เหตุเกิดที่ขบวนรถไฟสายใต้

อิสรชัย รัตน

ผมนั่งมองผู้คนที่เดินขึ้นบนขบวนรถไฟที่หนาตามากขึ้น เพราะเหลือเพียงสิบนาที ขบวนรถสายใต้จากกรุงเทพฯ ที่มุ่งหน้าสุไหงโกลก ก็จะออกจากสถานีแล้ว  ในขบวนที่ผมนั่งเป็นตู้นอนชั้นสอง คนที่นั่งตรงข้ามผมยังไม่ขึ้นมาบนขบวนรถ ไม่แน่ใจว่าขึ้นที่สถานีต่อไปหรือวันนี้เป็นที่ว่างไปจนถึงปลายทาง พนักงานขายเครื่องดื่มและอาหารของตู้เสบียงเริ่มเดินทำหน้าที่เพื่อบริการลูกค้า
               ผมแปลกใจเหมือนกันว่าเครื่องดื่มและอาหารบนขบวนรถไฟทำไมราคาถึงสูงมาก ทำให้คนส่วนใหญ่เตรียมอาหารและเครื่องดื่มมาเอง ผมคิดว่าถ้าบนรถไฟขายราคาลดลงคงมีคนมาใช้บริการเพิ่มขึ้นมากกว่านี้แน่นอนเพราะใครๆ ก็ไม่อยากหอบสิ่งของมาให้หนักหรอกถ้าสามารถซื้อในราคาที่ไม่โขกสับมากนัก  อีกเรื่องหนึ่งที่ผมคิดอยู่เสมอเช่นกัน ขบวนตู้นอนบนรถไฟนั้นทำไมไม่มีการบริการน้ำดื่มหรืออะไรที่เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีกับผู้โดยสารบ้าง เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เคยเห็นบนขบวนรถไฟของไทยเลย ในขณะที่รถทัวร์สิ่งเหล่านี้ยังมีให้เห็นทั้งที่จำนวนคนก็น้อยกว่ารถไฟหลายเท่า
                ผมมองนาฬิกาเหลือเวลาไม่ถึงห้านาทีที่รถจะเคลื่อนออกจากสถานี ตรงข้ามผมมีคนเดินเข้ามาแล้วเป็นผู้หญิงสาวสวยที่ถือกระเป๋าใบย่อมมาวางบนชั้นได้บน  เมื่อเธอนั่งลงตรงหน้าผม  ทำให้เลือดกายของหนุ่มสูบฉีดขึ้นอย่างรวดเร็ว  เพราะคอเสื้อที่เว้าลึกจนเห็นเนินเนื้อของเธอ  แล้วคืนนี้ผมต้องนั่งทรมานอย่างนี้ตลอดเลยหรือ เธอโปรยยิ้มก่อนถามผม 
ลงที่ไหนค่ะ เธอถามแล้วรอคำตอบด้วยมองหน้าผม
ทุ่งสงครับ  แล้วคุณล่ะ ผมตอบก่อนถามเธอกลับด้วยรอยยิ้มโปรยเสน่ห์ในความคิดของผม
หาดใหญ่ค่ะ เธอตอบก่อนที่จะหยิบถุงขนุมกรุบกรอบขึ้นมาแกะ  
ทานด้วยกันไหมค่ะ เธอยื่นซองขนมมาตรงหน้าผมในขณะที่ผมส่ายหน้าปฏิเสธเธอไป
             ผมนั่งนิ่งไปพักแต่สายตาไม่นิ่งผมมองเธอที่นั่งอยู่ตรงหน้า เธอเป็นคนสวย หน้าหวานมีเสน่ห์แน่นอนชายคนไหนเห็นเธอแล้วคงไม่มีใครปฏิเสธที่จะชวนเธอคุยแน่นอน  ผิวขาวแต่ไม่ขาวซีดของเธอทำให้มองดูเด่นเมื่อเสื้อสีม่วงเข้มขับผิวของเธอให้เปล่งปลั่งยิ่งขึ้น
              พนักงานขายน้ำดื่มเดินกลับมาหลังจากที่เดินหายไปตอนแรก  เธอสั่งเบียร์มาดื่ม  ผมยิ่งแปลกใจว่าทำไมเธอถึงกล้าอย่างนี้
ดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะค่ะ ฉันยินดีที่รู้จักคุณคืนนี้ เธอยื่นแก้วเบียร์ที่รินแล้วมาให้ผมสายตาที่มองมาเหมือนไม่ต้องการให้ปฏิเสธ
             ผมรับแก้วเบียร์มาพร้อมกับกล่าวกับเธอว่า คุณดื่มอย่างนี้บ่อยไหมครับ
ไม่หรอกค่ะแล้วแต่บรรยากาศ  วันนี้นั่งรถไฟระยะยาวอยากทานอะไรสักหน่อย เพื่อให้ง่วงแล้วจะได้นอนหลับสบายใจ เธอตอบแล้วยื่นแก้วมาชนกับผม
เรียกฉันว่า ดาว ก็แล้วกันค่ะ เธอบอกชื่อซึ่งคงเป็นชื่อเล่นของเธอ
ครับคุณดาว เรียกผมว่า แมน ก็ได้ครับ เป็นชื่อเล่นของผม ผมบอกเธอไปอย่างนั้น
               เมื่อดีกรีของแอลกอฮอลล์ ขวดที่สามและสี่เติมเต็มเข้ามา เป็นผมที่ต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษจ่ายค่าบริการเหล่านั้นไป  ผมนั่งคุยกับเธอพร้อมสายตาที่โลมเลียไปทุกครั้งที่มองเธอ  โดยไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าที่นั่งรอบข้างนั้นมีใครนั่งอยู่บ้าง หากแต่มีความรู้สึกว่าคืนนี้เป็นคืนแห่งความสุขเหลือเกินที่มาเจอกับสาวที่กล้าขนาดนี้   
                 ผมมองความกร้านชีวิตของเธอว่าทำไมเธอถึงกล้านั่งดื่มเบียร์กับคนแปลกหน้าและมีทีท่าสนิมสนมรวดเร็วปานนี้  หรือเธอเป็นแม่เสือสาวที่วางแผนมามอมผมแล้วจัดการทรัพย์สิน  ผมเริ่มคิดหาคำตอบ ในตัวผมตอนนี้ไม่มีสิ่งของมากนัก ที่ติดตัวมีเพียงสร้อยทองสองสลึงหนึ่งเส้น และโน๊ตบุ๊กที่อยู่ในกระเป๋าของผมบนชั้นเท่านั้น ส่วนเงินติดตัวมีเพียงพอที่จะใช้สอยเท่านั้น
ดาวสังเกตว่าคุณกำลังนั่งคิดอะไรบ้างอย่าง คุณคงสงสัยใช่ไหมว่าทำไม่ผู้หญิงอย่างดาวถึงมานั่งดื่มกับคนแปลกหน้าเช่นคุณ เธอถามเหมือนรู้สิ่งที่เธอเห็นผมนิ่ง
เปล่าผมไม่คิดเช่นนั้นหรอก แต่ผมคิดว่าสมัยนี้ผู้หญิงมีแนวคิดของตน มีอิสระที่จะทำสิ่งที่อยากทำมากกว่า ผมตอบเธอไม่ตรงกับสิ่งที่คิด
ขอบคุณค่ะที่มองฉันในแง่นั่น เธอพูดพร้อมส่งสายตาหวานเชื่อมมาทางผม คุณเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์นะนี่ เธอหยอดคำหวานมาให้ผมอีกแล้ว
ขอบคุณครับ  คุณก็เป็นคนที่น่ารัก ผมตอบกลับแล้วเราสองคนก็หัวเราะพร้อมกัน 
               เธอขอตัวไปห้องน้ำหลังจากที่ดื่มหมดไปขวดที่สี่ ผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ เริ่มให้บริกรบนรถจัดเตียงนอนให้แล้ว ในขณะที่ผมสั่งเบียร์มาเพิ่มเติม ด้วยสมองที่คิดว่าคืนนี้ผมคงสนุกกับชีวิตในวัยหนุ่มอีกครั้ง
                เธอกลับมามองขวดเบียร์ที่วางเพิ่มอีกสองขวด แต่ไม่พูดอะไรนอกจากหยิบแก้วขึ้นมาชูแล้วพยักหน้าให้ดื่มพร้อมกัน
	คืนนี้ฉันดื่มได้มากเป็นพิเศษเพราะพบคนรู้ใจ เธอพูดเหมือนต้องการให้คิดอะไรมากขึ้น
	ผมก็เช่นกัน  ผมพูดเพราะนี้คือความจริงที่ผมดื่มเบียร์กับคนสองคนหมดไปแล้วหกขวด 
	ผมลุกขึ้นไปห้องน้ำบ้างหลังจากหมดแก้วนั้น  ผมมีความรู้สึกว่าผมคงจะเริ่มเมาแล้วที่เดินเซตามความการเคลื่อนไหวของขบวนรถไฟ
	ผมและเธอนั่งคุยกันจนบริกรมาบอกว่าได้เวลาที่จะต้องปูเตียงแล้ว ในขณะที่เหลือเบียร์อีกหนึ่งขวดที่เปิดไว้แล้ว  ผมและเธอจึงให้บริกรปูเตียงให้เรียบร้อย  จนเขาเดินจากไป
	เดี๋ยวมานั่งดื่มในเตียงด้วยกันก็ได้ค่ะ เธอเอ่ยชวน
	ผมทั้งดีใจและตื่นเต้นที่พบคนกล้าอย่างนี้ มาชวนให้นั่งกินในเตียงด้วยกันแม้การนั่งจะลำบากเพราะความสูงที่มีจำกัดแต่นั้นไม่ใช่อุปสรรคของเราสองคน ผมเอนกายกึ่งนอนกึ่งนั่งชิดหน้าต่างในขณะที่เธอนั่งห้อยขาอยู่ด้านนอก เสียงคุยของเราเบาลงเพราะไม่ต้องการให้คนอื่นรำคาญ ผมมีความกล้าในการสัมผัสกายของเธอมากขึ้น แปลกที่เธอไม่มีการปัดป้องหากแต่ปล่อยให้ผมสัมผัสไล้ลูบอยู่เช่นนั้น ผมเลื่อนขวดเบียร์ที่เหลืออีกครึ่งขวดชิดปลายเท้าแล้วดึงร่างของเธอขึ้นมาเอนกายเคียงข้าง 
	ผมไม่คิดเลยว่าสวรรค์แห่งความจริงจะรอรับผมอย่างง่ายดายเช่นนี้ ร่องอกที่ผมพึงพอใจและนั่งมองอยู่นั้นผมกำลังสัมผัส เมื่อชายเสื้อของเธอขยับเลื่อนขึ้นตามที่ผมต้องการ  ผมก้มลงสัมผัสกับสิ่งที่ปรารถนาฝังจมูกลงแล้วสูดกลิ่นกายสาวด้วยความปรีดียิ่ง
	
	ผมปวดหัวหนึบตายังลืมไม่ขึ้นรู้เพียงว่ามีคนมาเขย่าร่างของผมให้ตื่น ผมปวดหัวอย่างมาก จนผู้คนที่รุมล้อมบอกว่า ตื่นแล้วครับตำรวจ ผมมองผู้คนที่มุงมองผมแล้วก็ตกใจเมื่อรู้ว่าผมคงถูกหลอกและถูกหลอกคราบแน่นอน
	เป็นอะไรบ้างคุณ นี้สว่างแล้วเห็นคุณยังนอนไม่ตื่นเลยมาสอบถาม ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย เดี๋ยวให้พนักงานเก็บเตียง
	ผมรู้ว่าเมื่อคืนผมนอนกับเธอที่เตียงชั้นล่างและกำลังเริ่มมีเซ๊กส์กัน ผมกำลังมีความสุขกับสัมผัสแต่หลังจากนั้นผมไม่รู้สึกตัวอีกเลยว่าเกิดอะไรขึ้น  ตอนนี้ผมรู้เพียงว่าผมเจ็บใจและผมถูกหลอกจริงๆ สร้อยคอทองคำของผมหายไป  แต่การหายของสร้อยคอผมยังไม่เสียดายเท่ากับความเป็นชายของผมที่ถูกย่ำยี ผมปวดก้นของผมเหลือเกิน  ผมเอามือไปสัมผัสผมก็รู้แล้วว่าว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นกับผม
                                                  *************
	ที่สถานีรถไฟพุนพิน สุราษฎร์ธานี
	สร้อยเส้นนี้ผมให้คุณ ในฐานะที่หาคุณถูกใจผมเมื่อคืน รู้ไหมสมชาย ไอ้นั่นนั่งมองคุณแล้วกลืนน้ำลายตลอด เพราะความสวยจอมปลอมของแกทำให้ชายหนุ่มลุ่มหลงยิ่งนัก  คุณเก่งมากหาเหยื่อให้ผมชำแหละได้รายนี้เป็นรายที่สี่แล้วสิน่ะ  
	แต่คุณรู้ไหม ฉันอยากกินชายหนุ่มเมื่อคืนเหมือนกันน่ะ  เขาหล่อดี นิสัยก็ดีด้วย 
	มึงอย่าเสือกทำอย่างนั้นน่ะ ฉันเอาตายแน่  อย่าลืมอาชีพของเราสร้างรายได้ดีเหมือนกัน  เดี่ยวขากลับกรุงเทพฯ เราไปรถทัวร์  จัดเตรียมเสบียงให้พร้อมแต่งตัวยั่วให้น้ำลายหก แล้วรื่องที่นั่งผมวางแผนเองรับรองคงได้ชายหนุ่มที่หล่อแน่นอนเพราะอย่างไรเสียไอ้หนุ่มคนนั่นก็โดนผมเสียบอยู่ดี  จริงไหม
	แล้วเสียงหัวเราะแห่งความสะใจก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างสองคนที่เดินคล้องแขนกันออกไป มองดูก็รู้เพียงว่าเป็นร่างของสาวสวยกับหนุ่มหล่อ				
comments powered by Disqus
  • อิสรชัย รัตน

    26 กุมภาพันธ์ 2555 19:37 น. - comment id 127472

    ขอบคุณ คุณแดดเช้าและน้ำตาลหวาน ที่ติดตามผลงานและเป็นกำลังใจให้ในการฝึกหัดแต่งเรื่องสั้นตามที่ใจรักอยากจะเขียน
  • อนงค์นาง

    24 กุมภาพันธ์ 2555 04:51 น. - comment id 128535

    แต่งเก่งค่ะ  จบแบบคาดไม่ถึงเลยนะคะ
    
    36.gif36.gif36.gif
  • อิสรชัย รัตน

    24 กุมภาพันธ์ 2555 13:35 น. - comment id 128537

    ขอบคุณสำหรับคำชม เพียงทดลองเขียนขั้นต้นเท่านั้นครับ ยังไม่อยากเหลิง
  • แดดเช้า

    24 กุมภาพันธ์ 2555 13:48 น. - comment id 128538

    เรื่องจริงเปล่าเนี่ย น่ากลัวจัง
    
    เพิ่งเดินทางทางรถไฟสายใต้เหมือนกัน อิอิ
  • (น้ำตาลหวาน)

    24 กุมภาพันธ์ 2555 15:03 น. - comment id 128539

    เดินเรื่องได้ดี ชวนติดตามมากค่ะ 36.gif
  • อัลมิตรา

    26 กุมภาพันธ์ 2555 20:46 น. - comment id 128549

    อ่านแล้วรู้สึกสมน้ำหนวกคนที่ระบมก้นยังไงก็ไม่รู้ 555

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน