ในขณะที่เขียนเหมือนบ่นนี้ ที่บ้านของบางใครในจังหวัดปทุมธานี อาจจะมีปริมาณน้ำอยู่ประมาณ 2 ม.จากระดับพื้น และในระดับถนนสายหลัก คงประมาณ 50 ซม. - 1 ม.โดยค่าเฉลี่ย ได้เห็นข่าว ที่มีผู้เดือดร้อน และรวมไปถึงได้เห็นสถานที่ไม่เป็นข่าว หลาย ๆ พื้นที่น้ำเริ่มลงและ หลาย ๆ พื้นที่ ความเสียหายยังมีอยู่ การช่วยเหลือ เยียวยาและมิสิ่งบรรเทาทุกข์มีมากมาย ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และ คนผู้มีน้ำใจดี ใจบุญ โดยเฉพาะอย่าง หน่วยงานที่เป็น "จิตอาสา" ได้เห็นข่าวครึกโครม และ ออกทั้งวันทั้งคืน ว่า ... กทม.น้ำท่วมเท่านั้น เท่านี้ 10 ซ. 20 ซ. 50 ซ. ตามถนนหนทาง ชาวกทม.ไม่เคยเจอแบบนี้ เลยเป็นเรื่องใหญ่โต และ สรรหาทุกวิถีทางที่จะป้องกันน้ำ ไม่ให้ท่วม จนบางที ดูเหมือนว่าช่วยตนเองไม่ได้ ต้องคอยความช่วยเหลือจากสังคม และ ผู้ใจบุญ ทว่า .. คนที่หมดตัว หมดจริง ๆ แค่สงสัยใจ หากน้ำท่วม กทม. สัก 1 - 2 ม. ขึ้นไป อะไรจะเกิดขึ้น ? หากชาว กทม.ประสบชะตากรรมแบบชาวบ้านนอกที่น้ำท่วมหลังคา สิ้นเนื้อประดาตัว อะไรจะเกิดขึ้น ? หาก ชาว กทม. มองย้อนกลับไปเมื่อ 1 ปีที่แล้ว 10 ปีที่แล้ว และ หลาย ๆ ปีที่แล้วมา ที่มีผู้แบกรับความเดือดร้อนแทนชาว กทม. ในการเป็นที่รับน้ำ น้ำท่วมแทน กทม. เขาเดือดร้อนมาทุกปี หมดเนื้อหมดตัวมาทุกปี แต่ชาว กทม. เพิ่งเจอ ปีนี้ปีเดียว ย้ำ!! เจอน้ำท่วมแบบนี้ 2554 ปีเดียว นับตั้งแต่ อดีต เป็นต้นมา หวังว่า ชาวกทม.และ สื่อมวลชน จะไม่ขายแต่ข่าว กทม.น้ำท่วม จะไม่ออกแต่ข่าว ชาว กทม.เดือดร้อน ฝ่ายเดียว ตลอด 24 ชั่วโมง คนไทยจะรักกันมากขึ้น เมื่อใครก็ตามประสบภัยพิบัติ ชาว กทม.จะเห็นใจชาวชนบทมากขึ้น เพราะรู้ว่า ... ความเดือดร้อนเป็นอย่างไร เมื่อน้ำท่วม เกิดขึ้นแก่ตนเอง 2554 กทม.ท่วม ไม่เกิน 50 ซ. โดยค่าเฉลี่ยทั้งพื้นที่ คนดีในสังคม ยังมีเยอะแยะจริง ในวิกฤติแบบนี้ ยังเห็นโอกาสที่ทำให้คนไทยเห็นใจกันมากขึ้น ช่วยเหลือกันมากขึ้น และห่วงหาอาทรกันมากขึ้น
16 พฤศจิกายน 2554 09:04 น. - comment id 127423
16 พฤศจิกายน 2554 09:20 น. - comment id 127425
ญาติพี่น้องดอกบัวอยู่หมู่บ้านเศรฐกิจ 10 กว่าครอบครัว นะปัจจุบันอพยพไปอยู่บ้านญาติที่ราชบุรี บางหลังสองชั้นก็ค่อยดีหน่อยขนของไปไว้ชั้นสองสอง ยังเหลือของไว้ใช้บ้างตอนน้ำลด บ้างหลัง บ้านชั้นเดียว กลับมาก็คงเริ่มต้นจากศูนย์ ยังดีที่รับราชการกัน ในพื้นที่ ต่าง จ.ว ก็ระทม ในพื้นที่ กทม. ก็ทุกข์ตรม สถานีข่าวก็ท่วมท้นสถานที่ราชการก็ไม่เหลือ นี้กระมังที่เขาพยายามเหลือพื้นที่ใน กทม. ไว้ช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย แต่เมื่อ กทม.ก็ประสบอุทกภัยไม่ยิ่งหย่อนจากต่าง จ.ว ข่าวทุกช่องก็เลยเปลี่ยนทิศ มันคงเป็นวาทะ แน่นอนจากความไม่แน่นอน จากเพื่อนร่วมงานที่มีเวลาไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยยามว่าง ก็มาเป็นผู้ประสบภัยเสียเอง ภัยธรรมชาติที่ไม่อาจหยุดยั่งได้ สบายดีนะค่ะคุณอัลมิตรา
16 พฤศจิกายน 2554 09:24 น. - comment id 127426
เป็นห่วงมาหลายวันแล้วค่ะ ว่าหายไปไหน เห็นด้วยกับคุณอิมค่ะ เมื่อคืนดูรายการคนค้นคน เห็นชุมชนที่ร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหา ซึ่งคงดีกว่าการนั่งตัดพ้อรอความช่วยเหลือ อย่างเดียวค่ะ รักษาสุขภาพกายและใจ ให้ปล่อยวางค่ะ แล้วทุกข์ ทุกปัญหาก็จักผ่านพ้น
16 พฤศจิกายน 2554 09:34 น. - comment id 127427
ต๊ะเอ๋....ดีจร้า คุงอิม... หายไปนาน....มากกกก....แม่คุงจิตอาสา... เหนื่อยมะ.....หิวมะ....ร้อนมะ..... ไปลุยน้ำมา..ป่าว....รักษาสุขภาพผิวด้วยเด้อ... ว่าไป....หลายๆวิกฤต...ที่ไทยประสบ... ผ่านไปจนแล้วจนเล่า... ไทยก็ไม่เคยเก็บโอกาส...ได้สักครั้ง... จะเห็นก็แต่เพียง...สิ่งเล็กๆที่อยู่ในตัวตนของคน....ที่เติบโตขึ้น... ไม่ว่าจะเป็น...ความเอื้ออารี...ความเห็นแก่ตัว...ความเมตตา... ความถือมั่นในทิฐิ...ความมีมิตรภาพ... และแม้กระทั่งความชิน... ต่อให้...คนตาย คนเกิด จะกี่เปอร์เซนต์... ก็ไม่มีผลพอที่จะเปลี่ยนแปลง...ประเทศเราได้... เราก็ไม่เคยคว้าโอกาสนั้น...หรือว่าถ้าคว้าไว้...ก็ไร้ผล...เพราะ...มันก็จะเป็นเพียง สายลมที่พัดผ่าน.... บางเรา...กำลังปรับตัวขยับตัว...ลุกขึ้น...และชักชวนให้คนอื่นๆ ลุกขึ้นด้วย... การลุกขึ้นทำภาระกิจ จิตอาสา...และ/หรือ ภารกิจอื่น ความเข้าใจอื่นๆ ของบางเรา...หลายๆท่าน...แม้จะต้องกลายเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่าน... แต่สิ่งที่ได้รับในชั่วขณะนั้น...กลับยิ่งใหญ่...อาจจะเรียกได้ว่า...ที่สุดในชีวิต... ดีใจ...ที่คุงอิม มีกายเป็นหญิง แต่มีเนื้อใจเป็นเหล็กกล้า.... พระคุ้มครอง...ทุกๆกรณี ทุกครั้ง และทุกคราวไป...เด้อ นางเด้อ...อิอิ
16 พฤศจิกายน 2554 09:47 น. - comment id 127428
16 พฤศจิกายน 2554 09:54 น. - comment id 127429
หวัดดีคุณอิม เห้ฯภาพในเฟสแล้ว ชื่นชม ความมีจิตอาสาครับ อันไหนเราที่พอมีแรง มีกำลังกาย และทรัพย์ คือ เจือจาน เผื่อแผ่ บรรเทา ในทุกข์ ญาติผู้น้องกิ่งโศก อยู่นนท์ โรงงาน จมน้ำ เครื่องจักรยังแช่น้ำ บ้านก็น้ำก็ยังขัง.. ได้แต่โทรไปสอบถาม มีอะไรให้ช่วยบ้างอย่างไร ก็ช่วยๆ กัน แม้นเขตที่กิ่งโศก อาศัย อยู่ผู้ว่าบอกว่า รอด แต่ก็ไม่วางใจ .. ตอนนี้ น้ำใจ เท่านั้นครับที่พึงมีต่อกัน ..ขออภัยที่กระทู้ของกิ่งโศก อาจก่อให้เกิดความวุ่นวาย แต่ อิอิ ก็ขอมีสักนิ๊ดนึง
