อทิสมานกาย ๘๘

แก้วประเสริฐ

1303963536poonkul.gif
                 อทิสมานกาย ๘๘
   หลังจากที่หนุ่มโชติและแม่นางเทพอัปสรรัตนาวดีเดินทางเข้าไปใน
กรุงเทพฯนั้น    ทางด้านเจ้าเปล่งก็ได้รับการช่วยเหลือจากแสงสี
สินชัย
พ่วงและเริ่มตลอดจนเหล่าหุ่นเหล่าผีสางนางไม้ทั้งหลายที่อาศัยอยู่ใน
บริเวณป่าแถบนั้นทราบจนเข้าใจ  เมื่อทุกอย่างรู้แล้วพวกทั้งหลาย
ก็รีบจัดการสร้างค่ายกลในลักษณะแตกต่างกัน 
โดยแบ่งหน้าที่กันทำกัน
จนเสร็จเรียบร้อยตลอดจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ
มาเสริมแต่งตามคำบอกเล่า
ครั้นเจ้าเปล่งได้ไปตรวจสอบค่ายกลต่างๆ
ซึ่งวางไว้หลายๆค่ายแต่ละค่าย
นั้นแตกต่างกันออกไป   ครั้นเจ้าเปล่งเห็น
ต่างก็นำพวกที่สร้างนั้นมาทำการ
ทดลองเพราะว่าแต่ละพวกล้วนสร้างไม่เหมือนกัน
 ฝ่ายใดที่ไม่ได้สร้างก็ถูก
ทำการทดลองทันที  สร้างความวุ่นวายร้องเสียงดัง
โหยหวนเล็ดรอดออกมา
เจ้าเปล่ง พ่วง และเจ้าเริ่มและหัวหน้ารองลงมา
ต่างแลเห็นความวุ่นวายทั้งสิ้น
ไม่สามารถหาทางออกมาได้  เจ้าเปล่งบัดนี้พวกมันเรียกกันว่า
อาจารย์จึงใช้ให้
เข้าไปนำพวกมันออกมาสับเปลี่ยนกันไปจนทั่วทุกๆค่ายกล
  ทำให้เหล่าหุ่นพยนต์
และเหล่าภูติผีปีศาจนางไม้ต่างแตกตื่นตกใจ 
 แต่ก็ไม่อาจจะขัดขืนคำสั่งได้ต่างเข้า
ไปทดลองกันถ้วนทั่วทุกๆฝ่าย ผลไม่สามารถออกจากค่ายกลได้
จึงต้องให้คนไป
นำออกมาจากค่ายทั้งหมด  และเมื่อผ่านการทดสอบจนแน่แก่ใจ
      ดังนั้นเจ้าเปล่งก็เรียกพวกทั้งหมดมาอธิบายสิ่งต่างๆ
ภายในแต่ละค่ายกล
ให้ทั้งหมดทราบหนทางเข้าออก ประตูล่อลวง
และหากไปติดให้ถือปฏิบัติกันตลอด
หนทางเข้าออกต่างๆจนพวกเหล่านี้ชำนาญแล้ว    
หากจะมองเพียงผิวเผินก็จะไม่รู้ว่าเป็น
ค่ายกลจะแลเห็นเป็นแค่ป่าธรรมดาทั่วๆไป 
 แต่จะพบก็เพียงทางที่จะเข้าสู่ค่ายกลเท่านั้น
ซึ่งแตกต่างกันออกไป   มันจึงฝึกให้พวกเหล่านี้
ต่างทดลองทุกๆตัวนายทั้งหญิงและชาย
ด้วยเพียงตัวเดียวไม่มีเพื่อนเข้าไป 
 ทุกๆคนก็สามารถหาหนทานเข้าออกได้อย่างชำนาญ
เพื่อไม่ให้เสียเวลา  ทุกค่ำคืนมันจะเรียกบรรดา
เหล่าหุ่นพยนต์และประชุมกันพร้อมทั้ง
เจ้าเปล่งก็ไม่ปล่อยให้เสียเวลาไป สั่งสอนการเจริญธรรม
กัมฐานและวิชาการต่างๆอย่าง
คร่ำเคร่งตามแนวทางค่ายกลและวิชาที่ได้ร่ำเรียน
จากชายหนุ่มนายมันอย่างไม่ปิดบังจน
ทุกๆคนเกิดความเคารพนับถือมันเป็นอย่างมาก 
ต่างเรียกหามันว่าอาจารย์  แต่มันบอกว่า
อาจารย์ที่แท้จริงคือนายมันแล้วบอกชื่อตลอดจน
แม่นางอัปสรทั้งสองให้ทราบด้วย   ว่า
หากวันใดพบก็ให้ทำความเคารพนับถือเชื่อฟังเขา
อย่าขัดขืนเป็นอันขาด ด้วยวิชาการนี้
เขาจะเรียกคืนเมื่อใดก็ได้  ทุกๆคนน้อมรับคำสั่งเจ้าเปล่ง
อย่างพร้อมเพียงกัน
     ส่วนด้านเรื่องอาหารการกินนั้นก็ไม่ต้องห่วงใย 
ด้วย เจ้าพ่วงเจ้าเริ่มคอยปรนนิบัติ
รวมทั้งบรรดาศิษย์มันทั้งหลายอีกด้วย    พร้อมทั้งได้รับการอบรม
วิชาการต่างๆที่มันได้
รับรู้มาอบรมเรื่องศีลธรรมเพื่อเป็นหนทางสร้างความดี
เมื่อพ้นจากสภาพต่อสิ่งเหล่านี้ก็
จะได้ไปสู่ภพที่ดีๆต่อไป ตามแนวการสอน
ของอาจารย์มันคือชายหนุ่มตลอดเวลาไม่เคย
ขาดสักวันเดียวพร้อมทั้งทดสอบวิชาการต่างๆอีกด้วย
จนเห็นว่าต่างเข้าใจดีเอาตัวรอดได้
ดังนั้นมันจึงวางตัว   คงปล่อยให้พวกเหล่านี้ต่างฝึกฝนกันเอาเอง
มิให้พวกมันเกียจคร้าน
ต่อสิ่งที่มันอุตส่าห์สร้างไว้ในกาลข้างหน้า  ที่มันคาดการณ์ไว้
ยิ่งได้ศึกษาวิชา
โหราศาสตร์จากอาจารย์มันอีกด้วย ยิ่งเพิ่มทักษะเกิดขึ้น
แก่เจ้าเปล่งมากมายนัก
    ด้านเจ้าแสงสีสินชัยก็กลับไปอยู่กับแม่นางอ้อยวิลาวัลย์
และคอยช่วยเหลือ
งานด้านพ่อเชียรแม่เย็นเจ้าชัยและแม่บงกชเฝ้าดูแลบ้าน
ช่วยเหลือแม่นางชบา
ในการทำงานบ้านไปอีกทางหนึ่งด้วย  การเลี้ยงสัตว์
เช่นหมูนั้นต่างเลิกเลี้ยงกัน
ไปคงมีแต่จำพวกอาหารพืชผักต่างๆเป็นหลัก 
 หากต้องการซื้อมันทั้งสองก็ต้อง
ออกเดินทางเข้าเมืองไปซื้อมากักตุนไว้ในบางครั้งเท่านั้น
        เวลาผ่านไปนานจนกระทั่งวันหนึ่ง   
ในเวลาค่อนข้างสายๆแล้ว  ทางด้าน
พรรคพวกของเจ้าเปล่งเดินทางมาหา  ด้วยไม่เคยพบปะกับ
เจ้าเปล่งอีกเลย
เป็นเวลานานก็คิดถึง  ครั้นเดินทางมาถึงบ้านตามคำแนะนำ
ของลูกพี่มันแล้ว
เมื่อมาถึงยังบริเวณหน้าบ้านพ่อเชียร เจ้าตี๋ใหญ่
ก็ตะโกนเรียกหาเจ้าเปล่งทันที
   “ไอ้เปล่งโว้ย ไอ้ห่าเอ๋ย!!!!....ไม่ยอมไปคบหา
สมาคมหายเงียบไปเลยนะมึง
พวกกูคิดถึงจึงพากันมาเยี่ยมมึงโว้ย”
ทุกๆคนก็แปลกใจปกติไอ้เปล่งมันจะหูไว
เมื่อได้ยินเรียกครั้งเดียวก็จะรีบออกมาแต่
นี่มันตะโกนเรียกหลายๆต่อหลายครั้ง  
เสียงเจ้าเปล่งก็เงียบไม่ตอบออกมาเลยจนกระทั่ง
   “นายเปล่งไม่อยู่หรอกที่นี่หรอกนะ 
 ไม่ต้องตะโกนหรอกจะเข้ามาก็เข้ามาได้เลย”
เสียงตอบออกมาจากภายในบ้านดังขึ้นเป็นเสียงผู้ชาย
   “เข้ามาในบ้านก่อนซิ  แล้วค่อยคุยกัน”
   “อ้าวๆๆๆ...แล้วมันไปอยู่ที่ไหนหรือ  
ก็นายบอกว่ามาอยู่กับเขานี่นา????”
คราวนี้เจ้าวาสเอ่ยถามต่อด้วยความสงสัย   
พร้อมทั้งหมดก็เปิดประตูเข้ามา
ภายในบ้าน  ก็เห็นเจ้าแสงสีนั่งอยู่ใต้ถุนบ้านบนแคร่ 
 ดังนั้นทั้งหมดจึงเดินมา
หา พลางยกมือไหว้ทันที  ด้วยมันจำได้ว่าเป็นใคร
เพราะครั้งหนึ่งเคยเห็นว่า
นายมันได้เรียกพวกมันทั้งหมดมาทำการอบรมวิธีการต่างๆ
ให้ทราบพร้อมยัง
แนะนำการต่อสู้ต่างๆให้อีกด้วยทั้งหมดจึงยกมือไหว้  
เจ้าแสงสียกมือรับไหว้แล้วก็เรียกให้มันนั่งบนแคร่รวมด้วยกัน
   บรรดาพวกทั้งห้าก็หาที่นั่งกัน ซึ่งมี เจ้าตี๋เล็ก ตี๋ใหญ่ 
ชื่น วาส และกุ๋นเมื่อ
ทุกๆคนหาที่นั่งเรียบร้อยแล้ว   เจ้าแสงสีก็เอ่ยว่า
   “เปล่งเขาเข้าไปปลูกบ้านที่ป่าหน้าบ้าน
นั่นแหละอยู่ติดกับริมเขาภายในถ่ำมีธุระ
อะไรสำคัญถึงนายบ้างหรือเปล่าล่ะ???...”
   “ไม่มีหรอกครับพี่ ด้วยพวกข้าคิดถึงด้วยพวกเรา
ไม่เคยขาดการติดต่อเลยไม่รู้
ว่ามันจะเป็นอย่างไรกันบ้างจ๊ะ”
เจ้าชื่นเอ่ยขึ้น พร้อมหันไปทางเจ้าตี๋เล็ก วาสและกุ๋น
ซึ่งทุกๆคนก็เอ่ยขึ้นทำนอง
เดียวกัน
   “เปล่งเขาไปศึกษาวิชาจากนายเพิ่มเติม 
ด้วยเห็นที่นั่นเหมาะสมเงียบสงัดดีนะ
นึกว่าจะมีเรื่องงานมารายงานเสียอีก 
 ด้วยนายก็เคยบอกให้รู้ไว้ด้วยนะ”
เจ้าแสงสีเอ่ย  พลางเหลือบไปเห็นแม่นางชบา
กำลังยกโถและแก้วน้ำเดินลงบันได
มา  พลางรินน้ำใส่แก้วส่งให้แก่ทุกๆคน
   ครั้นบรรดาพระกาฬทั้งห้าเห็นก็ต่างตกตะลึงกันไปตามๆกัน 
 พลางต่างนึกใจใจว่า
โอโฮ!!!!....ช่างสวยอะไรเช่นนี้  ว่าแม่ดานั้นสวยแล้ว
ยังไม่อาจเทียบแม่นางคนนี้ได้
เลย  ต่างคนอ้าปากค้างไปตามๆกัน   เจ้ากุ๋นก็หันหน้า
ไปถามแสงสีทันที
   “พี่ๆๆๆ....น้องสาวคนนี้ใครหรือ???....”
   “อ๋อๆๆๆ....น้องสาวนายแหละต่อไปนั้น
คงจะต้องเป็นนายพวกเราอีกด้วยล่ะ???...”
   “น้องสาวนายหรือพี่????....อ้าวๆๆ???...
พวกข้ารู้ว่านายเป็นลูกชายคนเดียวนะพี่”
   “อ้อพ่อเชียรแม่เย็นท่านเอามาเลี้ยงไว้เป็นลูก 
ทั้งเจ้าชัยพวกเอ็งก็รู้จักซินะตอนมางาน
แต่งงานนะเอ็งไม่สงสัยอะไรอีกหรือว๊ะ???...”
   “สงสัยนะสงสัยหรอกพี่แต่ไม่กล้าถามเท่านั้นเอง
แหละ”
ทั้งหมดขานตอบเกือบพร้อมๆกัน  ไม่เพียงเท่านั้น
ต่างมองหน้ากันไปๆมาๆและแล้ว
    ทั้งหมดต่างอุทานกันลั่นไปหมดนึกในใจว่า 
 เห็นจะมีหวังบ้าง ด้วยพวกมันต่างเป็น
โสดกันทั้งนั้น แต่ก็ต้องสะอึกว่าต่อไปต้องมาเป็นนายมัน
ก็พากันงงงวยสงสัยในใจขึ้น
   “อ้าวพี่???....แล้วจะมาเป็นนายพวกผมได้อย่างไรกันล่ะ 
งานมันคนล่ะอย่างกันนี่นา”
   “เฮ่อะๆๆๆๆ....อีกหน่อยพวกมึงก็รู้หรอกว๊ะ...  
แต่อย่าพึ่งรู้เลยว๊ะ
พวกมึงจะมาเยี่ยมเปล่งมันก็ไปหาเพียงเดินไปทางตรงข้าม
ทางหน้าบ้านเข้าไป
ก็จะพบมันแหละมันปลูกกระท่อมไว้ด้านหน้าของถ่ำติดกับเขา
มีบ้านเดียวเท่านั้นเองแหละ”
   ทั้งหมดครั้นทราบด้วยเห็นว่าหากช้าไปจะมืดเสียก่อน 
 ต่างพากันรีบยกน้ำขึ้นดื่มแล้ว
ก็เอ่ยขึ้นว่า
   “ถ้าอย่างนั้นพวกข้าก็ไม่รบกวนพี่หรอกจะรีบไปหามัน 
คุยกันสักหน่อย
นี่รีบมาแต่เช้าขออนุญาตพี่ชวนมา  ด้วยเขาไม่ว่างกำลัง
ช่วยเด็กสั่งงานอยู่ในไร่
นั่นแหละจ้า”
   เจ้าชื่นเอ่ยขึ้นให้แสงสีฟัง    แล้วทั้งหมดก็ยกมือขึ้นไหว้เพื่อลา 
แต่สายตาพวกมันก็เหลือบไปมองแม่นางชบา
ที่กำลังก้าวขึ้นบันไดบ้าน
  ทั้งหมดนึกในใจเสียดายว๊ะนี่เป็นน้องสาวนายนะ  
หากเป็นคนอื่นเห็นที
จะต้องมาบ้านนี้ทุกๆวันแหละ แล้วพวกมันก็ลุกขึ้นจากแคร่
และเก้าอี้นั่ง
แล้วต่างก็ ทะยอยพากันออกจากบ้านไปเพื่อจะไปหาเจ้าเปล่ง  
  ครั้นเมื่อทั้งหมดออกไปแล้วเจ้าแสงสีก็พลันนึกขึ้นได้ ก็ยกมือตบอก
ลืมบอกพวกมันว่าหากเข้าไปคงจะต้องไปหลงในค่ายกลแน่ๆ  
ครั้นจะตะโกนเรียกก็ไม่ทันเสียแล้วด้วยทั้งหมดต่างก็เดินหายไปใน
ป่าหน้าบ้านหมด   จึงคิดจะออกติดตามไปเพื่อบอกแก่พวกมัน
รีบลุกจากแคร่
หมายจะไปบอกพวกเพื่อนเจ้าเปล่งก็พอดีเสียงสินชัยเรียกดังขึ้น
   “พี่แสงสีๆๆ....แม่นางอ้อยท่านให้มาเรียกพี่ไปพบด้วยพี่
  รีบๆหน่อยนะ”
   “เออๆๆๆ....จะรีบไปพบเดี๋ยวนี้แหละมันลืมที่จะไป
บอกพวกเจ้าเปล่ง
ต้องรีบขึ้นไปพบแม่นางอ้อยวิลาวัลย์ทันที
     บรรดาพรรคพวกเพื่อนเจ้าเปล่งต่างก็วิพากวิจารณ์
ถึงเรื่องแม่สาวชบาในขณะที่เดินไป
ตามทางเล็กๆภายในป่าเพื่อมองหาบ้านเจ้าเปล่งแต่ก็ไม่แลเห็น
เป็นทางคดเคี้ยวไปๆมาๆ
   “นี่นะหากไม่ใช่น้องนายล่ะเฮ้ยๆๆ...
ไอ้ตี๋ใหญ่กูสงสัยจะมีเมียก็คราวนี้แหละผู้หญิงอะไร
สวยฉิบหายเลยว๊ะ  กูว่าแม่ดาว่าเป็นคนงามแล้วเชียวนะ
ยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งน้องนายเลยว๊ะ”
   “อืมม!!!!....จริงของมึงไอ้ชื่นโว้ย  
แต่นั่นน้องนายเรานะโว้ยถึงอย่างไรก็อย่าเสือกถึง
แม้ว่าจะไม่น้องคนในบ้านห้ามเด็ดขาดนะ  
ไอ้ห่านี่หาเรื่องใส่ตัวเสียแล้วซิ”
  “จริงของไอ้ตี๋ใหญ่มันพูดโว้ย  ไอ้วาส ไอ้กุ๋น 
รวมทั้งมึงด้วยไอ้ชื่น อย่าเสือกเก็บมาคิดว๊ะ
ด้วยเป็นคนในบ้านนายเราโว้ย  แล้วมึงก็รู้ว่านายเรา
เป็นคนอย่างไรกันใหญ่ขนาดไหน”
   ไอ้ตี๋เล็กเตือนสติพวกมัน  ทำให้ทุกๆคนต่างเงียบเสียงวิจารณ์ทันที
  ช่วยกันหาทางเดิน
ภายในป่าไปเพื่อพบเจ้า เปล่ง    พวกมันเดินวนเวียนไปๆมาๆ
ก็ไม่เห็นเงาบ้าน
แม้แต่น้อยครั้นมันเดินไปอีก  ก็ได้ยินเสียงร้อยวี๊ดว้ายๆดังขึ้นมา
ทำให้พวกมันชะงัก
เสียงทันที  ด้วยทุกๆคนได้ยินเสียงนั้นเป็นเสียงของ
หญิงสาวหลายๆคน
  เอ๊ะ!!!...ๆๆๆพวกนางทำอะไรกันอยู่จึงต่างส่งเสียงร้องวี๊ดว้ายกัน
ไปดังแซ๊ดเช่นนี้  
        ต่างก็ชะงักรีบค่อยแยกกันเข้าสู่พุ่มไม้ข้างทางทันที
 ค้นหาทางแห่งเสียงนั้น
 พวกมันย่อตัวแล้วค่อยๆย่อง แต่ทั้งหมดก็อยู่ในระยะสายตา
พอมองเห็นกันได้ 
 ครั้นแล้วทั้งหมดต่างก็ต้องตะลึง  ต่างร้องอุทานออกมา
ภาพที่พวกมันเห็นนั้น 
 เป็นสระน้ำใหญ่น้ำใสมองเห็นพวกปลากำลังว่าย 
 ภายในสระล้วนมีบัวสีต่างๆแต่แปลกด้วยเป็นบัว
ที่มันไม่เคยเห็นกันมาก่อนเลย
ภายในสระน้ำแลเห็นบรรดาสาวๆกำลังแก้ผ้าต่างว่ายน้ำไปๆมาๆบ้าง 
บ้างวิดน้ำสาดใส่กันบ้าง
แต่บรรดาสาวๆนั้นช่างสวยจริงๆมันทั้งหมดล้วนเห็นกันหมด
เหมือนกันทั้งสิ้น
     ดวงตามันเบิกโพลงและคิดว่าพี่เขาทำไมไม่บอกว่ามีสิ่งดีๆเช่นนี้ 
 นี่นะซิไอ้ห่าเปล่งถึงไม่ยอมไปพบพวกมันเอาเสียเลย
แอบหาความสุขคนเดียว 
 เดี๋ยวเจอกันต้องเตะมันสักหน่อย ไอ้นี่ต่อหน้าพวกกู
ทำเป็นคนเงียบไม่พูดไม่จา
  ที่แท้แอบมีอะไรดีๆซ่อนไว้เสียคนเดียวและไม่ยอม
ไปพบไปหาพวกกู   แล้วพวกมันต่างก็สะดุ้งเฮือก
เมื่อได้ยินเสียงพวกสาวๆ
หลายๆคนต่างหันหน้ามาทางพวกมัน พลางส่งเสียงร้องเรียก
พร้อมกับกวักมือเรียกไหวๆ
   “พวกพี่ๆจะแอบดูพวกฉันทำไมล่ะจ๊ะ 
 ลงมาอาบน้ำด้วยกันซิจ๊ะพี่จ๋าาาาา”
ทำเอาทั้งหมดตลึงลืมตัวไปว่าสาวๆมันรู้ได้อย่างไรว่า
พวกมันแอบสุ่มดูอยู่  
แต่ความงามของบรรดาพวกหล่อนนั้นต่างก็พากันออกจากที่ซ่อน 
 เดินไปหาด้วยความงวยงง ครั้นถึงริมสระ
    บรรดาสาวๆที่เปลือยผ้าอยู่ก็หาเกิดความเอียงอายแต่ใดๆไม่ 
 
ต่างว่ายมาริมขอบสระ บรรดาพวกเจ้าเปล่งทั้งหมดครั้นแลเห็น
ต่างตลึงในความงามปทุมถันก็ตั้งเต้า 
ยวนเย้าเต่งตึงไปทุกๆนางล้วนแล้ว
เปล่งขาวทรวดทรงเอวก็รับกับรูปร่างอย่างหาที่ติไม่ได้ 
