เจตนาอันประเสริฐที่สุดของการให้...
คีตากะ
ปราศรัยโดยท่าน Suma Ching Hai, ศูนย์ซีหู, ฟอร์โมซา 20 กุมภาพันธ์ 1996 (เดิมเป็นภาษาจีน)
การกระทำของเธออาจจะมองดูเหมือนกับการกระทำของอาจารย์มาก แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างมากจริงๆ เราไม่ได้กำลังทำการทดลองกับคนที่ขัดสนยากจน หรือว่ากำลังเล่นกับพวกเขาเหมือนเล่นของเล่น ต่อเมื่อเธอทำออกมาจากความรักเท่านั้น เราจึงจะสามารถทำสิ่งต่างๆ อย่างเป็นธรรมชาติ แม้กระนั้นเราก็ไม่ได้บุญอะไร ไม่ต้องพูดถึงเวลาที่เราเกลียดชังคนอื่น หรือใช้พวกเขาเพื่อทำให้อัตตาของเราพอใจและให้เป็นไปตามความคิดผิดๆ ของเรา ทำแบบนี้เราจะไม่ได้บุญ แต่กลับสร้างกรรมไม่ดีขึ้นมาแทน
มีชายคนหนึ่งซึ่งธุรกิจของเขาเจริญรุ่งเรืองดีมาก เขาปฏิบัติตามคำแนะนำสั่งสอนของอาจารย์ของเขา ดังนั้นธุรกิจของเขาจึงดีขึ้นๆ เนื่องจากเขาร่ำรวยขึ้นมาเหลือเฟือแล้ว เขาจึงไปขอบคุณอาจารย์ของเขาและถามว่า "อาจารย์, ตอนนี้ฉันมีเงินมากแล้ว ฉันไม่รู้ว่าจะใช้มันอย่างไร ฉันอยากจะช่วยเหลือคนอื่น แต่ว่าฉันไม่รู้วิธีช่วย อาจารย์จะกรุณาแนะนำฉันได้ไหม?"
เขาก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากอาจารย์ของเขาสักคำ แต่ว่าถูกบอกให้กลับบ้านไป เมื่อเขามาหาอีกในครั้งต่อไป เขาก็ถามคำถามเดิมอีก และก็ไม่ได้รับคำตอบอีก ครั้งที่สามเขาพูดว่า "โอ, กรุณาพูดอะไรบ้างเถอะอาจารย์! ไม่ว่าท่านจะบอกอะไร ฉันก็จะทำตามนั้น"
อาจารย์ของเขาถูก "ผลักดันไปจนหลังชนฝาแล้ว" ไม่มีทางเลี่ยงอื่น จึงถอนหายใจสามหน แล้วบอกเขาว่า "ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะบอกให้เธอทำอะไร ถ้าฉันบอกเธอให้ถวายเงินแก่วัดหรือโบสถ์ ฉันก็กำลังขอให้เธอเลี้ยงพวกพระที่ละโมบ ถ้าฉันบอกให้เธอให้เงินญาติพี่น้อง มันก็เป็นอันตราย.... ไม่ได้ช่วยอะไรกับการบำเพ็ญของเธอเลย ถ้าฉันบอกให้เธอใช้เงินเพื่อช่วยคนยากจน อัตตาของเธอก็จะโผล่ออกมา... มันไม่มีประโยชน์ต่อเธอเลยจริงๆ เพราะเธอจะคิดว่าเธอยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่ามันก็ยังเป็นการดีกว่าสำหรับเธอที่เธอจะช่วยเหลือคนยากจน เพราะว่าอย่างน้อยพวกเขาก็จะได้ประโยชน์จากมัน คนที่ขัดสนก็จะได้ประโยชน์"
เธอเข้าใจนะว่า การช่วยคนที่ขัดสนไม่ได้เป็นการดีสำหรับเรา เธอเข้าใจคำพูดของฉันไหม? อย่านึกว่าเรากำลังทำบุญทำกุศลแล้วเราจะได้รับผลบุญเป็นรางวัลตอบแทน มันยากมาก หายากมากที่จะมีใครที่มีเจตนาอันประเสริฐที่สุดในการให้ เวลาคนให้อะไรออกไป ก็มักจะมีการเรียกร้องอะไรนิดๆ หน่อยๆ เสมอ พวกเขารู้ว่าเขากำลังให้และคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ ก่อนที่พวกเขาจะได้รับบุญใดๆ ก็กลับติดกับดักของมารหรือปีศาจแห่งความเย่อหยิ่งแล้ว! ดังนั้น มันจึงเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายสำหรับสำหรับเรามากในการที่ช่วยเหลือคนอื่นๆ
แม้แต่เวลาที่ฉันช่วยเหลือคน ฉันก็กลัวเหมือนกันว่าอัตตาของฉันมันอาจจะโผล่ออกมา (ทุกคนหัวเราะ) แต่ฉันบอกตัวเองว่า "ไม่เป็นไร, ไม่สำคัญ แม้หากว่าฉันจะทำร้ายตัวฉันเอง ตราบใดที่คนยากจนได้รับประโยชน์ มันก็ดีแล้ว! " ดังนั้น ฉันจึงไม่สนใจมากว่าอัตตาของฉันมันจะโผล่ออกมาหรือไม่ หรือว่าฉันกำลังทำร้ายตัวเองหรือสร้างกรรมขึ้นมาหรือเปล่า ฉันไม่สนใจ
เราต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างอย่างชัดเจน ไม่อย่างนั้นผลที่ได้มันจะแตกต่างไป! ฉันไม่เคยบอกเธอว่าเธอควรจะทำทานเพื่อให้ได้บุญ ใช่หรือเปล่า (ทุกคนตอบ : ไม่เคย!) ฉันเคยหลอกลวงเธอบ้างไหม? (ทุกคนตอบ: ไม่เคย!)
ฉันเคยเล่าเรื่องของขอทานอยู่บ่อยๆ ไม่กี่วันมานี้ ฉันเล่าอะไรให้คนต่างชาติฟังบางเรื่อง เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งคือ มีคนอยู่คนหนึ่งถวายเงินเหรียญสองอันให้แก่พระพุทธเจ้า ปรากฏว่าชาติแล้วชาติเล่าเป็นเวลาหกสิบเอ็ดกัลป์ เขาก็เกิดมามีเงินมากมายเสมอ ทุกครั้งที่แบมือออกมาก็จะมีทองสองชิ้นอยู่ในมือ ดังนั้นเขาจึงมีความสุขกับชีวิตที่ร่ำรวยอยู่เป็นเวลาถึงหกสิบเอ็ดกัลป์
บางครั้งเวลาฉันออกไปข้างนอก คนขายกะหล่ำปลีอยากจะให้กะหล่ำปลีฉัน แต่ฉันไม่กล้ารับ (อาจารย์และทุกคนหัวเราะ) ฉันกลัวว่าคนขายจะต้องกลับมาเกิดมีกะหล่ำปลีอยู่ในมือสองหัวอีกเป็นเวลาถึงหกสิบเอ็ดกัลป์ และไม่ได้เลิกจากธุรกิจขายกะหล่ำปลีนี้เสียที ดังนั้นฉันจึงไม่กล้ารับ
เมื่อก่อนนี้บางครั้ง เวลาฉันออกไปนอกศูนย์ในวันอาทิตย์ ฉันเห็นพวกเขากำลังขายผักกันอยู่ข้างถนน เวลาพวกเขาเห็นฉัน ฉันจะบอกว่าผักบางอย่างดูสวยดี พวกเขาก็จะพูดว่า "ฉันอยากจะให้ผักท่าน อาจารย์! กรุณารับมันไปด้วยเถอะ!"
ฉันก็รับไมตรีจิตของเขาจริงเพื่อให้พรบุญตอบแทนพวกเขา แต่ว่าฉันก็ยังคงจ่ายเงินด้วย วิธีนี้ทำให้เราทั้งสองฝ่ายจะไม่เกิดมามีกะหล่ำปลีหรือแคร็อทอยู่ในมือสองหัว (อาจารย์และทุกคนหัวเราะ) เราไม่มีวันจะกินมันได้หมดสักที! แม้หากว่าเราจะขายมัน มันก็น่าเบื่อมากที่จะมาขายผักอยู่หกสิบเอ็ดกัลป์!
ขอทานคนหนึ่งเคยถวายผ้าเก่าๆ ให้พระพุทธเจ้าผืนหนึ่ง ปรากฏว่าเขาก็มีผ้าเช็ดปากผืนหนึ่งอยู่ใต้คางเขาทุกครั้งที่เกิดมา สิบผืนฉันก็ไม่อยากจะได้ ไม่ต้องพูดถึงผืนเดียวหรอก (ทุกคนหัวเราะ) การที่ต้องอยู่ในโลกมายาเป็นเวลาชาติแล้วชาติเล่า เธอก็ไม่อยากได้หรอก แม้ว่าจะได้รับผ้าเช็ดปากเป็นหมื่นผืนก็ตาม ไม่ต้องพูดถึงแค่ผืนเดียวหรอก ไม่ถูกหรือ? เมื่อมีเหตุ ก็ต้องมีผล อย่างไรก็ตาม เรื่องกรรมนี้บางครั้งมันก็ตลกจริงๆ.....