กาลครั้งหนึ่งมีเจ้าหญิงTURTLE(เต่าผู้ต่ำต้อย) เฝ้าคิดว่าตัวเองมีปมด้อยเพราะต้วมเตี้ยมเชื่องช้าไม่ทันคน ไม่ทันโลก ชอบซุกตัวอยู่แต่ในกระดอง อยู่แต่กับตัวเองไม่ค่อยกล้าพบเจอใคร ส่วนเจ้าชายRABBIT(กระต่ายผู้ปราดเปรียวว่องไว) มีมนุษย์สัมพันธ์ชอบสังคมจึงมีหมู่มิตรมากมาย อยู่กับปราสาทใหญ่โตเพียบพร้อมแทบทุกอย่าง แต่โหยหารักแท้ จึงหนีออกมานอกปราสาท วันหนึ่ง ดั่งชะตาฟ้าที่สร้างให้ทั้งสองมาเจอะเจอ เมื่อหัวใจทั้งสองได้สัมผัสถึงอนุภาคแห่งห้วงคำนึง จึงบังเกิดเป็นความรักขึ้นในทันที สองเราสัญญาว่าจะไม่แยกจากกันไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แทนคำสัญญาเราใช้ต้นหญ้าริมทางมาพันเป็นเส้นด้ายสายป่าน คล้องมือของทั้งสองไว้ และเราจะจับมือกันไว้ตลอดไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะหลับหรือตื่น จนกว่าจะตายจากกัน เมื่อตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก ทุกอย่างก็ดูสดใสไปเสียหมด คิดว่าความแตกต่างระหว่างเราจะมิใช่อุปสรรคแต่อย่างใด หากแต่เราจะช่วยประคับประคองกันไป เต่าผู้เชื่องช้าโดดเดี่ยวกับกระต่ายผู้ปราดเปรียวสังคม เราจูงมือกันเดินทางมาไกลแสนไกล เพราะเพียงแค่มีเรา อยู่ที่ไหนก็มีความสุข จุดหมายแห่งการเดินทางจึงไม่มี เพราะจุดหมายมันหยุดอยู่เพียงแค่เราแล้ว เจ้าหญิงผู้คิดว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินที่ได้เจอกับความรักครั้งนี้และสัญญาว่าจะยึดมั่นทุ่มเททั้งหัวใจให้กับเจ้าชายแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น และยึดมั่นตลอดไป ด้วยความที่เจ้าชายมีมนุษย์สัมพันธ์และนิสัยที่ร่าเริงสนุกสนาน จึงมักกล่าวทักทายกับผู้คนที่พบเจอตลอดเส้นทางได้หมู่มิตรเพิ่มขึ้นมากมาย ด้วยความที่เจ้าหญิงชอบเก็บตัวและขี้อาย จึงไม่ค่อยได้พูดจากับใครเลย (แต่ก็ไม่เป็นไร มีเพียงเจ้าชายเท่านั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับฉัน ก็เรารักกันนี่นา) ด้วยความที่เจ้าชายปราดเปรียวว่องไว จึงมักจะกระโดดก้าวนำไปข้างหน้าก่อนเสมอแต่ก็จะหยุดรอ ด้วยความที่เจ้าหญิงต้วมเตี้ยมและเชื่องช้า เลยต้องใช้ความพยายามมากหน่อยเพื่อก้าวให้ทัน (แต่ก็ไม่เป็นไร ยังไงเจ้าชายก็ต้องรอ ก็เรารักกันนี่นา) ค่ำคืนวันหนึ่งขณะที่เราเดินจูงมือเดินกันไป พระจันทร์ช่างนวลผ่องสดใส ดั่งม่านหมอกสีฟ้าเข้มเฝ้าปกคลุมเป็นระเรื่ออยู่ทั่วผืนแผ่นดิน พระจันทร์ช่างกลมโตงดงามเสียเหลือเกิน เจ้าชายเอ่ยขึ้นว่า ข้าเคยฝันไว้สักวันจะไปถึงพระจันทร์ดวงนั้นให้จงได้ เราเดินข้ามเขาไปอีกสามลูก