อทิสมานกาย ๑๐๐ ครั้นแล้วรถกำนั่นมั่นก็แล่นออก อากาศเริ่มขมุกขมัวมากแล้ว ไอ้น้อยก็ขับรถไปตามทางที่มันเคยมา แต่ทั้งหมดไม่ได้เฉลียว ใจอะไรนักเพราะเป็นเขตพื้นที่ของกำนันมั่นนั่นเอง เมื่อเสียง ของรถมอเตอร์ไซค์ดังค่อนข้างห่างๆ พวกมันคิดว่าคงจะเป็น คนในหมู่บ้านนั่นเอง อีกระยะทางก็ห่างๆกันมากๆด้วย ครั้นถึงปากทางเข้าไป ยังสถานที่เก็บของ ก็เลี้ยวรถเข้าไปในทางที่เต็มไปด้วยไม้ต่างๆ จึงได้เปิดไฟหน้ารถ แล่นคดไปเคี้ยวมาในเวลาไม่นานนัก รถก็ ถึงที่จัดหมาย สิ่งที่กำนันมองเห็นมันผิดปกติเพราะที่นั่นล้วน แล้วเต็มไปด้วยพวกสัตว์กินเนื้อ พากันทึ้งร่างต่างๆกันอย่างชุลมุน ดังนั้นกำนันจึงคว้าปืนออกมายิงขึ้นฟ้าเพื่อไล่สัตว์ พอสัตว์เหล่า นั้นได้ยินเสียงปืนก็ตกใจ ต่างเผ่นหนีกันไปแทบหมดสิ้นแต่มิวาย ลากชิ้นส่วนบางอย่างเอาไปด้วย กำนันเดินลงจากรถพร้อมด้วย ไอ้น้อย ไอ้เบิ้ม ไอ้เชื่อม ไอ้เปี๊ยก ต่างมุ่งหน้าไปดูร่างที่กระจัดกระจาย พลางร้องลั่นว่า “พ่อกำนัน นี่มันพวกเราทั้งหมดนี่นา หรือว่า?????....” “อะไรว๊ะ???...ไอ้เชื่อมเอ็งแน่ใจหรือว๊ะ” “แน่ใจซิพ่อกำนัน นี่มันร่างของพี่แม้นเพราะใบหน้ายังไม่ได้ถูก สัตว์มันแทะกินเลย ใช่หรือเปล่า??? พ่อกำนันมาดูหน่อยซิ” กำนันเดินไปตรงที่ไอ้เชื่อมยืนชี้มือให้ดู พอกำนันเห็นดังนั้นก็ ร้องไห้โฮทันที พลางทรุดร่างลงกอดศพที่เหลือเพียงท่อนบนเท่านั้น ส่วนท่อนร่างหายไป พลางยกหัวลูกชายคนเดียวขึ้นมากอดร่ำไห้ลั่น แต่ไม่วาย หันไปสั่งพวกให้ไปตรวจสอบดูว่าจะมีใครรอดอีกหรือ ไม่บ้าง ได้ยินสียงตะโกนบอกว่ามันตายหมดบางศพแทบจำร่างไม่ ได้จ๊ะพ่อกำนัน ข้าว่าคงจะตายหมดแล้วล่ะคงไม่มีใครรอดไปได้ หรอก และบางศพจำสภาพไม่ได้ด้วยสัตว์มันแทะกินกันแทบจะไม่ มีเหลือเลยก็มี ดังนั้นกำนันจึงร้องตะโกนบอกทันที “ไอ้เปี๊ยกมึงลองไปดูในถ่ำซิของที่เก็บซ่อนไว้ยังอยู่ครบหรือ เปล่า?ว๊ะข้าชักสงสัยเสียแล้วซิ” ร่างไอ้เปี๊ยกก็เดินขึ้นเขาเอาไฟฉายส่องนำทางไปในถ่ำค้นหาของที่ เก็บไว้ เห็นเพียงแต่รอยระเบิดและของบางอย่างที่ถูกไฟไหม้หมดจึง รีบกลับมารายงานทันที” “ของมันถูกระเบิดและเผาหมดแล้วล่ะพ่อกำนัน ไม่มีของเหลือไว้ เลยสักกล่องเดียว จะทำอย่างไรดีล่ะ???” “ฉิบหาย!!!!.....หมดแล้วซิ แล้วข่าวนี้มันรู้ได้อย่างไรกันว๊ะว่ากู ซ่อนของไว้ที่นี่ เฮ้ยๆๆๆๆพวกมึงระวังตัวเอาอาวุธออกมาเตรียมตัว ไว้กูคิดว่ามันคงจะซุ่มซ่อนอยู่แถวนี้แหละว๊ะ” ดังนั้นทุกๆคนจึงชักปืนสั้นออกมา ส่วนกำนันก็วางร่างลูกชายมัน ลงคิดว่า หากไม่มีเหตุการณ์ก็จะนำศพและพวกนี้ไปทำการทาง ศาสนาต่อไป แต่ทั้งหมดหาได้พ้นไปจากสายตาของพวกที่ติดตาม มาไม่ เมื่อทราบว่ากำนันยังแอบซ่อนของไว้คิดจะฮุบไว้ตามที่เสี่ยเล้ง แจ้งให้แอบมาสอดแนม และสั่งไว้ว่าหากกำนันเล่นไม่ซื่อให้เก็บให้ หมดอย่าเอาไว้สักคนเดียว เมื่อชายทั้งสี่คนที่ได้รับการฝึกฝนมา อย่างดี ต่างก็พยักหน้ากัน แยกย้ายกันหามุมที่เหมาะพร้อมนำปืนที่ สพายบนไหล่ออกมา มันเป็นปืน เอ็ม16 พร้อมกระสุนเต็มอัตรา คอยจังหวะ ในการจะลงมือเพียงหัวหน้าเริ่มต้นเท่านั้นเอง ครั้นเมื่อร่างกำนันและพวกมารวมตัวกันพร้อมทั้งลาก บรรดาศพทั้งหลายมารวมกองกันไว้ ก็ยืนมองนัยน์ตากำนันแดงกร่ำ พลางทุกๆคนชักปืนออกมองไปรอบๆบริเวณนั้นทันที และแล้วเสียง ปืนก็ถูกระดมยิงออกมาทั้งสี่ด้าน มันเป็นการที่ได้รับการฝึกฝนมา อย่างเดียว ดังนั้นพวกกำนันยังไม่ทันจะทิ้งตัวหลบ ร่างทั้งสี่ก็ผงะด้วย โดนกระสุนปืนเข้าที่บริเวณหน้าอกเบื้องซ้าย ต่างล้มลงขาดใจตาย ทำเอา กำนันที่โดนยิงด้วยผวาฟุบกายลงข้างกองศพที่นำมากองไว้ พร้อมทั้งยิงกระสุนปืนสั้นโต้ตอบทันที แต่แล้วร่างกำนันก็ต้องสดุ้ง สุดตัว เมื่อกระสุนที่รั่วมาเป็นห่าฝนเข้าไปยังใบหน้ากำนันอย่างจัง ทำให้กำนันมั่นถึงแก่สิ้นใจตายทับบนกองศพลูกชายทันที บรรดาชายฉกรรจ์สี่คน ต่างก็เดินออกมาจากต้นไม้ทั้งสี่ด้าน พร้อมทั้ง ต่างส่งกระสุนปืนใส่ไปยังร่างที่ตายแล้วอีกครั้งเพื่อความ แน่ใจ เมื่อมันตรวจสอบจนแน่ใจว่าไม่มีใครรอดเหลือสักคนเดียว ต่างก็พยักหน้า ตลอดเวลาที่มันทำงานนั้นมันไม่เคยกล่าวหรือพูดกัน สักคำเดียว ตัวหัวหน้าก็พยักหน้าแก่คนทั้งสามต่างเดินกลับไปยัง ทิศทางที่จอดรถ เสียงรถจักรยานยนต์ดั่งอีกครั้งแล้วเสียงก็ค่อยๆ เบาลงหายไปในความมืด เสียงสัตว์หากินกลางคืนก็ส่งเสียงระงม ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง บรรดาจิ้งหรีดเรไรต่างๆก็ส่งเสียงพร้อมสัตว์ที่ หากินเนื้อต่างๆก็มุ่งมาสู่ยังศพทั้งหลาย เพื่อแทะกัดกินต่อไป จวบจนรุ่งเช้าที่บ้านกำนันนางชบาและบรรดาสาวๆทั้งหลายต่าง ก็เข้ามานั่งบ้าง ยืนบ้างพูดคุยกันถึงเรื่องกำนันก็หายไปยังไม่กลับมา “พ่อกำนันจะเป็นอย่างไรไปหรือเปล่าว๊ะ อีนวลหายไปเหมือนพี่ แม้นและพวกไม่ผิดกันเลย มันยังไงกันแน่โว้ย???...กูชักสงสัยแล้ว และแล้วอีสร้อยและอีสาวๆทั้งหลายโว้ย” “นั่นซิว๊ะมันดูชักแปลกๆนะโว้ย ไปสองเที่ยวหายไปหมดไม่มี ข่าวอะไรออกมาเลย อย่างน้อยก็ต้องมีคนหลงเหลือมาบ้างนะ” นางช้อย นางลัดดา นางนวล และนางพลอยเอ่ยขึ้นเหมือนๆกัน “อย่างงั้นกูว่าพวกเราคอยดูก่อนว๊ะใครขับรถเป็นไหมว๊ะ” อีกชบาเอ่ยขึ้น หันไปถามทุกๆคน แต่ทุกๆคนพลางสั่นหน้าหมด “เป็นเกือบทุกๆคนแหละว๊ะ แต่มึงจะไปตามหรือไง กูว่าเรื่องนี้ มึงอย่าไปยุ่งจะดีกว่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นี่แหละดี คอยเฝ้าบ้านเอาไว้ ก็คงจะพอนะ เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับยาเสพย์ติดด้วยดีไม่ดีเกิด เขาจับได้จะติดคุกกันเป็นแถวๆว๊ะ” นางพลอยเอ่ยขึ้น ทำเอาพวกสาวๆต่างพยักหน้าเห็นชอบด้วย “งั้นหากวันนี้ไม่มีใครกลับมา พวกเราก็มานอนเฝ้าบ้านที่นี่ก็ แล้วกันะโว้ย พวกมึงจะว่าไงล่ะ” “เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงหรอกว๊ะ เป็นอันว่าให้รอคอยที่นี่ไม่ต้องกลับ ไปบ้านหรอก เพื่ออาจจะมีข่าวมาบ้างนะ งั้นพวกเราไปทำอาหาร กินกันเถอะว๊ะ ยังไม่รู้ว่าจะมีอะไรเหลืออีกหรือเปล่านะ” “เออๆๆๆดีเหมือนกันว๊ะให้ไปสำรวจดูหรือถามอีกแจ๋วกับอีกน้อย ว่ามีของอะไรเหลือบ้าง หากขาดพวกเราใครสองคนจะได้ไปซื้อมา ตุนไว้ ด้วยยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะต้องคอยอีกนานเท่าใดว๊ะ” “นางแจ๋ว นางน้อยเอ็งอยู่หรือเปล่าว๊ะ” เสียงนางชบาถามตะโกนทันที “มีอะไรหรือพี่ชบา จะใช้ข้าเรื่องอะไรหรือ???...” เสียงนางแจ๋วออกมาพลางเดินเข้ามาหาร้องถามทันที “เออๆๆเอ็งสำรวจว่าจะมีอาหารตุนไว้หรือเปล่าเพราะว่าพวกเราจะ อยู่พักที่นี่หากไม่มีใครมาว๊ะ” “ของนั้นมีเพี๊ยบเลยล่ะพี่ ที่ตู้เย็นตุนของไว้แยะ” “เออๆๆๆงั้นก็แล้วไปว๊ะ นึกว่าไม่มีพวกข้าจะได้ไปซื้อมาตุนไว้ เพื่อทำอาหารกินกันกับพวกเรา” “นี่ก็สายมากแล้วพ่อกำนันกับพวกน่าจะมากันได้แล้วนี่นาแปลก นะพี่ ข้าก็คอยมองดูเหมือนกัน” “เออๆๆๆแล้วใครรู้ที่ซ่อนกุญแจเก็บเงินของพ่อกำนันบ้างล่ะเซฟ นะ ด้วยพ่อกำนันไม่ค่อยไว้วางใจใครหรอก” “กุญแจทั้งหมดอยู่ที่ข้าเองแหละ หากพี่จะเอาเงินก็บอกได้เลยก่อน พ่อกำนันไปได้ฝากกุญแจทั้งหมดไว้ให้ข้าแล้วล่ะ” นางแจ๋วบอกแก่บรรดาสาวๆทั้งหมดให้ทราบพลางล้วงกุญแจมา โชว์ไว้ แล้วก็เก็บพลางบอกว่ากำนันสั่งไว้เท่านี้แหละ “อย่างนั้นก็แล้วไปว๊ะ พวกข้าก็ไม่มีเงินเสียด้วยหากขาดของจะได้ ไปเปิดเอาเงินมา เอ๊ะแปลกๆนะปกติพ่อกำนันจะนำติดตัวไปเสมอๆ นี่นาแต่ทำไมถึงฝากเอ็งไว้ล่ะ???...” “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เหมือนลางสังหรณ์ที่ข้านึกเหมือนกันจ๊ะพี่” เสียงนางแจ๋วตอบทำให้ทุกๆคนมองหน้ากัน ต่างคิ้วขมวดหรือว่า ต่างคนต่างนึกกันไปต่างๆนาๆ การรอคอยจวบจนค่ำมืดก็ยังไม่มีวี่แววว่ากำนันกับพวกจะกลับมา ดังนั้น บรรดาสาวๆต่างวิจารณ์กันต่างๆนาๆ “หากพ่อกำนันไม่กลับมา ข้าว่าเราไปแจ้งความที่อำเภอดีกว่านะ พวกเอ็งจะเห็นว่าไงดีล่ะ” อี่ช้อย อีนวล อีลัดดาเอ่ยขึ้น ไม่แน่ใจว่าจะเป็นอย่างไรหากช้าไปก็ จะไม่ดีแก่พวกเราด้วยนา พวกข้าปรึกษากันแล้วล่ะ “จริงของมึงว่าอีสร้อย หากคืนนี้ไม่กลับมา พรุ่งนี้พวกเราไปแจ้ง ความกับนายอำเภอเรื่องกำนันหายไปดีกว่านะ” “จริงของมึงว๊ะหากปล่อยไว้นานๆแล้วไม่กลับมาจริงๆเราจะอยู่ ในร่างแหกับเขาด้วยนา” “นั่นซิงั้นคอยดูคืนนี้ก่อนก็แล้วกันนะ บางทีพ่อกำนันอาจจะมา ตอนดึกๆก็ได้ หากไม่มาจริงๆค่อยๆไปแต่เช้าๆหน่อยนะ” “อย่างนั้นตกลง งั้นนี่ก็มืดแล้วหาที่นอนกันเอาเองก็แล้วกันนะ เพราะสังหรณ์ใจเหลือเกินว๊ะ พ่อกำนันกับพวกจะประสบเคราะห์ เสียแล้วล่ะว๊ะ หากไม่เช่นนั้นก็คงจะกลับมาหรือให้ใครมาบอก” อีกช้อยกล่าวพลางหันไปทางพวกเพื่อขอคำแนะนำ แต่ทุกๆคนก็ พยักหน้า ต่างทำอาหารกันกิน แต่คราวนี้ไม่ได้ไปกินที่ใต้ต้นมะขาม อีกจึงกินกันบนเรือนและไปนำเหล้าที่ห้องไอ้แม้นซึ่งเก็บไว้ออกมา นั่งร่วมวง พร้อมเรียกอีแจ๋วอีน้อยให้มาร่วมกินกันด้วย จวบเวลาผ่าน ไปจนเที่ยงคืนก็แล้วยังไม่มีวี่แววเลยว่า พวกที่ไปจะกลับมาก็เลยต่าง พากันหาที่นอนแถววงเหล้านั่นแหละ บ้างก็แยกย้ายกันไปหาที่นอน ของตนเองอย่างอีกแจ๋วและอีน้อย นอกนั้นต่างหาที่นอนกัน เพราะ ต่างคนก็ต่างเมาเหล้ากันหมดสิ้น บ้างล้มตัวหงายหลังนอนลง เวลาผ่านไปจวบจนเช้า ทุกๆคนตื่นขึ้นมาพ่อกำนันและพวกหาย เงียบไปไม่มีวีแววจะกลับมาเลย “ข้าว่าเห็นจะไม่ดีแน่ๆแล้วล่ะว๊ะพวกเรา ควรไปแจ้งนายอำเภอ ดีกว่านะ อย่าได้ชักช้าเลยเดี๋ยวเรื่องจะมาถึงพวกเราอีกด้วยที่อยู่และ คนส่วนมากก็รู้ด้วยว่าพวกเราสนิทสนมที่นี้มาก “นั่นซิอีชบาจะให้ใครไปแจ้งความดีล่ะ แต่พวกข้าเห็นว่ามีแต่ อีนางสร้อยและอีนางลัดดาเท่านั้นที่ไปทำธุระที่อำเภอให้แก่กำนัน อยู่เป็นประจำ คงจะรู้เรื่องทางนี้ดีว๊ะ” ดังนั้นนางชบาจึงใช้ให้อีสร้อยและนางลัดดา เอารถกะบะไปแจ้ง ความที่อำเภอถึงการหายสาปสูญของกำนันและพวก ครั้นนายอำเภอ รับทราบก็วิทยุไปยังสำนักงานตำรวจในเมืองทันที ในเวลาไม่นาน นัก รถของตำรวจและนายอำเภอก็แล่นเข้ามาในบริเวณบ้าน ตำรวจสารวัตรชัชวาลย์ก็เริ่มสอบสวนเรียงตัวทุกๆคน ถึงเรื่องราว ความเป็นมาอย่างไรถึงการหายตัวไปของกำนันและพวก นางชบาก็รายงานว่า กำนันจะออกไปตามลูกชายที่ภูเขาอีแป้นที่อยู่ ไม่ห่างไกลหมู่บ้านนะ สารวัตรหันไปถามนายอำเภอทันทีว่ารู้จัก ภูเขาอีแป้นหรือไม่ นายอำเภอก็หันไปสอบถามปลัดอีกทีและได้ ใจความว่ามีคนในอำเภอรู้จักดี ตำรวจและนายอำเภอก็ออกเดินทางไปยังเขาอีแป้นทันที ครั้นไป ถึงต่างก็พบศพต่างๆนอนเรียงราย บ้างก็กองสุมไว้ นายอำเภอจึงให้ เจ้าหน้าที่ชัณสูตรพลิกศพทันที ด้วยสัตว์นั้นยังกินไม่หมด จนพบ ร่างของกำนันมั่น จึงให้เจ้าหน้าที่นำศพทั้งหมดใส่ในรถเก๋งที่จอด ทิ้งไว้เพื่อนำกลับไป รพ.พิสูจน์หลักฐานทันที ส่วนนายอำเภอและ สารวัตรก็กลับมายังบ้านกำนันมั่นอีกครั้งหนึ่งพร้อมกำลังส่วนหนึ่ง ส่วนศพนั้นให้เจ้าหน้าที่นำไปยังรพ. เมื่อขึ้นไปบนบ้านก็พบบรรดา หญิงสาวทั้งหลายกำลังรออยู่ พลางแจ้งให้ทราบว่ากำนันและพวก ได้ตายหมดสิ้นแล้วและถูกส่งไปชัณพิสูจน์ศพในเมือง ทางด้านสารวัตรชัชวาลย์และนายอำเภอสอบถามไปยังบรรดา สาวๆว่า กำนันมั่นมีใครเป็นญาติพี่น้องบ้างหรือไม่พวกสาวๆกล่าว ว่าเท่าที่ทราบไม่เคยได้ยินว่ากำนันมีญาติพี่น้อง ส่วนเมียได้ตายไป นานแล้ว เหลือเพียงลูกชายคนเดียวก็มาตายด้วย ดังนั้นทางสารวัตร จึงหันไปถามว่า ใครดูแลบ้านหลังนี้และกุญแจที่ใช้เก็บเซฟมีหรือไม่ “อยู่นี่เจ้าค่ะ ก่อนไปกำนันมอบให้ข้าเก็บรักษาไว้” นางแจ๋วรายงานให้ตำรวจและนายอำเภอฟัง นายอำเภอจึงเข้าไปรับ ลูกกุญแจมา แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าหากเป็นเซฟก็ต้องมีรหัส จึงหันไป ทางนางแจ๋วอีกที พร้อมหันไปถามทุกๆคนด้วยว่าใครรู้รหัสเซฟหรือ ไม่เพราะการเปิดเซฟนั้นต้องมีรหัสจึงสามารถเปิดได้เท่านั้น “นางน้อยก็แจ้งว่าจำได้เจ้าค่ะเพราะกำนันใช้ไปเปิดเสมอๆ พร้อม ทั้งบอกเลขรหัสตู้เซฟให้นายอำเภอฟังด้วย” “ดีมากขอบใจมากนะ หากไม่ได้รหัสมาก็ไม่ทราบว่ากำนันมีใคร เป็นญาติบ้าง เห็นทีจะยุ่งยากมากๆเสียด้วยซิ” พลางนึกในใจว่ากำนันนั้นฉลาดมากที่ไว้ใจคนแต่แบ่งแยกกัน ทำงาน เมื่อได้รหัสกุญแจมาแล้วก็หันไปทางสารวัตรเอ่ยขึ้นว่า “ขอท่านสารวัตรและพวกมาเป็นพยานในการเปิดเซฟด้วยนะจะ ได้ทำการบันทึกไว้ด้วยกัน” “ครับท่านนายอำเภอ พร้อมหันไปสั่งปลัดที่ติดตามมาให้มาคอย จดบันทึกรายการทั้งหมดอย่างละเอียด” ส่วนนายอำเภอก็ให้ปลัดคอยจดรายการไว้อีกทางหนึ่ง พร้อมสั่งว่า “ท่านปลัดให้คนไปนำโซ่มาพร้อมหมายครั่งมาตีตราไว้หลัง สำรวจเสร็จสิ้นอีกด้วยนะตลอดห้องทุกๆห้อง ยกเว้นห้องคนใช้ หรือพวกที่อาศัยที่นี่เท่านั้น เพราะเราต้องสืบพยานกันอีก” “ครับท่านนายอำเภอ พร้อมทั้งหันไปทางเจ้าหน้าที่ทุกๆคนให้ ไปปฏิบัติตามคำสั่งนายอำเภอทุกประการ” ส่วนด้านสารวัตรชัชวาลย์ก็หันไปสั่งผู้กองคนใหม่ทันที “ผู้กองให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจสักห้าหกนายมาเฝ้าบ้านนี้ไว้ด้วยนะ จนกว่าทุกๆอย่างจะเรียบร้อย เพราะเราต้องมีการสืบพยาน สิ่งแวดล้อมจากพวกชาวบ้านแถบนี้อีกจำนวนมากอีกด้วย ทุกอย่าง จะประสานกับทางนายอำเภอเขาอีกด้วย” “ครับผ๊ม พร้อมทั้งวิทยุสั่งงานไปยังโรงพักทันที” สารวัตรชัชวาลย์ก็หันไปสั่งนายตำรวจทันที ให้วิทยุไปแจ้งขอ กำลังมาเสริมไว้ด้วย “ครับสารวัตรผมจะจัดเจ้าหน้าที่มาผลัดเปลี่ยนเวรเฝ้าไว้ครับ” เมื่อทุกอย่างครบเรียบร้อยแล้ว นายอำเภอและสารวัตรก็ให้นาง แจ๋วและนางน้อย เดินนำหน้าไปห้องกำนันทันที พลางเปิดเซฟค่อน ข้างใหญ่ออก ต่างช่วยกันค้นและตรวจสอบหลักฐานทุกๆอย่างต่าง ฉงนสงสัยในการกระทำของกำนันทันที ต่างหันหน้าปรึกษากันว่า บรรดาเอกสารที่พบเป็นโฉนดสัญญาที่ดินจำนวนมากแต่ดำเนินการ ผิดกฏหมายทั้งสิ้น เพราะเอกสารนั้นทำไม่ถูกต้องเป็นการเอารัดเอา เปรียบชาวบ้านและเป็นสัญญาโกงไม่ติดอากรแสตมป์อีกทั้งจำนวน เงินก็ไม่ได้ลงไว้ก็มี พยานก็ไม่มีเป็นจำนวนมาก ทั้งนายอำเภอและ สารวัตรจึงตกลงว่าจะส่งเรื่องนี้ให้ศาลท่านพิสูจน์อีกที และควรที่จะ คืนโฉนดจริงทั้ง นส.3 ให้แก่เจ้าของเดิมเขา ตรวจพบเงินจำนวนมาก ทั้งที่ฝากในธนาคารหลายแห่งและเงินสดอีกมากมาย ต่างช่วยกันนับ ลงบันทึกประจำวัน ขอหมายศาลอายัตสิ่งของเหล่านี้ ส่วนโฉนดขอ อาศัยอำนาจศาลสั่งเป็นของหลวงแล้วหาเจ้าของมอบคืนให้แก่ เจ้าของต่อไป สารวัตรและนายอำเภอพลางหันมาปรึกษากันแล้ว ก็ลงความเห็นกันแล้ว ครั้นตรวจทะเบียนบ้านก็ไม่ปรากฏว่าจะมี ญาติใดๆทั้งสิ้นนอกจากลูกชายชื่อแม้นคนเดียว แต่เพื่อความไม่ ประมาทต้องส่งให้ศาลท่านพิจารณาอีกทางหนึ่งเพื่อสั่งการมา เมื่อจัดการตรวจสอบเรียบร้อยแล้วก็ต่างเซ็นต์ชื่อรับรองพร้อม พยานในการตรวจค้นทั้งสองทางเป็นหลักฐาน ด้านสารวัตรรู้ว่า กำนันนั้นค้าของผิดกฏหมายจำพวกยาเสพย์ติดจึงให้ตำรวจเข้าทำ การตรวจค้นภายในบ้านและข้างเคียงอย่างละเอียด พบปืนผิด กฏหมายอีกจำนวนมากจึงยึดมารวมกันไว้ล้วนแล้วเป็นอาวุธร้ายแรง ทั้งสิ้นพร้อมถ่ายรูปเป็นหลักฐานยึดกลับไปโรงพักทันที ทำให้นายอำเภอถึงกับงุนงงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยนึกไม่ถึง ว่ากำนันมั่นนั้นจะร้ายกาจเพียงนี้ แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรทั้งสิ้น........ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2554 09:38 น. - comment id 125625
ต้องฉลองครบร้อยตอนค่ะ
14 สิงหาคม 2554 15:01 น. - comment id 125627
คุณ ช่ออักษราลี ครูเองตอนต้นหมายใจว่าจะเร่งรีบจ๊ะ แต่ยิ่งเขียนยิ้งสนุก ก็เลยปล่อยไปเรื่อยๆ ทั้งที่ แดนพิศวง เขียนไปแล้ว คง 5 ตอน ไว้แล้วล่ะ ว่าจะเร่งเรื่องนี้ให้จบก็จะทำให้ เกิดงุนงง เรื่องฉลองนะไม่หรอกครูเป็น คนยากจนจ้า รักศิษย์รุ่นแรกครูเสมอๆจ้า แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2554 20:49 น. - comment id 125630
กราบครูครับ มาเยี่ยมท่านตอนที่ครบร้อยแล้วนะครับ ดีใจที่ท่านมีความสุข รักษาสุขภาพท่านด้วยครับ
14 สิงหาคม 2554 21:02 น. - comment id 125631
โห ครบร้อยตอนแล้ว ขยันจริง ๆนะป๋า ผมว่าจะเร่มอ่านสักตอนแล้วละน่าจะสนุกแต่อาจจะรอตอนพิมพ์เล่มค่อยอ่านก็ได้นะครับ
15 สิงหาคม 2554 10:44 น. - comment id 125635
สวัสดีค่ะ.....มาอ่านงานค่ะ สบายดีนะค่ะ...คุณครูแก้วประเสริฐ
15 สิงหาคม 2554 16:48 น. - comment id 125639
คุณ ฤกษ์ (รูปหล่อ) ไม่หรอกครับผมก็เขียนแบบสนุกๆไว้ ทั้งสองทางแหละครับ ฝึกฝนสมองไว้ไม่ให้ เสื่้อมแต่ก็อดจะเสื่อมไม่ได้ เป็นไปตามร่าง กายของคน ย่อมมีเกิด แก่ เจ็บ เหี่ยวย่น และ ก็ตายไปในที่สุดแหละครับ เขียนเท่าไหร่ เขียนได้ก็เขียนครับ ทดลองดูซิพ่อรูปหล่อ สนุกแบบคนละอย่างกับร้อยกรองมากเหมือน กันนะครับ รักมากๆเสมอ แก้วประเสริฐ.
15 สิงหาคม 2554 16:51 น. - comment id 125640
คุณ กลั่นแก้ว ก็ไปเรื่อยๆแหละจ้าศิษย์เรา สนุกกัน คนละแบบนะ ร้อยแก้วก็สนุกแต่ค่อนข้าง จะยากหน่อย ร้อยกรองก็สนุก ต่างก็สนุกๆ การใช้ปัญญาร้อยแก้วจะใช้มากกว่าจ๊ะ หากมีเวลาว่างๆก็ลองหัดเอาไว้เถอะไว้ ตอนแก่ๆจะได้มีของเล่นเพิ่มขึ้นอีกจ้า รักศิษย์เราเสมอๆ อ้อๆๆ ปล่อยมันแล้ว ล่ะจ้าร่างกายเราทำช่วยเท่าที่จะทำช่วย ได้เท่านั้นแหละจ้า รักมากๆเสมอ แก้วประเสริฐ.
15 สิงหาคม 2554 16:54 น. - comment id 125641
คุณ สุญญะกาศ ครูขอโทษด้วยนะที่มาตอบตอนท้าย ไว้จ้า เพราะคนแก่ก็แบบนี้แหละ พยายาม ตั้งสติไว้แล้วยังอดหลงๆลืมๆไม่ได้นะ คงไม่ ว่ากันนะ สังขารร่างกายเราครูปล่อยแล้วล่ะ นอกจากสนุกๆไปวันๆเท่านั้นเอง รักศิษย์เรามากๆเสมอ แก้วประเสริฐ.
16 สิงหาคม 2554 21:05 น. - comment id 125668
ผมว่าครูเดินเรื่องไปยาวๆคงจะดีกว่าครับ ให้เป็นนวนิยายไปเลย
17 สิงหาคม 2554 02:32 น. - comment id 125673
คุณ กิ่งโศก อันที่จริงจะรวบรัดก็ได้นะแต่ว่ากล้วว่า เรื่องนี้คนอ่านจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก เพราะยังมีเรื่องต่ออีกเรื่องหนึ่ง คือ แดนพิศวง อยู่นี่ก็เขียนได้แล้ว 5 ตอน แต่เรื่องนี้มันยาก จริงๆเสียด้วย เลยชะลอไว้ก่อน เรื่องหลังนี้ จะค่อนข้างจะยาวแน่นอน ด้วยเนื้อเรื่องนี้ ขนาดย่อมาบ้่างแล้วนะ อีกไม่เท่าไหร่ ก็จะจบแล้วล่ะซิแต่ก็คงไปอีกหลายๆ ตอนนะ เพราะเรื่องนี้ครูเขียนตอนต่อตอน ไว้ไม่ได้เขียนล่วงหน้าไว้ ส่วนแดนพิศวง เขียนเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องรอให้ เรื่องนี้ตกหน้าไปก่อนค่อยเขียนจ้า รักศิษย์เราเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
18 สิงหาคม 2554 23:14 น. - comment id 125776
หวัดดีค่ะ ครู... และแล้วก็มาถึงตอนที่ 100 พอดี... ยังไม่จบใช่หรือเปล่าค่ะ...
19 สิงหาคม 2554 01:46 น. - comment id 125777
คุณ เทียนหยด ยังจ๊ะศิษย์ที่ครูรักยิ่ง หากจะเร่งรีบเกิน ไปก็ไม่ดีนัก หากคิดก็จะอยู่ใน 70-80% เท่านั้นเอง ศิษย์กิ่งโศกจะให้ขยายออกไป อีกที่จริงครูสามารถทำได้แต่ เพียงติดอยู่ ในเรื่อง แดนพิศวง ที่เคยลงไว้บทหนึ่งนั้น ซึ่งเรื่องนี้ยากมากๆ แต่ครูเขียนล่วงหน้าไว้ 5 บทแล้วล่ะ เมื่อยามว่างๆนะ หากจะนำมา ลงก็จะไม่ดีนักจึง คอยเรื่องนี้ให้จบเสียก่อน จึงจะเอามาลงทั้ง บทหนึ่งและบทสอง พร้อมๆกัน เผื่อกันลืมไว้จ้า งานเขียนนี้ ใช้สมองมากๆ ครูเบื่อทางร้อยกรองแล้ว ล่ะจ้า แต่ร้อยแก้วนี้ยั่วยวนท้าทายมากกว่า นัก ที่เขาเขียนกันนั้นเป็นแค่ธรรมดา เท่านั้นเองเป็นสิ่งรอบตัวที่มองเห็น แต่ ของครูต้องเอาหลายๆอย่างมาเข้ากับ จินตนาการดำเนินเรื่องอีกด้วย ทั้งยังต้อง จดจำตัวลครไว้อีกด้วย จึงยากที่จะเขียน จ้า อยากหัดลองอ่านเรื่องสั้นๆที่ครูเขียน ไว้ก่อนก็ได้ แล้วหัดเขียนอย่าเอาสิ่ง แวดล้อมที่เคยเห็นมาเขียน ให้หัดสร้าง จินตนาการไว้ผสมผสานกับสิ่งที่เห็นก็ จะได้เรื่องตอนแรกก็ขัดๆกันอยู่ แต่พอ นานเข้าก็ไม่ยากหรอกมันเกิดเองแหละ ส่วนเรื่องนี้ครูเขียนเป็นตอนๆครั้นตกหน้า ไปก็เขียนทันทีแ้ล้วก็ส่งเลยจ้า รักศิษย์ เรามากๆเสมอจ้า หัดไว้เราจะได้ทั้งร้อย แก้วและร้อยกรองนะ แก้วประเสริฐ.
21 สิงหาคม 2554 09:38 น. - comment id 125803
สวัสดีครับมีความรู้สึกดีดีมาฝาก คุณชายฯ เสมอๆคือความคิดคำนึงถึง
21 สิงหาคม 2554 15:53 น. - comment id 125808
คุณ ทางแสงดาว สวัสดีครับผมเองยังคิดว่าคุณต้องมาเยี่ยมบ้าง ในฐานะคนรักชอบพอกัน รักและคิดถึง เสมอจ้า แก้วประเสริฐ.