ลมหายใจที่จากไป

รอยทาง

' กลับมาบ้านเถอะ   แม่อาจจะไม่ได้อยู่กลับเราแล้ว 
   เสียงของพี่สาวแว่วมาทางเสียงโทรศัพท์จากเมืองไทย      ถึงกับทำให้คนฟังนั่งนิ่งเงียบครู่หนึ่ง   วีซ่าก็มาหมดอายุเพิ่งไปต่อเมื่อวาน    (4 กรกฎาคม 2554) รออีก 1 สัปดาห์ถึงจะได้    แต่หัวใจของแม่เพียงแค่เสี้ยววินาทีมีค่ายิ่ง       มองไม่ออกว่าจะไปเอาสมุดวีซ่าออกมาได้อย่างไร    ในใจก็แว๊บคิดมาได้ถึงเพื่อนที่เป็นตำรวจ        จึงตัดสินใจติดต่อโทรหา       เขายินดีพาไปที่สถานีตำรวจสำหรับต่อวีซ่าของชาวต่างชาติ    และพาเข้าพบกับหัวหน้าฝ่ายที่มีอำนาจการตัดสินใจ  บอกเหตุผลจะกลับเมืองไทยด่วนคุณแม่ป่วยหนัก     เขาบอกว่าอีกชั่วโมงครึ่งให้มารับได้ตัดคิวให้ก่อน 
หลังจากรับสมุดต่อวีซ่า       รีบกลับมาที่บ้านเพื่อติดต่อจองตั๋วเครื่องบิน  ปรากฎว่าที่นั่งเต็ม   ตัดสินใจโทรกลับไปหาพี่สาวอีกครั้ง   ตอนนี้หมอกำลังปั๊มหัวใจแม่อยู่     พี่สาวบอกมาตามสาย       กลับไม่ได้แล้ววันนี้เพิ่งได้วีซ่าตั๋วเครื่องบินก็ไม่มี      ฉันตอบกลับไปด้วยความเศร้าใจ   ไม่เป็นไรวันไหนก็ได้    พี่สาวตอบ          แม่เป็นอย่างไรบ้าง   ฉันถามตอบ        'กำลังอยู่กับหมอ    ฉันถามกลับไปด้วยหัวใจที่สั่นระทึก  ภาวนาขอให้แม่จงรอคอยลูกด้วยอย่าเพิ่งจากไปไหน  
เข้าไปจุดเทียนสวดมนต์ขอให้คุณพระคุณเจ้าช่วยเยื้อชีวิตแม่ของลูกด้วย     เทียนที่จุดส่องแสงสว่างไม่นานก็ดับวูบและหล่นลงมาที่พื้น   รีบจับคว้าขึ้นมาและจุดไฟใหม่อีกครั้ง    ใจไม่อยากจะคิดไปในทางที่ร้ายได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น     สิบกว่านาทีผ่านไปหัวใจที่กระวนกระวายโทรกลับไปอีกครั้ง       แม่ไม่อยู่กับเราแล้ว    เสียงพี่สาวแผ่วเบามาตามสาย      นี่มันคือความจริงหรือความฝันกันแน่      ไม่อยากเชื่อหูของตนเอง     เรื่องราวเหล่านี้มันได้เกิดขึ้นจริงๆ       แล้วหรือ  สำหรับคำว่าสูญเสีย  และสูญสิ้นแม่บังเกิดเกล้าของฉัน .... 
คำพระพุทธเจ้ากล่าวไว้ว่                   'ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ     ดูมีค่ายิ่งใหญ่นัก     หากสิ่งเหล่านี้ไม่เคยได้พบปะเผชิญกับใคร         แม่ของฉันวัย 75 ปี     ป่วยด้วยโรคกระดูกพรุ่นขั้นรุนแรงเดินไม่ได้มา 2 ปี         จนกระทั้งลามมาที่ไต  ต้องทำการล้างฟอกไตวันเว้นวัน   ที่ผ่านมาแม่ต้องเลี้ยงดูแลส่งเสียให้การศึกษาลูก 8 คน จนประสบความสำเร็จ  หลังจากคุณพ่อเสียชีวิตมากว่า 40 ปี  
ณ วันนี้ลูกของแม่ประสบความเร็จทั้งชีวิการศึกษา       แม้ลูกของแม่บางคนเป็นถึงอาจารย์แพทย์   เมื่อถึงเวลาก็มิสามารถหยุดยั้งชีวิตได้  แต่ลูกๆ ทุกคนได้มีโอกาดูแลปรนิบัติแม่เป็นอย่างดี    ดูแล   อาบน้ำเช็ดตัว ทำอาหาร  เฝ้าดูแลไม่ขาดระยะแม้จะอยู่ต่างประเทศ   ทุกปีก็จะกลับไปดูแลผลัดเปลี่ยนกันกับพี่ๆ     โทรให้ได้ยินเสียงของแม่ทุกวัน  มีความสุขเมื่อมีโอกาสได้ทำให้ท่าน        ลูกกลับมาเพียงแค่หกเดือนให้หลังแม่ก็จากลูกไปเสียแล้ว       ขอให้แม่จงไปสูสุคติทุกภพไป....
ขอกราบขอบพระคุณ คุณพ่อ-แม่ 
ยิ่งใหญ่แท้ลูกได้เกิดมาสู้ดูโลกกว้าง
เผชิญด้วยหัวใจแกร่งกล้าอยู่ในทรวง  
จงหมดห่วง  พ้นทุกข์  เป็นสุขเทอญ
หากวันนี้ยังมีแม่พ่อแม่อยู่     ขอทุกคนจงปฎิบัติความดีแก่ท่านเถิด   และขอให้ทุกคนจงมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข    หากแต่พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาดูโลกหรือไม่   เพียงเสี้ยววินาทีก็มิอาจรอคอยได้สำหรับลมหายใจที่จะลาลับไป ......   อย่างไม่มีวันหวนกลับอีกเลย				
comments powered by Disqus
  • kirati

    4 สิงหาคม 2554 19:19 น. - comment id 125440

    ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ....
    
    พยายามมองทุกอย่างเป็นสัจจะ นะครับ...
    
    เป็นกำลังใจให้...6.gif11.gif6.gif36.gif
  • วา ฉางน้อย

    7 สิงหาคม 2554 13:31 น. - comment id 125505

    พี่รอยทางคะ 
    
    วาเสียใจด้วยนะคะเรื่องคุณแม่ที่สูญเสียไปคะ
    
    อ่านเรื่องราวของพี่แล้วทำให้นึกถึงตัวเองตอนที่เตี่ยเสียไปน่ะคะ
    
    ช่วงนั้นจะหลอนมากๆกับเสียงโทรศัพท์
    
    ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากได้ยินเสียงโทรศัพท์
    
    แต่แล้วเราก็หลีกไม่ได้จริงๆด้วยคะพี่
    
    .....เราต้องยอมรับความจริงว่า ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม
    
    ตอนแรกไม่มีน้ำตาลที่จะไหล
    
    ไม่มีน้ำตาตอนร้องไห้ มีแต่ความเงียบ
    
    มีความรู้สึกว่า ทำไมรถวิ่งว้าซะเหลือเกิน
    
    นั่งรถตู้จาก กทม. กลับสุราษฯ
    
    ใจเราไปไวยิ่งกว่ารถค่ะพี่
    
    แต่พอรถเริ่มใกล้จะถึงบ้านเราแล้วน่ะซิคะ
    
    เสียงร้องจากหัวใจบอกเราว่า
    
    ไม่ ไม่ ฉันไม่อยากกลับบ้าน
    
    ฉันไม่อยากกลับไปเห็นสภาพนั้น
    
    ไม่อยากเห็นภาพเตี่ยที่นอนนิ่งหมดลมหายใจบนเตียงน่ะคะ
    
    เตี่ยยังรอลูกๆทุกคนกลับมาพร้อมหน้ากัน
    
    ไม่อยากเห็นบ้าน บ้านที่ไม่มีเตี่ยอยู่ในบ้าน
    
    ......กว่าวาจะผ่านวันนั้นมาได้ วาก็เหมือนช็อคกับเหตุการณ์นั้นอยู่นานคะ 
    
    ต้องทำใจอยู่นาน 
    
    วา ทำได้เพียงเขียนระลึกถึงเตี่ยวความทรงจำที่เคยมีด้วยกัน
    
    แม้แต่วันที่เตี่ยจากไป วาก็เอามาเขียนเป็นเรื่องสั้น
    
    ว่า ณ.วันนั้นเรามีความรู้สึกอย่างนี้นะ
    
    หัวใจเราเป็นอย่างงี้นะ แทบจะหมดเรี่ยวแรงที่จะทำอะไรต่อไป
    
    ....... คนที่จากไป ท่านไปมีความสุขแล้วล่ะคะพี่รอยทาง
    
    แต่คนข้างหลังน่ะซิคะ ยังต้องต่อสู้ชีวิตอีกยาวนานกระมัง
    
    งา เป็นกำลังใจให้พี่รอยทางนะคะ
    
    ขอให้ผ่านคืนวันที่มีความรู้สึกแบบนี้ให้เร็วไวนะคะ
    
    เข้มแข็งนะคะพี่รอยทาง
    
    เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ
    
    
    ปล. อ่านเมล์พี่รอยทางแล้วนะคะ 
    
    วาตอบเมล์แล้วนะคะพี่
    
    
    อ่อ   ตกลงว่า พี่กลับเมืองไทยได้ใช่ไหมคะพี่ ?
  • อนันต์

    9 สิงหาคม 2554 16:48 น. - comment id 125547

    ความพลัดพรากเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็สุดจะห้ามใจ เราเองทั้งพ่อและแม่ได้เสียไปหมดแล้ว มีเพียงความทรงจำดีๆที่จะ
     ระลึกถึงท่านทั้งสองตลอดไป
  • ตาไร้แวว

    11 สิงหาคม 2554 17:33 น. - comment id 125588

    เสียใจด้วยค่ะ  อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยอ่าค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน