อทิสมานกาย ๑๐๙ (อวสาน) เมื่อเหตุการณ์ภายในกรุงเทพฯ เกิดกระแสปั่นป่วน จึงมีผลกระทบกลับมายังการทำงานของ พล.ต.ท. วีระโชติ วิเชียรเข็มสกุลอย่างรุนแรง ในบริเวณอาณาเขตของกองกำกับการควบคุมดูแล ก็ยังปราศจากการค้าของผิดกฏหมายใดๆทั้งสิ้น ด้วยพ่อค้าทางด้านนี้ยังขยาด หลังจากเสี่ยเล้งได้เสียชีวิตลง ยังหาผู้ใดกล้ายุ่งเกี่ยวไม่ เวลาผ่านไปหลายปีบรรดาลูกน้องของชายหนุ่ม ก็ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นสูง ต่างติดยศนายพลไล่ตามลงมาตามลำดับ ด้านรองผู้กำกับชัชวาลย์ก็ได้เลื่อนเป็นนายพล ต.ต. พร้อมด้วย คู่หูคือผช.ผู้กำกับจรัสได้เป็นนายพลทั้งคู่ ส่วนชายหนุ่มยังอยู่ในตำแหน่งเดิมด้วยเป็นตำแหน่งสูงสุดในภาคนี้ เมื่อเห็นเหตุการณ์เบาบางลงทางด้านนี้ ชายหนุ่มก็แต่งงาน กับนส.ชบาการจัดงานเป็นไปอย่างเอิกเกริกสมเกียรติ ฐานะ โดยพ่อเชียรแม่เข็มได้ไปสู่ขอกับพ่อแม่ของชบาสร้าง ความปิติยินดีแก่พ่อแม่ของชบาเป็นอย่างมาก ที่ได้ลูกเขยเป็นถึงนายพลตำรวจ การปรากฏตัวของฐานะ การทำงานของชายหนุ่มสร้างความฮือฮา แก่ชาวบ้านโคกอีแร้ง ด้วยไม่คิดว่าคนในหมู่บ้าน จะมียศฐาบรรดาศักดิ์เช่นนี้ เมื่อเหตุการณ์ผ่านไป แต่ที่ดีใจมากได้แก่แม่นางเทพอัปสรทั้งสองและนส.ชบา เพราะได้ตกลงไว้เป็นสัญญากันว่าจะสับเปลี่ยนกัน โดยอาศัยร่างของสาวชบาเป็นสื่อกลางระหว่างเทพกับมนุษย์ จวบจนเวลาผ่านไปหลายปี ชายหนุ่มก็ได้ลูก อันเกิดจากสาวชบาสามคน ต่างเป็นชายหมด ในระหว่างลูกนั้นเป็นลูกของสาวชบา เทพอัปสรรัตนาวดี และเทพอัปสรอ้อยวิลาวัลย์ ด้วยการถอดจิตวิญญาณแล้วเข้าสู่ร่างสาวชบา แต่เหตุการณ์นี้ชายหนุ่มต่างทราบดีด้วยฌาน และการบอกของเทพทั้งสองกับสาวชบาเอง การได้ลูกชายหมดครั้งนี้สร้างความปลาบปลื้มใจ แก่พ่อเชียรและแม่เข็มที่ได้หลานมาอุ้มเลี้ยงดูสมความตั้งใจไว้ ทางด้านเจ้าชัยและสาวบงกชไม่มีลูกเช่น พี่ชาย แต่ก็ต่างช่วยกันเลี้ยงดูหลานด้วยความรักใคร่เอ็นดู ประหนึ่งลูกของตัวเอง จวบจนกระทั่ง ชายหนุ่มได้รับการแต่งตั้ง เลื่อนตำแหน่งขึ้นแต่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯไปรับตำแหน่งใหม่ เหตุดังนี้เพราะทางด้านนี้บรรดาพ่อค้าใหญ่ ที่ผิดกฏหมายอาศัยพรรคพวกหาทางย้ายชายหนุ่ม ออกจากบริเวณนี้ด้วยขัดกันทางด้านค้าขายผิดกฏหมาย ด้วยไม่มีใครกล้าทำงานร่วมด้วยโดยอาศัยนักการ เมืองเข้าดำเนินการในครั้งนี้ ทำให้ชายหนุ่มซึ่งคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ก่อนออกเดินทางไปรับตำแหน่งได้เรียกที่ประชุมตำรวจ ภาคนี้ทั้งหมดพร้อมให้ข้อแนะนำอันเป็นประโยชน์ในการควบคุม ดูแลงาน ตลอดจนมอบหมายตำแหน่งให้แก่ผู้กำกับคนใหม่ คือ พล.ต.ท. ชัชวาลย์ซึ่งได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไปด้วย หลังจากนั้นไม่นาน พล.ต.อ.วีระโชติ ก็ลาออกจากราชการเมื่อ ได้รับโปรดเกล้าแล้ว ก็เดินทางกลับมายังหมู่บ้านโคกอีแร้งเพื่อ เลี้ยงดูลูกชายและช่วยเหลืองานเจ้าชัยและพ่อเชียรแม่เข็มซึ่งอายุ มากขึ้น จึงไม่สามารถดูแลสวน ไร่นาได้อีกต่อไปแล้ว ทางด้านเจ้าเปล่งยังโสด อาศัยป่าอันเป็นเนื้อที่ของพ่อเชียร ที่ยกที่ดินบริเวณแถบนั้นให้มัน คอยดูแลช่วยเหลือทางด้าน ตำรวจแทนอาจารย์นายมันอีกทอดหนึ่ง และอีกหกพระกาฬ ต่างก็มีลูกมีเมียกันไป ยกเว้นเจ้าวาสพิเศษหน่อยได้นางไม้เป็นเมีย แต่อาศัยชายหนุ่ม ช่วยเหลือหาร่างหญิงสาวที่พึ่งเสียชีวิตมาทำพิธีให้แก่นางไม้มนฑา จึงกลับกลายเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับสาวชบาและเจ้าชัย และอยู่กิน กันฉันท์บุคคลทั่วๆไป ทางด้านอำเภอก็ไม่เป็นปัญหาเพราะสวมชื่อ เดิมปรับเปลี่ยนว่าสลบไปแล้วฟื้นคืนมาใหม่ เรื่องก็สิ้นสุดลงแค่นี้ ทางด้านเจ้าชวนก็แต่งงานกับสาวลัดดาเจ้าของร้านอาหาร แต่ การเลือกกำนันนั้น ถึงแม้ชาวบ้านจะพยายามหนุน เจ้าชวนก็ไม่เอา เพราะต้องการความสงบสุขมากว่า เลี้ยงดูแม่และหลวงพ่อมันที่บัดนี้ ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดโคกอีแร้งไป ส่วนเจ้าแสงสีสินชัยก็คอยปรนนิบัติชายหนุ่ม เจ้าพ่วงเจ้าเริ่มก็คอย ช่วยงานเจ้าเปล่ง เมื่อทุกอย่างเป็นปกติ เวลาผ่านไปจนลูกชายของเขาโตเป็นหนุ่มพ้นนิติภาวะแล้ว ชายหนุ่มจึงยกที่ดินทั้งหมดให้ ยกเว้นที่ดินแบ่งให้เจ้าชัย ส่วนหนึ่งที่ยกให้แก่เจ้าชัยและสาวบงกชไป ตั้งแต่เขาลาออกจากราชการมาก็ไม่ยุ่งเกี่ยวงานอีกเลย แม้ตำรวจลูกน้องเก่ามาจะมาขอคำปรึกษาชายหนุ่มก็แนะนำให้ เป็นบางส่วนเท่านั้น จวบจนเวลาผ่านไปเรื่อยๆ พ่อเชียร และแม่เข็มต่างก็อำลาโลกนี้ไปอย่างสงบไม่ห่างกันนัก ชายหนุ่ม สาวชบา แม่นางอัปสรรัตนาวดีและ นางอัปสรร้อยวิลาวัลย์กำลังชวนกันเพลิดเพลิน ดูแสงจันทร์และดวงดาว ระหว่างที่จันทร์เคลื่อนหลบยังภูเขา แต่แสงนวลยังส่องสว่างอยู่ สพรั่งไปด้วยดวงดาวมากมาย ทันใดนั้นดวงดาวใหญ่ดวงหนึ่งก็ล่วงเป็นแสงสายยาวลงมา ชายหนุ่มหันไปมองหน้าแม่นางทั้งสามพลางเอ่ยว่า “เห็นทีจะได้เวลาของพี่แล้ว ที่จะต้องออกเดินทางอีกครั้ง” “จ๊ะพี่น้องรู้มานานแล้วว่าจะต้องมีเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น” แม่นางอัปสร รัตนาวดีเอ่ยขึ้น “อ้าวๆๆๆแล้วชบาจะอยู่กับใครหรืออยู่กับลูกๆ” แม่ชบาเอ่ยขึ้นลอยๆ “เราก็ไปด้วยกันซิจ๊ะแม่ชบา เพราะพี่โชติเตรียมวิมานรอรับ เราไว้แล้วเป็นเอกเทศไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร อยู่ในอากาศชั้นดาวดึงส์ ไงล่ะน้องรัก” แม่นางอ้อยวิลาวัลย์เอ่ยขึ้น “ถ้าอย่างนั้นผมทั้งสองก็ขอไปด้วยนะครับอาจารย์” เจ้าแสงสีสินชัยเอ่ยขึ้นบ้าง เพราะมันนั่งอยู่ไม่ไกลที่พ่อโชติและ ภรรยาทั้งสามเท่าใดนัก” “ไปกันหมดทุกๆคนล่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกอีกเที่ยงคืนวันศุกร์ ที่จะถึงนี้แหละ ไปบอกให้ทุกๆคนเตรียมตัวด้วยนะ” “ครับอาจารย์ ด้วยทุกๆคนก็ได้ฌานแก่กล้าแล้วทั้งหมดครับ” ดังนั้นก่อนวันศุกร์หนึ่งวันหนุ่มวัยเข้าชราก็เรียกลูกและน้องๆ มาทั้งหมด ฝากฝังให้เจ้าชัยคอยดูแล ทำให้เจ้าชัยและบงกชต่าง แปลกใจไป พลางเอ่ยขึ้นว่า “อ้าวๆๆๆแล้วพี่จะไปไหนล่ะพี่???.....” แล้วพ่อโชติแม่ชบาก็เล่าความจริงให้น้องและลูกๆฟังว่าถึงเวลา ที่จะต้องจากโลกนี้ไปแล้ว ไม่ต้องห่วงพ่อแม่ไปดีนะให้รักกัน ปรองดองสามัคคีคอยช่วยเหลือกันและกัน เขาเล่าเท่านี้ก็รีบลุก ขึ้นเดินเข้าห้องไป พอได้เวลาที่กำหนดมาถึงพ่อโชติและสาวชบา ก็ละทิ้งสังขารในท่าฌานสมาบัติ เป็นแสงสว่างหลายๆดวงพุ่งไปในท้องฟ้าสู่วิมาน ในอากาศในชั้นดาวดึงส์ กำเนิดในลักษณะอินทกะราชาบุตรจอมเทพ พลางนำแม่นางทั้งสามไป กราบท่านท้าวสักกะเทวราชผู้เป็นใหญ่ในดินแดนนี้แล้วขอพรท่าน ท่านก็อวยพรด้วยพระพักตร์ยิ้มแย้มแจ่มใส พลางตรัสขึ้นว่า “ต่อไปนี้คงหมดทุกข์โศกกันเสียทีนะ โน่นวิมานที่เจ้าสร้างรอ เจ้าอยู่ในอากาศโน่นแล้วไปเถอะหาความเกษมสำราญต่อไป” หลังจากกราบลาท่านผู้เป็นใหญ่แห่งชั้นดาวดึงส์แล้วต่าง ก็พากันไปนมัสการพระธาตุเขี้ยวแก้วและพระธาตุอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆกันแล้วจึงกลับวิมานของตน ต่างหยอกเย้ากันอย่าง สนุกสนานเพลิดเพลินลืมสิ่งต่างๆภายในโลกอันวุ่นวายเสีย หมดสิ้น วิมานนั้นอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมบุปผา นาๆพันธุ์ไม่มีวันเหี่ยวแห้งโรยลาไป เหมือนโลกมนุษย์ ตลอดจนบึงสระน้ำใหญ่ที่ลอยไปด้วยดอกไม้สวรรค์ หาความสำราญจากการร่ายรำของเทพอัปสรที่สวยสด งดงามตลอดการฟ้อนรำดนตรีบรรเลงเพลงสวรรค์ โดยอัปสร สวรรค์ทั้งหลายพากันร้องเล่นดนตรีที่แสนจะไพเราะ พร้อมทั้งฟ้อนรำต่างๆ มาขับ กล่อมไม่มีกลางวันและกลางคืนตลอดทุกทิวาราตรี ชั่วกาลนานตราบบุญและบารมีที่ได้สะสมสร้างไว้ชั่วนิรันดร์กาล. * แก้วประเสริฐ. * (คงจะได้พบกันใหม่อีกใน เรื่อง "แดนพิศวง" ซึ่งข้าพเจ้าได้ลงเกริ่นไว้ ตอนแรกแล้ว แต่จะนำมาลงซ้ำในตอนหนึ่งอีกเพื่อกันลืมครับท่าน)
7 กุมภาพันธ์ 2555 21:02 น. - comment id 128418
แม้ว่าดูรวบรัด แต่ก็วิ่งสู่ตอนจบไปอย่างไม่มีส่วนใดหายไปครับครู ดินแดนพิมานแบบนี้ คงจะมีเฉพาะคนที่สร้างบุญบารมีนะครับครูถึงจะไปอยู่ได้ จะรอติดตามเรื่องใหม่ครับครู
8 กุมภาพันธ์ 2555 16:57 น. - comment id 128429
คุณ กิ่งโศก หากจะเขียนต่ออีกก็ได้ แต่ชักเบื่อๆก็สรุป แต่ไม่ขาดหายเนื้อความส่วนใหญ่ต้องจบแบบ นี้แหละ ใช่แล้วอาศัยบุญและบารมีเท่านั้นถึงจะ ไปสู่วิมานในอากาศได้และเป็นหนึ่งที่จะครอบ ครองสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เรื่องต่อไปเขียน ไปแล้วหกตอน ว่าให้ตกหน้ากระดานไปก่อน แล้วจะนำ ตอนที่หนึ่ง กับตอนที่สอง ลงพร้อมๆ กันเพื่อกันลืมตอนที่หนึ่งที่ลงไว้นานแล้วจ้า รักศิษย์เรามากๆเสมอ แก้วประเสริฐ.
15 กุมภาพันธ์ 2555 15:28 น. - comment id 128476
มีเวลานิดหน่อยค่ะเลยแวะมาอ่านตอนจบพอดี ดูแลสุจภาพนะคะคุณแก้ว
21 กุมภาพันธ์ 2555 16:07 น. - comment id 128513
คุณ แจ้นเอง ครับขอบคุณมากครับคุณแจ้น ผมเองก็ พยายามเหมือนกัน แต่จะไปได้เท่าไหร่ไม่รู้ แล้วแต่บุัญและบารมีครับขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.