เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้รับโทรศัพท์สายด่วนจากอยุทธยา ลูกผู้พี่ผู้น้อง ไม่ค่อยได้ติดต่อกันตั้งแต่คุณแม่เสียหลายปีมาแล้ว บอกข่าวว่าคุณปู่ของเขา ซึ่งมีศักดิ์เป็นตาเพราะเป็นน้องชายคุณตาของผม ผู้ใหญ่ที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว อายุแปดสิบกว่าแล้ว เกิดป่วยอาการไม่ค่อยดีนัก ผมจึงเดินทางไปเยี่ยมพร้อมของกินของใช้สำหรับคนแก่ตามธรรมเนียมเพื่อให้กำลังใจผู้ใหญ่ และกระชับความเป็นพี่น้องซึ่งเหลืออยู่น้อยเต็มที รุ่นหลัง ๆต่างห่างเหินแยกย้ายกันไปประกอบอาชีพไม่ได้ติดต่อกันมานาน เรือนโบราณของคุณตาที่มาฝังรกรากอยู่ที่อยุทธยาตั้งแต่ผมยังไม่เกิดยังงดงามอยู่ท่ามกลางแมกไม้ทั้งไม้ผลไม้ดอกร่มเย็นน่าเป็นสุขสบาย คุณตาผ่ายผอมลงบ้างแต่หน้าตายังสดใสอยู่บ้างท่านนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกแต่โยกไม่ได้แล้วเพราะลูกหลานล๊อกเอาไว้กลัวแกตกลงมา ยิ้มแย้มทักทายเมื่อผมก้มลงกราบที่พื้นใกล้ ๆเท้าของท่านท่านยังจำผมได้เรียกชื่อถูกต้องเพราะท่านเป็นคนตั้งชื่อนี้ให้ผมเอง ขณะที่ก้มกราบสร้อยคอทองคำหนักประมาณหนึ่งบาทเส้นยาวที่แม่ให้ไว้ ผมแขวนเหรีญญกลม ๆคล้ายจักราษีแขวนเล่น ๆไม่มีความหมายอะไรได้หลุดเลื่อนอกมาจากเสื้อผมก็รีบเก็บให้เรียบร้อยแต่คุณตาท่านเห็นถามว่าเดี๋ยวนี้แขวนอะไรล่ะ ผมบอกว่าแขวนเล่น ไม่ใช่พระไม่มีความหมายอะไร ตามปกติผมจะแขวนล๊อกเก็ดรูปคุณแม่ บางวันก็เปลี่ยนไปตามสมัยบ้าง ท่านก็เลยเรียกใช้ให้หลานไปหยิบกล่องสังกระสีสี่เหลี่ยมที่โต๊ะหมู่พระบูชาในห้องมาให้ ท่านเลือกหยิบพระเลี่ยมทององค์หนึ่งมาส่งให้ บอกว่าให้หลานแขวนองค์นี้เถอะจะให้คุณใช้ได้ผลมาแล้วผู้หลักผู้ใหญ่เกรงใจรักใคร่เอ็นดูให้เปลี่ยนเสียเดี๋ยวนี้เลย ผมรับพระจากมือท่านมา ก่อนถอดสายสร้อยมาเปลี่ยนก็ได้พิจารณาดู เป็นพระเลี่ยมทองรูปร่างแปลกสัณฐานยาว ๆเอียง ๆไม่เหมือนที่คนเขาแขวนกันทั่วไปเพราะพระเป็นพระปางไสยาสน์องค์พระ สุกปลั่งอยู่บนแท่นทองเป็นทองคำท้งองค์ท่านบอกว่า ไม่ใช่ปางปรินิพพานแต่เป็นปางโปรด อสุรินทราหู สังเกตุความแตกต่างได้ถ้าพระบาทเหลื่อมกันเป็นปางปรินิพพาน ถ้าพระบาทเท่ากันวางซ้อนกัน เป็นปางไสยาสน์โปรด อสุรินทราหู ฝีมือเลี่ยมทองงดงามมีหูแขวนได้สัดส่วนถ่วงน้ำหนักตรงไม่เอียงแม้ว่ารูปพระจะดูว่าเอียง ผมก็จัดแจงเปลี่ยนแขวนพระกับสร้อยเรียบร้อยแล้วกราบขอบพระคุณท่าน ได้คุยสารทุกข์สุกดิบกันแล้วทานอาหารกลางวันเป็นอาหารที่ลูกหลานทำกันเองมีอย่างเดียวที่สั่งมาจากร้านคือกุ้งใหญ่เผาให้กินคนละตัวเท่านั้น ได้อิ่มหนำสำราญกันแล้วผมจึงลากลับแอบกระซิบกับหลานซึ่งเป็นรุ่นไล่ ๆ กันว่ามีอะไรให้รีบบอก ถ้าว่างก็จะมาเยี่ยมอีก กลับมาถึงที่พักเก็บความสงสัยเรื่องพระพุทธเจ้าโปรด อสุรินราหู ไว้ไม่ได้ เอาพระบนคอมาพิจารณา เห็นงดงามนัก เหมือนพระที่เคยไปไหว้หลายแห่งเช่น ที่ป่าโมก อ่างทอง ที่สิงห์บุรี ที่ในวิหารวัดโปรดเกตุเชษฐารามที่ผมเคยพาเพื่อนไปขอบุตรกับฤาษี(เขียนเล่าไว้แต่ไม่ได้กล่าวถึงพระไสยาสน์)โดยเฉพาะที่ วัดโพธิ์ท่าเตียนซึ่งใหญ่มาก แต่ผมไม่เคยรู้เรื่องความแตกต่างของปาง เรื่องการวางพระบาทที่ไม่เหมือนกัน ผมจึงเปิดอินเตอเนทดู พบข้อความแจ้งไว้ทำให้ตาสว่างว่า "ในสมัยที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ ณ วัดเชตวัน ในนครสาวัตถี อสุรินทราหูซึ่งเป็นอสูรอุปราชของท้าวเวปจิตติอสุรบดินทร์ผู้ครองอสูรพิภพ ได้สดับพระเกียรติคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากเหล่าเทวดาทั้งหลาย จึงมีความประสงค์จะฟังธรรมจากพระพุทธองค์ แต่คิดว่าพระพุทธองค์เป็นมนุษย์มีพระวรกายเล็ก ตนเองมีร่างกายใหญ่หากไปเฝ้าก็จะต้องก้มลงมองด้วยความลำบาก เมื่ออสุรินทราหู ไปเข้าเฝ้าสำคัญตัวว่ามีร่างกายใหญ่โตใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า จึงไม่ยอมแสดงความอ่อนน้อม พระพุทธองค์ทรงประสงค์จะลดทิฐิของอสุรินทราหูอสูร จึงทรงเนรมิตกายให้ใหญ่โตกว่าอสุรินทราหูอสูร ทรงนอนในลักษณะเสด็จสีหไสยาสน์ พระเศียรหนุนภูเขาต่างพระเขนย พระบาททั้งสองข้างที่วางซ้อนกันอยู่ สูงใหญ่กว่าอสุรินทราหู อสุรินทราหูต้องแหงนคอเพื่อชมพุทธลักษณะ พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงปาฏิหาริย์พาอสุรินทราหูขึ้นไปยังพรหมโลก บรรดาพรหมทั้งหลายมีร่างกายเล็กกว่าพระพุทธองค์และต่างมองอสุรินทราหูเหมือนประหนึ่งมนุษย์ดูมดปลวกตัวเล็กๆ อสุรินทราหูเกิดความกลัวต้องหลบอยู่ข้างหลังพระพุทธองค์ นับแต่นั้นมาก็ลดทิฐิมานะ อ่อนน้อมต่อพระพุทธองค์ และเมื่อได้สดับฟังธรรม" อย่างนี้นี่เล่าคุณตาถึงบอกว่าแขวนพระองค์นี้แล้วผู้ใหญ่จะให้ความเกรงใจรักและเอ็นดู ไม่มีใครกล้าเป็นศัตรู เพราะ อสุรินทราหู ยังยอมสยบ แต่ผมมาใครครวญด้วยเหตุผล ความเชื่ออาจเป็นส่วนหนึ่งทำให้เกิดความมั่นใจในการทำงานในการดำรงชีวิต ทำให้เกิดความสำเร็จ แต่ทั้งหมดต้องอยู่ที่ตัวของเราเอง อย่างไรก็ตามผมก็ได้พระทองคำงดงามเลี่ยมทองคำเรียบร้อยมาแขวนแต้ไปแล้ว อิอิ
28 กุมภาพันธ์ 2555 11:22 น. - comment id 128555
ลืมบอกไป ผมได้วัดขนาดพระแล้วความกว้างทั้งกรอบเลี่ยมสี่เว็นติเมตรกว่า ๆ วามสูงาทเซ้นติเมตรกว่า ๆ ดูเหมือนเอียงเพราะทางด้านเกศจะสูงกว่าทางด้านพระบาทแต่การถ่วงน้ำหนักถูกต้องเวลาแขวนจึงไม่เอียง
28 กุมภาพันธ์ 2555 12:07 น. - comment id 128556
รับพนักงานพิสูจน์อักษรไหมค่ะ อ่านแล้วรู้สึกได้ว่า เฮียฤกษ์จิตใจดีนี่นา ได้อ่านเรื่องราวเบาๆสบายๆแบบนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะเฮีย
28 กุมภาพันธ์ 2555 14:25 น. - comment id 128557
เป็นมงคลดีจ๊ะ ผู้ใหญ่ให้ก็รับไว้บูชา :)
28 กุมภาพันธ์ 2555 16:55 น. - comment id 128558
เฮียฤกษ์ขรา...หวานมาเรยย 555 เอาภาพมาให้ชมบ้างสิคะ อยากเห็นเป็นบุญตาค่ะ
29 กุมภาพันธ์ 2555 12:34 น. - comment id 128561
ปิติใจกับฤกษ์นะ ที่ได้รับสิ่งมงคลจากคุณตา เชื่อค่ะว่า ความอ่อนน้อมถ่อมตนนั้น ทำให้เป็นที่รัก เพราะ พาให้เราลดทิฐิมานะ อัตตาลง ไม่เพ่งโทษ ไม่สำคัญว่าเราดีกว่า เขาแย่กว่า พุดเพิ่งไปไหว้พระอจนะ ที่สุโขทัยมา ก่อนเข้าไปกราบ ซื้อผ้าถุงลายโบราณมานุ่ง เข้ากับบรรยากาศยามพลบมากค่ะ ไม่รุเป็นอะไรเวลาเดินเข้าไปตามโบราณ สถานไม่ว่าที่อยุธยา สุโขทัย ตามปราสาทต่างๆ น้ำตาเต็มตื้นเลยฤกษ์ และ จะบอกว่าศุกร์ที่ผ่านมาขึ้นเขาค้อ จากเขาค้อ เสาร์เข้าเขาใหญ่ค่ะ ชีวิตนี้รักความยุติธรรม และคนยากไร้ ฤกษ์คงเข้าใจที่กำลังบอกนะคะ รักฤกษ์เสมอมาเสมอไปค่ะ
29 กุมภาพันธ์ 2555 13:33 น. - comment id 128562
อ่านดูแล้วน่าทึ่งมากนะครับพ่อรูปหล่อ แต่ผม ว่าคุณตาท่านให้ผิดไปแล้วไม่เหมาะกับคุณเลย น่าจะมอบพระตาเถรกวาดวัดให้จะดีกว่า เพราะ เที่ยวไล่ต้อนกวาดผู้หญิงทั้งเวปฯหมดแล้่วนี่นา ฮ่าๆๆๆๆๆ รักมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
29 กุมภาพันธ์ 2555 15:09 น. - comment id 128563
ผมเห็นด้วยกับ คห. 6 ครับ ถ้าพระตาเถรกวาดวัดไม่มี ขอเป็นพระขุนแผนชมตลาด สักองค์ก็คงได้ แหม แต่จีวรเป็นทองนี่ซิ น่าสนใจ
7 มีนาคม 2555 11:11 น. - comment id 128575
ยินดีด้วยค่ะ