ดวงตะวันกลมโตสีส้มสวย ตัดกับกลุ่มเมฆสีเทาหม่นลอย เด่นท่ามกลางแสงสีทอง สาดตัดทาบทับกลุ่มเมฆ สะท้อนแสงพราวเหมือนลำแสงทอดยาวจากสรวงสวรรค์ ลมร้อนพัด กรู ๆ เข้ามาต้องผิวกาย ขัดแย้งกับช่วงเดือนในฤดูหนาว ฉันยืนมองดวงตะวันที่คล้อยต่ำลงทุกที ความมืดสลัวเริ่มคืบคลานมาอย่างช้า ๆ อ้อยอิ่งนักในความรู้สึกเหมือนหนึ่งว่า ช่วงวันยาวนานกว่าที่ควรจะเป็น ร่าง ๆ หนึ่งเดินใกล้เข้ามาทุกที จากเงาตะคุ่มเล็ก ๆ เริ่มแจ่มชัดขึ้นท่ามกลาง แสงสลัวเรื่อรางของยามเย็น "ไม่กลับบ้านใช่ไหมอาทิตย์นี้" เสียงเอ่ยถามจากผู้เข้ามานั้นดังขึ้นก่อนจะถึงตัวฉัน "คงไม่กลับ มีงานหลายอย่างต้องสะสาง" "มีเวลาว่างสัก 2-3 ชั่วโมงไหม" "จะให้ช่วยอะไร" "จะช่วยไหม" "ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง" "ช่วยไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ เพื่อนนัดกินข้าวน่ะ" "แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน แกก็ไปกับเพื่อนสิ ฉันจะทำงาน" "น่านะ ไปเป็นเพื่อนหน่อย หาที่เย็น ๆ กินข้าวกัน ไม่นานหรอก 2-3 ชั่วโมง" "ไม่มี ดื่มกันใช่ไหม" "มีนิดหน่อยน่า" "ไม่ไป" "อะไรวะ รับปากแล้วนี่ว่าจะช่วย เฮ้ย แค่นี้ก็ไม่ได้เหรอวะ แม่งโคตรไม่มีน้ำใจ แค่ไปเป็นเพื่อนเอง" มันบ่นงุบงิบ "แกว่าไงนะ เอ้าก็ได้แต่อย่านานนะโว้ยไม่อยากนอนดึก เดี๋ยวไม่สวย" "จ๊ะ แม่คุณสวยตายเลยนะ ยังกะแพนด้าน่ะแก" "ปากเสีย ๆ แบบนี้จะไปด้วยอยู่เหรอเนี่ยเรา" "เฮ้ย ๆ ๆ ล้อเล่น ไปกันเร็ว" แล้วสุดท้ายฉันก็ตกลงปลงใจ ไปเป็นเพื่อนมันจนได้ " เฮ้ย แกช่วยดูหน่อยสิ สวยไหม" มันยื่นกล่องกำมะหยี่สีแดง บรรจุแหวนทอง ลงยาสลักเป็นตัวหนังสือสีแดง K & P ให้ฉันดู " ไอ้กบเอ้บ แกอย่าบอกนะว่าแกจะไปจีบสาว แล้วเอาฉันไปด้วยเนี่ย" "เออสิ" "ไอ้บ้า แกจะเอาฉันไปเป็น กขคง ทำไมวะ" " เออน่ะ ฉันมีเหตุผลแล้วกัน แล้วไอ้ กขคง ของแกมันคืออะไร ฉันเคยได้ยินแต่ กขค ก้างขวางคอ" "อย่างแก น่ะมันต้องเติม ง เข้าไปด้วย ก้างขวางคองู ไงเล่า แกกลับไปส่งฉันเถอะ อย่าเอาฉันไปนั่งแหง่วเลย" "ไม่ได้ แกคือคนสำคัญเลยล่ะ" "แกอย่าบอกนะ แกจะทำเหมือนในหนังน่ะ มุขบอกรักเพื่อน" "เฮ้ย ไอ้นี่ดูหนังจนเพี้ยน ถ้าฉันจะรักแก ฉันรักไปนานแล้ว ไม่รอให้แกพองเป็นแพนด้า หลอกหลอนฉันอยู่งี้หรอก" "อื้ย ไอ้นี่คำก็แพนด้า สองคำก็แพนด้า คอยดูฉันจะสวยให้แกดู ไปไปกันเลยฉันอยาก จะรู้เหมือนกันว่า แฟนคนสวยของแกจะสวยกว่าฉันสักกี่มากน้อย" "แล้วแกจะรู้ อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้แกสวย" ผู้หญิงมักจะทนไม่ได้เมื่่อโดนเปรียบเทียบความสวยความงาม จากปฏิเสธก็กลายเป็น กระตือรือร้น เพราะคำดูถูก "เฮ้ย เดี๋ยวใกล้ถึงบ้านพลอยแล้ว แกไปนั่งข้างหลังนะ" "เออ ฉันน่ะรู้ตำแหน่งดี ทำไมแกไม่บอกเอารถมาคนละคันวะ แล้วฉันต้องแยกโต๊ะ กินข้าวด้วยหรือเปล่า" "อาจจะ ว่ะเพื่อน" "งั้นเอางี้ แกจอดรถเอากุญแจรถมา แล้วไปนั่งข้างหลังฉันขับเอง ไปส่งแกกับแฟน ก่อนฉันค่อยกลับ" "เอ้า แล้วฉันจะกลับยังไงล่ะ" "แกล้งถามใช่ไหมเนี่ย กลับไม่ได้แกก็นอนอยู่นั่นแหละ ไอ้ที่จะไปกินข้าวกันเนี่ย มันโรงแรมไม่ใช่เหรอ แหมลึกนะแก เอาเพื่อนมาเป็นคนขับรถ" "เฮ้ย ไม่ใช่อย่างนั้น อยากชวนแกมากินข้าวจริง ๆ" "ทีหลังแกก็บอกเหตุผลก่อนนะ เสียความรู้สึกจริง ๆ เลย" "แกโกรธใช่ไหมเนี่ย เฮ้ย ขอโทษไม่ได้คิดแบบนั้นจริง ๆ นะ" "พอเลย จอดรถ แล้วกลับไปส่งฉัน" "ไม่ แกต้องไปกับฉัน" "ฉันไม่ไป ไม่มีเหตุผลที่จะไป" "แกเชื่อฉันสักครั้ง ฉันมีเหตุผลที่ต้องให้แกไปเป็นเพื่อนจริง ๆ ขอร้องนะ มันอาจ จะดูแปลกแต่ไม่มีเพื่อนคนไหนที่ฉันไว้ใจเหมือนแกจริงๆ " "ฮึ งั้นแกจอดรถ เอากุญแจมาแล้วไปนั่งข้างหลัง" "แกจะไปส่งฉันแค่นั้นเหรอ" "ใช่ แล้วแกค่อยกลับไปเอารถแล้วกัน" "แกโกรธ" "ใช่ฉันโกรธแกจริง ๆ นะคราวนี้" "ฉันขอโทษ แต่ฉันจะจอดก่อนถึงบ้านพลอยแล้วกัน" "ตามใจแก ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว" "ขอบใจมากว่ะ " "คราวหน้าคงไม่มีอีก แล้วแกก็ไม่ต้องไปหาฉันอีกเลยนะ " "เฮ้ย ขนาดนั้นเชียวเหรอ" "คนนะเว้ย ไม่ใช่แบคทีเรียจะได้ไม่มีความรู้สึก รู้สาอะไร" "แกเป็นอะไรของแก ไม่เคยเห็นแกโกรธแบบนี้เลยนะ" "แกจะถามให้มันได้อะไร จอดได้รึยังล่ะรำคาญ" "ดุจังวะ ยัยแพนด้า กินอะไรเข้าไปล่ะเนี่ยวันนี้" "ไม่ขำ จอดรถ" ไอ้กบจอดรถเทียบข้างทาง ทำหน้าตาล้อเลียน หวังจะฉันอารมณ์ดีขึ้น แต่ความ ขุ่นมัวในใจฉันมันฟุ้งเสียจนไม่มีทางจะสงบลงได้ ทั้งที่จริงแล้วฉันไม่เคยโกรธใครง่าย ๆ โดยเฉพาะเพื่อนรักอย่างไอ้กบ ฉันแทบไม่เคยโกรธมันเลย แต่คราวนี้ฉันยังแปลกใจตัวเอง เหมือนกันว่าทำไมถึงโกรธมันเพราะเรื่องแค่นี้ คนขับรถเปลี่ยนจากไอ้กบเป็นฉัน ฉันกระชากรถเหยียบซะแทบมิดเท้า ชำเลืองดู ไอ้ต้นเหตุ นั่งหน้าเครียด นิ่งไม่พูดไม่จาอะไร กระนั้นฉันก็พามาจอดเทียบหน้าบ้านแฟนของ ไอ้กบอย่างปลอดภัย เสียงไอ้กบถอนหายใจอย่างโล่งอก ฉันแอบยิ้มเยาะในใจ เอาเถอะก้าว ลงรถเมื่อไหร่ฉันจะทิ้งมันไว้ที่นี่ ดูเหมือนไอ้กบมันจะรู้ทัน มันไม่ก้าวลงรถ แต่กลับโทรศัพท์บอกให้แฟนสาวออกมา หาแทน "แกจะไม่ลงรถไปรับเขาหน่อยเหรอ อย่างน้อยแกก็น่าจะไปขออนุญาตพ่อแม่เค้า" "เค้าอยู่คนเดียว ถ้ามาเองไม่ได้ก็ไม่ต้องไปหรอก" "โห คุณเธอยังกล้าคบแกเป็นแฟนอีกเนาะ" ฉันประชดมัน ไอ้กบไม่ตอบแต่กลับหัวเราะเบา ๆ แทน ทันทีที่เห็นพลอยเป็นครั้งแรก ฉันก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเม็ดทรายในทันใด ไอ้ที่จะสวยสู้พลอย ทางเป็นไปได้เท่ากับศูนย์ ถ้าแค่พอเทียบเคียงกันได้บ้างฉันคงต้อง Modify ใหม่ทั้งตัว นึกเล่น ๆ แค่ค่ารีดไขมันออกก็คงหลายแสน ไหนจะจมูก ตา รูปหน้า สีผิว ฉันขอไปเกิดใหม่เสียยังจะดีกว่า ฉันมองหน้าไอ้กบผ่านกระจกหลัง แกช่างไม่เจียม กะลาหัวหนอกบเอ๋ย แค่พลอยมองมันเนี่ยก็คงบุญของมันนักหนาแล้ว ขนาดที่คบมันเป็นแฟน เนี่ยเรียกว่าโชคดีมหาศาล " กบ ไม่ลงมาก่อนเหรอ" " อือ ผมเจ็บข้อเท้าน่ะเดินลำบาก เลยต้องให้พลอยออกมาเอง ขอโทษนะ" (ไอ้ตอแหล ฉันคิดในใจ เดินไปหากูไม่ยักกะเจ็บ) " ไปหาหมอหรือยัง แวะไปหน่อยไหม " " ผมไปมาแล้วครับ อ้อ พลอย นี่หญิงเพื่อนผม ให้มาเป็นเพื่อนแล้วขับรถให้ ผมขับไม่ไหวน่ะ พลอยคงไม่ว่าอะไรนะ " "ไม่หรอกค่ะ ทานหลาย ๆ คนอร่อยดี สวัสดีนะคะคุณหญิง" "สวัสดีค่ะคุณพลอย คุณพลอยน่ารักจัง" ฉันชมพลอยจากใจจริง จากใจที่นึกเหยียด เหยียดผู้หญิงคนนี้ก่อนพบหน้า กลับกลายเป็นว่าฉันรู้สึกดี ๆ ดีจนอยากหายตัวไปจากตรงนั้น "คุณหญิง คะ จ้องพลอยนานแล้วนะ ไปกันหรือยัง พลอยเริ่มหิวแล้วค่ะ" "ค่ะเชิญค่ะคุณพลอย" พลอยก้าวมานั่งข้างหน้าข้างฉัน "อ้าวคุณพลอย ทำไมไม่นั่งกับกบละคะ" "คุณหญิงไม่ใช่คนขับรถนี่คะ คุณเป็นเพื่อนของกบ เพื่อนของพลอย" "ขอบคุณค่ะคุณพลอย" ฉันขอบคุณอย่างแผ่วเบา ในหัวใจยิ่งเบาโหวงยิ่งกว่า ฉันขับรถ ถึงร้านอาหารในสมองคิดหาทางแวบออกไปอย่างแนบเนียนที่สุด "คุณพลอย กับกบ เข้าไปสั่งอาหารไว้รอนะคะ เดี๋ยวขอตัวไปทำธุระแป๊บนึง" "เฮ้ยอย่านานนักนะเว้ย กลับมาจะเหลือแต่ลายจานจะหาว่าไม่เตือน" ไอ้กบขู่ "ทำธุระนะโว้ย ไม่ได้ไปอาบน้ำ หิวก็กินก่อนเดี๋ยวกลับมาสั่งให้แกจ่าย" "เออ รีบไปรีบกลับ เปิดโทรศัพท์ไว้ด้วย" ฉันนิ่งไม่ต่อความ หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ รีบไปรีบกลับ แหมในใจมันคงอยากบอกว่า ไปแล้วอย่ากลับมาซะมากกว่า ฉันหันไปอีกครั้งยิ้มบาง ๆ ให้กลับพลอยแล้วรีบเดินออกไป ห่างสายตาคู่รัก นั้นนะไกลโข ฉันเตร็ดเตร่เดินวนไปมา อยู่หน้ารถ ไปไหนดีหว่า กลับบ้านพักก็ขี้เกียจ ไอ้ตะกอนขุ่นในใจมันฟุ้งขึ้นมาอีกครา ฉันสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่ จะตัดสินใจก้าวขึ้นรถขับออกไปอย่างเร็วจนหลายคนหันมอง ฉันขับรถไปโดยไม่รู้จุดหมาย วนไปวนมาในเมืองอยู่หลายเที่ยว ความหิวที่เคยคุกรุ่น กลับจางหายไปแต่มีความอึดอัดใจเข้ามาแทนที่ โว้ย อะไรกันวะ บ้าไปแล้วหรือไอ้หญิง ฉันถามตัวเองซ้ำ ๆ อยู่หลายรอบ คำตอบ ในใจที่ได้กลับมา คือ ใช่ ฉันบ้าไปแล้ว สุดท้ายฉันเลือกนั่งในสวนสาธารณะริมสระน้ำ นั่งเหยียดขายาวเก็บก้อนหินรอบ ๆ ตัว ทุ่มลงไปในสระน้ำ เหมือนคนบ้า ๆ ในหนังเขาชอบทำกัน เสียงเพลงเศร้า ๆ ดังแว่วมาจากที่ใดที่หนึ่งของสวน อาจมีฝนที่หล่นมาชั่วคราว และเมฆขาวที่ผ่านมาเพียงชั่วคืน เจอะกับลมก็ปลิวไป ไม่มีใครรื้อฟื้น ไม่ได้เป็นความยั่งยืนเสมอไป แต่กับเธอที่ผ่านมาชั่วคราว และเรื่องราวที่เปลี่ยนไปชั่วข้ามคืน กับอะไรที่เป็น ก็ยังไม่เคยลืม เหมือนว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจ เราไม่เคยจะรักกัน มีแต่วันที่อ่อนไหว ผ่านเลยไปและไม่เคยจะกลับมา เป็นแค่ความประทับใจ ที่ยังคงแน่นหนา มีแต่ฝนมีแต่ฟ้าที่เข้าใจ ใต้ต้นไม้ที่ไม่มีร่มเงา กิ่งก้านมันไม่ได้สูงสักเท่าไร แต่รากลึกลงในดินหยั่งลึกลงในใจ มีความหมายมากมายตลอดมา (เนื้อเพลง stay ของ ปาล์มมี) ฉันนิ่งฟังเพลงเงียบ ๆ เหมือนเพลงนี้เป็นเพลงของฉัน ฉันรู้สึกอย่างนั้น จากนั้นฉันร้องคลอ ๆ ไปกับเสียงเพลงแผ่ว ๆ น้ำตาเจ้ากรรมมันเริ่มคลอ คนสวย รับสาย คนสวยรับสาย เสียงริงโทนของฉันมันดังขึ้น ฉันมองไปที่โทรศัพท์ ที่ขึ้นชื่อคนโทร "ไอ้กบ" ฉันตัดสายทิ้งทันที ความหงุดหงิดฟุ้งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย คนสวย รับสาย คนสวยรับสาย เสียงริงโทนดังซ้ำ ๆ จนฉันรำคาญ ฉันยกโทรศัพท์ ขึ้นรับอย่างหัวเสีย "มีอะไร ก็รีบพูดมา กำลังคุยธุระอยู่" "แกมาหาฉันที พลอยเขาไปแล้ว" เสียงไอ้กบแหบ ๆ เครือ ๆ ชอบกล "ไปไหน แล้วแกทำไมไม่ไปกับเค้าล่ะ " "ไม่รู้ แกมาหาฉันที" "เออ ทีงี้เรียกหา ไอ้เพื่อนบ้า เออ ๆ รอนั่นแหละเดี๋ยวไปหา" แวบแรกฉันอยากปฏิเสธ แต่ไม่ว่าคราวไหนฉันก็ปฏิเสธมันไม่ลงสักที แกล้งมันให้มันรอ สักชั่วโมงฉันคิดแบบนั้น แต่พอเอาเข้าจริงฉันกลับไปหามันในเวลาไม่ถึง 10 นาที พอฉันไปถึง ไอ้กบนั่งอยู่เพียงลำพัง สภาพของไอ้กบแทบจะดูไม่ได้ ข้าวปลาอาหาร ยังวางอยู่เต็มโต๊ะ เหล้าขวดใหญ่พร่องไปเสียเกือบลิตร "เฮ้ย เป็นอะไรแล้วพลอยล่ะ" "เค้าไปแล้ว ไปกับคนอื่นแล้ว" "อ้าว ทะเลาะกันหรือเปล่า" "เปล่า มีคนมารับพลอยแล้วฉันเป็นคนบอกพลอยให้ไปกับเค้าเอง" "เฮ้ย ทำไมแกทำยังงั้นวะ" "ฉันไม่อยากให้พลอยลำบากใจ แค่มองก็รู้แล้วว่าพลอยรักเค้า" "แกบ้าหรือแกโง่กันแน่วะ แล้วตัวเองมานั่งเสียใจเนี่ยนะ" "อื้อ แกอยู่เป็นเพื่อนฉันได้รึเปล่า ฉันอยากเมา" "เอ้อ เอ้าแกจะกินก็กินไป เดี๋ยวฉันนั่งเป็นเพื่อน" ไอ้กบกินเหล้าไป รำพึงรำพันเพ้อคร่ำครวญไป จากเสียงเบา ๆ ก็เริ่มดังขึ้น ๆ จนคนเริ่ม เหลียวมอง "เฮ้ย พอเหอะกบ กลับบ้าน" "ไม่อาว ไม่พอ ฉันไม่กลับบ้าน" "กลับบ้าน ไอ้กบ ถ้าแกไม่กลับฉันจะปล่อยให้แกโดนกระทืบอยู่ตรงนี้" "อื้อ ไอ้เพื่อนเลว แกไม่รักเพื่อน ปล่อยฉัน ปล่อยฉันตาย" ไอ้กบเริ่มอาละวาด ฉันเห็นท่าจะไม่ดี จึงรีบลากมันแล้วยัดขึ้นรถอย่างทุลักทุเล ไอ้กบดิ้นขลุกขลักในรถสักพัก พอฉันออกรถไปได้สักประเดี๋ยวมันก็หลับเป็นตาย จนถึงบ้าน ฉันเริ่มมีปัญหาใหญ่จะเอามันขึ้นบ้าน ได้ไงตัวยังกะยักษ์ ฉันเดินวนรอบ ๆ รถหาทางที่เอาไอ้กบขึ้นบ้าน แสงไฟบนบ้านก็สว่างพรึบ "กบหรือลูก กลับมาแล้วเหรอ" เสียงทักมาจากบนบ้าน "แม่ขา หญิงค่ะ กบเมาหญิงไม่รู้จะพาขึ้นบ้านยังไง" "อ้าว งั้นเดี๋ยวแม่เรียกพ่อให้ ให้พ่อพาขึ้นบ้านแล้วกันนะลูก" "งั้นหญิงกลับเลยนะคะ ถ้ากบฟื้นให้ไปเอารถที่บ้านพักหญิงแล้วกันค่ะ" "เดี๋ยวหญิง หญิงอยู่เป็นเพื่อนกบได้ไหมสักพักได้ไหมลูก สภาพนี้อยู่คนเดียวคงไม่ไหว" "แล้วพ่อกับแม่ละคะ" "พ่อกับแม่จะไปทำบุญกัน เนี่ยก็จะถึงเวลานัดแล้วล่ะ หญิงช่วยอยู่เป็นเพื่อนกบก่อนนะลูก" "ค่ะ อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ" พ่อลากไอ้กบขึ้นบ้านไปแล้ว ฉันนั่งแกร่วอยู่ชั้นล่างเปิดทีวีดูยื้อเวลา แล้วก็ผล็อยหลับไป พอตื่นขึ้นมาฟ้าสว่างแล้ว ฉันสลัดหัวไปมาไล่ความง่วงงุน แล้วเดินไปดูไอ้ตัวต้นเหตุยังหลับอุตุไม่มี วี่แววว่าจะรู้สึกตัว ฉันคงต้องกลับแล้ว ฉันบอกตัวเองอย่างนั้น ใจก็นึกเป็นห่วงอยู่ครามครัน แต่ก็ต้องตัดใจ มีอะไรต้องทำอีกเยอะ ฉันให้เหตุผลกับตัวเอง แต่กระนั้นความเป็นห่วงก็ยังตามหลอกหลอน ตื่นมามันจะ แฮงค์ ไหมนะ ฉันถามตัวเองอีกครั้ง แล้วจึงตัดสินใจขับรถไปตลาด ซื้อเครื่องดื่ม ที่เขาโฆษณา ดื่มเพื่อลดอาการแฮงค์ พร้อมกับผลไม้ และของกินสองสามอย่าง "ตื่นแล้วก็ดื่มมันซะ กินซะจะได้ดีขึ้น ฉันกลับแล้วนะไอ้กบเน่า" ฉันเขียนข้อความติดไว้ที่กระจกในห้องนอนของไอ้กบก่อนที่กลับมาที่บ้านพัก อาบน้ำ นอน พักด้วยไม่มีจิตใจที่จะทำอะไรต่อ สาย ๆ เกือบเที่ยง เสียงโทรศัพท์ ฉันดังขึ้น "เฮ้ย ว่าไงกบ ฟื้นแล้วเหรอ " "เออ แกออกมาหน้าบ้านหน่อยสิ" "ออกไปทำไม" "ตอนนี้ฉันอยู่หน้าบ้านแก" ฉันเดินออกไปหน้าบ้าน ไอ้กบยิ้มร่าทั้งที่หน้าตายังซีดเซียว "เออ ว่าไง มีอะไร " "ฉันคิดถึงแกว่ะ เมื่อวานฉันยังไม่กินข้าวกับแกเลยนะ" "เออ ไม่เป็นไร ไว้คราวหน้าก็ได้" "ฉันเป็นข้อความที่แกแปะไว้แล้ว หญิงแกคิดยังไงกับฉัน" "ก็แกเป็นเพื่อนฉัน" "เป็นมากกว่านั้นได้ไหม" "อะไรของแก ไม่ได้ ฉันเป็นแพนด้า" "มันเกี่ยวอะไร" "ไม่รู้ แกกลับได้แล้วไป ฉันจะนอนเหนื่อย" "หญิง" "แกไม่รักฉันหรอก แกไม่เคยจะรักฉันแกเพียงแค่อยากมีใครสักคนเท่านั้นเวลานี้" "แต่ " "ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น แกเอารถแกกลับไปด้วย" "ฉันขับไปไงตั้งสองคัน แกขับไปส่งฉัน แล้วฉันจะกลับมาส่งแก" "ไม่ แกทิ้งไว้ที่นี่แหละอยากได้เมื่อไรค่อยมาเอาคืนไป" "หญิง" "ไปได้แล้ว" ฉันหันกลับขึ้นบ้านปิดประตูขังตัวเองไว้ในห้อง แว่วเสียงไอ้กบร้องเรียกอยู่นานจนสิ้นเสียงไป ฉันร้องไห้อยู่ในห้องลำพัง เสียงเพลงของฉันดังก้องอยู่ในหัวใจ แต่กับเธอที่ผ่านมาชั่วคราว และเรื่องราวที่เปลี่ยนไปชั่วข้ามคืน กับอะไรที่เป็น ก็ยังไม่เคยลืม เหมือนว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจ เราไม่เคยจะรักกัน มีแต่วันที่อ่อนไหว ผ่านเลยไปและไม่เคยจะกลับมา เป็นแค่ความประทับใจ ที่ยังคงแน่นหนา มีแต่ฝนมีแต่ฟ้าที่เข้าใจ ใต้ต้นไม้ที่ไม่มีร่มเงา กิ่งก้านมันไม่ได้สูงสักเท่าไร แต่รากลึกลงในดินหยั่งลึกลงในใจ มีความหมายมากมายตลอดมา เสียงเพลงของฉันวนเวียนอยู่ซ้ำ ๆ น้ำตาเจ้ากรรมมันไหลรินอย่างช้า ๆ ท่อนเดิมซ้ำ ๆ วนเวียนไปมา เราไม่เคยจะรักกัน มีแต่วันที่อ่อนไหว ผ่านเลยไปและไม่เคยจะกลับมา เป็นแค่ความประทับใจ ที่ยังคงแน่นหนา มีแต่ฝนมีแต่ฟ้าที่เข้าใจ
8 มีนาคม 2556 20:25 น. - comment id 131786
อีตากบ .. ไหง๋ ล่ะ หล่อตายล่ะ ว่าแต่ว่า น้ำหนักตัวคงไม่ทำให้หวั่นไหวง่าย ๆ นะน้องหญิง... ฮ่า ..
9 มีนาคม 2556 06:13 น. - comment id 131790
อิอิ อันที่จริงเราเป็นคนงกเนื้อ คนอ้วนเนื้อจะเย็นไม่ต้องใช้แอร์ แล้วใจจะเย็นมากเพราะสู้ก็ไม่ได้หนีก็ไม่ทันต้องใจเย็นเอาไว้ก่อน คบกับคนอ้วนช่างอบอุ่นและชุ่มเย็นเหมือนได้นอนตักแม่ จะใจดีไม่หวงของกินคบคนอ้วนจะไม่อดหยากคลอดชีวิตนานมาแล้วเคยแต่กลอน"รักคนอ้วนดีกว่า"มีคนเห็นด้วยเยอะแยะอยากให้ช่วยทำน้ำหนักตัวให้ทัดเทียมกันตอนนี้แค่แปดสิบเมื่อเทียบกับความสูงร้อยแปดสิบเอ็ดแล้วคิดว่าน้อยไปหน่อย ว่าแต่ว่าหัวใจอ่อนไหวจริงรึ มา จะช่วยให้มีความมั่นใจตัวเองและมั่นใจกัน
9 มีนาคม 2556 08:10 น. - comment id 131792
5555 คุณอัลมิตรา อีตากบคงกลายเป็นแกงในหม้อแล้วมั๊งป่านนี้ เช้า ๆ ไม่มีอะไรทำให้หวั่นไหวได้ นอกจากขนมอร่อย ๆ สักสองสามชิ้น คุณฤกษ์ แหม เข้าใจหยอดนะเนี่ย งั้นที่หมอบอก ให้ลดน้ำหนักไม่ต้องเชื่อดีกว่ามั๊ง เชื่อคุณฤกษ์ดีกว่า ไม่ลำบาก 5555
9 มีนาคม 2556 08:32 น. - comment id 131798
ตอนนี้ฝนตกหนักเลยนะคะ สงสัยฝนกับฟ้าเท่านั้นที่เข้าใจเรา อิอิ
9 มีนาคม 2556 11:45 น. - comment id 131802
แต่ทำไมบ้านเราแล้งจังไม่รู้นะกานต์
9 มีนาคม 2556 12:12 น. - comment id 131803
เพลงไพ แอบไปหาฟังใน you tube พลิ้วไหวไปพร้อมกับอารมณ์เหงาๆ โอ้ววววจอร์ช รำลึกความหลังตลอด 555 คิดถึงพี่อ้อยร้อยฝันของฉัน....อิอิ
9 มีนาคม 2556 12:32 น. - comment id 131804
พี่ชอบเพลงนี้นะมะกรูด คิดถึงมะกรูดจัง เมื่อไรจะเขียนเรื่องดี ๆ ให้อ่านอีก
10 มีนาคม 2556 16:32 น. - comment id 131807
แบบนี้เหมือนรักโดยไม่รู้ตัวเลยเนาะ คิดถึงมากมายเลยรู้ไหมจ๊ะ
10 มีนาคม 2556 16:42 น. - comment id 131808
ตั้งใจจะเขียนอีกแนว แต่มันจบไม่ได้ เลยไปอีกแนวเลยตูน ว่าง ๆ จะแก้ตัวใหม่
11 มีนาคม 2556 12:35 น. - comment id 131809
10 ฮี่ ฮี่ ขอน๊าไข่ๆ
12 มีนาคม 2556 11:07 น. - comment id 131811
ให้ไข่ไปเลยฉางน้อย ๆ ต้มมาแซ่บ ๆ เด้อ
12 มีนาคม 2556 14:39 น. - comment id 131813
วันอ่อนไหว คนอ่อนไหว ใจดวงเดิมที่อ่อนไหว บรรยายบรรยากาศได้โรแมนติกดี เรื่องราวน่าประทับใจดี ถ้อยคำสำนวนดี ดีครับ
12 มีนาคม 2556 15:42 น. - comment id 131814
ขอบคุณค่ะลุงดาว สบายดีนะคะ ฝากคิดถึงคุณบ้าด้วยนะ
12 มีนาคม 2556 15:45 น. - comment id 131815
ตามหลังอาดาวฯมา แลดูว่า เธอสบายดี .. อ่านจบแล้วนะคนดี ไปก่อนนะพี่ ปีใหม่มาอ่านอีกเรือง
12 มีนาคม 2556 21:44 น. - comment id 131817
สวัสดีพี่อ้อย เสียดายไม่ได้มาแจมทริปเมืองกาญจน์ ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ
13 มีนาคม 2556 11:20 น. - comment id 131823
เด๋วนี้เขียนเรื่องรักๆ เก่งจุง ปล. พักนี้จำศีล เลยไม่ค่อยได้ออกจากถ้ำ ขอเวลาอีกหน่อยนะร้อยฝัน
14 มีนาคม 2556 09:27 น. - comment id 131825
สวัสดีจ้า แก้วประภัสสร ขอบคุณที่มาดูแลว่าสบายดี เรื่องสั้นเขียนยากเข็ญออกมาปีละเรื่องยังแทบตาย ปีหน้าอ่านใหม่อีกเรื่อง สวัสดีจ๊ะ เสียดายจริง ๆ ที่ไม่่ได้ไปแจมช่วงนี้ตัวเป็นน๊อต หัวเป็นเกลียวแล้ว กีกี้ ไม่ได้เจอนานเลยนะ ไอ้เรื่องรักเนี่ยเขียนมาจากเพลงทั้งนั้นเลย เหอ ๆ ไร้แรงบันดาลใจจริง ๆ อีกสักกะเดี๋ยวเราก็จะไปจำศีลแล้ว ก่อนที่หมอเค้าจะเฉือนถุงน้ำดีทิ้ง ต่อไปคงจะเป็นคนไม่มีดีแล้ว
14 มีนาคม 2556 17:36 น. - comment id 131829
เห่ย เป็นรัยมากป่าวเนี่ย
14 มีนาคม 2556 19:10 น. - comment id 131830
อิอิ กีกี้ ก็แค่ติ่งเนื้อเกิน ๆ ขนาดไม่กี่มิลแต่ที่ตัดสินใจเอาออกเพราะเบื่อหน้าหมอที่ต้องไปให้เค้าตรวจทุก 3 เดือนสิ หมอบอกว่ากลัวมันกลายพันธุ์ เลยบอกเอาออกไปเลยหมอ มันไม่มีอาการอะไรเลยเจอเพราะตรวจร่างกายประจำปี เรื่องจิ๊บ ๆ น่า
15 มีนาคม 2556 09:38 น. - comment id 131833
เค สู้ๆ ตัดอะไรเกินๆ ออกไปซะมั่ง จะได้พอดี 555+ แจ้งข่าวเรื่อยๆ บ้าง นะ จะเมล์ sms
15 มีนาคม 2556 20:28 น. - comment id 131838
ก็คงงั้นแหละกีกี้ แล้วจะส่งข่าวนะ ขอบใจหลายสำหรับกำลังใจ
15 มีนาคม 2556 22:57 น. - comment id 131839
ยังอ่อนไหวได้อีกเยอะเลย...ชอบจัง ปีละเรื่องเองเหรอ น่าเสียดาย
23 มีนาคม 2556 16:02 น. - comment id 131845
อาจจะค่ะคุณแจ้นเอง ขึ้นอยู่กับเวลา อารมณ์ และแรงบันดาลใจค่ะ จริง ๆ เขียนเรื่อย ๆ แต่มันเป็นเรื่องที่เขียนไม่จบค่ะ