16 พฤศจิกายน 2554 10:30 น. - comment id 127430
หนึ่งเสียงที่เห็นด้วยกะเรื่องสั้นเรื่องนี้ค่ะ
16 พฤศจิกายน 2554 11:01 น. - comment id 127432
16 พฤศจิกายน 2554 14:42 น. - comment id 127433
เอาตัวเราเองเป็นตัวอย่างเลยน่ะ แต่ก่อนเราไม่ค่อยรู้ว่าความทุกข์จากน้ำท่วมเป็นอย่างไร แค่ดูจากในทีวี ว่าที่โน่น ที่นี่ท่วม ก็ช่วยเหลือไปตามกำลังที่มี พอเกิดกับตัวเองถึงได้รู้ว่า ข้าวของที่ไม่เคยมองว่ามันมีค่า แต่พอเห็นมันลอยไป จนคนเขาเก็บได้ เช่น ขอนไม้ (ที่เคยเอาไว้ดัดตะปู นั่งเล่นบ้าน จิปาถะ) เรากลับนึกเสียดายอย่างมากมาย โต๊ะ ตู้ ฯลฯ หลายอย่างที่ไม่ได้เก็บเพราะหมดแรงและอ่อนล้าจากการเก็บของใหญ่ๆ เช่น ตู้เย็น ทีวี ตู้เสื้อผ้า ฯลฯ ก็ต้องปล่อยไปตอนนั้นน้ำก็ยังไม่ท่วมมิดรั้วคิดว่ายังไงก็คงอยู่ในรั้วล่ะ ต้นไม้ทั้งไม้ยืนต้น และพืฃผักสวนครัวที่เพิ่งเริ่มหัดเพาะ อาทิ พริก ชะอม บวบ แตงกวา แฟง ฯลฯ ก็จมน้ำตายหมดอดกินของฟรีไม่มีสารพิษเลย อิอิ แม้แต่สัตว์เลี้ยงก็ต้องมาอยู่อาศัยบนหลังคา ทุกชีวิตได้รับผลกระทบไปหมด..ที่เคยวิ่งเล่นกันในสวนก็ต้องมานอนหอนกันบนหลังคานี่แหละ มีวันหนึ่ง เราไม่คิดหวงหรือห่วง อะไรเลย นอกจากชีวิตของคนในครอบครัว ไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ทุกคนรอดจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ไปให้ได้ แค่นั้นเองจริงๆ สถานการณ์น้ำสำหรับบ้านเราที่ลพบุรีน้ำก็ท่วมมานานเกือบสองเดือนแล้วขาดอีกแค่ 7 วันเท่านั้น ตอนนี้น้ำก็ลดลงแล้วพอทำความสะอาดบ้านได้ขัดข้างฝาบ้านที่เหลืออยู่เพราะผนังบางส่วนได้ถูกคลื่นน้ำกัดเซาะจนพังลงไปหลายแถบอยู่ ระดับน้ำวันนี้เฉลี่ยเหลือแค่เอวแล้ว คิดว่าอีกไม่กี่วันก็คงจะได้เก็บกวาดครั้งใหญ่สักทีหนึ่ง หลวงท่านก็ให้มาแล้วห้าพัน ไปซื้อแปรงลวดมาสองอัน 100 บาท คงเหลือ 4,900 บาท ยังไม่หักค่าแรง ชะอุ๊ย.. สำหรับคนกรุงเทพฯ เราก็หวังว่าทุกคนจะผ่านมันไปได้ทุกคน... แต่ก็ยังหวั่นใจ เห็นหลายเสียงบอกว่าปีหน้าน้ำจะท่วมหนักกว่านี้ ฟังแล้วท้อแท้..แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่กรุงเทพฯ อาจจะสร้างคันกั้นน้ำแบบถาวร (อันนี้คิดเองจากสมองน้อยๆ ) ถ้าเป็นอย่างนั้นบ้านนอกอย่างเราคงแย่เหมือนกันน่ะ
16 พฤศจิกายน 2554 14:51 น. - comment id 127434
ขอบคุณจริงๆเจ้าค่ะ ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับว่าเจ้าของกระทู้เข้ามาอ่านใจของIdc? เลยเจ้าค่ะ.... Idc ? ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่มีความคิดไม่ต่างไปจากคุณอัลมิตรา.... กด Like ด้วยรักและห่วงใยเจ้าค่ะ....
