อทิสมานกาย ๙๔ พอดีดวงจันทร์ส่องไสวกระจ่างทอแสงไปทั่วบริเวณลานกว้างทำ ให้แลเห็นสภาพที่มีการประชุมกันและประกอบกับไฟฟ้าดวงเล็กที่ ปักเรียงรายไปรอบๆบริเวณ แสงสว่างจึงเพิ่มทำให้แลเห็นหน้าแต่ละ คนได้อย่างแทบจะเรียกว่าชัดเจนมากพอประมาณ ชายหนุ่มมองไปรอบๆนั่งเคียงข้างกับนางอัปสรทั้งสองถัดไปก็เป็น ร่างของสารวัตรและผู้กอง ต่อไปด้วยบรรดาครูฝึกที่ประจำยังตำบล ต่างๆและบรรดาหุ่นทั้งหลายด้านตรงข้ามกับสารวัตรก็เป็นร่างของ ชวนเปล่งและพรรคพวกถัดไปก็เป็นร่างของแสงสีแสงชัย เมื่อเห็นครบเรียบร้อยแล้ว ทุกๆคนต่างจ้องและรอคำกล่าวของเขา จึงเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นให้บรรดาคนทั้งหลายฟัง “ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความยินดีกับสารวัตรและผู้กองก่อนนะ ครับ ว่าท่านทั้งสามและบรรดาตำรวจพวกเราได้เลื่อนตำแหน่งสูง ขึ้นแล้ว ตามที่ท่านเอ่ย ในการที่ผมได้ไปพบมาและคำสั่งนั้นได้สั่ง ลงมาแล้วยังท่านรองอภิวัฒน์ที่รักษาการณ์ผมชั่วคราว ต่อไปผม จะต้องไปปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวแล้ว” เมื่อชายหนุ่มเอ่ยขึ้นดังนี้ ก็ทำให้บรรดาสารวัตรและผุ้กองเกิด ความสงสัยจึงเอ่ยขึ้นว่า “จะเป็นไปได้หรือครับหัวหน้า ในเมื่อคำสั่งแต่งนี้ผมพึ่งได้รับมา ไม่นานนี้แหละครับ” สารวัตรชัชวาลย์ถามด้วยความสงสัย และผู้กองก็ต่างหันมามอง หน้ากัน ด้วยยังไม่ถึงฤดูกาลย้ายแต่งตั้งที่คงจะมาถึงอีกในไม่ช้านี้ “ได้ซิสารวัตรด้วยเป็นกรณีพิเศษเพราะจะมีการโยกย้าย สารวัตร เกิดขึ้นอีกระลอกก่อนจะมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น และท่านผู้ บัญชาการได้เซ็นต์แต่งตั้งมาแล้วล่ะ ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งแทนและ ให้เลื่อนชั้นตำแหน่งขึ้นมาอีกนะ” “ใครหรือครับหัวหน้าที่จะถูกโยกย้ายอีกล่ะครับ” “ตอนนี้คำสั่งตกมาแล้วล่ะแต่ยังไม่เปิดเผยด้วยผมได้สั่งไว้อย่าพึ่ง แจ้งให้ผู้ที่ถูกโยกย้ายทราบเท่านั้นเอง” ครั้นชายหนุ่มเอ่ยเช่นนั้นต่างก็มองหน้ากันด้วยความสงสัยยิ่งขึ้นไป อีก จึงเอ่ยขึ้นว่า “ผมเองก็มองไม่เห็นว่าจะมีใครที่จะโยกย้ายอีกเลยล่ะครับหัวหน้า แต่เพียงแค่สงสัยเท่านั้นเอง ด้วยตำแหน่งที่ควบคุมนี้ก็มีไม่กี่คนเท่า นั้นเองครับ” “ต่อไปจะมีการย้ายเข้ามาอีกนะด้วย ทางด้านนี้จะต้องมีภาระเพิ่ม มากขึ้นกว่าเก่า ด้วยบรรดาโรงพักต่างๆในแถบใกล้เคียงที่ทุรกันดาร จะมาขึ้นกับพวกเรานะ ส่วนสารวัตรชัชวาลย์อาจจะต้องทำหน้าที่ สองตำแหน่งไปก่อนจนกว่าจะถึงเดือนตุลานี้แหละถึงอาจจะได้รับ การแต่งตั้งเป็นทางการ” ครั้นสารวัตรชัชวาลย์ได้ฟังยิ่งมึนงงสงสัยมากยิ่งขึ้น นอกจากปาก อ้าตาค้างไปเมื่อได้ยินเจ้านายที่เขารักกล่าวเช่นนั้น ชายหนุ่มมอง หน้าก็รู้ความในใจ เพื่อขจัดข้อสงสัยจึงกล่าวเป็นทางการว่า “เนื่องจากจะมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงในบ้านเมืองเราเกิดขึ้นแต่ ท่านผู้บัญชาการมองเห็นว่า หากท่านพ้นจากไปตามวาระแล้วจะเกิด เหตุการณ์ขัดแย้งกันรุนแรงจึงได้กำชับมายังฝ่ายพวกเราให้เตรียมตัว รับมือและสอดคล้องกับสถานะการณ์บ้านเมืองไว้ก่อน เพื่อว่าจะได้ ไม่เสียกำลังใจไป ให้พวกเราดำเนินการในแนวทางสองทางคือทั้งใน ที่ลับและที่แจ้งไว้ ที่ว่าสารวัตรและผู้กองจะเลื่อนตำแหน่งนั้นก็ด้วย สารวัตรวิเชียรและสารวัตรอำนวยจะถูกโยกย้ายออกจากภูมิภาคนี้ไป ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้พวกเราทำงานกันได้สะดวก ที่ผม กล่าวว่าสารวัตรต้องรักษาการณ์สองตำแหน่งนั้นคือว่า ด้วยตำแหน่ง ของพตท.วิเชียรนั้นเป็นฝ่ายปราบปรามในขณะนี้ รอคอยตำแหน่ง ท่านรองอยู่และทั้งสองนั้นสืบได้ว่ามีเลสนัยกับพวกพ่อค้าทำความ เสื่อมเสียแก่วงการตำรวจเรา เห็นแก่อมิสสินจ้างจนลืมคำว่า ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไป แต่ทั้งสองก็มีเส้นทางในกรุงเทพฯอยู่ไม่แน่ ว่าอาจจะทำให้บรรดาพวกพ่อค้าทางนี้เกิดความเหิมเกริมขึ้นมาอีก ด้วยผมรายงานไป ท่านพิจารณาแล้วท่านเป็นคนซื่อตรงเคร่งครัด ยิ่งนัก พิจารณาแล้วเห็นว่าหากคงไว้จะทำให้ผมและพวกเราทั้งหลาย ต้องเกิดติดขัดหนทางในทางสว่างและทางมืด จึงได้เร่งรีบทำเสีย ก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้แหละ ดังนั้นสารวัตรชัชวาลย์จึง ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นและยังรักษาการท่านรองอีกตำแหน่งหนึ่ง ด้วย ส่วนผู้กองทั้งสองก็จะเลื่อนแทนตำแหน่งสารวัตรไป ส่วนอีก ท่านหนึ่งนั้นได้รับอนุมัติมาให้เพิ่มอัตราเพิ่มขึ้นอีกเพื่อจะขยับขยาย การควบคุมที่ต้องรับผิดชอบมาก ดังนั้นจึงได้เป็นสารวัตรทั้งคู่ไป ดังนี้ ส่วนบรรดาหมวดหรือจ่านั้นก็ได้รับบำเหน็จเป็นกรณีย์พิเศษที่ ผมทำเสนอรายงานไป” ครั้นชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเท่านั้นสร้างความตกตลึงพรึงเพริดแก่ตำรวจ ทั้งหมดทันที ต่างพากันก้มลงกราบชายหนุ่ม พวกเขาคิดว่าการ ทำงานร่วมกับหัวหน้านี้ไม่สร้างความผิดหวังแก่พวกเขาเลย ส่วน หัวหน้าฝึกต่างๆนั้นก็ต่างแย้มยิ้มไปตามๆกันที่จะได้รับบำเหน็จการ เลื่อนชั้นขึ้นไปในคราวนี้พากันส่งเสียงดังพึมพรำไปหมด “แล้วท่านวิเชียรและท่านอำนวยยังไม่รู้ตัวอีกหรือครับหัวหน้า” “ผมว่าพรุ่งนี้กระมังท่านรองคงจะแจ้งให้ทราบแล้ว และให้เบิกค่า เดินทางได้ภายกำหนดไม่เกินสิบห้าวันครับ” “หากเป็นเช่นนี้ท่านทั้งสองคงจะไม่โวยวายหรือครับด้วยหวังอย่าง มากที่จะขึ้นเป็นรองครับ” “ก็เป็นธรรมดาแหละสารวัตรที่ผู้เสียหายย่อมจะมีขึ้นแต่ช่างเถอะ นะ เรามาเข้าเรื่องของเราต่อไปดีกว่าผมบอกเพื่อให้คุณทั้งสามและ พวกเราดีใจเท่านั้นเองแหละ” “ครับนาย????....แล้วพวกเราจะดำเนินการอย่างไรที่นายกล่าวว่า จะมีการดำเนินการทั้งมืดและสว่างนะ” “สารวัตรและผู้กองจะต้องหยุดการดำเนินการใดๆไปตาม สถานะการณ์ก่อนคอยส่งเสริมช่วยเหลือฝ่ายทางมืดเท่านั้น โดยทำ เป็นทองไม่รู้ร้อนนั่นแหละ หากได้รับอะไรมาก็ควรร่วมกัน ปรึกษาหารือกันอย่าทำอะไรโดยวู่วามเด็ดขาด หากไม่ผิดตอนนี้ใน กรุงเทพฯเกิดความวุ่นวายขึ้นแล้ว ถึงอย่างไรผมก็ต้องรีบไปปฏิบัติ หน้าที่ในเร็วๆวันนี้แหละ จะปล่อยให้ท่านรองคนเดียวไม่ได้ท่านก็ อายุมากแล้วด้วย และเหลือเวลาเดือนเดียวเท่านั้นก็อยากจะให้ท่าน ได้พักผ่อนก่อน” “ส่วนในทางมืดใครล่ะครับจะเป็นคนจัดการครับหัวหน้า” “ในทางมืดผมจะให้เจ้าเปล่งนี่แหละเป็นหัวหน้าดำเนินการ ทั้งหมด ส่วนพวกเราทำเป็นแค่แสร้งปฏิบัติไปตามเหตุการณ์แต่ไม่ ต้องจริงจังอะไรทั้งสิ้น ส่วนสายลับนั้นไม่ต้องบอกหากได้รับรายงาน มาก็เพียงรับฟังไว้เท่านั้น ในทางกลับกัน สายลับฝ่ายมืดนั้นขออะไร ก็ให้จัดการให้ ด้วยจะมีการขนย้ายสิ่งผิดกฏหมายครั้งใหญ่เกิดขึ้น แต่การนี้จะไม่มีเป็นจำพวกแต่จะมีการผลิตในประเทศเรา โดยพวก มันจะแยกชิ้นส่วนออกมา แล้วมาประกอบขึ้นในเราเอง” บรรดาตำรวจทั้งหลายต่างมองหน้ากันไปๆมา ดังนั้นชายหนุ่มจึง เอ่ยขึ้นอีกว่า “การจะมาผลิตในระยะนี้ยังไม่ทันอยู่แต่จะอาศัยที่พวกมันซุกซ่อน ไว้ลำเลียงออกมาก่อน ทางด้านกำนันมั่นนั้นเจ้าเปล่งก็ได้จัดการไป เรียบร้อยแล้วล่ะ ส่วนที่ยังซุกซ่อนนั้นทางผมรู้แล้วว่ามันซุกซ่อนอยู่ ที่ใดบ้าง ฉะนั้นจึงจะให้เจ้าเปล่ง และพวกรวมทั้งหัวหน้าฝึกหน่วย ลับทางเราและทางเพื่อนน้องชวน แต่ทว่าน้องชวนไม่ต้องออกหน้า นะเพราะจะทำให้เป็นที่สงสัยให้บรรดาเพื่อนๆไปร่วมเท่านั้นเองการ นี้ เจ้าเปล่งจะเป็นคนวางแผนการณ์ให้ทั้งหมด ที่เรียกประชุมนี้เพื่อ แจ้งให้ หัวหน้าหน่วยฝึกและหน่วยราชการลับให้มาขึ้นตรงกับเจ้า เปล่งไปเพื่อรับแผนดำเนินการของเจ้าเปล่ง การที่มาใช้สถานที่นี้นั้น ด้วยเป็นที่เจ้าเปล่งได้วางแผนและวางค่ายกลต่างๆไว้คนอื่นจะเข้ามา ไม่ได้ ใช้เป็นที่ทำงานได้เป็นอย่างดีเว้นแต่คนที่จะรู้สภาพค่ายกลนี้ เท่านั้นเอง แต่ผมคิดว่าคงจะหายากแล้วล่ะ อ้อๆๆทางตำบลอื่นล่ะมี การแต่งตั้งกำนันไปแล้ว จากเหตุการณ์คราวป่าไม้นั้นทำให้บรรดา กำนันที่ถูกแต่งตั้งใหม่ๆขยาดกันไปตามๆกัน คงจะไม่มีการร่วมมือ กันแบบเก่าอีก ด้วยบรรดาพ่อค้ายังไม่ไว้วางใจนั่นเอง” “หากมีเหตุการณ์เช่นนั้นพวกผมจะทำอย่างไรกันบ้าง???...ในเมื่อ หัวหน้าแจ้งว่าในสถานที่นี้นั้นล้วนแล้วแต่วางค่ายกลอะไรๆ???ไว้ มากมายนั้น หากจะเข้ามาสามารถเข้ามาได้อย่างไรเล่าครับนาย” ชายหัวหน้าฝึกคนหนึ่งถาม “ใช่แล้วครับ หัวหน้าฝึกตอบถูกใจพวกผม เมื่อหัวหน้ามอบหมาย ให้คุณเปล่งนั้นควบคุมดูแลแทน???...” สายลืบลับที่ประจำยังตำบลต่างๆก็เอ่ยถามขึ้นบ้าง “เรื่องนี้พวกเราไม่ต้องเป็นปัญหาหรอก หากต้องการจะเข้ามา สถานที่นี้แล้ว ก็ให้มายังชายป่าแล้วตะโกนเรียกส่งรหัสเท่านั้นก็จะมี คนออกมารับเข้าไปหาเจ้าเปล่งเองแหละ” ชายหนุ่มตอบ พร้อมหันหน้าไปทางเจ้าเปล่งพลางเอ่ยขึ้น “เจ้าเปล่งบัดนี้ทางด้านลับข้าเองพิจารณาเหตุการณ์ต่างๆด้วยความ เหมาะสมแล้วก็มีเพียงแต่เจ้าเท่านั้น เจ้าก็ไม่ต้องออกจากสถานที่นี้ นะหากมีอะไรไปส่งข่าวแก่ข้าและหรือนายหญิงที่ยังอยู่บ้านพ่อข้าอยู่ ก็ได้ ด้วยเจ้าแสงสีสินชัยก็ยังอยู่ที่นั่นแหละ ให้รายงานผลหรือ ในทางเดียวกันข้าจะใช้เจ้าก็จะส่งคนมาบอกเจ้าเองแหละ” “ครับนายอาจารย์ ข้าก็จะวางแผนต่างๆไว้ทั้งทางหนีและเข้า จัดการไว้เป็นขั้นตอน แต่นายอาจารย์ยังไม่ได้บอกว่าที่เก็บของนั้น อยู่ที่ใดและใครเป็นเจ้าของเลยครับ????.....” “เรื่องนี้นั้น เสี่ยเม้งมันจัดการส่งให้ลูกน้องมันไปเก็บซ่อนไว้ตาม เขาต่างๆ แต่ข้าได้ให้แสงสีสินชัยและพวกไปวางระเบิดไว้เรียบร้อย แล้วล่ะ เพียงแต่ว่าเมื่อถึงเวลาจะเข้าไปจัดการ โดยจะแจ้งให้เจ้ารู้ แหละ อีกอย่างหนึ่งข้าคิดว่าให้ทำลายพร้อมๆกันนี้แหละ ส่วนเจ้า จะแบ่งกำลังกันอย่างไรก็แล้วแต่เจ้าก็แล้วกัน” แล้วชายหนุ่มก็หันหน้าไปทางหัวหน้าฝึกและหัวหน้าสายลับ พลางเอ่ยว่า “ส่วนด้านนี้ให้คอยสอดส่องและหมั่นฝึกชาวบ้านให้เชี่ยวชาญไว้ ด้วย อีกประการหนึ่งนั้นให้ทางเจ้าลำเลียงอาวุธต่างๆที่ซุกซ่อนไว้มา เก็บไว้ในที่นี้เสีย ด้วยต่อไปอาจจะไม่แน่จะมีคนของทางการซึ่ง ไม่ใช่พวกเราจะสืบเข้ามาและพบเสียก่อน ก็จะเดือดร้อนไปทั่วให้ รีบจัดการขนย้าย ข้าคิดว่าให้เจ้าเปล่งส่งคนไปช่วยก็แล้วกันนะ” แล้วเขาก็หันหน้าไปทางเจ้าเปล่งพลางสั่งขึ้นทันทีว่า “ไว้พรุ่งนี้ให้เจ้าส่งเด็กๆไปยังหมู่บ้านต่างๆเพื่อขนย้ายอาวุธมาเก็บ ไว้ทางนี้ให้ลงมือทำงานในตอนกลางคืน ด้วยพวกเด็กเจ้าชำนาญทาง อีกด้วยจะได้ไม่เป็นปัญหา ส่วนหัวหน้าฝึกและหัวหน้าสายลับก็ให้ คอยส่งมอบแก่เด็กๆของเจ้าเปล่งก็แล้วกัน” “ครับพวกผมจะได้รีบไปจัดการให้เรียบร้อยทั้งหมด อ้อๆๆๆอีก อย่างหนึ่ง หากเกิดปัญหาในหมู่บ้านจะทำอย่างไร????....เล่าครับนาย ด้วย หากมีคนร้ายที่แฝงเข้ามาทางฝั่งโน้นขอให้นายแจ้งให้รู้ด้วย ครับ ทางผมจะได้จัดการตามคำสั่งนาย” “ถ้ายังกังวลก็ให้เก็บไว้บ้างก็ได้ แต่อย่าลืมให้หาที่เก็บไว้และหมั่น สับเปลี่ยนที่เก็บไว้เสมอๆ แต่ครั้งละน้อยๆ ไม่ใช่ระดมทีเดียวหมด นะก็จะเป็นที่สงสัยของคนอื่น อย่าลืมว่าทางคนอื่นจะไม่รู้ เพราะ เหตุการณ์นี้จะไว้วางใจใครไม่ค่อยได้เสียด้วยซิ” “ครับนาย!!!!.....ผมเองจะแบ่งไว้ส่วนหนึ่งเพียงแค่พอใช้เท่า นั้นเอง แต่ส่วนใหญ่จะส่งมาทางนี้หมดครับ” “ดีแล้วล่ะ ที่มาบอกก็คงจะมีเพียงเท่านี้แหละด้วยจะได้ไม่เป็นที่ กังขาระแวงกันและกัน ส่วนข้าก็จะไปทำงานด้านในเมืองคงจะไม่ ค่อยมีเวลามาทางนี้บ่อยนัก อีกอย่างหนึ่งถึงแม้จะมาพักยังบ้านก็ ตามแต่ก็ไม่อาจจะแสดงตัวได้ จะมาก็เพียงหมดเวลาทำงานเท่า นั้นเอง สารวัตรและผู้กองและตำรวจทั้งหมดให้ปิดเรื่องนี้เป็น ความลับไว้ด้วยนะ อย่าให้ทางโรงพักรู้เรื่องเสียล่ะด้วยทางนั้นให้ เพียงรู้เขาแต่อย่าให้เขารู้เราเป็นอันขาด” “ครับทุกๆคนรับปากแล้วนาย ยังมีอะไรที่จะบอกอีกหรือเปล่า ล่ะครับ” “เห็นจะมีเพียงเท่านี้แหละ ขอให้ทุกๆคนหาความสนุกสนานและ กินกันอย่างตามสบายนะ ให้ทุกๆคนปิดปากเงียบแม้แต่ครอบครัวก็ อย่าให้รู้เป็นอันขาดด้วยล่ะ” “ครับๆนายรับรองว่าจะไม่ให้นายผิดหวังเรื่องนี้เป็นอันขาด” “ถ้าอย่างนั้นพวกเราเชิญตามสบายนะเดี๋ยวข้าก็จะรีบกลับก่อน ล่ะเพราะมีเรื่องต้องทำอีก ไม่ต้องไปส่งพวกข้าหรอกคืนนี้หา ความสุขที่พวกเจ้ายากจะหาได้อีกแล้วล่ะ เปล่งก็เหมือนกันต้อนรับ พวกเราให้ดีๆด้วยนะ สาวๆทั้งหลายด้วยล่ะปรนนิบัติพวกเราให้ดีๆ หน่อยนะ” “เจ้าค่ะอาจารย์ พวกเราจะต้อนรับขับสู้ให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ” พวกนางพรายทั้งหลายเอ่ยพร้อมๆกัน แล้วชายหนุ่มก็ลุกขึ้นพร้อม แม่นางอัปสารออกเดินทางกลับไปทันที แล้วก็ห้ามเจ้าแสงสีสินชัยที่ จะลุกตามเขาไป กล่าวว่า “เจ้าแสงสีสินชัยก็ไม่ต้องตามข้าไปหรอกหาความสนุกและสนิท สนมกับหัวหน้าฝึกและสายลับด้วยก็แล้วกันนะ” “ครับอาจารย์ หากอาจารย์กล่าวเช่นนี้” เจ้าแสงสีสินชัยก็หันไปทางเจ้าพ่วงเจ้าเริ่มพลางหยอกล้อด้วยเจ้า พ่วงและเจ้าเริ่มอยู่กับเจ้าเปล่ง รอบล้อมด้วยบรรดาหญิงชายทั้งหลาย ส่วนบรรดาเพื่อนเจ้าชวนและชวนก็ต่างคุยกับพวกหัวหน้าฝึกและ หัวหน้าสายลับอย่างสนิทสนม ทั้งหมดล้วนมีบรรดาหญิงสาวนั่งคอย ป้อนข้าวป้อนน้ำให้ สาวๆทั้งหมดล้วนแต่สวยงามกันทั้งสิ้นร่างมี กลิ่นหอมเย้ายวน แต่บรรดาทั้งหมดเกรงใจเจ้าเปล่งหัวหน้าซึ่งได้รับ การแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้า ซึ่งเจ้าเปล่งและชวนหาสนใจบรรดาสาวๆ ไม่ต่าง พากันมานั่งคุยกันที่แคร่หน้าบ้านทางเข้าปากถ้ำ ซึ่งเขานี้มีถ้ำ อีกมากมายและสลับซับซ้อนมากเจ้าเปล่งบอกแก่ชวน บางครั้งก็หัน หน้าไปมองพวกๆที่กำลังสนุกสนานเฮฮา แต่ในงานนี้หาได้มีของมึน เมาอยู่ด้วยเลย แต่พวกทั้งหมดเมาความสวยงามของสาวๆตลอดจน กลิ่นหอมต่างๆเท่านั้น จวบจนเวลาล่วงเลยเข้ามากแล้วต่างก็จะขอตัว กลับบ้านกัน แต่เจ้าเปล่งห้ามไว้ว่าดึกแล้วไม่สมควรจะกลับขอให้ พักผ่อนที่นี้ก่อนรุ่งเช้าค่อยออกเดินทางกันไป ยกเว้นเจ้าชวนที่ไม่ ยินยอมและขอออกเดินทางไปคนเดียวส่วนพรรคพวกนั้นจะติดตาม กลับเจ้าชวนก็ห้ามไว้ด้วยเห็นว่าพวกมันต่างกำลังหลงใหลสาวๆอยู่ เจ้าเปล่งเองก็เดินออกมาส่งถึงปากทาง จนกระทั้งเจ้าชวนขับรถ กะบะออกเดินทางกลับไป เจ้าเปล่งจึงเดินกลับเข้าบ้านทันที.......... แก้วประเสริฐ.
23 มิถุนายน 2554 06:56 น. - comment id 124539
เข้ามาอ่านงานครูแก้วค่ะ สุขสันต์วันเกิดนะค่ะ(อวยพรช้าไปหลายวันอย่าเคืองกันนะค่ะ)คิดสิ่งใดสมปราถนาของขวัญไม่มีให้มีแต่ความจริงใจมาฝากค่ะ
23 มิถุนายน 2554 09:41 น. - comment id 124545
วันที่รอ... เช้านี้หลังประชุมเข้ามาอ่าน อทิสมานกาย ก้อทำให้บรรยากาศสบายๆดีครับ..ก้ออยาก ให้บรรยากาศดีตลอดไปทั้งวันเลยเพราะว่า ตอนเย็นนี้อดีตนายกมาร์ค(ปล้นเขามา) และคณะจะไปปลุกผีที่ราชประสงค์..จะทำให้ เสียบรรยากาศ...ชี้แจงมาเป็นปีก้อวนอยู่ กับชายชุดดำ..แต่ก้อจับไม่ได้สักที... ผมว่าน่าจะเอามาเขียนเปนนิยายนะครับ ผู้ร้ายในคราบผู้ดี....คงสนุกไปอีกแบบนะครับ สบายดีนะครับ...
23 มิถุนายน 2554 13:27 น. - comment id 124547
มาอวยพรวันเกิดย้อนหลังครับ ขอให้ สุขกาย สุขใจ ครับ
24 มิถุนายน 2554 09:18 น. - comment id 124559
มาติดตาม ต่อครับครู
24 มิถุนายน 2554 13:27 น. - comment id 124568
คุณครูค่อยดีขึ้นและละซี.. ถึงมาลงเรื่องสั้น... ผักผ่อนมากๆนะครับ.. นำความสุขเล็กๆน้อยมากฝากค่ะ..
24 มิถุนายน 2554 15:35 น. - comment id 124572
........... สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังจ้ะครู รักษาสุขภาพด้วยนะจ๊ะ ...................
25 มิถุนายน 2554 14:13 น. - comment id 124591
คุณ กลั่นแก้ว ก่อนอื่นต้องขอโทษครับด้วยไม่สบาย ค่อนข้างมากครับ จิตใจห่อเหี่ยว จึงทำให้มาตอบช้าไปครับและขอขอบ คุณที่อวยพรในวันคล้ายวันเกิดผมขอพรนั้น จงมีแก่คุณด้วยนะครับและเพื่มเป็นสองเท่ืา ครับ ขอบคุณรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
25 มิถุนายน 2554 14:15 น. - comment id 124592
คุณ เอื้องอังกูร ขอโทษที่ตอบช้าไปด้วยผมไม่สบาย ค่อนข้างมากครับ จิตใจห่อเหี่ยวไม่อยากทำ อะไรครับ ก็ดีเหมือนกันนะครับคุณลองแต่ง ดูซิครับสนุกนะงานเขียนนี่ครับ หากยาวยัง ไม่ได้ก็หัดเรื่องสั้นๆก่อนครับ เรื่องอะไร ก็ได้ครับ เอาสิ่งใกล้ๆตัวก่อน รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
25 มิถุนายน 2554 14:17 น. - comment id 124593
คุณ ไร้อันดับ ไม่เป็นไรครับเพียงน้ำใจเล็กๆน้อยๆก็ ทำให้ผมปลาบปลื้มใจแล้วล่ะครับขอให้พร นั้นจงไปบังเกิดแก่คุณเพิ่มหลายเท่าทวีคูณ นะครับ ขอบคุณรักมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
25 มิถุนายน 2554 14:20 น. - comment id 124594
คุณ กิ่งโศก ขอโทษศิษย์เราด้วยที่ตอบช้าไปด้วย ระยะนี้ไม่ค่อยสบายจิตใจห่อเหี่ยว ตอนนี้ก็ ว่างไปหน่อย พอค่อยยังชั่วก็รีบเขียนๆไปนะ จะทิ้งว่างไว้ก็ดูกระไรอยู่ รักศิษย์เรามากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
25 มิถุนายน 2554 14:23 น. - comment id 124595
คุณ ทางแสงดาว ครับใช่แล้วครับพอทุเลาเป็นห่วงงานก็ รีบเขียนไม่ได้ตรวจทานอะไรหรอก ปวดหัว ตึบๆแต่ก็รีบเขียนพอเขียนเสร็จก็รีบไปทาน ยาไว้ครับ เลยทำให้ตอบล่าช้าไปหน่อย ไหนๆ อีกเรื่องที่รับปากไว้ แดนพิศวง สงสัยจะไป รอดหรือไม่ก็ไม่รู้ เรื่องหลังนั้นเขียนยาก มากกว่าเรื่องนี้ ด้วยกาลสามเวลามาบรรจบ กันครับ รักมากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
25 มิถุนายน 2554 14:27 น. - comment id 124596
คุณ ดิน ครูขอโทษด้วยนะที่ตอบล่าช้าไปด้วย ไข้มันต้อนรับอวยพรครูแต่ปลงแล้วล่ะไม่ คิดอะไรมาก สังขารที่แปรเปลี่ยนก็อย่างนี้ แหละ คิดอย่างเดียวหากมีอะไรสร้างสรรค์ ให้ได้ก็พยายามจะสร้างไว้เท่านั้นเอง ขอให้ ศิษย์เราจงประสบสุขสวัสดีมีชัยตลอดกาลนะ รักมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
25 มิถุนายน 2554 19:43 น. - comment id 124599
ผมเพิ่งเข้ามาหลังจากที่ห่างหายไปนาน แล้วค่อยๆ กลับไปย้อนอ่าน คุณครูแก้วครับ.. แม้ไม่ทราบรายละเอียดกระนั้นเริ่มเข้าใจ จิตใจท่านมากขึ้นครับ ขอเป็นกำลังใจ และให้สิ่งดีที่คุณครูทำไว้ในความรักแก่ศิษย์ ส่งผลกลับมายิ้มมากๆ ร่างกายยิ่งกว่าเดิมครับ ^^
26 มิถุนายน 2554 00:38 น. - comment id 124607
คุณ สูญญากาศ การเล่นกลอนก็ดี การเขียนเรื่องสั้นยาว ก็ดี ผมนั้นเพียงแค่เล่นเพื่อความบันเทิงใจ ของผมเท่านั้น โดยผมมิได้หวังสิ่งอื่นใดๆ ทั้งสิ้น ง่ายๆคือไม่ต้องการชื่อเสียงแต่อย่าง ใด จนมีคนมาถามผมขึ้นผมก็ตอบเท่าที่รู้ไว้ ร้อยกรองทำไมผมเขียนแต่เรื่องเศร้าๆเรียก ว่าหวานปนเศร้า ใช้หลักอย่างไรผมก็บอก แต่ความจริงให้ทราบครับ ต่อๆมาครั้นผมได้ รับความสนใจมากๆขึ้นก็มีคนมาฝากตัว เป็นศิษย์ผม ที่จริงแล้วผมมิได้หวังสิ่งนี้ เลยเพียงแต่ว่าหากรู้ก็บอกและยังบอก อีกด้วยว่าคนอย่างผมนั้นบ้าๆบอๆบ๊องส์ ความรู้นั้นยังต่ำต้อยนัก แต่เขาเหล่านั้น ก็ยินยอมรับเงื่อนไขผม คนอย่างผมเมื่อ รับปากใครแล้วก็จะติดตามงานตลอดจน เห็นว่าเขาสามารถเอาตัวรอดได้ จากคน ที่ไม่ค่อยเป็นสมัยนั้นคนมักจะเล่นกลอน เปล่ากันมาก ผมเองไม่ชอบด้วยเห็นว่า มันทำให้ปราชญ์โบราณท่านเสียกำลังใจ อุตส่าห์วางหลักเกณฑ์ไว้ให้ด้วยปัญญา สมองค้นคิดสิ่งต่างๆทำไมจึงเป็นแบบนี้ ผมหนึ่งล่ะที่แอนตี้เรื่องนี้อย่างมาก ครั้น ผมรู้สิ่งใดก็นำมาถ่ายทอดให้ ค้นหาสิ่ง ยากมาดัดแปลงตัดทอนในสิ่งที่ทำให้คน เล่นงวยงง สร้างสิ่งที่ง่ายแต่ไม่ผิดและ ยังหาทางทำให้กลอนนั้นอ่อนไหวพลิ้ว ผมมักจะยกตัวอย่างไว้เสมอๆว่า การเขียน อะไรก็ดี ให้ดูหุ่นที่เขาสร้างไว้สวยงาม มาก แต่หากคนเชิดหุ่นนั้นยังไม่ดีพอหุ่น นั้นก็จะขาดชีวิตชีวาจิตใจทำให้เก้งก้าง หากผู้ที่เชิดหุ่นนั้นสามารถทำให้หุ่นนั้น เล่นได้อ่อนไหวช้อยดุจดั่งมีชีวิต นั่นแหละ คือสิ่งที่ประสบความสำเร็จ ผมมานั่งคิด แล้วก็จัดการสร้างแนวทางใหม่แต่ยึดถือ สิ่งเก่าเป็นหลักตัดทอนเสริมสร้างสิ่งที่ คนเราคิดไม่ถึงมา อบรมสั่งสอนศิษย์ผม จนกระทั่งพวกเขานับได้ว่าจัดอยู่ในขั้นไม่ น้อยหน้ากว่าใคร เล่นก็ง่ายผิดหรือก็ไม่ผิด ซ้ำยังได้อรรถรสซ่านซึ้งใจคนอ่านอีกด้วย โดยการเอาหุ่นนี่แหละคือปฐมเหตุ เพราะ ผมสมัยเด็กๆชอบดูหุ่นกระบอก โขน ลคร สมัยก่อนมากนะครับ เลยเอามาผสมผสาน กับงานเขียนผม จะเห็นได้ตอนแรกจะ ไม่ค่อยอยู่ในลู่ทางเมื่อจับจุดได้แล้วก็ ค่อยพัฒนามาจนปัจจุบัน จึงมีศิษย์ทั้งใน นอกทำเนียบมากมาย และเขายกย่องผม เป็นครู ทั้งๆที่ผมไม่ได้ร่ำเรียนทางครูมา ก่อนเลย อาศัยผมรักด้วยจิตใจสมัยเด็กๆ เรียนมานิดหน่อยสมัยมัธยมสมัยก่อนนั้น ทิ้งห่างหายไปไม่เคยจับอีกเลยจนมาจวน จะปลดเกษียณอายุนี่แหละจึงมาคิดว่า เมื่อเราปลดเกษียณอายุจะทำอย่างไรที่ จะไม่ทำให้สมองเราฝ่อเสื่อมลงก่อน กำหนด จึงค้นคว้าหาทางหลายๆอย่างจึง มาพบว่า ทางที่จะฝึกสมองเราให้ล่าช้าต่อ การฝ่อได้นั้นคือ ร้อยกรองและร้อยแก้ว ดังนั้นผมจึงเริ่มฝึกหัดใหม่ ของเก่าลืมไป หมดแล้วดูเขาเขียนแล้วหัดเขียนแต่ยัง จับเนื้อความที่แน่นอนไม่ได้ พอไปอ่าน ก็ยิ่งบังเกิดความสงสัยงวยงงมาก ดังนั้น ผมจึงหาทางใหม่คือทางลัดมาใช้ทดลอง จนเห็นว่าเป็นทางลัดที่ถึงจุดหมายเหมือน กันแต่ไม่ยุ่งยากกว่ากันมาก นี่แหละคือ เหตุการค้นคว้าเสียยกใหญ่แม้แต่การสร้าง จิตให้เป็นกลอน กลอนเป็นจิต รวมตัว กันเป็นหนึ่งเดียวกัน ฝึกจนสำเร็จด้านนี้ จึงทำให้ผมไม่ต้องคิดมาก นึกเขียนเมื่อ ไหร่ก็เขียนได้ ด้วยอักษรต่างๆที่เก็บซ่อน ไว้อยู่ในจิตใต้สำนึกจะออกมาให้เราเลือก เอง ว่าจะใช้อักษรใดจึงจะเข้ากับทำนอง โดยการฝึกยากไปหาง่าย ครั้นพบแล้วนั่น แหละคือสาเหตุนี้ ดังที่เล่านี้แม้จะยาวไป แต่อาจจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ผ่านมาพบ ไม่มากก็น้อยครับ เท่านี้ก่อนนะครับ รักมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
26 มิถุนายน 2554 14:31 น. - comment id 124611
นับว่าเป็นกุศลจิตอย่างยิ่งยวด ครั้งแรกกระผมนึกเพียงว่าเสน่ห์ของวรรณกรรมอยู่ที่การหักมุมแตกต่าง ครูได้สอนลุถึงขั้นว่า แม้จะเอ่ยออกมาตรงๆ แต่หากเริ่มต้นจากดวงใจบริสุทธิ์ลึกซึ้ง สิ่งอันเป็นพลังนั้นจะแทรกซึมในทุกอณูเนื้อแห่งอักษร จนทำให้ผู้อ่ารับรู้ถึงพลังนั้นนั่นเอง เรื่องหุ่น กระผมเข้าใจถึงหลักแห่งพระพุทธ ดั่งท่านว่าไว้ถึงขันธุ์ กระผมในฐานะผู้สนใจใคร่รู้ อ่านกว้านหมด ไม่ว่าจะเป็นกระทั่งเด็กประถมที่เริ่ม หัดเขียน เพราะศึกษากระบวนความคิด และจิตใต้สำนึกคน บ้านกลอนนี้กระผมขอเรียนด้วยดวงใจจริงว่า ปลื้มใจ และเป็นบุญที่ได้เจอครูที่แท้จริง ตั้งใจฝึกฝนเพียงเพื่อถ่ายทอดความคิดคติ บังเอิญเป็นผู้ขี้หลงขี้ลืม จึงฝึกหัดคิดและวางแผนการใช้คำ โดยพลิกพจนานุกรมบ่อยๆ ครูครับ.. ท่านทำให้กระผมทราบถึงความดีงามแห่งวรรณกรรม ขอสานต่อปณิธานอันแรงกล้านี้ เพื่อบรรพชนเราจะได้ให้ศิลให้พร ขอความดีงามส่งให้ครูแข็งแรงครับ
26 มิถุนายน 2554 15:34 น. - comment id 124612
คุณ สุญญากาศ เธอจงจำให้ดี ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดๆจะ ใหญ่ยิ่งไปกว่าจิตใจไม่มีแล้วล่ะ แม้แต่สมอง ของเราเองที่จริงครูเปรียบเสมือนหนึ่งของ เครื่องคอมฯคือการเก็บข้อมูลส่วนการใช้ นั้นก็ต้องมีหลายอย่างประกอบด้วย การเล่นร้อยกรองร้อยแก้วก็ดี หากจิตใจ เราดีงาม ผลงานออกมาก็จะตามติดที่บอก ว่าเป็นพลังงานก็ไม่ผิดด้วยคือพลังงาน ของจิตใจเรานี่แหละการเล่นนั้นมีหลาย รูปแบบไม่ว่าจะเป็นร้อยกรองหรือร้อยแก้ว ล้วนแล้วแต่จะคล้ายคลึงกันทั้งสิ้น ร้องกรองนั้น จะเกริ่นให้ฟัง การหักมุม คือการทำให้กลอนนั้นแปรเปลี่ยน ไปแต่คนใช้ต้องวางหลักเกณฑ์ให้ถูกต้อง สอดคล้องไม่หลงพลัดกันไปต้องวกเข้า สู่เนื้อเรื่องได้ การเล่นคำ คือการใช้คำที่ยากๆมาผสมกับ ร้อยกรองไว้ให้ดูว่ามีภูมิความรู้เท่านั้นเอง การเล่นสำนวน คือการค้นคว้าสำนวนคำ เช่นเข้าคลองคดต้องคดตามคลอง แต่ เราเอามาสร้างไม่เลียนแบบเขาแต่เรา ดำเนินในลักษณะคล้ายคลึงกันเพื่อให้คน อ่านได้ทราบถึงความหมายของร้องกรอง นั้นๆเป็นข้อคิดของเขาไว้ การซ่อนรูปอักษรมาจากการหักมุมเล่นคำ และสำนวนคำ โดยการนำมาผสมผสาน ให้เข้าด้วยกันคนอ่านจะมองเห็นในสิ่ง แปลกๆและอีกประการหนึ่งนั้นคือการคิด ได้ในสองแบบ คืออ่านแบบธรรมดาก็ได้ การอ่านที่แอบแฝงข้อคิดก็ได้ ตามลักษณะ ของร้อยกรองนั้นๆนั่นเอง การเล่นซ่อนรูป จึงยากกว่าการเล่นกลอนทั่วๆไป แต่มี ข้อเสียอย่างหนึ่งคือหากคนเล่นไม่เข้าใจ ในสิ่งที่เล่นจะทำให้กลอนนั้นเสียไปทันที แต่ถ้าหากคนเล่นนั้นเข้าใจหลักใน การเล่นแล้วจะออกมาในลักษณะสวยงาม น่าฉงน น่าทึ่งต่อกลอนนั้นๆ ครูเคยเจอ ว่าเขียนกลอนไม่เป็นแต่อ่านกลอนได้ การกล่าวเช่นนี้หมายถึงว่าเขาไม่รู้จริงว่า แต่ละคนเขาเล่นกลอนแบบไหน ด้วยเจอ เฉพาะกลอนธรรมดาที่เน้นเฉพาะสิ่งที่ เขาเขียนไว้ ครูไม่ตอบเขาเพราะหากตอบ เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน คนเล่นกลอนนั้นต้อง อย่าอยู่เฉยๆต้องพยายามสร้างสิ่งที่หาทาง ในสิ่งใหม่ๆเสมอๆ ย่อมเกิดทักษะแก่เรา กว้างขวางยิ่งขึ้น แต่ควรจะคำนึงถึงเราด้วย ครูมักจะสอนศิษย์เสมอว่ายิ่งรู้มากเท่าใด เราต้องเตี้ยหมายถึงการถ่อมตัวให้มากเท่านั้น อีกประการหนึ่งหากเราเขียนเสร็จแล้ว ไม่ต้องไปคำนึงจดจำให้ลืมไปเสียให้หมด เหตุใด เพราะการสะสมในสิ่งนี้สมองเรา เหมือนฮาร์ตดีสเมื่อข้อมูลเต็ม สิ่งใหม่ที่ จะมาเก็บไว้ก็ไม่มีที่จะไปเก็บได้ หากเป็น คำจีนจะหมายถึง สูงสุดคืนสู่สามัญ ครู ได้ทดลองมาแล้วเป็นเรื่องจริง เราปล่อย วางไปแล้วก็จะได้สิ่งใหม่ๆเข้ามาแทนที เมื่อได้สิ่งใหม่ดีกว่ามาก็ล้างสิ่งเก่าๆออกไป การเล่นร้อยกรองก็ดีร้อยแก้วก็ดีหากรู้ หลักแล้วก็ไม่ยาก ยากอยู่ที่เราเองนั่นแหละ ไปเก็บไว้มากๆมันจะเกิดการสับสนสิ่งเก่า ก็มารวนกับสิ่งใหม่จนเกิดการวิปลาสไป เอาล่ะที่เธอเขียนมานี้นับว่าก้าวเข้า สู่ในสิ่งนี้ไปมากๆแล้วยินดีด้วย รักเสมอ แก้วประเสริฐ.