กิ๊กรัก สลับหัวใจ (ตอนที่ 1)
เก่งกาจ
สวัสดีค่ะ ดิฉัน เอ๊ย ผมเอ่อ ผมคงต้องขอเรียกแทนตัวเองว่าฉันเหมือนคุณสาวๆไปก่อน เพราะเรื่องที่จะเล่าก่อนที่ฉันจะพบกับใครคนหนึ่ง นั้น เป็นเรื่องของสาวประเภทสาวคนหนึ่ง หรือผู้ชายคนหนึ่งที่คิดอยากจะเป็นผู้หญิง เหตุผลที่ฉันอยากเป็นผู้หญิงคงเพราะทุกคนที่อยู่รอบตัวฉัน ถ้าไม่ใช่กระเทย ก็เป็นผู้หญิง และเป็นผู้หญิงที่เสียสละมาก คนแรก คือแม่ของฉันท่านตายทันทีหลังที่คลอดฉันที่โรงพยาบาล ส่วนพ่อนั้นไม่ต้องพูดถึงฉันไม่เคยเห็นหน้าเขาสักครั้ง และการที่ไม่เคยเห็นหน้า และไม่ได้รับการเลี้ยงดูจากผู้เป็นพ่อ จึงทำให้ฉันโน้มเอียงที่จะเหมือนผู้หญิงได้ไม่ยาก เพราะทันทีที่แม่ตาย แม่ได้มอบบ้านหลังหนึ่งให้กับป้า ป้าของฉัน ป้าของฉันก็เลี้ยงดูฉันมาอย่างดี ในความรู้สึกฉัน ป้าเหมือนแม่คนหนึ่ง ที่ฉันทั้งรัก และเคารพมาก ป้าต้องตื่น แต่ตีสามลุกขึ้นมาทำขนมจีนแกงมัสมั่น แต่เช้า แถมตั้งแต่หลังหกโมงเก็บร้านไป ต้องมานั่งปักกอสติปรับจ้างส่งให้แม่บ้าน ถึงแม้ฉันจะเรียกว่าป้า แต่ในใจฉันเรียกป้าว่าแม่ และเคารพป้าเหมือนแม่คนหนึ่ง วันนี้ฉันจะไปช่วยป้าขนมจีนที่ปากซอยหน้าบ้านฉัน
ก็มีชายสองคนเดินเข้ามาด้วยท่าทีไม่เป็นมิตร
แกงขนมจีนนี่ใส่อะไรมั่งจ๊ะมันทำท่าเจ้าชู้กรุ้มกริ่มกับฉัน ก็จะไม่ให้มันเจ้าชู้ใส่ฉันได้อย่างไร ก็ฉันในตอนนั้นพูดได้ว่าเหมือนผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ฉันรู้ว่าเจ้าลูกค้าปากเสียสองคนรู้ดีว่าฉันคือสาวประเภทสอง
ก็ใส่เหมือนแกงทั่วไป ทำไมหรือคะฉันพยายามจะสุภาพเพื่อไม่ให้มีเรื่อง โดยการแก้ปัญหาโดยอาศัยความอ่อนหวานของผู้หญิงแก้ปัญหา ที่ฉันเลือกแก้ปัญหาอย่างนั้นทุกวันคงเพราะฉันโตมาท่ามกลางการเลี้ยงดูของผู้หญิง
อ้าว ก็นึกว่าใส่กะเทย เอ๊ยกระเทียม พี่คงไม่ซื้อเพราะพี่แพ้ กระ..เทียมน่ะจ๊ะชายคนหนึ่งปากพูดรังเกียจฉันแต่เอามือมารุ่มร่ามตามตัวฉัน ถึงฉันอยากจะเป็นผู้หญิงแค่ไหน แต่ก็เกลียดท่าทีของไอ้บ้าสองคนนี้อย่างมาก มันไม่ให้เกียรติและดูถูก อยากจะตบหน้าสักสองฉาดให้หายแค้น
แดก เอ๊ย กินไม่ได้ก็ไม่ต้องกระเดือกสิค่ะ คุณพี่ เดี๋ยวเผลอกินเข้าไป เจอกระเทย เอ๊ยกระเทียม เดี๋ยวจะแสลงนะจ๊ะนังเจี๊ยบเพื่อนสาวประเภทสองของฉันเดินเข้ามาถือสากอย่างเอาเรื่องแม่นังเจี๊ยบ เป็นเจ้าของผลับที่เปิดโชว์ของนักแสดงสาวประเภทสอง แต่เวลาว่างๆ นังเจี๊ยบจะมาช่วยงานที่ร้านฉันเสมอ
เกี่ยวอะไรกับมึง อีตุ๊ด กรูไม่ได้พูดกับมึงชายคนหนึ่งเดินห่างจากไปตัวฉันพร้อมจะไปหาเรื่องนังเจี๊ยบทันที
เรื่องของหมา คนอย่างหนูก็ไม่ค่อยอยากเกี่ยวหรอกค่ะ ถ้ามันไม่มาเห่าร้านเพื่อนหนู แพ้กระเทียมขนาดนี้ ชาติที่แล้วเป็นแวมไพร์หรือไงจ๊ะ โถน่าสงสารชาติที่แล้วคงทำบุญมาน้อยเลยได้เกิดเป็นสัมภเวสี ชาตินี้เลยต้องเกิดมาเป็นหมาเที่ยวเห่าขอส่วนบุญนังเจี๊ยบด่าเป็นชุด ได้ผลไอ้สองตัวนั่นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
มึงสิเป็นหมา แถมปากหมาต่างหาก มาเลย วันนี้กรูขอกระทืบตุ๊ดสักทีเถอะวะชายคนหนึ่งพูดพร้อมจะเข้ามาต่อยนังเจี๊ยบ
ก็ลองดูสิ จะได้รู้ว่าตีนเมิง กับสากกะเบือกรูใครจะแข็งกว่ากันนังจุงพูดพร้อม โยนสากกะเบือใส่หัวมันเข้าเต็ม ดังโป้กหัวมันแตกเลือดไหลเป็นทางไม่หยุด เฮ้ออยากสมเพช เอ๊ยสงสาร แต่ว่าตอนนี้สะใจมากกว่าได้ผลไอ้พวกนั้นหนีออกไปโดยทำหน้าฝากรอยแค้นเอาไว้
ฉันขอแนะนำตัวเลยละกัน ผมชื่อกรวิก ชื่อเล่นชื่อว่าวิก แต่ว่าใครๆโดยเฉพาะสาวประเภทสองเรียกผมว่าวิกกี้
นี่ นังวิ๊กกี้ บอกป้าแกเหอะ ให้ไปขายขนมนี้ในผลับแม่ฉันก็ได้ จะได้ไม่ต้องมาทนขายให้พวกหมาในร่างคน มาเห่า มาหอนขอส่วนบุญอย่างนี้ นังเจี๊ยบเสนอทางแก้ไข แต่ฉันไม่อาจตัดสินใจได้ต้องถามป้า และดูเหมือนป้าไม่อยากไปเพราะว่าเวลาที่ผลับของแม่นังเจี๊ยบเปิดมันตอนกลางคืน ซึ่งตอนกลางคืนป้าต้องกลับไปปักกอสติปต่อเพื่อหารายได้มาเลี้ยงดูฉัน เฮ้อนึกแล้วฉันอยากช่วยป้าให้มากกว่านี้
ไปได้ไงล่ะ ขนมจีนต้องขายตอนเช้านะจ๊ะส่วนผลับแม่แกเปิดตอนกลางคืนฉันบอกตามความจริง
ฝากขายก็ได้นี่ยะ เอ๋หรือว่า ที่หล่อนไม่ไป เพราะติดใจ อยากให้หมาพวกนั้นมาเลียก้นกระเจี๊ยบแซว ฉันตบหัวมันไปหนึ่งทีอย่างหมั่นไส้ ปากมันนี่น่าจับเอาขี้ยัดปากจริงๆ
.........
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหวาน แต่ว่าไม่ได้หวานสมชื่อหรอกนะคะ ฉันกำพร้าแม่ ฉันเป็นลูกคนที่สอง แม่ตายทันทีเพราะตกเลือด หลังจากที่คลอดฉัน ฉันมีพี่น้องฝาแฝด พี่ของฉันเป็นพี่ชาย เพราะฉะนั้นฉันจึงเกิดมาท่ามกลางครอบครัวที่มีแต่ผู้ชาย ในบ้านจึงไม่มีใครสอนความเป็นกุลสัตรีให้ฉัน ฉันโตมาในสภาพครอบครัวที่พี่ชาย ฉันเรียนโรงเรียนนายร้อยและจบตามรอยพ่อของฉันทุกอย่าง พี่ชายฉันคือความภูมิใจของพ่อไม่ว่าเขาจะทำอะไร พ่อจะให้การสนับสนุน และยกย่องเขาทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นหรือ อยู่กับลูกสาวอย่างฉัน ความภูมิใจในความเป็นลูกผู้ชายที่พ่อฉันสั่งสมในตนเอง และพยายามจะสั่งสมให้พี่ชายฉัน จึงทำให้ฉันอยากทำอะไรที่เหมือนผู้ชาย และอยากพิสูจน์ตัวเอง แต่ลึกๆแล้ว ฉันก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะคะ ว่าฉันรู้สึกอะไรๆ เหมือนผู้หญิงคนหนึ่ง แต่การกระทำของฉันเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น คือสาวห้าว แกร่ง ไม่ยอมคน เหมือนผู้ชายคนหนึ่ง
วันนี้ ฉันกำลังจะไปที่มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง ฉันเลือกจะเรียนคณะนิติศาสตร์ เพราะตอนจบจะได้ไปสอบโรงเรียนตำรวจ เป็นอาชีพที่ฉันอยากทำ แต่พ่อฉันอยากให้ฉันเรียกอักษรศาสตร์จบมาจะได้เป็นครู ความเป็นครูของพ่อคงคิดว่ามีแต่ผู้หญิงซึ่งเป็นเพศที่อ่อนโยนที่ทำได้ แต่ในความคิดฉันกลับคิดว่า ความอ่อนโยนนั้นช่างนำพาซึ่งความอ่อนแอสิ้นดี ฉันจึงแอบเรียนคณะนี้โดยไม่ได้บอกความจริงพ่อ ประกอบกับพ่อเองก็ไม่สนใจในตัวฉันเท่าไหร่ ความลับที่ฉันเรียนคณะนิติศาสตร์พ่อจึงไม่รู้
.......
มาฟังเรื่องของวิกกันบ้างนะครับ ผมขอใช้คำลงท้ายว่าครับ เพราะผมกำลังเจอหญิงสาวที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต
วันนี้เป็นวันที่ผมกำลังไปงานปฐมนิเทศของมหาวิทยาลัย คณะที่ผมเลือกเรียน เป็นคณะที่ป้าผมบังคับ ผมขอใช้คำว่าบังคับ เพราะป้าไม่อยากให้ผมเรียนคณะนิเทศศาสตร์อย่างที่ผมตั้งใจ เพราะป้าอยากให้ผมทำงานอะไรที่ดูมั่นคงกว่านี้ ป้าคือคนเดียวที่สำคัญในชีวิตผม ผมจึงตามใจท่านได้ไม่ยาก
นี่ นังวิกกี้ เตรียมรูปไปทำบัตรนักศึกษาหรือยังนังเจี๊ยบถามผมด้วยความเป็นห่วง ปนอยากรู้อยากเห็น
