ช้าง !.. ช้าง !.. ผมไม่รู้นะว่าเพราะอะไรและก็ทำไมเวลาที่ผมไม่ใช่ผมคนเดียวซิต้องใช้คำว่าพวกเรา ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ผมยังเป็นเด็กๆอยู่และย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่เพื่อนของผมยังเป็นเด็กๆอยู่ เช่นกัน ย้อนกลับ .. กลับไปนึกถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา .. ผ่านมาโดยที่ผมและเพื่อนๆได้สร้างเรื่องราวต่างๆมากมาย ฝากไว้ .. ฝากไว้กลับเวลาที่ผ่านมา เยอะเหมือนกันนะครับ บางเรื่องของผู้เขียนเองพอนึกขึ้นได้ก็รู้สึกขำๆเหมือนกัน-ขำตัวเอง-ขำเพื่อนๆ .. อดที่จะอมยิ้มอยู่คนเดียวไม่ได้แต่บางเรื่อง .. บางความรู้สึกก็ต้องทำให้เราได้มานั่งคิดทบทวน ?..เฮ้อ .. ช่างมันเถอะครับผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปจำไว้แค่เป็นบทเรียนก็พอ เข้าเรื่องดีกว่า .. เอาเป็นว่าตอนนี้ผมได้ย้อนไปถึงตอนเด็กๆแล้วนะครับ .. มีเพื่อนมากมายที่รอผมอยู่ที่นั้นและก็มีเรื่องราวมากมายรอผมอยู่ที่นั้น .. ผมได้พบเพื่อนๆผมแล้วหลายคนและก็พบเรื่องราวต่างๆมากมาย .. แต่วันนี้ .. ที่นี้ผมมีบางส่วนบางตอนเท่านั้นที่อยากจะบอกเล่าให้ผู้อ่านได้รับฟัง .. ได้รับอ่านและอยากให้ผู้อ่านก็ลองย้อนกลับไปในเรื่องราวบางตอน-บางส่วนของผู้อ่านที่สอดคล้องกับเรื่องเล่าของผม เรื่องมันมีอยู่ว่า !.. ( แฮ .. ล้อเล่นนะครับแกล้งทำให้ระทึกใจเฉยๆ) ผู้อ่านรู้จักช้างไหมครับเคยเห็นช้างหรือเปล่า ถ้าไม่เคยเห็นลองจินตนาการตามเพลงนี้นะครับ ช้าง .. ช้าง .. ช้าง หนูเคยเห็นช้างหรือเปล่า ช้างมันก็ตัวไม่เบา จมูกยาว .. ยาว เรียกว่างวง สองเขี้ยวใต้งวงเรียกว่างา มีหูมีตาหางยาว..ว.ว.. ..ว กว่าจะเขียนจบ .. ผู้อ่านรู้ไหมครับว่าผู้เขียนคนนี้ต้องแกะเนื้อร้องนานที่เดียว ลืมเหมือนกันไม่ได้ร้องเสียนาน แต่ผมว่าผู้อ่านทุกคนต้องรู้จักช้าง-หรือเคยเห็นช้าง ถ้ามีผู้อ่านคนใดไม่เคยเห็นช้างก็ให้รีบไปดูนะครับ ช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองคู่คนไทย .. คู่ชาติไทย แล้วมีใคร .. ใครบ้างละครับที่ให้ความสำคัญกับคำว่า .. ช้าง .. และให้ความสำคัญด้วยความจริงใจ .. ช้าง !.. ช้าง !.. ช้าง !.. เสียงของเพื่อนผมหรือบางครั้งก็เป็นเสียงของผมเอง ( แต่วันนี้เป็นเสียงของเพื่อนผม) น้ำเสียงที่ตะโกนออกมาบ่งบอกถึงความดีใจตื่นเต้นสุดขีด และแน่นอนเราทุกคนก็ต้องหันไปทางต้นเสียงที่เปล่งออกมาและมองไปตามแนวเส้นตรงที่ผู้ตะโกนใช้นิ้วชี้ค้างไว้ สีหน้าท่าทางของคนตะโกนดูมีความภูมิใจนิดๆบวกกับความตื่นเต้นหน่อยๆ ผมรู้ .. เพราะผมก็เคยเป็นเช่นนี้ จริงๆนะครับ ตอนเด็กๆลองถ้าได้ทำอะไร .. ได้เห็นอะไรที่แปลกๆก่อนคนอื่น ( ลืมบอกไปว่าเรื่องที่ผมเล่าผมเป็นเด็กแค่ไหน ตอนนั้นคงประมาณ ป.1 ได้มั้ง)และคนอื่นก็อยากจะเห็นมัน .. มันจะมีความรู้สึกว่าเราเป็น HERO เป็นวีระบุรุษ มันเท่ห์ไม่เบานะครับที่ได้เห็นช้างก่อนคนอื่นๆผู้อ่านเคยมีอาการอย่างนี้ไหมครับ ?.. เด็กๆเวลาที่อยู่โรงเรียนหรือแม้แต่เวลาที่นั่งเรียนอยู่ก็ตามแต่ .. ลองถ้าได้เห็นอะไรแปลกๆพวกเราๆเด็กๆจะวิ่งกรูกันออกไปดู โดยเฉพาะถ้าได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ละก็ .. ทั้งวิ่งตาม ทั้งส่งเสียงร้อง ผู้อ่านรู้ไหมครับว่าตอนนั้นผมกับเพื่อนเวลาเห็นเฮลิคอปเตอร์แล้วร้องกันว่ายังไง ถ้าไม่รู้ผมก็เต็มใจจะบอกให้ก็ได้ว่า .. ร้องว่า .. นั้น .. เด .. คอป .. เต้อ .. พ่ .. กู .. แปลว่านั้นไงเฮลิคอปเตอร์พ่อฉัน และแน่นอนในสถานอาการเดียวกันนี้ก็ต้องเป็นอย่างนี้ .. และเป็นประจำ แม้อาจารย์จะวิ่งตามไล่ให้เข้าห้องก็ตาม-บอกแล้วไงอาจารย์ว่าผมตื่นเต้นที่ได้เห็นช้าง-ได้เห็นเฮลิคอปเตอร์ นานๆจะได้เห็นทีจะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไงก็ผมมันเด็กบ้านอกนี่ครับ ที่บ้านไม่มีคอปเต้อ(เฮลิคอปเตอร์) พอทุกคนมองตามมือที่ชี้ไป และได้เห็นช้างกันทั่วถึงทุกคนพวกเราก็ทำเหมือนเคย รู้หรือเปล่าครับว่าพวกผมทำอะไรกันต่อไป ทั้งที่ตอนนี้นั่งอยู่ในห้องเรียน และกำลังเรียนอยู่ อาจารย์ก็กำลังสอนอยู่ ไปดูช้างกันเถอะครับผู้อ่าน .. และพวกผมก็วิ่งกรูกันออกไปดูช้าง ผมได้เห็นช้าง ช้างมีหูสองข้างซ้ายและขวา ช้างมีตีน(เท้า)2คู่หน้าหลัง ช้างมีอะไรละขาวๆงวงหรืองาละทีนี้ ต้องงาซิเพราะผมจำได้ว่าเพลงบอกว่า 2 เขี้ยวใต้งวงเรียกว่างา และสีขาวๆยาวๆ2อันที่ผมเห็นมันก็น่าจะเป็นงาเอาเป็นว่าผมได้รู้จักช้างแล้ว .. ได้เห็นช้างแล้ว เย้ !.. ดีใจจัง ผมเห็นช้างแล้ว .. แล้วที่นี้ละ ช้างมาจากไหน ?.. ช้างมาทำอะไร ?.. ช้างมาจากป่า .. ถ้าช้างมาจากป่าแล้วทำไม .. ทำไมละถึงมีคนตามมาด้วย มีคนขี่หลังช้างด้วย-เขาเก่งจังเลยขี่หลังช้างได้ด้วย .. ในมือเขาถืออะไรนะ .. เหมือนค้อนของพ่อผมที่บ้านเลย-แต่ผมจำได้นะ .. จำได้ว่าค้อนที่บ้านผมปลายค้อนมันจะไม่แหลม แล้วนี่อะไรล่ะ ปลายแหลมก็แหลม ทำไมละเขาถึงได้เอาทุบลงบนหัวช้าง .. ช้างมันไม่เจ็บหรือ ?.. เวลาผ่านไปสักประมาณ 10-20 นาที เด็กๆก็พากันกลับเข้าห้องเรียน แต่ก็มีบางส่วนบางคนที่ยังติดใจช้างและผมก็เป็นบางคนที่ว่าพร้อมเพื่อนของผมอีกประมาณสี่ห้าคน เรายังติดใจช้าง .. ผมมองไปด้านหลังที่ช้างเดินมา ผมสงสัยจริงๆว่าช้างตัวอื่นๆทำไมมันไม่มา ก็ไอ้ที่ผมเห็นนี่มันมีตัวเดียวและคงจะเป็นตัวผู้เพราะมันมีงา ผมเคยได้ยินมาว่าช้างตัวผู้จะมีงา และตัวนี้ก็มีงา ผมคงเข้าใจไม่ผิด ช้าง ?.. ช้าง ?.. มันอยู่กันเป็นฝูง(โขลง)นี่ครับแล้วทำไม .. ทำไมละช้างที่ผมเห็นจึงมีตัวเดียว เอ ?.. ผมนี่ช่างเป็นเด็กขี้สงสัยจริงๆเป็นเด็กขี้สงสัยดีหรือเปล่าก็ไม่รู้-แม่เคยสอนผมว่าเป็นเด็กขี้เกียจไม่ดีไม่ดี .. แต่นี่มันขี้สงสัยมันต่างกับขี้เกียจนี่ครับ เอาเป็นว่าขี้สงสัยมันจะดีหรือไม่ดีผมก็สงสัยไปแล้วและต้องการคำตอบด้วย แต่ในตอนนี้ผมถามเพื่อน-เพื่อนก็ .. ชี้ . โบ้ . ชี้ . เบ้ .. ไม่รับรู้ ผมสังเกตรอบๆช้างจะมีคนเดิน 3 คนขี่หลังช้าง 1 คน คนที่เดินตามสามคน คนหนึ่งเดินด้านหลังช้าง อีกสองคนเดินซ้ายและขวาของถนนและเขามีอะไรมาขาย .. ผมก็ไม่รู้แต่คงจะเป็นของศักดิ์สิทธิ์หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ แต่พ่อผมเคยบอกว่าเขาจะมาขายสิ่งศักดิ์สิทธิ์-จำได้ยังงั้น .. ผมและเพื่อนยังคงเดินตามช้างไปตามถนน ผมรู้สึกร้อน-ร้อนมากๆด้วย ผมมีรองเท้านะแต่เท้ามันทำไมร้อนละน่าจะร้อนแต่ตัวเฉยๆช้าง ?.. ช้างละ ช้างไม่มีรองเท้า .. ผมเดินไปตามช้างเรื่อยๆและข้างทางบ้านไหนที่มีต้นกล้วย-ผมก็จะตัดใบตองกล้วยมาให้ช้างกิน ผมรักมันจังเลย-ผมรักช้าง ช้างเป็นสัตว์ที่น่ารักมากๆผมคิดอย่างนั้น ผมอยากจะขี่หลังช้างบ้างจังเลยแต่เอ๋ทำไงหนา ?.. ชั่งเหอะแค่เดินตามผมก็มีความสุขแล้ว ก้าวช้าง .. ช้างก้าว .. และบัดนี้ก้าวของช้างก็ได้ก้าวออกจากหมู่บ้านของผมแล้ว ก้าวออกห่างไป .. ห่างไป ไปสู่หมู่บ้านอีกหมู่บ้านหนึ่งซึ่งอยู่ถัดไป เด็กที่หมู่บ้านแห่งนั้นก็คงจะได้เห็นช้าง-เขารอช้างเขาอยากเห็นช้าง .. และเขาก็คงจะได้เห็น ผมอิจฉาเขาจัง แต่เป็นเด็กขี้อิจฉาไม่ดีแม่ผมบอกยั้งงั้น ผมมองดูช้างจนลับตาผมผมยังไม่รู้จักช้างเลย ผมอยากรู้จักช้างมากกว่านี้แต่ช้าง-ช้างมันไปแล้ว ขี้ช้าง !..