16 พฤศจิกายน 2554 16:31 น. - comment id 127435
............ เมื่อปี 2526 ผู้ว่ากทม.คนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ ป้องกันกรุงเทพฯชั้นใน ด้วยการเอาน้ำมาปล่อยที่ชานเมือง ไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า ให้ยกของขึ้นที่สูง ที่บ้านน้ำท่วมชั้นล่างทั้งชั้น ข้าวของเสียหาย จมน้ำ ไม่รู้จะไปเรียกร้องจากใคร แม้แต่ผู้ว่าคนต้นคิดก็ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบ หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้คนใช้เรือหางยาววิ่ง ตอนนั้นไม่มีหรอกถุงยังชีพ ไม่มีจิตอาสา มีก็แต่รถทหารคอยเวียนเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน เท่านั้นจริงๆ เจอน้ำท่วมใหญ่อีกครั้งเมื่อปี 2538 น้ำท่วมถึงกรุงเทพฯชั้นใน แต่แถวบ้านโดนไม่หนักเท่าปี 2526 ยังดีที่ไม่มีใครคิดเอาน้ำมาปล่อยชานเมืองอีก เพราะชานเมืองในอดีต บัดนี้กลายเป็นเมืองไปแล้ว มันผิดตั้งแต่การบริหารน้ำในช่วงแรกแล้ว การทุ่มเทเฝ้าระวังแต่นิคมอุตสาหกรรม โดยไม่มองดูเลยว่าพื้นที่ข้างเคียงของชาวบ้านเต็มไปด้วยน้ำ จนนิคมอุตสาหกรรมจมน้ำไปแล้วไม่รู้กี่นิคม ก็ยังไม่คิดที่จะเปลี่ยนวิธีการบริหารน้ำ แม้แต่ในกทม.เอง เมื่อน้ำท่วมหนักๆในต่างจังหวัด ก็ไม่ได้คิดจะขุดลอกคูคลองเตรียมรับน้ำ พอน้ำมา ผันน้ำไปไม่ได้ เพิ่งจะมานึกเก็บขยะและผักตบ ขณะที่น้ำเต็มไปทั่วทุกหัวระแหง อ่านพบในหนังสือพิมพ์ ในหลวงทั้งรับสั่งว่าอย่าไปกักน้ำ ให้น้ำท่วมให้หมดทั้งกทม. แม้แต่วังท่าน ท่านก็ไม่ให้กั้น ประชาชนจะได้เฉลี่ยความเดือดร้อนไปในระดับที่พอรับกันได้ คิดไปตามประสาว่า หากทำตามอย่างรับสั่งของในหลวงก็ได้ ยกเว้นวังท่าน ยังไงก็ต้องป้องกัน และถ้าทำอย่างนั้น น้ำจะท่วมกินบริเวณกว้างก็จริง แต่คงจะแห้งในเวลาอันรวดเร็ว รัฐก็คงไม่ต้องตั้งศูนย์อพยพ บ้านเมืองคงไม่ยับเยินขนาดนี้ แต่ทำไมรับสั่งของพระองค์ท่านจึงถูกเพิกเฉยจากรัฐบาลชุดนี้ก็ไม่ทราบ คุณแบมเคยส่งข่าวว่าคุณอิมไปเป็นจิตอาสา ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย ขอให้บุญกุศลนี้ส่งผลให้สุขภาพแข็งแรงนะจ๊ะ ........................
16 พฤศจิกายน 2554 19:39 น. - comment id 127438
นับว่าโชคดีที่รอดพ้นจากการผ่าตัดครั้งที่ 2 อย่างหวุดหวิด ทำให้สามารถจัดการงาน"เติมสีแต้มฝัน แบ่งปันน้ำใจ" ได้จนสำเร็จลุล่วง และถึงแม้ว่าจะไม่มีเวลามากพอที่จะคัดสรรรูปและประมวลเรื่องราวลงในเวป เนื่องจากติดภาระกิจจิตอาสาช่วยเหลือผู้ประสพภัยน้ำท่วม โดยส่วนหนึ่งมาจากหัวใจอาสาเองและอีกส่วนหนึ่งได้รับมอบหมายจากผู้บริหาร สรุปว่า สรุปและประมวลภาพโครงการเพื่อนพ้องน้องพี่ อัลมิตราขอติดยาว ๆ ไว้ก่อน ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม จนถึงทุกวันนี้ .. หน้าที่และความรับผิดชอบในงานถูกเปลี่ยนแปลงไป โดยเงื่อนไขของภาระกิจนี้ ในแต่ละวัน ซึ่งจะต้องออกพื้นที่ นั่นหมายถึงการที่พาตัวเองเข้าไปหา "น้ำ" ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ที่ได้พบเห็นในแต่ละพื้นที่ สิ่งที่เหมือนกันคือ "น้ำท่วม" ทว่าสิ่งที่แตกต่างกันคือ การปรับตัวของผู้คนในแต่ละพื้นที่ บ้างก็คล้าย บ้างก็แตกต่างสิ้นเชิง อีกทั้งภาพที่สลดหดหู่จนทำให้ทั้งคืนนอนไม่หลับและต้องพกความรู้สึกเศร้าข้ามวัน .. มันก็มีนะ เชื่อว่าหลายคนคงได้เห็นผ่านสื่อทีวี ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ และบางคนอาจจะเป็นผู้ประสพภัยเอง แทบจะซึมซับรับรู้เหตุการณ์ผ่านทุกรูขุมขนได้ .. ว่างั้นเถอะ นี่ก็เพิ่งจะกลับมาจากการปฏิบัติภาระกิจแถว ๆ บางพูน ปทุมธานี (แฟลตปลาทอง) อาศัยช่วงเวลาตากผมให้แห้งมาบ่นนิดหน่อย อีกสักครู่คงจะต้องพาตัวเองไปนอน นึกถึงตัวเองแล้วก็ให้เกิดความรู้สึกเหมือนแปลกหน้า หน้าก็ดำ แขนขาดำปึ๊ด เกือบจำตัวเองไม่ได้ ....................................
16 พฤศจิกายน 2554 20:02 น. - comment id 127439
คุณ กทก.. (อัลมิตราจะรู้ไหมเนี่ยว่าผู้ใด๋) คุณดอกบัว .. หมู่บ้านเศรษฐกิจ ถนนเพชรเกษม ไปสองครั้งแล้วค่ะ น่าจะเป็นวันจันทร์ และวันศุกร์ ในสัปดาห์ที่แล้วนะคะ และในส่วนของถนนเพชรเกษมก็ถือว่าหลายครั้งทีเดียว จันทร์ที่ผ่านมาก็ ซอย 110-112 ชุมชนที่นั่นก็ลำบากกันพอดูค่ะ น้ำถึงอก ส่วนอัลมิตราสบายดี เพื่อน ๆ ก็คอยเฝ้าระวังไม่ให้แบกยกอะไรมากมายค่ะ คุณพุดพัดชา .. อัลมิตราได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภาระกิจจิตอาสาช่วยเหลือผู้ประสพภัยน้ำท่วมค่ะ ก็เลยไม่ค่อยมีเวลามาที่เวปสักเท่าไหร่ บ่อยครั้งที่กลับถึงบ้าน 4 - 5 ทุ่ม และรุ่งขึ้นก็ต้องเตรียมไปอีก เพื่อน ๆ อีกหลายคนในกลุ่มต่างก็ร่วมมือร่วมใจช่วยกันค่ะ อัลมิตราโชคดีที่มีเพื่อนที่ดี และมีผู้บริหารที่สนับสนุน ถึงแม้ว่าตอนนี้ เพื่อนหลายคนในกลุ่มจะกลายเป็นผู้ประสพภัยเสียเอง แต่ทุกคนก็ยังมีหัวใจอาสาค่ะ คุณกีรติ .. อัลมิตรานั่งเปรียบเทียบสีผิวของตัวเอง แค่หลังมือกับแขน มันก็แทบจะเป็นคนละคนแล้ว หลังมือเหี่ยว ๆ ดำ ๆ ดูเหมือนมือของลิงกังชอบกล ตรงเหนือเข่าก็คล้ำแดงเกรียมแสบ ๆ ร้อน ๆ เนี่ย ยิ่งเท้า เห็นแล้วอยากจะขำก๊าก รอยรองเท้ารัดสั้น มันทำให้ดูเหมือนว่าเป็นเท้าของม้าลายเลย 555 เออใช่ .. มาลุ้นกันอีกทีนะ วันที่ 1 ธค. หมอนัด ไม่รู้ว่าไอ้ก้อนนั้นมันจะโผล่มาทักทายหมออีกไหมอ่ะ คุณน้ำตาลหวาน .. :) ตอนเหนื่อย ๆ ชิมน้ำหวาน หรืออมน้ำตาลสักก้อน แหม๊ ดีจริง ๆ นะ คุณกิ่งโศก .. นนทบุรี ไปบ่อยมาก เฉียด ๆ บ้านของคนในเวปก็หลายหนค่ะ ส่วนรูปภาพในเฟสลงแค่นั้น ที่จริง ทุกวันมีเยอะ จนต้องบันทึกใส่ cd ส่งให้ทางฝ่ายสำนักงาน เขาจะรวบรวมและมีการทำสรุปงานในแต่ละวันค่ะ ค่อนข้างเป็นการเป็นงานนิดหน่อย เนอะ คุณ จวว ..+ คุณแก้วประภัสสร .. ค่อยยังชั่ว นี่นึกว่าจะไม่มีพวกนะเนี่ย ฮา.. เพื่อนกุ้ง .. เฮ้ย เราน่ะเป็นห่วงเพื่อนกุ้งมากเลย ติดตามข่าวที่น้ำท่วมลพบุรีมาตลอด ในคราวแรก ที่คิดไว้ หลังจากทาสี ก็จะไปยังจังหวัดที่น้ำท่วม อยุธยา ชัยนาท ลพบุรี .. แต่พอเอาเข้าจริง เหมือนถูกน้ำล้อมรอบตีกรอบประชิดเมืองซะขนาดนั้น ทำให้วิ่งรอกตามปริมณฑล นี่ก็ไปมันแทบทุกที่ที่เดือดร้อน นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี ในแต่ละเขตหมู่บ้านตำบล ที่เกิดเหตุ มีตารางออกภาคสนาม บางทีก็มีการปรับเปลี่ยนเรียกได้ว่า แผนปรับวันต่อวันทีเดียว เอานะ .. อดทน เราเชื่อมั่นว่าเพื่อนกุ้งจะผ่านบททดสอบนี้ได้ คุณIdc? Piengngeo.. แทนใจที่คิด ขอบคุณค่ะ คุณdin .. ทำไมเขาถึงไม่ทำตามที่ในหลวงรับสั่งนะ ไม่เข้าใจเลย
18 พฤศจิกายน 2554 05:12 น. - comment id 127445
ถึงขนาดนี้แล้วพวกพรรคเก่าแก่ยังเล่นไม่เลิก มีการยื่นถอดถอน สส. พรรคตรงข้าม ทั้ง ๆ ที่เขาทำงานช่วยเหลือประชาชนกันตัวเป็นเกลียว ดูข่าวแล้วสิ้นศรัทธากับพรรคนี้จริง ๆ
26 ธันวาคม 2554 20:22 น. - comment id 128047
คุณฤกษ์ .. ถ้าว่างมาช่วยกันขัดล้างวัดกันดีกว่า ยังมีอีกตั้งแยะที่รอความช่วยเหลือน่ะ