ไข่มุกแห่งปัญญา

คีตากะ

347502ihyaqaah7l.jpg











โดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่
รวบรวมจากวรสาร





พวกเรายิ่งใหญ่มาก
แผ่ออกไปกว้างขวางมาก
แต่เรากลับใช้ปัญญาอันยิ่งใหญ่นั้น
เพียงเพื่อเข้าใจความรู้ทางโลกเล็กๆน้อยๆ
ยกตัวอย่างเช่น ความรู้ทางการแพทย์
หรือความรู้ทางกฎหมาย อะไรพวกนี้
แล้วเราก็ยึดติดอยู่ตรงนั้น
ปัญญาทั้งหมดที่มีอยู่
เรากลับเอาไปให้ความสนใจแค่
ความรู้มุมนี้มุมเดียว
เพราะฉะนั้นเราจึงลืมส่วนใหญ่ทั้งหมด
นี่แหละมันเป็นแบบนี้
แล้วเราก็คิดว่าตัวเรานี้ยิ่งใหญ่มากแล้ว
เราเป็นนายแพทย์คนนี้
เป็นดอกเตอร์ซึ่งจบปริญญาเอกคนนั้น







เรายุ่งเกินไปกับการพัฒนาตนเอง
ในด้านวิทยาศาสตร์
ในด้านวรรณคดี
ในความสำเร็จด้านเครื่องยนต์กลไก
และเราไม่พยายาม
พัฒนาพลังที่สมบูรณ์ทั้งหมด






มีอิสรภาพอยู่ชนิดหนึ่ง
ซึ่งหากเราได้รับมันแล้ว
จะไม่มีใครดึงมันออกไปจากเรา
ไม่มีใครสามารถทำลายมันได้
อิสรภาพทางจิตวิญญาณชนิดนี้
สามารถมีได้เฉพาะผู้บำเพ็ญปฏิบัติ
เมื่อใดที่เรามีอิสรภาพแบบนี้
แม้ร่างกายของเราจะถูกขัง
หรือได้รับการทรมาน
จิตใจของเราจะไม่ได้รับผลกระทบเลย






เป็นเรื่องง่ายมาก
ที่จะอยู่ในภาวะแห่งความสุข
ถ้าเราต้องการความสงบสุข
เราก็ควรแสวงหาจากภายใน
ไม่ใช่จากภายนอก
เรารู้เรื่องนี้มาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว







หนทางของบุคคลที่รู้แจ้งก็คือ
อิสรภาพ คือความสุขและปัญญา
นี่แหละคือชีวิต
ที่พวกเราทุกคนควรจะจำได้
เพราะว่านี่คือตัวตนจริงๆ ของเรา






ความสุขที่แท้จริง
มิใช่ได้รับมาจากการมีตำแหน่งที่สูงส่ง
ภายในโลกหรือจากความรู้ที่เราได้รับ
จากหนังสือหรือจากสังคม
หรือจากสิ่งต่างๆ ที่เราครอบครองอยู่
แต่ความสุขที่แท้จริงจะมาถึงตัวเรา
ก็ต่อเมื่อ...
เรารู้จักตนเอง เราได้รับการรู้แจ้ง






พระเจ้าอยู่ภายในตัวของเรา
สิ่งนี้ก็คือพลังอันทรงอานุภาพ
ซึ่งหลับอยู่ข้างใน
และเราสามารถจะปลุกให้มันตื่นขึ้นมา
เมื่อใดก็ได้
และก็ใช้ประโยชน์จากมันได้
อย่างน้อยก็เพื่อความพอใจของเรา






ถ้าเราเข้าใจว่า
อาณาจักรของพระเจ้าอยู่ภายในตัวเรา
และถ้าเราได้ลิ้มรสน้ำอมฤต
แห่งอาณาจักรของพระเจ้านี้แล้ว
เราก็คงไม่ต้องการจะขัดขืนอะไรทั้งสิ้น
หากเราสามารถจะมีชีวิตอยู่ที่นี่นานขึ้น
เพื่อรับใช้พระเจ้าและเพื่อนมนุษย์
ก็ปล่อยให้มันเป็นไป
หากเราจำเป็นต้องไป
เพราะถึงเวลาของเราแล้ว
หรือเพราะใครบางคน
ต้องการจะปลิดชีวิตของเรา
ก็ปล่อยให้มันเป็นไป
เพราะเรายังมีอาณาจักรอื่นๆ
ที่จะอาศัยอยู่ต่อไปได้






จริงๆ แล้วโลกนี้ไม่มีคนบาปหรอก
มีแต่เพียงบุคคลที่เพิกเฉย
ละเลยไม่รู้จุดหมายของชีวิตนั้น
และไม่รู้จักวิธีปฏิบัติให้สอดคล้อง
กับแผนการอันยิ่งใหญ่ของจักรวาล
ความทุกข์ยากในโลกนี้
จะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยทันที
หากเรารู้จักตัวตนที่แท้จริงของเรา
ตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ของเรา






เวลาเรารู้แจ้ง
เราจะสร้างสวรรค์ขึ้นมาใหม่
และเวลาที่เราทำสิ่งที่ไม่ดีหรือเป็นบาป
เราก็สร้างนรกแห่งใหม่ขึ้นมา
อย่าคิดว่านรกมีอยู่แล้ว
กำลังรอคอยให้เราตกลงไป
เปล่าเลย...
เราเป็นผู้สร้างมันเอง
สวรรค์และนรก
เป็นสิ่งที่เราสร้างมันขึ้นมาเองทั้งสิ้น






หากเราพลาดโอกาส
ที่จะศึกษาเรียนรู้จากพุทธะไปครั้งหนึ่ง
เราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรเราจะมีโอกาส
ได้มาเรียนรู้อีก
เพราะพุทธะอาจจะไม่กลับมาอีก
ในเร็วๆ นี้ ในชาตินี้
เพื่อที่จะมาสอนเรา หรือมานำทางเรา
หรือบางทีพุทธะอาจจะมา
แต่ก็อาจจะไม่มีบุญสัมพันธ์กับเรา
ดังนั้น เราจึงต้องรอแล้วรออีก
จนกว่าจะมีพุทธะซึ่งมีบุญสัมพันธ์กับเรา
กลับมาในโลกนี้
แล้วเราก็ต้องกลับมาเกิด
ในช่วงเวลาเดียวกันกับพุทธะองค์นั้น
เพื่อจะได้มีโอกาสแบบนี้อีก
ซึ่งเป็นโอกาสเพียงหนึ่งในหลายล้านชาติ






ผู้รู้แจ้งแล้ว
ไม่เคยรู้จักการไม่พอใจ
ไม่รู้จักความอยาก
ไม่รู้จักการไม่มีความสุข






มนุษย์ที่แท้จริง
ไม่ใช่เป็นแค่เนื้อและกระดูกเท่านั้น
สิ่งที่สามารถเคลื่อนย้ายภูเขาได้
หรือทำสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ ได้นั้น
มิใช่ลักษณะภายนอก
ที่ดูสวยงามหรือมีเสน่ห์
แต่เป็นแหล่งของปัญญาอันยิ่งใหญ่
ของพระเจ้าผู้ทรงพลานุภาพ






ความทุกข์ทั้งมวลจะจบสิ้น
ทันทีที่เราได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเรา
ถึงแม้ว่าบางครั้ง
เราจะยังรู้สึกกระทบกระเทือน
จากความทุกข์ของคนอื่น
แต่ตัวเราเองจะไม่รู้สึกเป็นทุกข์มากมาย
เหมือนตอนก่อนที่เราจะรู้แจ้ง






เมื่อเราทำให้ตัวเราเป็นอิสระ
จากการยึดติดความคิดที่ไม่ดี
และตัณหาที่เหนี่ยวรั้ง
เราก็จะหลุดพ้นได้ในชาตินี้






เพราะว่าเราไม่รู้จักธรรมชาติที่รู้แจ้งของเรา
เราก็คอยใฝ่หาอะไรบางอย่าง
ที่ทำให้เรามีความสุข
หรือเรามัวแต่คิดว่า
สิ่งนั้นจะทำให้เราสุข
ดังนั้นบางครั้งเราจึงทะเยอทะยาน
แสวงหาชื่อเสียง ทรัพย์สมบัติ
ความสวยงามและ
ความรักอันไม่จีรังยั่งยืน ฯลฯ
โดยคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราสุข
จนในที่สุด เราก็ตระหนักแน่ชัดว่า
สิ่งเหล่านี้ได้แต่นำความโศกเศร้า
มาให้เราเป็นส่วนใหญ่






