ชาเขียวหอมๆ กรุ่นไอลอยช้า ๆ จากถ้วยเซรามิก แดดอุ่น ๆ ตอนเช้าขับไล่ไอหมอกขาวค่อยจางหายไปในช่วงวัน คลุ้งกลิ่นฟืนไฟอวลอบจากครัวหลังเก่า กาต้มน้ำสีดำถูกปล่อยต้มทิ้งไว้อย่างนั้น จวบจนกระทั่งไฟจากฟืนมอดดับเป็นเถ้าถ่านไฟ
หญิงสาว ห่อตัวกระชับด้วยผ้าไหมสีขาวแดง ผ้าอุ่นๆขับไล่ความหนาวเหน็บของอากาศยามเช้า เธอเสหยิบถ้วยชาอุ่น ๆ จิบไล่ความง่วงงุนที่เรื้อรังติดตามมาจนถึงบัดนี้ เธอยิ้มเย็นกับความสงบ และความสบายของอากาศยามเข้า หอมกลิ่นข้าวทุ่งที่ลมหอบพัดผ่านมาอยู่กราว ๆ ทุ่งนาเบื้องหน้าเป็นคลื่นสีเขียวต้องลมอยู่ไหว ๆ แสงแดดเหลือง ๆ ต้องใบข้าวและน้ำค้างกลายเป็นประกายสะท้อนสวยดังกับหยาดเพชรสีเขียว
"คุณรักอะไรนักหนา กับนาผืนนี้คุณควรจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ คุณทิ้งมันลงได้ยังไง" นานมาแล้ว เหมือนใครเคยถามเธอ เธอจำไม่ได้ว่าเธอให้คำตอบเขาอย่างไร แต่เธอเลือก เลือกที่จะหนีทุกอย่างที่เขาว่า มาจมอยู่ที่นี่ กับความสุขที่เธอไม่เคยคาดคิดว่าจะเจอ ความสุข ที่เธอเคยลืมเลือนไปกับแสงสีในเมืองกรุง
จู่ ๆ เนื้อเพลงที่เคยคุ้น มันกลับกรุ่น ๆ ขึ้นมาอยู่ในหัว เธอสะบัดหัวแรง ๆ เพื่อขับไล่มันแต่ทว่ามันยังคงจำและตอกย้ำอยู่อย่างนั้น รักที่เคยบอกฉัน ที่เคยหลอกฉัน ฉันเพิ่งเข้าใจ ฉันเสียใจแค่ไหน แพ้ความอ่อนไหว ของเธอมานาน ร้องร้องจนไม่ไหวแล้ว น้ำตาไม่เหลือแล้ว มืดมนเกินไป เหลือร่องรอยที่เหลือไว้ เหมือนเป็นบาดแผลร้าย ที่ลึกเกินจะเยียวยา ฝันร้ายมันกลายเป็นจริง ตื่นมาไม่หายไป ฝืนรับความจริง จนใจไม่อยากตื่นขึ้นมา โดนเธอโกหกมานาน ไม่ถามยังดีเสียกว่า ว่าอะไรคือจริง อันไหนไม่จริง อยากลองรู้สึกบ้างไหม ถ้าฉันไม่พูดความจริงออกไป ปล่อยเธอโง่อยู่อย่างนั้น สิ่งที่ได้เห็นเป็นความลวงตา บอกว่ารัก ที่แท้ไม่เคยรัก แค่เสียงพล่อยๆ ที่ลอยออกไป เธอรู้บ้างไหมมันทรมาน ยื้อยื้อจนไม่ไหวแล้ว เรี่ยวแรงไม่เหลือแล้ว ร้ายแรงเกินไป ฉันโง่ไปใช่ไหม ถึงเลวแค่ไหน ฉันรักใครฉันรักจริงจริง ฝันร้ายมันกลายเป็นจริง ตื่นมาไม่หายไป ฝืนรับความจริง จนใจไม่อยากตื่นขึ้นมา โดนเธอโกหกมานาน ไม่ถามยังดีเสียกว่า ว่าอะไรคือจริง อันไหนไม่จริง ************************** เพลง เสียงพล่อย ๆ ศิลปิน: พัดชา เอนกอายุวัฒน์ อัลบั้ม: If I Were You http://www.siamzone.com
ภาพแห่งความทรงจำเก่า ๆ ของเธอผุดขึ้นมาเพื่อตอกย้ำความรู้สึกที่น่าจะลืมเลือน "วันหยุดยาว เราไปเที่ยวกันไหม" เพื่อนคนสวยเอ่ยปากถาม "ไปไหนกันดี อยากหาที่สงบ ๆ หน่อยนอนฟังเสียงไม้เสียงนก" "แม่คุณ ห่างจากป่าจากเขาสักครั้งไม่หรือไงกัน" "ไม่ล่ะ เดี๋ยวชวนกันไปหลาย ๆ คนสนุกดี" "ตกลงจะสงบ หรือสนุก" "สงบ" "งั้นไปคนเดียวเลยไป" "แล้วแกไม่ไปกับฉันรึ แกกล้าให้ฉันไปคนเดียวรึไง" "ไป ฉันก็เบื่อเมืองอยู่เหมือนกัน เอางี้เดี๋ยวฉันขับรถไปรับแกแล้วกันนะ อย่างช้าไม่เกินเจ็ดโมง ตื่นให้ทันนะแก" "เออ น่าเรื่องเที่ยวไม่เคยพลาด แต่เรื่องคลาดคือทำงาน" "พูดดีว่ะ แค่นี้แล้วกัน ค่าโทรศัพท์แพง" "งก งก งก" ความสุขครั้งนั้นหากมันยืนยาวคงดีไม่น้อย แต่ทว่าโลกหมุนเวลาเปลี่ยน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอกับความสุขสงบที่เธอจากมา
คราที่เธอกลับมาในเมืองมันเหมือนมีภูเขาหนัก ๆ ทับอยู่ในหัว เขาคนนั้น คนที่ทำให้ชีวิตเธอสดใส เหมือนประกายเพชร
"เรามีแนวคิด แนวทางที่เหมือนกัน ผมชอบจังเวลาที่คุณเขียนเมล์ถึงผม" "จริงเหรอ คุณอ่านรู้เรื่องนะ" "อื้อ ผมชอบ ผมจะรออ่านนะ" อีเมล์ฉบับแล้วฉบับเล่าเป็นสื่อกลางของความสัมพันธ์ของเธอและเขา เวลาทำให้คนเรา รักกันและเวลาก็ทำให้คนเราจากพรากได้เช่นกัน "คุณรู้ไหม ดูดาวที่ไหนสวยที่สุด" "ไม่รู้สิ" "ไปดูดาวบนภูกระดึงกันไหม" "คิดดูก่อนละกัน"
ดาวบนภูกระดึงเปลี่ยนไปแล้ว ชีวิตต่าง ๆ บนภูกระดึงก็เปลี่ยนไป รวมทั้งเขาและเธอ "คุณ ผมอยากบอกอะไรคุณสักเรื่องนึง" "อื้อ ก็บอกมาสิ" "คุณอย่าโกรธผมนะ" "เรื่องมันร้ายแรงขนาดนั้นเชียวหรือ" "เอ่อ คือ เอ่อ ผมไม่ได้รักคุณ ผมรักเค้า "
"คุณไม่ได้รักชั้น คุณรักผู้ชายคนนี้ คุณทำได้ยังไง ที่ผ่านมามันคืออะไร คุณทำกับชั้นได้ยังไง คุณมันบ้าไปแล้ว" "ผมขอโทษ ชีวิตผมมีกรรม ปล่อยผมไปเถอะนะ ทุกอย่างที่เรามีผมให้คุณหมดเลย ขอให้ผมได้อยู่กับคนที่ผมรัก ได้ใช้ชีวิตร่วมกับเค้า ผมขอโทษ คุณคือเพื่อนที่ดีที่สุดของผม" "คุณเคยคิดไหม ฉันจะอยู่ได้ยังไง ถ้าไม่มีคุณ ฉันรักคุณนะ" "แต่ผมรักคุณไม่ได้ ทั้งที่ผมพยายามแล้ว ผมรักคุณไม่ได้" "แล้วที่คุณพูดออกมาก่อนหน้านี้ มันก็แค่เสียงพล่อย ๆ เท่านั้นใช่ไหม" "ผมเสียใจ ไม่ว่าจะยังไงผมก็รักคุณไม่ได้จริง ๆ " "ไอ้ผู้ชายเฮงซวย ออกจากชีวิตฉันไปเลยไป"
นับแต่นั้นเธอหันหลังให้กับชีวิตในเมือง ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง เธอสุขกับบ้านหลังเล็กริมทุ่งนา สุขกับการไม่มีอะไร สุขกับการไม่มีใคร เธอไม่ต้องแก่งแย่ง เธอไม่ต้องคอยใครทุกวันเธอยังคงยิ้มได้ น้ำใจงาม ๆ ของคนบ้านนอกบอกให้เธอรู้ว่าเธอพบสุขที่ยั่งยืนแล้ว
ชีวิตเธอคงจะเหมือนหอยทากตัวนั้น ที่ยังคงคลานต้วมเตี้ยมอยู่กับทางเท้าหน้าบ้าน เธอมองมันอย่างมีความสุข ใช่สินะมันเดินช้า ๆ ผ่านอะไรมาตั้งมากมาย ตั้งแต่เธอเฝ้าสังเกตมันธอไม่เคยเห็นมันหกล้ม หรือหล่นเลยสักครั้งเดียว แม้ทางที่มันผ่านจะสูงปานใดก็ตาม แต่ชีวิตเธอเธอล้มลุกคลุกคลานมากี่ครั้งกว่าที่เธอจะเริ่มเดินช้า ๆ และเริ่มต้นใหม่ได้ในวันนี้ มือของเธอกร้านกอรปกับหัวใจของเธอแกร่งด้วยบาดแผลที่เคยเกาะกินในใจ มันแห้งหายไปอย่างช้า ๆ
29 กรกฎาคม 2555 09:04 น. - comment id 117032
อิอิ งานหน้าแล้วกันกีกี้ หยุดยาวไปไหนเอ่ย
28 กรกฎาคม 2555 08:10 น. - comment id 129982
ชอบจัง พี่อ้อยร้อยฝันของฉัน อ่านแล้วมีความสุขซึมซับไปกับธรรมชาติ อย่างเห็นภาพ... ^____^ เธออยู่กับทุ่งเมื่อชายคนนั้นมุ่งเข้าป่าเดียวกัน อิอิ
28 กรกฎาคม 2555 10:24 น. - comment id 129983
ยอดเยี่ยมครับ เสียงพล่อยๆว่า ทางใคร ทางมัน อิอิ ชอบจริงๆยังหอมกลิ่นชาเขียว อยู่เลยนะเนี่ย เขียนมาอีกเนาะจักรออ่าน สุขอย่าได้สร่าง
28 กรกฎาคม 2555 12:32 น. - comment id 129984
อ่านจบด้วยความสุข จะอย่างไร ...เธอก็ไม่ได้เสียเขาไป ถึงแม้เขารักเธอไม่ได้ แต่มั่นใจว่า เขาจะเป็นเพื่อนที่ดีสุดสำหรับเธอ... เรืองของความรัก มันห้ามกันไม่ได้จริงๆเนาะ
28 กรกฎาคม 2555 15:06 น. - comment id 129985
น้องเอง ดีใจที่อ่านแล้วสุข คิดถึงเรานะกลับบ้านอีสานบ้านนา ข้าวกำลังเขียวเชียว ขอบคุณค่ะ คุณคอนพูทน ช่วงนี้งดกาแฟ มาดื่มชาหอม ๆ กัน ใช่เลยแบม อย่างน้อยเราก็ยังมีเพื่อนที่ดีที่สุด เนอะ ++++
28 กรกฎาคม 2555 15:33 น. - comment id 129986
เสียงพล่อยๆ น้องช้างไม่อยากจะได้ยินเลยค่ะพี่ช้าง
28 กรกฎาคม 2555 17:03 น. - comment id 129987
นั่น มันเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แม้แต่ตัวเราเองก็เหอะ ถึงไม่อยากจะเปลี่ยน แต่บางทีเราอาจจะเปลี่ยนไปไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม ปล.ฟังดูดีเน๊อะ
28 กรกฎาคม 2555 19:37 น. - comment id 129988
น่าจะขอบคุณเสียงล่อยๆนะเพราะทำให้เราพบสุขที่ยั่งยืน
28 กรกฎาคม 2555 21:36 น. - comment id 129989
อื้อ พี่ก็ไม่อยากได้ยินหรอก น้องช้าง แต่เพลงเค้าเพราะนะ กีกี้ เปลี่ยนแปลงตามเวลาจริง ๆ เราพิสูจน์กันมาแล้วไม่ใช่หรือ มีค่ายทุ่งกะมัง 8-10 ส.ค.มามั๊ย ขอบคุณค่ะคุณแจ้น ก็คงจริงตามนั้นค่ะ
28 กรกฎาคม 2555 21:40 น. - comment id 129990
ทำงาน
29 กรกฎาคม 2555 14:47 น. - comment id 129991
อยากดื่มชาด้วย ขอน้ำที่สองก็ได้น่ะ :)
29 กรกฎาคม 2555 15:05 น. - comment id 129992
มามะ น้ำแรกหอม ๆ แถมข้าวจี่แสนอร่อยด้วยคุณกุ้ง
31 กรกฎาคม 2555 14:31 น. - comment id 130001
หอมกลิ่นข้าวจี่ ไม่ได้กินนานแล้ว แบ่งบ้างนะคุณร้อยฝัน
1 สิงหาคม 2555 10:51 น. - comment id 130003
ได้เลยค่ะ คุณดิน ข้าวจี่ร้อน ๆ หอมไข่ ข้างในสอดแจ่วบอง แจ่มค่ะแจ่ม
1 สิงหาคม 2555 16:59 น. - comment id 130005
เพิ่งจะเห็นว่ามาลงงาน แต่อ่านไม่ทัน เลยเอาความคิดถึงมาฝากไว้ให้ก่อนนะจ๊ะ ต้องไปทำงานต่อแล้ว บ๊ายบาย
6 สิงหาคม 2555 10:39 น. - comment id 130026
มารับความคิดถึงจะตูน คิดถึงตูนเช่นกันนะ