* * * หนูหิ่ง ฯ ตอน จดหมายถึงพ่อ ฉบับที่ 6 * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ


กราบเท้าคุณพ่อที่รักและคิดถึง
พ่อคะ  หนูไม่ได้เขียนจดหมายถึงพ่อนานเลยนะคะ  คิดถึงพ่อจังเลยค่ะ  พ่อคิดถึงหนูบ้างไหมคะ ? 
ตอนนี้หนูกลับบ้านค่ะ  บ้านที่บนดอยหนาวมาก  มีทั้งลมและฝนตกปรอย ๆ ทั้งวันทั้งคืน  หนูก็ยังคงแพ้อากาศหนาวเหมือนเดิม  ตัวแดงแล้วก็คัน
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะชนะสักทีนะคะ  ^^"  หนูต้องอาศัยยาแก้แพ้เป็นที่พึ่งอีกแล้วค่ะ  ถ้าไม่มียาช่วยหนูคงต้องอยู่ในรถแล้วเปิดฮีตเตอร์
ไม่งั้นก็ต้องนอนคลุมโปงทั้งวันทั้งคืนไม่ต้องทำอะไร  แต่หนูต้องทำโรงเพาะเห็ดให้แม่  จริง ๆ แล้วตั้งใจไว้ว่าจะเปลี่ยนเล้าหมูให้เป็นโรงเพาะเห็ด
แต่หมูแม่ยังขายไม่หมด  เล้าที่ว่างก็ยังไม่ได้ล้าง  กลิ่นยังคงเหม็นอยู่  หนูก็เลยทำแบบง่าย ๆ เพาะเสียที่โรงจอดรถข้างบ้านนั่นเองค่ะ
หนูซื้อก้อนเห็ดมาแค่ 200 ก้อน  ใช้พื้นที่ไม่เยอะ  หนูก็ทำแบบง่าย ๆ แม่เห็นแล้วก็ขำ เออ.... มันก็ทำง่ายจริง ๆ เสียด้วย  ^ _ ^
วิธีทำของหนูก็คือ  มองไปรอบ ๆ แล้วก็หาอุปกรณ์ที่สามารถใช้ได้  เห็นถังน้ำ 200 ลิตร อยู่ 2 ใบ  อิฐบล็อกที่เหลือจากสร้างบ้าน  บันใดไม้ผุ ๆ ผ้าเต้นท์เก่า ๆ
โอเค  ใช้ได้  แล้วหนูก็นำอิฐบล็อกมาวางประมาณ 10 ก้อน  นำก้อนเห็ดมาวางซ้อน ๆ ขึ้นไปบนอิฐ  นำถังมาวางข้างละใบกันก้อนเห็ดไถลลง
เสร็จแล้วก็นำบันใดไม้เก่า ๆ วางพาดบนถัง  แล้วก็นำผ้าเต้นท์ปิด  น้ำก้อนอิฐทับบนเต้นท์อีกที  เป็นอันเสร็จเรียบร้อย  โรงเพาะเห็ดมั่ว ๆ ของหนู
แหม.... ก็หนูทำแบบด่วน ๆ แค่ให้แม่ลองเพาะดูก่อน  ไม่รู้ว่าอากาศบนดอยจะเพาะได้ดีแค่ไหน  ถ้าได้ผลดี  หนูก็เตรียมที่ไว้ให้แม่แล้วค่ะ
หลังบ้านตรงริมแท้งค์น้ำ  ใต้ซุ้มมะระหวานก็ปรับเป็นที่เพาะเห็ดได้เหมือนกัน  ถ้าเห็ดชุดนี้ขึ้นดี  หนูค่อยมาทำเพิ่มค่ะ  ^o^
พ่อคะ  แม่ได้อยู่บ้านใหม่แล้วนะคะ  บ้านใหม่ของแม่มีหลังคาสีฟ้า  (สีที่หนูชอบ)  2 ห้องนอน  2 ห้องน้ำ  1 ห้องครัว
ห้องโถงกลางบ้านกว้างมาก (ตั้งได้หลายวง  อิ ๆ ๆ ๆ)  กลางวันแม่ก็พาพี่ชายออกมานั่งดูทีวีทั้งวัน  บางทีพี่ชายก็นั่งเก้าอี้
บางทีพี่ชายก็นอนบนเสื่อ  พื้นเย็นมากขึ้นดอยเที่ยวนี้หนูซื้อพรมมาด้วย  แม่ก็ไม่อยากปู  เพราะเสียดาย  แหม....  ก็ซื้อมาให้ใช้เนาะ  ไม่ได้ซื้อมาให้เก็บ
หนูปูไว้หน้าทีวีค่ะ  แล้วพี่ชายก็ลงมานอน  หนูก็เลยหยิบหมอนกับผ้าห่มออกมาให้  พี่ชายหลับปุ๋ย  อุ่นสบาย  ท่าทางมีความสุขมาก ๆ เลยค่ะ
บ้านหลังใหม่ของแม่หลังคาไม่รั่ว  ก่อนหน้านี้แม่อยู่บ้านหลังเก่า  เวลาฝนตกทีไรหลังคาก็รั่วทุกที  แม่ต้องหาถังมารองตรงจุดที่รั่ว 
แม่เล่าให้ฟังว่า.... บางทีฝนก็ไหลลงที่นอน  แม่ก็ต้องลุกมาหาจุดที่ฝนไม่รั่ว  ต้องย้ายกันทั้งคืน  * __ ~
