คนชอบพูดกันว่ารักแล้วต้องพร้อมจะอภัยได้เสมอ คนเราควรจำกัดการให้อภัยไว้แค่ไหนกันแน่? คำพูดเท่ห์ๆ ในโลกนี้มีอยู่มากครับ บางทีก็เอาไว้ขึ้นหิ้งฟังกันเพราะๆ บางทีก็ยกระดับจิตใจเราขึ้นมานิดหนึ่ง และบางทีก็เอาไปใช้ได้จริงๆ กลายเป็นต้นทางกรรมดีของคนดีกันยาวๆ คำเท่ห์ๆ ในโลกอุดมคติของความรัก ประเภทที่ว่า "รักแท้ต้องไม่แพ้ความเลวของคนรัก" หรืออีกนัยหนึ่งต้องรู้จักอภัยเขาเสมอนั้น จะว่าไปก็ยกระดับจิตใจได้เหมือนกัน จากที่ไม่ค่อยจะรู้จักอภัยใครเลย อย่างน้อยมาเว้นไว้สักคนที่เรารักก็ยังดี คิดเสียว่าเขาเผลอไป ทว่าคนเราเผลอเลวบ่อยๆ นี่คิดเป็นอื่นไม่ได้นะครับ มันต้องมีความเลวอยู่จริงๆ ถึงเผลอได้ไม่หยุด และถ้าจะตะบี้ตะบันรักคนเลวให้ได้ ฉันจะเทิดทูนความรัก เอารักเป็นความสำคัญหมายเลขหนึ่งให้ได้ ทั้งชีวิตก็อาจอยู่บนเส้นทาง "ผิดทั้งหมด" เพียงเพราะรักตัวเดียว ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่าการอภัยที่แท้จริงนั้น เราวัดกันที่ใจ ถ้าใจไม่ผูกเจ็บ ถ้าใจไม่มีโทสะยามเห็นหน้าหรือคิดถึงกัน อันนั้นแหละเรียกว่าอภัย จัดเป็นทาน เป็นการฝึกตนขั้นสูง เพื่อไปถึงความเป็นผู้ไม่อยากเอาเรื่องเอาราวใคร ซึ่งมีค่าเท่ากับไม่อยากเอานรกมาไว้ในใจ ตลอดจนไม่อยากก่อกรรมอันเป็นเหตุให้ต้องเข้าถึงนรกของจริงในวันหนึ่ง และความสามารถในการอภัยคนใกล้ตัวที่บ้านหรือที่ทำงานนั้น ทำได้แค่ไหนก็มักขึ้นอยู่กับการเตรียมใจไว้ล่วงหน้าด้วยครับ เตรียมไว้มากก็อภัยได้มาก เตรียมได้น้อยก็อภัยได้น้อย ไม่เตรียมเลยก็ยากจะอภัย ณจุดเกิดเหตุ ธรรมดาคนเราถ้าไม่เคยผ่านพบบุคคลน่าผิดหวังมาก่อนเลย ก็จะไม่มีการเตรียมใจเลย คาดหวังเต็มที่ พอไม่ใช่อย่างที่หวังก็เจ็บหนักหน่อย แต่พอเจอหลายๆครั้ง ก็ควรเห็นเป็นบทเรียนชีวิตให้คิดเตรียมใจไว้มากๆ ในคราวหน้า อย่างไรก็ตาม หากเตรียมใจไว้ขนาดที่อภัยได้ไม่มีขีดจำกัด เช่นนี้ก็เกิดผลเสีย คือคนผิดก็จะทำผิดไปเรื่อยๆ หรือถ้าไม่มีบทลงโทษเลย ไม่มีไก่ถูกเชือดให้ลิงดู ลิงก็อาจได้ใจ เกเรกันใหญ่จนไม่มีใครคุมอยู่ สรุปคือการอภัยด้วยใจหาใช่การยอมหยวนไปหมดทุกเรื่อง ยอมผูกมัดกันต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขอให้ดูพระพุทธเจ้าเป็นตัวอย่าง ท่านเป็นผู้มีเมตตามหาศาล เป็นจอมอรหันต์ผู้บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสเกลี้ยงเกลา แต่ถ้าภิกษุในปกครองทำผิดร้ายแรงท่านก็ไม่เลี้ยง ไม่เอาไว้ในวัดต่อ แต่จะ "ตัดสินประหาร" ให้ขาดจากความเป็นภิกษุชนิดกลับมาบวชร่วมสังฆกรรมกันอีกไม่ได้เลยครับ คำถามคือเราจะเอาอะไรเป็นเครื่องชี้โทษ ว่าหนักหนาเกินกว่าจะสักแต่อภัยกัน? อันดับแรกคงต้องใช้ "ใจ" เป็นหลักครับ ความรู้สึกยังไหวไหม พอจะคิดในทางเป็นกุศลได้อยู่หรือเปล่า นี่ขึ้นอยู่กับขันติบารมีของคุณเป็นหลัก ถ้าต้องทุกข์หนักระดับอกไหม้ไส้ขมเป็นเวลานาน นั่งอยู่ดีๆเหมือนอยากแหกปากร้องตีอกชกหัว อันนี้ก็ต้องพิจารณาว่าทนกันไปก็เกิดอกุศลธรรมขึ้นในชีวิตเราเปล่าๆ อีกมาตรวัดหนึ่งที่ต้องใช้ "ตา" เป็นเครื่องตัดสิน คือพฤติกรรมของเขาเป็นอย่างไร ถ้าเห็นแววว่ายังสำนึกผิด ยังอยากแก้ตัวอยู่ ก็อภัยไปก่อน เพราะบางคนผิดครั้งเดียวแล้วได้รับการอภัย ก็เปลี่ยนเป็นถูกตลอดกาลไปเลย แต่บางคนผิดแล้วผิดอีกยังหน้ารื่น ไม่มีแววว่าจะสำนึกขึ้นมาได้ แบบนี้พอสวดมนต์แผ่เมตตาให้อภัยเสร็จก็สลัดทิ้งจากใจไปได้เลยครับ อย่าเก็บไว้ รักในอุดมคติแบบเด็ก ป. ๑ นั้น ไม่ต้องคาดหวังอะไรนอกจากฝึกอยู่ร่วมกันแบบไม่หวังผล แต่รักของผู้ใหญ่ในวัยทำงาน แบบที่จะต้องมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน มีลูกด้วยกัน อันนี้ต้องคาดหวังครับ ต้องดูใจให้ดีๆว่าเป็นใจที่ซื่อต่อกันได้เพียงใด ถ้าเจอคนที่พร่ำเพ้อว่า "รักฉัน รักความเลวของฉันด้วย และอย่าคาดหวังอะไรจากฉันมาก โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง" ขอให้เร่งรู้เถอะว่าเขาพร้อมจะอยู่กับตัวเอง และไม่เคยพร้อมจะอยู่กับคุณ บทความโดย : ดังตฤณ Facebook.com/AskDungtrin
16 พฤษภาคม 2555 11:56 น. - comment id 129277
ถ้าการมีใครสักคนเพิ่มเข้ามาในชีวิตเดิมๆของเรา ผลที่ตามมา ต้องดีขึ้นกว่าเดิม เนาะพี่เนาะ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ คุณค่าในตัวเอง ถึงแม้ทุกข์ ก็ทุกข์ ภายใต้ กำลังใจ ที่มีให้กัน แบบนั้น... ไม่ว่าจะหนักหนาแค่ไหน คำว่า"อภัย" ก็ไม่ยากเกินไปจริงๆค่ะพี่
16 พฤษภาคม 2555 13:24 น. - comment id 129278
สำหรับกานต์จะให้อภัยก็ต่อเมื่อรู้สุกผิดและมีความต้องการประนีประนอมค่ะ
16 พฤษภาคม 2555 17:33 น. - comment id 129279
............. คนอกหัก กับคนโสดนี่ มันอยู่ในโหมดเดียวกันด้วยหรือจ๊ะน้องพิม .................
16 พฤษภาคม 2555 20:05 น. - comment id 129281
"คงจะให้อภัยกันไม่ได้ ลูกฉันจบปริญญานิติศาสตร์เพิ่งรับใบปริญญายังไม่ได้เห็นรูปถ่ายของตัวเองเลยกลับมาถูกยิงตายที่ในวัดปทุม เขาอยู่ในวัดกระสุนทะลุจากข้างหลังตัดปอด หน้าตัวเมียชัด ๆที่ยิง อภัยไม่ได้ร๊อก" งบประมาณว่ากันว่า หกพันล้านบาทในการสลายการชุมนุม
17 พฤษภาคม 2555 08:58 น. - comment id 129282
น้องฝน พี่พิมชอบเม้นท์นี้ของน้องฝนจัง ตรงใจเลยล่ะ
17 พฤษภาคม 2555 09:00 น. - comment id 129283
น้องกานต์ การให้อภัยของน้องกานต์ พี่พิมว่าดีนะค่ะ หากเขาสำนึกผิดและต้องการประนีประนอม การให้อภัยของเราน่าจะมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
17 พฤษภาคม 2555 09:01 น. - comment id 129284
พี่ดิน น้องก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า โหมดเดียวกันไหม แต่ที่แน่ๆไม่มีคู่เหมือนกันเนาะพี่ดิน
17 พฤษภาคม 2555 09:07 น. - comment id 129285
คุณฤกษ์ เอ่อ...เฮียฤกษ์ค๊ะ ... การให้อภัย อย่างน้อยเราก็จะรู้สึกสบายใจนะ อีกอย่างแม้เราจะโกรธ เคือง แค้น มากเท่าใด คนที่เรารู้สึกนั้นๆ เขาไม่ได้รับรู้กับเราเลยนะค่ะ เราต่างหากที่จะรู้สึกแย่ มีผลต่อสุขภาพด้วย มาดื่มกาแฟตอนเช้าให้สดชื่นดีกว่าน๊อเฮียน๊อ
17 พฤษภาคม 2555 10:05 น. - comment id 129286
คนโสดกับคนอกหักต้องรักและเห็นคุณค่าของตัวเองก่อนค่ะ คำว่าอภัยไม่อาจใช้ได้กับทุกคนหรือทุกกรณี ถ้าใครทำเราเจ็บ ทั้งที่เราดีต่อเขา แต่เขาไม่เห็นคุณค่า พี่จะไม่ชอบง้อค่ะ ยิ่งถ้าเขาเห็นคนอื่นดีกว่า และเลือกที่จะทิ้งเรา พี่จะตัดใจไปเลย รักคนที่เห็นคุณค่าของเราดีกว่า ถ้าไม่มีก็อยู่คนเดียวได้ ไม่แปลกเลยค่ะ มีอะไรที่น่าสนใจให้ทำอีกมากมายในโลกใบนี้ ดีกว่าตกเป็นเหยื่อของคนที่ไม่จริงใจค่ะ โชคดีที่มีผู้ชายคนหนึ่งเห็นว่าพี่มีค่าพอ เชื่อมั่นในตัวพี่มากกว่าใคร เราถึงอยู่ด้วยกันได้จนทุกวันนี้ ก้าวไปด้วยกัน จะยากดีมีจนไม่สำคัญ ไม่ดูถูกหัวใจกันก็พอแล้วค่ะ
17 พฤษภาคม 2555 11:09 น. - comment id 129287
อ้อยว่าคงแล้วแต่กรณีๆไป.. ต่างคนต่างกรรม ต่างวาระ และไม่ว่าจะยังไง..การให้อภัยกันในวันนี้ ย่อมจะดีกว่ารออโหสิกรรม...ในวันที่ต้องตายจากกันเนาะ
17 พฤษภาคม 2555 11:38 น. - comment id 129288
ให้อภัยได้ค่ะ หากความผิดนั้นไม่ร้ายแรง เกินที่จะรับได้ แบมเป็นคนขี้น้อยใจ งอนเก่ง ยอมรับนะคะ แต่พอข้ามวัน ก็ลืมแล้ว ไม่ค่อยจำค่ะ
17 พฤษภาคม 2555 14:32 น. - comment id 129292
พี่อนงค์นาง การให้อภัย หรือ ไม่ให้อภัย ไม่ผิดหรอกค่ะ ตามแต่เหตุผลของแต่ละคน พิมคิดว่างั้นะค่ะ ...
17 พฤษภาคม 2555 14:33 น. - comment id 129293
คุณอ้อย คิดแบบคุณอ้อยน่าจะโอเคนะพิมว่า
17 พฤษภาคม 2555 14:34 น. - comment id 129294
คุณแบม เรา...ช่างคล้ายกันแท้คุณแบมศรี อิอิ
17 พฤษภาคม 2555 18:07 น. - comment id 129299
สำหรับเรา คำว่า"ให้อภัย" ไม่มีขีดจำกัด....... ไม่จำกัดคำและไม่จำกัดความ..........
18 พฤษภาคม 2555 07:52 น. - comment id 129301
ดีจร้า...คุงพิม... ใจของผู้ที่มีความรักที่แท้จริง... มักไม่คำอธิบาย...ความผิดของผู้ที่เป็นที่รัก.... มีแต่ความว่า "ไม่เป็นไร" โดยมีค่าลดหลั่นกันลงมา...ตามระดับแห่ง "รัก"
18 พฤษภาคม 2555 13:37 น. - comment id 129305
ส่วนมากก็ไม่ติดใจเอาความ เพราะมันทำให้ตัวเอง รุ่มร้อนเปล่าๆ พอให้อภัยแล้วสบายใจ เหมือนยกภูเขาออกจากอกน่ะ รู้งี้ไม่โกรธตั้งแต่ทีแรกก็ดี :)
18 พฤษภาคม 2555 13:50 น. - comment id 129306
คุณโอ้ละหนอ ชอบจัง การให้อภัยที่ไม่มีขีดจำกัด คนอยู่ใกล้คงมีแต่ความสุขละค่ะ
18 พฤษภาคม 2555 13:51 น. - comment id 129307
คุณนิรนาม ใช้ชื่ออะไรก็สำนวนเดิม คำว่าไม่เป็นไร คนฟังรู้สึกดีทุกครั้งแน่อนคร่า
18 พฤษภาคม 2555 13:53 น. - comment id 129308
พี่กุ้งหนามแดง ถูกเลยค่ะ รู้งี้ไม่โกรธดีกว่า เหนื่อยเนาะพี่เนาะ
18 พฤษภาคม 2555 20:20 น. - comment id 129309
หลายครั้งที่เรานึกโกรธ และตั้งใจว่าจะไม่ให้อภัยผู้ที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกนั้น แต่แล้วเมื่อผ่านช่วงวันเวลา ก็มานึกขึ้นได้ว่า ที่แท้ที่โกรธ ก็เพราะ ไม่ได้ดั่งใจ ไม่สมความคาดหวัง ไม่สมปรารถนา และที่สำคัญคือไม่ไว้เนื้อเชื่อใจอีกแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้ เราก็เอาตัวของเราเป็นเกณฑ์ตัดสินทั้งนั้น ในอารมณ์ ณ ช่วงนั้น มันมีแต่ค่าลบ โกรธก็เลยกลายเป็นความรู้สึกผ่อนปรน กลายเป็นเคืองเฉย ๆ จนกระทั่งไม่รู้สึกโกรธ ไม่รู้สึกเคือง คนเราก็เท่านั้นเองนะ จะอยู่ได้สักอีกกี่ปีกี่วันเชียว โกรธกันแล้วก็ วางไว้ .. ไม่ต้องมาพกให้หนักใจ ดีกว่า เราคิดงั้นนะ
18 พฤษภาคม 2555 21:34 น. - comment id 129312
ตอนนี้ไม่คิดแค้นเคืองใครแล้วค่ะ อภัยได้ก็ให้อภัยไปค่ะ ยกเว้น คห.4 ไม่มีอภัยให้เด็ดขาด
18 พฤษภาคม 2555 22:04 น. - comment id 129314
คห 22อยู่ลพบุรีอาจจะมีแฟนเป็นทหารก็ได้เลยเชียร์สุดลิ่ม ก็เห็นชัดชัด ลูกปืนเอ็มสิบหกใช้ไปสามแสน ลูกปืนสไนท์เปอรใช้ไปสองพันกว่า คนตายเก้าสิบสองเจ็บสามพันกว่าไม่อภัยคนที่เขาโกรธก็ไม่เป็นไรร๊อก แต่น่าสงสัยว่าลูกปืนใช้จริงตามที่หายไปรึเปล่าอาจจะไปอยู่สามจังหวัดก็ได้
21 พฤษภาคม 2555 00:38 น. - comment id 129321
ผมชอบบทความและหนังสือของคุณดังตฤณมากครับคุณน้ำตาลหวาน ... คุณดังตฤณคิดและเขียนออกมาตรงกับความจริง (เป็นความคิดเห็นและรู้สึกส่วนตัวของผมเอง) อย่างน้อยก็คิดแบบคนธรรมดาๆ ที่ยังไม่บรรลุธรรม คิดง่ายๆ แบบปุถุชนน่ะครับ ... คนอกหัก กะ คนโสด อยู่ในโหมดเดียวกัน คือ โหมด "คนไม่มีแฟน" อิๆ
21 พฤษภาคม 2555 09:32 น. - comment id 129322
คุณอิม พิมเป็นแบบนั้น "ไม่ได้ดั่งใจ" บางทีก็ทำร้ายตัวเอง พอย้อนคิดกลับไป "เราไม่น่าเลย" เสียใจทุกที แต่ไม่เคยโกรธนาน สุดท้ายก็อภัยได้ทุกคน ทุกเรื่อง ลืมอีกต่างหากว่าเคยโกรธเรื่องอะไร อย่างที่คุณอิมบอก คนเราจะอยู่ได้สักกี่ปี เก็บเรื่องราวดีๆนำติดตัวไปดีกว่าเนาะ
21 พฤษภาคม 2555 09:33 น. - comment id 129323
น้องเฌอ อภัยให้เฮียเขาไปเถอะ ปูนนั้นแล้วล่ะ
21 พฤษภาคม 2555 09:34 น. - comment id 129324
คุณฤกษ์ เอ...มีอะไรในใจกับคนลพบุรีน๊า...
21 พฤษภาคม 2555 09:36 น. - comment id 129325
คุณสีเมจิก พิมอ่านบทความส่วนมากไม่ได้จดจำชื่อคนเขียน (เป็นซะงั้น) คือ ขี้ลืมอ่ะค่ะ โหมดนี้น่าจะมีไม่น้อยนะค่ะ "คนไม่มีแฟน"
27 มิถุนายน 2555 14:48 น. - comment id 129659
ชอบครับ ได้มุมมองดี