เผลอแป๊บเดียว หลังผ่าตัด นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว อะไรต่อมิอะไรในความเป็นฉัน เปลี่ยนแปลงไปมากมาย จากคนมีสองเต้า กลายเป็นคนเหลือเพียงหนึ่งเต้า จากคนมีผม กลายเป็นคนหัวเหม่ง ผมเกรียน และ ผมสั้น จากคนที่มีสุขภาพดี กลายเป็นคนป้อแป้ด้วยผลของเคมีบำบัด จากคนที่นาน ๆ ออกเดินทางซะที กลายเป็นคนที่ออกเดินทางถี่มาก ก่อนคีโมเข็มแรก ฉันไปนอนทำใจอยู่ที่สวนของลุงนก ได้อยู่กับธรรมชาติ แวดล้อมไปด้วยต้นไม้เขียว ๆ พอทำให้ใจชื่นบ้าง เอางี้ ..เริ่มตั้งแต่ช่วงผมร่วงเลยละกัน วันที่ผมร่วงคือวันคริสมาสต์พอดิบพอดี ในเดือนแรกของปี ก็เดินสายซะแล้ว ต้องไปงานแต่งงานของญาติผู้น้อง เขาแต่งงานที่ จ.นครราชสีมา แล้วก็ไปเตร็ดเตร่ที่งานเจียไต๋ ดูพืชสวนที่เมืองกาญจน์ จากนั้นก็ไปผลุบโผล่แถว ๆ ม.เกษตร ในงานเกษตรแฟร์
ไปพักฟื้นที่พัทยา ผ่อนคลายอารมณ์ ปรับจิตใจ ผู้ใหญ่ใจดีถามว่า .. อยากไปไหน จะพาไป ก็เลยตอบว่า อยากไปปิคนิค สบาย ๆ นั่ง ๆ นอน ๆ บนผืนหญ้า ในที่สุดก็ไปปิคนิกริมน้ำ กินข้าวเหนียวมะม่วง ปูนึ่ง กุ้งอบ แปะก๊วย ช่วงนั้นไปพัทยาบ่อยมากแทบทุกสัปดาห์ทีเดียว ยังมีโอกาสแวะไปเที่ยวที่สวนสัตว์อีกต่างหาก
ไปเตร็ดเตร่ที่อัมพวา แวะกินอาหารอร่อยปลาทูสด ๆ ได้พบเจอผู้คนมากมายที่มีมิตรไมตรี ต่างก็ยิ้มแย้มให้กัน ยังคงเดินชิมอาหารข้างทาง ยืนกินไอติมรถเข็น คนเยอะนะ เบียดกันไป เบียดกันมา ต้องระวังตัวสุด ๆ กลัวจะโดนเบียดแผล อัมพวานี่ เคยมาหลายหนแล้ว ชอบที่เดินมาดูขนมน่ะ เคยพักค้างกับพรรคพวกอาศรมชาวโคลง ดูหิ่งห้อย เอาไว้มีโอกาสเมื่อไหร่ จะไปกระตุ้นอดีตอีกสักที
ในเดือนกุมภาพันธ์ ก็ยังไปทอดไข่เจียวที่โรงทานในงานฝังลูกนิมิตรที่วัดลิ้นช้าง หลวงพ่อหมั่นเดินมาดูบ่อย ๆ คงจะมาสังเกตว่า ใกล้จะวูบแล้วหรือยัง ? ก็ยังอุตส่าห์เข้าป่าไปอีกนะ พาพรรคพวกไปดูทำเลที่เคยสร้างฝายชะลอน้ำไว้ และทุกคนก็มีความคิดเห็นตรงกันว่า ฝายแม้ว ท่าจะไม่รอด เวลาน้ำแรง ฝายพัง น่าจะปรับเปลี่ยนเป็นฝ่ายกึ่งถาวร ลงปูนซีเมนต์ซะเลยดีกว่า เมื่อคิดดังนั้นแล้ว ก็สำรวจพื้นที่กันล่ะ คราวนี้บุกป่าฝ่าดงไปจนถึงต้นน้ำเลยทีเดียว ต้องปีนป่าย ต้องลุยน้ำ ตอนที่จะต้องปีนก้อนหินใหญ่และไถลตัวลงมา กลัวโดนแผลผ่าตัดแทบแย่
ในคราวที่ตัวเองป่วย เพื่อนฝูงก็พากันห่วงใย โทรมาถามสารทุกข์สุกดิบ คราวที่เพื่อนป่วย คนป่วยก็เลยต้องไปเยี่ยมคนป่วย ชุลมุนวุ่นวายดีจัง มองไปมองมา เอ้ย เอ็งก็ป่วย ข้าก็ป่วย ... สรุปแล้ว ใครจะม่องเท่งก่อนกันก็ไม่รู้ งานนี้มีลุ้นเฟ้ยยยย
ที่ ๆ มีอากาศบริสุทธิ์ ผู้ใหญ่ใจดีก็มักจะพาคนป่วยไปสูดอากาศที่นั่น ไม่เว้นฟาร์มแกะ ฟาร์มโค กระทั่งคอกแพะ สูดอากาศที่มีกลิ่นมูลของพวกมัน ทำให้รู้สึกโล่งตะหมูกดีแท้
อ่า ...... ผลไม้ที่สุดโปรดของฉันคือทุเรียน ก็รู้อยู่นะว่าร้อน ยิ่งตอนนี้มีสารเคมีวนเวียนอยู่ในร่างกาย จนอุณหภูมิสูงกว่าใคร ๆ เขา อารมณ์อยากกินทุเรียนมันก็ยังคงมีอยู่ "จะพาไปกินทุเรียนที่อร่อยที่สุดในโลก" ผู้ใหญ่ใจดีบอกอย่างนั้น ..............เย้..............เย้ ......... และแล้วก็ไปตีเมืองจันท์ เอ้ย ไม่ใช่ ไปที่ล้งเมืองจันท์ ไปล้งเงาะ ล้งทุเรียน ล้งมังคุด ... โอย อิ่ม พุงจะแตกเอาเสียให้ได้ แถมได้ไปกินอาหารทะเลสด ๆ สุดยอดไปเลยล่ะ
เมื่อเดือนมีนา ได้จัดงานบุญ บวชเณร ครั้งนั้นมีโอกาสได้เจอเพื่อนในเวปด้วย และถัดจากนั้นอีกสองเดือน ก็ได้ไปงานบุญบวชอีก แต่เป็นบวชพระ ที่พระประแดง เออ ใช่ ก่อนหน้าหนึ่งวัน ฉันยังไปร้องคาราโอเกะ เต้นเย้ว ๆ อยู่แถวป้อมพระจุลเลย หลุดโลกเชียวล่ะ เช้ารุ่งขึ้นถึงจะไปงานบวช ที่วัดจากแดง กินโต๊ะจีน อิ่มมาก ๆ ช่วงบ่ายก็ย้อนกลับเข้าไปที่สวนรถไฟ มีนัดพาสาวสวยหัดขี่จักรยาน ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือแถว ๆ รังสิต ไม่ยักจะรู้มาก่อนเลยว่า เดี๋ยวนี้ร้านที่ขายก๋วยเตี๋ยวเรือ มีอาหารประเภทสเต็คด้วย โอ้วววววว เชยจังฉัน แล้วก็ไปดูโจรสลัด แจ๊ค สแปร์โรว ที่โรงหนังแถวบ้าน
จำได้ป่ะ ที่เมื่อกุมภา ไปสำรวจพื้นที่ในป่าแก่งกระจาน สรุปว่า ได้มีการลงมือสร้างฝายชะลอน้ำกึ่งถาวรเรียบร้อยแล้ว โดยได้รับการอนุเคราะห์งบประมาณจากคนในทีมงานของโครงการฯ พวกเราก็เลยมาตรวจเช็คสภาพเสียหน่อย หลวงพ่อบอกว่า เป็นฝายตัวอย่างที่ดีมาก เพราะหลังจากนั้น ก็มีคนยึดเป็นแบบ และสร้างเพิ่มเติมอีก 2 ฝาย ฝายกึ่งถาวรใช้งบประมาณ ราว 2 หมื่นบาท ต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนโครงการฯ มา ณ ที่นี้ด้วย
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี่เอง ที่จริงเป็นการนัดหมายโดยไม่มีที่หมาย พอดีว่า รับปากรุ่นพี่ไว้ เรื่องที่จะไปสถานธรรมที่อยุธยา ก็เลยจัดคิวให้เป็นไปตามนั้น โดยที่รุ่นน้อง ผู้ที่เป็นสารถี เห็นชอบด้วย เช้าวันนั้น แวะที่ตลาดน้ำก่อน มีเวลาเดินเตร่ประมาณชั่วโมงกว่า ๆ แวะร้านนั้น แวะร้านนี้ ดูของแปลกตาได้ประเดี๋ยวประด๋าว ต้องทำเวลา ซื้อเสื้อมาตัวนึงฝากคนที่บ้าน ซื้อกางเกงผ้าขาวม้ามาฝากตัวเอง กะว่า จะใส่ไปเก็บลำไยในวันรุ่งขึ้น ยังไม่ซักหรอก ฮา เดี๋ยวจะหมดขลังเสียก่อน
นี่เลย หมาด ๆ สด ๆ .. วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไปไร่เก็บตะวันที่เมืองกาญจน์ พี่เขาชวนไปเก็บลำไย แต่ทำไปทำมา ลำไยมีคนสวนเก็บไว้ให้แล้ว ก็เลยไปเก็บน้อยหน่าแทน งานนี้ ฉันได้แต่อยู่แถว ๆ รถ เก็บพริกขี้หนูสวน ไม่กล้าลุยเข้าสวนนัก เพราะว่ายุงชุมเหลือเกิน มันชอบเจาะเนื้อฉัน อีกอย่างฝนก็ปรอยทั้งวัน อยู่ใกล้ ๆ รถ เผื่อฝนแรงจะได้เผ่นเข้ารถ ได้ของติดไม้ติดมือจากสวนมาเพียบ ฉันเก็บกล้วยไว้กินเอง ส่วนน้อยหน่าและลำไยเอาไปฝากพรรคพวกในวันรุ่งขึ้น กลับมาตอนเย็นยังแว่ปไปตลาดน้ำดอนหวายด้วยนะ ช็อปปิ้งได้ผักมาตั้งเยอะเชียว ผักสดดีนะ เวลาเดินผ่านร้านขนม ต้องหักห้ามใจตัวเองแทบแย่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ เดินชิมมันทุกร้านไป เดี๋ยวนี้ทำอย่างนั้นไม่ได้ เอาน่าถึงกินไม่ได้ แค่ดม แค่มอง ก็ยังดีว๊า
แบบว่า .. เล่าข้ามไปก็เยอะ ยกตัวอย่างเช่น - ช่วงคีโมก็ไปคาราโอเกะ (ไม่เจียมบอดี้เลยเนอะ) - แถมช่วงสงกรานต์ ก็ไปนั่งเล่นไพ่เป็นเพื่อนพี่สาว - ไปเที่ยววัดญาณสังวร และวัดเขาชีจรรย์ ชลบุรี - ไปถวายเทียนพรรษา เมืองเพชร - ไปสัมมนา มีโอกาสเวียนเทียนด้วย ที่ นครนายก เยอะ นะ เนี่ย ... สรุปว่า ที่ชอบที่ชอบทั้งนั้นเลย
3 สิงหาคม 2554 17:38 น. - comment id 125405
สวัสดีครับ เยี่ยมมากครับพี่ เข้มแข็งเป็นตัวอย่างให้หลายคน เดี๋ยวจะให้แม่ดูเพื่อเป็นกำลังใจให้ท่าน พี่ผู้หญิงที่ทำงานก็ผ่ากันเยอะ ลูกค้าก็ด้วยครับ ผมจะขอพรพระเผื่อพี่ด้วยนะครับ สู้ๆ หายไวๆนะครับพี่
3 สิงหาคม 2554 18:23 น. - comment id 125406
คุณอิม สุขภาพแข็งแรงดีทั้งกายใจ เลยฟื้นตัวไว ยินดีด้วยค่ะ ตอนนี้ญาติก็เป็นและตัดออกเหมือนกัน วันนี้เขาเข้า กทม ไปทำคีโม ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้วมั้ง ไม่ได้ไปเยี่ยมนานมากแระ ครั้งแรกๆเวลากลับมาเห็นเขาเพลียมาก บางทีไม่ลุกหลายวันเลย เขาซื้อวิกมาใส่ด้วยน่ะ^^"
3 สิงหาคม 2554 20:10 น. - comment id 125407
พี่แข้มแข็งมากเลย ขอให้หายป่วยเร็วๆนะค่ะ ยังมีที่ชอบ ที่ชอบ อีกเยอะที่อยากไป ใช่ไหมค่ะ 1 กำลังใจให้พี่อิมค่ะ
3 สิงหาคม 2554 20:38 น. - comment id 125411
แสดงว่าที่ไม่ลงบางที่ ไม่ได้ชอบ
3 สิงหาคม 2554 21:12 น. - comment id 125412
แวะมาเยี่ยมคับ
4 สิงหาคม 2554 21:31 น. - comment id 125419
นับได้ว่าเป็นการออกท่องเที่ยวที่ทุบสถิติของตัวเองทีเดียว เที่ยวก่อนที่จะไม่มีโอกาสเที่ยว และยังมีอีกหลายที่ ที่อยากไป ส่วนที่ไม่อยากไปเลยในตอนนี้ก็น่าจะเป็นโรงพยาบาล ฮา .. ทว่า ทำไงได้ล่ะ เป็นคนป่วย ยังไงก็ต้องพัวพันกับโรงพยาบาล อย่างวันนี้ไปตรวจร่างกายตามที่คุณหมอนัดหมายและรับยามากิน หมอตรวจเต้านม เจออีกล่ะ ตำแหน่งเดียวกันกับข้างซ้ายที่เป็นมะเร็ง โอกาสที่จะเป็นมะเร็งมีสูงทีเดียว ก็เลยต้องมีการนัดตรวจอย่างละเอียดอีก เห็นไหมล่ะ อย่างที่บอกไว้เลย ต้องรีบไปที่ชอบ ๆ เสียก่อน เดี๋ยวจะไม่ทันการ
4 สิงหาคม 2554 06:38 น. - comment id 125421
ลืมบอกว่ารูปข้างบนน่ะ ดูเสร็จแล้ว พรุ่งนี้ลบให้หน่อยนะจ๊ะ เดี๋ยวเจ้าหนี้ตามเจออ้ะ... Thanks จ้ะ นางฟ้าผู้น้อง
4 สิงหาคม 2554 11:01 น. - comment id 125429
เยอะ..นะ.. ได้อ่านพร้อมชมภาพประกอบแล้ว พลอยมีความสุขไปด้วยค่ะ คุณอัลฯเป็นหญิงแกร่งจริงๆค่ะ ชอบรอยยิ้มแป๋นแหล๋น เห็นแล้วชื่นนนใจจังคะ่
4 สิงหาคม 2554 12:22 น. - comment id 125431
เที่ยวอย่างมีความสุข สังเกตุรอยยิ้มบนใบหน้า ปล หัวแทนใจนี่หน้าคุ้นจัง แต่ไหงกลมป็อกเงี้ย อิอิ
4 สิงหาคม 2554 12:25 น. - comment id 125432
อุ๊บซ์ สะกดผิด หมวกแทนใจ ไม่ใช่หัวแทนใจ 555
4 สิงหาคม 2554 13:30 น. - comment id 125433
จริงๆเยอะกว่านี้นะ...เพราะเท่าที่นับ ยังไม่ครบเลยค่ะท่านผู้ชม พอครบเจ็ดเดือนเริ่มนับหนึ่งใหม่สิจ๊ะ ไปเที่ยวใหม่ จั่วหัวว่า " เริ่มต้นเที่ยวใหม่ หลังผ่านไปเจ็ดเดือน" อิอิ แต่คราวนี้หายดีแล้ว คล่องตัวขึ้น ผู้ใหญ่ใจดีก็คงแก่ตัวลงตามสภาพ ถึงคราวที่คนเคยป่วยคงต้องช่วยพาผู้ใหญ่ใจดีเที่ยวบ้างแล้วมังคะ... ขอให้สุขภาพแข็งแรงยิ่งขึ้น และ อย่าลืมไม้ผลัดที่สองที่จะส่งให้คนอื่นนะ ท้ายนี้ขออวยพรให้คนเคยป่วยมีความสุข ก้าวไปข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่น ยืนหยัดอย่างทรนงในความเป็นอัลมิตราต่อไป ปูเสฉวนตัวน้อยนี้หากวันใดอ่อนล้า เดินมาหาผู้ใหญ่ใจดีอีกนะคะ ผู้ใหญ่ใจดีหลายคนคงพร้อมรับกลับบ้านที่พักใจยามเหนื่อยอ่อน
4 สิงหาคม 2554 13:59 น. - comment id 125434
อ่ะจ๊าก...ภาพแรก...เหมือน แม่สาวมุสลิมเรยยย...อิอิ เดินทาง มากมายขนาดนี้... กิงจุ ขนาดนี้... ยิ้มแป๋นแล๋น ขนาดนี้... ลุยงาน ได้ซะขนาดนี้.... เนื้อตัว หัวใจ คงแข็งเปก...เคาะดังก๊องๆๆ...อิอิ อย่างไรก็ดี...หนีพ้น...อิอิ ปล.ผมยาวแว้วอย่าลืมหวีเป๋ล่ะ... อ้อ... ปล.ครั้งที่สอง...อิอิ คุงอิม...เก่งจิงๆนะ...ในสายตาผมอ่ะ...
4 สิงหาคม 2554 14:29 น. - comment id 125435
เยอะ! ได้เห็นรอยยิ้มพิมพ์ใจของคุณอิมแล้วมีความสุข รู้สึกชีวิตมีฟามหมายอ่ะ ขอให้คุณอิมหายวัน หายคืน(กาฝากตัวร้าย) มีความสุขยิ่งๆขึ้นไปนะค่ะ
4 สิงหาคม 2554 15:44 น. - comment id 125437
มอบความรักพร้อมห่วงใยจากใจหนึ่งหัวใจที่แข้มแข็ง
4 สิงหาคม 2554 16:01 น. - comment id 125438
เห็นรอยยิ้มของคุณแล้วมีความสุขจัง ดูจริงใจ มีความสุข สดใส น่ารัก.. เก่งจังเลย..มองที่คุณอิม..แล้วมีพลัง..มองดูตัวเองแล้วทำไมเราไม่สู้...ขอยืมคุณอิมเป็นแบบอย่างความสดใสและมองโลกในแง่ดีนะค่ะ รอยยิ้มความจริงใจจากเพื่อนให้เพื่อนค่ะ
4 สิงหาคม 2554 20:35 น. - comment id 125441
4 สิงหาคม 2554 21:59 น. - comment id 125444
คุณอิม ๗ เดือนที่ผ่านมา หลายคน ก็ใช้ชีวิตไปวัน ๆ บางคนก็เหมือนเปิดม้วนเทปดู ทุกอย่างเดิม ๆซ้ำ ๆ บ้างก็ทำโดยไม่ได้นึกย้อน นี่หากไม่เป็นมะเร็ง คุณก็คงไม่มานั่งเขียนบันทึก ว่า ๗ เดือนที่ผ่านมา ไปไหนมาบ้าง หรือไม่ก็ไม่สละเวลา (งาน ที่ดูเหมือนเชือกที่มัด) ไปตะลอนทัวร์กับเพื่อน พี่ และก็ไม่ทราบว่ารอบตัวเรา มีใครบ้างที่รัก ห่วงใย ใส่ใจ อิอิ...มีอะไรอีกช่วยคิดหน่อยดิ เห็นรูปแล้ว รอยยิ้มแบบนี้น่ะ ท้าทายออก แววตาแบบนี้ เค้าเรียกว่า สู้ไม่ถอยจ้า..... อย่าไปวิตกกังวลกับ จุดที่หมอพบนะคะ ยิ่งพบเร็ว เราก็สามารถกำจัดมันได้เร็ว ที่สำคัญ.... อย่าเครียด อย่ากังวล มองท้องฟ้านะคะ มีแรงใจอีกฟากฟ้าส่งมาให้จ้า ปล. ส่งข่าวให้ทราบด้วยนะคะ
4 สิงหาคม 2554 22:21 น. - comment id 125445
สงสัยเราจะเป็นแฝดนางฟ้า.. วันจันทร์ที่จะถึงนี้ นางฟ้าผู้น้องก็โดนส่งไปทำสแกน ทั้งทรวงอก (พบเซลล์ผิดปกติข้างขวาเหมือนกันค่ะ..) ช่องท้อง และช่วงล่าง เพราะผลตรวจเลือดทุกๆ เดือน ใน 6 เดือนที่ผ่านมา ค่ามะเร็งขึ้นสูงอีกแระ ถ้าต้องไป...ไปพร้อมๆ กันนะ... จะไปเปิดบ้านกลอนบนดวงดาว..อิ..อิ.. ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ...เราจะจับมือกันไว้... รักนะ...
5 สิงหาคม 2554 02:13 น. - comment id 125446
ขออีกเมนท์นะคะ เพิ่งได้ทราบว่าคุณแซมก็เป็นคู่แฝดคุณอัล อย่ากังวลนะคะ สู้ ๆ ค่ะ กำลังใจเท่านั้นที่เป็นยาต้านมะเร็งค่ะ นี่เลย ฝากมาเป็นกำลังใจให้กันและกันนะคะ ขออย่าได้ท้อ...นะคะ
5 สิงหาคม 2554 08:12 น. - comment id 125448
คุงอิม... อ่านแล้ว...แทบช๊อค... ภาวนา...ว่าไม่ใช่ๆๆๆ...ทั้งผู้พี่ ผู้น้อง เรยยย... เฮ้อ..... (จะเฮ้อทำไม...เสียกำลังใจหมด) ป่าวหรอก....จร้า... เฮ้อ...อ่ะ...ให้ถอนหายใจตาม..... เฮ้ออออ....ถ้ามันใช่...มันก็คือใช่... ก็ต้องยอมรับ...ในใจ.... แล้วค่อยๆ...พลิกตำรา...ลุยกะมันอีกตั้ง...เน๊อะ... สู้สู้...(ต่อ) ...อย่าได้ท้อล่ะ...นางฟ้า ผู้พี่ผู้น้อง... ฮึกเหิม ๆๆ ไว้.... ของผู้พี่... ของผู้น้อง... อังนี้...ของพี่ปราง...อิอิ
5 สิงหาคม 2554 11:55 น. - comment id 125453
น่าชื่นชมนัก น้อยคนนะทีจะเข้มแข็ง อดทน ทนอด เหมือนหนูอิม เราไปที่ชอบ ที่ชอบด้วยกันหลายทริบ ไม่เคยรู้สึกเลยว่าไปเที่ยวกับคนป่วย ยังมีที่ชอบ และที่ที่ไม่ค่อยขอบ แต่จำเป็นต้องไป อีกหลายที่ ที่เราต้องตะลุยกันต่อ เป็นกำลังใจให้น้องเสมอนะ ยังต้องพาสังขารที่หุ้มใจอันเข้มแข็งดวงนี้ ไปทำประโยชน์ให้สังคมอีกนะ ยังคงต้องรักษาสังขารนี้ เพื่ออยู่ดูความสำเร็จของหัวใจนอกกายหนูอิมอีกดวง ตรงจุดนั้นคือที่ชอบ ที่ชอบ ของจริง ท่องเที่ยว เพื่อเยียวยาจิตและสังขาร ดูแลตัวเองนะ พี่สาวที่พัทยา (เฉลย ผสมสิบ สี่ถ้วย!! ) 5555
5 สิงหาคม 2554 15:12 น. - comment id 125455
เป็นสุขใจชะมัดเลยอ่ะ............ พี่สาวอีกคนที่ประชาอุทิศได้แต่ยิ้ม จะไปเที่ยวที่ไหนอีกล่ะคุณหนูอิม....... เดี๋ยวพี่สาวที่ประชาอุทิศพาไป ตัดหน้าพี่สาวที่พัทยา ประมาณว่า ทำคะแนนนำอ่ะค่ะ.....555
5 สิงหาคม 2554 15:17 น. - comment id 125456
ส่วนอีกข้างไม่ต้องกลัวจ๊ะ คาดว่าคีโมชุดนี้เอาอยู่............ เพราะให้ไปทางเส้นเลือด ยังไงก็คุมได้ แต่การตัดอาจต้องมีล่ะ ถ้าหมอสั่ง ถ้าหมอไม่สั่ง เก็บไว้ให้พี่สาวคนนี้จับๆบ้าง จะได้ไม่ลืมว่าเป็นน้องสาวนะจ๊ะ เอาน่า ถ้าเป็นจริง พี่สาวคนนี้จะพาเที่ยวเอง ไปไหนไปกัน จะกลัวอะไร ไม่ใช่ไม่เคย ดูพี่สาวไว้ แล้วน้องจะได้ไม่ท้อถอย ฮ่า.....
5 สิงหาคม 2554 15:20 น. - comment id 125457
พี่สาวที่พัทยา มีอะไรข้องใจหรือเปล่า แน่จริงก็มาชกกันเด๊ะ....................... แล้วเมนู " อะไรก็ได้" คิดได้หรือยัง หรือต้องให้มีการเสียเลือดเสียเนื้ออีก อิอิ อาการอย่างนี้เค้าเรียกว่า แย่งอัลมิตรา ฮ่า
5 สิงหาคม 2554 21:50 น. - comment id 125461
อ่านด้วยความรู้สึกทึ่งมากๆค่ะคุณอิม.. พูดไม่ออก แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะพูดคือ คุณเป็น ตัวอย่างของความเข้มแข็งได้ดีมาก ถึงมากที่สุด ความสดใสที่อ้อยเห็น..อ้อยเชื่อว่า คุณอิมมีใจเกินร้อยแล้วหล่ะ... เป็นกำลังใจให้เสมอ...สู้ๆค่ะ
5 สิงหาคม 2554 21:59 น. - comment id 125464
คุณสุญญะกาศ .. ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยจะต้องเจ็บป่วยอะไรเยี่ยงนี้มาก่อน แต่ทำไงได้ ความสุข/ความทุกข์ มันอยู่ที่เราจะเลือกจริง ๆ ค่ะ เรื่องของความรู้สึกเจ็บกาย พอจะควบคุมโดยการลืม ๆ มันไปซะ อัลมิตราน่ะ บอกกับตัวเองว่า .. "ไม่เป็นไร" ค่ะ คุณจวว .. เป็นกันเยอะเลยทีเดียวค่ะ มองไปซ้ายขวาหน้าหลัง มะเร็งรุม ตอนที่อัลมิตราไปคีโม บางทีตอนไปก็ไปคนเดียวนะ แต่ขากลับมีคนมารับ เอฟเฟคหลังคีโมก็แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลค่ะ บางคนแพ้มาก บางคนไม่แพ้ ต้องดูแลเอาใจใส่กันมาก ๆ ค่ะ คุณใจปลายทาง .. :) หมอบอกว่า โรคนี้รักษาไม่หาย ให้ระวังไว้ตลอดชีวิต ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะผลุบโผล่ที่ตำแหน่งไหนของร่างกายอีก มีความสุขให้มาก ๆ ไว้ ให้ทำในสิ่งที่ชอบ ให้ไปในที่ที่ชอบ ... คำของหมอนี่ ลึกซึ้งจริง ๆ คุณแทนคุณแทนไท .. อาราย บางที่ที่ชอบไป มันก็ไปบ่อยไม่ดีน๊า เดี๋ยวจะเคยตัว ฮา.. คุณวิทย์ .. :) อัลมิตราลงรูปและบอกเล่าเรื่องราว ก็เพื่อให้เพื่อน ๆ เห็นภาพแล้วสบายใจค่ะ เพื่อนบางคนติดตามข่าวคราวของอัลมิตราเสมอ เมื่อมาเห็นอัลมิตรายิ้มแป้นแล้นคงโล่งใจเนอะ คุณแซม .. อั่นแน่ หลบอยู่หลังต้นไม้ ทำตาวาวซะด้วย คุณแก้วประภัสสร .. นั่นล่ะ เหตุผลที่อัลมิตราลงเรื่องสั้นชุดนี้ค่ะ ก็เพื่อให้เพื่อน ๆ สบายใจนั่นเอง เป็นสิ่งเดียวที่อัลมิตราทำได้ในตอนนี้ค่ะ คุณยาแก้ปวด .. หมวกแทนใจนี่ นายแทนคุณแทนไทให้มาตอนไปเยี่ยมเขา ตอนนั้นยังหัวเหม่งอยู่เลยนะ เขาบอกว่าเป็นหมวกใบโปรด แอ๊ดคาราบาวให้มาอีกที ถ้าเจอกันแล้วไม่สวมหมวกใบนี้ ก็จะถามถึง คุณมัสลิน .. เพื่อน ๆ คงจะพอทราบกันแล้วว่าผู้ใหญ่ใจดีที่อัลมิตรากล่าวถึงคือคุณมัสลินนั่นเอง และยังมีอีกหลายคนที่ถึงแม้ว่าจะอยู่ไกลคนละฟากฟ้า ก็ยังอุตส่าห์ส่งกำลังใจมาให้อย่างสม่ำเสมอ บ่อยครั้งที่อัลมิตราเล่าถึงความโชคดีที่ได้เป็นมะเร็งให้กับเพื่อน ๆ ได้ฟัง .. พวกเขาบอกว่า น้ำตาจะไหล ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว อัลมิตราเล่าถึงหนังสือเพชรพระอุมา ที่มีผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่งมอบให้ยกชุด 48 เล่ม เหมือนกันเลย .. ความรู้สึกนั้น เป็นความรู้สึกที่กล้าบอกได้ว่า "ไม่มีวันลืม" ค่ะ คุณกีรติ .. ในวันที่นอนแหม่บอยู่ที่ รพ. หลังผ่าตัด คุณแบมอ่านบทกลอนที่คุณเขียนถึงอัลมิตราให้ฟัง ช่างซาบซึ้งใจจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าจะมีคนเขียนให้ จากนั้นทุกครั้งที่คีโม คุณก็จะส่งเสียงเป็นเพื่อนตลอด คอยให้กำลังใจ คอยปลอบว่าไม่เจ็บ คุณเป็นผู้ชายที่อบอุ่นนะ :) ท่าจะพุงอวบอ้วนเหมือนป๋าเทพแน่ ๆ เลย คุณน้ำตาลหวาน .. อัลมิตราบันทึกไว้ตลอดว่าไปที่ไหนมาบ้าง โดยอาศัยสมุดเล่มเล็ก ๆ ที่คุณแซมส่งมาให้ พอพลิกกลับไปอ่าน โอ้ .. เยอะจริง ๆ แฮะ บางเดือนแทบทุกสัปดาห์ไม่อยู่ติดบ้าน ใครมาเยี่ยมก็จะไม่เจอ แต่ใครจะไปรู้ล่ะ ว่า .. อัลมิตราแอบไปตะแรดแต๊ดแต๋ อยู่ข้างนอกบ้าน จริง ๆ นะ แม่บ้านที่ตึกยังบอกเลยว่า "คุณผู้หญิงจะออกไปไหนอีกล่ะคะ วันก่อนมีคนมาหา วันโน้นมีคนมาเคาะประตูเรียก วันโน้นคนนั้นถามถึง" คุณทางแสงดาว .. ขอบคุณมากค่ะ อัลมิตราน่ะ ตัวโตก็จริง แต่บางทีก็ใจเสาะน่าดูทีเดียว คุณกลั่นแก้ว .. อัลมิตราเป็นคนป่วยที่มีความสุขนะ รอยยิ้มที่เกิดจึงเป็นรอยยิ้มที่เปิดเผยว่าสุขจริง ๆ ก็อยากให้คนที่รู้สึกว่าตนเองมีความทุกข์ ทบทวนและทำความเข้าใจเสียใหม่ว่า ความสุขอยู่ที่เราเลือกค่ะ คุณกิ่งโศก .. รู้หรอกน่า ว่าพูดไม่เก่ง แต่ก็รักใครบางคนหมดใจ 5555 คุณปรางทิพย์ .. อยากจะบอกว่า ผู้ใหญ่ใจดีรอบตัวอัลมิตรา มีแต่สวย ๆ ทั้งนั้นเลย สงสัยชาติก่อนอัลมิตราคงเป็นราชาฮาเร็ม จึงมีหลายนางมาปรนนิบัติพัดวี ... ฮา 9 เดือนที่ป่วย 7 เดือนที่ตะลอนเที่ยว อัลมิตราบันทึกเรื่องราวไว้ตลอดค่ะ เพิ่งจะมาให้ความสำคัญกับตัวเองก็ตอนป่วยนี่ล่ะ อย่างที่คุณบอกไว้เป๊ะเลย ส่วนเรื่องที่หมอคลำเจออีกข้าง ก็มองว่าโชคดีไป ถ้าใช่มะเร็ง ก็ตัดไป ดีเสียอีก มันจะได้เสมอราบเรียบกันไปทั้งสองข้าง ถ้าไม่ใช่ ก็ไม่เป็นไร เก็บไว้ดู เพื่อให้คิดถึงอีกข้างนึงก็ยังดี เห็นไหมคะ อะไรที่เกิดขึ้น ดีไปทั้งนั้นค่ะ คุณcicada .. ช่วงบนอย่างเดียวก็อักโขแล้วนา ยังจะช่วงล่างอีก 555 ทำอย่างกะตรวจสอบสภาพรถ ถ้ายกเครื่องทั้งหมดได้คงทำแล้วเนอะ อย่ามาสัญญาว่าจะไปพร้อม ๆ กันนะ ... ถ้าอัลมิตราไปก่อนก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าคุณ cicada ไปก่อน อัลมิตราจะนอนไม่หลับเอาอะดิ กลัวผีอ่ะ คุณปรางทิพย์ .. คุณแซมเข้มแข็งมากเลย อัลมิตรายังเห็นเธอเขียนกลอนสนุก ๆ ได้ คุณกีรติ .. :) ร้องเพลงให้ฟังหน่อยจิ คุณจันทร์เจ้าขา (คนสวย) .. พี่ตุ่นใจดีมาก อัลมิตรายังติดใจฝีมือน้ำพริกปู ผัดเห็ด จำได้ตอนปิคนิค ใส่กางเกงเอี๊ยม เผลอหั่นเข้าเนื้อตัวเองตอนทำส้มตำที่ศรีราชา พี่ตุ่นเป็นคนที่เข้าใจอัลมิตรานะ ไม่ต้องพูดให้ยืดยาว เหมือนในเพลงนั้นเลยค่ะ คุณมัสลิน .. คนนั้นก็ดี คนนี้ก็น่ารัก อัลมิตราเข้าใจแล้วล่ะ ทำไมท่านขุนถึงได้หนักใจ ยังคงเหลือนัดที่ "เลียบ-นที" ค่ะ แต่ช่วงนี้เป็นหน้ามรสุม คงจะต้องเว้นยาวไปจนถึงพฤศจิกา ที่เมืองไทยนี่มีที่เที่ยวหลายแห่งเลยทีเดียว ในแต่ละเดือนก็จะมีปฏิทินเที่ยวตลอดค่ะ ส่วนเต้านมอีกข้าง .. มันส่อแววมาแล้วล่ะ ช่วงหลังผ่าตัดใหม่ ๆ ยังนอนฝันร้ายบ่อย ๆ เลยว่า อีกข้างก็เป็นมะเร็ง ฝันบ่อยเข้า ก็เลยชักชิน ดูเหมือนว่า มันเป็นการพยากรณ์ล่วงหน้าค่ะ คุณเทียนหยด .. ในทุก ๆ ความห่วงใย อัลมิตราต้องแคร์ความรู้สึกนั้นค่ะ ในสิ่งที่อัลมิตราทำได้ในตอนนี้ ก็คือทำให้ทุกคนสบายใจค่ะ :)
6 สิงหาคม 2554 10:33 น. - comment id 125477
อ่านแล้วนึกถึงเพลงพระราชนิพนธ์ "ยิ้มสู้"ล่ะ
6 สิงหาคม 2554 12:05 น. - comment id 125489
คุณอัลมิตราช่วยบอกพี่สาวที่ประชาอุทิศหน่อยว่าอยากมาปิคนิคที่พัทยาอีก พี่สาวที่พัทยาจะจัดเมนู อะไรก็ได้ไว้ต้อนรับ ข้อมูลคาราโอเกะผิดพลาดค่ะ ทริปนั้นน่ะ เกือบตีห้า ไม่ใช่ตีสอง เที่ยวหน้าเราตะลุยราตรีกันยันเช้า เอาป่ะ รักนะเด็กไฮเปอร์
6 สิงหาคม 2554 14:07 น. - comment id 125495
คุณโคลอน .. ยิ้มไว้ก่อน อัลมิตราเลียนแบบรพินทร์ ไพรวัลย์เลยนะ คุณจันทร์เจ้าขา ( คนสวย) .. กว่าจะได้คิวมานี่ แทบจะต้องรอจับสลาก รอจนเงก คราวนั้นคาราโอเกะ กลับถึงที่พักเกือบตีห้า จำได้ 555 แต่ไม่กล้าเขียนอ่ะ แบบว่า มันดูเหมือนไม่ทำนุบำรุงสังขารยังไงก็ไม่รู้ ว่าแต่ว่า .. เอาอีก เอาอีก
6 สิงหาคม 2554 21:00 น. - comment id 125500
"you say it best when you say nothing at all" เพลงประจำของเรา มีเกร็ดเล็กน้อยในทริบไร่เก็บตะวัน คุณอัลเธอนั่งรถเบาะหลัง พี่ตุ่นนั่งข้างๆ ทุกครั้งที่รถจอดและลงจากรถ พอขึ้นรถคุณอัลเธอจะต้องย้ายข้างจากหน้าต่างซ้าย ไปนั่งหน้าต่างขวา เหตุผลคือเธอต้องให้องศาคอพอดีเสมอกัน เพราะหันหน้ามาทีไร ก็จะสบตาพี่ตุ่นที่คอยมองเธอด้วยความรักเสมอ เธออายจนพวงแก้มทั้งสองแดงก่ำ ที่ไหนได้ ทำเป็นอายไปงั้น นั่งเบียดชิดกันจนพี่ตุ่นต้องเอาเข่าเธอมากอดแนบอก มิยักถอยหนีแฮะ แถมยังแอบเมาท์ว่าโดนพี่ตุ่นลวนลาม 55555 เอาอีก เอาอีก
6 สิงหาคม 2554 22:00 น. - comment id 125501
คุณจันทร์เจ้าขา .. ก็มันเมื่อยคอนี่นา จ้องอยู่ได้ ไม่เข้าใจเล้ย ส่วนเรื่องลวนลามอัลมิตรา ... 555 จะบ้าตาย ทำไปด๊ายยยย เนี่ย กระดูกคอเอียงไปข้างนึงเลย เคล็ดอีกต่างหาก ก็เลยต้องสลับที่นั่งบ้าง แต่ถึงยังไง ก็ไม่พ้นยั่วสวาทอยู่ดีนั่นแหล่ะ
11 สิงหาคม 2554 14:51 น. - comment id 125581
เด้วจาร้องเพลงให้ฟัง...อิอิ
11 สิงหาคม 2554 20:19 น. - comment id 125591
วันก่อนฟังเพลงจากคุณแก้วประภัสสรแล้ว ถ้าได้ฟังเพลงจากคุณกีรติ ก็คงจะดี มิใช่น้อย
15 สิงหาคม 2554 15:57 น. - comment id 125638
อาคุงอิม.... ฟังเพลง...แว้ววว....จ่ายค่า...ห้องอัดให้ด้วย...เด้อ... 2000 อิอิ ตามสัญญา...ร้องให้ฟังแว้ววว เด้อ...อาคุงอิม... ชีวิต...มันก็คล้ายๆ...เราล่องลอยไป... อยู่กลางทะเล...ถูกคลื่นเห่... ซัดพัดเอียง...ไป เอียงมา.... เรือ บ่ ล่ม...ก็แสดงว่า...ยัง บ่ จม... ห้ามต้อแต้...เด็ดขาด...นา...แม่อิม... ปล.หายไปแต่งเพลงมาอ่ะจร้า...อิอิ
15 สิงหาคม 2554 21:12 น. - comment id 125644
คุณกีรติ .. :) ยังไม่ได้ฟังเพลงเลยค่ะ พอดีว่าวันนี้ยุ่งเหยิงนิดหน่อย จัดการธุระงานศพของเื่พื่อนร่วมงานค่ะ เขาเสียชีวิตเมื่อวานนี้ วันนี้ก็เลยต้องติดต่อเรื่องการขอรับศพจาก รพ เรื่องจองวัด เรื่องนั่น เรื่องนี้ เยอะ ... พ่อและแม่ของเขาไม่สามารถจะจัดการได้ค่ะ บรรดาเพื่อน ๆ ก็เลยต้องลงมือจัดการแ่บ่งงานกันไปค่ะ เอาไว้พรุ่งนี้ได้ฟังแน่นอน จ้า
16 สิงหาคม 2554 06:59 น. - comment id 125646
ขอแสดงความเสียใจด้วยขอรับ... คุงอิม.... ไม่ว่า....การสูญเสียเพื่อนร่วมงาน... จะเกิดขึ้นได้...เพราะเหตุใดก็ตาม... อย่าให้มันมากระทบ...ใจ...จนเสียกำลังได้นา.... ช่วงนี้...วุ่นๆ...ก็อย่าลืมพักผ่อน...มากๆ... ร่างกายคุงอิม อ่ะ...ต้องได้รับการดูแล...เป็นพิเศษอยู่... แม้ว่า...จะดูเหมือนทำไหว...ทำได้... แต่อย่าลืมว่า....ร่างกายมันไม่บอกเรานา... ว่า...มันจะทรุดตอนไหน...อ่ะ.... อย่าไปโหมหัก...จนเกิน...พิกัด...ที่เราตั้ง...(ไว้ต่ำๆอ่ะ) ฝั่งผืนพื้นแผ่นดิน...ถิ่นสุดท้าย... ต้องตะกายไปให้ถึง ให้ได้...เด้อ...แม่อิม...อิอิ
16 สิงหาคม 2554 13:06 น. - comment id 125658
" เพราะว่าใจของฉัน จะไม่มีวันยอมแพ้ .. " ขอบคุณมากสำหรับบทเพลงที่กลั่นกรองจากใจร้องให้ฟัง ความรู้สึก มันเกินที่จะบอกเล่าผ่านตัวอักษรได้หมดนะ บอกแล้วไง ..เวลานึกถึงคุณ ก็จะนึกถึงความอบอุ่น ณ ที่นี้ ไม่ใช่ความรู้สึกอบอุ่นทางกายภาพแต่อย่างใด ทว่า ความอบอุ่นนั้น หมายถึง ความรู้สึกอบอุ่นทางจิตวิญญาณ คุณเคยเห็นมั๊ย คนที่ไปโรงพยาบาลคนเดียว เดินไปอย่างหงอย ๆ ไม่รู้ว่าจะต้องเจ็บ จะต้องเจออะไรอีก บางคนก็เป็นคนแก่นะ เห็นแล้วก็สงสารมาก เงอะ ๆ เงิ่น ๆ เดินไปไหนก็ไม่ค่อยจะถูก อัลมิตราเอง ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนเก่ง คนแกร่ง แต่อย่างใด ทุกทีที่ไปโรงพยาบาล ก็ใจฝ่ออยู่ร่ำไป แต่คุณก็ยังอุตส่าห์ สละเวลาส่งเสียงมาเป็นเพื่อนตลอด รู้สึกดีนะ ที่โลกนี้มีคุณ ..
24 สิงหาคม 2554 12:44 น. - comment id 125750
อืมมมม..... ก็เจอกันอีกสักตั้ง...นะ... ดีจร้า...คุงอิม...ดีจร้า...พี่ปราง... รู้ว่า....พอผลออกมา...แล้วก็ 50 ๆ ครึ่งนึง...โล่งอก.... อีกครึ่ง...ก็ต้องโล่งใจ.... ไอ่ครึ่งแรก...อ่ะ...อาจทำให้ใจคุงอิม... มันแกว่งๆ...นะ... แต่...อยากจะบอกว่า...อย่าได้ท้อเด็ดขาด.... ปลุกใจไว้...ฮึกเหิมไว้...กอดกันๆ มีข้อคิด คำถาม...อย่างนึง...จร้า... ผู้ที่มีความผิดปกติ...ของการสร้าง...เซลที่มากกว่าปกติ... จนกลายเป็นเนื้องอก เนื้อร้าย... เป็นผล...มาจากการสร้างเซลซ่อมแซม...เกินปกติ รึไม่? หมายถึง...การใช้โปรตีน...จากภายนอก รึ ภายใน...ร่างกาย...ในการสร้างเซลนั้น... เหตุของการ...ก่อตัวของเซลที่ว่า.... เกิดขึ้นได้อย่างไร....? ผู้ป่วย...ควรดำเนินชีวิต...อย่างไร... ต่อปัจจัย...ของสารอาหารที่ได้รับ...? สิ่งใด...ควรงด ตลอดชีวิต...? สิ่งใด...บริโภคได้...แต่ต้องควบคุม...? สิ่งใด...บริโภคได้...และไม่ต้อง ควบคุม...? การใช้ร่างกาย...ในทุกการเคลื่อนไหว... มีเหตุแห่งความเสื่อมและเสียหาย... ตลอดเวลา...แม้ในร่างกายของผู้ที่ไม่ได้ป่วย... ผู้ป่วยควรใช้ร่างกาย...อย่างไร...? การเคลื่อนไหว...ตามระดับ...ความสามารถ...(ที่คิดว่าไหว รึ ไม่ไหว) จำเป็นต้องลดลงรึไม่...? ความเครียด...ก่อผลกระทบ...กับ ระดับฮอร์โมน ภายใน...นั้น...มีผลระทบ...มากน้อย เพียงใด...ต่อสภาวะความเสี่ยงของการก่อตัวของเซลที่ผิดปกติ...? ถ้าคุงอิม...ถามแพทย์...ได้คำตอบเป็นแง่วิชาการ...ทางเคมีชีวะ... คุงอิม...จะรู้วิธีสู้กับมัน...ในระยะยาว... โปรตีน...บางชนิด...คนเอเชีย...แพ้... คนยุโรป ไม่แพ้... สารอาหาร...หลายๆประเภท.... เราไม่เคยรู้ว่า...เราแพ้อะไร... แต่เราก็กินมันมาตลอดชีวิต... ที่ว่า...แพ้...ก็คือ...มันเข้าสู่...ร่างกาย...เราด้วยวิธีใด...ก็ตาม... ไม่ว่าจะทางผิวหนัง...จมูก...กินมันเข้าไป... แล้ว...ร่างกายเราไม่สามารถกำจัดมันออกไปได้หมด.... ส่งผลให้เกิดการสะสม...จนถึงระดับออกฤทธิ์... เราจึงจะรู็ว่าเราแพ้... เวลา...คุงอิม...เคลื่อนไหวทำกิจกรรม... คุงอิม...ต้องเป็นคุณนาย...สั่งมากกว่าทำ...นะ ห้ามเครียด...ทั้งร่างกายและใจ...ด้วย... ที่สำคัญ...ต้องเคลื่อนไหว...อย่างสมดุล...ที่สุด.... ร้องเพลงเยอะๆ....ออกเสียงต่ำๆ...นานๆ...บ่อยๆ.... เสียงต่ำ...จะทำให้สภาวะอวัยวะภายในร่างกาย...แข็งแรง แข็งแกร่งขึ้น... อย่ากิน...ขนมซอง...เด็ดขาด... ของหมักดองด้วย... ห้ามนู้น นี่ นั้น เยอะแยะเรยยย...อิอิ จิงๆ ก็เพียงแค่...จะบอกว่า...ให้นึกถึงทารกไว้นา.... ทารกแรกเกิด...ได้รับแต่...อาหารที่...ไม่อร่อยเรยยย... แต่...ทารกน้อยก็เติบโต...เนื้อตัวใส่เปล่งปลั่ง...ทั้งตัวเรยยย....อิอิ เมื่อจะต้องฟัดกะไอ้โรคนี้อีกครั้ง... เอาความใส่ปิ๊งสู้มัน...ดูซิมันจะทำอารายยยต่อ.... ศึกนี้...ยาวนานนัก...ฮึกเหิมๆๆ...(ตบไหล่ๆ) สู้ๆ... อย่าเปิดช่องโหว่...อย่าคลุกวงใน... ดีดตัวออกมา เต้นวนๆ...มันไว้... ไม่แน่ใจอย่าแลก...เข้าใจไหม...แม่อิมจองอัล...อิอิ เข้ามุมๆ ( ) เด่วออกไปลุยอีกยก...นา... ปล.ๆ..เพลงอ่ะ...ร้องเสียงต่ำๆเข้าไว้...อิอิ ให้แว้วว ไม่เอาคืน....จร้า...
18 สิงหาคม 2554 09:50 น. - comment id 125754
ดีจร้า...อาคุงอิม... เพลงๆนึง...ใช้เวลาทำ ทำนอง คำร้อง...จังหวะ... ยากพอตัวเรยยแระ... หวังเพียง...พอให้ คุงอิม กะ คุงน้องแซม...ฟัง... แว้ววว....จะฮึกเหิมๆ...อ่ะนะ... ตอนเขียน...นั่งนึก...อยู่หลายเรื่องจะเปรียบเทียบอ่ะ... นึกทำนอง...ก็หลายแบบ... จะซับซ้อนดีมั้ย?? ช้าบ้าง เร็วบ้าง... ไลน์คอร์ดก็นึก...หลายอย่าง... จาดีด แบบไหน...ปิ๊กกิ้ง...รึ โซโลดี...อิอิ แต่ไปไป มามา...แบบ...ง่ายๆ...ดีก่า... ฟังง่าย สบายๆ.... คนฟัง...ฟังแล้ว...หายไข้หายเจ็บหายป่วย...อิอิ คุงอิม... ถ้าคุงอิม...อยู่บนเรือนะ... คุงอิมก็เห็นเรือล่ม...ไปหลายลำแระ... คุงอิม...เห็น...เพราะเรือเรายัง บ่ ล่ม... ฉะนั้น...เรือที่ไม่ล่ม...ต้องเดินหน้า...เต็มกำลัง...(ตามเหมาะสมๆอ่ะนะ) กำลัง...นั้น....ก็มาจาก หลายๆปัจจัย... แม้ว่า...จะไม่มี...กำลังจากปัจจัยภายนอก... คุงอิม...ก็ต้องกางใบ...ล่องไป...ให้ไกล...ที่สุด... และต้องเชื่อมั่น...ในใจด้วย...ว่า...จะก้าวขึ้นฝั่งสุดท้ายให้ได้... วันหน้า...อาจจะมีพายุ...ซัดโถมเข้ามาอีก... อย่ากางใบต้านแรงโถม... อย่าโหมต้านอย่างสิ้นหวัง... อย่าล่าถอยน้อยกำลัง อย่าลืมฝั่ง...อย่างที่หวังใจ ผมเป็นใครก็ไม่รู้....นะ.... รู้แต่ว่า...อยากให้กำลังใจ....คนบนเรือ...สองลำนี้เหลือเกิน...อ่ะจิ... จ่ายค่าลิขสิทธิ์มา...จ๋องร้อย...อิอิ
18 สิงหาคม 2554 14:19 น. - comment id 125764
สองร้อยจ๊าดดดดดดดดดดดด เดี๋ยวค่อยมาคุยนะ ต้องทำธุระจัดการงานศพของเพื่อนร่วมงานก่อนจ้า
18 สิงหาคม 2554 21:19 น. - comment id 125772
ขอเนื้อเพลงบ้างดิ จะได้หัดร้องตาม ใครจะไปรู้ล่ะน๊า วันนี้ เราอาจได้ร้องคู่ก็ได้ .. เหนื่อยจากงานศพ หนีไปนอนก่อนนะ ..
18 สิงหาคม 2554 23:07 น. - comment id 125775
หวัดดี คุณอิม น้อง กรต. เรือสองลำหากมันเล็กต้านพายุต้านลมไม่ไหว ก็ลงเรือลำเดียวกันเลยค่ะ แต่ต้องเลือกนะ ระหว่างจะไปโยกกับพายุลม กับมารวมกันแล้ว ต้องมาโยกกับเสียงเพลง อิอิ.... อย่างที่น้อง กรต. ว่า เราเป็นใครก็ไม่รู้ดิ มาคุยกัน เป็นคุ้งเป็นแควเลย แต่ที่รู้ ๆ เราเป็นห่วงกัน บทเพลงจากหัวใจย่อมมีคุณค่าเสมอนะคะ ไม่ว่าน้อง กรต. จะร้องเพลงอะไร ก็เชื่อว่า จะเป็นยาวิเศษ ช่วยยาใจเรือน้อยทั้งสองลำนะคะ ตราบที่ยังมีลมหายใจอยู่ เราต้องสู้...จ้า วันนี้ คุณอิมกับน้องแซม ยิ้มบ้างหรือยังคะ
19 สิงหาคม 2554 16:29 น. - comment id 125794
จัดการเรื่องงานศพของเพื่อนร่วมงานเรียบร้อยไปแล้ว ก็พอจะมีเวลาสำหรับตัวเองบ้าง เมื่อคืนน่ะ หลับแบบสลบไปเลย ฟื้นอีกทีเช้า คงเหนื่อยสะสมมาหลายวันค่ะ วิ่งวุ่นจัดการในหลาย ๆ เรื่อง อัลมิตราเขียนคำไว้อาลัย และได้อ่านก่อนฌาปนกิจด้วยนะ เป็นความตั้งใจที่อัลมิตราอยากทำให้เขา เพื่อนหลายคนได้ฟังแล้วร้องไห้ เอาล่ะ ทีนี้ ก็ได้เวลาเตรียมการ เตรียมงานของตัวเอง ออกแบบเสื้อที่จะไปทาสีแล้วค่ะ รอให้ฝ่ายศิลป์นำไปประกอบเสื้อมาเสนออีกที เขาบอกว่า วันจันทร์จะเอามาให้ตรวจดู ถ้าพร้อม ก็หมายความว่า จะได้ประกาศอย่างเป็นทางการในเวป งลงรายละเอียดในทุก ๆ เรื่อง ที่จริงแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ยุ่ง ๆ ดี ให้เวลาผ่านไปเร็ว ๆ ตอนนี้ว่าง ๆ ก็รอเนื้อเพลงอยู่ เผื่อว่าจะได้หัดร้องเพลงบ้าง ดีมั๊ย (สงวนลิขสิทธิ์หรือเปล่า ?) หือ !! ว่างายยยยยย อารายน๊าาาาาาาาาา ไม่ได้ยินนนนนนนนนน คุณปรางทิพย์ชอบกินขนมเข่งมั๊ย วันสาร์ทจีน แม่จัดใส่ถุงมาให้ตั้งแยะเลย อร่อยด้วยนะ ตลกดี แม่ทำบ๊ะจ่างด้วย ถามแม่ว่า ทำทำไมเนี่ย แม่บอกว่า เพื่อนบ้านชอบ โอ้โห แม่ของอัลมิตรานี่เข้าใจปรับเข้าหาสังคมจริง ๆ เจ๋งสุด ๆ อัลมิตราบอกแม่ว่า เอาไว้ให้เพื่อนมาจากเมืองนอกก่อน ให้แม่ทำขนมเข่งเยอะ ๆ และทอดปลาสลิดด้วย ปลาสลิดที่บางบ่อนี่ อร่อยขึ้นชื่อลือชาเลยนะคะ แม่จะตากเองด้วย รับรองสะอาดค่ะ ส่วนคุณกีรติ อย่ากินเลย อ้วนแล้ว 555 ล้อเล่นน่า กินได้ แบ่งกันกิน เราต้องแบ่งกันนะ คุณแซมด้วย คุณแซมมีฝีไม้ลายมือในการเรือนดี ทำให้อัลมิตรานึกฮึดที่จะไปเรียนการฝีมือแล้วนะเนี่ย
19 สิงหาคม 2554 22:30 น. - comment id 125799
คุณอิม กลืนน้ำลายตามไปเลยค่ะ แต่ละเมนู ของชอบทั้งนั้น นี่มีญาณพิเศษหรือ ถึงเดาได้ถูกต้องเชียวค่ะ ปรางทิพย์ชอบขนมเข่งมากกว่าขนมเทียน เพราะยังหาคนทำ ให้อร่อยเท่าแม่ไม่ได้เลยอิอิ ปลาสลิดทอดนี่ เอาสเต็กมาแลกก็ไม่ยอม บ๊ะจ่าง นี่เป็นชีวิตจิตใจเลยค่ะ แบบนี้คนอ้วนหมดสิทธิ์กินเลย เรื่องงานศพ จริง ๆ จะท้วงแต่แรกแล้วนะคะ แต่ด้วยรู้ว่าท้วงไปก็ไลพ์บอย...เพราะสัมผัสได้ ว่าคุณอิมตั้งใจทำเพื่อเขา ได้แต่ตามมองค่ะ ป่านนี้เขาคงรับรู้แล้ว ว่าเพื่อนคนนี้จริงใจ กับเค้าแค่ไหน ซึ้งจริง ๆ ค่ะ แปลกเนาะ คนที่ไม่เคยบอกว่าไม่มีเวลาเลย กลับทำอะไรได้มากมาย หยิบโน่นจับนี่ หรือเป็นเพราะผมที่ขึ้นใหม่ ถึงอยู่นิ่งไม่ได้ ๕๕๕ เรื่องของคนไม่ว่างน่ะ ช่วงนี้งานพวกเรารุม ทุกคนยุ่งเหยิงกัน มีงานบางชิ้นผิดพลาด ส่งไปแล้วเพิ่งรู้ว่าใส่ของให้เค้าไม่ครบ คนที่รับผิดชอบเค้าอ้างว่าเค้ายุ่ง ไม่ว่างตรวจเช็ค เออแปลก งานส่งออก ตปท. อ้างว่ายุ่ง เลยถามกลับไปว่า ที่ว่ายุ่งน่ะ ทำอะไรบ้าง ได้ค้อนเขวี้ยงกลับมา จริง ๆ อยากถามว่า ที่ว่ายุ่งน่ะ สนใจเรื่องส่วนตัว ของคนอื่นมากไปหรือเปล่า ก็กลัวค่ะ จากค้อนจะกลายเป็น จอบ อิอิ ช่วงนี้คนรอบข้าง เสียชีวิตติด ๆ กัน ๑ ราย โรคหัวใจ หลังจากทำบอลลูนได้ ๓ อาทิตย์ ๒ ราย มะเร็งตับ พอรู้ว่าเป็น ไม่ถึงเดือนก็ไป นี่อีกราย หมอไม่ชี้ชัดว่าเป็นมะเร็ง เพราะที่นี่หาก ตรวจพบว่าเราเป็นโรคที่เค้าระบุ คือ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง เราจะได้เงินจาก สวัสดิการสังคมแรงงาน รายละ หนึ่งแสนโครน เพื่อนคนตัวใหญ่ ที่เป็นโรคหัวใจ ได้รับเงินมาแล้ว แบ่งให้ลูกไป สี่หมื่น แล้วกำลังพูดเรื่องอยากได้ตู้เย็นใหม่ ก็นัดกันทานข้าวกัน วันเสาร์ที่ผ่านมา แต่เธอกลับจากไปในวันจันทร์ ยังไม่ได้ใช้เงินสักนิดเลยค่ะ รายนี้คนตัวใหญ่ร้องไห้ทุกครั้งที่เอ่ยถึง ส่วนรายล่าสุดที่กำลังรักษา แต่หมอยังไม่ระบุว่าเป็นมะเร็ง กำลังให้คีโม เป็นสามีของเพื่อนคนที่เคยเล่าให้ฟัง แปลกที่เค้าให้คีโม วันเว้นวัน แล้วว่าเป็นคีโมไลพ์ แต่หมอก็บอกกับเพื่อนว่า สามีเค้าไม่ได้เป็นมะเร็ง มีคำถามว่า หากไม่ใช่แล้วให้คีโมทำไม? อย่าพาสังขารตะลอน ๆ จนลืมดูแลนะ