เตรียมแล้วย่ะ นี่ไงผมเอาให้มันดู
ต๊าย เก๊กชง ซะทั้งถึก ทั้งแมนเลยน่ะย่ะ อย่างนี้ต้องขยายนังวิ๊กกี้แย่งใบลงทะเบียนนักศึกษาจะไปถ่ายรูปผมลงเฟสบุ๊คมันเพื่อให้เพื่อนๆสาวประเภทสาวแซวผม เพราะไม่มีใครเคยเห็นผมแบบแมนๆมาก่อน ส่วนมากที่เห็นจะหวานๆ เหมือนพวกผู้หญิงมากๆ แต่ส่วนสูงผมก็ปิดบังไม่ได้ว่าเป็นผู้ชาย เพราะผมสูงร้อยแปดสิบเซนติเมตร
ในระหว่างที่กำลังแย่งนั้น ผมไม่เห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินตามพวกผมกับนังเจี๊ยบมาติด เธอเดินมาเหมือนรีบร้อนเพราะกลัวไม่ทันเวลา ผมหันไปชนเต็มแรงแล้วล้มลงไปคร่อมเธอ ปากผมโดนแก้มเธอพอดี
ต๊าย ตาเถร ฟ้าผ่าดังจุ๊บนังเจี๊ยบอุทานออกมาอย่างน่าตบ ขอบอกว่าน่าตบถ้าความรู้สึกตอนนั้นผมเป็นผู้หญิง แต่ใจตอนนั้นที่ปากจุ๊บแก้มเธอ มันหวั่นไหวแปลก ก็แหมเกิดมาไม่เคยปากจุ๊บแก้มสาวที่ไหนอย่างนี้ครับ
ผมรีบลุก พร้อมตบไปที่ไหล่นังเจี๊ยบตัวก่อเรื่องทันที
เพราะแกคนเดียว นังเจี๊ยบ ได้เรื่องเลยไหมแก
ฮึ๊ย ได้เรื่องอะไรล่ะยะ กะเทยหัวใจเลี่ยมซีเมนต์อย่างเราไม่มีทางเปลี่ยนใจง่าย ๆ แค่จุ๊บเดียวกับชะนีที่ไม่เหมือนชะนีหรอกย่ะนังเจี๊ยบกล่าวอย่างไม่ยี่หระ
เงียบไปก่อนเลยนังเจี๊ยบ ฉันจะถามเขาก่อนว่าโอเคไหม เธอ..เอ่อโอเคนะกรวิกถามหญิงสาวอย่างห่วงใย
เธอห่วงอย่างนี้ คงไม่กล้าไม่โอเคหรอก แต่เสียงเธอไม่หวานเหมือนหน้าเลยนะ โทษนะไม่ใช่ผู้หญิงใช่ไหมเธอหันมาถามอย่างยิ้มๆ แต่ก็ดูเป็นมิตร
ใช่ย่ะ หล่อนเดาได้ถูกแล้ว เพื่อนฉันขอเพียงมันหุบปาก แม้แต่พระยูไลก็ไม่อาจหยั่งรู้ได้ว่ามันเป็นอะไรนังเจี๊ยบปากดียังกล่าวจ้อยๆพร้อมขำขันอยู่คนเดียว อยากเอาขี้อุดปากมันจริงๆ
หูย งั้นฉันก็รู้ความลับในใจเพื่อนเธอล่ะสิเธอกล่าวพร้อมใช้มือจี้อกผม ผมสะดุ้งอย่างตกใจ เธอยิ้มขันพร้อมพูดว่าไม่ต้องกลัวนะ ความลับของนายฉันจะรักษาให้ ไปก่อนนะ สายมากแล้วเธอกล่าวพร้อมยิ้มแล้ววิ่งจากไป ก่อนจากไปจริง เธอหันมาถามชื่อผม
นี่คนสวย ชื่ออะไรเหรอ
นังเจี๊ยบเห็นผมนิ่งอย่างนั้นจึงแย่งตอบแทน
แหมถ้าคนที่สวยจริงๆ น่ะ คือฉัน กระเจี๊ยบ แต่ถ้าคนที่หล่อนคิดว่าสวยน่ะ ชื่อนังวิ๊กกี้
ยินดีที่ได้รู้จักนะ กระเจี๊ยบ โดยเฉพาะ วิ๊กกี้ ฉันหวานนะ ไปละคราวนี้เธอไปจริงๆครับผมแอบมองตามเธอจนลับตาโดยไม่รู้ตัวจนนังเจี๊ยบชวนให้เข้าคณะ
.......
หลังจากที่ปฐมนิเทศเสร็จ กรวิกก็แยกย้ายกับกระเจี๊ยบเพื่อไปหาหอที่อยู่ใกล้ๆมหาวิทยาลัย กระเจี๊ยบเลือกที่จะอยู่หอในมหาวิทยาลัยโดยให้เหตุผลที่มาจากใจจริงไม่ปิดบังเพื่อนสนิทอย่างกรวิกว่า ที่ต้องการอยู่หอในเพราะต้องการสูบผู้ชายนั่นเอง
กรวิกเดินไปหาหอที่ติดกับรั้วมหาวิทยาลัย เพราะไม่ต้องการอยู่รวมกับผู้ชายในหอในวิทยาลัย โดยไม่ได้สนใจใคร จนรู้สึกเหมือนมีใครมาสะกิดข้างหลังนั่นเอง
วิ๊กกี้ใช่ไหม เฮ้ยเราหวาน จำได้ใช่ป่ะหวานทักทาย กรวิก
กรวิกอยากบอกเธอว่าจำลึกยิ่งกว่าความทรงจำของตนเองอีก หัวใจเต้นแรงทันทีเมื่อนึกถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุจุมพิตโดยไม่ตั้งใจ
จำได้สิกรวิกตอบแค่นั้นไม่กล้ามองตา ไม่เข้าใจว่าเธอมีอาการอย่างนี้กับผู้หญิงธรรมดา จนถึงห้าวอย่างนี้ได้อย่างไร
ยังไม่กลับบ้านหรือ รอคนสำคัญอยู่อะดี๊หวานเอ่ยถามพร้อมแซว
เปล่า หาหอเช่าน่ะ"กรวิกตอบ ไม่กล้าสบตาตรงๆ
"อ่อ"หวานพยักหน้ารับ
" ทำไมหวานถึงคิดว่าเรารอคนสำคัญล่ะกรวิกปฏิเสธพร้อมเอ่ยถามเธอทันที
ก็เวลาใครๆ เขารอคนสำคัญน่ะนะ หน้าเหมือนวิ๊กกี๊ตอนนี้เลยอ่ะดิหวานแซว กรวิกหลบตา ทำเป็นมองไปทางอื่น ในใจหวั่นไหว หวานเห็นอย่างนั้นก็แซวต่อ
พูดเล่น อายจริงหรือเนี่ย จะหาหอใช่ป่ะ เราก็มาหาหออยู่พอดี เอางี๊ ไปเดินดูด้วยกันหวานไม่รอกรวิกตอบ จูงมือไปเดินหาหอ เดินมาตั้งนาน ก็ไปหยุดที่หอหนึ่งใกล้มหาวิทยาลัยและถูกที่สุด
หากทว่าหอนั้นเหลือแค่ห้องเดียว
เหลือห้องเดียวเหรอค่ะลุงกรวิกถามเจ้าของหอ
ครับคุณ แต่ว่าถ้ารอผ่านไปหนึ่งเทอมนักศึกษาป.โทจะจบพอดี ห้องจะว่างหนึ่งห้อง ก็ไอ้ห้องตรงข้ามที่คุณจะเช่าแหละครับ
"ตั้งเทอมเลยเหรอค่ะลุง กว่าห้องจะว่าง"กรวิกเอ่ยถาม ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง
"ครับ คุณสองคนก็ดูสนิทกันดี ไม่อยู่ด้วยกันก่อนล่ะครับ"ลุงเจ้าของหอเสนอเพราะอยากให้เช่าห้อง ในความคิดกรวิกคิดว่าลุงคนนี้ช่างมีจรรยาบรรณจริงๆ
อือ ใช่งั้นเราลองมาอยู่ด้วยกันไหมหวานเอ่ยชวน
ฮะ เอาจริงหรือยะ ฉันกลัวฟ้าผ่ารอบสองนะยะวิ๊กกี้กล่าว หวานขำอย่างตลกไม่ได้นึกโกรธเป็นครั้งแรกที่เค้าพูดจากับเธอย่างนี้ดูสนิทกันมากขึ้น
ผ่าได้ไงล่ะ แค่อยู่ในหอด้วยกัน ไม่ได้เข้าหอ ทำตกใจไปได้หวานกล่าวยิ้ม
น่านแหละ ที่ฉันสมควรจะตกใจ ที่ฉันไม่อยากเช่าหอในอยู่เพราะไม่อยากรวมกับผู้ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงที่เหมือนผู้ชายวิ๊กกี๊กล่าวจากความรู้สึก
โหยไปกลัวผู้ชายเถอะ กลัวฉันทำไม ฉันน่ะไม่กินกะเทยหรอกหวานกล่าวยิ้มพร้อมส่งตาแป๋วใสซื่อให้อย่างเป็นมิตร กรวิกนิ่งไปเหมือนยอมโดยสดุดีว่าจะอยู่หอกับเพื่อนใหม่คนนี้
.....