มิตรผู้ยากไร้ของฉัน หากท่านเพียงแต่รู้ว่าความยากจนอันเป็นเหตุทำให้ท่านต้องทุกข์ทรมานอย่างยิ่งนั้น คือสิ่งเดียวเท่านั้นที่เปิดเผยความรู้ในเรื่องความยุติธรรมและความเข้าใจแห่งชีวิต ท่านก็ย่อมจะพอใจกับส่วนของท่านที่มีอยู่ ฉันกล่าวถึงความรู้เรื่องความยุติธรรม เพราะคนร่ำรวยนั้นเขายุ่งสาละวนอยู่กับการสะสมทรัพย์สินมากเกินกว่าที่จะแสวงหาความรู้นี้ และฉันกล่าวถึงความเข้าใจในชีวิต เพราะคนแข็งแรงนั้นเขากระตือรือล้นในการให้ได้มาซึ่งอำนาจและเกียรติยศจนเกินกว่าที่จะรักษาทางเที่ยงตรงแห่งสัจธรรมไว้ได้ และจงปีติเถิด สหายคนยากของฉัน เพราะว่าท่านนั่นแหละคือโอษฐ์แห่งความยุติธรรมและตำราแห่งชีวิต จงพึงใจเถิดเพราะเหตุว่าท่านคือบ่อเกิดของคุณความดีในบุคคลซึ่งเป็นผู้ปกครองเหนือท่านและเป็นเสาแห่งความสัตย์ของบุคคลผู้วิ่งนำท่านไปเหล่านั้น โอ้สหายผู้อาดูรของฉัน หากท่านสามารถเห็นได้ว่าเคราะห์ร้ายซึ่งทำให้ท่านต้องพ่ายแพ้ในชีวิตนั้นคืออำนาจอันยิ่งใหญ่ที่ฉายแสงอยู่ในหัวใจท่านและยกวิญญาณท่านขึ้นจากหล่มแห่งความเย้ยหยันไปสู่บัลลังก์ของการคารวะ ท่านก็ควรพึงใจในส่วนแบ่งของท่านและท่านควรถือมันดุจดังมรดกที่สอนท่านและทำให้ท่านเฉลียวฉลาด ก็เพราะว่าชีวิตคือสายโซ่ที่สร้างขึ้นจากข้อต่อที่แตกต่างกันมากมาย ความทุกข์โศกเป็นข้อทองอันหนึ่งระหว่างการยอมจำนนต่อความหวังปัจจุบันและความหวังที่ได้สัญญาไว้ในอนาคต มันคืออรุณรุ่งระหว่างความหลับและความตื่น สหายคนยากของฉันเอ๋ย ความยากจนจักสถาปนาเกียรติศักดิ์แห่งวิญญาณในขณะที่ความมั่งคั่งเปิดเผยความชั่วของมัน ความวิปโยคโศกเศร้าทำให้เกิดความรู้สึกอ่อนโยนและปีติ เยียวยาหัวใจที่เป็นแผล ถ้าความทุกข์และยากจนถูกทำให้สิ้นไป ในวิญญาณของมนุษย์ก็จักเหมือนดังแผ่นว่างเปล่าที่มิได้จารึกสิ่งใดไว้ เว้นแต่สัญลักษณ์แห่งความเห็นแก่ตัวและจะกละละโมบ จงจำไว้เถิดว่าอมตทิพย์คืออัตตาที่แท้จริงของมนุษย์มิอาจขายแลกกับทองหรือมิอาจนำมากองพะเนินเหมือนกับความร่ำรวย ปัจจุบัน เศรษฐีได้เหวี่ยงทิ้งอมตทิพย์ของเขาไปเสียแล้วและยึดติดอยู่กับทองของเขา แลเด็กหนุ่มสาวปัจจุบันได้ทิ้งอมตทิพย์ของเขาไปติดสอยห้อยตามการปล่อยตนและการเริงสำราญ คนยากจนที่รักของฉันเอย ชั่วโมงที่ท่านใช้อยู่กับลูกเมียของท่านที่บ้านเมื่อท่านกลับมาจากท้องทุ่งนั้นคือกำลังใจแห่งครอบครัวมนุษย์ทุกๆ ครอบครัวที่จะมีมา คือเครื่องหมายแห่งความผาสุกซึ่งจะเป็นส่วนของอนุชนทุกรุ่นที่จะติดตามมา แต่ชีวิตซึ่งคนร่ำรวยใช้ในการสะสมทองให้เป็นกองพะเนินนั้น ความจริงแล้วก็เหมือนกับชีวิตของตัวหนอนในหลุมศพ มันคือสัญญาณแห่งความหวาดกลัว เพื่อนผู้อาดูรของฉัน น้ำตาที่ท่านหลั่งลงนั้นบริสุทธิ์ยิ่งกว่าเสียงหัวเราะของผู้แสวงหาหนทางลืมเลือน และหวานซึ้งยิ่งกว่าคำเยาะหยัน น้ำตาเหล่านี้ชำระหัวใจของผู้ทำลายความจงเกลียดจงชัง และสอนให้คนรับเอาความปวดร้าวจากผู้หัวใจแหลกสลาย มันคือหยาดน้ำตาแห่งเยซูคริสต์ แรงงานที่ท่านใช้ไปเพื่อคนร่ำรวยนั้นท่านจะได้เก็บเกี่ยวในกาลที่มีมา เพราะทุกสิ่งย่อมกลับไปสู่แหล่งของมันตามธรรมชาติ และความวิปโยคโศกศัลย์ซึ่งท่านได้รับนั้นจักกลายเป็นความชื่นชมโดยเจตนารมณ์แห่งสวรรค์ อนุชนทุกสมัยจักเรียนรู้ถึงความวิปโยคและความทุกข์ยากที่เป็นบทเรียนแห่งความรักและความเสมอภาค คำครู คาลิล ยิบราน เขียน น่านรังษี กิติมา แปล