่วิสัยของเราที่จะไปละลาบละล้วงอยู่แล้ว พวกเรามีแค่หนังสือเพลงเก่าๆ ที่ไปรื้อหามาได้จากห้องเก็บของเท่านั้น เราร้องกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเบื่อ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรทำหลังจากที่พวกเราเลิกฝึกงานในตอนเย็น เวลาแต่ละนาทีผ่านไปอย่างช้าๆ ก็ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน เราอยู่กัน 4คน แต่ฉันก็ยังรู้สึกเหงา แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา เฮ้ยโทรศัพท์แกเล่น 5วิได้ไม่ใช่เหรอ เอามาเล่นแกล้งคนหน่อยสิ(ใครที่เคยใช้ วัน ทู คอล จะรู้ว่าถ้าโทรไม่เกิน 5วินาที ไม่ต้องเสียเงิน) เออ ตามสบาย ฉันตอบรับเพื่อนไปอย่างเซ็งๆ 1 วันต่อมา ตื๊ด ตื๊ด อ้าววางไปซะละด้วยความสงสัยฉันจึงยิงเบอร์กลับ วันนั้นเราเล่น 5วิกันหลายรอบด้วยความสงสัยของทั้ง 2ฝ่าย ตกเย็นฉันถามเพื่อนว่ารู้จักเจ้าของเบอร์นี้ไหมซึ่งก็ได้รัยคำตอบว่า อ๋อไอ้โต้เด็กวิศวะปี1 น้องชมรมเขาเอง เมื่อคืนเขาแกล้งมัน ดีๆ อย่างนี้ต้องแกล้งซะให้เข็ด คืนนั้นฉันและเขาต่างเล่น 5วิหากัน ไม่มีใครยอมเสียเงินโทรหากันก่อน ฉันคิดว่าถ้าใครยอมเสียเงินโทรคุยก่อย ก็ย่อมป็นฝ่ายแพ้ แล้วในที่สุดฉันก็เป็นฝ่ายชนะ เขายอมเป็นฝ่ายเสียเงินโทรมาหาฉันก่อน เขาถามว่าฉันเป็นใคร เอาเบอร์เขามาได้อย่างไร ฉันไม่บอกเขาสักอย่าง ฉันโกหกเขาไปเรื่อยหวังแกล้งเล่นสนุกๆ ทีแรกเขาคิดว่าฉันแอบชอบเขาเลยโทรมา แต่เขาก็คิดไปไกลถึงขั้นที่ว่าฉันเป็นหญิงรักสนุก เขายังเสนอเพื่อนเขาให้ฉันว่าเพื่อนเขาหล่อกว่าเขาก็มี ทีแรกฉันรู้สึกโกรธเขาเหมือนกัน แต่คิดไปคิดมาไม่เห็นจะเป็นไร ยังไงเขาก็ไม่รู้ว่าฉันเป็นใครอยู่แล้วนี่ วันนั้นเขาโทรหาฉัน 14 นาที ในคืนนั้นฉันนอนหลับไปอย่างมีความสุข โดยคิดว่าคืนนี้ฉันเป็นฝ่ายชนะ แต่ฉันไม่คิดเลยว่านั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของความพ่ายแพ้ของฉัน หลังจากนั้นฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายโทรหาเขา ฉันก็ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ฉันอยากโทรไปหาเขาทุกวัน วันละหลายๆหน ทั้งๆที่บางครั้งเขาก็พูดไม่ดีกับฉัน อาจจะเป็นคำว่าครับๆที่ลงท้ายทุกประโยคที่ทำให้ฉันหลงไหลเขาก็ได้ ฉันนั่งพร่ำเพ้อถึงเขาทั้งวัน มันเป็นครั้งแรกที่ฉันหลงรักใครตั้งแต่ยังไม่ได้เห็นหน้า (ปกติฉันมักชอบคนที่หน้าตา) ฉันไม่รู้หรอกว่าหน้ตาเขาเป็นอย่างไรเท่าที่ฉันรู้ก็คือ เขาชื่อโต้ เป็นรุ่นน้องฉัน 1ปี ผิวขาว หน้าตี๋ ผมหยิก (ขาวตี๋นี่ก็โอเค แต่ว่าฉันไม่ชอบคนผมหยิก) เพื่อนทั้ง 3คนของฉันรู้จักเขาดี ต่างคนต่างมีความเห็นที่แตกต่างกัน คนนึงบอกว่าดูดี อีก 2 คนบอกธรรมดา แต่ฉันไม่สนหน้าตาเขาหรอก ฉันรู้แต่ว่าฉันมีความสุขที่ได้คุยกับเขา เพื่อนคนนึงไม่เห็นด้วยกับการกระทำของฉันเลย พยายามเปลี่ยนความคิดของฉัน แต่ว่าฉันก็บอกว่าไม่หรอก แค่เล่นๆ แต่จริงๆแล้วฉันก็พยายามคิดให้เป็นเล่นๆ แต่มันก็จริงจังขึ้นทุกวัน 1 เดือนต่อมา เปิดเทอมแล้ว ฉันกลับมาเรียนที่มหาลัย ฉันยังโทรไปหาเขาเกือบทุกวัน เราใช้โทรศัพท์สายในคุนกันโดยไม่ต้องเสียเงิน ทุกวันในห้องเรียนฉันจะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเขาให้เพื่อนสนิทฟังเสมอ มีอยู่วันหนึ่งฉันโทรไปหาเขาด้วยโทรศัพท์มือถือ และบอกกับเขาว่าฉันจะโทรสายในหาเขา หลังจากวางโทรศัพท์ ฉันอ่านการ์ตูนต่อ และให้เพื่อนยืมโทรศัพท์ไปใช้พอเพื่อนฉันวางโทรศัพท์มันก็ดังขึ้นทันที พอฉันรับโทรศัพท์ปรากฏว่าเป็นเขา เขาบอกว่าไหนว่าจะโทรทำไมไม่โทร ฉันรีบไปโทรหาเขาทันที ฉันโทรไปนานพอสมควร สักพักก็มีคนรับสายฉันขอสายเขา แต่ว่าคนที่รับสายบอกว่าเขาไม่อยู่ ไปเข้าห้องน้ำ แต่ฉันจำได้ว่าเป็นเสียงเขาฉันจึงคุยต่อและง้อเขา มีบางทีที่ฉันโทรไปหาเขาบางทีเขาก็ไม่ยอมรับสายเหมือนไม่อยากคุยกับฉัน ฉันไม่แน่ใจว่าเขารู้สึกอย่างไรกับฉันกันแน่รำคาญหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ เพราะถ้ารำคาญเขาคงไม่โกรธฉันที่ฉันไม่ยอมโทรหาเขาฉันเริ่มเกิดความรู้สึกสองฝักสองฝ่ายในใจฉันควรโทรหาเขาดีหรือไม่ แล้วฉันก็คิดว่าควรจะไม่ ฉันจึงพยายามที่จะโทรหาเขาน้อยลง ฉันรู้สึกอยากเห็นหน้าเขาเพื่อที่จะตัดใจ ฉันเข้าไปในชมรมเพื่อไปดูรูปของเขา ในขณะที่เพื่อนฉันกำลังหารูปเขาให้ฉันดู เขาก็โผล่เข้ามาในชมรมพอดีเพื่อนฉันก็บอกว่าคนนี้แหละเขา ฉันใจเต้นตูมตามทำอะไรไม่ถูกแต่ฉันก็เริ่มออกอาการจนเขาสงสัยและชี้มาที่ฉันว่าพี่คนนี้หรือเปล่าที่โทรหาผม ฉันอึ้งเลย เพื่อนต้องรีบแก้ตัวแทน ฉันอยู่ไม่ได้แล้วรีบออกมาจากชมรม ฉันได้แต่กลุ้มตลอดเลยว่าน้องเขาจะรู้ไหม ถึงแม้ฉันจะเห็นหน้าเขาแล้วถึงแม่เขาจะดูดี แต่ก็ไม่ได้อยู่ในเป้กฉันเลย แต่ทำไมถึงยังไม่เลิกชอบเขา ฉันยังโทรไปหาเขาอยู่ด้วยความรู้สึกขัดแย้งในใจว่าไม่ควรโทร ฉันรู้สึกวาควรจะบอกเขาดีไหมว่าฉันเป็นใครแต่ฉันก็ยังไม่ได้บอก น้องเขารู้ชื่อฉันแล้ว เขายืมโทรศัพท์เพื่อนฉันและกดโทรออกเบอร์ฉัน ซึ่งมันจะขึ้นชื่อฉัน ฉันคิดว่าถึงเวลาที่ควรจะเปิดตัวเสียที ว่าฉันคือใคร วันนั้นฉันไปกินหมูกระทะกับเพื่อน ฉันขอร้องให้เพื่อนชวนเขามา ซึ่งเขาก็ยอมมา พวกเราจัดฉากให้เขากับฉันได้นั่งใกล้กันทีแรกฉันตั้งใจจะเปิดตัว แต่จนแล้วจนรอดฉันก็ยังไม่กล้า มันเป็นเพราะฉันขาดความมั่นใจในตัวเอง ฉันก็เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนนึง ไม่ได้สะสวยอะไร เขาออกจะดูดี คงไม่มาชอบคนอย่างฉันหรอก ฉันจึงให้เพื่อนๆแนะนำฉันในชื่ออื่นเพื่อปกปิดตัวเอง แต่เพื่อนมักจะเผลอ และบางทีฉันก็ลืมตัวเล่าเรื่องของตัวเองโดยแทนชื่อ ฉันคิดว่าเขาก็คงรู้เพียงแต่ไม่พูดเท่านั้นเอง หลังจากนั้นฉันเริ่มรู้สึกผิดรู้สึกว่าการกระทำของฉันมันไปรบกวนเขา เขาคงไม่ชอบฉันหรอก ถ้าคุณเคยแอบชอบใคร คุณคงจะรู้ว่าการที่ได้เห็นหน้าเขา ได้คุยกับเขาคนนั้นมันมีความสุขแค่ไหน และการที่คนที่เราแอบชอบรู้ว่าเราชอบเขามันน่าอายเพียงใด สำหรับสาวขี้อาย และขาดความมั่นใจอย่างฉัน ฉันเริ่มโทรหาเขาน้อยลง จนไม่โทรเลย ฉันไม่ได้เจอหน้าเขาอีก ฉันเคยคิดโทรหาเขาแต่เขาก็เปลี่ยนเบอร์ไปแล้ว 1 เทอมต่อมา ฉันเห็นเขาอีกครั้งกับสาวร่างบางหน้าตาจิ้มลิ้ม เขามีแฟนแล้ว ถึงเขาจะมีแฟนแล้ว แต่ฉันก็ยังชอบเขา เห็นหน้าเขาทีไรสะเทือนถึงใจทุกที ทุกวันนี้ผ่านมาปีกว่าๆ ฉันทำใจได้ ฉันเลิกชอบเขาไปแล้ว แต่ว่ามันก็ยังคงค้างคาใจ ฉันเพียงได้แต่เสียใจว่าฉันน่าจะบอกเขาว่าฉันเป็นใคร รุ้สึกอย่างไรกับเขา ฉันน่าจะมีความกล้ามากกว่านี้ ฉันมัวแต่ขี้ขลาด ถ้าตอนนั้นฉันได้บอกเขาไปไม่ว่าผลที่ได้รับจะเป็นการปฎิเสธจากเขา ฉันก็คงเลิกคิดถึงเรื่องเขาไปนานแล้ว ทุกวันนี้ฉันยังมีรูปเขาติดข้างฝา เป็นรูปที่ฉันแอบเอามาจากชมรม ฉันเก็บมันไว้เป็นที่ระลึกว่า นี่เป็นรักครั้งแรกของฉันที่ไม่มีหน้าตามาเกี่ยวข้องเลย
10 พฤศจิกายน 2546 12:08 น. - comment id 70127
ความรักถึงแม้มันจะมีไม่สมหวังบ้าง แต่อย่างน้อยมันก็เป็นความทรงจำที่น่ารักๆ ให้เราได้ยิ้ม. . .เมื่อคิดถึง คุณไม่ได้ขี้อาย หรือขี้ขลาดอย่างที่เขียนว่าตัวเองหรอกนะค่ะ อย่างน้อยคุณก็กล้าที่จะรัก. . . และกล้าที่จะถ่ายทอดความรู้สึกให้ใครหลายคนได้อ่าน เ ป็ น กำ ลั ง ใ จ ใ ห้ ค่ ะ . . . =^_________^=