ผืนดินที่ถูกลืม

hallelujah

นานมาแล้ว...
     ผืนดินได้ให้กำเนิดดอกไม้ดอกเล็กๆขึ้นมาดอกหนึ่ง
     ด้วยความรัก...ผืนดินจึงคอยเฝ้าประคบประหงมเลี้ยงดู ป้อนข้าวป้อนน้ำให้แก่เจ้าดอกไม้น้อย
     ยามลมพายุโหมกระหน่ำ  ผืนดินก็คอยเหนี่ยวรั้งดอกไม้ไว้ไม่ให้ถูกพัดกระเด็นไป
     ดอกไม้จึงคงอยู่ และผลิช่อเผยดอกอันสวยงาม เป็นที่ชื่นชมของผู้คนที่เดินผ่านไปมา
     " ดูสิ! ดอกไม้นั่นสวยจังเลย "
     นานวันเข้า...ดอกไม้ก็หลงเคลิ้มไปกับคำชื่นชม จนกลายเป็นดอกไม้ที่หลงตัวเอง และคิดว่าตนเองสำคัญเหนือใครๆ
     " คงถึงเวลาแล้ว ที่ฉันจะออกท่องไปในโลกกว้าง อวดโฉมให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็น " ดอกไม้ฝันหวาน
     " อย่าเลยลูก เจ้ายังเด็กเกินไป " ผืนดินท้วงอย่างอ่อนโยน
     " หุบปากน่า ! ยายแก่ ! แกไม่มีสิทธิมาห้ามฉัน  เพราะแกไม่เคยทำอะไรให้ฉันเลย... มีแต่ฉันทำให้แก  นี่เพราะมีฉันอยู่หรอกนะ พวกมนุษย์เค้าจึงยังพอเห็นคุณค่าของแกอยู่บ้าง " ดอกไม้กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว
     " ยังไงฉันก็จะไป  แกจะได้รู้สึกเสียทีว่า เมื่อฉันไม่อยู่แล้ว แกจะเป็นยังไง "
     ว่าแล้ว...เจ้าดอกไม้น้อยก็ถอนตัวออกจากผืนดิน ก้าวเดินออกไป  ทิ้งผืนดินไว้เบื้องหลังอย่างเดียวดาย
     ดอกไม้ออกมาท่องโลกกว้างสมใจ  ผ่านไปแห่งหนใดผู้คนก็ชื่นชมในความงาม
     " ดอกไม้น้อย...เจ้าสวยจังเลย "
     แต่นานเข้า...ไม่มีคนคอยป้อนข้าวป้อนน้ำให้อย่างเคย หาอาหารเองก็ไม่ได้ ร่างกายจึงผอมแห้งเหี่ยวเฉาลง  จากที่เคยถูกชื่นชม กลับกลายเป็นถูกหยามเหยียดแทน
     " อี๋ !!! ไปไกลๆเลย  แกมันดอกไม้ที่เหี่ยวช้ำ  ทุเรศสิ้นดี "
     เมื่อท้องหิว...ก็ไม่มีแรง  ดอกไม้นั่งขดตัวพยายามข่มเสียงท้องร้องท่ามกลางสายฝนที่พรั่งพรูลงมา
     " ฉันน่าจะเชื่อแม่ "  ดอกไม้เริ่มรู้สึกผิด
     วันหนึ่ง...ลมพายุโหมกระหน่ำ  ดอกไม้ถูกพัดกระเด็นกระดอนเพราะไม่มีผืนดินคอยเหนี่ยวรั้งไว้เช่นแต่ก่อน  ดอกไม้ถูกพัดไปชนกับโขดหินใหญ่จนสลบเหมือด...
     เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา...ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่หน้าโขดหินใหญ่
     " เป็นไงมาไงล่ะ..เจ้าดอกไม้น้อย "  โขดหินใหญ่ทักถามอย่างเป็นมิตร
     ดอกไม้จึงเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้โขดหินใหญ่ฟัง
     โขดหินได้ฟังก็บอกให้เจ้าดอกไม้กลับไปหาแม่เสีย
     " ถึงกลับไป  แม่ก็คงไม่รักฉันเหมือนเดิมแล้ว "  ดอกไม้กล่าวอย่างเศร้าใจ
     " เจ้าเด็กโง่ ! ไม่มีบุพการีที่ไหนหรอกที่จะรังเกียจลูกตัวเองได้ลง  เขามีแต่ความหวังดีและปรารถนารักอันบริสุทธิ์  กลับไปเถอะ...
เขาจะต้องดีใจแน่ที่เห็นเจ้ากลับไป "  โขดหินใหญ่สอนสั่ง
     ดอกไม้ได้ฟังก็ใจชื้น...กล่าวขอบคุณโขดหินใหญ่แล้วพยุงร่างอันบอบช้ำกลับไปหาอ้อมอกแม่
     แต่เมื่อกลับมาถึง...
     ดอกไม้กลับพบว่ามีถนนซีเมนต์ตัดผ่านปิดทับผืนดินผู้เป็นแม่ไว้
     " นี่มันเกิดอะไรขึ้น ! ใครมาทำกับแม่ฉันอย่างนี้ " ดอกไม้ตกใจ
     พุ่มไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆจึงชี้แจงให้ฟังว่า...
     " นับแต่วันที่เจ้าจากไป... ผืนดินก็หม่นเศร้าหงอยเหงา ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร  พวกมนุษย์พยายามสรรหาพันธุ์ไม้อื่นมาปลูกแทนที่เจ้า  แต่ก็ปลูกไม่ขึ้น  พวกเขาจึงสรุปกันว่า ผืนดินตายแล้ว เป็นผืนดินที่ไร้คุณภาพ จึงตัดสินใจทำถนนทับผืนดินเสีย... "
     ดอกไม้ได้ฟังดังนั้นก็ทรุดกายร้องไห้โฮ
     " แม่...... ฉันขอโทษ  ฉันไม่น่าทิ้งแม่ไปเลย  ฉันขอโทษ.........แม่..............โฮโฮ !!! "
     อ้อมอกอุ่นที่เคยได้รับจากผืนดินผู้เป็นแม่  จากนี้ไป...จะไม่มีอีกแล้ว
     สิ่งที่เจ้าดอกไม้ได้รับแทนก็คือ ความเย็นกระด้างจากผืนซีเมนต์ที่แห้งแข็ง  เย็นเฉียบ...เข้าไปถึงขั้วหัวใจ				
comments powered by Disqus
  • อา-กิ-โกะ

    14 ตุลาคม 2546 20:43 น. - comment id 69832

    เข้าใจเปรียบเทียบดีค่ะ
    แต่ข้อความที่แสดงถึงความเศร้าของดอกไม้นั้น
    ยังไม่ซึ้งเท่าไหร่ ดูหยาบเกินไปค่ะ
    จะคอยติดตามผลงานนะคะ
    ทำให้ดีก้อแล้วกันค่ะ [แต่แค่นี้ก้อดีอยู่แล้วอ่ะ]
  • hallelujah

    15 ตุลาคม 2546 01:51 น. - comment id 69851

    ขอบคุณ คุณอากิโกะครับ สำหรับคำติชม

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน