ตกลงกะเพื่อนเลิฟ ไปหาความหนาวกันดีฝ่า ภูทับเบิกห่างจากเมืองพิษณุโลกไม่ถึง 200 ก.ม. ว่าแล้วล้อหมุนวันที่ 11 ธ.ค. 54 หยุดสามวัน หากไม่ได้ไปไหน รู้สึกเหงา เศร้าทรวงในเหลือเกิน 10 โมงครึ่ง ขับรถไปรับเพื่อน ตอนแรกกะว่าจะไปกันสามสาว แต่อีกสาวหนึ่งโทรแคนเซิ่ลเนื่องจากอากาศหนาวมากขึ้นในเช้าที่จะเดินทาง เพื่อนบอกว่าเราอยู่พื้นราบยังรู้สึกหนาวขนาดนี้ หากไปภูทับเบิก มีหวังแข็งตายแน่ๆ ช่วงก่อนถึงอ.เขาค้อ เราแวะถ่ายรูปกันสองแห่ง ด้วยรูด12 เราแวะกันบ่อยแล้วก็ตกลงกันว่าแวะที่ De monte อยู่ในช่วงกำลังเร่งรีบสร้างให้เสร็จก่อนสิ้นปี สีส้มสว่างไสว เด๋วมีรูปให้ชมกันค่ะ และอีกแห่ง Coffee Hill ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่เลยทางเข้าอ.เขาค้อ เพิ่งย้ายมาปลูกใหม่สวยค่ะ แต่ก็กำลังอยู่ในช่วงก่อสร้าง คงจะเสร็จก่อนสิ้นปีเช่นกัน ถ่ายรูปกันพอจุใจ อิ่มหนำสำราญแล้วก็ขับรถมุ่งสู่ภูทับเบิก ทางขึ้นภูมีร้านขายอาหาร ขายของฝากเพียบค่ะ เราแวะทานขนมจีน พออิ่มท้องเป็นมื้อกลางวัน แล้วก็ค่อยๆไต่เขาขึ้นไปบนภู น่าจะประมาณ 20 กม. เวียนหัวค่ะ ด้วยน้ำตาลหวานเป็นคนเมารถ (แหะๆ ชอบเที่ยวแต่ไม่เก่งเรื่องแบบนี้) พอถึงภูทับเบิก ผู้คนมากมาย รถเพียบ ทางก็แคบ แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคด้วยเราขึ้นไปถึงประมาณบ่ายสามโมง ยังพอมีที่ว่างให้เราเลือกกางเต้นท์ ขับรถเข้าไปให้ใกล้สถานที่กางเต้นท์ให้มากที่สุด เมื่อสองปีที่ผ่านมา สามารถเอารถเข้าไปจอดหน้าเต้นท์ได้เลย แต่ไม่ใช่ช่วงวันหยุดยาวแบบนี้ค่ะ จองที่พักกางเต้นท์มีที่ให้นอนแน่นอนแล้ว ก็นี่เลย มุ่งสู่แปลงกล่ำปลี ก็อยู่ไม่ห่างจากที่พักค่ะเดินขึ้นนิดหน่อย สวยงามค่ะ เคยแต่ทานกล่ำปลี แขนงกล่ำปลี แต่ไม่เคยเห็นแปลงผักจริงสักที คราวนี้ถูกใจมาก รวมทั้งสวนดอกไม้ของชาวม้ง ไม่ทราบเรียกดอกอะไร แต่เพื่อนเรียกดอกกระดาษ เราสองคนลุยถ่ายรูปกันจุใจเหมือนเดิม แต่ ได้รูปคู่เพียงสามรูป ด้วยความอนุเคราะห์ของนักท่องเที่ยวด้วยกัน จากนั้นเราก็เดินดูของที่แผงร้านค้าที่เรียงรายมากมาย ใครไปเที่ยวภูทับเบิกไม่ต้องเตรียมอะไรไปค่ะ มีทุกอย่างที่ต้องการ เช่นถ่านไฟหุงข้าวพร้อมเตา หรือ ไก่ หมู ที่หมักไว้ สำหรับปิ้งย่าง เผือก มัน ซึ่งก็เหมาะสำหรับหมู่คณะหลายๆคนค่ะ หากไปกันสองคนอย่างน้ำตาลหวานก็ นี่เลย ข้าวเหนียวไก่ย่าง แต่ที่ชอบก็คือ มันปิ้งหอมหวลชวนรับประทานอย่างมาก ขอบอกรสชาดหวานหอมมากๆ ตามด้วยน้ำขิงร้อนๆ หรือกาแฟ ราคาไม่แพง 15-20 บาท อาหารตามสั่งมีทุกอย่าง ราคา ไม่เกิน 40 บาท มีแม้กระทั่ง คอหมูย่าง ข้าวต้ม โจ๊ก น้ำเต้าหู้ นมร้อนๆ ฯลฯ เราเข้าเต้นท์ตั้งแต่หกโมงเย็นกว่าๆ ด้วยอากาศหนาว นั่งเล่นไม่ไหว นอนคุยกันไปเรื่อยๆ ได้ยินเสียงคนดีดกีต้าร์ร้องรำทำเพลง คืนนั้นพระจันทร์สว่างส่องแสงเข้ามาภายในเต้นท์มองเห็นหน้ากันเลยค่ะ ประมาณสองทุ่มสะกิดเพื่อน เราหิวฟร่ะ เพื่อนก็บอกเราก็หิว ลุกไปหาอะไรทานกัน เพื่อนดื่มนมสดร้อนๆ น้ำตาลหวานข้าวต้มค่ะ อร่อยมาก ทานหมดถ้วยเลย แม่ค้าที่ขายมีประมาณ5-6 คน ก็ชวนคุย เขามาจากกทม.มาเที่ยวกันค่ะ ช่วยเพื่อนขายของ สัปดาห์ที่แล้วก็มาไม่หนาวขนาดนี้ ตอนสองทุ่ม ประมาณ 7 องศา ค่ะ เสียงลมพัดจนเต้นท์ไหวยวบๆ น้ำค้างเปาะแปะ มองไปที่ผ้าใบมีน้ำค้างเกาะเลยค่ะ ตีห้ากว่าๆเต้นท์ข้างๆตื่น พูดคุยเสียงดังตลอด บ่นเต้นท์อื่นๆที่ยังไม่ลุก ยังไม่ตื่นว่า มานอนกันทำไม ทำไมไม่ลุกมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอกก็สวย ก็จริงของเขาอ่ะนะ อยู่บ้านก็ได้นอน มากันทำไมเนี่ย ....อิอิ ลุกจากเต้นท์ตอนเกือบเจ็ดโมงด้วยแสงแดดจ้า เสียงคนเดินมาดูทะเลหมอกแถวๆเต้นท์ มากมาย ด้วยเป็นจุดชมทะเลหมอก พอโผล่หน้าออกจากเต้นท์ โอ้โฮ....ทะเลหมอกสวยม๊ากกกกกก รีบตะลีตะเหลือกล้างหน้าแปรงฟันทันที กลัวถ่ายรูปไม่ทัน ไม่กล้าปลุกเพื่อนเพราะเห็นเพิ่งจะหลับ เพื่อนต้องขับรถขากลับด้วย แต่ เพื่อนคงได้ยินเสียงพูดคุย ตะโกนถามว่ามีทะเลหมอกไหม รีบตอบเพื่อนทันทีทันใด มีๆๆ สวยมากๆๆ รีบลุกเลย เพื่อนกระโดดออกจากเต้นท์ล้างหน้าแปรงฟัน ไม่มีเวลาแม้แต่หวีผม คว้ากล้องออกมาถ่ายรูปทันที ถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอ เข้ามาเก็บของที่พอเก็บได้ไปไว้ในรถ แล้วเดินออกไปหาอาหารทาน เพื่อนขอทานข้าวต้ม น้ำตาลหวานทานข้าวผัดกระเพาแขนงกล่ำปลี อร่อยค่ะ จานละ 40 บาท เสียงนักท่องเที่ยวพูดว่าเมื่อคืน 3 องศา บรื๋อๆๆๆ สวดยอด จากนั้นเดินหาซื้อของกลับบ้าน ได้กล่ำปลีสองถุงใหญ่ 2 ถุงๆละ 45 บาท แขนงกล่ำ 2 ถุง 70 บาท แค่แปดโมงเช้าก็แดดร้อนแล้วค่ะ ไม่สามารถอยู่ในเต้นท์ได้ แต่อากาศก็ยังหนาวอยู่ คงเพราะเราอยู่สูงใกล้ดวงอาทิตย์ค่ะ เราขับรถกลับลงมาทางเดิม ช่วงขาลงหมอกข้างทางยังหนาอยู่ค่ะ สวยมากๆ เราแวะซื้อผักกันที่เขาค้อกันอีก เพียบค่ะ หากใครไปเขาค้อจะไม่ผิดหวัง มีผักสด ผลไม้สด ลูกพลับช่วงนี้น่าทานมากๆ แอ๊ปเปิ๊ลลูกเล็กน่ารับประทาน ยอดฟักแม้ว สดน่าทาน ฯลฯ รถของเราอุดมไปด้วยผักนานาชนิดที่ระดมซื้อมาเป็นของฝาก ถึงพิษณุโลก 12.00 น. ด้วยความปลอดภัย จบทริปภูทับเบิก ผู้หญิงอยากเล่า เรื่องสั้นที่ไม่สั้น "น้ำตาลหวาน"
De monte
De monte
Coffee Hill
Coffee Hill
มันคือกล่ำปลี กล่ำปลี และกล่ำปลี อิอิ
เพื่อนเรียกดอกกระดาษแต่จริงแล้วเขาเรียกดอกอะไรค่ะ
ร้านค้าเรียงราย
ทะเลหมอกสวยงามตระการตา
แอบถ่ายด้านหลังสาวสตอเบอรี่หมวกแดง
สาวสวยกับทะเลหมอก
ขากลับหมอกหนาตอนเก้าโมงเช้า
13 ธันวาคม 2554 12:15 น. - comment id 127877
น่าร๊ากกกก...อ่ะ หุหุ
13 ธันวาคม 2554 14:21 น. - comment id 127879
รักสาวผมม้า
13 ธันวาคม 2554 14:26 น. - comment id 127880
เข้าหน้านาวแล้ว การได้ไปเที่ยว รับลมเย็นๆ ก็เหมือนเติมเต็มความมสุขให้ชีวิตอีกแบบนะคะ ขอบคุณภาพสวยๆ พร้อมนางแบบที่นำมาแบ่งปันกันค่ะ
13 ธันวาคม 2554 15:02 น. - comment id 127881
มองทางไหนว่างเปล่าขาดสาวศรี เห็นจะมีสองคน ที่ล้นกล้อง ภูทับเบิกหนุ่มเหน้าคงเฝ้ามอง เห็นยิ้มย่องแอ๊คท่าจนหน้าบาน อิอิ นี่ถ้าไม่แสดงหลักฐานละก็ต้องฟันธงว่าไปกับหนุ่ม
13 ธันวาคม 2554 15:11 น. - comment id 127882
ว้าว....พี่พิม... แค่เห็นก็สัมผัสกลิ่นอายของความหนาวได้แล้วค่ะพี่ ดูข่าวตอนเช้ายอดดอยมีแม่คะนิ้ง ฝนชอบดูหยดน้ำเกาะยอดหญ้า ดูแล้วสดชื่นอย่างน่าประหลาดเลยพี่ ดูไกลๆจะเห็นเงาสะท้อนของหยดน้ำกับแดดอ่อนๆยามเช้าวิบวับๆ สวยมากเลย แต่ฝนไม่เคยขึ้นภู ใดๆเลยค่ะพี่ น่าสนุกจังเนาะ ปล.พ่พิมหุ่นปราดเปรียวจัง แบ่งฟามสูงมาให้ฝนสักห้าเซ็นจิคะ
13 ธันวาคม 2554 19:19 น. - comment id 127883
นางแบบสวยน่ารัก ธรรมชาติงาม อยากไปค่ะ
13 ธันวาคม 2554 19:49 น. - comment id 127884
อยากไปด้วยอ่ะ แงๆๆๆๆ ไปไม่ชวนเลยนะคะงอนข้ามปี อิอิ สาวสวยหุ่นดีจิงๆ เหงแล้วอิจฉามากๆค่ะ น่ารักมากๆค่ะ และอยากไปสัมผัสฟามหนาว ไปทะเลหมอกอีกสักครั้ง
13 ธันวาคม 2554 19:50 น. - comment id 127885
เหง De monte ทีแรกคิดว่าเปง พาลิโอ ที่เขาใหญ่ซะอีกค่ะ
13 ธันวาคม 2554 19:51 น. - comment id 127886
เอ่อ พี่พิมคนไหนคะ ใส่เสื้อสีอะไรอ่ะคะ
13 ธันวาคม 2554 19:51 น. - comment id 127887
10
13 ธันวาคม 2554 20:34 น. - comment id 127892
^ ^ ^ ทำเนียนๆ...ทำงอนๆถามนู้นถามนี่ อิอิ อาคุงเฌอ... ดีจร้า...อาคุงพิม... ภูทับเบิก...เป็นครั้งแรก...ที่สถานการณ์บังคับให้ต้อง กางเต็นท์ เอียงเกือบสามสิบองศา... นอนๆอยู่ คนในเต็นท์ก็กลิ้งไปกองรวมกัน ทั้ง...เพราะองศา กะ หนาวซะ... รู้อย่างเดียว...ภูเขาอาราย...ไมชื่อภูทับเบิก... ไม ไม่ตั้งชื่อ หุบเขากาหล่ำปลี ง่ะ มีแต่กระหล่ำๆๆ แระก็ กระหล่ำ อิอิ คราวหน้า ชวนไปภู ไปกางเต็นท์อีก ไปกันนะ... ไปกางเต็นท์ที่ภูเขาทอง ชวนไปหลายๆคน
14 ธันวาคม 2554 09:25 น. - comment id 127903
พี่รัตน์ รักคนดี บังเอิญจังเข้ามาเป็นคนแรก หายหน้าจากบ้านกลอนไปนานโขนะค่ะคุณพี่ขรา
14 ธันวาคม 2554 09:26 น. - comment id 127904
คุงแบมขรา...รักสาวผมม้าก็ให้แม่มาขอได้นะค่ะว่างอยู่ อิ ยิ่งหนาวยิ่งอยากเที่ยวค่ะคุณแบม ขอบคุณนะค่ะ
14 ธันวาคม 2554 09:29 น. - comment id 127905
คุงฤกษ์ แหม...ปากนะนั่นท่านคุณพี่ หาว่าสาวศรีหน้าบานเบ้อเร่อ ถึงหน้าบานก็บานจากใจนะเออ ยิ้มเพราะสุขล้นเอ่อ เพราะเพื่อนเกลอ เที่ยวด้วยกัน แสดงหลักฐานชัดเจนค่ะ ไม่คลุมเครือ เหมือนใครบางคน
14 ธันวาคม 2554 09:35 น. - comment id 127906
น้องฝน...ก่อนไปเที่ยวก็รายงานน้องฝนเรียบร้อย อิอิ พี่พิมไม่ทราบว่ามีแม่คะนิ้งหรือเปล่า เพราะตื่นไม่ทันน้ำค้าง พี่ก็ชอบเหมือนน้องฝนอ่ะค่ะ เงาสะท้อนน้ำค้างสวยงาม มองแล้วชื่นฉ่ำใจ พี่พิมได้เที่ยวหลายภูถือว่าโชคดี และก้อไปซ้ำๆด้วยนะ แหะๆ ฟามสูงของพี่พิมไม่เท่าไหร่ แต่ที่เห็นน่ะ รองเท้า 2.5 นิ้ว อ่ะค่ะสาวน้อย ถ้าแบ่งได้จะ แบ่งให้น้องคนแรกเล๊ย
14 ธันวาคม 2554 09:36 น. - comment id 127907
พี่อนงค์นาง ขอบคุณสำหรับคำชมนะค่ะ ธรรมชาติแบบนี้แหละค่ะที่พิมชอบ
14 ธันวาคม 2554 09:38 น. - comment id 127908
น้องเฌอขรา....พี่พิมก็อยากจะชวนจัง เอาเป็งว่า อยากมาเที่ยวแถวนี้(พิโลก) บอกพี่พิมนะค่ะ ขออีเมล์ที่น้องฝนน้องวาได้คร๊า เด๋วพี่พิมจัดให้ด้วยฟามเต็มใจ แหะๆ มะรู้ว่าพี่พิมคนไหนจริงอ่ะ เอาเป็งว่า คนที่คิดว่าใช่ก็ต้องใช่ ต้องใช่แน่ๆ
14 ธันวาคม 2554 09:44 น. - comment id 127909