20 สิงหาคม 2554 08:10 น. - comment id 125800
ตอนนั้น เพื่อนที่ป่วยบอกว่าเป็นเนื้องอกที่กระดูก พออัลมิตราถามว่าจะรักษายังไง เธอบอกว่า หมอจะฉายแสงก่อน จากนั้นคีโม อัลมิตราก็นึกในใจทันทีว่า "มะเร็งหรือเปล่า" แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามไป และสิ่งที่ยืนยันความคิดของอัลมิตราคือ สังเกตุเห็นตรงขาหนีบคลำเจอก้อน แสดงว่า ได้ลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองแล้ว แต่เพื่อนบอกว่าเป็นแค่เนื้องอกที่กระดูก ก็ทำทีเชื่อตามเพื่อน สุดท้ายเพื่อนก็จากไป คนนี้ไงคะ ที่เพิ่งเสียชีวิตในเดือนที่แล้ว ส่วนล่าสุดเพื่อนร่วมงาน หลายคนทักท้วงค่ะ ว่า อัลมิตรายังป่วยอยู่ ไม่ควรไป เดี๋ยวจะชง เดี๋ยวจะมีสิ่งไม่ดีเข้าตัว อะไรทำนองนี้ แต่ก่อนหน้านั้น ตอนที่เพื่อนป่วย (ก็นานนะ ตั้งแต่ 2544) ก็ไปดูแลเขา ถึงแม้ว่าไม่ได้ดูแลมากมาย แต่ก็ติดตามข่าวคราวเสมอ เขายังพอมาทำงานได้ บางวันไปฟอกไต กระทั่งระยะหลังอาการทรุดมาก ตาขวามองไม่เห็น มีนั่นนี่ปูดตามข้อกระดูก ไทรอยด์แทรกแซง เขามักจะมานั่งที่ห้องทำงานที่อัลมิตราทำงานอยู่ มีโต๊ะเก้าอี้สำหรับเขา งานเขียนโปรแกรมไม่มี แต่ให้เขาเป็นที่ปรึกษา เวลาใครติดขัดงานอะไรก็ไปถามเขาได้ ความจำของเขายังดีเลิศ ตอนที่อัลมิตราทำโครงการฯ เขาก็ร่วมบริจาคมาทุกครั้ง ตอนที่อัลมิตราผ่าตัด เขาก็ถามหาว่าไปไหนมา พอรู้ว่าป่วยเป็นมะเร็ง ก็ปลอบใจและคอยเตือนให้ปฏิบัติตนอย่างถูกวิธี เชื่อมะ เวลาที่อัลมิตราเจ็บ โดนฉีดยาแล้วงี่เง่า อัลมิตราจะสงบลงได้เมื่อนึกถึงเขา เขาต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 2 หน เจ็บยิ่งกว่าอัลมิตราเสียอีก พอคิดอย่างนั้น ก็ค่อยยังชั่วหน่อย เขาเป็นคนพื้นเดิมนครศรีธรรมราช แต่งานศพที่จัดนั้น จัดที่วัดแถวบริษัท เพื่อนไปกันเยอะ อัลมิตราทำหน้าที่หลายอย่าง ตั้งแต่จัดการเรื่องไปรับศพที่ รพ. เป็นเสมียนบันทึกรายรับ-รายจ่าย จัดการเรื่องอาหารเพลก่อนฌาปนกิจ ส่วนงานจองศาลา งานครัว งานของชำร่วย แบ่งให้เพื่อนคนอื่นทำ วันนี้ทำบุญครบรอบ 7 วัน และจะไปลอยอังคาร ตรงนี้ให้ญาติพี่น้องเขาทำบ้างค่ะ ส่วนอัลมิตรา ตอนนี้รอให้เพื่อนมารับ .. อีกสักพัก ต้องไปตะแล๊ดแต๊ดแต๋แล้วล่ะ 5555
20 สิงหาคม 2554 21:41 น. - comment id 125801
วันนี้ มีหลายคิว คิวแรกนัดไว้แล้วเมื่อสองเดือนก่อน ว่าจะไปเมืองโบราณกัน และคิวใหม่ คือไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่พิษณุโลก สุโขทัย ทว่า คิวแรกที่นัดไว้ ไม่สามารถเลื่อนได้ ก็เลยต้องปฏิบัติตามที่นัดหมายไว้ แต่เมื่อดูทีท่าแล้ว เห็นทีจะไปเมืองโบราณไม่ไหว เพราะ ป่วย + ป่วย สองคน ไปเมืองโบราณปั่นจักรยาน มีหวัง ไม่ป่วยใดป่วยหนึ่งต้องเดี๊ยงกลับมาแหง๋ ก็เลยปรับกิจกรรมใหม่เป็นการไปช่วยทำกระเป๋า แจกนักศึกษาที่จะไปสร้างฝายชะลอน้ำ ในสัปดาห์หน้า วันนี้ ตัดหนังทำกระเป๋าไปได้ 101 ใบ ( ฮิ้วววววววววววว เก่งจัง ชมตัวเอง ) สองป่วยนี่ล่ะ คนหนึ่งวัด คนหนึ่งตัด และส่งต่อไปให้อีกคนเย็บ อีกคนร้อยเชือก สนุกดีแท้ เอาไว้จะเอามาอวดภายหลัง ตอนนี้ เหนื่อยมั่ก ๆๆๆ ( เหนื่อยกว่าไปปั่นจักรยานที่เมืองโบราณอีกมั๊ง 555) ว่าแล้ว หนีไปก่อนก่อนดีกว่า
22 สิงหาคม 2554 00:02 น. - comment id 125830
ระหว่างที่เรามาแอบคุยกันแบบนี้ บางวันแม้จะไม่ได้เขียนอะไรนะ แต่ก็เข้ามาอ่าน เนื่องจากเน็ตมันเน่า...เปิดได้ต้องรีบเข้ามาอ่านก่อน เพราะเคยพิมพ์ไปไม่ได้เซฟไว้ ส่งไปไม่ได้มองหน้าจอ มันหลุด เสียอารมณ์หมด สงสัยจะคิดถึงมากไปหน่อย เมื่อคืนฝันถึง ว่าไปกับพี่ชาย .. ก็นัดไปทานข้าวกันน่ะ เหมือนกับเป็นสนามสอบ ขับรถนะ แบ่งเป็นห้อง ๆ มีคนเดินผ่านไปมา เราก็นั่งมองคน จู่ ๆ ก็เห็น ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ มีหมวกคลุมเหมือนในรูปเลย เดินผ่านไปอีกห้องหนึ่ง ในใจรู้ว่าเป็นคุณอิม หันไปบอกพี่ชายท่าน ๆ ก็ว่าไม่น่านะ คุณอิมจะมาทำไม เราไม่ฟังแล้ว เดินไปมอง ในฝันคุณอิมมองมา เราต่างยิ้มให้กัน ปรางเดินเข้าไปให้ เรียก "คุณอิม นี่ปรางทิพย์ไง" เราโผเข้ากอดกัน ภาพมันชัดมากเลย ดีใจจนน้ำตาไหล เราคุย ๆ ๆ ๆ สักพักคนตัวใหญ่ เขย่าตัว ถามเป็นอะไรพูดจ้อเลย แต่มีน้ำตาไหลด้วย เค้าตกใจ อีกอย่างเค้าฟังภาษาไทยไม่ออก นึกว่าเป็นอะไร ที่แท้ก็ฝัน ๕๕๕ ช่วงนี้ รู้ตัวว่าป่วย แต่ก็ไม่หยุดเลยนะคะ ไม่ห้ามหรอก เพราะรู้ว่าห้ามไม่ได้ แถมตอนนี้มีเพื่อนป่วยช่วยลุยอีก สนุก สุขใจ ก็ทำไปเถอะ เพราะเป็นสิ่งที่ดี คุณแทนฯ ก็ไม่สบาย อย่าพากันไปซนมากนะ เด๋วต้องช่วยกันหาม
22 สิงหาคม 2554 16:00 น. - comment id 125864
ดีจร้า....อาคุงอิม เด้วให้ร้องคู่เรยยย...อิอิ เอาเนื้อร้องมา แปะ อ่ะจร้า... เมื่อเรือล่องลอย เดินทางมากลางทะเล จู่ จู่ คลื่นโหม พายุลม พัดโถมเข้าใส่ แกว่งไกว ไหวเอน เรือน้อย ลอยลำ โยกเอียงไปมา ดูเหมือนว่าเรือ ลำน้อย....จะลอยลำอยู่ไม่ไหว เหมือนชีวิตคน...ด้นเดินอยู่บนหนทาง เกิดความทุกข์ร้อน ประโคมถาโถมเข้าใส่ สั่นคลอนหัวใจ ดวงน้อย โอนเอนโยกเอียงไปมา ดูเหมือนว่าใจ ดวงน้อย จะคล้อยเคลื่อนต่อ ไม่ไหว ฝ่าลมพายุกระหน่ำ จงตั้งลำ ทั้งเรือ ทั้งหัวใจ ต่อสู้ต่อไป อย่าหวั่นไหว อย่ายอมใจ อย่าไปยอมแพ้..... เพราะ....ว่าใจ.... ของใครที่ไม่อ่อนแอ...จะไม่มีวัน(ให้)กับคำว่าแพ้ แม้ เป็นวันสุดท้าย (ด้วยใจ) ก็จะขอ....สู้ไป ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ ไม่ยอมให้พายุใด....มาล่มเรือ ล่มใจ ง่ายดาย จะแกว่ง จะไกว ไหวคลอน หัวใจเจ้าจงหยัดยืน และจงกลับฟื้น คืนแรงพลัง จุดไฟความหวังให้มันลุกโชน อิอิ
22 สิงหาคม 2554 16:38 น. - comment id 125865
แน๊ แน๊ คุณปรางทิพย์มาฝันถึงอัลมิตรา อัลมิตราไม่ใช่คนตัวเล็กนะ ที่จริงตัวเบ้อเร่อเลยล่ะ สูงตั้ง 165 cm. น้ำหนักอยู่ที่ 56 kg. ช่วงนี้เริ่มจะมีพุงนิด ๆ แหะ แหะ กินทุเรียนมากไปหน่อย แถมไม่ได้ออกกำลังกายเลย ถึงไม่ได้ออกกำลังกาย แต่ก็เหนื่อยเหมือนกันนะ วันก่อนที่ไปตัดผืนหนังเพื่อทำกระเป๋า เมื่อยเนื้อตัวนะนั่น ไม่เป็นไร เมื่อยเดี๋ยวก็หายเมื่อย มีความสุขดีเสียอีก ได้ทำนั่นทำนี่ไป เออ ลืมถาม ในฝัน .. อัลมิตรายังเดินเท้าติดดินอยู่ใช่มั๊ย ไม่ได้ตัวลอย ๆ นะ 55555 คุณกีรติ .. ฮา บอกแล้วไง จะซักซ้อมให้คล่องเลย นี่จับจังหวะได้ แต่ลอกคำบางคำไม่ถนัด เสียงทุ้มนี่นา อุตส่าห์ตั้งใจฟังหลายรอบ ประโยคนั้น มันอะไรกันนะ 555 แทบจะเอาหัวผลุบเข้าไปในลำโพงเชียว ขอบอก .. เหอะน่า แล้วสักวัน จะร้องเพลงให้ฟัง เอาเพลงนี้แหล่ะ เจ๋งแจ๋วสุด ๆ แล้ว นี่ถือว่าเป็นเพลงประจำตัวของอัลมิตราเลยนะ ไม่รู้ล่ะ ไม่สนด้วยว่าจะยังไง ยกให้แล้ว ห้ามเอาคืนเด็ดขาดเด้อ
24 สิงหาคม 2554 22:10 น. - comment id 125885
สู้ สู้ นะ มาร์ตี้ อย่าท้อเป็นอันขาด
24 สิงหาคม 2554 00:28 น. - comment id 125936
แค่คำสั้น ๆ แต่ระยะเวลายังอีกยาวนานจ้า มามะ เรามาช่วยกันนับหนึ่งใหม่ มาอีกเราก็จะสู้อีก ครั้งที่แล้วยังไม่รู้ ทำให้กังวล คิดมาก แต่นี่มาอีก เราก็ตั้งรับกับมันนะคะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ผม...ปล่อยมันอยากร่วง ก็ร่วงไป เดี๋ยวมันก็ขึ้นใหม่ ที่สำคัญอย่าไปซีเรียสกับมันนะคะ ไอ้มะเร็งมันชอบ ให้รู้ไว้นะคะ ว่าเรา...จะสู้กับมันด้วยกัน มามะขอกอดสักทีหนึ่ง ที่ฝันน่ะ เราสัมผัสอ้อมกอดกันนะ อีกอย่างปรางทิพย์คนนี้เป็นคนที่ฝันแม่นมาก เคยฝันว่าได้พบบางใคร ปัจจุบันก็ได้พบจริง ๆ เชื่อเถิดค่ะ ไม่ว่าจะในฝันหรือความจริง สิ่งที่มองเห็นคือ รักและห่วงใย อย่ามุทำแต่บุญหรือกิจกรรมมากเกินจนลืมตัวเองไปล่ะ
23 สิงหาคม 2554 22:13 น. - comment id 125992
คือ ... เอาสั้น ๆ นะ วันนี้ตรวจร่างกาย เมมโมแกรม + อัลตราซาวด์ พบว่า มะเร็งมาเยือนอีกแล้ว ฮิ้วววววววววววว ดีใจที่ได้เจอมะเร็งอีก
25 สิงหาคม 2554 13:12 น. - comment id 126005
แทบจะต้องเปิดห้องแถลงข่าว ใครต่อใครก็พากันมาถามไถ่ ใครต่อใครก็พากันตกอกตกใจ " เป็นไงบ้าง ตรวจร่างกาย หมอว่าไง " " อืมม คือ เป็นแบบเดิม อีกรอบ " " ฮ้าาาาาาาา เป็นไปได้ไง เพิ่งคีโมจบไปไม่กี่เดือน" " โอ้ววววว ผมเพิ่งจะขึ้นเองนะ " " ทำไมเป็นอย่างนีได้เนี่ย " เฮ้อ ! ถามมาตั้งเยอะ แล้วนี่ตูจะตอบพวกเขายังไงดี ใช่ว่าตูอยากจะเป็นนี่นา อะไรไม่ว่า คำแนะนำก็หลากหลายอีกต่างหาก " ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องคีโมแล้ว ไม่หาย ไปกินสมุนไพรดีกว่า " " ไปวัดนี่สิ รักษาหายนะ " " วันก่อนดูทีวี ดาราหญิงคนหนึ่งให้บาทหลวงแตะสัมผัสรักษา เดินได้ปร๋อเลย " อืมมม ปาฏิหาริย์ ใด ๆ ที่มี .. อัลมิตราก็อยากได้เช่นนั้นเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่า สำหรับอัลมิตราา ปาฏิหาริย์ ไม่มี ..