พ่อคะ  ตอนนี้หนูกับแม่วางแผนไว้ว่าจะทะยอยสร้างบ้านไว้ให้เช่าค่ะ  ตอนนี้แม่ก็เก็บค่าเช่าห้องแถวของหนูได้เดือนละ 6,000  หนูโอนให้แม่อีกทุกเดือน
แม่ก็ซื้อไม้  ซื้ออิฐเตรียมไว้  ถ้ามีรถแม็กโครขึ้นดอย  ก็จะถมที่ไว้ค่ะ  หมู่บ้านของเรากำลังจะเปิดสอนถึงระดับมัธยมปลายครูก็จะเยอะขึ้น  ที่พักคงจะไม่พอค่ะ  
ผอ.เคยมาขอเช่าบ้านแม่ให้ครูพักด้วยค่ะ  แม่ก็เลยกั้นห้องแบบง่าย ๆ ให้ครูอาศัยอยู่ด้วย  แม่ก็ไม่ได้เก็บค่าเช่าหรอกค่ะ  แบ่งกันอยู่ ๆ ไปแบบง่าย ๆ 
เมื่อขยายโรงเรียนก็ต้องรับครูเพิ่มมากขึ้น  ครูก็จะไม่มีที่พัก  แม่กับหนูก็เลยจะทำบ้านไว้ให้ครูเช่าค่ะ  อีกหน่อยแม่ก็จะกลายเป็นเสีอนอนกินไงคะ  ^ _ ^
ช่วงนี้หนูก็ต้องทำงานมาก ๆ หาเงินเยอะ ๆ เพราะที่บนดอยไม่มีโฉนด  ไม่สามารถนำไปกู้เงินเพื่อมาสร้างได้  
หนูไม่ค่อยได้กลับบ้าน  เพราะกลับบ้านทีก็ใช้ตังค์เยอะค่ะ  พ่อช่วยดูแลแม่และพี่ชายด้วยนะคะ  อย่าให้เจ็บ  อย่าให้ป่วย
หนูจะได้ทำงานอย่างสบายใจ  ขึ้นดอยคราวนี้  หนูไปดูสวนของพี่โย่งด้วย  ส่วนพี่ฮัวก็ขึ้นดอยมารับหนูไปนอนสวนที่อมก๋อย 1 คืน
พ่อคะ  พี่ฮัวลูกสาวของพ่อขยันมาก  ปลูกพริก  ปลูกมะเขือเทศประมาณยี่สิบกว่าไร่ ตอนนี้พี่ฮัวสร้างบ้าน + โกดังไว้ที่สวนแล้วค่ะ  เพราะพี่ฮัวเลิกกับสามี  ถ้าไม่สร้างบ้านก็ไม่มีบ้านอยู่
ส่วนหลานเจมส์ก็ไปอยู่กับยายที่บนดอยค่ะ  แม่บ่นว่าหลานขี้เกียจตื่น  ^ _ ~ ก็ธรรมดาของเด็กนะคะ  อากาศบนดอยหนาวมากนินา  เนาะพ่อเนาะ
หลานเจมส์เลี้ยงง่ายค่ะพ่อ  กลับจากโรงเรียนก็หาข้าวหาปลากินเอง  บางทีก็ทำข้าวผัดกิน  ไม่ต้องให้ยายหาให้  แต่หลานจะติดการ์ตูนกับเกมส์
หนูก็บอกแม่ว่าปล่อย ๆ หลานบ้างเถอะ  หลานเล่นอยู่บ้านน่ะดีแล้ว  ดีกว่าให้หลานไปเที่ยวเกเรกับเพื่อน  ดีไม่ดีจะติดยาเอาง่าย ๆ 
วันเสาร์พี่ฮัวจะส่งหนูกลับดอย  เราจะไปปลูกต้นสาละที่วัดกันค่ะ  ก่อนกลับบ้านหนูแวะซื้อต้นสาละที่วัดพระนอน ฯ จ.สิงห์บุรี  7 ต้น
ต้นสาละ  เป็นต้นไม้ที่สำคัญของศาสนาพุทธค่ะ   พระพุทธเจ้าประสูติใต้ต้นสาละไงคะ  หนูเพิ่งเคยเห็นต้นสาละตอนที่ไปทำบุญ 9 วัด แถว จ.สิงห์บุรีเมื่อหลายเดือนก่อน
หนูคิดว่าสมัยนี้คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยรู้จักต้นสาละกันแล้ว  ขนาดหนูโตป่านนี้แล้วก็เพิ่งจะรูจักต้นสาละ  ส่วนใหญ่จะรู้จักแต่ต้นโพธิ์  ดังนั้น ถ้ามีโอกาสหนูก็จะหาไปปลูกไว้ตามวัดค่ะ
พ่อคะ  พี่ฮัว  ลูกสาวพ่อเก่งและขยันมากเลยค่ะ  พี่ฮัวพาหนูเดินดูสวน  ดูนา  หนูเดินเสียเหนื่อยเลยค่ะ    เดินไปหนูก็ถามโน่น ถามนี่  พี่ฮัวก็อธิบายให้หนูฟัง
หนูสังเกตุเห็นใต้ต้นพริกกับมะเขือเทศมีหลุมเล็ก ๆ ตอนแรกหนูคิดว่าเป็นรูของจิ้งหรีด  แต่พี่ฮัวบอกว่าเป็นหลุมที่ทำขึ้นมาเอง  แล้วก็หยอดปุ๋ย  
เพราะช่วงนี้ฝนตก  ถ้าไม่ทำเป็นหลุมฝนจะชะปุ๋ยทิ้งหมด  พี่ก็เลยใช้วิธีทำเป็นหลุม  แล้วก็ปล่อยให้ปุ๋ยค่อย ๆ ซึมลงไปในดินกว่าจะหมดก็ใช้เวลาประมาณ 20 วัน
ถ้าพ่นปุ๋ยทางใบ  พืชจะได้กินปุ๋ยประมาณ 5 - 7 วัน  ถ้าหว่าน  ฝนก็จะชะไปหมด  ดังนั้น  วิธีให้ปุ๋ยในหลุมเป็นวิธีที่ดีที่สุดในฤดูนี้ค่ะ
เดินไปเรื่อย ๆ ตามแปลงพริก  ก็เจอคู่อริของหนูค่ะพ่อ  อิเมโจไดไงคะ  กำลังกินใบพริกกับผลพริกอย่างเอร็ดอร่อย  ตัวกลมอ้วนพีเชียวค่ะ  หนูเรียกพี่ฮัวมาดู
พี่ฮัวก็เลยบอกว่าพรุ่งนี้คงต้องพ่นยาสังหาร  ไม่งั้นพริกจะเหลือแต่ตอ  พี่ฮัวบอกว่าคงต้องใส่ยายืดด้วย  หนูก็งง....  ยายืดคืออะไรหนอ.... ?
พี่ฮัวบอกว่าพริกก็เหมือนคน  คนที่มีผมหยิก  ก็ไปยืดให้ตรง  ดังนั้น  พริกที่งอ ๆ หงิก ๆ ก็พ่นยายืด  สัก 1 - 2 วัน  พริกก็จะยืดตัวตรง
แปลกดีนะคะพ่อ  หนูก็เพิ่งรู้ค่ะว่ามียาแบบนี้ด้วย  ^^" 
พ่อคะ  พ่อไม่ต้องห่วงพี่ฮัวแล้วนะคะ  ถึงแม้พี่ฮัวจะเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว  ต้องทำมาหากินเลี้ยงตัวเองและลูกชายวัยรุ่นหนึ่งคน
พี่ฮัวก็เอาตัวรอดได้ค่ะ  เมื่อก่อนมีสามี  ทำงานงก ๆ ๆ ได้เงินมาก็เป็นของคนอื่น  ตอนนี้ทำได้เท่าไหร่ก็เป็นของตัวเอง  ปีที่แล้วพี่ฮัวได้รถโฟร์วิล 1 คัน
ได้บ้าน + โกดัง 1 หลัง  ปีนี้พี่ฮัวก็เอารถไปเข้าไฟแนนท์  เอาเงินออกมาลงทุนประมาณสามแสน  พี่ฮัวไม่อยากรับทุนจากนายทุนค่ะ
ก็เลยลงทุนเอง  พี่ฮัวบอกว่าต้องปลูกเยอะ ๆ เวลาของออกจะได้พอส่งแผง  เพราะพี่ฮัวส่งแผงเอง  ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางค่ะ
พี่ฮัวยังช่วยรับซื้อของชาวสวน  บางทีพี่ฮัวก็ไปเหมาสวนเพื่อส่งแผงด้วย  พริกของพี่ฮัวทั้งใหญ่และยาว  แผงชอบมากพี่ฮัวก็เลยได้ราคาดีกว่าคนอื่น 2 บาท
หนูดีใจนะคะพ่อ  ปีนี้พี่ฮัวก็คงได้เงินหลายอยู่ค่ะ  ถ้าได้เงินพี่ฮัวบอกว่าจะไปสร้างบ้านบนดอย  ไปอยู่ใกล้ ๆ แม่แล้วปีหน้าพี่ฮัวจะปลูกที่บนดอย
ส่วนที่อมก๋อยก็อาจจะลงทุนแล้วให้คนอื่นปลูกแล้วค่อยแบ่งกำไรกันค่ะ
อ้อ.... หนูลืมเล่าให้พ่อฟังค่ะ  เมื่อวานนี้พี่ซิงโทรมาถามแม่ว่าหนูทำโรงเพาะเห็ดยังไง  เพราะพี่ซิงขี้นมาก่อนหน้าหนูแล้วก็ลงดอยไปก่อนหน้าหนู
แม่บ่นว่าพี่ซิงจะทำโน่น  นี่  นั่น  ยุ่งยาก  ต้องจ้างคนมาทำ  ต้องทำดี ๆ ใหญ่ ๆ แหม....  เห็ดแค่ 200 ก้อนเอง
หนูก็แค่อยากให้แม่ทดลองเพาะดูก่อน  ถ้าได้ผลก็ค่อย ๆ ขยับขยาย  แม่ก็เล่าให้พี่ซิงฟังว่าน้องทำของน้องเอง  ทำง่าย ๆ ไม่เห็นยุ่งยากสักนิด
ก็จะทำให้ยุ่งยากวุ่นวายทำไมเนาะพ่อเนาะ  ทำ ๆ เล่น ๆ แบบหนูนี่ก็น่ารักดีนะพ่อนะ  แม่มาดูแล้วแม่ก็ขำ ๆ เออ....  มันก็มั่ว ๆ ของมันไปได้  ^^"
เอาเป็นว่าหนูทำโรงเพาะให้แม่เสร็จด้วยตัวเองก็แล้วกันนะพ่อนะ   พี่ซิงก็บ่นกับแม่อีกว่าหนูทำอะไรก็เป็นง่ายไปหมด  ก็นะ  จะทำให้มันยุ่งยากทำไม  เหนื่อยตายเลยนะพ่อนะ
พ่อคะ  ฉบับนี้แค่นี้ก่อนนะคะ  ถ้ามีเวลาหนูจะเขียนมาคุยกับพ่อบ่อย ๆ นะคะ  พ่อจะได้ไม่เหงา
หนูรักพ่อค่ะ
หนูหิ่ง ฯ 
ลูกหล้าของพ่อ
				
comments powered by Disqus
  • กลั่นแก้ว

    2 กรกฎาคม 2554 22:12 น. - comment id 124734

    1.gif1.gif1.gif1.gif
    อะไรที่ใจรักก็มีความสุขและสนุกกับสิ่งที่เราได้ทำใช่ไหมจ๊ะหนูหิ่ง
    46.gif46.gif46.gif
  • หิ่งห้อยน้อยใจ

    3 กรกฎาคม 2554 18:27 น. - comment id 124746

     
    
    สวัสดีเจ้า
    
    คุณกลั่นแก้ว  :  ^o^
    
    หนูหิ่ง ฯ รักมากมายหลายอย่าง  แต่ทำไม่ได้ดีสักกะอย่าง  อิ ๆ ๆ ๆ
    
    แบบว้า.... รักสนุก  มีความสุขไปวัน ๆ ทำ ๆ เล่น ๆ ก็เลยไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอ่ะค่ะ
    
    แม่บ่นว่าหนูหิ่ง ฯ ไม่ยอมโตสักที  แหม....  หนูหิ่ง ฯ คิดว่าเป็นเด็กดีกว่าเป็นผู้ใหญ่นิ
    
    
    
    มีความสุขสม่ำเสมอเจ้า
    
    
    11.gif     %11%     11.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน