อาจารย์เล่านิทาน โดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ มีอีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับพวกนักเรียนที่มีความกระตือรือร้น ซึ่งไปร่ำเรียนกับอาจารย์ เพราะว่าอาจารย์มีพลังอิทธิปาฏิหาริย์มากมาย พวกเขาก็เลยอยากมีบ้าง อย่างไรก็ตามอาจารย์ก็มักจะปฏิเสธอยู่เสมอ โดยบอกพวกเขาว่าพวกเขายังไม่พร้อมสำหรับเรื่องอะไรแบบนั้น มันอันตรายมากที่จะมีพลังทางจิตวิญญาณโดยที่ไม่มีคุณธรรมและปัญญา แต่นักเรียนก็ไม่ต้องการที่จะฟังเรื่องพวกนี้ พวกเขาเห็นอาจารย์แสดงอิทธิปาฏิหาริย์มากมาย พวกเขาก็เลยต้องการมีบ้าง โดยเฉพาะพลังอิทธิฤทธิ์ที่ทำให้คนตายฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก พวกเขาชอบที่จะมีพลังแบบนั้น ดังนั้นพวกเขาก็เลยเฝ้ารบเร้าอาจารย์ตลอดเวลา จนกระทั่งวันหนึ่งอาจารย์ก็ยอมแพ้และสอนสูตรลับที่จะทำให้คนตายฟื้นคืนชีพให้แก่พวกเขาพวกเขาก็รู้สึกมีความสุขมากกับการค้นพบใหม่นี้ พวกเขาจึงจากอาจารย์ไป เพราะคิดว่านั่นคือทั้งหมดที่พวกเขาต้องการ แล้วพวกเขาก็ไปที่อื่นด้วยกัน ระหว่างการเดินทาง พวกเขาก็ได้ผ่านที่ที่เปลี่ยวมาก ไม่มีใครอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว มีโครงกระดูกอยู่บนถนน พวกเขาต้องการทดสอบพลังของความรู้ที่เพิ่งเรียนมาใหม่ๆ พวกเขาท่องมนต์ ทำมือทำไม้อะไรแบบนั้น ในทันใดนั้นกระดูกทั้งหมดก็ลอยขึ้นไปในอากาศ รวมตัวกันกลายเป็นรูปร่างดั้งเดิมของสัตว์ที่มีชีวิต เนื้อหนังมังสาทั้งหลายก็กลับมีชีวิตขึ้นมาอีก มีเขา มีเขี้ยวงอกออกมาอีก มันได้กลายเป็นไดโนเสาร์จากเมื่อหลายล้านปีมาแล้ว มันใหญ่โตมาก มันไล่และกินพวกเขา ทำให้พวกเขาหลุดพ้น นั่นก็นับได้ว่าเป็นอันตรายอย่างหนึ่งด้วยเช่นกัน ในการที่ชอบเป็นคนลอกเลียนแบบการลอกเลียนแบบอาจารย์โดยปราศจากปัญญาของผู้รู้แจ้งอย่างแท้จริง โดยปราศจากพลังที่จะควบคุมความอยากรู้อยากเห็นของเรา โดยปราศจากความเมตตาที่จะทำสิ่งต่างๆ ในเวลาที่เหมาะสมเมื่อสรรพสัตว์ต้องการให้เธอช่วยเหลือโดยที่ไม่ใช่เป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นของเธอ หรือเพราะเธอต้องการอวดพลังของเธอ นั่นเป็นสิ่งที่อันตรายมาก ด้วยเหตุนี้ในการบำเพ็ญทางจิตวิญญาณของเรา เราจึงไม่สนับสนุนให้คนใช้พลังอิทธิปาฏิหาริย์ หากเธอมีอยู่บ้าง เธอก็ไม่ควรใช้มันเลยจะดีกว่าตามที่ฉันได้เคยบอกเธอมาแล้ว มันเป็นเป็นสิ่งของชนิดหนึ่งที่ยืมมาจากโรงไฟฟ้าของจักรวาล และมันไม่ใช่เป็นโรงไฟฟ้าที่อยู่ในระดับสูง อะไรก็ตามที่เธอยืมมาจากระดับที่ต่ำ เธอก็จะต้องจ่ายคืนพร้อมทั้งดอกเบี้ย ถ้าเธอได้มันมาจากพระเจ้า จากการไหลเวียนที่เป็นธรรมชาติของปัญญาและพลังสูงสุด มันก็จะเป็นของเธอ เป็นของพลังของพระเจ้า ซึ่งเธอไม่ต้องจ่ายคืนมีอาจารย์อยู่คนหนึ่ง ฉีนไม่รู้จักชื่อ เขาเริ่มแก่ลงๆ และแน่นอน ตาของเขาก็เริ่มมัวลงเพราะอายุที่มากขึ้น จนกระทั่งเขามองไม่เห็นลูกศิษย์และจำสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวไม่ได้ มีหมอที่รักษาโดยใช้พลังจิตคนหนึ่ง (บางครั้งพวกเขาวางแขนของพวกเขาลงบนตัวเธอ แล้วก็สามารถรักษาเธอให้หายได้ อะไรแบบนั้น) ได้พูดกับอาจารย์คนนั้นว่า "เธอมาหาฉันสิ มอบความไว้วางใจให้กับฉัน ฉันสามารถรักษาตาของเธอให้หายได้ ทำให้เธอเห็นได้อีก" แต่อาจารย์คนนั้นก็พูดว่า "ไม่เอาๆ ฉันได้เห็นในสิ่งที่ฉันจำเป็นต้องเห็นอยู่แล้ว ฉันได้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน สิ่งอื่นๆ ไม่สำคัญเท่าไรนักหรอก"นั่นเป็นทัศนคติที่ถูกต้องสำหรับผู้บำเพ็ญทางจิตวิญญาณ สำหรับเรา เราไม่ควรที่จะรู้สึกละโมภ อยากได้การรักษาด้วยพลังอิทธิปาฏิหาริย์ ละโมภอยากได้พลังอิทธิปาฏิหาริย์และสิ่งที่สะดวกสบายทั้งหลายเหล่านี้ มันเป็นสิ่งที่ชั่วคราว ให้การบรรเทานิดหน่อยเท่านั้น แต่เราจะต้องสูญเสียสิ่งต่างๆ มากมายเป็นการตอบแทน ไม่มีอะไรภายในไตรภูมิที่เราจะได้มาฟรีๆ เฉพาะในโลกที่ 5 เท่านั้นที่ทุกอย่างมีอยู่อุดมสมบูรณ์และไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ สิ่งอื่นๆ ทุกสิ่งทำมาจากสสารที่เป็นวัตถุในโลกนี้ และในไตรภูมิ ถ้าหากเราเอามากเกินไป ที่อื่นก็จะเกิดการขาดแคลน ดังนั้นพลังอิทธิปาฏิหาริย์จึงไม่มีอะไรเลย แต่เป็นการเอาสิ่งหนึ่งจากที่หนึ่งและนำมันไปสู่อีกที่หนึ่ง... Be Veg, Go Green 2 Save The Planet www.suprememastertv.com www.godsdirectcontact-thai.org
26 กรกฎาคม 2554 21:45 น. - comment id 125236
แค่เปลื่ยนที่เท่านั้น.... ฉันยังไม่เข้าใจอีกหลายๆอย่างเลยนะ..
28 กรกฎาคม 2554 15:07 น. - comment id 125292
มีเปลี่ยนเป็นไม่มี ไม่มีกลับกลายเป็นมี หลักการทางวิทยาศาสตร์ที่กล่าวว่า พลังงานไม่สูญหาย แต่สามารถเปลี่ยนรูปได้ เช่น พลังงานไฟฟ้าเปลี่ยนเป็นพลังงาน แสงสว่าง พลังงานกล พลังงานจลย์ พลังงาน ศักย์ ฯลฯ พลังงานไฟฟ้าไม่มีรูปร่าง แต่ถ้า เราจับต้องก็จะหลุดพ้นทันที พลังงานไฟฟ้า มองไม่เห็น แต่มันเปลี่ยนเป็นแสงสว่าง ผ่านทางหลอดไฟทำให้เราสามารถมองเห็น สิ่งต่างๆ ในความมืดได้ นี่แค่ตัวอย่างหนึ่ง เธอก็เรียนวิทยาศาสตร์มาย่อมเข้าใจว่า พลังงานจากที่หนึ่งแค่ย้ายไปอีกที่หนึ่งเท่านั้น เช่น พลังงานไฟฟ้าย้ายจากเขื่อนผลิตกระแส ไฟฟ้า มาอยุ่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของเราต่างๆ เป็นต้น เพียงแต่เรื่องราวทางจิตวิญญาณเป็นวิทยาศาสตร์ขั้นสูงมาก และยากที่จะหาอาจารย์สักท่านหนึ่งมาสอนวิชานี้ได้ การได้พบเจอสักคนหนึ่งก็นับว่าโชคดีที่สุดแล้ว เพียงแต่ถ้าเธอเรียนจบวิชานี้แล้ว เธอจะได้รับปริญญาทุกสาขาที่มีอยู่ในโลกและจักรวาลในเวลาเดียวกัน โอกาสดีขนาดนี้เธอจะหาที่ไหน ยังจะรออะไรอีก? อิอิ (ไม่ได้เร่ง แต่เร็วๆหน่อย)