คุงกีร์ พูดซะเห็นภาพเลย จริงค่ะ นอนใน เต้นท์แบบเองเล็กน้อยถึงปานกลาง รุ่งเช้า พิมปวดกระดูกระเดี้ยวไปหมด (อย่าบอกให้ ใครรู้นะ เด๋วเขาหาว่าพิมแกร่ ) มังหนาวสุดๆ สุดที่จะบรรยาย น้ำมูกไหลย้อยเลยอ่ะ ชอบๆๆ ไม่รู้เป็งไร ชอบฟามหนาว สั่นงั๊กๆๆ ก็ยังไม่เข็ด ช่วงพิมไปกล่ำปลีเหลือน้อยแล้วค่ะ มีเพียง สองแปลง คิดว่าก่อนสิ้นปีคงไม่มีเหลือให้นัก ท่องเที่ยวได้เห็น แต่ ทะเลหมอกและความ หนาวนี่แหละที่นักท่องเที่ยวอยากได้สัมผัสใกล้ชิด ตัวใครตัวมังละนะ ไปกางเต้นท์ที่ภูเขาทองมะไหร่ เออ..มะต้อง ชวนพิมนะคร๊า ขอบาย เพราะคาดว่าคงไม่ หนาวและไม่มีทะเลหมอกในตอนเช้า
14 ธันวาคม 2554 21:21 น. - comment id 127919
ฝนเล่าให้อ้อยฟังอ่ะ อ้อย มังก็เล่าวีรกรรมสมัยสาวๆ เจ๊ย สมัยวัยสะรุ่นให้ฟังค่ะพี่ ขานั้นก็ขาชี้ฟ้า เจ๊ย ขาขึ้นภูดูหมอกขาวเลยค่ะ เห็นเล่าว่าไปตั้งแต่ ภูทับเบิก ไม่มีอะไรเลย ยังไม่ได้รับการพัฒนาอ่ะค่ะ แสดงว่าไอ่อ้อยมังรุ่นดึก เจ๊ย รุ่นบุกเบิกจริงเนาะพี่ นินๆๆๆๆ .............. พี่พิมสุดยอดเลยอ่ะ เพื่อนพี่พิมด้วย หน้าตามีความสุขกันจัง หนาวๆแบบนั้นได้นั่งรอบกองไฟกันเปล่าคะพี่...น่าสนุกจัง...
14 ธันวาคม 2554 21:21 น. - comment id 127920
๒๐ จำใจๆ
15 ธันวาคม 2554 09:03 น. - comment id 127927
น้องฝน คุงอ้อยคงไปช่วงยังไม่พีคเหมือนตอนนี้ แหมะอิจฉาอ่ะ ได้รับบรรยากาศเดิมๆไปแบบเต็มๆ ก่อนนี้ รถเล็กเขาว่ากันว่าขึ้นไม่ได้อ่ะแล้วก็ มีแต่ กล่ำแระก้อกล่ำๆๆๆ อย่างที่คุณกีร์บอก เพื่อนพี่พิมคนนี้เป็นเพื่อนรักเลยค่ะน้องฝน หากน้องฝนได้คุยได้ไปเที่ยวด้วยจะหลงรัก ความเป็นคนจิตใจดีของเขาค่ะ อันนี้ก็นินๆๆๆ อิอิ ไม่ได้รอบกองไฟอ่ะ มัวแต่มุดอยู่ในเต้นท์ มังหนาวสวดยอด ปล.ตกลง คุงอ้อยรุ่นไหนหว่า นึกว่าพอๆกะพี่พิม อิ
15 ธันวาคม 2554 14:57 น. - comment id 127929
น่าสนุกจังค่ะ พี่พิมสูงปราดเปรียวจัง แบ่งความสูงให้น้องมั่งค่ะ อิอิ
15 ธันวาคม 2554 15:26 น. - comment id 127930
น้องมะกรูดจ๋า...ที่เห็นสูงยาวขนาดนั้นน่ะ รองเท้า 2.5 นิ้วอ่ะค่ะ มังเป็งภาพลวงตา อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น แหะๆบางทีรูปมังก็เกินจริงเนอะ
16 ธันวาคม 2554 15:08 น. - comment id 127937
น่าไปมากอะ คุณพิม ได้ข่าวแถวบ้านป่กิ่ง แม่คะนิ้งลงอะ ภูหินร่องกล้า
16 ธันวาคม 2554 15:44 น. - comment id 127939
^ ^ ^ ใช่เลยปู่กิ่ง บ้านเราก็มีแม่คะนิ้งแระ ไม่ต้องไปถึงเชียงรายเชียงใหม่กันนะเรา
16 ธันวาคม 2554 21:21 น. - comment id 127941
อยากไปๆค่ะ วันหน้าจะดึงหูเฮียกะดึงหาง2ลิงไปด้วยฅ่ะพี่พิม
17 ธันวาคม 2554 15:09 น. - comment id 127945
อุ้ยตายว้ายกรี๊ด นึกว่าอยู่ประเทศนอกซะอีก