ใกล้ต่ำวันเสาร์ที่ 10 ช่างปลอดโปร่งอะไรเช่นนี้ไม่มีนัด ไม่มีรายการเสวนาในโปรแกรมชีวิต เข้ามาที่ร้านอาหารเจ้าประจำกำลังจะสั่งอาหารอ่อน ๆ ประเภทข้าวต้มเครื่องหรือไม่ก็ออส่วน ให้หนักท้องประมาณว่านอนให้อิ่มสักคืน บรรดาเพื่อนคอเดียวสงสัยจะไปทอดกฐินกันหมดลืมเราเสียแล้ว ยังไม่ทันสั่งอาหารอะไรเสียงเรียกโทรเข้ารับจึงรู้ว่าเพื่อนรุ่นพี่ซึ่งนาน ๆเจอกันทีโทรมาขอความช่วยเหลือ อิอิ แค่นี้เราก็รู้แล้วว่าให้ไปช่วยเปิดขวด ไม่ได้อิดออดโยกเยก เดี๋ยวเดียวก็มาถึงบ้านหลังใหญ่เนื้อที่เป็นไร่แต่อยู่คนเดียวมานานแล้วเพราะปลูกบ้านเตรียมแต่งงาน ว่าที่เจ้าสาวดันไปมีผัวซะก่อนแถมเชิดเงินที่เขาไว้ใจให้เก็บรวบรวมเป็นทุนไปซะด้วยหมดไปหลายล้านเลยกลายเป็นกัปตันเรือเดินทะเลแก่ๆสี่สิบกว่าล่องลอยไปเหมือนพวงมาลัย เราก็เหมือนเพื่อนที่ถูกใจถูกคอเวลาว่างก็จะได้พบกันอย่างวันนี้ พอไปถึงก็ส่งขวดให้ช่วยเปิดทันที เป็น Johnnie Walker Pure Malt Extra Special 15 year old ขวดลิตรกล่องเก่าคร่ำคร่าคงจะเก็บไว้นานเกินสิบปีแน่ น่าจะหิ้วมาจากมาเลเซียเพราะบริษัทนำเข้าอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ กลิ่นของ malt ช่างหอมชื่นชวนซะจริงเจียว เราลิ้มละเลียดกันเพียว ๆ อย่างสุขสมก่อนผสมน้ำแข็งโซดา นึกถึงยาแก้ปวดและเพื่อนพ้องของเธอ ซึ่งเคยบอกว่าชอบบรรยากาศของการดื่มสุรามากกว่าสุราถ้ามาอยู่ด้วยคงอดที่จะร่วมชิมไม่ได้แน่ พูดคุยสร้างบรรยากาศไม่ทันไรมีแขกมาบ้านสนทนาธุระกับพี่เขาเดี๋ยวเดียวเลยชวนกันมาร่วมวง เป็นคนสูงอายุที่ยังแข็งแรงเกษียรราชการมานานแล้วจากการเสวนากันจึงได้ทราบว่าเป็นข้าราชการกรมบัญชีกลางแล้วย้ายออกไปต่างจังหวัดเริ่มตั้งแต่ผู้ช่วยคลังหลายจังหวัดจนเป็นคลังจังหวัดอีกหลายจังหวัดก่อนเกษียรเป็นถึงท่านคลังเขต ทางภาคอิสานคอแข็งพอสมควรท่านไม่ทิ้งหลักการทุกอย่างแม้แต่การคุยแต่ก็มีมุขตลกขบขันมาโต้กับเราไม่เบาเหมือนกันจนเริ่มขวดที่สองเหล้าชนิดเดียวกันท่านคลังเขตจึงได้ลากลับไปเมื่อใกล้จะสองยาม พี่เค้าบอกว่าวันนี้กับแกล้มมีน้อยไม่ได้เตรียมอะไรไว้กินจึงชวนกันไปต่อข้างนอกดีกว่าดึกแล้วเด็กแว๊นซ์มีมากเอารถยนต์เก็บไว้เรียบร้อยแล้วพากันนั่งแท๊กซี่พักเดียวก็มาถึงร้านข้าวต้มหน้าวัดบวร เจ้าเก่ากินตาม ๆ กันมาตั้งแต่รุ่นไหนไม่รู้ ไม่ได้เอาเหล้าที่เหลือเกือบครึ่งขวดมาด้วย ก็เลยสั่งเบียร์มาดื่มระหว่างรอกับข้าวอีกซะคนละขวด กว่าจะอิ่มข้าวต้มก็ตกเข้าไปตีสองเข้าไปแล้วพี่เค้าเกิดนึกขึ้นได้ว่านัดกับผู้หลักผู้ใหญ่ไว้เรื่องไปทอดกฐินวันอาทิตย์ที่ 11 เลยพากันนั่งแท๊กซี่ไปบ้านหลังหนึ่งในซอยระนอง พอไปถึงเค้าก็กำลังตระเตรียมรถตู้คันใหญ่ ประมาณ 12 - 13 ที่นั่ง มีสี่แถว ๆละ สามคนยังไม่มีใครมาขึ้นรถคงตระเตรียมกันอยู่พี่เค้าบอกว่าไปเที่ยวทอดกฐินกันดีกว่าเนาะวันเดียวเท่านั้น อารามที่กำลังเมาด้วยกันอยู่ก็เอาก็เอา ขึ้นรถไปนั่งท้ายสุดมีสามที่นั่งแต่เรานั่งกันสองคนไม่อึดอัดมากนักนั่งรอยังไม่มีใครขึ้นมา รอไปรอมารู้ตัวอีกทีรถมาจอดหน้าร้านขายข้าวแกงมีหม้ออลูมิเนียมขัดขาวเรียงเป็นตับตะวันแจ้งเจ็ดโมงเข้าไปแล้วหลับไปยังไงไม่รู้พอลงมาถึงได้รู้ว่าอยู่ที่ท่าแซะ จ.ชุมพรร้านอาหารครัวเมืองคอนคนที่ไปด้วยเป็นคนเฒ่าคนแก่ลูกหลานเป็นเด็กเล็กหลายคนทำความเคารพทักทายกันแล้วต่างก็สั่งอาหารกินส่วนมากจะเผ็ดแต่อร่อย ขนมจีนน้ำยา แกงเขียวหวานไก่ ผัดเผ็ดกบ ข้าวยำ ฯ เด็ก ๆ มีแกงจืดเต้าหู้ กินแล้วรีบขึ้นรถไปต่อถึงได้รู้ว่าจะไปทอดกฐินที่ระนองเป็นกฐินสามัคคีสายนี้มีแต่ซองใส่เงินไม่มีเครื่องกฐินอะไรก็เลยผสมทำบุญไปด้วยตามสมควร พี่เค้าบอกว่าชุดนี้เป็นญาติทางแม่ รวมทั้งคันมากันก็สิบคนเราก็เลยเล่านิทานหลอกเด็กเป็นที่ครื้นเครงนิทานเดอร์ตี้โจ๊กไม่กล้าเล่ากลัวคนแก่ฟังไม่ได้ สักสิบโมงรถมาถึงหน้าวัดจังหวัดระนองโธ่เอ๋ยอยู่ตรงบ่อน้ำพุร้อนนั่นเอง ชาวบ้านเรียกวัดบ่อน้ำร้อน แต่ชื่อจริง ๆว่า วัดตโปทาราม ผู้คนแน่นขนัดเป็นกฐินสามัคคีมากันหลายต่อหลายทิศทางพี่เค้าคงมีพื้นเพเดิมอยู่ระนอง ญาติผู้ใหญ่เขาเจอกันดีอกดีใจได้มาทำบุญร่วมกันใกล้เวลาเลี้ยงเพลเค้าก็พากันขึ้นไปเลี้ยงพระกันแล้วก็คงกินอาหารตามธรรมเนียมกว่าจะทอดกฐินตามพิธีก็คงบ่ายเราจึงเลี่ยงลงมาดูสภาพพื้นที่แม้เคยมาหลายครั้งวแต่ก็ได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปเยอะแยะจนจำไม่ได้ รักษะวาริน ตามชื่อเรื่อง แปลว่าการรักษาโรคด้วยน้ำ เป็นชื่อสวนสาธารณะ รักษะวาริน สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ตั้งชื่อไว้เมื่อเสด็จประพาส พศ. 2510 บ่อน้ำร้อนมี 3 บ่อ ชื่อบ่อพ่อใหญ่ที่สุด รองไปก็ บ่อแม่ และ บ่อลูกสาว บ่อพ่อมีน้ำแร่ร้อนไหลรินตลอดเวลามีไอร้อนขึ้นโขมงตลอดเวลา ข้าง ๆนั้นจึงมีบริการเป็นอ่างใหญ่อาบน้ำร้อน ค่าบริการท่านละ 40 บาททั้งหญิงชายลงอาบร่วมกันต้องนุ่งห่มมิดชิดไม่เหมือนญี่ปุ่น เพราะเป็นที่โล่งแจ้งคนใช้บริการล้นหลาม ความร้อนประมาณ 65 องศาเซลเซียสว่ากันว่ารักษาโรคได้หลายชนิด เช่น โรคไขข้อกระดูก ขยายหลอดเลือด บำรุงผิวพรรณ โรงแรม และสถานบริการใกล้เคียงหลายแห่งต่อน้ำแร่ร้อนนี้ไปให้บริการลูกค้าด้วย ใกล้ ๆ นั้นมาลานสุขภาพ ให้บริการประชาชนฟรี เทศบาลคงจะจัดทำเพื่อความสุขของประชาชน เป็นลานซีเมนต์มีหลังคาและรั้วกัน เขาตีเส้นแบ่งช่องไว้ให้คนเข้าไปนอนเรียงกันได้เป็นจำนวนมากใต้ลานซีเมนต์เขาเอาไอร้อนจากบ่อน้ำร้อนผ่านเครื่องควบคุม พ่นแผ่กระจายใต้ลานซีเมนต์ ทำให้ลานซีเมนต์นั้นร้อน นอนเพื่อผ่อนคลายรักษาโรคต่าง ๆมีคำแนะนำให้ไม่ควรนอนเกิน 30 นาทีอาจจะทำให้วิงเวียนได้ เราได้ลองนอนดูรู้สึกว่าแรก ๆร้อนจนทนไม่ไหว กระทะทองแดง ตกลงไปแล้วเป็นยังไงก็ได้รู้ซึ้งคราวนี้ แต่พอนอน ๆไปสักพักก็รู้สึกสบายดีลุกบ้างนอนบ้างทำให้รู้สึกดีมาก ๆ ใกล้ ๆบ่อน้ำร้อนมีลำห้วยกว้างมีน้ำไหลผ่านตลอดเวลาแต่น้ำที่ไหลกลับเป็นสีขาวขุ่นข้น มีสะพานขึงด้วยลวดสลิงกว้างประมาณเมตรกว่าพาดด้วยไม้กระดานถึงสองสะพาน สามารถเดินข้ามไปเที่ยวสวนสาธารณะฝั่งตรงข้ามได้ นั่งบนสพานขึงมองไปตามลำห้วยเห็นก้อนหินระเกะระกะสุดลูกตาน้ำสีขาวขุ่นไหลมาตามซอกหินด้านเหนือขึ้นไปประมาณ 8 กมเป็นตำบลหาดส้มแป้น เป็นเหมืองเก่าของชาวจีนโบราณ เดิมเรียกว่า ห้วยซานเปียน หรือ ห้วยซัมเปานานเข้าเพี้ยนมาเป็นหาดส้มแป้น อยู่ท่ามกลางขุนเขาโอบล้อมด้วยขุนเขานมสาวมีแหล่งดินขาวมากมายเป็นสาเหตุให้น้ำไหลละลายเอาดินขาวไหลมาขุ่นข้นถึงด้านล่าง สักสองโมงเราย้อนกลับไปบนศาลาและเมื่อได้ยินเสียงพระสวด"อันว่าผ้ากฐินเป็นของบริสุทธิ์ดุจเลื่อนลอยมาบนนภากาศ ตกลงท่ามกลางระหว่างสงฆ์" เท่านี้เราก็รู้แล้วว่าพิธีกำลังจะเสร็จสิ้นลงแล้วไม่นานนักก็กรวดน้ำรับพรจากพระ เสร็จแล้วรวบรวมไพร่พลที่ไปด้วยกันเตรียมตัวกลับเราอยู่ไกลต้องรีบกลับ ผู้ใหญ่เขาร่ำลากันแล้วพากันจูงลูกหลานขึ้นรถมีญาติมาลาส่งกันบ้างนิดหน่อยแล้วรถของเราก็ออกมุ่งกลับบ้าน หลับ ๆตื่น ๆมาถึงประจวบแวะเข้าไปทางด่านสิงขรกินอาหารเย็นกันที่ร้านผู้ใหญ่ฉอ้อน เนื้อกวางผัดเผ็ด กบทอดกระเทียมพริกไทย แกงป่าไก่บ้าน เด็ก ๆกินได้แต่ไข่เจียวน่าสงสารจริงเราจะสั่งเบียร์ก็เกรงใจผู้ใหญ่ก็เลยกินโค๊กแทนอิอิ ทีแรกว่าจะไปเที่ยวด่านสิงขรแต่ทางร้านเขาบอกว่าไม่มีอะไรด่านปิดข้ามไปไม่ได้ มีแต่กล้วยไม้ โต๊ะเก้าอี้ พลอย ไข่มุกปลอม ๆ เราก็เลยไม่ไปไม่มีคนไปเที่ยว กลับออกมามุ่งกลับกรุงเทพฯ มืดกลางทางแวะซื้อของฝากแถวเพชรบุรีบ้างเล็กน้อยมาถึงบ้านญาติผู้ใหญ่ก็ใกล้สองยามเข้าไปแล้ว คืนนี้ต่างคนก็ไปนอนบ้านของตัวทริปนี้ก็จบลงแต่เพียงนี้
15 พฤศจิกายน 2555 13:37 น. - comment id 131012
เขียนอ่านเข้าใจง่ายม้วนเดียวจบ ยังดีนะ เมาๆยังคิดไปงานบุญได้ อิ พิมชอบอาหารใต้หลายเมนูเลย คั่วกลิ้ง ต้มยำไก่ขมิ้น แกงเหลือง แหะ กินแต่เนื้อปลาหรือกุ้งกับผัก น้ำแกงเผ็ดไป...
18 พฤศจิกายน 2555 08:00 น. - comment id 131049
นานๆทีจะเหงคุงฤกษ์ลงเรื่องบุญเรื่องเมาเรื่องเที่ยวเรื่องเดียวกันสักครั้ง อิอิ อ่านถึงบรรยากาศการร่ำเมรัย ทำให้นึกภาพตาม คงมีวาสนาได้ชนแก้วกันสักครั้งเนาะ แล้วก็คุยเรื่องบ้านเมืองสักหน่อย พอเมาได้ที่คงมีชกเบ้าตากันสักข้างสองข้าง อิอิ ว่าไปนั่น แต่ก็แปลกๆนะ นั่งกินที่บ้าน ไปต่อข้าวต้ม แล้วเตลิดไประนอง แต่ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ ที่บ่อน้ำพุ เคยไปนานมาแล้ว ได้อ่านรายละเอียดของคุงที่บรรยาย ทำให้ภาพฟามหลังผุดในมโนการเลยอ่ะนะ เคยนอนบนพื้นปูนแรกๆร้อนมากๆอ่ะ แล้วสักพักก็ชิน เริ่มสบาย อิอิ หวังจะให้ไขมันมันละลายอ่ะ ส่วนด่านสิงขรครั้งที่ไปมาเหงมีแต่กล้วยไม้ โต๊ะ เก้าอี้ และของไม่เยอะอ่ะ
21 พฤศจิกายน 2555 16:22 น. - comment id 131093
ใครพาดพุงตรู อิอิ. ชอบหล่ะเซ่
23 พฤศจิกายน 2555 12:00 น. - comment id 131103
เก่งจัง รู้รายละเอียดได้ดีกว่าคนอยู่ระนองเสียอีกนะเนี่ย ชื่นชมในความสามารถจริง ๆ ค่ะ
25 พฤศจิกายน 2555 15:49 น. - comment id 131114
แหม ไม่ตักมาฝากสักขวดล่ะคุณฤกษ์
29 พฤศจิกายน 2555 17:48 น. - comment id 131179
สุราทานเป็นระยะๆๆ สุขภาพแข็งแรง เฮ่้ยๆๆไม่ช่าย อ่านมาวเสียก่อนวุ้ย ไปล่ะ แก้วประเสริฐ.