25 สิงหาคม 2554 21:42 น. - comment id 126010
นายพระจันทร์ .. ช่วยร่นเวลาจัดคิวหน่อยได้ไหม อัลมิตราน่ะ มีเวลาไม่มากพอหรอกนะ คุณปรางทิพย์ .. อัลมิตราหลอกตัวเองไม่ได้แฮะ อุตส่าห์ท่อง ๆ " ไม่เป็นไร ช่างมัน " แต่ก็อดไม่ได้ที่จะวกกลับไปคิด สงสัยว่า สังขารไม่อำนวยเสียแล้วค่ะ วันนี้อัลมิตราไปดำเนินการเรื่องแผนโครงการ เรื่องเสบียงเลี้ยงท้องของคนที่จะไปทาสีและนักเรียน เรียบร้อยแล้วค่ะ แบ่งงานให้เพื่อนบ้าง เพราะไม่รู้ว่า จะต้องเข้า รพ. เพื่อทำการผ่าตัดเมื่อใด แต่วันที่ 8-9 ตค. เป็นวันที่ยังอยู่ในกำหนดการค่ะ อัลมิตราบอกเพื่อนว่าจะไม่ยอมให้โครงการเลื่อน อัลมิตราถือว่า ทุกคนสำคัญเท่ากันหมด ลำพังประธานโครงการป่วย มันเป็นเรื่องเล็ก เพราะแจกจ่ายงาน แบ่งหน้าที่กันให้แล้ว ค่ะ คุณกีรติ .. มันยังไงดีนะ อัลมิตราเกิดท่ามกลางป่าคอนกรีต ใช้ชีวิตอย่างคนเมือง สูดดมแต่ควันพิษ ใกล้ชิดกับเทคโนโลยีมากเกิดไป มันก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เซลล์ผิดรูปแบบไป ส่วนเรื่องอาหารการกินก็ดูดีอยู่นะ ไม่กินขนมซองหรอก ที่จะชอบกินก็น่าจะเป็นพวกขนมไทย ของหวานไทย จำพวกบัวลอย แกงบวด อะไรทำนองนี้มากกว่า (อุตส่าห์เขียนให้ชัดเจนว่า ชอบอะไรบ้าง เผื่อว่าวันหน้าจะได้ใส่บาตรมาให้อัลมิตราไง ) อัลมิตราน่ะ ไม่อยากเป็นมะเร็งอีกนะ จริง ๆ ไม่อยากเป็นเลย ยังจำรสชาติของความเจ็บปวดได้ ยังจำความรู้สึกทรมานได้ ไม่ว่าจะเป็นแผลผ่าตัด หรือสภาพช่วงคีโม อัลมิตราจำได้หมดล่ะ มันจึงยากที่จะทำใจให้สงบได้ แต่ก็ไม่ลืมซ้อมร้องเพลงนะ .. นี่ ๆๆๆ ช่วงซ้อมร้องเพลงคือตอนเช้าก่อนทำงานและพักเที่ยง เพื่อนมันถามว่า เพลงไร ร้องได้ทุกวัน ก็เลยบอกว่า เป็นเพลงของอัลมิตรา มีคนให้มา พวกเขาปลื้มกันใหญ่เลย เป็นความภาคภูมิใจมาก ๆ เลยนะ ร้องเพลงก็ร้องเพลง ส่วนเรื่องหวาดเสียวยังคงต้องมีกันต่อไป ... เน้อออออออออออ
2 กันยายน 2554 11:23 น. - comment id 126103
วันที่ 9 เดือน 9 เวลา 9.00 น. เป็นฤกษ์ดี ฤกษ์วางมีด
3 กันยายน 2554 14:11 น. - comment id 126113
คุณอิม ฤกษ์ส่งตัว...ให้รู้ไว้ว่า มีกำลังใจจากเพื่อนต่างแดนส่งมาให้นะคะ ช่วงนี้ก็พยายามพักบ้าง เดี๋ยวมันก็ต้องผ่านไปค่ะ ที่ปรางทิพย์หายไป ก็ไปนั่ง ๆ นอน ๆ เป็นนางแบบให้หมอน่ะ เอกซเรย์ สแกนกระดูก ผลคือ ข้อกระดูกอักเสบ ข้อเท้า และเข่าทั้งสองข้างเลย แล้วเมื่อหลายปีก่อน เคยสะดุดขอบมีเนียมที่ ทำงาน ช่วงกำลังย้ายโรงงานให้ห้องอาหาร มีเนียมที่เป็นรูปแหลม มันแทงเข้าที่หัวเข่า ไม่ลึกนัก ช่วงนั้นก็คิดว่าไม่เป็นไร ต่อมาแผลหายซึ่งปกติแผลจะหายง่าย ก็ไม่ได้คิดอะไร เวลาเดินได้แต่เจ็บแปลบน้อย ๆ ก็คิดว่าเดี๋ยวก็หาย ในภาพที่หมอให้ดู คือ กระดูกอ่อน มันมีรอยฉีก แล้วร่างกายเรา ก็สร้างพังผืดคลุมไว้ ทีนี้ก็เป็นปฏิกิริยาของร่างกาย ไปกดทับเส้น ฯลฯ เราเองก็ละเลยไม่สนใจ พอเส้นตึง ก็คิดว่าเป็นเพราะเดินมากเกินไป ก็เทน้ำหนักตัวไปที่ขาอีกข้าง พออายุมากเข้า เป็นข้อกระดูกอักเสบ ทีนี้มันก็ปวดมากขึ้น งง ๆ มะ หมอบอกว่า จะตัดกระดูกอ่อนที่ฉีกขาดนั้นออก ก็ต้องเปิดหัวเข่า ก็ถามว่า ผลจะเป็นเช่นไร เค้าก็ตอบไม่ได้ว่าจะดีขึ้นหรือไม่ ก็เลยต่อรองขอเป็นยามารักษาข้ออักเสบก่อน สัก ๓ เดือน เพราะช่วงนี้งานยุ่งมาก ๆ พวกเราต้องเตรียมส่งของให้ทันช่วงคริสมาส งานนี้คนตัวใหญ่ ท่านเครียด เพราะกลัวว่าเราจะเดินไม่ได้ ไม่มีใครรับใช้เค้าน่ะ ๕๕๕ ผลของการผ่าตัดเป็นเช่นไร ส่งข่าวให้ทราบบ้างนะคะ แต่ก็เชื่อว่า มันจะต้องผ่านไปด้วยดีนะคะ แบบนี้ก็เสมอกันแล้วนะ ไม่ต้องเดินเอียงขวา ไม่ต้องใส่ยกทรง อากาศบ้านเราร้อน ไม่อึดอัดดี เอ้า สู้ ๆ จ้า
4 กันยายน 2554 21:29 น. - comment id 126121
ปีกลาย ตอนที่อยู่ รพ. อยู่ห้องพิเศษ 5 คน แต่ละคนก็ป่วยคนละอย่าง มีคนไข้คนหนึ่งมีปัญหาที่หัวเข่า ตัวใหญ่อ้วนและเป็นเบาหวาน เธอน่าสงสารมาก เวลาที่เขามาเจาะอะไรที่เข่านี่จะร้องไห้เสียงดัง ทำให้อัลมิตรารู้สึกอกสั่นขวัญแขวนไปด้วย ทีนี้เวลาที่พยาบาลเตรียมเจาะเข่า อัลมิตราก็จะเตรียมเผ่นออกไปตั้งหลักนอกห้องพักเหมือนกัน .. ญาติของอัลมิตราที่อยู่ปากช่อง หอบหิ้วผลไม้เต็มเข่งมาเยี่ยม (ต้องบอกว่าเต็มเข่งจริง ๆ แจกทั่ววอร์ดเลยนั่น ทั้งพยาบาล ทั้งญาติคนไข้อื่น) เธอคนนี้ทานผลไม้ก็ไม่ได้ แค่ส้มกลีบเดียวก็ยังทำให้ค่าน้ำตาลพุ่งปรี๊ด ส่วนอัลมิตราก็ฮาเฮปาร์ตี้กับกองของกินที่เยอะแยะรอบตัวไปเสียหมด เธอขอเปลือกส้มที่อัลมิตราปอกแล้ว .. เอาไปดม "ได้ดมก็ยังดี" เธอว่างั้น อัลมิตราจะมีคิวเข้ารับการผ่าตัดในวันศุกร์นี้ ตอนแรกว่าจะเป็นวันอังคารที่ 6 นะ แต่คิดไปคิดมา พอถามหมอว่าจะต้องนอนเน่าสักกี่วัน หมอบอก 3 วัน เลยเอาวันศุกร์ดีกว่า ประมาณว่า .. ไม่อยากเสียเวลางานเยอะ ที่สำคัญ หยุดเยอะ ปลายปีจะโดนหักโบนัสเยอะ การผ่าตัดจะเริ่มต้น 9 โมงเช้าค่ะ เป็นคิวแรกเลยนะเนี่ย หมอเขามีแผนการรักษาอย่างนี้ค่ะ คือจะทำการผ่าตัดเฉพาะก้อนนื้อ เพื่อเอาไปพิสูจน์ว่า ill define มันคือมะเร็งหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ ก็จบกันไป (ในรอบนี้) แต่ถ้าใช่มะเร็ง ก็หมายถึงจะต้องมีการผ่าตัดใหญ่ตามมาโดยเร็ว การผ่าตัดใหญ่นั้นก็คือการผ่าตัดทั้งเต้านมรวมทั้งการตรวจสอบโดยการเลาะต่อมน้ำเหลืองดู ก็มีถามหมอนะว่า ทำไมไม่เจาะชิ้นเนื้อตรวจดูเหมือนคราวก่อน หมอบอกว่า เจาะทำไม เพราะว่า ใช่หรือไม่ใช่ ก้อนนั้น.. มันควรจะถูกกำจัด ไม่งั้นจะต้องมาเป็นกังวลคอยติดตามอีก เอาไงเอากัน .. อัลมิตราต้องไว้วางใจหมอ ทำตัวเป็นคนไข้ที่ดี นอนนิ่ง ๆ ให้หมอแล่เนื้อ 555 คุณปรางทิพย์เองก็ป่วยเหมือนกัน อยากดูแลคุณปรางทิพย์ ช่วยเหลือปรนนิบัติบ้าง ให้ยืมขา ถึงแม้ว่าอัลมิตราจะเป็นมะเร็ง แต่ยังดีที่แขนขาไม่เดี๊ยง พอที่จะพาตัวเองไปไหนต่อไหนได้ ทว่าคุณปรางทิพย์คงลำบากกว่าแน่เลย ทำไงดีนะ ..ถ้าอยู่ไม่ไกล จะไปดูแลจริง ๆ
5 กันยายน 2554 07:46 น. - comment id 126127
ดีจร้า...อาคุงอิม...อาคุงพี่ปราง ใช่ขั้นตอนที่เหมือนไป แต๊ปๆๆ 5 แต๊ป อ่ะป่าว... เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนเข้าเน็ต ที่โต๊ะไม่ได้...เรยเกือบไม่รู้ข่าวเรยยย.... ผมภาวนาว่า...ไม่ใช่ๆๆ และก็ไม่ใช่นา... ทนเจ็บอีกนิดนึงเน๊าะ... ส่วนคุงพี่ปราง ก็ดูและรักษาสุขภาพ ข้อเข่า...ดีๆด้วยจร้า (เป็นเหมือนกันเรยยย)...อิอิ เมื่อไหร่ มนุษย์เราจะกลายเป็นไซบอร์ก ได้เต็มตัวเน๊อะ...ได้ไม่ต้องคอยระแวง ระแวด ระวัง...โรคภัย... รู้ว่า...เจ้าของยิ้มแป๋นแล๋น...สู้ไม่ถอยอยู่แว้ววว... สู้ๆ...เพื่อโบนัส (ชิมิ )
5 กันยายน 2554 08:06 น. - comment id 126130
คุณกีรติ .. ไอ้ที่แต๊ป ๆ 5 หนครั้งนั้น มันคือการเจาะชิ้นเนื้อโดยการสอดเข็มใหญ่ลงไปและตัดฉับค่ะ แต่หนนี้ หมอไม่เจาะแล้ว ทว่าจะตัดก้อนออกมาเลย ก็ให้อัลมิตราเลือกว่า จะให้วางยาสลบหรือยาชา คิดแล้วคิดอีก .. เวลาที่ฟื้นจากยาสลบนี่ มันก็มีอาการไม่ค่อยดีนะ จะอาเจียน เวียนหัว มึนงง ก็เลยตัดสินใจเลือกยาชาดีกว่า มันคงเลี่ยงยากที่จะอยู่ร่วมในเหตุการณ์โดยที่ยังมีสติสัมปัชญะครบถ้วน จะใช้ห้องผ่าตัดเล็กค่ะ แหม ! .. ไม่อยากบอกเลยว่า ห้องผ่าตัดเล็ก ก็คือตู้คอนเทนเนอร์นั่นแหล่ะ ฮา. มันช่างได้บรรยากาศดีแท้ หมอบอกว่า น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และสังเกตุการณ์ผลกระทบอีกนิด น่าจะจบเรื่องได้ในช่วงครึ่งเช้าค่ะ อัลมิตรากะว่าเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว ก็จะเลือกนอนเยอะ ๆ นอนเป็นหนอน เจ็บขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็จะนอน เจ็บกี่ทีกี่ทีก็จะนอน .. ให้มันได้อย่างนี้สิ 555
5 กันยายน 2554 23:41 น. - comment id 126216
คุณอิม น้อง กรต. สังขาร....แต่ก็ดีนะคะ เจ็บปวด ทำให้เราเข้าใขโลก...โรค การผ่าตัด แบบยาชา ยังไม่เคยได้คุยกับใครเลยนะคะ ว่า อาการหลังผ่าตัดจะเป็นเช่นไร เพราะยาสลบช่วงที่เราฝันดี ตื่นมาก็มีอาการข้างเคียง ทีนี้ยาชาล่ะ ไม่มีอาการข้างเคียงเลยหรือ นี่...คิดไปโน่น เวลาหมอคีบ กรึ๊บ ๆ อูยยย เสียวง่ะ แม้จะไม่เจ็บ แต่เชื่อว่าเราต้องรู้ว่า เค้ากำลังทำอะไร... แต่...อย่าลืมจดจำบรรยากาศการผ่าตัดไว้แล้วมาเล่าหรือเขียนเป็น หนังสือเลย เพราะห้องผ่าตัดในตู้มันน่าตื่นเต้นดีออก คนดี...นอนมาก ๆ ดื่มน้ำมาก ๆ นะคะ เพื่อโบนัส. (ไม่ใช่ดิ) จะเพื่ออะไรก็แล้วแต่ที่สำคัญ เพื่อตัวเราเองน่ะ ว่าแต่เตรียมหาหนังสือไว้อ่าน ช่วงพักร้อนหรือยัง
7 กันยายน 2554 19:25 น. - comment id 126277
วันนี้เป็นวันคล้ายครบรอบตั้งศาลพระภูมิที่ทำงาน เขามีพิธีการบวงสรวงกันด้วย พนักงานต่างก็ซื้อดอกไม้มาถวาย ฉันก็ซื้อเหมือนกันนะ 4 พวง ไหว้พระพุทธก่อน แล้วก็พระภูมิ(พระพรหม) แล้วก็มาที่ศาลเจ้าที่ แล้วทีนี้ยังไงดี เหลืออีก 1 เดินไปเดินมา เห็นมีพระพุทธรุปอยู่ตรงมุมอาคารเก่า ก็เลยนำไปถวาย เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องการบวงสรวงศาลพระภูมิ แบ่งแอปเปิ้ล ส้ม และขนมหวานมาให้ฉัน บอกกับฉันว่า " ได้ข่าวว่าจะต้องไปผ่าตัดอีก เอาไปกินนะ ของทิพย์ จะได้เฮง ๆ " ฉันก็รับมาอย่างงง ๆ แต่ก็ไม่วายไปล้อเล่นนิดหน่อย "อ้าว เดี๋ยวก็อยู่ยงคงกระพัน มีดไม่เข้าเนื้อหรอก" ป๊าดธ่อ ปากอย่างนี้ล่ะฉัน ไม่น่าเล้ยยยยย .. แต่ทำไงได้ มานึกได้ก็ตอนที่เดินออกมาแล้ว ฉันเลือกที่จะกินขนมหวาน แล้วก็ส้ม แบ่งขนมหวานและแอปเปิ้ลให้ลูกน้องกินบ้าง จะว่าไปแล้ว วันนี้เหนื่อยชะมัดเลย ประชุม 2 ยก แต่ละยก แทบจะหมดแรงข้าวต้ม ขากลับบ้าน ฝนดันตกอีกแน่ะ ทว่า ฉันไม่เปียก 555 มีราชรถมาเกย กลับบ้านอย่างสง่าผ่าเผย เชื่อป่ะ หลายวันมานี้ จด ๆ จ้อง ๆ จะเขียนกลอน แต่หัวไม่แล่นเอาซะเลย นึกคำไม่ค่อยออก สงสัยว่าจะเป็นเพราะสารเคมีในร่างกายมากเกินไป จึงทำให้สมองเบลอ เอ๋อ นิด ๆ
7 กันยายน 2554 19:34 น. - comment id 126280
คุณปรางทิพย์ .. ปีที่แล้ว ตอนเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจ (ใช้เข็มแทงลึกเข้าไปตัดชิ้นเนื้อมาตรวจ) ก็ฉีดยาชาเหมือนกัน แต็ป แต๊ป แต็ป แต๊ป แต๊ป.... ยังจำบรรยากาศนั้นได้ดีอยู่ค่ะ นางพยาบาลมายืนข้าง ๆ เตียง ส่งมือมาให้กำแน่น เหงื่อแตกพลั่กทั้งที่ห้องเยือกเย็น แต๊ป ที่ 4-5 รู้สึกเจ็บ จนต้องร้องโอ๊ยออกมาดัง ๆ สงสัยไอ้ตรงนั้นไม่อยู่นอกเครือข่ายชาค่ะ มะรืนนี้ล่ะ จะเจ็บอีกไหมนะ ยาชานี่ น่าจะฉีดแบบให้ชาไปสักครึ่งปี จะได้ไม่เจ็บเนอะ เอ๊ะ หรือยังไงดีหว่า ถ้าไปบอกหมออย่างนั้น หมอจะเอ็ดเอาไหมนี่ ก็ไม่อยากเจ็บนี่นา อัลมิตราวางแผนไว้แล้ว ออกจากห้องผ่าตัดปุ๊บ กินยาแก้ปวดทันที 2 เม็ด กลับถึงบ้าน นอนนนนน ตั้งนาฬิกา 4 ชั่วโมง กินยา 2 เม็ด ให้มันรู้ไปดิ ว่าจะเจ็บอันหยังอีกค่ะ ที่จริง วันอาทิตย์มีงานแต่งงานของเพื่อนร่วมงาน ใคร ๆ เขาไปร่วมแสดงความยินดี อัลมิตรายังไม่รู้ลูกผีลูกคน ทำไปทำมา คงไม่ได้ไปแหง๋ ๆ แผลน่าจะยังระบมอยู่ ถึงไง ก็ใส่ชุดเกาะอกไม่ได้อยู่ดี ว่าจะล่อชุดสไบเฉียงหรือตะเบงมาน โอ้ ไม่ได้โอกาสเลยค่ะ
9 กันยายน 2554 20:44 น. - comment id 126338
.. หมอนัดผ่าตัด วันที่ 9 เดือน 9 เวลา 9 โมงเช้า .. วันนี้ฉันก็เลยตื่นแต่เช้า จัดการอาบน้ำสระผมซะเอี่ยมอ่อง เตรียมอาหารเช้าเสร็จแล้วก็ไปโรงพยาบาลอย่างที่ไม่รีบเร่งนัก เพราะไม่รู้ว่าจะรีบเร่งไปทำไม ยังไงซะ ก็ต้องขึ้นเขียงถูกผ่าตัดอยู่แล้ว .. ไปถึงโรงพยาบาลยังไม่แปดโมงเลย มีเวลาเตร็ดเตร่ ยื่นบัตรนัดผ่าตัด แล้วก็ไปยืนอ่านป้ายแนะนำผู้ป่วยหลังผ่าตัด อ่านจนจำได้ขึ้นใจ จะว่าไปแล้ว มาทีไร ก็แวะอ่านทุกทีนั่นแหล่ะ นี่ถ้าหากมีการสอบนะ สงสัยจะได้ท๊อป เก้าโมงแล้ว .. เอ คิวแรก แต่หมอยังไม่มาสักที รอไปรอมา จนพยาบาลก็พลอยกังวลไปด้วย หมอจะลืมเราหรือเปล่านะ คิดไปนั่น พยาบาลบอกว่า "รอหน่อยนะจะ อาจารย์หมอไม่ลืมนัดหรอกค่ะ มาแน่นอนค่ะ คงติดที่วอร์ด" อืมม .. ไม่เป็นไร แสดงว่ามีเคสหนักกว่าเรา เวลาที่รอหมอ ไม่เคยรู้สึกเคืองเลยนะ เพราะรู้ว่า หน้าที่ของหมอต้องมีเหตุฉุกเฉินอยู่บ่อย ๆ อีกอย่าง เคสนั้นอาจสำคัญ ฉันก็รอไปเรื่อย รอจนท้องร้องกร๊วก ๆ หิว.. แล้วสินั่น แว๊ปออกไปกินข้าวก่อนดีกว่า ไม่ไหวล่ะ จนบ่าย หมอมาแล้ว พอเจอหน้า หมอรีบบอกว่า "ไม่ลืมหรอกน่า ประชุมไม่เสร็จสักที" เอาเถอะหมอก เหตุผลอะไรก็ไม่สำคัญแล้วล่ะ รู้แต่ว่า หมอมาแล้ว เจ็บตัวแน่แล้วตรู ..
9 กันยายน 2554 20:59 น. - comment id 126339
การผ่าตัดมีขึ้นที่ห้องผ่าตัดเล็ก เล็กจริง ๆ เล็กขนาดที่ว่า เวลาเดินภายในตู้คอนเทนเนอร์ แทบจะต้องสับรางหลีกกัน ลองคิดดู ตู้คอนเทนเนอร์ถูกแบ่งเป็น 2 ฟาก แค่ผ้ากั้น มี 2 เตียง เห็นอีกฟากกำลังผ่าตัดหนุ่มคนหนึ่ง ไม่รู้เหมือนกันว่าผ่าตัดอะไร ส่วนฉันน่ะ ที่แน่ ๆ ผ่าตัดก้อนเนื้อที่เต้านม.. "จะเจ็บไหมคะ" พอเอาเข้าใจ ใจก็นึกปอดขึ้นมาซะเฉยเลย .. "เจ็บดิ ใครล่ะ ผ่าไม่เจ็บ แต่ตอนนี้ยังไม่เจ็บ เพราะว่าต้องอัลตราซาวด์ระบุจุดที่จะผ่าตัดก่อน" หมอว่างั้น .. หมอเช็คอยู่นาน ใช้เครื่องมือวนเวียนอยู่นั่นแหล่ะ ทำไปบ่นไป .. หาไม่เจอ .. ไปอยู่ไหนนะ .. ยังไงกัน .. บ่นไปด้วย ชวนฉันคุยไปด้วย คุยกับพยาบาลไปด้วย ตอนนั้นฉันก็ได้แต่ฟัง ตามองไม่เห็นหรอก เขาเอาผ้าปิดตา แขนขาก็ถูกล็อคเอาไว้ สงสัยกลับวิ่งหนีมั๊ง ฟังหมอกับพยาบาลคุยเรื่องอาจารย์ใหญ่ แล้วก็ได้ยินเสียงถามว่า "รู้จักอาจารย์ใหญ่ไหม" ไม่รู้ว่าหมอถามใคร สักพักหมอเรียกชื่อฉัน สงสัยแอบเช็คว่าฉันหลับหรือเปล่า ฉันตอบว่ารู้จักสิ อาจารย์ใหญ่ของนักศึกษาแพทย์ สนใจสมัครเหมือนกันนะ แล้วฉันก็ถามหมอว่าเจอหรือยัง หมอบอกว่า ไม่เจอ วนเข้าไป เวียนเข้าไป หาอยู่นาน แล้วหมอก็บอกว่า นี่ไง (ซวยล่ะสิ หมอเจอแล้ว) ตำแหน่งเดียวกันกับฟิล์มที่แล้ว (เมื่อวันที่ 23 สค. เมมโมแกรม+อัลตราซาวด์) "แต่มันไม่ใช่แบบนั้นนี่ " ฉันก็เลยถามหมอว่ามันคืออะไร "หน้าตามันไม่เหมือนเดิมเลย ฟิล์มที่รับมา เป็นก้อนเนื้อที่น่าตาน่าเกลียด บ่งบอกชัดเจนว่าเป็นมะเร็ง แต่นี่ หน้าตามันคนละเรื่อง มันเป็นก้อนเนื้อไตเต้านมธรรมดา" "อ้าว หมอ ดูดี ๆ นะ ตำแหน่งเดียวกันหรือเปล่า" หมอบอกว่า "เป๊ะเลย เอาสองภาพมาซ้อนทบกันได้พอดี ขนาดสัดส่วนก็เท่ากันเป๊ะ เพียงแต่ว่า สภาพของมันที่เปลี่ยนไป " หมอบอกอีกว่า.. ไม่ต้องผ่าตัดแล้ว ส่วนฉันน่ะ ทำเป็นใจดีสู้เสื่อ " เจ๋ง แต่ ..เถอะน่า หมอ วันนี้ทำใจไว้แล้ว เตรียมตัวมาเจ็บ ถ้าไง ผ่าตัดทิ้งไปเลย จะได้ไม่ต้องซีเรียสภายหลัง" หมอบอกว่า "ผ่าตัดทำไมให้เจ็บตัว ก็มันเป็นก้อนเนื้อธรรมดา ผู้หญิงทุกคนก็ต้องมี" ฉันถาม "จริงอ่ะ ทุก ๆ คนมีเหรอ" หมอบอก "จริงสิ มีกันทุกคนนั่นล่ะ" งง + งง .... หมอบอกว่า วันนี้ปิดคดี ไม่ต้องผ่าตัด นัดอีก 3 เดือนข้างหน้า
10 กันยายน 2554 14:04 น. - comment id 126345
ชีวิต... ต้องสบถ..คำนี้เลย การวินิจฉัยโรคของหมอใหตู้? ๑. อ่านแล้วดีใจมากยิ้มออกเลย ว่ามันไม่ใช่ นี่คือข่าวดี ๒. หมอทำเอาพวกเราเป็นมะเร็งอารมณ์ไปหลายวัน คนที่ เป็นต้องคิด..กังวล ตรู.. จริง ๆ ก็ดีใจนะคะว่ามันไม่ใช่ ก็ถือว่าวันนั้นหมออาจจะนอนไม่พอน่ะ เลยวินิจฉัยว่า ก้อนที่พบเป็นมะเร็ง แล้วเครื่องเมมโมแกรม มันก็แสดงผลไม่ใช่หรือ อืม... แล้วนี่รู้แล้วว่าไม่ใช่ ก็อย่าลืมตัว ลุย...งานนะคะ มามะ มาเต้นฮูล่าฮุ๊ป กัน ช่วงนี้ต้องบริหารหัวเข่าน่ะ เอ้า...ส่าย
10 กันยายน 2554 21:09 น. - comment id 126346
คุณปรางทิพย์ .. หลังจากที่ไม่ต้องผ่าตัด อัลมิตราก็นึกถึงหลาย ๆ คนที่อัลมิตราอยากจะแจ้งข่าว เพื่อให้เขาเหล่านั้นหมดความกังวลใจ อัลมิตราเองก็ยัง "งง" เคยอ่านเรื่องเล่าปาฏิหาริย์ของคนอื่น พอมาเป็นกับตัวเองก็เริ่มต้นไม่ถูก หรือว่า เครื่องอัลตราซาวด์เครื่องใดเครื่องหนึ่งผิดปกติ แต่สิ่งที่พิสูจน์ได้ก็คือ ภาพถ่ายของฟิล์ม มันทาบทับซ้อนกันได้พอดิบพอดี ทั้งขนาดสัดส่วน ตำแหน่ง ก็ชี้ชัดว่าเป็นก้อนเดียวกัน ทว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือสัญชาติของมัน .. เป็นสิ่งที่ เหนือความคาดหมายของอัลมิตราจริง ๆ ค่ะ
11 กันยายน 2554 22:38 น. - comment id 126356
คุณอิม ถือว่าปาฎิหารย์มีจริงนะคะ ผลบุญจากกุศลที่หมั่นสร้างด้วยค่ะ สาธุ... นึกย้อนกลับมาถึงหมอที่นี่ ระหว่างที่มีอาการเจ็บป่วยกัน เท่าที่ได้รับ ข้อมูลมา หมอที่นี่จะบอกกับพวกเราว่า ปกติดี ไม่มีอะไรผิดปกติ ให้เธอกลับบ้านไปพักผ่อน จนพวกเราทนกันไม่ไหว น็อคไปหรือ ด้วยเหตุการณ์อย่างอื่น พอรู้ก็นั่นเลยมันลามไปทั่วแล้ว อย่างไรปรางทิพย์ก็ยังศรัทธาหมอไทยอยู่ค่ะ เพราะมีน้องชายของสามีเพื่อนคนหนึ่ง เป็นเนื้องอกในสมอง เค้าก็ประวิงเวลามานานมาก จนในที่สุดน้องเค้าหมดสติไป ไปตรวจพบว่าเนื้อก้อนนั้นใหญ่เกินที่จะผ่าตัด หมอก็ดีนะ บอกว่า จะอยู่ได้อีก สองเดือน พวกเราพากันร้องไห้กัน ช็อคน่ะ แม่เค้าตัดสินใจ บินไปผ่าตัดที่เมืองไทย เสียเงินเอง ซึ่งก็แพงมาก เนื่องจากเป็นชาวต่างชาติ ตอนนี้น้องเค้าก็ยังมีชีวิตอยู่ค่ะ เรื่องก็ผ่านมา หลายปีแล้ว ยังไม่เห็นเป็นอะไรเลย เห็นมะหมอบ้านเราเก่งออกค่ะ อ้อ..ใช่แต่หมอนะ พยาบาลบ้านเราก็น่ารักกว่า ยังจำได้นะ ตอนที่คนตัวใหญ่ผ่าตัดกระดูกเชิงกราน (เค้าผ่าตัดทั้งสองข้างเลยอ่ะ) ตอนเช้าขับรถไปส่งท่านที่ รพ. เพราะคิวผ่าตัดเช้า แล้วก็กลับมาทำงาน หลังเลิกงานก็ไปเยี่ยมท่าน ตกใจ เพราะเค้าไล่ให้ลงหัดเดิน เห็นแล้วงง เลยโทรกลับบ้านลูกสาวคนโตเธอเป็นพยาบาล โวยวายใหญ่ เพราะบ้านเรา โน่น อย่างน้อยเป็นอาทิตย์ถึงจะให้หัดเดิน พอปรางทิพย์บ่นเรื่องหัวเข่าที่มีปัญหา เค้าจะผ่าเปิดหัวเข่า ลูกบอกไม่ต้องเลย เด๋วเค้าไล่ลงเตียงให้หัดเดิน แทนที่จะหาย จะเจ็บมากกว่าเดิม เพราะลูกยังบอกว่า คอยดูนะคนตัวใหญ่ จะต้องปวดไม่หาย ซึ่งก็เป็นจริง ทำให้กลัวไม่กล้าผ่าเลย ยังทนไหว ไว้คอยกลับไปอยู่บ้านก่อนค่อยรักษาก็ทัน อิอิ...ข้อยย่าน แม้ไม่เป็นอะไร แต่ก็ยังเป็นห่วงอยู่นะคะ แล้วนี่หัดร้องเพลงของน้อง กรต. ไปถึงไหนแล้ว
12 กันยายน 2554 21:16 น. - comment id 126385
จริง ๆ นะคะ ถ้าคุณปรางทิพย์กลับมาเมืองไทย ก็จะพาไปหาหมอท่องเมฆา เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญทางกระดูกค่ะ อยากให้เขาดูแลรักษาคุณจังเลย คุณปรางทิพย์จำได้ไหมคะ ฝากเงินไว้ที่อัลมิตราหกพันกว่าบาท อัลมิตราจะเอาลงในโครงการนี้เลยนะคะ แล้วจะทำบัญชีขึ้นแจงบนหน้าเวปค่ะ ช่วงนี้ตระเตรียมงานมากมาย เหลือเวลากินข้าวตอนพักเที่ยงแค่15 นาที ใช้เวลาอีก 45 นาทีในการเตรียมของบริจาคค่ะ อยากรู้ไหมคะ อัลมิตราเตรียมอะไรบ้างแล้ว 555 ไม่อยากรู้ก็ไม่รู้ล่ะ อยากเล่านี่นา .. 1. เรื่องสี กล้าหาญชาญชัยมาก ทำเอกสารไปขอบริษัททีโอเอเพ้นท์(ประเทศไทย) โดยที่วัดขนาดพื้นที่ที่จะต้องซ่อมทาสีใหม่แนบไปด้วยค่ะ 2. เตรียมการเรื่องเสบียง 5 มื้อ เรียบร้อยแล้ว เช้าวันเดินทาง ขนมปัง+น้ำผลไม้ (อาจจะเปลี่ยนเป็นข้าวกล่อง) กลางวันเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ตอนเย็นก็สารพัดจะสรรหามาทำเป็นกับข้าว (ไปขอปลากระป๋องได้มา 10 ลัง) และก็จะเปิดบูธตำแหลก (ส้มตำ) ค่ะ มื่อเช้าอีกวันเป็นข้าวต้มทะเล (ไปขอปลาจากเพื่อนที่อยู่มหาชัย) แล้วมื้อกลางวันก็เป็นอาหารจานเดียว ข้าวหน้าไก่ .. ส่วนขนมของคั่นระหว่างมื้อ คิดว่าไม่ยากเย็นอะไร อัลมิตราชอบแกงบวดฟักทอง เดี๋ยวไปตื้อให้พ่อครัวเลือกทำแกงบวดฟักทองดีกว่า มันต้มขิงก็ดีเหมือนกันนะ กินแล้วจะได้อบอุ่นดีเพราะช่วงนั้นอากาศจะเริ่มเย็นแล้ว ไอศรีมสักถังก็เจ๋ง 5555 ... อัลมิตราคงต้องระมัดระวังในเรื่องโภชนาการอย่างเคร่งครัดค่ะ ที่แจกแจงมา ทานได้ไม่กี่อย่างมั๊ง 3. เรื่องน้ำดื่ม เรียบร้อยโรงเรียนจีนค่ะ เพราะว่ามีผู้อุปถัมท์จะไปทำน้ำสมุนไพรให้ดื่ม น้ำกระเจี๊ยบ น้ำอัญชัญ น้ำเก็กฮวย น้ำมะตูม .. ดีแฮะ 4. เรื่องรถ กะว่าจะเอารถบัสไป นี่ก็ไปเกริ่น ๆ เอาไว้แล้วค่ะ เจ้าของรถใจดีมาก บอกว่า ถ้าไปทำบุญเดี๋ยวคิดราคากันเอง น่าจะทุ่นค่าใช้จ่ายได้มากทีเดียวค่ะ 5. เครื่องคอมพิวเตอร์ นี่ก็เรียบร้อยแล้ว ส่งจดหมายขอไปยังอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา น่าจะได้เกิน 5 เครื่อง ส่วนที่มีคนบริจาคอยู่แล้ว ก็ได้มาล่ะ 3 เครื่อง ไม่น่าเป็นห่วง พรุ่งนี้จะให้คนไปติดตั้งเครื่องที่โรงเรียนก่อน 3 เครื่องค่ะ 6.เรื่องแรงงาน คราวนี้ไม่เหมือนหนที่แล้ว หนที่แล้ว รับสมัครได้ไม่อั้น เพราะสามารถขยายการสร้างฝายได้ แต่คราวนี้คงต้องหยุดอยู่ที่ตัวเลข 150 คน ไม่งั้นจะเดินชนกันตายซะเปล่า ๆ ขณะนี้ มีคนสมัครมาเกือบร้อยคนแล้วค่ะ 7. งานนี้ อัลมิตราคงต้องอยู่ไกลจากสี เห็นทีจะต้องไปยึดพื้นที่โรงครัวแทนค่ะ
12 กันยายน 2554 21:18 น. - comment id 126386
อ้อ .. เกือบลืม เพลงใจ .. อัลมิตราร้องได้แล้วนะ 5555 ซ้อมทุกวัน ๆ ละ หลาย ๆ รอบ คุณกีรตินี่ใจดีจังนะคะ วันที่ 9 ที่ต้องไปผ่าตัด เขาก็โทรมาให้กำลังใจด้วยค่ะ ตอนนั้นนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ (อาจหาญมาก มาผ่าตัดคนเดียว .. ฮา) พอสถานการณ์พลิกผัน อัลมิตราก็รีบโทรแจ้งเขานะคะ เขาดีใจใหญ่เลยค่ะ
13 กันยายน 2554 22:45 น. - comment id 126400
ได้อ่านรายงานแล้วค่ะ เสียดายจริง ๆ ที่ไม่ตรงช่วงที่ไปเมืองไทย เพราะจะได้ช่วยหยิบจับอะไรบ้าง เรื่องในครัวก็พอจะช่วยได้บ้าง ฝากไว้ก่อนนะคะ สักวันเราต้องได้ไปด้วยกัน งานที่ทำไม่ใช่เรื่องเล็กเลยนะคะ เพราะเคยทำให้วัดแต่ไม่มากเท่านี้ ก็ยังรู้สึกว่า มันวุ่นวาย สาเหตุน่ะหรือ ก็เพราะมากคนก็มากเรื่องไงคะ เพราะผู้บริจาคแต่ละท่าน มีความต้องการสวนทางกัน สรุป เราก็เต้นตามเค้า ไม่ได้ ก็มีงอน คือ พวกกลุ่มเราไปพบวัดหนึ่งที่ จ.อุทัยธานี กันดารมาก มีไฟฟ้า ที่ศาลาเพียงดวงเดียว ถ้วยจานที่พระฉันท์เป็นสังกะสี ซึ่งกะเทาะบุบ บริเวณวัดไม่มีอะไรเลย พวกเราก็ขอบริจาคกับบริษัทคู่ค้า ก็จัดสายไฟฟ้า ดวงโคม พัดลมเพดาน ถ้วยจานชาม หม้อ กะทะ ก็มีผู้ร่วมบริจาคพอควร แต่..พอแจกแจงรายการวัสดุอุปกรณ์ บางท่านขอให้เขียนชื่อเค้าติดกับสิ่งของเหล่านั้น ???? ปรางทิพย์ก็ถามว่า ทำไมหรือ เค้าก็บอกว่า ยามที่เปิดพัดลมเพดาน จะได้รู้ว่าใครเป็นคนบริจาคเงิน ๕๕๕ แล้วถ้วยจาน กะทะ หม้อ ก็ต้องเขียน โห... พวกเราก็ขอร้องว่า การเขียนมันต้องใช้เวลา และหากสีที่เขียน มันหลุดลอกออก มันจะน่าเกลียด อย่าเลย แค่เรารู้ว่าเราทำบุญก็ก็สุขใจแล้ว ท่านก็งอนไป เรื่องทาสีรั้วกำแพงวัด เลยไม่กล้าขอท่าน พอดีผู้รับเหมาสี เค้ายินดี ช่วยทาให้ฟรี เลยรอดตัวไปไม่ต้องเขียนชื่อท่านทั้งหลายบนกำแพง พอวัดสร้าง โรงเรียน ก็ไปอีก ช่วงไปขอบริจาคจากท่าน ๆ ก็มีจุดประสงค์ ว่าจะให้ลงชื่อท่าน แล้วขอใบอนุโมทนาบุญด้วย ซึ่งจุดนี้ ปรางว่ามัน มากเกินไปค่ะ เลยต้องตัดไป เพราะทำอะไรก็ทำให้เห็นเชิญให้ไปด้วย เราอาจจะคิดไม่เหมือนคนอื่นมั้ง ข้อที่ว่าหากต้องทำใบอนุโมทนาบุญ มันต้อง เสียเวลา ค่ากระดาษ หรือการเขียนชื่อไว้บนอุปกรณ์ต่าง ๆ มันก็มีค่าใช้จ่าย หากเอาเงินตรงนี้ไปถวายพระ หรือเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็ก ๆ ยังจะเข้าท่ากว่า อิอิ...บ่นไปแยะ ชอบการทำบุญแบบที่คุณอิมทำ ไม่ต้องมีพิธีรีตรองให้วุ่นวาย แบบนี้ผู้รับก็เป็นปลื้ม ผู้ให้ก็อิ่มบุญ "ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก" ...สาธุค่ะ หมอท่องเมฆา เราจะต้องได้พบกันค่ะ และก็ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะคะ แล้วไปลั้นลา แค่ไกลจากสียังไม่พอนะคะ ต้องอย่าลืมว่าเรายังไม่แข็งแรงพอ อิอิ..ก็รู้ว่าห้ามไม่ได้หรอก จะคอยชมภาพนะคะ
15 กันยายน 2554 21:03 น. - comment id 126444
คุณปรางทิพย์ .. ตอนนี้งานเข้มข้นขึ้นทุกขณะค่ะ ลำพังแค่จัดไซด์เสื้อตามที่คนแจ้งสมัครเข้ามาก็วุ่นแล้ว ผู้หญิงอยากได้แบบผู้ชาย อันนี้ไม่แปลก เข้าใจว่าไม่ต้องการรัดรูป แต่ผู้ชายบางคน อยากได้แบบผู้หญิง ... ทำให้เกิดความรู้สึกแปลก ๆ พูดถึงเรื่องเก่า ๆ ที่เคยไปบริจาคของที่โรงเรียนในชนบท เคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาเหมือนกัน จนทำให้ท้อไปหลายวัน แต่ด้วยความคิดที่ว่า .. " เอาน่ะ คนเรามันต่างความคิด บางเรื่องไม่จำเป็นที่ต้องอธิบาย ใครเขาคิดทำสิ่งใด มันขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางด้านจิตใจของเขา" เมื่อคิดได้เช่นนั้น ก็ทำให้กล้าที่จะลุกขึ้นมาทำโครงการฯใหม่ คราวนี้ใช้ชื่อว่า "โครงการเพื่อนพ้องน้องพี่" ก็เพราะต้องการให้ผู้เข้าร่วม มีความรู้สึกว่า นี่คือ พี่น้อง นี่คือ ผองเพื่อน ไม่ว่าใครจะเป็นใหญ่เป็นโตมีหน้าที่การงานบิ๊กเบิ้มขนาดไหนก็ตามแต่ ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่แผลในใจของอัลมิตรายังคงมีอยู่ค่ะ ทุกครั้งที่ทำโครงการฯ จึงต้องทบทวนอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีกค่ะ .... วันนี้ไม่ได้แบกของเลย แค่ทำท่าหนัก ๆ แล้วเดินตามเพื่อนที่แบกของแทนเท่านั้นเองค่ะ