* แดนพิศวง ตอน ๑๔ *

แก้วประเสริฐ


                   แดนพิศวง ๑๔
             (เหนือความคาดหมาย)
   เสียงเอะอะโวยวายดังลั่นจากนอกร้าน  ชายหนุ่มเพ่งตามองแลเห็นคนกลุ่ม
จำนวนมากกำลังวิ่งมาทางนี้ ด้วยเสียงดังลั่นสนั่นไปทั่วจากร้านขายของที่เขา
อยู่   ดังนั้นชายหนุ่มจึงหันไปสั่งนกยักษ์ทันที
   “เจ้าสดายุ รีบคืนร่างกลับไปยังที่เดิมด่วนนะ”
   เหมือนนกนั้นจะฟังคำพูดของชายหนุ่มออกรีบคืนร่างเหมือนเดิมบินกลับ
ไปยังคอนไม้ที่ยังแขวนอยู่ทันที   สร้างความแปลกใจแก่ชายชรายิ่งนักที่นก
นั้นสามารถฟังคำพูดของชายหนุ่มแปลกหน้าได้  แล้วก็ต้องรีบสะดุ้งเมื่อได้
ยินเสียงของชายหนุ่มกล่าวขึ้นว่า
   “สินธุท่านรีบถอยห่างจากข้าพเจ้าแล้วนำแท่งแก้วนั้นเก็บยังที่เดิมด่วนด้วย”
   “อ้าวๆทำไมล่ะ???...ท่านถึงให้เก็บของดังเดิม”
   “ไม่ต้องถามหรอก  คนขายของต่างๆกำลังจะมายังร้านท่าน”
   “หรือ???..เรากลับไม่รู้อะไรเลย”
   “เอาล่ะท่านไม่ต้องถามอะไรมากหรอก รีบถอยเดี๋ยวนี้จะไม่ทันการณ์”
    ชายชรางุนงงแต่ก็รีบจัดการเก็บแท่งแก้วที่บัดนี้ใส่ในฝักเรียบร้อยแล้ว
เข้ากล่องดังเดิม  แล้วถอยร่างออกจากชายหนุ่ม หันไปมองชายหนุ่ม
ว่าจะทำอะไร  เพียงแต่เห็นชายหนุ่มยืนหลับตานิ่งคล้ายจะสำรวมจิตไว้
หนุ่มนิรุทธ์รีบรวบรวมพลังทั้งหมดแล้วพลางร่างเขาก็เปล่งประกายแห่ง
มวลพลังแล้วชี้มือไปยังของที่พลังทะลายลงมา  เขาจัดการรีบทำโดยด่วน
ในไม่ช้าบรรดาสิ่งของต่างๆตลอดหลังคาก็คืนกลับสู่สภาพเดิม ทำให้
ชายชราถึงกลับตาเหลือกอ้าปากค้าง  เมื่อแลเห็นสิ่งของต่างๆที่กองลงมา
กลับลอยขึ้นไปยังที่เดิม  จนสภาพเรียบร้อยบัดนั้นเมื่อมองไปยังหน้าร้าน
ของเขาก็แลเห็นบรรดาพ่อค้าต่างๆพากันร้องเอะอะ และมีบางคนเข้ามา
ในร้านพลางถามว่า
   “ลุงเมื่อกี้นี้เกิดอะไรขึ้นหรือเหมือนยังกับฟ้าผ่ากลางวันแน๊ะ เอ๊ะๆๆๆ
ไม่เห็นมีอะไรนี่นา  จะว่าเราหูไม่ดีก็ไม่ได้เพราะได้ยินกันสนั่นไปหมด”
   “ก็ดูเอาซิไม่เห็นมีอะไรนี่นา ขอบใจมากนะที่เป็นห่วง”
ชายชราแสร้งกล่าวทั้งๆที่ในทรวงอกยังสั่นระทึกต่อเหตุการณ์ที่เขาเห็น
กับตาว่าอะไรเป็นอะไร
   “อย่างนั้นก็แล้วไปเป็นห่วงว่าลุงจะเป็นอะไรไปเสียเปล่าๆ หากไม่เป็น
อะไรก็จะกลับแล้วนะ”
    พลางหันเดินออกจากร้านแล้วไปพูดคุยกับพวกที่มองอย่างแปลกใจด้วย
สภาพภายในร้านก็ปกติอยู่  จะว่าหูเพี้ยนหรือก็ย่อมเป็นไปไม่ได้เพราะได้
ยินกันหลายๆคน  เมื่อไม่มีอะไรบรรดาพวกพ่อค้าแม่ค้าก็ต่างเดินกลับพลาง
วิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนาๆ   เมื่อบรรดาพวกพ่อค้าแม่ค้ากลับไปแล้ว ชายชรา
ก็รีบหันมาทางชายหนุ่มทันที  พลางกล่าวถามด้วยความสงสัยว่า”
    “พ่อหนุ่มทำได้อย่างไรกันนะ  เพราะของใช้ก็เห็นว่าทุกอย่างพังทะลายลง
มาเกือบหมด หลังคาก็ยุบลงมาด้วย  แต่นี่กลับคืนสภาพเรียบร้อยดังเดิม”
    ชายหนุ่มหัวร่อพลางเอ่ยขึ้น
   “ลุงอย่ารู้เลยว่าฉันทำอะไรไป  เพียงเท่านี้ยังเล็กน้อยเพื่อป้องกันมิให้เกิด
เรื่องไถ่ถามมากไปกว่านี้  แล้วลุงเรียนวิชามานะฉันได้ยินมีแต่ในตำราเท่า
นั้น  ลุงจะถ่ายทอดให้ฉันได้ไหมล่ะ???...”
    “ได้ซิทำไมจะไม่ได้ เพราะว่าพ่อหนุ่มมีคุณแก่ลุงมากอยู่แล้ว”
    “แล้วร่างกายอันแท้จริงลุงเป็นอย่างไรล่ะ”
   “อย่าพึ่งถามอะไรตอนนี้เลย เป็นอันว่าตกลงนะลุงจะติดสอยห้อยตามพ่อ
หนุ่มไปทุกๆแห่ง  รับปากให้มั่นใจอีกครั้งซิพ่อหนุ่ม”
   คราวนี้ชายหนุ่มอึ้งทันทีเพราะเขาเองยังไม่รู้ว่าจะติดตามดวงแก้วได้ที่ไหน
และหากมีชายชราติดตามไปด้วยก็จะสร้างความลำบากใจแก่เขาเป็นอย่างมาก
เหมือนชายชราจะรู้พลางหัวร่อเอ่ยขึ้น
   “เรื่องความชรานี้ไม่ต้องห่วงหรอกอันที่จริงข้ามิได้แก่ดังที่เห็นอยู่นี้หรอก
เดี๋ยวข้าจะเข้าไปเอาของอีกอย่างหนึ่งมาเพราะเก็บรักษาไว้นานแล้วเพื่อติดตัว
ไว้ป้องกันตัว  พ่อหนุ่มคอยเดี๋ยวนะ”
    ชายชราไม่พูดอะไรอีกหรือคอยฟังคำของชายหนุ่มพลางเดินหายเข้าไปใน
ห้องส่วนตัว  สักพักหนึ่งก็ออกมา  คราวนี้ชายหนุ่มตลึงเพราะร่างที่เขาเห็นหา
ใช่ร่างชายชราก็หาไม่กลับเป็นร่างหนุ่มร่างกำยำล่ำสันอายุหรือก็สู่วัยกลางคน
เท่านั้นถือ รูปร่างหรือก็ไม่ได้หลังค่อมกลับผึ่งผายราวนักรบโบราณ มือถือ ฝัก
ดาบเดินออกมา  เมื่อเห็นชายหน่มตลึงเช่นนั้นก็หัวร่อเอ่ยขึ้นว่า
   “พ่อหนุ่มนี่แหละคือร่างอันแท้จริงของข้าล่ะ เพราะวิชาที่บอกไว้แก่พ่อหนุ่ม
นี่แหละ  แต่ข้ามาคิดดูแล้วจะขอเป็นคนรับใช้ประจำตัวพ่อหนุ่มก็แล้วกันหวัง
ว่าพ่อหนุ่มคงไม่ว่าอะไรนะ”
   “ถ้าอย่างนั้นข้าเองก็ไม่อยากขัดใจหรอกแต่จะดีหรือ???...ที่จะมาเป็นข้ารับ
ใช้ของข้านะ   แล้วฝักนั้นคือดาบประจำตัวเจ้าใช่ไหมล่ะ???”
   “ใช่แล้วล่ะ ข้าไม่ได้ใช้มานมนานแล้วล่ะเพื่อคอยคนๆหนึ่งอยู่ก็คือพ่อหนุ่ม
นั่นเองแหละ ข้าแน่ใจเช่นนั้นเพราะทวดสั่งสืบทอดมาว่าหากผู้ใดสามารถเปิด
กล่องดังกล่าวไว้ได้ให้เป็นข้ารับใช้จนกว่าชีวิตจะหาไม่  เมื่อพ่อหนุ่มเปิดได้จึง
เหมือนดังคำสั่งที่ข้ารับมา  เอาพ่อหนุ่มดูสิ่งของนี้ซิ”
      พลางยืนฝักดาบให้แก่ชายหนุ่ม   ชายหนุ่มรับมาแล้วชักดาบออกแปลก
จริงๆตัวดาบกลับเป็นสีดำสนิททั้งด้ามทั้งแหลมและคม แต่น้ำหนักกลับเบา
มากๆเสียด้วย  เขาเพ่งมองดูนึกว่าเป็นแก้วดังมีดในกล่องแต่ไม่ใช่จะว่าเป็นไม้
ก็ไม่เชิง ไม่ทราบว่าทำมาจากอะไรกัน  จึงถามชายกลางคนทันที”
   “แปลกนะพึ่งเคยเห็นนี่แหละดำสนิทดังกับนิลแต่หาใช่แก้วไม่จะว่าไม้ก็ไม่
เชิงอะไรหรือ????”
   “ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะได้รับการตกทอดจนมาถึงข้า   ซ้ำกำชับว่าอย่า
ได้มีครอบครัวคอยคนๆหนึ่งที่เคยเอ่ยไว้แล้วแหละ หากพบจึงจะมีครอบครัว
ได้  หากไม่พบก็ให้หาคนถ่ายทอดวิชาประจำตระกูลมารับช่วงไว้  แต่บัดนี้ข้า
เจอแล้ว  และไม่ได้ถามว่าทำจากอะไรเสียด้วยซินายท่าน”
    “อืมม!!!!แปลกจริงๆ  เอาล่ะท่านแน่ใจหรือว่าคนที่ต้องการหาคือข้านะ”
    “ข้ามั่นใจเช่นนั้น หากคนใดสามารถเปิดกล่องได้ทั้งสามกล่องและนำของ
นั้นออกมาได้  ถือว่าเป็นนายข้าอย่างแน่นอน  เมื่อนายท่านสามารถเปิดได้ดัง
นั้นจึงเป็นนายข้าไม่ผิดจากได้รับการบอกตกทอดมาแน่นอน”
    “เอาล่ะเมื่อท่านมั่นใจเช่นนั้นข้าเองก็ไม่ขัดข้องแต่ประการใด บอกตรงๆว่า
ตอนที่อยู่ในรูปร่างชายชราข้าหนักใจมากจริงๆเพราะต้องไปหาของสิ่งหนึ่ง จะ
ขอถามท่านเพราะท่านคนพื้นเพที่นี่อาจจะรู้บ้างก็ได้”
    “อันที่จริงข้าไม่ใช่คนถิ่นนี้หรอกนาย  ข้ามาจากป่าเชิงเขาหิมาลัยที่มีสัตว์
ประหลาดๆหลายๆอย่าง  แต่เพื่อจะคอยคนที่ข้าต้องการจึงต้องออกจากป่ามา
ขายของตบตาเท่านั้นหรอก”
    “อ้าวไม่ใช่คนที่นี่หรือ ท่านเคยเห็นแก้วสีเขียวแต่ข้างในเป็นสีทองไหมล่ะ”
   “ข้าเห็นของมาก็มากมายแล้วล่ะนาย  แต่ว่านายลองเขียนมาให้ข้าดูหน่อยนะ
ว่ามีลักษณะอย่างไรกันแน่”
      กล่าวแล้วชายกลางคนก็เดินไปหยิบกระดาษกับดินสอมาให้ชายหนุ่มทันที
ดังนั้นชายหนุ่มจึงวาดภาพมรกตสีทองให้ชายกลางคนที่สมัครใจเป็นคนรับใช้
ให้ทราบทันที   ชายกลางคนพอรับมาพิจารณาพลางเอ่ยว่า
   “อันภาพวาดนี้ข้าเคยเห็นบรรพบุรุษข้าเขียนไว้ในห้องหนังสือและรูปคลำอยู่
เสมอๆ แต่ไม่ได้บอกว่าอะไรแก่ข้าหรอก  คงจะเป็นของวิเศษอย่างหนึ่งกระมัง
และบรรพบุรุษข้าหวงแหนภาพนั้นนัก  ข้าเคยถามแต่ไม่ได้รับการบอกกล่าว
แต่ข้าระหว่างออกจากป่านั้น  ในเวลากลางคืน 15 ค่ำมักจะเห็นแสงประหลาด
สีดังมรกตพุ่งออกมาจากเขาลูกหนึ่ง  ข้าเฝ้ามองและติดตามไปค้นหาแต่ไม่เจอ
เป็นแสงที่ประหลาดมากๆ  พุ่งขึ้นท้องฟ้าแล้วหายไปสักพักก็กลับมายังภูเขานั้นดังเดิม  
 นายข้าสนใจไหมล่ะ???”
   “สินธุ เจ้าเห็นที่ไหนหรือ???”
    เมื่อชายหนุ่มเอ่ยชื่อเช่นนี้ทำให้ชายกลางคนถึงกับทรุดตัวคุกเขาลงข้างหนึ่ง
ทำความเคารพทันที   ท่านเรียกข้าว่า “สินธุ”หรือ หูข้าไม่เพี้ยนนะ
    “ใช่แล้วล่ะ เจ้าสินธุเพราะเป็นชื่อของท่านใช่ไหมล่ะ”
   “ถูกแล้วนายท่าน  นั่นคือชื่อเดิมของข้าแหละนายท่านข้าไม่เคยบอกแก่ใคร
ท่านรู้ได้อย่างไรล่ะ????”
   “เอาล่ะไม่ต้องถามข้าหรอก เป็นเอาว่าข้ารู้ก็แล้วกันนะ  ข้าชักสนใจภูเขาลูก
นั้นเสียแล้วอยู่ไกลไหมล่ะ”
    “จะว่าไกลก็ไกล ใกล้ก็ใกล้นายท่านหากท่านสามารถใช้เจ้านกสดายุนั้นพา
ไปก็นับว่าใกล้”
   “งั้นหรือ  เอาอย่างนี้ดีกว่าท่านหาย่ามให้ข้าสักใบนะเพื่อจะให้เจ้าสดายุได้อยู่
เพราะจะได้ไม่เป็นที่สังเกตุของใครๆ  แล้วของในร้านของเจ้าล่ะจะจัดการ
อย่างไรดีล่ะ  หากเจ้าต้องติดตามข้าไปในสถานที่อันตรายยิ่งนัก”
   “เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงหรอกนายท่าน  ทิ้งไว้ที่นี่ก็แล้วกันมันไม่สำคัญเท่าใดแก่
ข้าหรอก   เดี๋ยวข้าจะไปหยิบย่ามมาให้แก่นายท่านก็แล้วกัน”
   ว่าแล้วชายร่างกำยำก็เดินไปข้างในหยิบย่ามออกมาสองใบ  พลางยื่นให้ชาย
หนุ่มหนึ่งใบ  ส่วนตัวเองเก็บไว้หนึ่งใบ ย่ามนั้นมีลักษณะสวยงามมากทำจาก
หนังสัตว์   ชายหนุ่มยกขึ้นมาดูอย่างฉงนสนเทห์นักมันเป็นสัตว์อะไรหรือจึง
ถามว่า
    “อันย่ามนี้ทำจากอะไรหรือท่าน”
    “ทำจากหนังสัตว์ในป่าโน้น คล้ายๆจามจุรีขอรับนายท่าน”
   “อันสัตว์ประเภทนี้มีหลักแหล่งอยู่บนเขาหิมาลัยนี่นา”
   “ใช่แล้วนายท่าน บรรพบุรุษเก็บรักษาไว้นานแล้วล่ะคงทนต่ออาวุธทั้งปวง
ภายในบรรจุหนังไว้ผืนหนึ่งอีกด้วยสามารถเอามาห่มป้องกันความหนาวและ
สิ่งต่างๆได้อีกด้วยตลอดจนมีฤทธิ์ต่างๆนาๆแต่ข้าไม่รู้วิธีนายท่าน”
    ชายหนุ่มไม่กล่าวอะไรอีก  แล้วยื่นของส่งให้แก่ชายที่สมัครเป็นคนรับใช้
พลางสั่งให้เอากล่องเก็บไว้ในย่ามนั้น  แล้วหันไปทางหน้าร้านพลางส่งเสียง
เรียกเจ้า สดายุ ให้มาหาพลางสั่งให้ไปอยู่ในย่ามนั้นทันที  ทันใดนั้นเจ้านกก็
บินถลามาร่างมันค่อยๆเล็กลงอีก แล้วเข้าไปอยู่ในย่าม 
ครั้นเรียบร้อยแล้ว   ชายหนุ่มจึงหันหน้ามา แล้วบอกให้ชายหนุ่ม
ใหญ่นั้นคอยเขาก่อน  เขาจะไปเช็คเอ๊าท์ออกจากโรงแรมแล้วจะได้รีบออกเดิน
ทางไปยังภูเขาดังกล่าวด้วยกัน  อันป่าที่ท่านว่านั้นคงจะมีอะไรพิสดารมากนัก
นะมิฉะนั้นคนคงจะเข้าไปเที่ยวกันมากๆด้วย 
เพราะมิฉะนั้นจะมีของประหลาดๆอยู่หรือ  
คงจะเป็นป่าที่ไม่ใช่ป่าธรรมดาหรอก 
ชายหนุ่มคิดในใจ
   “ท่านคอยเราที่นี่นะ  เจ้าสดายุด้วยอย่าออกมาล่ะจนกว่าข้าจะสั่ง”
    ชายวัยกลางคนน้อมรับและได้ยินเสียร้องจากในย่ามเหมือนจะรับรู้คำสั่งนั้น
แล้วชายหนุ่มก็รีบออกจากร้านไปทันที  เพื่อไปยังโรงแรมเมื่อชำระค่าเช่าที่พัก
แล้ว  ย้อนหวนกลับมาหาชายดังกล่าวพร้อมด้วยสัมภาระกระเป๋าสพายเล็กๆอัน
เป็นที่เก็บของจำเป็นเท่านั้น  ส่วนใหญ่ก็ทิ้งไว้ในห้องไม่นำเอาติดตัวมาด้วย
   “นายท่าน ท่านไม่ต้องนำของท่านไปหรอกไม่จำเป็นเสียแล้วเพราะที่บ้าน
ของเรามีสิ่งของดีๆกว่านี้อีกมากนัก จะมอบให้แก่นายท่าน นายท่านเอาเก็บไว้
ที่นี่แหละ  เพียงเอาย่ามไปอย่างเดียวก็พอแล้ว   ดังนั้นชายหนุ่มจึงวางของของ
เขาไว้ยังโต๊ะที่วางอยู่ข้างๆผนัง เพราะหากเอาไปสองอย่างมันจะเกะกะน่าดู
       ครั้นทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดก็ออกเดินทางโดยมีชายกลางคนเดิน
นำหน้า มุ่งสู่ป่าที่มีภูเขาปรากฏแสงทันที   เมื่อออกเดินทางพ้นเมืองไปเข้าสู่ยัง
ป่า  อากาศเริ่มหนาวเย็นแต่ชายหนุ่มซึ่งร่างกายเต็มไปด้วยพลังงาน
จึงไม่รู้สึกแต่อย่างไร ส่วนชายรับใช้นั้นก็เช่นเดียวกัน
เพราะเคยชินกับอากาศเหล่านี้มามากแล้ว  
ทุกๆคนไม่เร่งรีบต่างเดินชมสิ่งต่างๆไปเพียงแต่ไม่ค่อยได้คุยกัน
เท่าใดนัก  ต่างคนก็เดินตามปกติ
มิให้เป็นที่สังเกตุแก่คนที่เดินผ่านไปๆมาๆ
เมื่อทั้งหมดเข้าสู่แนวป่าใหญ่แล้ว  
ชายหนุ่มซึ่งสพายย่ามที่บรรจุนกไว้ข้างใน
ดังนั้นเขาจึงเรียกเจ้าสดายุให้ออกจากย่ามทันที   
เมื่อนกนั้นได้ฟังคำสั่งเช่นนั้นก็บินออกจากย่ามใบนั้นทันที  
      ชายหนุ่มสั่งให้เปลี่ยนแปลงร่างให้ใหญ่แล้วทั้งสองก็นั่งบนหลังอันอ่อนนุ่ม
นกสดายุ มันก็บินขึ้นท้องฟ้า  ชายหนุ่มหันมาถามผู้รับใช้ว่าจะไปทางไหนเมื่อ
ได้รับทราบแล้วก็สั่งให้สดายุบินไปยังภูเขาใหญ่ที่ปกคลุม
ไปด้วยหิมะที่มองเห็นไกลลิบๆนั้น  ชั่วเวลาไม่นานเท่าใดนัก
เจ้าสดายุก็นำพาทั้งสอง
    ครั้นนกสดายุบินไปถึงเขาดังกล่าวแล้วซึ่งมีเขาสลับซับซ้อนมากมายนักแต่
ยอดเขาทั้งเขาเต็มไปด้วยหิมะปกคลุมมากมาย แต่มีป่าใหญ่แห่งหนึ่งกับแปลก
ประหลาดมากไม่มีหิมะปกคลุมเอาเสียเลย  ดังนั้นชายหนุ่มจึงสั่งให้เจ้าสดายุ
กลับคืนร่างเข้าไปในย่าม     หลังจากลงจากหลังมันทั้งสองแล้ว   ชายหนุ่ม
จึงหันไปถามผู้รับใช้ว่า
   “แล้วพวกเราจะไปทางไหนดีล่ะ  มีที่นี้ที่เดียวที่แปลกยิ่งนักไม่มีหิมะอยู่เลย
เป็นเพราะเหตุใดหรือท่าน”
   “อันป่านี้มีมานมนานแล้วล่ะนาย ข้าเองก็มาจากป่านี้แหละนายจะแวะไปยัง
บ้านข้าและพวกของข้าไหมล่ะ???...”
   “คงไม่หรอกเพราะเราจะมาหาของยังไม่รู้ว่า
จะใช่หรือไม่เพราะข้าเองก็ยัง
ไม่เคยเห็นได้แต่รับการบอกกล่าวจากคนของข้าเท่านั้น”
   “คนของนายมีรูปร่างลักษณะใดหรือ??????.....”
    ดังนั้นชายหนุ่มจึงเล่าเรื่องของชายแปลกประหลาดสามคนให้แก่สินธุฟัง
ทำให้ชายกลางคนถึงกับอึ้งไปทันทีพลางเอ่ยขึ้นว่า
   “นั่นคือพวกของข้าแหละนายท่าน  ทุกๆ 15 ค่ำพระจันทร์เต็มดวงจะมาหา
ข้าครั้งหนึ่งเสมอ  และเป็นพวกของข้าเหมือนกัน”
   “อย่างนั้นหรือก็แสดงว่าเป็นพวกเดียวกันที่มาจากที่ไกลโพ้นแห่งหนึ่งใช่
ไหมล่ะ  มิน่าเล่าถึงได้มีสิ่งประหลาดๆอยู่ หรือว่าของเหล่านี้ชายพวกนั้นให้
มาใช่ไหม???....”
   “มิได้หรอกนายท่าน เพราะว่าเป็นของบรรพบุรุษตกทอดมาให้แต่ทว่าจะ
เป็นพวกเดียวกันหรือเปล่าเรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันคิดว่าคงจะใช่นายท่าน”
   “ข้าว่าบรรพบุรุษของเจ้าก็คงจะเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันนั่นแหละ เพราะได้ยิน
ว่าต่างแตกแยกกันมาจากดินแดนไกลโพ้นโน้น  คงจะเหมือนๆกันแหละนะ”
   “ข้าเองก็เพียงได้รับการถ่ายทอดรักษาของมาเท่านั้นแหละ  อ้อๆๆนายท่าน
ข้าเองยังไม่ได้ถ่ายทอดวิชาการต่างๆให้แก่นายท่านเลย  เอาอย่างนี้ดีกว่าไปที่
บ้านพักข้าก่อนเพื่อ  ข้าจะได้ถ่ายทอดวิชาต่างๆให้แก่นายท่านด้วยนะ”
   “อืมม!!!!ก็ดีเหมือนกันนะ  งั้นเราไปบ้านพักเจ้าก็แล้วกันนะแต่ว่าใช้เวลา
นานไหมล่ะ???...”
   “อย่างนี้อยู่ที่นายท่านจะรับได้มากน้อยเท่าใดแล้วแต่บุญวาสนานายท่านแต่
ข้าคิดว่าคงไม่นานหรอกเพราะ มิเช่นนั้นก็คงไม่สามารถเปิดกล่องทั้งสามกล่อง
ได้หรอก  ข้าเชื่อเช่นนั้น”
   “จริงอย่างเจ้าว่าแล้วแต่บุญวาสนาของข้าเอง  เอาล่ะไปกันได้แล้วล่ะ”
แต่ทว่าท่านจะเห็นแสงนั้นก็ต่อเมื่อขึ้น 15 ค่ำเท่านั้นเอง  แต่นี่ยังไม่ถึงเวลา
จึงต้องคอยเวลาให้ถึงก่อนถึงจะเห็นแสงดังกล่าว 
หากไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก 
 จะเสียเวลาค้นหาเปล่าเพราะไม่รู้ว่าลำแสงเกิดจากที่ใดๆ  
    หากรู้ก็จะได้ดั้นด้นออกไปค้นหานะนาย”
   “อืมมๆๆๆจริงซินะถึงไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์งั้นเราไปพักที่บ้านท่าน
ก่อนเพื่อรอเวลาให้ถึงเสียก่อน บางทีอาจจะเจอกับบุคคลทั้งสามอีกด้วย
         ดังนั้นชายผู้รับใช้จึงได้พาชายหนุ่มเดินลัดเลาะเข้าไปสู่ป่าใหญ่ทันที........
                    * แก้วประเสริฐ. *

redskirt.gificon_dukdik_185.gif2HlsOT.gif76.gif				
comments powered by Disqus
  • เอื้องอังกูร

    18 มิถุนายน 2555 10:40 น. - comment id 129618

    เข้ามาอ่านด้วยความสนุกครับ..ขอบคุณครับ36.gif16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    18 มิถุนายน 2555 16:03 น. - comment id 129619

    36.gif16.gif16.gif
    คุณ เอื้องอังกูร
    
            ต่อจากนี้ไปเรื่องจะเข้าเริ่มสนุกขึ้นไปเรื่อยๆ
    แล้วครับ คอยติดตามอ่านก็แล้วกันครับ ขอบคุณ
    
                         16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • กิ่งโศก

    20 มิถุนายน 2555 21:55 น. - comment id 129623

    ,มาติดตามอ่านครับครู
  • แก้วประเสริฐ

    21 มิถุนายน 2555 07:54 น. - comment id 129624

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
             ศิษย์เรา ไม่ได้เจอนานแล้วนะ งานคงจะมาก
    ตอนนี้เป็นช่วงแห่งการหาเงินหาทองเก็บไว้
    ยิ่งทำงานบริษัทควรแยกแยะให้ดีนะ ส่วนทาง
    นี้คือการระบายอารมณ์และฝึกสมองเราเท่านั้น
                 รักศิษย์เรามากเสมอ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน