* แดนพิศวง ตอน ๑๐ *

แก้วประเสริฐ

1_display.jpg692823n68ya60jv9.gif
                       *  แดนพิศวง ๑๐ *
                    (เสาะค้นวิธีการแก้ไข)
          หลังจากที่หนุ่มนิรุทธ์กล่าวจบ ก็จะลุกขึ้น แต่ถูกคัดค้านจาก ดร.สุเมธ
   “จะรีบไปไหนล่ะคุณ นิรุทธ์ ตามที่คุณอธิบายมานั้นพวกผมหายข้องใจ
ต่อหนังสือและแผนที่ลายแทงนั้น แต่มีข้อหนึ่งคือว่า บริเวณหมู่เกาะแคริเบียน
นั้นเหตุใดจึงไม่ค่อยเกิดพายุทอนาโทเหมือนกับแถวอเมริกาเสียล่ะ พ่อหนุ่ม
พอจะรู้บ้างไหม??...”
   ดังนั้นชายหนุ่มก็นั่งต่อพร้อมอธิบายตามที่เขาเข้าใจ พลางเอ่ยปากขึ้นว่า
   “ตามความเห็นผมนะครับท่าน  เพราะว่าเป็นดินแดนอยู่ใกล้เส้นศูนย์กลาง
ของโลก    อีกประการหนึ่งประเทศนี้สะสมพลังงานนิวเครียสเป็นพลังงาน
ที่สอดคล้องกับ พลังงานที่เหลือไว้ในใจกลางใมหาสมุทรแอตแลนติค ผสาน
กับกระแสลมพลังงานเมื่อเกิดขึ้น  อันเป็นผลกระทบกันและเป็นทางสายลม
ที่พัดเข้าฝั่งยังแผ่นดินกว้างใหญ่เป็นประเด็นหนึ่ง จะเกิดพลังหมุนเวียนอาจ
บางครั้งอาจจะนำไปสู่ยังอีกมิติหนึ่ง  ฉะนั้นการค้นคว้าจึงไม่พบวัตถุที่ถูก
ดึงดูด เช่นเหล่าเครื่องบิน เรือ หรือสิ่งบางอย่างเป็นต้น
อีกประเด็นหนึ่งพลังงานในทวีปอเมริกากับพลังงานของมหาสมุทรอยู่ใน
ลักษณะคล้ายคลึงกัน  ดังนั้นพลังงานจึงเข้ากันได้และมักจะเกิดแถวแนวฝั่ง
เมอร์บิวด้าเพราะเป็นจุดของสามเหลี่ยมนี้ที่รวมกันก็อาจจะเป็นไปได้ครับท่าน
เพราะประเทศนี้มีโรงงานพลังนิวเคลียร์ไว้มากๆและค่อนข้างใกล้
ไปทางพลังงานที่ก่อกำเนิดขึ้นจากมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล
 พลังงานทั้งสองจึงเข้ารวมตัวกัน นี่เป็นความคิดเห็นผมนะครับ
จึงเกิดการหมุนเวียนมักเกิดเป็นพายุทอนอโดขึ้นมากกว่าประเทศอื่นๆตลอดจน
กระแสน้ำที่หมุนเวียนย่อมเข้าหาฝั่งทางด้านผืนแผ่นดินนี้อีกด้วยครับ”
   “ข้อนี้ผมก็คิดเหมือนกันแต่คิดไปเกี่ยวกับลมบกลมทะเล เมื่อมหาสมุทรอัน
กว้างใหญ่ไพศาลมากเท่าไหร่การหมุนของคลื่นและลมย่อมมากเท่านั้น แต่ไม่
คิดว่าจะมีมากและแทบจะเป็นประจำเสียด้วยเฉพาะประเทศนี้ครับ”
   “เหมือนประจุไฟฟ้าของขั้วบวกลบแหละครับ  ย่อมจะเข้าหากันเสมอๆครับ
หากพลังงานใดมีมากทัดเทียมกันย่อมเข้าหากันและกัน
เป็นธรรมดาครับท่าน เท่านี้นะครับท่าน
ผมจะไปทำธุระในห้องผมหน่อยครับ เพื่อค้นคว้าบางอย่างครับ”
    “คุณกำลังค้นคว้าอะไรอีกหรือพ่อนิรุทธ์”
ดร.รพีเอ่ยถาม พร้อมมองหน้าเขา  ก็เห็นเพียงรอยยิ้ม แต่ทว่าการยิ้มของเขานั้น
ทำให้สาวพัชราถึงกับถอดหายใจเฮือกใหญ่ เพราะสองแก้มเขามีรอยบุ๋ม สร้าง
เสน่ห์ไปในรูปแบบหนึ่งรับกับใบหน้าที่หล่อเหลาอีกด้วย จวบจนชายหนุ่มยืนขึ้น
   “เดี๋ยวก่อนซิพี่อนุรุธน์ เสร็จก็จะรีบไปเลยหรือ????..”
   “มีอะไรหรือครับคุณพัชรา หากไม่มีอะไรผมจะรีบไปครับ”
อะไรหรือหล่อนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรียกสอบถามเขาในเรื่องอะไร เพราะเหตุใด???...
   “พัชอยากทราบว่าทำไมคุณรอบรู้มากมายนัก ขอโทษนะค่ะว่าเรียนหนังสือจบ
ชั้นใดกันแน่จึงทำให้พัชสงสัยนัก”
   “อ้อๆๆ...ผมเรียนจบปริญญาเอกทางวิทยาศาสตร์ด้านพลังงานต่างๆ
ของจักรวาลและดาราศาสตร์อีกด้วย  ส่วนทางด้านธรณีวิทยา
และด้านโบราณคดีเพื่อประดับความรู้เท่านั้นเองแหละครับครับคุณ 
ส่วนด้านชีววิทยาก็ศึกษามาแต่ไม่จบครับ  ด้วยผมชอบทางด้านพลังงาน
มากกว่าของทางจักรวาลและทางดาราศาสตร์ครับคุณพัช”
   ดร.สุเมธและดร.รพีตลอดทุกๆคน หันหน้ามามองเขาทันทีด้วยความสงสัย
หมายความว่าชายหนุ่มคนนี้ก็เป็นถึงดอกเตอร์เหมือนพวกเขาด้วยซินะ ซึ่ง
เขาไม่ทราบจากคุณนิวัฒน์มาก่อนเลยว่าน้องชายสำเร็จการศึกษาถึงขั้นนี้
   “แล้วเรียนจบจากที่ไหนหรือพ่อนิรุทธ์”
ดร.สุเมธถามด้วยความสงสัย???....ดร.รพี โกเมศ และพัชราก็หันมามองหน้าเขา
   “จากประเทศอเมริกา รัสเซีย และญี่ปุ่นตลอดจนอีกหลายประเทศอีกด้วยครับ
 ก่อนนั้นทางองค์การนาซ่าสนใจผมมากส่งหนังสือมาติดต่อผม แต่ผมไม่
สนใจงานวิจัยของเขาครับ  หากจะทำก็จะเกิดปัญหามากมายขึ้นไม่เป็นตัว
ของตัวเองครับ   สู้ออกมาค้นคว้าจากแหล่งต่างๆเพิ่มเติมจะดีกว่าครับ”
   “โอ้ว!!!????....เรียนจบขนาดนี้แล้วไม่คิดหางานทำเลยหรือ แปลกจริงๆ
   “เพราะฐานะด้านการเงินคุณพ่อคุณแม่สร้างไว้ให้ผมแยะครับท่านตามใจผม
อีกด้วย เนื่องจากผมไม่ชอบงานทางด้านธุระกิจการค้าประการหนึ่ง  อีกประการ
หนึ่งผมชอบค้นคว้าทางด้านภูมิศาสตร์อีกด้วยจึงไม่คิดจะทำงานครับ”
   “ใช่ครับคุณอา  เจ้ารุทธ์มันเรียนจบจากเมืองนอกมา ผมก็พึ่งรู้ว่ามันสำเร็จ
มาหลายแขนง เพียงได้ยินคุณพ่อบอกว่ามันยังได้เกียรตินิยมทุกวิชาอีกด้วย
ผิดกับผมไม่ค่อยชอบการเรียน เพียงจบแค่เมืองไทยเท่านั้นก็พอแล้วไม่รู้ว่าจะ
เรียนกันไปทำไมครับ เงินทองกินใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด”
   “นั่นซิคุณรุทธ์ถึงได้รอบรู้มากจริงๆ ผมนึกว่าแค่เป็นหนอนหนังสือเท่านั้น”
   “หากไม่มีอะไรผมขออนุญาตขอตัวก่อนนะครับ เพราะมีธุระต้องรีบทำครับ”
        กล่าวจบไม่ฟังอะไรทั้งสิ้นรีบลุกขึ้นยกมือไหว้ ลาทุกๆคนยืนขึ้นก้าวออกมา  
พร้อมออกเดินเข้าไปในห้องของเขาทันที คงปล่อยให้พวกนั้นวิจารณ์กันต่างๆนา
  เพราะเขารู้ในใจเหล่านี้ว่าจะต้องถามอะไรจากเขาอีก  ซึ่งเขาไม่ต้องการตอบปัญหา
เพื่อตัดปัญหาโดยเฉพาะหญิงสาวพัชรา  อีกอย่างหนึ่งเขาขณะกำลังอธิบายอยู่
  ความคิดหนึ่งแว๊ปเข้ามาเรื่องเกี่ยวกับเวทย์มนต์ต่างๆในอีกมิติหนึ่งนั้นเกี่ยว
กับพลังงานธรรมชาติ ที่ชายทั้งสามตลอดจนหนังสือแจ้งเอาไว้อีกด้วย
หากพ่อมดและเจ้าโหราธิบดีรู้เวทย์มนต์ก็ต้องรู้ด้านพลังงานไปด้วยและต้อง
ใช้ประกอบกันจึงจะมีอนุภาพที่รุนแรง  เขาจึงหาวิธีแก้ไขให้ได้เสียก่อน
    อีกประการหนึ่งเขาต้องการศึกษาเกี่ยวกับวิชาเวทย์มนต์จากศาสนาต่างๆ
อีกด้วย เพื่อจะนำมาเปรียบเทียบกันว่าสิ่งใดจะสามารถช่วยเหลือเขาได้
ซึ่งปกติแล้วเขาจะไม่ค่อยสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไหร่นัก  แต่นี่เหตุการณ์
มาบังคับเขา หากเขาไม่รู้ก่อนก็จะพลาดพลั้งในภายหน้าได้อย่างแน่นอน
    ครั้นเข้ามาในห้องแล้วก็ลั่นกลอนไว้ทันที  พร้อมรีบค้นคว้าเวทย์มนต์
ของชาวอียีปต์ก่อนเมื่ออ่านทบทวนแล้วหาได้อัศจรรย์ใดไม่  จึงไปยังศาสนา
อื่นๆ  จนมาสะดุดในศาสนาพุทธที่เกี่ยวข้องกับอภิญญาฌานแต่ไม่ได้ระบุไว้
เกี่ยวกับเรื่องเวทย์มนต์แต่อย่างใด และทำให้เขานึกถึงภิกษุสงฆ์ที่ตั้งตัวเป็น
เกจิอาจารย์ล้วนใช้พลังงานทางจิตแต่ที่สำเร็จได้มักจะเป็นอภิญญาสิบเสียเป็น
ส่วนมาก  ส่วนศาสนาอิสลามก็ระบุไว้เช่นกันแต่ในหนังสือคัมภีร์กุรอ่านไม่ได้
ระบุไว้ เว้นแต่ศาสนาพุทธทางหินยานและมหายานที่กล่าวถึงเรื่องอำนาจที่แอบ
แฝงในร่างกายมนุษย์ไว้ แต่เป็นแค่เพียงส่วนน้อยนิดเท่านั้นเอง จึงเริ่มค้นคว้าเกี่ยว
อักษรต่างๆทั่วโลกและของโบราณไว้เพื่อจะได้ร่ำเรียนตำราต่างๆไว้เท่านั้น  
         ดังนั้นเขาจึงเก็บหนังสือทั้งหลายยกเว้นด้านพุทธศาสนาซึ่งสอดคล้องกับ
ทางด้านพลังงานจิตและพลังงานอื่นๆไว้อีกด้วย  เขาเริ่มต้นนั่งสมาธิทันที ด้วย
ที่เขามีพลังงานในตัวอยู่แล้วจึงเป็นสิ่งที่ไม่ยากเท่าใดนัก เขาก็ฝึกฝนจนสำเร็จ
เมื่อฝึกฝนสำเร็จและหนังสือเกี่ยวกับเวทย์มนต์คาถาต่างๆก็สามารถจะลบล้าง
อำนาจมืดหรือที่เรียกว่าไสย์ดำหากพลังงานทางด้านจิตมีมากก็สามารถลบล้าง
อำนาจของพ่อมดได้เป็นอย่างดี  หากเอาพลังงานแห่งโลกและจักรวาลเข้ามา
ประกอบกับเวทย์มนต์ก็สามารถจะลบล้างกันได้  มีเรื่องหนึ่งจากหนังสือที่ได้
รับมานั้นเกี่ยวกับการร่ำเรียนรู้ภาษาสัตว์ต่างๆ ซึ่งเขาไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าใดนัก
จึงได้ฝึกฝนจากสัตว์แถวๆบ้านก่อน  จนสามารถเข้าใจภาษาสัตว์ต่างๆได้เป็น
อย่างดีสามารถพูดคุยกับสัตว์ต่างๆได้ถึงแม้จะไม่มากนัก แต่หากเป็นสิ่งที่เขา
ไปและจะสามารถสนทนากันได้หรือไม่นี่คือข้อกังวลของเขจา การเรียนรู้
เช่นี้ทำให้ชายหนุ่มดีใจเป็นอย่างมากและเริ่มต้นทดลองก็ได้ผล
เป็นที่น่าพอใจแก่ตัวเขาเอง  เขานึกในใจว่าเขาพร้อมแล้วที่จะออกไป
ต่อสู้กับอำนาจของพ่อมดและโหราธิบดีพร้อมสามารถหาวิธีการเพื่อแก้ไข
ทำลายอำนาจการสาปของนครนั้นได้อย่างแน่นอน โดยอาศัยอำนาจของพุทธคุณ
ประกอบกอบกับอำนาจของพลังงานแห่งจักรวาลอันลี้ลับนี้ผสมผสานกันและกัน
ตลอดจนพลังงานในตัวของเขา และค้นหาสิ่งของอีกสองมามาเพิ่มเติมพลังงานเขา
   เพื่อมิให้พลังงานขาดช่วง จึงทดลองใช้อำนาจแห่งจิตบังคับวัตถุต่างๆให้ลอยไป
ลอยมาได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว  พร้อมลองใช้อำนาจในกายสร้างแสงพลังงาน
พุ่งออกมาจากนิ้วมือตามใจบังคับอำนาจนั้นๆ ครั้นแล้วจึงตั้งสติสมาธิรวบรวม
พลังงานภายในร่างกายเขาเพื่อใช้ทดชอาวุธต่างๆในโลกนี้ว่าจะได้ผลประการ
ใด บัดดลก็มีลำแสงสีเขียวนวลพุ่งออกมาจากปลายนิ้วมือเขาไปยังสิ่งของและ
วัตถุที่ต้องการทันที แต่ปราศจากเสียงระเบิดใดๆ  เสร็จแล้วเขาก็ไปยังแจกันที่วาง
ไว้ซึ่งยังคงสภาพเดิมอยู่พลางเป่าลมออกจากปากไปยังแจกันนั้น ทันใดแจกันนั้น
ก็สลายเป็นผุยผงทันที  เขาทดลองจากเล็กไปหาใหญ่ก็มีสภาพเหมือนกันคือเป็น
ผุยผงหล่นกองไว้  เขาทดลองใช้พลังงานหนุนร่างกายเขาไว้ให้เกิดความเบาแล้ว
วนเวียนไปรอบๆห้องได้อย่างคล่องแคล่วไม่ติดขัด  จึงกลับมานั่งมองไปยังด้าน
นอกซึ่ง  เหล่านักโบราณคดียังกำลังถกเถียงกันเกี่ยวกับการเดินทางไป  เขาหัวร่อ
ในใจ    นึกว่าการทำงานของพวกนี้อาจจะประสบสิ่งไม่คาดคิดอาจจะทำให้พวก
เหล่านี้พบในสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เป็นไปได้อย่างสูง  แล้วก็เอนกายลงนอนยังเตียงเขา
เพื่อค้นคิดวิธีการเดินทางค้นหาสิ่งของสองอย่างคือ  ดวงแก้วมรกตสีทองและของ
อีกอย่างหนึ่งที่เขาไม่รู้เพียงทราบจากจิตว่าเป็นอาวุธร้ายแรงมากที่ทำลายอำนาจ
ของพลังงานต่างๆได้เพราะเก็บพลังงานต่างๆไว้มากแต่จะเป็นอะไรเขานึกอย่างไร
ก็นึกไม่ออก  อีกประการหนึ่งเขาจะเริ่มเดินทางจากที่ใดก่อน  นี่คือสิ่งที่เขาคิดมาก 
แล้วทางบ้านนี้ล่ะเขาจะบอกแก่คนในบ้านอย่างไรดี  แต่ข้อนี้คงจะไม่เป็นปัญหา
ยามที่เขาต้องออกเดินทางไปแต่นี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญนัก  เพียงเขียนจดหมาย
แจ้งไว้ให้คนในบ้านรู้เท่านั้น ทางนี้พี่นิวัฒน์ก็คงจะไม่ไปไหนหรอกแน่นอน
แต่ที่สำคัญคือการไปสู่นครต้องสาปนั่นแหละคือสาเหตุสำคัญและจะ
ไปโดยวิธีใดหรือ???....  หรือว่าต้องพึ่งพาอาศัยชายแปลกหน้าทั้งสามอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการนักและก็รู้ด้วยพลังงานแห่งโทรจิตว่าชายเหล่านี้ก็คงจะไม่
รู้เช่นเดียวกัน  เพราะว่าตอนนี้อำนาจพลังงานเขาจะสูงล้ำกว่าชายทั้งสามอย่างแน่นอน
หรือว่าเขาจะไปหาพวกชายทั้งสามก่อนแล้วค่อยคิดที่หลังถึงการเริ่มต้นเดินทาง แต่นั่น
มันหมายความว่าเขาต้องได้รับของสองสิ่งนี้มาก่อนเท่านั้น หรือว่าเขาต้อง
ออกผจญภัยไปในที่ต่างๆด้วยตัวคนเดียวเสียแล้ว จึงหันไปยังที่เก็บหนังสือใช้
อำนาจพลังจิตด้วยการใช้อำนาจพลังงานในร่างกายเขา เพื่อเก็บหนังสือโดยการ
ดึงดูดหนังสือที่เขาต้องการอันเป็นแผนที่ของนครนั้นมาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
        ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูห้องนอนเขาก็ดังขึ้นพร้อมเสียงเรียกของ
พี่ชายเขา  ว่าแขกจะกลับกันแล้ว  เขารีบใช้พลังงานส่งหนังสือนั้นไปเก็บซ่อน
ไว้ดังที่เดิม  เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยดีแล้ว   ดังนั้นเขาจึงเดินไปเปิดประตูห้องนอน
พร้อมก้าวออกมา  ยกมือไหว้ทักทายขึ้นกล่าวขอโทษที่ไม่ได้อยู่ร่วมสนทนาด้วย
      “คุณอาจะกลับแล้วหรือไม่ครับ    ผมไม่ส่งนะครับให้พี่นิวัฒน์ไปส่งก็พอ”
     “ไม่เป็นไรหรอกคุณรุทธ์ พวกอาจะกลับแล้วล่ะขอบใจมากนะที่ให้ความ
กระจ่างแก่พวกเรา  คิดว่าจะทดลองค้นหาดูสักหน่อย อยากจะขอเชิญคุณไปด้วย
ก็เกรงใจที่คุณบอกว่าจะไม่ร่วมงานครั้งนี้และมีงานอื่นๆที่จะต้องทำ”
    “ครับผมเองก็ต้องยังมีงานที่จะทำ บางทีเราอาจจะได้พบกันอีกนะครับ ผม
เองสังหรณ์ใจเช่นนั้นครับ”
   “ถ้าเจอกันก็จะดีซินะ คุณช่วยอะไรๆพวกผมได้หลายๆอย่างเสียด้วยซี”
   “ผมต้องขอโทษด้วยครับ กำลังศึกษาบางอย่างอยู่ครับ”
   “อะไรหรือพ่อรุทธ์ที่ค้นคว้าอยู่นี่นะ”
   “บอกพวกคุณอาไปก็จะไม่เข้าใจหรอกครับหรืออาจจะหาว่าผมบ้าครับ”
   “ไม่หรอกน่า  พวกอาไม่คิดเช่นนั้นหรอก”
   “จริงซิค่ะคุณพ่อ  คุณนิรุทธ์ค้นคว้าหากไม่สำคัญคงไม่ทำหรอก”
   “เธอจะบอกได้ไหมว่าค้นคว้าเรื่องอะไร หากช่วยได้ก็จะได้ช่วยกัน”
   “เรื่องเกี่ยวกับเวทย์มนต์สมัยโบราณและปัจจุบันครับ ที่ใช้พลังงานจิต”
          คราวนี้พวกทั้งหมดยิ่งสงสัย???..  ครั้นจะถามก็เกรงจะเสียมารยาทไป
อะไรนักวิทยาศาสตร์หนุ่มคนนี้ยังเชื่อถือเรื่องเวทย์มนต์คาถาอาคมโบราณ
ในเรื่องนี้อยู่หรือ ต่างก็ทำหน้าพิกลต่างๆนาๆโดยคาดคิดมิถึง  ว่าชายหนุ่ม
คนนี้จะยังงมงายในเรื่องไร้สาระเช่นนี้อยู่อีก  ชายหนุ่มอ่านใจของพวกนี้
ออกได้แต่หัวร่อเบาๆ พลางเอ่ยว่า
   “อันที่จริงศาสตร์นี้ไม่ใช่งมงายนะครับ แต่สมัยใหม่มักจะว่างมงายมัน
เป็นเรื่องท้าทายมากครับ หากพวกคุณอาทดลองค้นคว้าก็จะทราบเอง
แหละครับ ว่ามันแปลกและพิสดารเพียงใด เหตุใดจึงมีอำนาจขึ้นได้ครับ”
   “หรือๆๆๆหากมีเวลาจะทดลองดูเสียหน่อยนะ  เอาล่ะไปก่อนนะ”
   “ถ้าอย่างนั้นผมส่งตรงนี้ก็แล้วกันนะครับให้เป็นหน้าที่ของพี่นิวัฒน์เอง
ขอบคุณมากนะครับที่   ไม่ทำให้พวกคุณอาผิดหวังครับ  อ้อๆ.... หากพวก
คุณอาจะเดินทางตามที่ตั้งใจไว้ในแผนที่ละก็ ผมอยากจะบอกอะไรให้คุณอา
และคณะทุกๆคนด้วยครับ  ว่ายามประสบพบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วทุกๆอย่าง
จะเข้าสู่วงจรนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุใดที่ทำด้วยโลหะ   จะถูกดึงดูดด้วยกระแส
แม่เหล็กที่มีพลังงานอันสูง  และคุณอาและพวกควรจะหาวัตถุชนิดหนึ่ง
ซึ่งพลังงานเหล่านี้ไม่สามารถจะดึงดูดสิ่งเหล่านี้ได้ให้พกติดตัวไว้ตลอดเวลา 
จะใช้ในยามคับขันได้ แต่ของสิ่งนั้นต้องมีความแหลมคมมากๆด้วยนะครับ”
         กล่าวจบชายหนุ่มก็เดินเข้าห้องของเขาไป สร้างความงุนงงแก่บรรดานัก
โบราณคดีที่หมายหมั่นจะออกเดินทางค้นหาสิ่งของเหล่านี้  และชายหนุ่มรู้ได้
อย่างไร???....ว่าพวกเขาวางแผนการณ์ในเรื่องนี้ไว้แล้ว แล้วอะไรหรือที่พลังงาน
ไม่สามารถจะดึงดูดไปได้  คงจะไม่ใช่โลหะอย่างแน่นอน แล้วอะไรกันล่ะ????....
                    *  แก้วประเสริฐ.  *

flowers_170.gif1139348gm3744qpip.gifCartoon_Animation_08.gif				
comments powered by Disqus
  • เอื้องอังกูร

    23 มีนาคม 2555 23:23 น. - comment id 128378

    เข้ามาอ่ลานตอนดึก จบแล้ว คงหลับฝันดครับคืนนี้37.gif
    ขอบคุณมากครับ
  • แก้วประเสริฐ

    25 มีนาคม 2555 15:40 น. - comment id 128442

    36.gif16.gif36.gif
    ุคุณ เอื้องอังกูร
    
             นี่แค่ดำเนินเรื่องอารัมบทเท่านั้นครับ ยังไม่ได้เข้า
    ไปถึงเรื่องจริงๆครับ ขอบคุณ
    
                     16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน