กาลครั้งหนึ่ง One upon a time .... ยังมีหญิงสาวสวยรวยเสน่ห์ แต่ที่ในตามีแววของความทุกข์ระทมอยู่ผู้หนึ่ง เธออาศัยอยู่ในห้องเช่าขนาดนาดกระทัดรัดแห่งหนึ่งกลางกรุงมาเนินนาน อยู่มาวันหนึ่งเธอได้รับ email จากชายแปลกหน้ามีข้อความว่า เมื่อสิบปีก่อนผมต้องสูญเสียขาซ้ายไปกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องใช้ขาเทียมเดินเหินไปมา ร่างกายและใบหน้าถูกไฟเผ่าไหม้ไม่มีชิ้นดี นับจากนั้นผมจึงได้รับสมญานามว่า ไอ้เป๋หน้าผี แทน บรรเจิด ชื่อที่พ่อแม่ผมตั้งให้ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผมเห็นกระทู้ของคุณบนเว็บไซแห่งหนึ่ง มันทำให้ผมได้รู้ว่าคุณคงกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความเหงา โลกของคุณคงมัวหมอง อับแสง คล้ายๆกับโลกผม ผมจึงได้แต่คิดว่า จะเป็นการดีไหมหนอ หากคนสองคนจะมาร่วมกันแบ่งปันความทุกข์ความเหงาที่มีอยู่ร่วมกัน แล้วคุณเล่า...คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ผมขอจบจดหมายไว้เพียงเท่านี้ ด้วยหัวใจที่รอคอยคำตอบจากคุณ..... BunJed@chaiyo.com จะเป็นอะไรไปเล่าคะ ฉันจะรู้สึกรังเกียจรังงอนอะไรกับคุณได้มากมายนักหรือ กับผุ้หญิงที่หัวใจร้าวรานมาแล้วไม่รู้จักกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รู้จัก รัศมี หญิงสาวพรมนิ้วมือลงบนแป้นคีบอร์ดแผ่วเบา ตัวอักษรสีดำค่อยๆผุดขึ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ อ่านทวนซ้ำข้อความเบาๆในใจ ก่อนตัดสินใจคลิกไอคอนที่กรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆ ส่ง E mail ละเลียดจินตนาการของตนเองอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ นึกถึงข้อความในกระทู้ที่โพสต์เข้าไปในเว็บบอร์ดของแวบไซต์แห่งหนึ่ง ในวันที่หัวใจเพิ่งซอกช้ำจากชายคนรักคนล่าสุด รัศมี เกิด 11 ก.ค 2522 ย่าง 24 ปี สูง 155 หนัก 50 พ่อแม่ลาจากไปนานแล้ว สถานภาพโสด แต่ไม่สด มีเรือพ่วงอีก 1 ลำ เป็นพนักงานข้อมูลของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ไม่เดือดร้อนขัดสนเงินทอง แต่ที่ขัดสนคือ ความรักที่จริงใจ เพราะที่ผ่านมาชอกช้ำเพราะชายหน้าตาดีมาหลายรอบ แต่อดีตที่ขุ่นมัวไม่ได้ทำให้มองโลกในแง่ร้าย ยังคงศรักธาในความรักคงเดิม เปิดรับสมัครมิตรออนไลน์เอาไว้ปลอบโยนหัวใจเหงา ส่วนจะหล่อน้อย หล่อมาก ล่ำนิด รวยหน่อย สูง ต่ำ ดำ ขาว ไม่ว่ากัน Rusamee@hotamil.com นึกแล้วก็ขำดี! หญิงสาวเผลออมยิ้มอยู่เพียงเดียวดายเธอทำอย่างนั้นลงไปได้อย่างไร แต่ก็ช่างแม่ง..งง..ประสาอะไร! ชีวิตของเธอผ่านเรื่องงี่เง่าไร้สติเสียยิ่งกว่านี้มาแล้วมากต่อมาก ปรายตาไปที่ลูกชายที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงในห้องเช่ารกร้างภาพฝังใจเมื่อหลายปีก่อนผุดพรายขึ้น โทรมามีเรื่องอะไรหรือ น้ำเสียงหงุดหงิดชายหนุ่มคนรักนักศึกษาสถาบันเดียวกัน คนรักคนแรกของเธอ หน้าตาดี หล่อ รวย พรั่งพร้อมไปเสียทุกอย่างไหลตามสายโทรศัพท์มา เออ ปอนเหรอ ฉันท้องได้สองเดือนแล้ว อ้าว แล้วมันเกียวอะไรกับฉันด้วยละ ถ้อยคำของชายหนุ่มสมบูรณ์แบบ ยุติความรัก 2 ปี กับ 4 เดือน 13 วัน เอาไว้แค่นั้น...ทิ้งลูกชายเอาไว้ให้เธอเลี้ยงตามยถากรรม แสงไฟจากเครื่องคอมพิวเตอร์จับจ้องอยู่ที่วงหน้าสวยของหญิงสาว เรียวปากงามขมวดยิ้มนิดหนึ่งกับข้อความในอีกเมล์บับที่สองของเขาพึ่งเข้ามา ผ่านโลกมาแล้ว 35 ฤดูฝน หนาว และร้อน น้ำหนักตัวแค่ 60 โล แต่น้ำหนักความหล่อ 99.99 กิโลขีด เลยเชียวนา .... หนุ่มใหญ่วัย 30 แก่กว่าเธอเกือบครึ่งรอบทีเดียวเธอคิด อาศัยบ้านหลังเล็กๆแถวชานเมืองที่พ่อแม่ทิ้งเอาไว้ให้ ใช้ ความรุ้ระดัย ปวส.ที่ร่ำเรียนมาเปิดร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ มีรายได้พอกินไปวันๆ ไม่สูบบุหรี่ แต่ดื่มเหล้าบ้างนิดหน่อยตามประสาคนเหงา หญิงสาวจ้องภาพตรงหน้าท่าเชยคางของเขาบนจอคอมพิวเตอร์ที่ส่งมาพร้อมกับEmail ฉบับที่สอง นิ้วชี้เรียวงามคลิกคำสั่งขยายภาพเต็มจอ ร่างงามสะดุ้งโหยงตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของเขาถนัดๆ เนื้อที่บนใบหน้ามากว่าครึ่งหนึ่งเป็นแผลเป็นที่เกิดขึ้นจากไฟไหม้ ลักษณะเป็นเนื้อนูนสีน้ำตาลแดง หัวอกหญิงสาวสะท้อนขึ้นด้วยความเวทนา และที่ใต้ภาพถ่ายของเค้ามีภาพการ์ตูนนางฟ้าตัวน้อยกำลังอยู่ในท่าโบยบินไปในอากาศ มีคทาเพชรส่งแสงแวววาวอยู่ในมือ หญิงสาวจ้องมองนางฟ้าตัวน้อยสลับไปมากับนัยน์ตาใสซื่อเจียมตัวของเขา รู้สึกเหมือนว้าวุ่นสับสน แต่แล้ว...ในที่สุดจึงตัดสินใจยอมรับนัดครั้งแรกกับชายพิการเจ้าของEmail ภายในร้านไอศกรีมฝรั่ง-สถานที่นัดพบครั้งแรกภายในห้างสรรพสินค้าแห่งใหญ่-คลาดคล่ำไปด้วยผู้คนที่หนีร้อนมาพึ่งเย็นกลางเดือนเมษยน แอร์เย็นฉ่ำชวนเอให้นึกถึงความผ่าวร้อนของเปลวแดดที่เต้นระริกบนเรือนกายที่นอกถนนใหญ่เมื่อครู่ พลางเอื้มมือไปยีหัวเหนอะหนะเต็มไปด้วยเหงื่อของลูกชายขณะนั่งหน้าตาแป๊ว...ด้วยความรัก ผินหน้ามองผ่านกระจกใสบานใหญ๋ที่หน้าร้าน แลเห็นร่างผอมในชุดสบายๆ เสื้อสีส้มกับกางเกงยีนโดดเด่นท่ามกลางผู้คนเดินผ่านไปมา ชายชื่อ บรรเจิด โขยกเขยกโยนตัวขึ้นๆลงๆจากพื้นมาแต่ไกล ผมจะใส่เสื้อสีส้มเพื่อคุณจะได้เห็นผมชัดเจน ข้อความในEmailฉบับล่าสุดของเขาผุดขึ้นมาในห้วงความคิดเธอ เธอคิดว่าไม่เห็นต้องใช้สัญลักษณ์อะไรให้ยุ่งยากยังไงเธอก็จำเค้าได้แน่นอน ส่วนเธอนัดหมายไว้ว่าเธอจะสวมเสื้อสีม่วง สีของแม่ม่ายและการรอคอย วินาทีแรกที่พบเธอ ชายหนุ่มรู้สึกเคอะเขิน มือไม้ดูเกะกะรุงรัง ไม่รู้จะเอาไว้ไหน เผลอยกมือไหว้เธออย่างไม่มีปรี่มีขลุ่ย หญิงส่วอมยิ้มน้อยๆขบขันยกมือรับไหว้ นึกในใจ สงสัยเธอจะอายุสั่นอน่ๆ ให้คนแก่มายกมือไหว้ บรรเจิดรำพึงกับตัวเอง เธอช่างงดงามอะไรอย่างนี้หนอ ชายหนุ่มรู้สึกต่ำต้อยลงไปยิ่งกว่าเดิมอีกหลายร้อยเท่า นัยน์ตาซื่อบนใบหน้าเหลอหลารีบส่ายตาหาที่หลบด้วยความเขิลอาย เหลียวซ้ายแลขวาจนไปเจอหนุ่มน้อยดวงตาใสซื่อ ลูกชายวัย 2 ขวบของเธอที่นั่งอยู่ข้างๆผู้เป็นแม่ ประกายตาของชายหนุ่มฉายแววเอื้ออารีขึ้น แต่เด้กน่อยร้องให้ตกใจด้วยความกลัว อุทานเบาๆว่า แม่จ๋า ผีหลอกหนู หญิงสาวปลอบโยนสักพัก เด็กน่อยจึงหายกลัว พร้อมกับจ้องมองมองใบหน้าของบรรเจิดที่เคลือบอยู่ด้วยรอยยิ้ม เออ..อา นี่คงเป็นลูกชายของคุณใช่ไหมครับ พูดจบขยับตัวไปอุ้มเด็กชายที่หายกลัวแล้วมาอุ้มไว้ พร้อมกับทรุดตัวลงนั่งพร้อมกันบนเก้าอี้บุนนวมตรงข้ามเธอ สักพักเสียงหัวเราะร่าของเขากับเสียงเอิ๊กอ๊ากอย่างมีความสุขของเด็กน้อยจึงดังเป็นระยะๆ เสียหัวเราะและภาพตรงหน้าทำเอาหัวใจเธอผู้เป็นแม่แทบร่ำไห้ นึกไปถึงชายคนรักคนก่อนที่เพิ่งเลิกร้างราจากเธอไปเมื่อไม่กี่วัน คนรักล่าสุด ฐานะดี สมบุรณ์แบบ ผู้นำพาความเปลี่ยวเหงามาสู่เธอนั่นเอง ผมว่าคุณย้ายมาอยู่กับผมที่นี่ เอาลูกชายคุณให้คุณแม่คุณเลี้ยงก่อนแล้วกันนะ ไม่ต้องเอามาอยู่ด้วยหรอกเราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันเยอะๆ ร่างเปลือยเปล่าของเธอที่เกลือกกลิ้งอยู่ในอ้อมกอดของเขาผลุดขึ้นผละหนีออกจากอ้อมกอดทันที ลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าที่ถอดกองอยู่ปลายเตียงยุติความสัมพันธ์ที่กินเวลาได้เพียง 9 วันไว้เท่านั้น หญิงสาวฮำเพลง Love Me Love MY Dogขณะเดินลอยชายออกจากคอนโดหรูของเขา โฉมงานกับอสูรย์ เสียงชายปากเสียงโต๊ะข้างๆแซวสิ้นเสียงพากันหัวเราะรับอย่างขบขันระคนสมเพชของเพื่อนร่วมก๊วนอีกสองสามคน ดึงความคิดของเธอกลับมาที่ร้านไอศกรีมอีกครั้ง เธอเห็นชายพิการก้มหน้ามองพื้นด้วยความเสียใจและอับอาย อนิจจา! หัวใจของเธอหลุ่นวูบ.......... หญิงสาวหันไปมองชายปากเสียคนนั้นทันทีพร้อมโต้ถียงขึ้นภายใน จะทำไมหรือ ชายพิการคนนี้ต่ำต้อยอะไรหนักหนาฉันเองก้ไม่ได้สูงส่งอะไรเลย เพราะในความเป้นจริงภายใต้ใบหน้าที่สวยงามขอฉัน ฉันเองก็พิการไม่ต่างกันเลย ไม่แปลกหรอกหากคนพิการสองคนที่ขาดแคลนความรักอย่างแรงมาพบกัน!! สักพักเมื่อคิดเงินเสร็จ เธอเดิมดุ่มๆ ตามหลังเขาที่อุ้มลูกชายของเธอเดินหน้าหงอยๆออกจากร้าน พลางคิดในใจ ....น่าสางสารเขาเสียจริงๆ กี่คำกันที่เขาพุดกับฉัน เขาพูดน้อยเหลือเกินไม่เหมือนในจดหมายเลยซักนิด แต่กเดีแล้วละ บางครั้งความงียบก่อให้เกิดจินตนาการดีๆยิ่งกว่าถ้อยคำมากมายเสียอีกฉันสังเกตเห็นไอศกรีมเขาพร่องไกปนิดเดียวเอง เพราะมัวแต่ป้อนให้เจ้าหนูของฉันเอง ที่หน้าบ้านเช่า ชายพิการกล่าวคำล่ำลาเธอและลูกชายก่อนตัดสินใจเดินจากลาไปด้วยความเศร้าสร้อย แต่แล้วก็ผลุนผลันหมุนตัวกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ละล่ำละลักบอกด้วยคำพูดเชยๆที่จำมาจากนิยายรักที่เค้าใช้เวลาตลอดค่ำคืนที่ผ่านมาท่องมัน เออ... ไม่ว่าจากนี้แล้วทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างไร ผมเข้าใจและขอให้คุณรับรู้ด้วยหัวใจว่า แม้จะไม่มีคทาวิเศษอยู่ในมือแต่คุณจะคือนางฟ้าของผมตลอดไปครับ หญิงสาวรู้สึกเหมือนโลกนี้ทั้งใบสว่างไสวขึ้นมาในบัดดาลคล้ายๆกับว่าภาพการ์ตูนนางฟ้าที่เขาส่งมาในEmailก่อนหน้านั้นเคลื่นไหวได้ มันลอยเวียนอยู่รอบกาย รำพึงกับตัวเอง เออ..ผู้หญิงมีตำหนิอย่างฉันนี่หนา ยังมีคนให้ค่าให้เกียรติมากมายจนถึงปานนี้อีกเชียวหรือคล้ายๆกับว่าร่างกายแผ่วเบาหวิว ไรน้ำหนัก และค่อยๆลอยสูงขึ้น สูงขึ้น ราวกับนางฟ้าบนสวรรค์ แต่มาวันนี้ดูซิ .... ชายพิการ ไม่สมบูรณ์แบบ เหมือนดังใครๆได้ให้อะไรกับเธอมากมายกับหัวใจอันแสนอาภัพของเธอ ทั้งความรัก-กำลังใจ และความสุขสมบูรณ์แบบแก่ชีวิตเธอ อย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รับในชีวิต เขาช่วยฟื้นหัวใจอันบอบช้ำกลับมาชุ่มฉ่ำอีกครัง และตลอดระยะเวลา30ปีที่ผ่านมา หญิงสาวได้เรียนรู้ความจริงอย่างหนึ่งว่า เมื่อเราได้รักใครจริงๆสักคน เราจะมองเห็นความ มหศจรรย์ซุกซ่อนอยู่ในกายของคน คนนั้น ไม่ว่าเขาจะขี้เหร่เพียงใดก็ตาม หญิงชราเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นของชายชรามาแนบกับแก้ม... นิ่งเนินนาน....พลันนัยน์ตาฝ้าฟางกับที่มีหยดน้ำตาเอ่อท้นปนอยู่ก็คลับคล้ายว่าแลเห็นร่างของเจ้าชายรูปงามผิวกายละเอียดเรืองดุจทองคำปรากฎขึ้นแทนร่างกายของชายพิการที่กำลังจะจากเธอไปด้วยความรักที่ไม่อาจรั้งไว้ได้ หลังจากที่ลมหายใจของชายชราค่อยๆขาดห้วงลงด้วยหยาดน้ำตาแห่งความสุขล้นตลอด30กว่าปี....
15 ตุลาคม 2546 10:30 น. - comment id 69853
.
15 ตุลาคม 2546 10:37 น. - comment id 69854
ซึ้งจังครับ ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม เมื่อเราได้สิ่งที่มีค่าอยู่ในมือแม้รูปทรงจะไม่สวยงามแต่น้ำในเพชรเม็ดนั้นใสและสวยมาก อย่าปล่อยให้หลุดไปเมื่อเราได้มันมาอยู่ในมือนะครับ
16 ตุลาคม 2546 00:43 น. - comment id 69865
คิดได้ไงเนี้ย มีทั้งซึ้งตลกปนกันเนื้อเรื่องน่าติดตามมากเลยคะ ชอบ ชอบ ขอบอกว่าอ่านแล้วทำให้เรามองคนที่รักเราและเรารักเค้ามากขึ้น
16 ตุลาคม 2546 01:10 น. - comment id 69867
อิอิ อ่านแล้วซึ้งมาก ๆ เลย
16 ตุลาคม 2546 02:56 น. - comment id 69868
ขอบคุณที่ให้อ่านครับ ซึ้ง ๆ จริงๆ
16 ตุลาคม 2546 20:30 น. - comment id 69876
ช อ บ ม า ก เ ล ย . . . น่ า รั ก ล ง ตั ว ม า ก ทั้ ง ต ล ก ทั้ ง ส ง ส า ร ทั้ ง ซึ้ ง อ่ า น แ ล้ ว ป ร ะ ทั บ ใ จ . . . เ ขี ย น ดี จั ง =^_________^=
21 ตุลาคม 2546 15:49 น. - comment id 69907
น้ำตาล่วงเลยคะเศร้าจัง มีหลายรสชาด
21 ตุลาคม 2546 15:51 น. - comment id 69908
ขอบคุณมากคะที่เข้ามาอ่านกัน ขอบคุณที่ช่วยโพสต์นะคะ
3 พฤศจิกายน 2546 23:58 น. - comment id 70061
ชอบจัง.....บทความนี้ เออ... ไม่ว่าจากนี้แล้วทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างไร ผมเข้าใจและขอให้คุณรับรู้ด้วยหัวใจว่า แม้จะไม่มีคทาวิเศษอยู่ในมือแต่คุณจะคือนางฟ้าของผมตลอดไปครับ ................................................................... อยากให้เธอเป็นนางฟ้าของเราตลอดไปน่ะ นางฟ้าตัวน้อย........?
4 มีนาคม 2547 10:25 น. - comment id 71418
ถ้อยคำที่ไพเราะ .. แฝงไว้ด้วยความอ่อนหวาน เนื้อเรื่องที่ยิ่งอ่านนานๆ ยิ่งสร้างความประทับใจ เป็นนิทานที่อ่านแล้วมีความสุขที่สุดเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่ทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นเยอะ ^_________^