เสียงของเพื่อนผมตะโกนขึ้นและทำให้ผมตื่นจากความอาลัย .. อาวรณ์ ผมและเพื่อนๆวิ่งกรูกันเข้าไปที่กองขี้ช้าง ของกู .. กูเห็นก่อน .. กูจะเอาไปให้ยายกูใส่ต้นหมากต้นพลู (มีความเชื่อว่าถ้าเอาขี้ช้างใส่ต้นพลูหมากมันจะมีอายุยืนยาวไม่ตายง่ายๆ) และต่อไปเกิดอะไรขึ้นผู้อ่านก็จินตนาการเอาเอง (เพราะคนเขียนขี้เกียจจะเขียนแล้ว) แต่สรุปเท่าที่เข้าใจว่าวันนั้น-ผมโดนแม่ด่าว่าไม่เข้าห้องเรียน .. หนีเรียน และอีกกระทงคือเสื้อและกางเกงนักเรียนของผมติดขี้ช้าง .. ขี้ช้าง ค่ำวันนั้นก่อนนอนผมนึกถึงแต่ช้างไม่รู้เป็นอะไร ผมอยากรู้จักช้าง อยากจะเข้าใจช้าง อยากจะรู้จักช้างให้มากกว่าวันนี้ และผมจะได้หาคำตอบให้กับความเป็นเด็กขี้สงสัยของผม-อีกนานไหมหนาผมจะได้เห็นช้างอีก เฮ้อ !.. แต่วันนี้ผมกินข้าวทั้งน้ำตาช้างทำให้ผมมีน้ำตา แม่นะแม่กะอีแค่ขี้ช้างติดเสื้อบ่น .. บ่น..บ่นแล้วก็บ่น แถมเอาอะไรไม่รู้มาทาบก้นผม แต่แม่ครับแม่เผลอทาบแรงไปหน่อยหรือเปล่าครับก้นผมแดงเลย ก่อนนอนคือนั้นผมตั้งใจใว้ว่าจะฝันถึงช้างให้ได้ ต้องทำให้ได้ ผมต้องฝันถึงช้าง เพราะผมอยากรู้จักช้างมากกว่านี้ ช้างมีอะไรที่ทำให้ผมอยากรู้จักผมไม่รู้ .. ผมรู้เพียงว่าผมอยากรู้จักช้าง .. ผมรักช้าง ..
15 กันยายน 2546 07:52 น. - comment id 69593
ใช้คำได้ดีมากครับ ผมจะคอยติดตามตั้งใจเขียนอีกนะครับ.....ถ้าว่างก็ลองแวะไปอ่านของผมบ้างก็ไดนะครับ.....
18 กันยายน 2546 16:59 น. - comment id 69614
ขอบคุณครับคุณ ผลิใบสู่วัยกล้า--ที่ให้กำลังใจ
10 พฤศจิกายน 2546 22:19 น. - comment id 70142
ประทับใจจังค่ะ... เราก็ผูกพันธ์กับไก้กับนกที่บ้านเหมือนกัน พอเด็กคนอื่นๆ กลัว ไม่กล้าจับ ไม่กล้าเข้าใกล้กรงเพราะเหม็น แต่ก็เราที่รักมันและกล้าล่ะ ^^
17 พฤศจิกายน 2546 12:03 น. - comment id 70255
ขอบคุณครับ นานๆได้แวะเข้ามา-ผมไม่ค่อยมีเวลาแต่ผมไม่ลืมเวบร์ไทยโพเอ็มหรอกครับ
18 กุมภาพันธ์ 2547 19:26 น. - comment id 71102
ซึ่ง......มากเลยค่ะ
21 กุมภาพันธ์ 2547 11:50 น. - comment id 71122
ประทับใจและซาบซึ้ง มากนะค่ะ
23 กุมภาพันธ์ 2547 13:47 น. - comment id 71155
ขอบทคัดย่อขอเรื่องหน่อยคับจะทำโครงงาน
24 กุมภาพันธ์ 2547 12:10 น. - comment id 71173
ครับ
23 เมษายน 2547 00:03 น. - comment id 73456
..เขียน งานได้น่ารักมากเลยคะ.. ...
27 เมษายน 2547 12:34 น. - comment id 73672
***ขอบคุณคุณเรนครับ