รักวัยรุ่น กริ๊งๆๆๆ เสียงโทรศัพท์ดังลั่นจนกระทั่งเสียงได้หยุดหายไปแล้วเสียง นั้นก็ดังขึ้นอีก กริ๊งๆๆๆ ยาวนานแล้วก็หายไปอีก สักครู่ก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้พอมีคนมารับสายแล้ว คราวนี้เสียงดังลั่นตามสายมาทันที “ไอ้ห่า!!!!.....มึงทำไรอยู่ว๊ะ กูเรียกตั้งนานแล้วโว้ย????....” “แล้วมึงเสือกเรียกกูทำไมล่ะ???... กูกำลังขี้อยู่โว้ยไอ้น้อย” “กูจะไปรู้พ่อมึงหรือว๊ะ นี่มันเกือบเที่ยงแล้วนะโว้ย เออกูมีเรื่องจะ ให้มึงช่วยเหลือกูหน่อยว๊ะ.....มึงว่างหรือเปล่าล่ะวันนี้นะ???....” “เรื่องอะไรหรือว๊ะ กูกำลังติดพันอยู่กับเกมส์ว๊ะ มีเรื่องมึงก็มาหากูที่ บ้านได้นี่หว่าไอ้เหี้ยน้อย” “อ้าวไอ้สัตว์....กูพูดดีๆกับมึงนะโว้ยไอ้เหี้ยนี่???...มันเรื่องสำคัญด้วย มิฉะนั้นกูไม่ขอร้องมึงหรอกว๊ะ” “เออๆๆๆงั้นเดี๋ยวมึงมาหากูก็แล้วกันค่อยคุยกันนะเท่านี้นะ โว้ย!!!!....” “เท่านี้นะโว้ยปั๊บเดียวกูก็ไปถึงแล้วว๊ะ” “เออๆๆๆ????......” โครมๆๆๆเสียงวางโทรศัพท์ยังที่แท่นดังสนั่น เด็กหนุ่มอายุราวสิบเจ็ด สิบแปดปี บ่นพรึมพรำ เรื่องอะไรของมันหว่า ???.... ช่างเถอะเดี๋ยวก็รู้เอง แหละ หนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้ากลม ผมหยิกหยักโศกแต่ตัดเกรียนสั้น ตามแบบฉบับนักเรียนชั้นมัธยมตอนปลาย จัดได้ว่าเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี ค่อนข้างหล่อเหลาเอาการคนหนึ่ง พลางนำผ้าขนหนูอีกผืนเช็ดน้ำที่ เกาะติดตามร่างกายให้หมดไป พลางเดินไปยังตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อคอกลมสี ออกแดงระเรื่อปั้มหน้าอกไว้ด้วยลวดลายต่างๆภายในเขียนไว้ว่า “รักเธอมิรู้คลาย” ด้วยอักษรเล่นหาง ด้านหลังเป็นภาพวิวเมืองนอก แขนเสื้อกุดทั้งสองข้าง แล้วหยิบกางเกงขาสั้นแต่มีกระเป๋ามากมายยาวเลย หัวเข่านิดหนึ่ง เอามือเสยผมเล็กน้อยสะบัดหัวไปๆมาๆ เดินตรงไปยัง เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีเกมส์ค้างไว้อยู่ แล้วก็เริ่มเล่นคอมฯต่อไป ปรี๊นๆๆๆเสียงรถยนต์ดังขึ้นหน้าบ้านทันทีทอดเสียงยาวๆหลายครั้งๆ เด็กหนุ่มหงุดหงิดทันที ด้วยเกมส์ที่เล่นอยู่กำลังติดพันต่อเนื่องกันอยู่หาก ลุกไปตัวเอกของเขาจะต้องตายทันที จึงทำเป็นไม่ได้ยินเสียงรถยนต์ดัง ได้ผลเสียงเงียบหายไปแล้วมีเสียงเปิดประตูรั้วบ้าน เสียงรถยนต์แล่นเข้า มาแล้วเงียบหายไป โครมๆๆๆเสียงเปิดปิดประตูบ้านดังสนั่นทันที พร้อมกับเสียงร้องด่าลั่น “ไอ้ห่าราก!!!....หูมึงบอดหรือไงว๊ะถึงเรียกไม่ได้ยิน” ไอ้น้อย หรือ นาย เอกชัย หล่อเหลาสกุลตะโกนลั่นอย่างไม่เกรงใจ รูปร่างมันสูงใหญ่มากค่อนข้างอ้วนสมบูรณ์ยิ่ง ร่างราวยักษ์ปักหลั่น อีกด้วยกล่าวเสียงห้าวๆดังสนั่นหวั่นไหวว่า “กูได้ยินโว้ยแต่มันกำลังติดพันอยู่ว๊ะ ไอ้เหี้ยก่อนนี้ก็เข้ามาประจำทำไม ต้องเสือกเรียกหาพ่อหาแม่มึงเหรอ” ไอ้น้อยเกาหัวแกร๊กๆๆ หันมามองเพื่อนมันกำลังก้มหน้าก้มตาเล่นเกมส์ อยู่จริงของมันเกมส์นี้สนุกเสียด้วยซิทำให้มันลืมอดมองและเอ่ยแนะนำ เสียไม่ได้ ไปทางโน้นซิว๊ะนั่นแหละเออ!!!!ดีแล้วตีมันเลยโว้ย พอดีเกมส์โอเวอร์พอดี เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนมันที่ยืนอยู่ ด้านหลังพลางเอ่ยทันที “เรื่องพ่อแม่มึงอะไรหรือว๊ะไอ้น้อย????....” “เฮ้ยไม่ใช่เรื่องพ่อแม่กูหรอกว่า จะปรึกษาอะไรและชวนมึงไปช่วยกู หน่อยโว้ย” “เรื่องอะไรอีกล่ะไอ้ห่านี้มีเรื่องประจำ ไหนๆๆลองบอกมาหน่อยซิกู จะได้เตรียมตัวไว้ จะไปตีกับใครอีกหรือว๊ะ???....” “เปล่าหรอกโว้ยกูไม่ได้ไปหาเรื่องตีกับใครหรอก เพียงแต่ว่ามัน งอนว๊ะ” “เรื่องผู้หญิงอีกล่ะซิ มึงทะเลาะกับอีรัชนีมาหรือว๊ะ” “ไม่ใช่โว้ยไม่ใช่อีรัชนีหรอก แต่เป็นคนอื่นอยู่โรงเรียนกับเราแต่คน ละห้องว๊ะ มึงจำอีลาวัลย์ได้หรือเปล่าล่ะทรงผมบ๊อบนะ” “เออๆๆๆพอนึกออกว๊ะ แล้วจะให้กูไปทำไมเป็นก้างขวางคอมึงหรือ” “ไม่ช่ายอย่างง้านโว้ย เพียงแค่ให้มึงไปเป็นเพื่อน วันนี้กูนัดมันไว้ที่ ห้างแฟร์ชั่นไอแลนด์ถนนรามอินทราไว้ล่ะ กูบอกให้มันไปคนเดียว มันไม่ยอมว๊ะจะเอาเพื่อนมันไปด้วย กูก็เลยถามว่าไม่เชื่อใจกูหรือมันบอก เปล่าหรอกแต่พ่อแม่มันไม่ยอมให้ไปคนเดียวว๊ะ ก็นี้ละเป็นงงเลยล่ะว๊ะ แต่นึกถึงมึงขึ้นมาได้แว๊ปหนึ่งจึงคิดว่ามึงต้องช่วยกูแน่เพราะเป็นเพื่อนที่ กูสนิทมากที่สุดว๊ะ” “ไอ้ห่านี้หากไม่มีเรื่องเป็นหายเงียบไปเชียวนะ พอมีเรื่องทีใดไม่พ้นกู ทุกทีเลยเชียวนะมึง เฮ้ยๆๆแล้วอีลาวัลย์นั้นมันสวยหรือเปล่าแล้วเพื่อน มันล่ะหน้าตาเป็นอย่างไรบ้างว๊ะ” “เพื่อนมันกูไม่รู้แต่รู้ว่ามันไม่ได้เรียนโรงเรียนกับพวกเราว๊ะ” “ว๊าวส์ๆๆๆแล้วมึงจะให้กูแยกมึงกับมันออกมา หรือเพื่อจะคั่วอีลาวัลย์ คนเดียวหรือ” “เออก็ทำนองนั้นแหละว๊ะมึงจะพาไปไหนก็เรื่องของมึงโว้ยตามใจ มึงว๊ะ” “ไอ้เหี้ยน้อย.....กูไม่มีเงินโว้ยเงินเดือนพ่อกูจ่ายเป็นเดือนหมดไปแล้วตั้ง แต่กลางเดือนแล้วล่ะว๊ะ แล้วจะเอาเงินที่ไหนพาเพื่อนอีลาวัลย์ไปได้ไงว๊ะ หากแม่มันจะกินโน่นกินนี้กูไม่หน้าแตกหรือว๊ะไอ้น้อย” “เรื่องเงินไม่ต้องห่วงหรอกว๊ะวันนี้กูพกมาแยะโว้ย เดี๋ยวมึงเอาไปห้า พันจะพอไหมว๊ะไอ้นะ” “พอเหี้ยอะไรล่ะโว้ยแค่ดูหนังสองคนแล้วนั่งร้านสุกี้ยากี้ก็แทบจะ หมดแล้วล่ะว๊ะ เดี๋ยวแม่เสือกอยากแดกอาหารญี่ปุ่นอีกและฉิบหายใหญ่ นาไอ้เหี้ยน้อย มึงให้กูแค่นี้มึงไปหาคนอื่นเถอะ ไอ้ชาญก็ได้นี่นา” “ไอ้ชาญหน้าปุอย่างงั้นหรือผมแห้งยังกับข้าวเกรียบ โอ้ยเพื่อนอีลาวัลย์ มันไม่สนหรอก เพื่อนกูมองดูก็เห็นมึงนี่แหละว๊ะที่หน้าตาเข้าทีดีกว่าหมา ที่บ้านกูหน่อยว๊ะ” โครมๆๆร่างไอ้น้อยกระเด็นไปชนกับเก้าอี้ฟูกยาวๆทันที ทั้งๆที่ตัวมัน สูงใหญ่กว่าไอ้นะนิดหน่อย แต่แรงถีบไอ้นะนั้นมันฝึกมวยมาย่อมรู้จุดใน การถีบ ดังนั้นร่างมันถึงกับเซแซดๆไป ตกลงนั่งบนพื้นโซฟาทันที “งั้นมึงเอาไปหมื่นหนึ่งคนละครึ่งกับกู เกินกูไม่มีอีกแล้วโว้ยนี่กูจิ๊กเงิน ในเก๊ะเก็บเงินพ่อกูมานะโว้ย” “เออแค่นี้คงจะพอว๊ะ แล้วมึงนัดมันเมื่อไหร่ล่ะ???....” “บ่ายสองโมงที่หน้าห้างแฟร์ชั่นว๊ะ” ไอ้นะหรือนายธนเศรษฐ์ วราวุฒิหันหน้ามองไปยังนาฬิกาแขวนทันที พลางก็เอ่ยว่า “ไอ้ห่ายังกับไฟร้อนก้นเชียวนะโว้ยเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงจะไปทัน หรือว๊ะไอ้น้อย” “แค่นี้เองไม่ไกลกับบ้านมึงหรอกแป๊บเดียวก็ถึงแล้วล่ะว๊ะ ไปยังล่ะโว้ย ไอ้นะเดี๋ยวไม่ทันว๊ะ” “เดี๋ยวกูไปแต่งตัวก่อนมึงคอยก่อนนะ ไหนๆเงินเอามาให้กูก่อนว๊ะ” “ไอ้เหี้ยนี่งกไปได้กูบอกให้ก็ให้ซิว๊ะ” แล้วมันก็ควักเงินในประเป่าออกมานับเป็นใบละพันปึกค่อนข้างใหญ่ จนครบหนึ่งหมื่นแล้วยื่นให้ไอ้นะทันที ไอ้นะก็ไม่รอช้ายัดเงินเข้ากระเป๋า ทันที พลางจะก้าวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่ถูกไอ้น้อยดึงแขนเสื้อไว้ “มึงจะไปเปลี่ยนหาพระแสงอะไรล่ะโว้ย ชุดนี้ก็ดีแล้วนี่หว่า ไป๊ๆๆๆ เสียเวลาว๊ะ” ไอ้น้อยมองสภาพร่างกายเสื้อผ้าพลางหัวร่อลั่น ตามใจมึงนะโว้ยมีเงิน แล้วช่างหัวมัน ใครสนใจหรือไม่ก็ไม่รู้นะโว้ย มึงแต่งกายหล่อๆกางเกง ขายาว ส่วนกูขาสั้นอยู่กับบ้าน “นี่หากไม่ใช่เพื่อนที่กูรักและไม่ใช่แฟน กูไม่ไปหรอกว๊ะเสียเชิงหมด ไอ้ฉิบหาย” “หากมึงไม่ใช่เพื่อนรักกู กูก็ไม่เอาไปหรอกว๊ะไอ้ห่าเสียเงินตั้งหมื่น หนึ่ง กลับบ้านไปไม่รู้ป๋าจะด่าหรือเปล่าว่าเงินหายนะ” “ได้ๆๆเอาเงินมึงคืนไปก็ได้ว๊ะ” “เฮ้ยๆๆกูล้อเล่นว๊ะ ไปเดี๋ยวนี้เลยว๊ะ” “ไอ้ห่ากูปิดคอมฯปิดบ้านเครื่องไฟฟ้าก่อนซิว๊ะ เดี๋ยวโทรไปบอกพ่อแม่ กูก่อนนะโว้ย หากกลับมาไม่เจอกู” “เออๆๆจะทำอะไรก็รีบทำเถอะว๊ะเวลาไม่คอยท่าแล้วล่ะไปก่อนดีกว่า ว๊ะมึงจะได้ดูว่าคนที่อีลาวัลย์พามามันจะขี้เหร่เท่าไหร่ บอกก่อนนะโว้ย ถึงจะขี้เหร่อย่างไรมึงก็ต้องทนๆๆนะโว้ย ไม่ใช่เจอแล้วเผ่นแนบแบบก่อน กูไม่ยอมแน่คราวนี้นะโว้ย” “เออๆๆๆกูจะกัดฟันหลับหูหลับตาทนเพื่อมึงไอ้เพื่อนสุดที่รักปาน.... ของลับกูว๊ะฮ่าๆๆๆๆ” แล้วไอ้นะก็รีบปิดเครื่องคอมฯและไฟฟ้าหมดพร้อมโทรไปบอกพ่อ แม่ทันที ครั้นแล้วก็พยักหน้ากับไอ้น้อยทันที เรียบร้อยแล้วว๊ะไปเถอะ ทั้งสองหนุ่มวัยรุ่นก็ออกจากบ้าน ไอ้น้อยนั่งรถเก๋งเซฟิโร่รุ่นใหม่เอี่ยม ขับออกไปทันที ทั้งสองคุยกันไปหัวร่อกันไปรถออกทางด้านหลังสนาม กอร์ฟปัญญา สักชั่วอึดใจเดียวก็มาถึงหน้าห้างแฟร์ชั่น ไอ้น้อยนำรถจอด เลยป้ายรถประจำทางไปหน่อย พลางมองหาสาวลาวัลย์ทันที แล้วก็แล เห็นสองสาวกำลังนั่งคุยกันบนโต๊ะยาวภายในซุ้มที่สร้างไว้ให้คนพักก่อน เข้าห้างหรือออกจากห้างมานั่งรอรถประจำทาง ส่วนไอ้นะก็นั่งคอยใน รถปล่อยให้ไอ้น้อยไปหาสาวๆคนเดียว ร่างไอ้น้อยชะงักพรืดทันทีเมื่อแลเห็นสองสาว สาวลาวัลย์นั้นไอ้น้อยจำ ได้แม่นยำส่วนเพื่อนหล่อนซิมันไม่รู้จักแต่ สาวน้อยนี้ทำไมช่างสวยงาม ยิ่งนักสวยกว่าอีลาวัลย์ที่มันหมายมั่นเสียอีก ทั้งรูปร่างหน้าตา ทรวดทรงเอวองค์ก็ งดงามยิ่งนัก เจ้าหล่อนมัวแต่ สนใจกับอาหารทานเล่นมิได้สนใจอะไรทั้งนั้น คราวนี้ไอ้น้อยยามเพ่งมองเล่นเอามันตกตลึงนึกไม่ถึงสาวน้อยคนนี้จะ งามจริ๊งจริงว่าเหตุการณ์ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ พลางหันกลับไปมองในรถก็แลเห็นไอ้นะกำลังหลับตาทอดหุ่ยอยู่อย่าง ไม่รู้ร้อนรู้เย็นอย่างนั้นแหละ มันคงจะไม่สนใจอะไรเท่าใดนักคงฟังเพลง ไอ้น้อยชักอิจฉาไอ้นะเสียแล้วมันคิดว่ามันต้องวางแผนใหม่ทันที โดยคิดที่จะให้ไอ้นะไปจีบอีลาวัลย์แทนมัน แล้วส่วนมันจะไปจีบเพื่อน อีลาวัลย์แทน โดยคิดสลับตัวกันด้วยเพื่อนของหญิงที่มันปองกับงดงาม กว่าอย่างเทียบกันไม่ได้เลย สวยก็สวยงามหรืองามกว่า จึงรีบเดินเข้าไป ทันที พอดีสองสาวเหลือบมาเห็นไอ้น้อยพลางส่งยิ้มให้ทันที สาวน้อย คนหนึ่งก็ลุกขึ้นจากเพื่อนแล้ว สาวลาวัลย์ก็ก้าวมาเกาะแขนไอ้น้อยพลาง ฉอเลาะขึ้นอย่างประจบประแจงทันที โดยไม่ทราบแผนในใจเพื่อนหล่อน “แหม๋ๆๆๆน่าหยิกจริงๆนัดไว้สองโมงเย็นนี่ปาเข้าไปเกือบสองโมงครึ่ง แล้วล่ะ???...” “พอดีรถมันติดจ๊ะแม่ลาวัลย์ ใจนะมาถึงก่อนรถเสียอีกนะด้วยคิดถึง กลัวว่าวัลย์จะโกรธเสียอีกซิหรือจะกลับไป” แต่สายตามันกลับจ้องไปยังเพื่อนสาวลาวัลย์เพียงแต่ปากพูดกับ สาวลาวัลย์เท่านั้นเอง “อ้าววัลย์ไม่แนะนำเพื่อนให้รู้จักบ้างหรือนะ” “อ้อๆ!!!.....เพื่อนรักวัลย์แหละแต่อยู่คนละโรงเรียนเขาเรียนที่โรงเรียน เซ็นคาเบรียล เดี๋ยวจะเรียกมาพบแนะนำให้นะ” พลางหล่อนก็หันไปเรียก “นี่รจนามารู้จักเพื่อนเราหน่อยซินะ เขาชื่อน้อยล่ะลูกพ่อค้าใหญ่จ๊ะ” สาวน้อยที่ชื่อรจนาลุกจากเก้าอี้พลางเดินเข้ามายกมือไหว้ท่าทางอ่อน น้อม เต็มไปด้วยมารยาทงดงามผิดกับวัยรุ่นทั่วๆไปมากนัก” “ไม่ต้องหรอกครับคุณรจนาพบกับคุณเป็นเกียรติผมยิ่งนักครับ” “นี่คุณน้อยปากหวานมาตั้งแต่เมื่อไหร่เชียวนะ ที่เรียกวัลย์ไม่เคยมีคุณ สักคำเดียวมีก็ตอนใหม่ๆที่รู้จักกันเท่านั้นต่อมาก็หายไป ฮึๆๆๆๆ” “โถๆๆๆคุณวัลย์เป็นธรรมดาหรอกจ้าก็เราสนิทสนมกันมากๆนี่นาหาก เรียกแบบเดิมก็จะสนิทสนมกันได้อย่างไรจริงไหมล่ะจ๊ะ” “อย่างงั้นก็แล้วกันนะ อย่ามาจีบเพื่อนวัลย์อีกคนเสียล่ะ” “ โถๆๆใครจะทำทำเช่นนั้นได้ และวันนี้วัลย์แต่งตัวช่างสวยยิ่งจริงๆ ยิ่ง มองก็ยิ่งดูเด่นยิ่งนัก ผมหรือจะกล้าล่วงเกิน กลัววัลย์จะไม่สนใจนะซิ” ปากไอ้น้อยอย่างหนึ่งแต่ใจมันกลับคิดไปอย่างอย่างหนึ่ง เพียงแค่คำ กล่าวเจ้าหล่อนเช่นนี้ ก็ทำเอาทำให้ไอ้น้อยสะดุ้งแทบจะจับได้เหมือนจี้ใจ ดำมันก็เลี่ยงทั้งๆในใจมันหวังจะจีบเพื่อนสาวของสาวลาวัลย์ต่างหาก เลย พลอยเกิดการแก้เขินทั้งๆที่มันเขินอยู่ พลางแกล้งหันตะโกนเรียกเพื่อนมันทันที ซึ่งคงนั่งฟังเพลงในรถมัน “ไอ้นะโว้ย ลงมาได้แล้วล่ะว๊ะ???....ทำห่าอะไรอยู่อีกล่ะ???...” “ไอ้นะหันมามอง ตะโกนตอบกำลังฟังเพลงเพราะๆอยู่ว๊ะ มึงมาปิด เครื่องซิว๊ะ” “มึงนั่นแหละปิดแล้วเอากุญแจมาให้กูก็แล้วกันนะ” ได้นะได้ฟังเพื่อนกล่าวเช่นนั้นก็ปิดเพลงพร้อมทั้งปิดแอร์และประตู อัตโนมัติเรียบร้อย ดึงลูกกุญแจออก ทดลองดูให้แน่แก่ใจ “ไอ้น้อยกูว่ามึงเอารถไปเก็บไว้ที่บนห้างมิดีหรือว๊ะจะได้ปลอดภัย หน่อยไม่ต้องเกะกะรถคนอื่นเขาอีกด้วย ครั้นตรวจเรียบร้อยแล้ว มันก็ก้าวลงจากรถเดินมาหาคนทั้งสามทันที โดยมิลืมตรวจความ เรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง หันหลังกลับ เดินไปหาพวกทันที ครั้นไอ้นะเดิน มาใกล้ไปพบคนทั้งสาม ไอ้นะก็ตกใจทันทีพลางถอยหลังกรูดๆไป ไอ้น้อยเห็นพลางตะโกนลั่น ด้วยความแปลกใจในกิริยาของเพื่อนมัน “ถอยหาห่าอะไรล่ะโว้ยไอ้นี่กูให้มาไม่ได้ให้มึงถอยหนีนี่หว่า” เพื่อนของสาวลาวัลย์ก็ตกตลึงเช่นกัน ครั้นได้สติก็รีบวิ่งมาหาเพื่อนไอ้ น้อยทันที ด้วยความลิงโลดดีใจอย่างเห็นได้ชัดสร้างความแปลกใจแก่คน ทั้งสองที่ต่างยืนมองอ้าปากค้าง ยิ่งสาวลาวัลย์คิดไม่ถึงจริงๆว่าเพื่อนของ เขาจะแสดงกิริยาได้อย่างเปลี่ยนแปลงยิ่งนัก “พี่นะหรือ????....ใช่แล้วพี่นะจริงๆแหละรจนาดีใจจังไม่ได้เจอเสียนาน เกลียดรจแล้วหรือถึงติดต่อไม่ได้เอาเสียเลย” “รจเองหรือนึกว่าใครเสียอีก เจ้าน้อยพาพี่มาเป็นเพื่อนไม่คิดว่าจะ เจอรจที่นี่เสียอีกล่ะ” แล้วรจนาก็วิ่งมาสวมกอดร่างของเจ้านะทันที สร้างความแปลกใจแก่ สาวลาวัลย์และไอ้น้อยทันที ทั้งๆที่มันวางแผนการณ์ไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนสาวลาวัลย์หรือก็แปลกใจยิ่งนัก ด้วยเพื่อนหล่อนนั้นปกติจะมีอาการ ขรึมๆไม่เห็นเคยยุ่งเกี่ยวกับใครเลยนอกจากอยู่แต่ในบ้าน นานๆทีจะออก มาเที่ยวยังข้างนอกกับเพื่อนสักครั้งจึงทำความแปลกใจยิ่งนักครั้นมองเห็น ทั้งสองไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกืดได้เลย ทั้งสองต่างหันมามอง หน้ากันและกันอย่างสีหน้าแปลกใจดวงตาทั้งสองเบิกโพลงเหลิกหลั่กไป ตามๆกันเมื่อเห็นร่างทั้งสองเข้ากอดกันกลม แสดงถึงความสนิทสนมผิด ธรรมดาของความเป็นเพื่อนไปเสียแล้ว ต่างยืนมองดูสลับมองหน้ากันและ กันอย่างงุนงงสงสัยแปลกใจ ด้วยทั้งสองต่างก็พากันมาหวังเป็นเพื่อนใน ครั้งนี้สาวลาวัลย์จะได้มีข้ออ้างต่อครอบครัวว่ามาซื้อของที่ห้างเท่านั้นเอง โถๆๆๆไอ้นะหนอไอ้นะ???...นะไอ้นะ!!!...โถเวรๆของกูจริ๊งๆจริงๆ มันหึงหวงในใจอย่างคร่ำครวญและโหยหวน กูอุตส่าห์วางแผนเสียดิบดี โถๆๆๆๆพลางนึกถึงยามพบเจ้าหล่อนทำให้ยิ่งแสนจะเสียดายสาวที่ชื่อ รจนายิ่งนัก แต่ก็สายไปเสียแล้วอนิจจาอกกูหนออกกู........... แก้วประเสริฐ.
29 พฤษภาคม 2554 20:28 น. - comment id 124096
มาอ่านความรักของวัยรุ่นค่ะครู
29 พฤษภาคม 2554 20:44 น. - comment id 124097
โห เปลี่ยนแนวแบบไม่ทันตั้งตัวเลยค่ะ แต่ก็เหมาะกับเจี๊ยบดีค่ะ อิอิ
29 พฤษภาคม 2554 21:28 น. - comment id 124098
30 พฤษภาคม 2554 10:28 น. - comment id 124104
มาแนวนี้..ก้อ..หนุกไปอีกแบบนะครับ อ่านเพลินเกิน 100 ครับ
30 พฤษภาคม 2554 13:59 น. - comment id 124106
คุณ แก้วประภัสสร ปกติครูไม่ค่อยจะเขียนแนวนี้หรอกจ้า แต่มีคนเขามาให้ช่วยเขียนก็เลยเขียนไว้ คงตลกสิ้นดีเน๊อะ ฮ่าๆๆๆ รักศิษย์เรามากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
30 พฤษภาคม 2554 14:04 น. - comment id 124107
คุณ ช่ออักษราลี ศิษย์รักเราที่จริง เรื่องนี้เขียนให้เขาจะ ลบก็เสียดายจึงทดลองเอามาลงหรอกจ้า เลยดูแปลกๆไปนะ ติชมได้นะทิ้งท้ายไว้ ให้คิดกันเอาเองจ้า รักศิษย์มากๆเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
30 พฤษภาคม 2554 14:08 น. - comment id 124108
คุณ ฟ้าใส ขอบคุณมากครับที่แวะมาเยี่ยมครับ แก้วประเสริฐ.
30 พฤษภาคม 2554 14:14 น. - comment id 124109
คุณ เอื้องอังกูร ที่จริงเรื่องนี้ผมเขียนให้คนมาขอร้องไว้ จึงเขียนในแนววัยรุ่น อันที่จริงผมเขียนได้ หลายๆรูปแบบครับ แต่ในใจส่วนมากชอบ แนวพืสดารลี้ลับอภินิหารครับ หากไปอ่าน เรื่องสั้นย้อนหลังจะเห็นผมเขียนไว้ก็หลายๆ เรื่องครับแต่ต่างแนวกันครับ เรื่องนี้ผมใช้ เวลาเดี๋ยวเดียวเท่านั้นครับ ขอบคุณที่มาให้ กำลังใจเสมอมาครับ แก้วประเสริฐ.
30 พฤษภาคม 2554 14:16 น. - comment id 124110
มีหลากหลายแนวเลยครับครู
30 พฤษภาคม 2554 14:29 น. - comment id 124111
คุณ กิ่งโศก การจะเป็นนักเขียนที่ดีนั้น ต้องหลาก หลายในการเขียนให้มากที่สุดเท่าที่จะมาก ได้จึงจะสร้างเป็นเรื่องยาวๆได้จ๊ะ การเขียน ในลักษณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องง่ายๆที่สุด ก่อน นั้นครูก็หัดเรื่องสั้นๆไว้ก่อน จนความรู้แตก ฉานรู้แนวต่างๆมากขึ้นจึงขยับมาทดลองยาว ไม่มากไว้ก่อน เมื่อจับจุดได้แล้วก็ขยายแยก ออกให้กว้างขึ้นไปเรื่อยๆจนเป็นเรื่องยาว ไว้จ๊ะ หัดทดลองเขียนซิสนุกมากนะใน การเอาทุกๆอย่างผสมเข้ากับจินตนาการ เราไว้ด้วย แตกต่างกับร้อยกรองมากๆ และใข้สมองมากกว่าร้อยกรองอีกด้วย ได้ทั้งอารมณ์สนุกสนานตื่นเต้น ยามเรา มาอ่านทบทวนไว้ บางครั้งครูัยังนึกสงสัย ตัวเองเลยว่า เขียนไปได้อย่างไรกันนะ มีคนเคยบอกไว้เหมือนกันว่า น่าจะเอา ไปเสนอขายได้เงินด้วย แต่นิสัยครูไม่ ชอบไม่อยากมีข้อผูกพันธะใดๆ ทำแบบอิสระ นี่แหละคือสิ่งที่ครูชอบเป็นตัวของตัวเอง รักศิษย์เรามากๆเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
30 พฤษภาคม 2554 22:26 น. - comment id 124114
ฮั่นแน่ะ ลุงแก้ว มีแนวนี้กะเขา ด้วยน๊า แอบอ่านๆๆ อิอิ ....
31 พฤษภาคม 2554 14:07 น. - comment id 124124
คุณ ฉางน้อย เจ้าฉางเอ๋ยลุงเห็นภาพแล้วล่ะ อิอิ สวย จริงๆแหละ ภาพนี้คัดเอามาหาคนที่หล่อที่ สุดในเมืองไทยเขาว่าอย่างนั้นนะในกลูเกิ้ล เลยเอามาคู่กับเจ้าฉางไงล่ะ ดีไหม ฮ่าๆๆๆ รักหลานเรามากๆเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
3 มิถุนายน 2554 09:29 น. - comment id 124139
รักวัยรุ่นวุ่นวายแต่ก็ใสๆดีนะคะคุณลุง
3 มิถุนายน 2554 13:22 น. - comment id 124151
วัยรุ่นตามมมาอ่านค่ะ รจนามาตามหาเจ้าเงาะ อิอิ