พัฒนาความสามารถในการรักษาด้วยตนเอง
คีตากะ
เข้าใจสุขภาพ-กลับสู่วิถีชีวิตธรรมชาติที่ถูกต้อง
เขียนโดย ดร.หลัวซือหง ฟอร์โมซา(ต้นฉบับเป็นภาษาจีน)
ตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้เขียนมีความภูมิใจที่ได้อ่านหนังสือใหม่เรื่อง เข้าใจสุขภาพ-กลับสู่วิถีชีวิตธรรมชาติที่ถูกต้องของอนุตราจารย์ชิงไห่ ก่อนที่จะตีพิมพ์ออกมา ขณะเปิดหนังสืออีเล็กโตรนิกส์อ่าน ข้าพเจ้ารู้สึกถึงพลังแรงส่วนหนึ่งได้ไหลเข้ามา ทำให้ในใจของข้าพเจ้าเกิดความรู้สึกที่ซาบซึ้งมาก ช่างเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ทำไมข้าพเจ้าจึงเกิดความซาบซึ้งฉับพลัน? จากการเปิดอ่านรายละเอียดในหนังสือ ข้าพเจ้าได้รับคำตอบคือ แต่ละคำพูดในหนังสือที่ให้ความรักความเอาใจใส่ต่อมนุษย์นั่นเองมากระตุ้นจิตใจของข้าพเจ้า
ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นฉับพลันนี้ ทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจถึงการทำงานของพลังแห่งจิตวิญญาณที่วิเศษสุด แต่วิทยาศาสตร์สรีระปัจจุบันยังไม่สมารถอธิบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความจริง การวิจัยทางเทคนิคในปัจจุบันที่สามารถอธิบายได้อย่างมีประสิทธิภาพในเรื่องจักรวาลยังมีน้อยมาก วิชาแพทย์ในยุคอันใกล้นี้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 มา ได้สร้างฐานวิจัยในเรื่องจุลินทรีย์ การผ่าตัดร่างกายและประสิทธิภาพของอวัยวะไว้อย่างดีเยี่ยม มาถึงศตวรรษที่ 20 เทคนิคทางการแพทย์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว นอกจากเข้าใจถึงการเสื่อมและการสร้างของเซลโมเลกุล โปรตีนไรโบนิวคลีอิก ลักษณะของดีเอ็นเอแล้ว สามารถสร้างก็อปปี้ชีวิตแต่ละร่างได้สำเร็จ และใช้สตีมเซล และลักษณะของดีเอ็นเอมารักษาโรคได้ ซ่อมแซมอวัยวะ แต่ว่าในศตวรรษที่ 21 นี้ มีโรคที่รักษาไม่ได้ยังคงทำให้วงการแพทย์ต้องจนปัญญา การเจริญทางการแพทย์แม้จะสามารถยืดอายุคนได้ แต่การจะป้องกันการเกิดโรคนั้น เพื่อให้มนุษย์รอดพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ ใช้ชีวิตที่มีสุขภาพแข็งแรงเป็นสุขได้ตลอดชีวิต วงการแพทย์ในปัจจุบันยังไม่สามารถหาวิธีที่จะแก้ไขได้
หลังจากอ่านหนังสือเข้าใจสุขภาพ-กลับสู่วิถีชีวิตธรรมชาติที่ถูกต้องแล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกว่า การแพทย์ในปัจจุบันต้องมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในการเอาใจใส่ให้มากขึ้น จึงจะสามารถมองเห็นจุดบอดและความสับสนได้อย่างชัดเจนภายใต้ความเชี่ยวชาญ อนาคตทิศทางการวิจัยเทคนิคการแพทย์จะไปทางทิศไหน? ในหนังสือเล่มนี้มีข้อคิดเห็นที่ทรงค่ายิ่งมากมาย โดยเฉพาะผู้ทำการวิจัยขั้นพื้นฐานและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการบำบัดรักษาต้องอ่านและคิดได้อย่างรอบคอบ มีปัญญา และความรักที่ไร้เงื่อนไขของผู้นำแห่งจิตวิญญาณ อาจสามารถชี้ทิศทางใหม่ในเทคนิคการวิจัยทางการแพทย์ได้
หน้าแรกของหนังสือเล่มนี้ได้ชี้ชัดถึงเรื่องการพัฒนาความสามารถที่ซ่อนเร้นทางกาย ใจ จิตวิญญาณทั้งหมด-เพื่อเข้าสู่ขุมทรัพย์แห่งพลังของจักรวาล เป็นหนทางแห่งสุขภาพที่แข็งแรงและอายุยืนที่ดีที่สุด และกระแสนี้ได้พัฒนาและก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และใกล้จะเป็นรูปธรรมขึ้นมาในสังคมทางทิศตะวันออก-ตะวันตกในเร็วๆ นี้ เช่น งานใหญ่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในเดือนพฤษภาคมของทุกปี นั่นคือ งานนิทรรศการพัฒนากาย ใจ และจิตวิญญาณ
ในตอนที่ 2 จากบทความเรื่อง "การดื่มการกินอาหารด้วยความรักและชีวิตที่มีสุขภาพแข็งแรง" นั้น อนุตราจารย์ชิงไห่ได้พูดถึงสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขั้นพื้นฐานของคนและการรักษาสิ่งแวดล้อม ความอดอยาก จนถึงการดูแลสัตว์เลี้ยง และข้อคิดในการเดินทาง ต่างๆ เป็นต้น การปราศรัยธรรมด้วยคำพูดที่สนุกขบขัน มีเหตุผลในการดำรงชีวิต และมีข่าวสารเพื่อสุขภาพที่ทรงคุณค่า ปีที่ผ่านมาไม่นาน จากโรควัวบ้า ปากเปื่อย เท้าเปื่อย ไข้หวัดนก จนถึงอาหารทะเลที่มีสารโลหะสูง สัตว์เลี้ยงได้นำพิษโรคร้ายซาร์ส(SARS)ที่น่าสะพรึงกลัวไปทั่วโลก สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้อาจเป็นข่าวสารเตือนหมู่มวลมนุษย์ทั้งหลายของพระเจ้า ให้รีบเปลี่ยนแปลงอาหารการกิน โดยให้บริโภคอาหารมังสวิรัติด้วยความรัก อย่างที่กล่าวไว้ว่า "การป้องกันดีกว่าการบำบัดรักษา" อนุตราจารย์ชิงไห่ใช้ยกตัวอย่างที่เข้าใจง่าย อธิบายถึงอาหารการกินที่ถูกต้องเป็นการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ เป็นเงื่อนไขการรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงได้ตลอดกาลนาน โดยเน้นเรื่องการใช้ชีวิตแบบอาหารมังสวิรัติ นอกจากนี้แล้ว เรื่องที่สังคมปัจจุบันกำลังพูดถึงกันคือ การอดอาหารเพื่อรักษาสุขภาพ อาหารที่ดัดแปลงพันธุกรรม ผักที่มีอินทรีย์ และอาหารเสริม ต่างๆ เป็นต้น จากการปราศรัยของอนุตราจารย์ชิงไห่ก็มีการค้นคว้าหลายเรื่อง
การเกิด แก่ เจ็บตาย เป็นหนทางที่ทุกคนต้องประสบ ในบทความตอนที่ 3 "การรักษาที่ไม่ต้องใช้ยา" อนุตราจารย์ชิงไห่ใช้เหตุผลเรื่อง "สารชนิดเดียวกันจะดึงดูดกัน" มาอธิบายอย่างละเอียดถึงเหตุแห่งการเกิดโรคภัยไข้เจ็บและวิธีการบำบัดรักษา ความคิดของคน จิตใจ สามารถผลักดันให้ร่างกายหายจากโรคที่มาจากภายนอกด้วยพลังการรักษาโรคที่มีซ่อนเร้นอยู่ โดยการรักษา กาย วาจา ใจให้อยู่ในความเชื่อมั่นเสมอ ก็จะสามารถคุ้มครองตัวเองได้ หลีกเลี่ยงจากเรื่องอุบัติเหตุและโรคภัยไข้เจ็บได้ ส่วนเรื่องที่จะผลักดันพลังที่ซ่อนเร้นมารักษาโรคได้อย่างไรนั้น ผู้อ่านเพียงแต่เปิดหนังสือเล่มนี้ออกอ่าน ก็จะสามารถพบวิธีได้ ในบทความนี้ยังได้บอกกับผู้รักษาพยาบาลว่า จะดูแลป้องกันคนไข้ได้อย่างไรในขั้นแรก ขณะเดียวกันก็ป้องกันตัวเองด้วย อนุตราจารย์ชิงไห่ได้เน้นความสำคัญของเรื่องความคิดที่เชื่อมั่นกับการมองโรคในแง่ดี มันสอดคล้องกับการค้นพบของแพทย์ศาสตร์ในปัจจุบัน จากผลวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ ปรากฏว่า การหัวเราะเสียงดังมีประโยชน์กับสุขภาพ ตรงกันข้าม การซึมเศร้า การขับแยกของเหลวภายในร่างกาย และระบบภูมิต้านทาน ทำให้อัตราการเกิดโรคหัวใจ โรคมะเร็ง เพิ่มมากขึ้น ทำให้ชีวิตสั้นลงเฉลี่ย 5-10 ปี
ในบทความที่ 4 "จะปฏิบัติต่อตัวเองและญาติมิตรที่อยู่ในความทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างไร" ผู้อ่านสามารถอ่านจากการถาม-ตอบระหว่างอนุตราจารย์ชิงไห่และลูกศิษย์ เพื่อแก้ปัญหาให้กับผู้คน ได้รับการปลอบใจและพลังแห่งความรัก ด้วยการมองโลกในทางที่ดี และการยอมรับข่าวสารที่มีอยู่ต่อหน้าของอุปสรรค เผชิญชีวิตอย่างกล้าหาญ วิธีที่ง่ายๆ และวิเศษสุดจากการเสนอของอนุตราจารย์ชิงไห่ "ให้อธิฐานกับพระเจ้ามากๆ" ทำให้ข้าพเจ้านึกถึง โลโก้ที่เขียนด้วยภาษาลาตีน "พระเจ้าส่องทางสว่าง" ของโรงเรียนประวัติศาสตร์พันปีมหาวิทยาลัยนิวตัน แห่งสหราชอาณาจักร ความหมายตรงกับอนุตราจารย์ชิงไห่ได้บอกกับชาวโลกว่า "ทุกชีวิตจะอยู่ในความดูแลของพระเจ้า"
เมื่อเร็วๆ นี้ทั่วโลกต่างนิยมในเรื่องการนั่งสมาธิ เช่น ศูนย์การวิจัยของแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาวาดและมหาวิทยาลัยเมดิคอลที่ค้นพบว่า การนั่งสมาธิไม่เพียงสามารถลดความเครียดได้ ยังสามารถเพิ่มภูมิต้านทาน ชะลอ ป้องกัน และรักษาโรคได้มากมาย ศูนย์แพทย์ศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซท แห่งสหรัฐอเมริกา ได้จัดตั้ง "คลินิคการนั่งสมาธิ" มีผู้คนมารับการตรวจรักษามากกว่าพันคนทุกวัน จากมุมมองของวิทยาศาสตร์ แนวคิดจากอนุตราจารย์ชิงไห่ เรื่อง "ธรรมวิถีกวนอิมรักษาได้ทุกโรค" เป็นวิธีการรักษาด้วยพลัง(การสั่นสะเทือน)ที่ก้าวหน้าที่สุดของวิชาแพทย์ในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ก็ได้ยืนยันวิชาแพทย์จีนเรื่อง (ลมปราณ)และ(เส้นชีพจร)ผู้ที่อยากจะทราบเรื่องการรักษาโรคด้วยตนเองจากการนั่งสมาธินั้น สามารถอ่านจากบทความตอนที่ 5 "การรักษาโรคด้วยตนเองจากวิธีการนั่งสมาธิ" ค้นพบการชี้แนะที่เข้าใจได้อย่างชัดเจน
ในบทความตอนที่ 6 "การมองโลกในอนาคตด้วยมุมมองที่ดี-การมีสุขภาพที่แข็งแรงไปกับโลกด้วยกัน" ได้บ่งบอกถึงข่าวสารที่สำคัญหลายเรื่องที่จะนำมาให้กับชาวโลกจากการสรุปของหนังสือเล่มนี้ คำสอนของอนุตราจารย์ชิงไห่ เป็นที่น่าค้นคว้าของผู้ที่สนใจโลกและความสุขของมนุษย์
ศตวรรษใหม่น่าจะมองโลกในแง่ดี จากการพัฒนาเทคโนโลยี การแพทย์ ศาสนา หรือกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่ตัดสินจากการวิจัย มนุษย์จะต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงของจิตสำนึกครั้งใหญ่ เช่น การก้าวหน้าของทฤษฎีควอนตัม (quantum อินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีนาโน เช่นเดียวกันกับสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ในวงการแพทย์ที่รวมเครื่องมือที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง, เครื่องสแกนเนอร์ตรวจด้วยคอมพิวเตอร์, การสร้างภาพด้วยเรโซแนนซ์แม่เหล็ก-เอ็มอาร์ไอ, การถ่ายภาพรังสีระนาบ(ภาพตัดขวาง)โดยการปล่อยอนุภาคต้านของอิเล็กตรอน-พีอีที, เครื่องตรวจสอบเรโซแนนซ์แม่เหล็ก-เอ็มอาร์ที ต่างอยู่เหนือความคิดในการวิจัยทางเทคโนโลยีที่สืบทอดกันมา ค่อยๆ ยืนยันคำพูดของอนุตราจารย์ชิงไห่ว่า ทุกวันนี้พวกเราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ วันพรุ่งนี้ก็จะเป็นไปได้
อนุตราจารย์เรื่องที่ยังเน้นว่า อาศัยพลังของจิตวิญญาณ สามารถบรรลุเป้าหมายที่พวกเราต้องการ พร้อมยกตัวอย่างยืนยัน ขณะที่ผู้เขียนได้ขออ่านหนังสือเล่มนี้ก่อน ได้สัมผัสกับพลังทางจิตวิญญาณที่ดีเยี่ยมจากอนุตราจารย์ชิงไห่ด้วยตัวเอง ในที่นี้ขออวยพรผู้ที่เอาใจใส่สุขภาพและความสุขแห่งชีวิตของตัวเอง ญาติมิตร รวมทั้งหมูมวลมนุษย์ทั้งหลาย สามารถค้นพบคำตอบของตัวเอง จากหนังสือเล่มนี้ ที่เต็มไปด้วยความสนุกและแฝงไว้ซึ่งความรัก คำพูดที่เข้าใจง่ายแต่มีความลึกซึ้ง และจัดพิมพ์อย่างสบาย ราบรื่น พร้อมทั้งก้าวหน้าทางด้านจิตวิญญาณ เข้าใจสุขภาพ พัฒนาพลังที่ซ่อนเร้นที่สามารถรักษาโรคด้วยตัวเอง มีชีวิตที่แข็งแรงสมบูรณ์
หมายเหตุ : ดร.หลัวซือหง จบปริญญาเอกวิชาสรีระศาสตร์จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด อาจารย์สอนวิชาเภสัชวิทยา สถาบันแพทย์ศาสตร์กระทรวงกลาโหม อาจารย์ชี้แนะสมาคมพัฒนากายใจในมหาวิทยาลัยครูแห่งรัฐ เป็นอาจารย์คณะรักษาพยาบาลในงานกู้ภัยพิบัติของรัฐ
Be Veg, Go Green 2 Save The Planet
www.godsdirectcontact-thai.org
www.suprememastertv.com