อาจารย์เล่านิทาน โดย ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการบูชาด้วยใจ การบูชาด้วยจิตใจหมายถึงผู้มีจิตศรัทธาหรือผู้ที่ปฏิบัติตามคำสอน ไม่ได้ใช้สิ่งของภายนอก เช่น ดอกไม้ เครื่องหอม กลอง ฆ้อง รูปปั้น รูปบูชาหรืออาหาร ฯลฯ เพื่อทำการสักการะบูชา เธอคงจำอรชุนได้ใช่ไหม? เขาเป็นคนที่มีความศรัทธาในตัวท่านกฤษณะซึ่งมีเอ่ยถึงในภควัทคีตา อรชุนชอบแสดงการกราบไหว้บูชาพระเจ้าเป็นเวลานานและเป็นในลักษณะโอ้อวดด้วยวิธีการภายนอก เขามีห้องบูชาพระขนาดกว้างใหญ่ ตกแต่งด้วยดวงไฟจำนวนนับไม่ถ้วน ภาชนะที่ใช้ในพิธีบูชาของเขาก็ทำด้วยทองและเงิน เขาใช้เวลาในการทำพิธีสักการะบูชาพระศิวะครั้งละหลายๆ ชั่วโมง เขาจะนั่งอยู่นานหลายชั่วโมงและนำดอกไม้จำนวนมากเป็นเกวียนๆ มาโยนถวายสักการะต่อรูปของพระศิวะ เธอคงรู้จักพระศิวะนะ ท่านเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งในศาสนาฮินดูซึ่งมีพระพรหม พระวิษณุและพระศิวะ พระศิวะนั้นเป็นเทพเจ้าแห่งการทำลาย แต่จริงๆ แล้วท่านทำลายเฉพาะความชั่วช้า ไม่ได้ทำลายคนดีๆมีน้องชายของอรชุนคนหนึ่งชื่อว่า ภีมะ เขาไม่เคยนั่งกราบไหว้บูชาใครเลย ไม่เคยไปวัดไปวา เขามักจะมาที่เหมี่ยวลี่เสมอ (คนหัวเราะและปรบมือ) เขาจะหลับตาลงสักสองสามนาทีก่อนรับประทานอาหาร เพียงแค่สองสามนาทีเท่านั้นก่อนกินอาหาร เพื่อทำการคารวะต่อพระเจ้าอยู่ในใจ บางทีเขาอาจจะถวายอาหาร หรือท่องคำพระหรืออะไรทำนองนั้นก็เป็นได้อรชุนนั้นคิดว่าตนเองเป็นผู้มีความศรัทธาต่อพระเจ้ามาก รวมทั้งเป็นผู้เคร่งครัดและอุทิศตนต่อศาสนา และคิดว่าน้องชายของเขาไม่มีความอุทิศตนเลย ดังนั้นเขาจึงดูถูกดูแคลนน้องชายของเขามาก (มีเสียงหัวเราะ) ท่านกฤษณะก็ได้ล่วงรู้ถึงท่าทีของอรชุนและต้องการจะสอนบทเรียนให้เขาได้เรียนรู้อะไรบ้าง จึงเสนอให้อรชุนเดินทางไปยังเขาไกรลาศซึ่งเป็นที่อยู่ของพระศิวะเมื่อท่านกฤษณะและอรชุนเดินทางมาด้วยกัน ในระหว่างทางนั้นก็พบกับชายคนหนึ่งซึ่งกำลังลากเกวียนอันเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด อรชุนก็ถามชายผู้นั้นว่าจะนำดอกไม้ไปไหน แต่ชายผู้นั้นก็นิ่งเงียบและง่วนอยู่กับงานที่กำลังทำอย่างมีสมาธิสูงมาก ดังนั้นท่านกฤษณะจึงบอกอรชุนว่า "เราลองตามเขาไปดูให้รู้ด้วยตนเองดีกว่า" อรชุนก็ตกลง และทั้งสองคนก็ติดตามชายผู้นั้นไป และในที่สุดก็พบว่าเขานำดอกไม้ในเกวียนไปทิ้งที่กองดอกไม้กองใหญ่มหึมา ขนาดเท่าๆ กับเนินเขาในศูนย์ซีหูนี่แหละ และพวกเขายังเห็นเกวียนบรรทุกดอกไม้อีกหลายร้อยเกวียนกำลังมุ่งหน้ามาที่จุดเดียวกันนำดอกไม้มาทิ้งไว้ที่นั่น กลายเป็นภูเขาลูกใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้สดกองอยู่ตรงนั้นอรชุนจึงยิ่งเกิดความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นจนอดรนทนไม่ได้ ถามชายเหล่านั้นอีกว่า "ช่วยกรุณาบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าดอกไม้จำนวนหลายเกวียนนี่มาจากไหนกัน?" แต่ก็ไม่มีใครสนใจตอบคำถาม อรชุนจึงถามซ้ำแล้วซ้ำอีก จนในที่สุดชายผู้หนึ่งก็ตอบว่า "ท่านที่เคารพ กรุณาอย่ามารบกวนเราเลย เรากำลังทำงานยุ่งมาก เราไม่มีเวลาพูดคุยกับใครหรอก เราเพิ่งจะนำดอกไม้มาวางไว้ที่นี่ได้เพียง 750 เกวียนเท่านั้น ยังมีอีกมากกว่า 750 เกวียนอยู่ในวัด ดอกไม้เหล่านี้มาจาก ภีมะ ลูกชายของปานดู ซึ่งทำการสักการะเทพเจ้าของเราเมื่อวานนี้"หมายความว่าดอกไม้ขนาดเท่าภูเขามหึมานี้เป็นเพียงครึ่งเดียวของที่เขาจะต้องช่วยกันขนมา ยังมีอีกครึ่งหนึ่งกองอยู่ในวัด และดอกไม้เหล่านี้มาจากภีมะที่เป็นน้องชายของอรชุนซึ่งตามที่ปรากฏให้เห็นเป็นคนที่ขี้เกียจ ไม่เคยไปวัด ไม่เคยกราบไหว้บูชาเทพเจ้าที่ไหนเลย ไม่เคยทำอะไรเลย ไม่เคยหาดอกไม้หรือเครื่องหอมมาถวายพระ เป็นคนที่อรชุนดูถูกมาตลอดว่าเป็นบุคคลไร้ประโยชน์ ไม่นับถือพระเจ้า ไม่มีความศรัทธาในพระเจ้า"ตอนนี้เราเหลือเวลาอีกไม่ถึง 4 ชั่วโมงก่อนที่เขาจะทำการสักการะบูชาในวันนี้ และพวกเราต้องเอาดอกไม้ออกมาให้หมดก่อนจะถึงเวลานั้น ทุกๆ วันที่เขาทำการสักการะบูชาเทพเจ้า จะมีดอกไม้เป็นจำนวนเท่าภูเขา" ดังนั้นคนเหล่านั้นจึงต้องโกยดอกไม้ออกมาทุกวัน เพราะมีดอกไม้จำนวนมากมายเหลือเกินจากการสักการะบูชาของเขาอรชุนรู้สึกงุนงงประหลาดใจมากจึงถามขึ้นว่า "นี่คุณกำลังพูดถึงภีมะหรืออรชุนกันแน่? คุณแน่ใจหรือว่าคุณจำไม่ผิด? คุณหมายถึงอรชุนใช่ไหม? อรชุนแน่ๆ ไม่ใช่ภีมะหรอก!? นี่คุณ ลองคิดดูซิ คิดดูให้ดี คุณต้องจำผิดแน่ๆ คนนั้นเขาชื่ออรชุน อรชุน อ-ร-ชุ-น ต้องเป็นชื่อนี้แน่ๆ" ชายผู้นั้นจึงตอบว่า "วู๊! อย่าไปพูดถึงอรชุนเลย ไม่ใช่ๆ ไม่ๆๆ ไม่ใช่ของอรชุน ไม่ใช่เลย มันเป็นของภีมะ คนที่กราบไหว้สักการะด้วยความศรัทธาอันแรงกล้า ไม่ใช่พี่ชายของเขาที่ชื่ออรชุน คนๆ นี้เพียงแค่แสดงท่าทางกราบไหว้บูชาแต่เพียงภายนอกเท่านั้น"และในตอนนั้นเองก็มีชายอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาถึงพร้อมกับดอกไม้ตะกร้าหนึ่ง ท่านกฤษณะจึงถามชายผู้นั้นอย่างจงใจ ไม่ใช่ว่าท่านไม่รู้ "อา เพื่อนรัก ดอกไม้เหล่านี้เป็นของถวายของใครกัน?" พวกเธอคงรู้คำตอบแล้วนะ ชายผู้นั้นก็ตอบว่า "เป็นของถวายจากคนบนโลกคนหนึ่งซึ่งเป็นพวกที่ชอบโอ้อวดภายนอก เขาชื่ออรชุน (คนหัวเราะ) คนนี้เขาชอบแสดงท่าทางกราบไหว้บูชาโดยไม่ได้มีความรักความอุทิศตนอย่างแท้จริง" จึงมีดอกไม้ตะกร้าเดียว แต่เขากลับพูดถึงมันมากเหลือเกินอรชุนก้มศีรษะลงต่ำด้วยความอับอายและกล่าวแก่ท่านกฤษณะว่า "โอ ท่านกฤษณะ ชิงไห่อู๋ซั่งซือ (คนหัวเราะ) ทำไมท่านต้องนำฉันมาที่นี่ด้วย? เราไปจากที่นี่เร็วๆ เถอะ ท่านน่าจะชี้ข้อบกพร่องของฉัน การหลอกตัวเองของฉัน การชอบแสร้งทำและโอ้อวดภายนอกของฉันที่บ้านก็ได้ จะได้ไม่ต้องเสียเวลา เสียแรงมากขนาดนี้ ฉันยอมรับว่าฉันคิดว่าการกราบไหว้บูชาและความศรัทธาของฉันสูงส่งมาก และฉันยังดูถูกภีมะด้วย ฉันเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าการนั่งสมาธิเพียงชั่วเวลาสั้นๆ แต่ด้วยความอุทิศตนอย่างจริงใจของภีมะนั้นมีค่าสูงส่งกว่าการสักการะบูชาที่โอ้อวดทั้งหลายของฉันตลอดทั้งวัน" ท่านกฤษณะก็ยิ้มและนิ่งเงียบเพราะฉะนั้นพวกเธอคงรู้ว่าในสถานที่ของเรา ในวัดที่ไม่ใช่วัดของเรานี้ เราไม่ได้สนใจดอกไม้ เครื่องหอมหรือกลอง ฆ้อง อะไรทั้งสิ้น เราสนใจแต่ความจริงใจและความอุทิศตนภายใน นี่แหละคือเหตุผลที่ฉันบอกให้เธอตั้งใจนั่งสมาธิ ไม่จำเป็นต้องแสดงอะไรออกมาภายนอกมากมาย ไม่จำเป็นต้องมาก้มกราบฉันหรือพุทธะองค์ไหน ถ้าพวกเธอเห็นพุทธะภายใน เธออาจจะก้มกราบพุทธะเหล่านั้นก็ได้ ถ้าเธอต้องการจะทำ แต่พุทธะทั้งหลายไม่ได้หวังสิ่งเหล่านี้ พวกเขาหวังจะให้เธออุทิศตนต่อตนเอง เธอจะได้สามารถค้นพบธรรมชาติแห่งพุทธะและกลายเป็นพุทธะหรือเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ขอให้ค้นพบธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของตนเอง ช่วยเหลือตนเองและสรรพสัตว์อื่นๆ อีกมากมาย นี่แหละคือสิ่งที่พุทธะหวังจากเรา...< /font> Be Veg, Go Green 2 Save The Planet www.suprememastertv.com www.godsdirectcontact-thai.org