ก็จะถึงยอดเชาที่สูงที่สุด ที่อยู่ติดกับพระจันทร์นั่นแล้ว ไปกันเถอะนะที่รัก ได้สิจ๊ะคนดี เราจะไปด้วยกันนะ (ก็เรารักกันนี่นา) เจ้าหญิงเอ่ย เจ้าชายกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ จึงเผลอปล่อยมือเจ้าหญิงอีกครั้ง แน่นอนว่ามันไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเจ้าชายเผลอปล่อยมือเจ้าหญิงหลายต่อหลายครั้งแล้วในคราที่ทักทายใครต่อใครตลอดเส้นทาง แต่เจ้าหญิงก็พยายามมองข้ามไป (ไม่เป็นไร ก็เรารักกันนี่นา) เจ้าชายพยายามเร่งรีบอยากจะเดินไปหวังให้ถึงโดยเร็วไว เพราะหัวใจของเจ้าชายอยู่ตรงยอดเขานั่นแล้ว แต่กำลังของเจ้าหญิงพยายามเร่งรีบถึงที่สุดแล้วได้เท่านี้จริงๆ ด้วยแรงดึงที่เร่งรีบของเจ้าชายต้านต่อแรงเฉื่อยของเจ้าหญิงจึงทำให้ด้ายสายป่านที่ถักทอจากต้นหญ้าของเราขาดลง เจ้าชายยังคงไม่รู้ตัว เจ้าหญิงก็ได้แต่ปลอบกับตัวเองอีกครั้งว่า (ไม่เป็นไร ก็เรารักกันนี่นา) อาจด้วยพระจันทร์กลมโตที่ยั่วยวน เจ้าชายเริ่มเดินเร็วขึ้นจนแทบวิ่ง ทำให้ระยะห่างระหว่างเรามากขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่เจ้าชายไม่รู้ตัวเลย เจ้าหญิงก็พยายามเร่งรีบตัวเองเพื่อจะเดินตามให้ทัน แต่ดูจะยิ่งห่างออกไปทุกทีทุกที ครั้นจะตะโกนเรียกให้รอก็ไม่อยากทำลายความสุขของเจ้าชาย เลยพยายามเดินต่อไปเพื่อจะให้ทัน สุดท้ายภาพที่แทบเลือนรางของเจ้าชายก็จางหายไปกับความมืดนั้น ตามไม่ทันเสียแล้ว (นี่เราถูกทิ้งหรือเปล่า ไม่หรอก ก็เรารักกันนี่นา) เจ้าชายเดินทางมาได้พักใหญ่ และอาจนึกขึ้นได้ เลยหันมองกลับมาดู ไม่พบเจ้าหญิงเสียแล้วจึงตะโกนเรียกหา อาจเพราะเจ้าหญิงยังอยู่ไกลเลยไม่ตอบกลับมา ด้วยแหงนมองไปบนท้องฟ้าพระจันทร์นวลตายังรออยู่ไม่ไกลแล้ว เจ้าชายจึงมุ่งหน้าวิ่งไปตามลำแสงที่ยั่วยวนนั่น พอนึกขึ้นได้ที ก็หันมองกลับมา ตะโกนเรียกหาอีก แต่ก็ไร้วี่แววเสียงตอบ เป็นเช่นนี้ไม่กี่ครั้ง จากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงเรียกจากเจ้าชายอีกเลย เจ้าหญิงซึ่งอยู่ข้างหลังได้ยินเสียงเจ้าชาย ก็พยายามส่งเสียงตอบทุกครั้ง แต่พลังของเสียงคงไปได้ไม่ไกลทั้งๆ ที่หัวใจก็พยายามเร่งรีบตามหา คงเหลือไว้เพียงเศษเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นคาบเกี่ยวกิ่งไม้อยู่เป็นระยะเสื้อผ้าของเจ้าชาย สิ่งนี้ที่ทำให้เจ้าหญิงยังตามมาถูกทางแต่ก็ยังไม่ทันอยู่ดี เสียงเรียกนั้นหายไป นานมากแล้ว นานพอที่จะทำให้หัวใจของเจ้าหญิงฟุ้งซ่านคิดไปต่างๆนานา เพราะช่วงหนึ่งราตรีของที่นี่ เทียบได้กับหนึ่งร้อยวันของมนุษย์เลยทีเดียว นานพอที่จะคิดได้ไหม ว่าความรักของเรายังคงอยู่หรือเปล่า ทำไมเธอถึงปล่อยมือฉัน ทำไมเธอถึงทำให้สายป่านต้นหญ้า ที่คล้องมือของเราหลุดไป ตลอดเวลา เจ้าหญิงก็เฝ้ารอด้วยหวังให้เจ้าชายหวนกลับมาเพื่อจับมือเดินและก้าวเดินไปด้วยกันอีกครั้ง รอแล้วรอเล่า น้ำตาเริ่มไหล หัวใจเริ่มเอ่อ แต่ก็ยังเดินตามรอยของเจ้าชายต่อไป ระหว่างทางหรีดหริ่งเรไรก็มาส่งเสียงร้องเพลงบรรเลงแว่ว เพลง คนรักกัน ของ I-Zax เท่านั้นแลน้ำตาของเจ้าหญิงก็พร่างพรูไม่รู้จบ บทเพลงช่างทิ่มแทงหัวใจเสียยิ่งกระไร กี่วันกี่วันมาแล้วที่ไม่เจอ กี่คืน ที่รอแต่เธอ แต่เธออยู่ไหน นี่เหรอ ที่เธอว่ารัก แล้วมันยังไง เกิดอะไร มันเกิดอะไร คล้ายๆไม่รักกันจริง หรือฉันมันคิดไปเอง ไม่เข้าใจไม่มีวันเข้าใจ ก็คนที่รักกันเขาไม่ทำแบบนี้ ไม่หนีหน้าไปไม่ทำให้ใครต้องรอเก้อ คนที่เขารักกัน เขาต้องคิดถึงกันเสมอ ต้องไม่ทิ้งอีกคนให้เพ้อคอย คล้ายๆจะทิ้งกันไปหรือฉันมันคิดไปเอง เจ็บไปเองเจ็บไปหมดทั้งหัวใจ ก็คนที่รักกันเขาไม่ทำแบบนี้ ไม่หนีหน้าไปไม่ทำให้ใครต้องรอเก้อ คนที่เขารักกัน เขาต้องคิดถึงกันเสมอ ต้องไม่ทำร้ายหัวใจคนรักกัน แม้เจ้าหญิงเริ่มจะหมดแรงเดินแต่ก็ยังพยายามรุดเดินต่อไป อย่างน้อยก็ดีใจทุกครั้งที่ได้เจอร่องรอยเศษเสื้อผ้าของเจ้าชาย ให้รู้ว่าเจ้าชายยังคงอยู่ดีและยังก้าวเดินอยู่ข้างหน้านี่เอง เจ้าหญิงเดินข้ามภูเขามาสามลูกแล้วหากว่าเจ้าชายยังรออยู่ ณ ยอดเขาลูกนั้น เจ้าหญิงก็จะตามหากันจนเจอ เจ้าหญิงเดินรอนแรมมาจนถึงต้นไทรต้นใหญ่ต้นหนึ่ง มีใครมาสลักพรรณนาถึงผู้เป็นที่รักจับหัวใจ แล้วลงชื่อว่าเจ้าชาย ร่องรอยคราบน้ำตาและตัวอักษรที่เขียนสัมผัสได้ว่า เจ้าชาย ร้องไห้ หรีดหริ่งเรไรแถวนี้ก็ช่างเป็นใจร่ายส่งท่วงทำนองคล้องกับบรรยากาศเสียเหลือเกิน บทสรุปสุดท้ายจะลงเอยอย่างไร มิอาจรู้ได้เพราะยังมาไม่ถึง แต่ที่แน่ๆ ก็ขอบคุณนะหัวใจ ที่ยังไม่ลืมกัน ขอบคุณนะ เจ้าชาย จบอย่างไม่บริบูรณ์
8 มิถุนายน 2555 17:05 น. - comment id 129550
เล่านิทานให้หลานฟังก่อนนอน ป้าจะหลับก่อนหลาน หลานบอก เจ้าชายยังไม่หลับเลย เล่าต่อๆ อิอิ
8 มิถุนายน 2555 22:48 น. - comment id 129554
เจ้าชายกระต่ายป่าใช่สามารถ ที่จะขาดเจ้าหญิงผู้มิ่งขวัญ ความเริงร่าที่ทำเพียงสำคัญ แค่เปลือกกั้นความเหงาให้เข้าใจ เพราะส่วนลึกไร้ร้างทุกย้างก้าว ความปวดร้าวปิดบังทุกครั้งได้ เพราะมีเต่าเคียงข้างก้าวย่างไป แต่ไฉนกล่าวคำดุจช้ำตรม มนุษย์สัมพันธ์พวกพ้องท้องถนน เพียงเป็นหนทางปลดในรสขม สักวาหน้าร้อนคนนอนซม รอสายลมแห่งมิตรประชิดตัว...
9 มิถุนายน 2555 01:27 น. - comment id 129555
ปลื้ม แต่ก็แอบเหงาในใจ อืมไม่เป็นไร ถึงไม่มีใคร ยังไงเรารักตัวเองอยู่นี่นา
9 มิถุนายน 2555 01:43 น. - comment id 129556
ในความรักของเทพนิยาย อาจต้องมีเจ้าหญิงเจ้าชายให้ปั้นแต่ง แต่... ในความรักของความเป็นจริง คงมีแค่"ฉันกับเธอ" โลกของเทพนิยายอธิบายได้หลายแบบ แต่โลกของฉันมันชัด..ชัดเสมอ "เธอคือมิตรที่ฉันรัก เธอคือมิตรทืี่ฉันวางใจ เธอคือมิตรแท้ในหัวใจ เธอเหมือนกระจกให้หัวใจฉัน" ฉันไม่รู้..ฉันทำอะไร ให้เธอหวั่นไหวจากไปเช่นนี้ แต่ขอให้รู้ว่าทุกนาที ที่ฉันมีสุขหรือทุกข์...ฉันคิดถึงเธอ กระจกเอ๋ย..กระัจกเงา อย่าปล่อยฉันเศร้าอยู่ตรงนี้ เต่าต้วมเตี้ยมเท่าไหร่ใจรู้ดี หากไม่มีเธอนั้น..ฉันแทบตาย ดีกันนะ..ดีนะที่รักจ๋า หากเมตตากระต่ายแรดแตร๊ดแต่รฝัน กระโดดเร็วไปหน่อยไม่คอยกัน ใช่ว่าฉันกระเด็นข้ามความรักเรา!
9 มิถุนายน 2555 18:10 น. - comment id 129569
เจ้าชายกระต่าย จากไกล ไร้สาเหตุ มีอาเพท อันใด ไม่มาหา เฝ้ารอรัก,แสนคิดถึง ตรึงอุรา ใยหนีหน้า หายลับ ไม่กลับคืน
17 กุมภาพันธ์ 2556 04:38 น. - comment id 131649
ไม่อยากจะบอกว่า เมาทีไร จะมาอ่านเรื่องนี้เสมอ อ่านไปก็สงสารเจ้าเต่าต้วมเตี้ยม แล้วก้อหมั่นไส้เจ้ากระต่ายที่ลั่นล้าเหลือเกิน นึกเกิดอยากเป็นนางฟ้าที่ไม่โหดไร้หัวใจสาบไว้เหมือนในนิทานเรื่องนี้ ขอเป็นนางฟ้าใจดี ยิ้มละมุนอุ่นละไม ประกาศิตให้...เจ้าเต่าต้วมเตี้ยมเข้าใจเจ้าชายกระต่าย ให้พรบอกว่า.. "บางทีในความรัก มันไม่ใช่แค่ทุกวันที่ชิดใกล้ แต่มันคือสัมผัสจากหัวใจ..ห่างกันหรือไม่..ใช่สำคัญ" ฉันยังรอเธออยุ่...ตรงที่เดิม..ไม่ไปไหน..