05.40 น. ขณะที่ฉันกำลังจะออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ เดินเกือบจะถึง ประตูอยู่แล้ว...เอ้า! อุทานกับตัวเอง..เฮ้อ! ดันลืมหยิบกระเป๋าสตางค์ลงมาจาก ห้องนอนชั้นบน..ฉันจึงเดินย้อนกลับขึ้นบันไดแต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาขึ้น.. "อ้อยๆ " เสียงคนเรียกฉันอยู่หน้าประตูรั้ว..ฉันหยุดกึก! ด้วยคุ้นในน้ำเสียง เออ..จริงซิน๊ะ..เช้านี้เป็นวันที่พี่สาวฉันซึ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัดจะมาถึงบ้าน ฉันจึงเดินกลับไปที่ประตู......เสียงเรียกชื่อฉันดังขึ้นอีกครั้ง "เอ้อ..ได้ยินแล้ว รอเดี๋ยว" ฉันตะโกนออกไปพร้อมกับหยิบกุญแจบ้าน ฉันเปิดประตูในตัวบ้าน..มองไปที่รั้วก็เห็นพี่สาวฉันยืนอยู่พร้อมกับส่งเสียง มาอีกครั้ง "อ้อย ฉันโดนจี้" ฮ้า! ว่าไงน๊ะ..ฉันถาม..พร้อมกับรีบเดินไปเปิดประตูรั้ว ให้พี่สาวเข้ามา "เมื่อกี้เธอว่าอะไรน๊ะ" ฉันถามอีกครั้ง "ฉันบอกว่าฉันโดนจี้" คราวนี้ชัดเต็มหูสองข้าง "จริงดิ..โดนที่ไหนอ่ะ" ฉันรัวเสียงถาม "หน้าบ้านแม่" พี่สาวตอบ "บ้านแม่นี่น๊ะ" ไม่อยากเชื่อเลยให้ตายซิ "แล้วมันทำอะไรเธอหรือเปล่า" ฉันพูดพร้อมกับสำรวจร่างพี่สาว "เปล่า " พี่สาวตอบ เฮ้อ..ค่อยโล่งใจหน่อย ฉันพูดเบาๆ ทันทีที่พี่สาวเข้ามานั่งในบ้านแล้ว...เธอจึงเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า เธอนั่งรถทัวร์มาถึงหมอชิตตอนประมาณตี 4 เธอจึงต่อรถประจำทางเพื่อมา บ้านแม่และเมื่อมาถึงปากซอยบ้านเวลาขณะนั้นยังไม่ถึงตี 5 ดี เธอเห็นว่าใน ซอยบ้านยังคงมืดอยู่....และไม่เห็นมีผู้คนเดินแม้แต่คนเดียว..และยิ่งช่วงนี้ เป็นหน้าหนาว..เป็นที่รู้กันว่า จะสว่างช้ากว่าปกติ...เธอเลือกที่จะไม่เดินเข้ามาคนเดียว..จึงเดินเลยไปนั่งร้านข้าวแกงที่อยู่ซอยเยื้องๆกับซอยบ้านฉัน. เพราะเธอคุ้นเคยกันดีกับแม่ค้า... เวลาผ่านไปจนกระทั่งเธอเห็นว่า ตี 5 กว่าแล้ว...ซึ่งปกติ ในซอยบ้านฉัน จะเริ่มมีคนเดินออกมาบ้างแล้วบางคนก็ออกมารอใส่บาตรพระ บางคนก็ออกมาวิ่งออกกำลังกาย..เธอเลยคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรจึงตัดสินใจเดินเข้ามาในซอยบ้าน.. ซึ่งระยะทางจากปากซอยถึงบ้านแม่ประมาณสัก 20 เมตรกว่าๆ...ลืมบอกไปค่ะ บ้านฉันกับบ้านแม่อยู่ซอยเดียวกัน...แต่บ้านแม่จะถึงก่อน..โดยห่างจากบ้านฉันเพียงตึก 10 ห้อง ย้อนกลับมาที่เหตุการณ์ต่อค่ะ...ในขณะที่เธอเดินเข้าซอย.. เธอบอกว่ามันเงียบมาก มากซะจนเธอเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมานิดๆ....แต่ก็ยังคิดว่าเดี๋ยวถึงหน้าบ้านแม่ก็ต้องเจอคนแล้ว...เพราะเยื้องๆกับหน้าบ้านแม่ จะมีร้านกาแฟ ร้านข้าวแกง ซึ่งสองร้านนี้จะออกมาเปิดร้านประมาณเวลานี้แหล่ะ.... เธอเล่าว่าเธอเองก็ไม่ประมาทนะคะ พยายามเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น..สองตาก็คอย มองไปรอบๆตัวว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า...ขณะที่เธอเดินมาถึงกลางซอย... เธอเห็น รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง..มีคนขับและคนซ้อนท้าย..ขี่สวนออกมาช้าๆ เธอเห็นรถคันดังกล่าวเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กๆซอยหนึ่งซึ่งเป็นซอยตันอยู่ทาง ซ้ายมือและถึงก่อนบ้านแม่... เธอก็เริ่มเอะใจและคิดว่า รถคนนี้จะเข้าไปในซอยนั้นทำไม..ดูจากลักษณะแล้ว ไม่น่าจะเป็นคนในซอย...เธอจึงมองตามเข้าไป..พร้อมกับเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น.. ในขณะที่ความรู้สึกบอกว่าจะต้องมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นแน่ๆ พี่สาวบอกว่า..เห็นประตูบ้านแม่แล้ว..ใจเริ่มชื้น..แต่ เอ๊ะ..ทำไมวันนี้เงียบจัง บรรดาร้านค้า..ก็ยังไม่เปิดเธอมองไม่เห็นใครสักคน..อย่าว่าแต่คนเลย.. เธอว่า แม้แต่สุนัขสักตัวก็ไม่มี..ปกติแล้วซอยบ้านฉันมีค่อนข้างเยอะด้วยซ้ำ แต่วันนี้ไม่มีแม้แต่เงา...เธอเดินมาถึงหน้าบ้านแม่จนได้...แต่ก็ไร้ประโยชน์ค่ะ..เพราะเธอไม่มีกุญแจ...พูดถึงกุญแจนี่ก็เหมือนกัน..ฉันเคยบอกพี่สาวเสมอๆว่า ให้ไปปั๊มกุญแจไว้ทั้งบ้านแม่และบ้านฉัน..จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่ยอมไปปั๊มกลับอ้างว่าลืมเสมอๆ... บ้านแม่เป็นตึกแถว...และไม่มีกริ่งหน้าบ้าน..ฉะนั้นต้องตะโกนเรียกคนในบ้าน อย่างเดียว...แต่สำหรับเช้านี้คงยาก เพราะยังไม่มีใครตื่นลงมา... พี่สาวฉันก็ทราบดี..เลยไม่ได้ตะโกนเรียกใคร..คิดว่านั่งรออีกเดี๋ยวก็ได้...เพราะ เธอทำแบบนี้ประจำ...อีกอย่างหน้าบ้านแม่ก็มีแสงสว่างจากหลอดไฟใต้กันสาด ก็ไม่น่าจะมีอะไร..เธอพยายามคิดปลอบใจตัวเองไว้ก่อน.... ขณะที่เธอนั่งอยู่นั้น...เธอมองเห็นร่างชายคนหนึ่งสวมหมวกกันน๊อค...กำลังเดิน มาและทำทีเหมือนจะเดินผ่านเธอไป...เธอจึงมองตามไปโดยไม่ละสายตา.. ความรู้สึกมันบอกว่าต้องระวังตัว..เธอว่างั้น แล้วก็จริงดังคาด..เขาเดินย้อนกลับมาแล้วตรงดิ่งมาที่พี่สาวฉันนั่งอยู่...ซึ่งในขณะนั้นเธอกำลังก้มลงไปปัดยุงที่บินมาเกาะขา...ชายคนนั้นตรงดิ่งมาทำทีเหมือน จะแตะที่มือเธอ..แล้วถามว่า " เป็นไร" พี่สาวฉันตกใจรีบลุกขึ้นพร้อมทั้งปัดมือเขาออกไป..พร้อมกับพูดเสียงดังว่า.."อะไรเนี่ย" เธอถอยร่างมาพิงที่ประตูโดยที่ไม่สามารถจะหลบออกไปได้ เพราะมันผู้ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ยืนขวางเอาไว้... (ต่อไปนี้ขอใช้สรรพนามแทนมิจฉาชีพคนนี้ว่า "มัน" แล้วกันน่าจะเหมาะดี) มันเปิดหน้ากากหมวกกันน๊อต..และหยิบมีดออกมา..พูดขู่ว่า "อย่าร้องน๊ะ" "จะทำอะไรฉัน" พี่สาวฉันถามมันเสียงสั่น "ถอดแหวนออกมาเดี๋ยวนี้" มันพูดเสียงเบากว่าพี่สาวฉัน พี่สาวฉันบอกว่าในนาทีนั้นไม่ได้เสียดายของเลยแม้แต่น้อยรีบถอดแหวนทอง ทองคำหนักหนึ่งสลึงที่สวมนิ้วอยู่ให้มันไป...หลังจากมันรับของไปแล้วจึงพูดขึ้นว่า "ส่งกระเป๋าสะพายมาด้วย" พี่สาวฉันคิดถึงเอกสารสำคัญจึงไม่ยอมให้ แต่กลับล้วงมือไปในกระเป๋าแทน เธอหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาเปิด และบอกมันว่า "ฉันเหลือเงินอยู่แค่ 600 บาท เพราะเพิ่งมาจากต่างจังหวัด" เธอส่งเงินให้มัน...มันมองเงินที่มือแล้วพูดเสียงเข้มๆ ว่า เอาไป!!! ไม่เอาหรอก..ชิชิ...ดูมันทำ..สงสัยเงินคงจะน้อยไป..เอ..รึว่าอยากเป็นคนดีมีคุณธรรมเร้อ.. จะยังไง แกก็คือโจรนั่นแหละฟร่ะ..จะเป็นอื่นก็หาไม่..จริงมั๊ยค่ะท่านผู้อ่าน..อิอิ เมื่อได้ของไปแล้ว...มันรีบเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์ที่พวกมันอีกคนติดเครื่อง รออยู่..และแล้วมันทั้งสองก็ได้หายไปกับความมืดที่เกือบสว่าง...ปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง (เล็กจริงๆค่ะ เธอสูงไม่ถึง 160 ซม.แถบยังชื่อ "เล็ก" อีกด้วยซิ) รีบเดินมาบ้านน้องสาวด้วยความตื่นตะหนก... " เฮ้อ! เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา" ฉันบอกพี่สาวหลังจากฟังเธอเล่าจนจบแต่ก็ยังดีที่มันไม่ทำร้ายเอา.....และที่สำคัญอย่าได้ใส่เลยค่ะบรรดาเครื่องประดับมีค่าทั้งหลาย..เพราะคนระวังหรือจะสู้คนจ้องได้..คุณว่ามั๊ยค่ะ.. เล่าเรื่องโดย...เทียนหยด
1 กุมภาพันธ์ 2556 10:56 น. - comment id 125296
คุณลุงดาวฯ.... เหอๆๆ เป็นคำแนะนำที่น่าสนใจดีค๊า พวกนี้มันชุมยิ่งกว่ายุงซะอีกค่ะ.. > > ตัวอ้อยเองก็เคยโดนกรีดกระเป๋าสะพาย แถวๆพาหุรัด...ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ได้รับ กระเป๋าสตางค์คืนโดยไม่บุบสลาย.. แต่ที่หายไปเกลี้ยงคือเงินที่มีอยู่ในนั้น ทั้งหมด..อ่อๆ..ไม่หมดค่ะมันคืนเศษเหรียญ กลับมาให้สิบกว่าบาท เอ แล้วแบบนี้คุณลุงว่า เราต้องขอบคุณเค้ารึเปล่าค๊าเนี่ย
1 กุมภาพันธ์ 2556 10:57 น. - comment id 125297
คห..19- 22 เก็บไว้ดูเล่นก่อง..มีรัยปะ?
30 มกราคม 2556 18:26 น. - comment id 131515
โห น่ากลัวมากเลยอ่ะแกร...บางทีภัยก็เกิดใกล้ๆตัวเราได้ตลอดเวลาจริงๆ อ่านไปก็นึกถึงตัวเองนะเนี่ย เพราะก่อนจะถึงบ้านจะมีบ้านร้างสองหลัง แต่หมู่บ้านทางเข้า ออกทางเดียวและมียามปั่นจักรยานตรวจตลอดไง เลยเหมือนประมาทอยู่เนืองๆ ต่อไปจะระวังตัวเองให้มากขึ้นเหมือนกันฟร่ะแกร บางทีความเคยชินก็ทำให้เราลืมสิ้นถึงความระมัดระวัง ขอบใจที่เล่าเป็นอุทาหรณ์นะแกร คุณพระคุ้มครอง ฝากขวัญเอ๊ยขวัญมาพี่สาวด้วยสิ
30 มกราคม 2556 20:59 น. - comment id 131516
อืมมม อันตรายจริง ๆ .. นานมาแล้วโน้น พี่สาวของเราก็ถูกจี้ ตอนนั้นเป็นขากลับบ้านประมาณสองทุ่มกว่า เดินทางลัดเข้าซอย ก็มีบ้านคนอยู่นะ แต่ละบ้านมีกำแพงสูง มันก็เลยเหมือนกับว่า เปลี่ยว .. จำได้ว่าตอนนั้น นั่งทำการบ้านอยู่ชั้นล่าง พี่สาวเดินเข้าบ้าน แบบสติแตก คือ เดินเข้าบ้านโดยไม่ถอดรองเท้า เดินขึ้นบันไดไปชั้นสองอีกต่างหาก เราก็เลยตะโกนถาม "ไม่ถอดรองเท้าเหรอเนี่ย" แค่นั้นแหล่ะ เหมือนสติกลับคืน ร้องไห้โฮ .. ก็โดนสอยสร้อยคอไปสองสลึง โจร 2 คน ใช้มีดจี้ พี่สาวคงจะตกใจมาก ไข้ขึ้นไปหลายวันเชียวล่ะ
30 มกราคม 2556 23:57 น. - comment id 131517
ฉันเชื่อเพราะแถวบ้านขนาดกลางวันแสกๆ ยังโดนกระชากกระเป๋าเลย หลายๆครั้งแต่ว่า ตำรวจสมัยนี้ไม่เคยสนใจเลยเรื่องนี้ แย่จริงๆ ดีนะมันยังใจดีที่ไม่เอาเงินยังมีคุณธรรมอยู่ บ้างหรือสงสารกระมังที่มาจากต่างจังหวัดนะ รักเสมอๆๆ แก้วประเสริฐ.
31 มกราคม 2556 03:50 น. - comment id 131518
บอกพี่สาวเลย โชคดีมากๆ ที่มันเอาแค่นั้น เราปลอดภัยมาได้นี่โชคดีสุดๆ คราวหน้าอย่าประมาท เคาะประตูบ้านดังๆโลด ญาติๆกันกัวไร ตี2 ตี 3 ตี4 แหกปากเรียกออกมาให้หมดทั้งบ้าน อิอิ จัดไป..
31 มกราคม 2556 09:55 น. - comment id 131519
อะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ ทำให้รู้สึก กลัวๆเหมือนกัน ที่หมู่บ้านพิม ก็เงียบม๊ากๆเวลาลงรถเปิด ประตูรั้วมืดๆค่ำๆ ต้องมองซ้ายขวา ว่ามีใครแอบซ่อนอยู่ตรงไหนป่าว พี่สาวปลอดภัยก็ดีแล้วค่ะคุณอ้อย สิ่งของนอกกาย เด๋วหาใหม่ได้เนาะ เฮ้อ... สมัยนี้น่ากลัวจัง
31 มกราคม 2556 09:59 น. - comment id 131520
โชคดีแล้วละ ที่พี่สาวปลอดภัย มันไม่ทำร้ายเอา พี่สาวพี่ก็ถูกกระชากกระเป๋าตอน หกโมงเย็น เรียกคนช่วย ไม่มีใครกล้า เพราะเขารู้ว่า พวกนี้ติดยา เสียแหวนไปแล้ว ก็ให้หมดเคราะห์นะคะ
31 มกราคม 2556 10:00 น. - comment id 131521
ลชร.... อืม..นั่นดีแกร..โดยเฉพาะเอวบางร่างน้อย อย่างแกรด้วยเนาะ...บางครั้ง ความที่เรา คุ้นเคยกับการเข้าออกในซอย..เพราะอยู่ มานาน..มันก็อาจทำให้เราระวังตัวน้อยไป หรืออาจไม่คิดระวังเลยก็ได้น๊ะแกร... ทางที่ดีอย่างประมาทเป็นดีที่สุด
31 มกราคม 2556 10:04 น. - comment id 131522
คุณอิม.... ใช่ค่ะ มันอันตรายจริงๆสมัยนี้..ยิ่งทองราคา แพงขึ้น..มิจฉาชีพก็มีมากขึ้น..เรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นกับใคร..ก็คงไม่มีใครลืมได้ลงเนาะ.. เหมือนกรณีพี่สาวคุณและพี่สาวอ้อย..คิดว่า คงจำไปตลอดชีวิตนั่นหล่ะค่ะ
31 มกราคม 2556 10:08 น. - comment id 131523
ครูแก้ว.... โจรสมัยนี้มันไม่ค่อยเลือกเวลาจริงๆค่ะครู.... ถ้าสบโอกาสเป็นลงมือทันที..ก่อนหน้านี้ก็มี เพื่อนอ้อยที่อยู่ซอยเดียวกันนี่แหล่ะค่ะ.. โดนกระชากกระเป๋า..ตรงปากซอย... แถบมันยังฝากรอยฝามือเอาไว้ที่หน้าด้วย.. และก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยเหมือนเคย..
31 มกราคม 2556 10:10 น. - comment id 131524
ยา... บอกแระ..อิอิ ตอนนี้พี่สาวอ้อย คิดเปลี่ยนแผนการเดินทางเรียบร้อยแระ.. จากกลางคืน..เป็นกลางวัน
31 มกราคม 2556 10:15 น. - comment id 131525
คุณพิม... ต้องระวังให้มากๆน๊ะคุณพิม..ยิ่งเป็นผู้หญิง ขับรถคนเดียว..พวกโจรเดี๋ยวนี้มันมาหลาย เวอร์ชั่น..อิอิ อ้อยจะเตือนน้องสาวอ้อยเสมอๆ เพราะเขา ก็เหมือนคุณพิม...ต้องขับรถไปทำงานทุกวัน บางวันก็กลับดึกๆดื่นๆ...จะบอกเขาเสมอๆว่า มีอะไรผิดปกติห้ามลงจากรถเด็ดขาด... โทรศัพท์มือถือให้พร้อมใช้งานทันที...
31 มกราคม 2556 10:20 น. - comment id 131526
เจ๊แบม... อ้อยก็บอกแบบที่เจ๊ว่านั่นหล่ะค่ะ..เงินทอง มันของนอกกาย..อย่าไปเสียดายมัน... ชีวิตเราสำคัญมากกว่าอะไรทั้งหมด .ดูซิ อย่างน้อยก็มีคนที่ประสบเหตุการณ์ เหมือนกัน..ไม่ว่าจะเป็นพี่สาวเจ๊, คุณอิม, และอ้อย.. เรื่องแบบนี้มันใกล้ตัวเรา มากๆเลย...สิ่งที่เราพึงกระทำคือระวังและ ไม่ประมาทเป็นดีที่สุดเนาะเจ๊เนาะ
31 มกราคม 2556 12:09 น. - comment id 131527
ไปไหนมาไหนต้องระวังมากๆ จ๊ะ
31 มกราคม 2556 12:30 น. - comment id 131528
รับสอนศิลปะการป้องกันตัว...หน้าบ้าน ดีจร้า...อาคุงพม่าคลองสาน... เจ้ย...รู้ว่าอาคุงอ้อย โออิชิ ไม่ชอบ แต่เฮาช๊อบ ชอบบบบบ จาเล่นๆๆๆ เน๊อะอาคุงแบมเน๊อะ โชคดีมากๆ ที่พี่สาวไม่เป็นอันตรายใดๆ...อ่ะ "ทอง"...เป็นของประดับ...ในยามที่สังคม ร่มเย็น สงบสุข "ทอง"...เป็นของสะสม ....ในยามที่เศรษฐกิจย่ำแย่... "ทอง"....เป็นของอันตราย...ในยามที่บ้านเมือง...เต็มไปด้วยความเสื่อมทางจริยะ และ.... "ทอง"...เป็นของไร้ค่า...เมื่อ "น้องน้ำ" มา...อิอิ รับปรึกษา ตั้งฉายา ตั้งชื่อ...และตั้งนามปากกา...ใหม่ โต้ยยยยย.... ราคากันเอง...ม่ายแพงงงง
31 มกราคม 2556 17:42 น. - comment id 131535
อ่านๆดูแล้ว ดูท่ามันจะหยิ่งนะจ๊ะคุณอ้อย ก็เงิน 600.00 มันไม่เอา ยังไงก็ถือว่าฟาดเคราะห์ไปละกัน พี่สาวเอาตัวรอดปลอดภัยมาได้ ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว
1 กุมภาพันธ์ 2556 08:13 น. - comment id 131543
คุณกุ้งฯ..... ถูกต้องเลยค่ะ..ต้องระวังดับเบิ้ลระวัง
1 กุมภาพันธ์ 2556 08:21 น. - comment id 131544
กรต.... ยังอยู่แถวนี้เร้อ...คุงตะหาน ดีใจล่วย ฮ่อๆๆๆ.... ทอง(ม้วน) ขนมอร่อยขึ้นชื่อของเมืองกาญจน์ ทอง(หยิบ,หยอด,เอก) คือตำนานขนมไทย และมีทองอะไรอีกเนี่ย... อ๋อๆๆ คิออกแระ..ทองประกายแสดนั่นไง ละครไทยในทีวี..คิคิ
1 กุมภาพันธ์ 2556 08:23 น. - comment id 131545
พี่ดิน.... ถึงว่าซิพี่...เงิน 600 ไม่มีความหมายสำหรับ มัน...จุจุ กาซิบๆ..นี่ถ้ามันรู้ว่าจริงๆแล้วมีอะไร ที่มากกว่านั้น..มันไม่ปล่อยกระเป๋าสตางค์ให้ ลอยนวลแน่ๆค๊าพี่
1 กุมภาพันธ์ 2556 08:41 น. - comment id 131546
ชิชะ...ไม่ยอมพูดถึงทองดี ทองหล่อ ทองกวาว ทองลิ่ม ทองแท่ง ทองเหรียญ ทองบ่อ ทองก้อน ทองธง ทองสุก ทองขาว ทองแดง ทองเหลือง ทองมี ทองรีด ทองบุบ ทองทุบ ทองใบ ทองพันชั่ง ทองเครือ ทองเค ทองทะเล ทองชุบ แระก้อ ทองไชย แมคอินไตย โต้ยล่ะ ป๊าดดด (เฮ้อ เหนื่อยวุ๊ย) อิอิ เมื่อคืน นอนฝันถุงคุงอ้อยโต้ยล่ะ... ฝันว่านัดกัน แต่คุงอ้อยเผียดนัด ไม่ มา เรยม่ายเจอ หว่าาาาาาา
1 กุมภาพันธ์ 2556 08:47 น. - comment id 131547
หมั่บ.... เผลอเหรอ ๆๆๆๆๆ อิอิ ชื่อดี นะ "เผลอเหรอ" เนี่ยะ ...ให้ใช้แทน ผ้าม่า ไปยางน้อย ได้น้า อิอิ
1 กุมภาพันธ์ 2556 08:49 น. - comment id 131548
กึ๊ย....เมื่อกี้ เม้นท์ หมั่บ บ้านใครไปฟระ เฮา กำ ตาเริ่มฝ้าฟาง กระยางย่อง แระจิ
1 กุมภาพันธ์ 2556 08:51 น. - comment id 131549
อ้าว.... ก็ถูกบ้านแว้ววว นิ
1 กุมภาพันธ์ 2556 10:03 น. - comment id 131551
น่าจะโทบอกให้มารับหรือรอเปิดบ้านรับด้วย ขนาดอยู่หน้าบ้านยังโดนจี้ ขนาดมีคนมาก แต่ห่างไกล ยังไม่มีใครช่วย นอกจากพวกขี้ยาแล้ว ยังมีพวกเล่นพนันบอล ตอนเช้ามืดนี่คงรู้ผลว่าเสียพนัน เลยต้องรีบหาเงินไปใช้หนี้ ต้องระวังตัว ไม่ประมาท ในทุกกรณี ขนาดที่ร้าน ยังโดนฉกกระเป๋าตัง ที่วางแอบไว้ คนร้ายแปลกหน้า มาสั่งข้าวกล่อง เราก็เข้าไปสั่งหลังร้านกลับออกมาเร็วไป เขารีบสั่งทำเพิ่มอีกหลายๆอย่าง เราต้องกลับไปสั่งอีกนานหน่อย ออกมา เขากลับไปที่มอไซ บอกรีบไปธุระเดี๋ยวมาเอา เราก็รอแล้วรอเล่า ไม่เห็นมาเอา นึกเฉลียวไปหากระเป๋าตัง จึงรู้ว่าสาบสูญไปแล้ว ลูกค้าแปลกหน้าคนนั้นก็ไม่ได้เจออีกเลย (ถึงเจอก็จำหน้าไม่ได้แล้ว) ช่วงนั้นเป็นช่วงบอลโลก มาที่ร้านแต่เช้าตรู่เลย (เงินจึงไม่มาก มีแต่ตังที่เตรียมไว้ทอน) เดี๋ยวนี้เลยไม่ใช้กระเป๋าต่างหาก แยกไว้แค่เงินเหรียญ พวกแบ๊งจะยัดใส่กระเป๋ากางเกงเลย (แต่ก็ต้องระวัง ควักเข้าควักออก เคยทำร่วงบ่อยๆ) ดีแล้วนะครับ ที่ไม่เป็นอะไร
1 กุมภาพันธ์ 2556 13:55 น. - comment id 131560
ภัยต่างๆ ในสังคมเมือง หรือแม้แต่ในชนบท เริ่มมีมาก มีหลากหลาย ดีที่มันไม่ทำร้ายเอา ...จะหวังพึ่งท่านโปลิศได้ไหมละนี่ เพราะเป็นหน้าที่ของท่าน
3 กุมภาพันธ์ 2556 12:41 น. - comment id 131571
ปู่กิ่งฯ พูดอีกก็ถูกอีกนั่นหละค๊า. . คนเราสมัยนี้ รู้น่าไม่รู้ใจ...วัดอะไรแทบไม่ได้. เหอๆๆๆๆ.
3 กุมภาพันธ์ 2556 12:54 น. - comment id 131572
ปิดท้ายด้วย. คห.19-22 กรต.... . ถ้าอ้อยพูดหมด เด่วคุงตะหานไม่มีงานทำ... เหงแมะ..ใครจะมีน้ำใจเยี่ยงนี้. > > > ใครเผียดนัดย๊ะ..บอกไม่เหงเองหละ..เอ รึว่า เราจะตัวเล็กเกินไปหว่า. รึไม่ก็อาจจะงามเกิ้นนนน..
3 กุมภาพันธ์ 2556 12:55 น. - comment id 131573
3 กุมภาพันธ์ 2556 12:56 น. - comment id 131574
30. หมั่บเข้าให้. ไม่ได้งกสักกะติ๊ดดด
6 กุมภาพันธ์ 2556 12:15 น. - comment id 131598
ข้อความนี่....เม้นท์เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวัน คล้ายวันเกิด ประเสริฐศรี ของหนึ่งหญิง ในลิงน้อย อ้อย บังยี... ลิงผู้พี่...โตที่สุด มนุษย์วานร จงร่ำรวย ด้วยอารมณ์ ผสมสิบ เปิดไพ่หยิบ จงเจอโจ๊ก ลดโลกร้อน สุขกับหลาน งานกระเป๋า ไม่เง้างอน ดูวัยอ่อน เมื่อก่อนหน้า ไปห้าปี ขออวยพรให้ อาคุงอ้อย จงมีแต่ฟาร์มสุข ฟาร์มทุกฟาร์ม...ที่ลงทุนปลูก ลงทุนดูแล.... จงงอกเงย ได้เชย ได้ชม ผลผลิต คิดสิ่งใด ที่เป็นไปได้ ............. ให้ ได้.... คิดสิ่งใดที่ เป็นไปไม่ได้.......... ให้ได้ .... (อีกนั่นแระ อิอิ ) แระเจ้าจงจำไว้.....มารพิณพิฆาต...คิดจะกำจัดทุกคน เพื่อเป็น จ้าวยุทธภพ.... เจ้าจงตั้งใจฝึกเพลงกระบี่ สงขลา สตูล ให้ถึงขั้นสูงสุด... แว้วเจ้าจะโชคดี...อิอิ สุขสันต์ วันเกิดจร้า...อาคุงอ้อย โออิชิตัน...
7 กุมภาพันธ์ 2556 12:24 น. - comment id 131611
เห็นข้อความตามเม้นท์มีเว้นวรรค พลพรรคลักลิงแล้วชิ่งหนี ลิงสีแดงตัวเก่าไม่เข้าที จึงรีบรี่หยิบใหม่แต่ไซส์เดิม ลิงพี่น้องตระกูลเตียใส่เกียร์หลบ อยู่บนคบป่าลึกทำฮึกเหิม วิ่งลัดตามเกาะแก่งเที่ยวแต่งเติม ขาไม่เสริมใยเหล็ก จะเก๊กซิม! คำอวยพร ขอรับ นะครับผม หวานเป็นลม ข่มไว้ กลายเป็นสนิม ( เกี่ยวรึป่าว..วุ๊ยคะ!!!) ชะเง้อคอคอยเชลล์ไม่มาชิม เชือดนิ่มนิ่ม อิ่มเอง วังเวงจัง 55555555555 มั่วไปได้นิ..อิอิ ขอบคุงน๊ะ..คุงตะหาน สำหรับคำอวยพร ซาบซึ้ง ถ้วย ถัง กาละมัง หม้อ กะทะ ตะหลิว ไชโยโห่ฮิ้วววววว
7 กุมภาพันธ์ 2556 13:01 น. - comment id 131615
ณ จุดนี้ ขำท่าเดียว ฮ่า
7 กุมภาพันธ์ 2556 17:09 น. - comment id 131618
ลชร.... ท่าไหนฟร่ะตรูม่ายเหง...
8 กุมภาพันธ์ 2556 21:07 น. - comment id 131633
34 ท่าพระจันทร์ไง ตรูเหง เนอะฝนเนอะ
8 กุมภาพันธ์ 2556 21:14 น. - comment id 131634
อ่านเรื่องพี่สาวเจ้แระใจหาย โชคดีที่รอดเงื้อมือมารฟร่ะ แต่มาฮาขี้แตกขี้แตนตอนอ่านเม้นท์เฮียกีร์กะเจ้อ้อยนี่แหละ
14 กุมภาพันธ์ 2556 14:52 น. - comment id 131641
อันตรายรอบด้านเลยนะคะสมัยนี้
14 กุมภาพันธ์ 2556 16:59 น. - comment id 131644
กานต์.... ถั่วต้มเลยน้องเอ๊ยยยยย..ไปไหนมาไหน ระวังตัวเองด้วยเด้อ
12 กุมภาพันธ์ 2556 13:53 น. - comment id 131660
12 กุมภาพันธ์ 2556 13:53 น. - comment id 131661
12 กุมภาพันธ์ 2556 13:54 น. - comment id 131662
40 ปิดม่านแระค๊า
9 กุมภาพันธ์ 2556 19:23 น. - comment id 131664
ลสร....34 เหงอยู่ท่าเดียวเร้อแกร... ตรูต้องขอบพระคุงแกรด้วยมั๊ยค่ะ ลสร...35 แกรหาเจอยังฟระไอ่ลิง..ใจที่หายอ่ะ รึว่ามังตกไปใน อุจาระที่แกรทิ้งไว้บ้านตรูซะ แร้นนนน โหนยๆๆๆ มาทำให้บ้านตรูมีกลิ่น ตุตุ