สิ่งที่พระเยซูได้ทำไปแล้ว
เป็นเพียงแค่ของเด็กเล่น
สิ่งที่พระพุทธเจ้าเคยแสดงให้เราดู
ตอนที่ท่านยังอยู่ในโลกนั้น
เป็นเพียงแค่เรื่องตลก
เพราะสิ่งที่พระเยซูทำได้
หรือสิ่งที่พระพุทธเจ้าทำได้จริงๆ นั้น
เหนือกว่าสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด
มันมีความยิ่งใหญ่
เป็นพันล้าน หมื่นล้านเท่า
และเราก็สามารถทำได้






เราจึงควรหันความสนใจเข้าสู่ภายใน
และเราก็จะรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเยซูรู้
ที่พระพุทธเจ้ารู้และ
บรรดานักปราชญ์ทุกคน
ทั้งในอดีตและอนาคตรู้
เพราะธรรมชาติของเราเป็นเช่นนั้น






การรู้แจ้งไม่ใช่เรื่องใหม่
ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องร้องขอ
ไม่ใช่สิ่งที่ลึกลับ
มันเป็นเพียงพลังอำนาจทางบวก
ที่พวกเรามีอยู่ภายในตัวเราเอง
กำลังนอนหลับอยู่
ไม่ได้ถูกใช้ให้เป็นประโยชน์
จนกระทั่งบัดนี้






ยิ่งเรายึดติดกับชีวิตอย่างมั่นคงมากเท่าไร
เราก็จะมีความสุขกับรสชาติของมัน
น้อยลงเท่านั้น
ดังนั้นผู้ที่รู้แจ้งจึงมีความสุขมากกว่า
มีความพอใจมากกว่า
และในสภาพเช่นนี้
เนื่องจากภาวะจิตใจของเขา
มีความมั่นคงมาก
เขาก็จะสามารถทำสิ่งที่น่าพิศวงต่างๆ
ได้มากมาย
เพราะเขาเงียบสงบพอที่จะเข้าใจว่า
ปัญญาของเขาอยู่ที่ไหน
ความยิ่งใหญ่ของเขาอยู่ที่ไหน
เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์จากมันได้






เราอยากจะช่วยโลกนี้เหลือเกิน
อยากจะนำสันติภาพมาสู่โลก
ทำให้โลกกลายเป็นสวรรค์
แต่เราจะทำอย่างไร
ถ้าเราไม่มีปัญญา
จะทำได้อย่างไร
ถ้าเราไม่อยู่เหนือเกณฑ์เฉลี่ย
เราจะไม่ให้หัวของเราเปียกได้อย่างไร
ถ้าเราไม่อยู่เหนือนำ






ดังนั้น
การรู้แจ้งจึงเป็นเครื่องมือ
สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง
ในชีวิตนี้ และชีวิตหน้า
เราจะเดินทางท่องไปได้กว้างไกล
ในแกแล็กซี่ของจักรวาล
ถ้าเรารู้สิ่งต่างๆ
ซึ่งแม้แต่นักวิทยาศาสตร์
ที่ฉลาดที่สุดในโลกก็ยังไม่รู้
นี่แหละคือความสามารถของมนุษย์






ต่อเมื่อเรารู้แจ้งเท่านั้น
เราจึงจะมีความสุขในทุกๆ สิ่ง
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็ยินดี
ถ้ามีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นเราก็รับไว้
เหมือนกับเป็นของขวัญจากพระเจ้า
เราจะยินดีเต็มที่โดยไม่รู้สึกมีความผิด
ไม่ต้องสงวนท่าที ไม่มีอะไรมาขวางกั้น
ไม่ว่าจะภายในหัวใจ
หรือภายในความคิดของเรา






การรู้แจ้ง
จึงเป็นเครื่องมือรักษา
สำหรับความเจ็บป่วยทุกชนิด
สำหรับปัญหาของโลกทุกอย่าง
สงครามทุกแห่ง
และเป็นสิ่งเดียวที่ใช้ได้
สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง
จบสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง




1018840nq2k5d10aq.gif


Be Veg, Go Green 2 Save The Planet
www.suprememastertv.com
www.godsdirectcontact-thai.org				
comments powered by Disqus
  • many_love

    31 สิงหาคม 2554 20:05 น. - comment id 126019

    36.gif
  • คีตากะ

    14 กันยายน 2554 19:51 น. - comment id 126416

    36.gif36.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน