อากาศร้อนที่บ้านสวนนี่ ไม่มีวันเลิกลา... แซมตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตีห้า..แปลกจริงๆ อยู่บ้านสวนนี่ ไม่มีอาการ ง่วงเหงาผิดเวลา แบบที่เรียกว่า Jet Lag เลยนะคะ... ค่าที่แซมไม่ได้มาเป็นประจำ แซมเลยไม่มีที่นอนหมอนมุ้งของตนเอง..ต้องนอนในมุ้งประทุน มีผ้าห่มปูบนเสื่อ.. ผ้าแพรคลุมขา (กันอะไรๆ ที่ไม่เห็นตัวตนมาดึงขาตอนดึกๆ ) แซมหอบหมอนของตัวเองไปจากเมกา...(เป็นโรคติดหมอน...แห่ะๆๆ) และจองพัดลมหนึ่งอันเอาเข้าไปเปิดไว้ปลายเท้าในมุ้งประทุนด้วย... แซมไม่กล้านอนในห้องแม่ หรือห้องย่า กลัวย่ากับแม่มาหา...(ตอนท่านทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ แซมดื้อกับท่านสุดๆ เลย ) น้องกับหลานสาวไปนอนในห้องพี่สาว พี่เขยไปนอนไหนไม่รุ๊ ไม่เห็นเลยซักคืนเดียว หลานชายญาติๆ กัน และพี่ชายของแซม ต่างก็ไปจับจองพื้นที่กันคนละแอ่ง ใต้พัดลมเพดาน...ดูคล้ายๆอาหารที่มีฝาชีครอบอยู่เป็นหย่อมๆ... บ้านสวนเป็นบ้านไม้กระดาน..เมื่อก่อนตอนแซมเด็กๆ ก็คิดว่ามันทั้งกว้าง ทั้งใหญ่ เพราะ แซมต้องถูบ้านก่อนไปโรงเรียน.. วิธีถูบ้านของแซมก็คือ เอาผ้าชุบน้ำบิดให้หมาดๆ แล้วเริ่มต้นจากปลายสุดของส่วนที่แล่นยาวเป็นโถง ไม่มีห้องกั้น... แซมตั้งท่าอย่างดี ลงสี่ขาแล้ววิ่งปรื๊ด จากด้านนี้ไปด้านโน้น...แล้วก็หันกลับวิ่งอย่างเดียวกัน... ต้องวิ่งกันอยู่หลายเที่ยวกว่าจะทั่วหนึ่งหลังตรงกลาง..ส่วนหลังในที่กั้นเป็นสามห้อง..วิ่งไปกลับสั้นๆ ไม่ค่อยสนุก...เพราะห้องหนึ่งเป็นห้องนอนของแม่ และอีกห้องเป็นห้องนอนของย่า มีเตียงทำให้ถูลำบาก..ส่วนห้องกลางเป็นห้องพระ ที่มีทั้งพระ และรูปเจ้าพ่อ เจ้าแม่ทั้งหลายที่แม่ของแซมเคารพ กราบไหว้..จะไปวิ่งก้นโด่งปรื๊ดๆ ก็กลัวว่า จะมีอันเป็นไป. เรือนหลังขวาง แซมไม่ต้องถู เพราะอะไรไม่เคยถาม แค่แอบดีใจก็พอแล้ว ยังข้างนอกที่ยาวเท่าๆ กับหลังกลาง ก็ทำแบบเดียวกัน..ด้านนี้มีประตูที่เปิดกว้างลงบันไดไปเชื่อมกับสะพานที่ต่อไปยังศาลาท่าน้ำ ที่แซมชอบเรียกว่า "หัวสะพาน" หลังด้านนอกนี้มีประวัติ..บางครั้งถ้าแซมรีบๆ แซมจะวิ่งไม่มองหน้ามองหลัง วิ่งปร๊าดจากสุดโถงด้านใน...ลืมเบรค วิ่งปรู๊ด ลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่ที่ข้างสะพานหน้าบันได.... ให้ฟกช้ำ ดำเขียว ปากแตกได้เลือดกันเลยทีเดียว.. เรื่องวิ่งเลย ลืมเบรคนี่ น้องสาวของแซมก็ทำเหมือนกัน วันหนึ่ง..น้องถือชามใส่ฟักทองต้ม วิ่งจะลงไปหัวสะพาน แล่นจู๊ด ตกอั้ก ที่ตีนบันได ฟักทองไปทาง ชามไปทาง.... ส่วนคนจุกอยู่กับที่... เรื่องมันก็ผ่านเลยมาหลายปีดีดักแล้ว แต่เรายังขำกันอยู่... มาเที่ยวนี้ แซมตื่นมากวาดบ้าน ถูบ้าน เดี๋ยวนี้เรามีไม้ถูบ้าน แต่ด้วยเหตุผลที่ว่า....แต่ละคนที่บ้านแซม ทั้งพ่อ และพี่สาว พี่เขยของแซมต่างก็ สูง ยาว แต่เข่าเสื่อมกันทั้งนั้นเลยต้องพึ่งม๊อบ..ไม้ถูบ้าน... แซมไม่ค่อยถนัดมือ และยังชอบถูบ้านแบบเก่าอยู่ เลยได้ออกแรงวิ่งไปหลายเที่ยว....บ้านก็ยังคงทั้งกว้าง ทั้งใหญ่อยู่ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเล่นเอาแซมเหงื่อตก ต้องอาบน้ำแต่เช้ามืด... อยู่บ้านสวน ถ้าไม่ได้ไปซุกซนในสวน เที่ยวหานก หาแมลง หาแมลงปอ หรือดอกไม้ ใบไม้แปลกๆ มาถ่ายรูป เราก็หาเรื่องกินกัน... อากาศร้อน แซมทานอาหารไม่ค่อยลง เลยได้ทานผลไม้มากมายจนคุ้มที่คิดถึง.... ว่างๆ แซมก็ไปนั่งอยู่หัวสะพาน คอยดูว่าจะมีใครพายเรือผ่านไป ผ่านมาบ้าง... คลองหน้าบ้าน ก็ยังมีน้ำไหลผ่านอยู่ ยังมีดอกไม้ และกอผักตบชวาลอยไปมา แซมยังเห็นบัวกินสายสีชมพูจัด ขึ้นอยู่บ้างประปราย.. แต่ไม่เห็นผักบุ้งทอดยอดอวบๆอย่างเคยอีกแล้ว....และที่ขัดตาแซมมากที่สุดคือ เห็นขยะ ของเหลือใช้ พลาสติค และโฟม ลอยปะปนมาในกอผักตบ... ความคิดแว่บเข้ามาในหัว.....การเป็นคนที่เรียบง่าย และสมถะ ไม่ได้หมายความว่า จะต้องเป็นคนมักง่าย.... บ้านแซมมีบ่อเก็บขยะที่ย่อยสลายได้ เมื่อนานๆ เข้าก็สลายกลายเป็นดิน... และมีบ่อที่เก็บขยะที่ไม่ย่อยสลาย... พวกกระดาษหรือของที่เผาได้ พ่อก็จะแยกไว้ต่างหาก พอมีมาก ๆ ก็จะเผาทิ้งไป พวกพลาสติคหรือโฟม พ่อจะอัดให้มันเล็กๆ แล้วใส่ไว้อีกบ่อ..ไม่รู้ว่า มันจะอยู่บนพื้นโลกใบนี้ไปอีกนานเท่าใด...แซมเคยเอาปากกาชาร์ปปี้แบบหมึกถาวร เขียนข้อความไว้บนกล่องและถุงพลาสติคว่า "แซมเคยอยู่ที่นี่" ...นึกขำๆ ว่า ถ้าโลกไม่แตกไปซะก่อน ในอนาคตข้างหน้า อาจจะมีเด็กๆ ที่มาเล่นแถวๆ นี้ และอาจจะเจอลายเซ็นต์ของแซม แล้วพากันตื่นเต้นว่า ย่า หรือยายแซม ของหนูเคยอยู่ที่นี่....แซมลืมเขียนต่อว่า..รักนะตะเอง คริ..คริ..งุงิ..คิขุ..จูบุ๊..จุ๊บๆ แซมคิดถึงสายน้ำที่ใสสะอาด เมื่อครั้งเด็กๆ เดี๋ยวนี้ มันเปลี่ยนไปจนทำให้ใจหดหู่ คิดแล้วก็พาลนึกเลยไปถึงน้ำใจของคน...ความเอื้ออารีย์ ความอาทร ความใสเย็นที่แซมเคยสัมผัส.. ถ้อยคำที่เราเคยได้ยิน...คำพูดเรียบง่ายที่ไม่ต้องปรุงแต่งจนคนฟังรู้สึกกระอักกระอ่วน...แต่เป็นความใสจากห้วงน้ำใจ ก็ดูเหมือนจะค่อยๆ จางหายไปทุกทีๆ เหมือนกัน.... วันนี้ กำลังมีผู้รณรงค์เพื่อพิทักษ์สิ่งแวดล้อม...แซมอยากจะรณรงค์พิทักษ์สิ่งที่อยู่ภายใน....แซมอยากให้ความรู้สึกที่อยากจะเอื้อเฟื้อ อยากแบ่งปัน ความรู้สึกเกรงอกเกรงใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ที่แซมเคยพบและหล่อหลอมอยู่ในจิตสำนึกของแซมในช่วงวัยเด็ก ได้ดำรงอยู่ในหัวใจของผู้คน....อย่าให้มันต้องถูกกลบไปเพราะความเร่งรีบ และแข่งขันกันเลย ความรู้สึกนี้ ก็มีที่มา...... วันหนึ่ง พี่เขยขับรถพาไปซื้อของในตลาดแม่กลอง เรากำลังจอดรอรถ ที่ถอยออกจากที่จอด เพื่อจะเอาพื้นที่ตรงนั้น... จู่ๆ ก็มีรถตู้มาจอดข้างหลังรถเรา แล้วมีผู้หญิงแต่งชุดขาว แบบบวชชีพราหมณ์ เปิดประตูลงจากรถ วิ่งตุ๊กๆๆ มายืนขวางหน้ารถแซม แล้วโบกให้รถตู้ที่ตัวเองเพิ่งลงมา อ้อมรถเราเข้าไปจอด...แซมตะลึงกับการกระทำอันนั้น กำลังจะเปิดประตูลงไปสู้กันซักตั้ง หลานและพี่เขยห้ามไว้ บอกว่า อากาศข้างนอกร้อนแล้ว ขอให้แซมเย็นข้างใน....ที่ว่างข้างนอกไม่มี แต่ขอให้มีที่ว่างในใจ... ไม่น่าเชื่อว่า แซมยอม.... ไม่น่าเชื่อว่าแซมไม่ลงไปจัดการกับยายชีคนนั้น. เรื่องนี้ยังรบกวนความรู้สึกของแซม แต่แซมดีใจที่อย่างน้อย วันนั้น แซม "เย็นใน" ได้ในระดับหนึ่ง.. การไปอยู่เมืองนอกนานๆ การที่ต้องรับผิดชอบในหน้าที่การงาน การที่จะต้องดำเนินชีวิตให้เข้ากับสังคมที่อยู่นั้นๆ ทำให้แซมต้องแกร่งให้ได้... บางครั้ง ในบางเรื่อง และบางเวลา ก็ทำให้แซมมีอีโก้สูง เรียกว่า อัตตาบวมขึ้นมาโดยไม่รู้สึกตัว แซมต้องคอยจับตาดูใจตัวเองอยู่บ่อยๆ ไม่อยากเป็นมลพิษของสังคมค่ะ.... กลับมาบ้านสวน ได้มาสัมผัสกับธรรมชาติ ความเรียบง่าย ความใสซื่อของผู้คนทำให้แซมอิ่มเอมใจ...อัตตาที่บวมๆ เลยแฟบลงอย่างสงบเสงี่ยม... ฝากกระซิบบอกแมลงปอตัวน้อยๆ สีแดง...ที่บินฉวัดเฉวียนอยู่เหนือผิวน้ำว่า...แซมรักเธอนะจ๊ะ
24 พฤษภาคม 2554 13:48 น. - comment id 124016
หวัดดีจร้า...เจ้าคุงแซม... อันนี้คือ...ตอนที่กลับมาพักบ้านสวนใช่มะ... รึแอบหนีกลับไปนอนบ้านสวนอีกแว้วววเนี่ยะ... ถูบ้านท่าเดียวกันด้วย.... แต่คุงพี่ก็มิเคย....เสียท่า...ไปนอนข้างหัวกะไดสักกะครั้งอ่ะ..... ตอนนี้...ฝั่งนี้...มีรายการทีวีอยู่รายการนึง... ชอบมากๆ... ชื่อรายการ...ฉันจะเป็นชาวนา... ดูทีไร...นั่งนอนยิ้มไม่รู้ตัวเรยยย.... เหมือนที่อ่าน...อังเนี่ยะ...ก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน...(ยิ้มอ่ะ...เพื่อนมังถามว่า...ยิ้มไรวะ) ชอบจัง "อัตตาบวม" คลาสสิกจิงๆ...ก๊ากๆๆ... ดีนะไม่ลงไปเอาเรื่องแม่ชีอ่ะ... มีคำสองคน...เคยพูดไว้...ต่างกรรมต่างวาระ... ครั้งนึง...เกิดเรื่องคล้ายๆเรื่องของแซม... พ่อคุงพี่...ท่านว่า...ลงไปอ่ะไม่จบ....เรื่องมันจะอยู่กับเราไป จนตาย...รึไม่ก็ตายตรงนั้น...เรยยย... ถ้าไม่ลงไป...มันจบตอนนั้นเรยยย...ไม่เกิน สามนาที...เด้วเราก็ลืม...ไปเอง... ครั้งที่สอง...รุ่นพี่...ของคุงพี่... เราโดนคนแซงเบียดซ้ายปาดหน้า... ตามวิสัย....คนเลือดเดือด... อัดตาม...กะแซงปาดคืน... รุ่นพี่ คุงพี่พูดว่า...เค้าอาจกำลังพาใครไปส่ง รพ.ก็ได้... ผ่อนเท้าในบัดดล.....สาธุ... พอเอาสองมุมมาชนกัน...อืมมม....คนนั้นทำผิด แต่...การเรียกหาความถูกต้องในขณะนั้น... อาจอยู่เหนือการควบคุม... ถ้าหยุดได้...ให้หยุดไว้ก่อนเสมอ... คุงน้องแซมทำถูกแว้วววว..... ไม่งั้น เกิดแม่ชี แกช๊อคตาย... ตาเนี่ยะ...แกจะตามไปหลอกคุงน้อง...นานเรยยย...อิอิ เฮ้อ.... บางครั้ง...บางอย่าง...ก็ไม่เป็นเหมือนที่เรา คิด...เสมอไปนา...จร้า... จงเข้มแข็ง...ต่อสู้...อย่างกล้าหาญ...คุงน้องสาว...
24 พฤษภาคม 2554 14:53 น. - comment id 124018
อ่านแล้วอยากมีบ้านสวนบ้างจัง อ่านแล้วเห็นภาพ ด.ญแซมตอนเด็กๆวิ่งเล่นซุกซน...อยู่ในสวน อมยิ้มแก้มตุ่ยกับความสุขที่ไม่ต้องเสาะแสวงหาจากที่ไกลตัวเลย... เมื่อก่อนบรรยากาศรอบๆตัวเราบ้านแต่ละหลังจะไม่มีรั้ว ตกเย็นแต่ละบ้านก็ทำอาหารมาแลกเปลี่ยนกัน ความรู้สึกแบบนั้นแม้จะไม่ได้หายไป ยังมีอีกมากมายหลายหมู่บ้านที่ยังคงดำรงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ได้อยู่ ท่ามกลางโลกที่เจริญรุดหน้า แต่ก็เริ่มน้อยลงเต็มทีเนาะ.... ภาพปู่ย่าตายาย นั่งมองหลานตัวจ้อยวิ่งเล่นกันอยู่ใกล้ๆ....แทบจะน้อยลงบางตาแล้ว เพราะสังคมเดี๋ยวนี้เริ่มกลายเป็นครอบครัวเดี่ยวกันไปเสียแล้ว เสน่ห์ของครอบครัวไทยที่หาไม่ได้ในโลกคือ ในหนึ่งครอบครัวมีคนอยู่ทุกรุ่นทุกสมัย ปู่ย่าตาทวด รุ่นลูกหลานเหลนโหลน อยู่ด้วยกัน อบอุ่นเนาะ สมัยก่อนตอนเป็นเด็กชอบเวลารวมตัวกันตอนทานข้าวมื้อเย็นมากเลย ทุกคนจะมารวมตัวกันล้อมวงกินข้าว ผู้ใหญ่ก็คุยกันขโมงโฉงเฉง เด็กๆก็วิ่งเล่นตามประสา อบอุ่นชะมัดเลยเนาะ ขอบคุณที่เขียนเรื่องเล่าปลายสวน แล้วพลอยย้อนไปนึกถึงวัยเด็กของตัวเองมั่งน๊า
24 พฤษภาคม 2554 17:07 น. - comment id 124020
ไม่มีอะไรจะมีความสุขเท่ากับอยู่บ้านเราหรอกค่ะแซม อยู่ตามประสา คนจน บนท้องไร่ ท้องนา หาผัก หาปลา วิถีชีวิต ไม่ต้องดิ้น( รน )เหมือนปลาหาน้ำ ขอบคุณเรื่องเล่าดีๆที่มาแบ่งปันกันจ๊ะแซม ตอนนี้บวมทั้งอัตตาและอัดตน เพราะทุเรียนค่ะ อ้วนมากก ขอบอกแบมนะ
24 พฤษภาคม 2554 20:46 น. - comment id 124024
อ่านเพลินคับ เขียนเก่งมากคับ
24 พฤษภาคม 2554 20:53 น. - comment id 124025
ได้แต่นึกตาม .. ทำไงดีน๊า ถึงจะได้ไปนอนบ้านสวน บ้าง
26 พฤษภาคม 2554 10:11 น. - comment id 124037
สุขมากแล้วแว่วด่ำยินส่ำสัตว์ เสน่ห์บ้านสวนมัดใจสงบ หอมร่องสวนท้องน้ำเช้าย่ำพลบ หากจะหลบพักใจลืมใครชัง ..สงสัยบ้านใกล้เราแน่ๆ อย่าแอบมาปีนทุเรียนเราล่ะ ...
26 พฤษภาคม 2554 10:12 น. - comment id 124038
รายงานตัวครับผม.. ตัวอยู่ทางนี้ ใจอยู่ทางโน้น.. ตับ..ไต..ไส้ อยู่ที่กอไผ่..(ติดหนามไผ่..) พุงเก็บไว้ใกล้ๆ ปาก... ดีจังมีคนถูบ้านแบบแซม...สะดวกและรวดเร็วดีนะคะ...เสียอย่างเดียว พี่กีร์ไม่เคยตกใต้ถุน. ต้องให้ครบนะคะ ถึงจะสนุก...แซมตกมาหมดแหละ หัวสะพานก็เคยตก .. ตอนไปเดินที่ริมๆขอบๆ แล้วเต้น.. มงแซะ..มงแซะ..แซะมง.. ตะลุ่มตุ้มมง... ตกพลั่ก...สะโพกขวา ไปขูดกับไม้.. เนื้อหลุดไปเท่ากับเนื้อแดดเดียวหนึ่งชิ้น.. ยังมีแผลเป็นอยู่เลยค่ะ.... อยากดูรายการ ฉันอยากเป็นชาวนา.. แซมชอบชีวิตบ้านนอก.... กำลังคิดว่า ถ้าอยากกลับมาอยู่เมืองไทย แซมจะทำไรดีนะ.. อยากเป็นเจ้าของฟาร์มเห็ดจังเลย.. จะตั้งชื่อว่า.."ฟาร์มยายฉิม"... ขอบคุณพี่กีร์สำหรับข้อเตือนใจนะคะ.. แซมค่อนข้างใจร้อน..แต่ดีจริงๆ ที่ไม่ลงไปจัดการยายชี..ไม่งั้น ป่านนี้คงนั่งเสียใจอยู่แน่ๆเลย.. บางครั้งก็ทำอะไรเร็วกว่าสติจะเตือน.. แซมเข้มแข็ง..แซมสู้ๆๆๆ..แซมไม่งอแง และจะดูแลตัวเองค่ะ.. เจ้าแซม
26 พฤษภาคม 2554 10:27 น. - comment id 124040
สวัสดีค่ะ โคฯ..... แซมดีใจนะคะ ที่เกิดมาในสิ่งแวดล้อมอันร่มเย็น..ถึงแม้ว่า แซมจะไม่ได้เกิดมาในเมืองใหญ่ ที่มีแสงสีอันวิจิตร แต่แซมก็ไม่ได้รู้สึกว่า ขาดอะไรไปเลย... จนเดี๋ยวนี้ แซมก็ยังชอบชนบทมากกว่าในเมืองค่ะ....อบอุ่นๆ แล้วแซมว่างๆ จะมาเล่าอีกนะคะ.. ขอให้สดชื่นค่ะ.. แซมค่ะ
26 พฤษภาคม 2554 10:33 น. - comment id 124041
แบมจ๋า.... บอกแล้วว่า อย่ากินทุเรียนมาก.. เดี๋ยวร้อนในนะตะเอง.. รีบไปหาหญ้ารางจืดมาเตรียมไว้.. ก่อนนอนก็กินหญ้ารางจืดไปดับพิษที่อัดตนไว้ซะ.... ตื่นมาจะได้ยุบลง... สุขใจมากค่ะ...ที่บ้านสวน แต่จะสุขกายมากๆ ถ้าอากาศจะเย็นกว่านี้ซักหน่อย... เที่ยวหน้า..จะมาหน้าหนาวนะคะ... จุ๊บๆๆๆ แซมค่ะ
26 พฤษภาคม 2554 10:36 น. - comment id 124042
คุณอิม...อยากไปนอนเล่นบ้านสวน.. ต้องติดต่อลูกสาวเจ้าของรีสอร์ท.. หวังว่า ซักวัน เราจะได้ไปนอนในมุ้งประทุนเรียงๆ กันนะคะ.... คิดถึงนะคะ... จุ๊บๆๆๆ แซมค่ะ
26 พฤษภาคม 2554 11:06 น. - comment id 124043
คุณวิทย์...ขอบคุณค่ะ.. ถ้าชอบ เดี๋ยวแซมเล่าไม่หยุดนะคะ.. แซมกลัวจะไม่มีคนอ่าน.. เดี๋ยวจะว่า ชักเริ่มพูดถึงอดีตนี่ สงสัยอยู่นานไปหน่อยแระ.. ขอให้วันนี้เป็นวันดีๆ นะคะ.. แซมค่ะ
26 พฤษภาคม 2554 11:14 น. - comment id 124044
สวัสดีค่ะลุงจุด... สวนของลุงจุดอยู่ไหนล่ะคะ.. ของแซมพอลงสะพานที่ 20 ก็อยู่ทาง ซ้ายมือ..ที่มีต้นไม้มีใบสีเขียวอยู่ตรงหัวถนน.. แซมเห็นสวนข้างๆ มีแต่เบบี้ขนุน.. ไม่เห็นทุเรียนเลยนี่คะ... (แซมเห็นสวนใกล้ๆ กันมีต้นไม้ใหญ่ๆ และมีลูกหนามๆ แบบขนุน แต่ลูกเล็กๆ เท่ากำปั้น มันอยู่สูงๆด้วย.. แซมนึกว่ามันเป็นเบบี้ขนุน...พี่บอกว่า..นั่นมันสาเก ไอ้เฉิ่ม...) แซมค่ะ
26 พฤษภาคม 2554 12:35 น. - comment id 124045
26 พฤษภาคม 2554 21:26 น. - comment id 124055
เกือบพลาดไปแล้วสิ ตลาดแม่กลองของแซมกับตลาดร่มหุบใช่ที่เดียวกันป่าวครับ ถ้ากลับมาอยู่บ้านสวนก็คอยมองดูที่หัวสะพานดีๆเพื่อผมจะล่องเรือ(หารัก)ผ่านไป
26 พฤษภาคม 2554 22:09 น. - comment id 124056
จ๊ะเอ๋..ตะเองมาไงน่ะ ชายกบ.. ใช่แล้วค่ะ ตลาดร่มหุบ มีแห่งเดียวเท่านั้น ช่างกล้าซะจริง..วิ่งๆ หุบๆ กางๆ.. แซมจะนั่งคอยที่หัวสะพาน.. ตรงข้างตลิ่งมีป้ายปักว่า.. "มีคนอกหักพักบ้านนี้" ผ่านมาเมื่อไหร่แซมจะเรียกจอด แล้วบอกว่า... ขึ้นก่อนซิจ๊ะ.. ดื่มกะแช่กลมกล่อมด้วยกันก่อน พักให้หายร้อนแล้วจึงค่อยไป น้ำตาลหอมหวนเพิ่งกวนใหม่ใหม่ คงหวานถูกใจชายพเนจร.... คิดถึงนะคะ แซมนี่เอง
26 พฤษภาคม 2554 22:12 น. - comment id 124057
อ๊ะ ๆๆ ไม่ได้ลืม มินนี่นะคะ... ขอบคุณที่มาทักแซมค่ะ... แล้วแซมจะเล่าอะไรสนุกๆ ให้อ่านอีกนะคะ อย่าลืมตามแซมมาล่ะ... ขอให้วันนี้เป็นวันที่สดชื่นนะคะ.. แซมค่ะ
29 พฤษภาคม 2554 17:16 น. - comment id 124087
กำลังจะถามว่า มะขิ่นกลับบ้านมาครานี้ ได้มีโอกาสวัดผักบุ้งหรือเปล่าหนอ? แต่ก็น่าเสียดายเหลือแต่บัวสาย(และขยะอีกนิดหน่อยให้วัด) อ้อ...เกือบได้วัดวิชาการต่อสู้กับยายชีเชียวนะ แต่อันนี้มะขิ่นผู้สำเร็จวิชาจากเส้าหลินคงต่อสู้ได้สบาย ยังไงก็ยังคิดถึงมะขิ่นอยู่เสมอน๊า... ปล.ใครน๊าไปแอบเยี่ยมเฟ็ซบุ๊คพี่ใบไม้ เอาเฟ็ซบุ๊คของตัวเองมาให้เยี่ยมเสียโดยดี...
29 พฤษภาคม 2554 11:08 น. - comment id 124091
เรื่องเล่าจากปลายสวนชวนให้เคลิ้ม ตั้งแต่เริ่มอ่านเลยทรามเชยจ๋า เป็นเรื่องเล่าทบทวนหวนจินตนา จึงถ่างตาอ่านเล่นไม่เว้นวัน.... แมงปอตัวน้อยๆสีแดงมาแอบกระซิบว่า ........รักแซมเช่นกัน.......
31 พฤษภาคม 2554 14:46 น. - comment id 124125
เรื่องเล่า ไม่ค่อยเคลิ้มนะคะ..พี่ ฯเฒ่า เอาเรื่องเหล้าดีกว่า... เรื่องเหล้าเหล้าปลายสวนม่วนนะจ๊ะ บ้านแซมน่ะดื่มกะแช่..เพราะแม่ขาย พอนมหมดป้อนกะแช่ แม่ตาลาย ทั้งเช้า สาย บ่ายลง ตั้งวงรอ... อู๊ย...แซมล้อเล่น... แซมน่ะ เหล้าไม่สูบ..บุหรี่ไม่ดื่ม.. เอิ๊ก.... พูดกะแมลงปอรู้เรื่องด้วยเหรอ.. แซมค่ะ
31 พฤษภาคม 2554 14:54 น. - comment id 124126
พี่ใบไม้.... แซมไร้กระบี่...ไม่ได้พกไปด้วย ทิ้งไว้ที่สำนักเส้าหลิน..เลยต้องสงบเสงี่ยม.. ผักบุ้งไม่มีค่ะ...เสียดายๆ... จับได้แล้วเหรอ..คนที่ไปถ้ำมองตรงเฟสบุ๊คของพี่ใบไม้น่ะ... จะถูกทำโทษรึเปล่านะ... เค้ารู้ความลับของตะเองหมดเรย... จะจ่ายค่าปิดปากไม๊เนี่ยะ.... แซมไม่มีอะไรในเฟสบุ๊คหรอกค่ะ... ดูเฟส แซมดีกว่า... เดี๋ยวไปแอบดูอีกดีกว่า.. มะขิ่น