เหตุผลและความรู้

คีตากะ

      เมื่อเหตุผลพูดกับท่าน จงฟังว่าเธอพูดอะไรแล้วท่านจะปลอดภัย จงนำเอื้อนอรรถของเธอไปปฏิบัติให้จงดี แล้วท่านจะจะเป็นเช่นบุคคลผู้มีสรรพาวุธ เพราะสิ่งที่พระผู้อภิบาลประทานให้ท่านไม่มีสิ่งใดจะเป็นเครื่องนำทางได้ดีไปกว่าเหตุผล หามีอาวุธใดแข็งแกร่งเกินกว่าเหตุผลไม่ เมื่อเหตุผลพูดกับอัตตาส่วนลึกของท่าน ตัวท่านจะเป็นข้อพิสูจน์ต่อตัณหา เหตุผลคือเสนาบดีที่สุขุมคัมภีรภาพ เป็นมัคคุเทศก์ผู้ซื่อสัตย์และที่ปรึกษาผู้ชาญฉลาด เหตุผลคือแสงสว่างในความมืด ขณะที่ความกริ้วโกรธคือความมืดท่ามกลางแสงสว่าง จงเฉลียวฉลาดให้เป็นมัคคุเทศก์ของท่าน จงอย่าให้อารมณ์ผลักดันท่านไปเลย
ผู้คงแก่เรียนซึ่งไร้วินิจฉัยก็เหมือนทแกล้วทหารไร้ออาวุธดุ่มเดินเข้าสู่สมรภูมิ ความกริ้วโกรธของเขาเป็นพิษแก่สายธารแห่งชีวิตอันพิสุทธิ์แห่งชุมชนของเขา เขาจะเป็นเสมือนเมล็ดพืชอันดำขมในหม้อน้ำบริสุทธิ์
เหตุผลและการเรียนนั้นเสมือนร่างกายและวิญญาณ ไร้ร่างกายเสียแล้ววิญญาณก็มิใช่อันใดเว้นแต่ความว่างเปล่า ปราศจากวิญญาณ ร่างกายก็ไม่มี เป็นแต่เพียงโครงกระดูกที่ไร้ความรู้สึก
เหตุผลที่ไร้การเรียนรู้ก็เหมือนพื้นแผ่นดินที่มิได้ไถหว่านหรือเสมือนร่างกายมนุษย์ซึ่งขาดเครื่องบำรุงเลี้ยง
เหตุผลมิใช่สินค้าซื้อขายในท้องตลาด เพราะสินค้ายิ่งมีมากเท่าไรราคาของมันยิ่งลดลง ค่าของเหตุผลยิ่งสูงขึ้นเมื่อจำนวนของมันมีมากขึ้น หากเหตุผลถูกนำไปขายในท้องตลาดก็มีแต่เพียงคนฉลาดเท่านั้นที่จะเข้าใจคุณค่าที่แท้จริงของมัน
คนโง่มิได้เห็นสิ่งใดเว้นแต่ความโง่ และคนบ้าก็เห็นเพียงความบ้า เมื่อวานฉันได้ขอให้คนโง่คนหนึ่งนับจำนวนคนโง่ในบรรดาพวกเรา เขาหัวเราะและกล่าวว่า “ช่างแสนยากลำบากนักที่จะนับและต้องใช้เวลานานเหลือคณนา ไม่เป็นการดีกว่าหรือที่จะนับเฉพาะแต่คนฉลาด?”
จงรู้ค่าที่แท้จริงของท่านและท่านจะไม่ตาย เหตุผลคือแสงสว่างของท่าน เป็นไฟสัญญาณแห่งสัจธรรม เหตุผลคือบ่อเกิดแห่งชีวิต พระผู้เป็นเจ้าได้ประทานความรู้แก่ท่านเพื่อว่าโดยประทีปของมันท่านจักไม่เพียงแต่ภักดีต่อพระองค์เท่านั้น แต่จักได้เห็นตัวท่านเองในความเข้มแข็งและอ่อนแอของท่านด้วย
หากท่านมองไม่เห็นธุลีในดวงตาท่านเองแล้ว แน่นอนท่านย่อมไม่เห็นมันในดวงตาของเพื่อนบ้านของท่านด้วย
แต่ละวันจงสำรวจในมโนธรรมของท่านและจงแก้ไขความผิดพลาดของท่านเสีย ถ้าท่านมิได้ทำหน้าที่นี้ท่านก็จะเป็นคนไม่จริงจังต่อความรู้และเหตุผลอันมีอยู่ในตัวท่าน
จงเพ่งมองสำรวจตัวท่านเองราวกับว่าท่านเป็นศัตรูของตัวท่านด้วยว่าท่านไม่สามารถจะรู้จักปกครองตัวท่านเองได้ เว้นแต่ว่าท่านจะเรียนรู้ในการควบคุมอารมณ์ของท่านไว้และเชื่อฟังคำบัญชาแห่งมโนธรรมของท่าน
ครั้งหนึ่งฉันได้ยินปวงเมธีกล่าวว่า “ความชั่วร้ายทุกอย่างนั้นมียาแก้ยกเว้นแต่ความโง่ การดุด่าคนโง่ ดื้อดึง หรือเทศนาคนบัดซบนั้นก็ดุจดังการเขียนภาพบนผิวน้ำ เยซูคริสต์ทรงรักษาคนตาบอด คนง่อย อัมพาต และคนเป็นโรคเรื้อน แต่คนโง่นั้นท่านมิอาจรักษาได้”
“จงศึกษาปัญหาจากทุกๆ ด้านแล้วท่านจะค้นพบว่าความผิดพลาดได้คืบคลานเข้ามาจากตรงไหนได้อย่างแน่นอน
“เมื่อประตูหน้าบ้านของท่านกว้าง ขอจงดูว่าประตูหลังบ้านก็ไม่แคบจนเกินไป
“ผู้ซึ่งพยายามจับฉวยโอกาสหลังจากมันได้ผ่านพ้นไปแล้วก็เหมือนดังบุคคลผู้เห็นโอกาสใกล้เข้ามาแต่มิได้ออกไปหามัน
พระผู้เป็นเจ้ามิทรงกิจการร้าย พระองค์ทรงประทานเหตุผลและความรู้แก่เราเพื่อว่าเราจักได้ปกป้องตัวเองให้พ้นจากหล่มลึกแห่งความผิดพลาดและหายนะอยู่เสมอ
คำสรรเสริญจงมีแก่บรรดาผู้ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าได้ทรงประทานพรสวรรค์แห่งเหตุผลให้



คำครู
คาลิล ยิบราน เขียน
น่านรังษี กิติมา แปล


Be Veg, Go Green 2 Save The Planet