กิ๊กรัก สลับหัวใจ (ตอนที่ 2)
เก่งกาจ
วันหนึ่งกรวิก กับหวานไปกินข้าวด้วยกันแถวหอพัก มีผู้ชายกลุ่มหนึ่งสามสี่คน ผู้ชายคนหนึ่งเหมือนรู้ว่ากรวิกเป็นกะเทยเลยลวนลามด้วยกันแอบจับก้นกรวิก หวานเห็นก็โกรธ
“เฮ้ยทำอะไร”หวานกล่าวเสียงห้าวอย่างโกรธเคือง
“ทำอะไร ใคร ใครทำอะไรเหรอจ๊ะ”ชายคนหนึ่งยังกวนประสาทและไม่ยอมรับผิด
“โหย ไอ้สมองเสื่อม หรือไม่ก็ไอ้โรคจิต ถ้ามันเก็บกดมากนัก ก็ไปจับก้นแฟนตัวเองสิ อย่ามาปล่อยอารมณ์แถวนี้”หวานกล่าวอย่างเจ็บแสบ
“เจ็บร้อนแทนกันเหรอ ตลกว่ะ ชายอยากเป็นหญิง หญิงอยากเป็นชาย”ชายคนที่มีเรื่องกับหวานกล่าว
“ใช่ผู้หญิงอยากเป็นผู้ชาย และโดยเฉพาะผู้ชายอยากเป็นผู้หญิงมันตลก แต่ว่าก็ยังตลกน้อยกว่าผู้ชายบางคนที่หัวใจกลายสปีชี่ส์เป็นสัตว์ชั้นต่ำ”หวานด่าไม่หยุดไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องโกรธขนาดนี้
“เมิง เมิง”ชายคนนั้นสะ อึกเถียงไม่ออกหวานเลยสวนต่อทันทีอย่างเจ็บแสบว่า
“ไป ๆ ไปไหนก็ไปไป๊ พูดมากเหม็นน้ำลายน่ะ ถ้าไม่รู้จะทำยังไงก็ถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเองนะ จะได้รู้ว่าปากนายเหม็นแค่ไหน อะโด่ พวกเศษสิ่งมีชีวิต”
กล่าวจบไอ้พวกนั้นต่อยหน้าหวานทันที หวานเซไปเจอขวดน้ำเลยตบไปที่หัวมันอย่างจังเพื่อนมันทั้งสามคนไม่มีใครจะเข้ามาช่วย หวานเลยรุมตื๊บจนหมอบ มันคลานหนีพร้อมวิ่งหนีไป หวานยิ้มอย่างสะใจ จากนั้นก็รู้สึกเจ็บเพราะโดนตั๊นหน้าอย่างแรง
กรวิกเห็นอย่างนั้นก็เป็นห่วงพร้อมพยุงกลับหอโดยไม่ได้ทานอะไร ลึกลงไปในใจ กรวิกรู้สึกประทับใจหวานมากที่เธอปกป้องเค้าในความเป็นเค้า
......
กรวิกพาหวานกลับมาที่หอ พร้อมซื้อยาแก้ปวด ยาทาแผลให้ ขณะที่เช็ดแผลนั่น หวานก็โอดครวญด้วยความเจ็บทันที
“โอ๊ย เจ็บนะ”
“เจ็บเป็นด้วยเหรอ กล้าไปมีเรื่องกับพวกนั้นนึกว่าไม่กลัวเจ็บ กลัวตายเสียอีก”กรวิกกล่าวกระแหนะกระแหน ทั้งที่ในใจจริงซึ้งใจหวานที่ปกป้องความเป็นเขาในตอนนี้ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนนอกจากป้า ดีกับเขาเท่านี้มาก่อน”
“โหยพูดงี้เหรอ พูดงี้ จี๊ดที่ใจแทนแล้วเนี่ย”หวานกล่าว
“จี๊ดที่ใจทำไมอ่ะ”กรวิกเอ่ยถามพร้อมจ้องมองหวานไม่วางตารอคำตอบ
หวานจ้องกรวิกตอบอย่างมีความหมาย ก่อนผละสายตาไปอีกทาง อ้อมแอ้มตอบไปว่า
“ก็...เพื่อนไม่ห่วง”
“ซื้อยามาทาให้ ยังไม่รู้อีกเหรอ แล้วอีกอย่างยาฉันมันก็แสบอย่างงี้แหละ ทนไม่ได้ก็ไม่ต้องทน”กรวิกกล่างอ้อมแอ้มเหมือนกัน
หวานรู้สึกประหม่าวางตัวไม่ถูก เลยแก้เก้อเอ่ยถามกรวิกว่า
“นี่จะว่าไปนะ ผู้หญิงอย่างฉันน่ะ ยังอยากเป็นผู้ชายที่สุดแสนจะมีโอกาสและข้อดีเต็มไปหมด ถามจริงเหอะ ทำไมผู้ชายอย่างนายถึงอยากเกิดเป็นผู้หญิงล่ะ”
“เหตุผลของฉัน ก็คงตรงข้ามกับเหตุผลของเธอล่ะมั้ง”กรวิกกล่าวย้อนจริงเขาอยากบอกว่าคงเพราะตั้งแต่เกิด ก็คงมีแต่ผู้หญิงสองคนที่เสียสละเพื่อเขา ทำงานทุกงานที่สังคมเปิดโอกาสเพื่อให้เขาได้มีข้าวกิน มีบ้านอยู่ มีเพื่อนสาวประเภทสาวอย่างเจี๊ยบที่ปกป้องเขาเวลามีคนมาระรานหรือรังแก เขาเกิดมาก็เจอแต่พวกผู้หญิงและสาวประเภทสองเป็นไปได้มากว่าคนกลุ่มนี้คือไอดอล จริงๆ ความอ่อนโยนของผู้หญิงที่แม้แต่ หวานมองว่ามันคือความอ่อนแอ บางทีมันอาจเป็นความแข็งแกร่งที่แม้แต่ผู้ชายเกือบทุกคนไม่อาจปฏิเสธได้ว่าอยากได้จากผู้หญิงทุกคนที่เขารัก และความอ่อนโยนนี้มันคือความเข้มแข็งของผู้หญิง และเขาก็อยากให้หวานภูมิใจในความเป็นผู้หญิง
…..
วันนี้หวานชวนกรวิกไปสนามแข่งรถ เพื่อไปซ้อมแข่งรถ มันเป็นงานอดิเรกเวลาเธอเบื่อๆ ระหว่างที่กำลังเดินทาง กรวิกซึ่งนั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์อยู่นั้น รู้สึกกลัวๆขึ้นมา เหงื่อไหลที่ใบหน้าเล็กน้อย จึงใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดที่ใบหน้า ผ้าเช็ดหน้าจึงปลิวไปตามสายลมและมีชายหนุ่มคนหนึ่งเก็บได้
“ผ้าเช็ดหน้าฉัน” กรวิกกล่าว
หวานหยุดรถ พร้อมจะหันมอเตอร์ไซด์กลับ จะไปเก็บผ้าเช็ดหน้า เห็นชายคนที่เก็บผ้าเช็ดหน้าได้ ชูมันขึ้นมา พร้อมขี่นำหน้าเธอไปเหมือนต้องการท้าให้ตามไปทวงผ้าเช็ดหน้าคืนที่เขา
กลายเป็นว่าหวานขี่มอเตอร์ไซด์แข่งกับชายคนนั้น หวานกำลังจะขี่นำได้ ชายคนนั้นก็แซงซ้าย ขี่นำไป หวานเร่งความเร็วนำได้อีกครั้งกำลังจะแย่งผ้าเช็ดหน้าชายคนนั้นก็แซงทางขวาหลบอีก คราวนี้หวานเร่งสปีดความเร็วเต็มที่จอดขวางหน้าเขาด้วยระห่างพอสมควร ชายคนนั้นเหมือนจงใจให้หวานแซง พร้อมหยุดรถห่างจากมอเตอร์ไซด์ของหวานนิดเดียว
“ขอผ้าเช็ดหน้าด้วย”หวานกล่าว
“ให้เดา ผ้าเช็ดหน้านี้ไม่ใช่ของคุณ”ชายคนนั้นกล่าวยิ้มๆกับหวาน
“ของเพื่อนฉันเอง ฉันมาทวงแทนเค้า จะคืนได้หรือยังล่ะ”หวานกล่าวเรียบแต่สีหน้าเคร่งขรึม
“ของคุณครับ”เขายื่นให้กรวิก ”ผ้าเช็ดหน้านี้มันคงสำคัญกับเพื่อนคุณมากเลยนะ เขาถึงมาทวงกับผมถึงนี่” ชายคนนั้นพูดกับกรวิกแท้จริงจะยั่วหวาน พร้อมยิ้มให้ ชายคนนั้นพูดเหมือนรู้ว่าหวานจะชอบกรวิกอยู่ แล้วเดินจากไป
.......
วันหนึ่งหลักเลิกเรียน หวานชวนกรวิกไปซ้อมมวยที่ค่ายในมหาวิทยาลัย
เวลาซ้อม หวานจะชอบหลอกกรวิกว่าจะต่อยทางซ้าย แต่เธอจะต่อยทางขวา เวลาเธอจะต่อยทางขวาก็จะหลอกกรวิกว่าต่อยทายซ้าย
“ระวังซ้าย !! ระวังขวา!! ”หวานหลอกกรวิก พร้อมสุขใจที่ได้แกล้งกรวิก
“หวาน เธอบอกให้ฉันระวังซ้าย ก็ต่อยทางซ้ายสิ ไม่ใช่ต่อยทางขวา อย่างนี้หน้าฉันก็บวมเพราะหมัดเธอแย่สิ”กรวิกโอดครวญพร้อมมองอย่างงอนๆ
“แหมก็รู้ว่าฉันจะต่อยทางซ้าย เธอก็ป้องทางซ้ายสิจะได้ไม่เจ็บตัว ไปๆ ลุยกันต่อ”หวานทำท่าจะตั้งท่าต่อยหมัดต่อไป
“ไม่เอาอะ ขอพักก่อนได้ไหม เหนื่อย เจ็บด้วย”กรวิกกล่าวพร้อมมองหวานอย่างค้อนๆ แต่หาผ้าเช็ดหน้าไปด้วย
“หาอะไร”หวานเห็นกรวิกทำท่าหาอะไรสักอย่าง
“หาผ้าเช็ดหน้าสิยะ”กรวิกทำท่าหา แต่ก็มีมือใครคนหนึ่งยื่นส่งผ้าเช็ดหน้ามา เขาคือชายหนุ่มวันนั้นซึ่งแข่งรถเพื่อแย่งผ้าเช็ดหน้ากับหวานวันนั้นนั่นเอง ชื่อของเขา คือชัชนั่นเอง
“ใช้ของผมก็ได้”ชัชกล่าวพร้อมยิ้มให้
หวานเห็นปัดมือของชัชออกอย่างสุภาพ แต่ชัชเองก็รู้ว่าหวานไม่พอใจ แต่เขายังยิ้มเหมือนตั้งใจยั่วเธอ
“ขอบคุณ แต่ไม่จำเป็น”หวานกล่าว
“ทำไมละ ผมอยากให้นี่นา”ชัชกล่าวยิ้มๆ เหมือนยั่วหวาน
“อยากให้อย่างนั้นหรือ”หวานทวนพร้อมนึกอะไรออกอย่างหนึ่ง
“ใช่ ...ผมอยากให้”พร้อมมองหวานอย่างมีความหมาย กรวิกได้แต่เก็บความไม่พอใจที่มีชายหนุ่มมาสนใจหวาน
“ได้ถ้านายชนะฉัน ผ้าเช็ดหน้านั้นฉันจะยอมให้เพื่อนฉันรับมัน แต้ถ้าไม่นายอย่ามายุ่งกับพวกเรา”หวานเอ่ยเอาจริง
“ได้ แต่ถ้าผมชนะ คุณต้องเป็นแฟนผม โอเคไหม”ชัชบอกเงื่อนไขของตน พร้อมมั่นใจในฝีมือ
ต่างคนต่างมั่นใจในฝีมือตนเองเต็มที่
หวานแกล้งหลอกชัชเหมือนหลอกกรวิกว่าจะต่อยทางซ้าย และเธอต่อยทางขวา แต่ดูเหมือนว่าชัชจะรู้ทันรับหมัดเธอได้
“ระวังซ้าย”หวานกล่าว
“อยากต่อยทางขวา บอกกันตรงๆก็ได้นี่ครับ”ชัชกล่าวยิ้มๆ
ชัชรับหมัดทุกหมัดของหวาน พร้อมเอามือหวานไพ่หลังไว้ทั้งสองข้าง ขาเขายันขาที่หวานถนัดเพื่อไม่ให้เธอหันมาเตะหัวเข่าได้
หวานแพ้เขาแล้ว แต่ดูท่าเธอจะไม่รับผลสักเท่าไหร่
“ท่าทางแผนหลอกคู่ต่อสู้ของคุณ คงใช้ได้กับใครบางคนแถวนี้นะ”ชัชหมายถึงกรวิกที่ตอนนี้เหมือนโดนกุมหัวใจอย่างอยู่หมัด แล้วเขาก็ยิ้มอย่างรู้ทัน
“เป็นไงบ้างหวาน”กรวิกเดินเข้ามาหาหวานที่มองชัชอย่างไม่พอใจ
"ยังโอเค"หวานหันมาส่ายหน้ายิ้มๆกับกรวิก รู้สึกขอบคุณที่เขาห่วงใย
“ผ้าเช็ดหน้า....ของคุณ”ชัชกล่าวพร้อมยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กรวิก
กรวิกรับผ้าเช็ดหน้าด้วยสีหน้านิ่งเฉย
“ขอบคุณ”กรวิกเอ่ยเรียบๆไม่ยอมมองหน้า
“เพิ่งรู้ว่าจะมอบผ้าเช็ดหน้าให้ใครสักคนมันยากเย็นขนาดนี้"
"รู้ว่ายากแล้วพยายามจะให้ทำไม"กรวิกกล่าวเรียบๆ แต่สายตามองชัชอย่างไม่พอใจ แอบหึงหวานโดยไม่รู้ตัว
"เพราะยิ่งพยายาม แล้วท้ายที่สุดเขายอมรับน่ะมันคุ้มค่านะสิ ไปละ อย่าลืมสัญญานะครับ คุณหวาน”ชัชกล่าวยิ้ม แกล้งยั่วทั้งคู่พร้อมเดินจากไป
....
หลังจากวันนั้น ช่วงเย็นหวานมักไม่ได้ไปกินข้าวกับกรวิก เพราะต้องทำตามสัญญาของชัชเป็นแฟนเขา แม้หวานเองจะไม่เต็มใจ แต่ต้องทำตามคำสัตย์ของตน
กรวิกไม่พอใจมากไม่รู้จะไประบายกับใคร จึงไปหากระเจี๊ยบที่หอ
“ไปไงมาไงยะ นังวิ๊กกี้ถึงกระเต็งสังขารมาหาฉันถึงหอได้”กระเจี๊ยบทักทายอย่างอารมณ์ดี ในชีวิตนี้เหมือนไม่มีเรื่องทุกข์ใจอะไรเลยสำหรับกระเจี๊ยบ
“เฮ้อ..”กรวิกถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย โลกที่ไม่มีหวานช่างไร้สีสัน
“ถอนหายใจทำไม เป็นอะไรนังวิ๊กกี้”กระเจี๊ยบเอ่ยถามอย่างห่วงใย
“นี่นังเจี๊ยบ อย่ามาเรียกฉันว่า วิ๊กกี้ได้ไหม ฉันไม่ชอบ”กรวิกเอ่ยอย่างอารมณ์เสีย
“ทำไมละยะฉันก็เรียกหล่อนอย่างนี้ ตั้งแต่ หล่อนตีนเท่าฝาหอย”กระเจี๊ยบเอ่ยถามอย่างสงสัย ปนไม่เข้าใจในอาการผิดปกติของเพื่อน
“ก็ไม่ชอบอย่าเรียกได้ไหมยะ”วิ๊กกี้กล่าวพร้อมสะบัดหน้าไปอีกทาง
“ทำไมละยะ กระเทย ก็มีชื่อเรียก เวอร์ๆ แต่ดูเก๋กันทุกคนแล้วทำไมหล่อนไม่ให้ฉันเรียกว่าวิ๊กกี้”กระเจี๊ยบเอ่ยถามเหตุผล
“กระเทยๆ ๆ ฉันเกลียดคำนี้จริงๆ”วิ๊กกี้เอ่ยพร้อมใช้มือกุมขมับ
“อาการเกลียดความเป็นตัวเองถึงขั้นรุนแรงอย่างนี้ สาเหตุมีแค่อย่างเดียว แกอกหักมาใช่ไหม”กระเจี๊ยบจี้ใจดำวิ๊กกี้ พร้อมจับผิดเพื่อนตน
“นี่นังเจี๊ยบ ..ถ้ากระเทย คือผู้ชายที่อยากเป็นผู้หญิง ฉันยอมรับว่าฉันเป็นกระเทย"
"แล้วไงยะ"กระเจี๊ยบยังคงไม่เข้าใจ แต่ก็ยังตั้งใจฟัง
" แต่ถ้ากระเทย คือคนที่รสนิยมทางเพศชอบผู้ชายด้วยกัน ฉันบอกตามตรง ว่าฉันชอบ เอ่อ.. ชอบผู้หญิง”กรวิกเอ่ยความในใจตนเองที่ล้นอก และไม่รู้จะระบายกับใครให้เพื่อนของตนฟัง
“เดี๋ยวๆนังวิ๊กกี้ มดลูกเทียมในตัวหล่อนมันไม่ทำงานหรือยังไง ทำไมถึงอยากกลับอกกลับใจเป็นผู้ชายขึ้นมาละยะ ชะนีตัวไหนมันปล่อยเอนไซม์สลายความซาบซ่าในตัวหล่อนไปหมด บอกมานะ”กระเจี๊ยบตาตั้ง กล่าวละล่ำละลักอย่างตกใจที่หัวใจเพื่อนหล่อนมารู้ตัวว่าเป็นชาย
แต่ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรมาก ทั้งคู่ก็เห็นหวานกับชัชขี่รถผ่านหน้าหอไป วิ๊กกี๊มองอย่างหงุดหงิด
“อ้าวนั่นมันยัยหวานนี่ กลับใจมาชอบผู้ชายตั้งแต่เมื่อไหร่ หวังว่าผู้หญิงที่หล่อนชอบคงไม่ใช่นังหวานนะยะ"
"ทำไมอ่ะ"กรวิกเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ แม้ความจริงแล้วมันคือหวานนั่นเองที่ทำให้เขาสับสนในหัวใจ
"อ้าว เพราะในความคิดฉันถ้ายัยหวานคิดจะกลับใจกระเทยอย่างฉันได้ คงต้องรอไปหนึ่งอสงไขยกับอีกตอนบ่ายๆนั่นแหละ”กระเจี๊ยบพูดไปงั้นโดยไม่ทันสังเกตเพื่อนของตนซึ่งมองค้อนอย่างหงุดหงิดพร้อมเดินจากไป และพยายามหาทางให้หวานคืนกลับมา
.....