 ก็ได้ยินเสียงย้ำเตือนอีกว่า
   “พวกพี่ๆลงมาอาบน้ำด้วยกันซิจ๊ะพี่ๆๆๆ”
      ครั้นได้ยินชักชวนอีกเช่นนั้นต่างมิรีรอรีบเปลื้องผ้ามัน
แล้วกระโจนลงสระทันที    ยกเว้นเจ้าตี๋เล็กคนเดียว
ที่ไม่ยอมลงไปด้วย 
 จนสาวๆหันมากวักมือเรียกอีก 
แต่เจ้าตี๋เล็กสั่นหน้าบอกว่า
   “ไม่หรอกจ้าน้องสาว  พี่ไม่ค่อยจะสบาย
ครั่นเนื้อครั่นตัวชอบกลจ๊ะ”
  ทั้งๆที่มันไม่เป็นอะไรแต่ใจมันสังหรณ์ใจชอบกลอย่างไรบอก
ไม่ถูก  ด้วยสิ่งที่เห็นนั้นผิดปกติด้วยบรรดาดอกไม้ต่างๆไม่เคยมีใน
บริเวรณแถบนี้เลย  ดังนั้นทำให้มันลังเลไม่ไว้วางใจนัก
จึงไม่คิดเหมือนพวกมันที่ต่างลงไปเล่นน้ำกับบรรดาสาวๆ
อย่างสนุกสนาน มันได้แต่มองดู  พลางหาที่นั่งบนขอนไม้ใกล้ๆ  
   เมื่อมองไปสักพักใหญ่ๆมันต้องรีบขยี้นัยน์ตามันทันที  
ด้วยสิ่งที่เห็นนั้นหายไปหมดเห็น
     บรรดาพรรคพวกมันต่างเปลื้องผ้าล่อนจ้อน
กำลังว่ายอยู่กับบนพื้นดิน
ที่เปื้อนฝุ่นขาวๆฝุ่นสีแดงๆไปกันหมด  แต่เมื่อขยี้ตาอีกครั้ง
ก็แลเห็นเป็น
สระน้ำเหมือนเดิม พอมันหันไปดูที่อื่นสิ่งต่างๆ
เปลี่ยนไปหมดไม่เหมือน
กับที่มันเข้ามาเลย  ป่าทั้งป่าหายไปเพียงมีบางต้นเท่านั้น 
นอกนั้นเป็นภูเขา
ภูผาต่างซ้อนๆกัน ครั้นหันกลับไปมองพวกก็เห็นเหมือนเดิม
คือว่ายบกอยู่
แต่พอหันไปอีกหันมาก็เห็นเป็นสระน้ำเหมือนเดิม  
มันตกใจอย่างสุดขีด
ถึงกับปากอ้าตาค้าง   รีบร้องโวยวายตะโกนบอกพรรคพวกมันทันที 
  แต่บรรดาพวกมันกับหันหน้ามายิ้มกับมัน 
แล้วต่างว่ายบนพื้นดินไปๆมาๆ
 พร้อมส่งเสียงร้องเฮฮาสนุกสนากัน
   “ไอ้ตี๋เล็กโว้ย  ทำไมมึงไม่ลงมาเล่นน้ำล่ะว๊ะสนุกๆว๊ะ 
สาวๆสวยๆทั้งนั้น
โอ้ยๆๆๆกูบอกไม่ถูกว๊ะ  ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยสนุก
และเล่นกันสนุกสนาน
กับสาวๆเช่นนี้เลยล่ะ  มาๆมึงรีบลงมาเถอะว๊ะ สนุกจริงๆนะโว้ยเพื่อน
ล้วนแล้วแต่อวบอัดน่าฟัดทั้งสิ้นทุกๆนางเลยเชียวว๊ะไอ้ตี๋เล็ก”
   “จริงๆนะโว้ยเดี๋ยวจะหาว่ากูไม่เตือนมึง โอ้ยๆๆนมมันนุ่มนวล
จังใหญ่ขาวจั๊วว๊ะเนื้อออกสีชมพูน้อยๆสวยละมุนมือจริงๆว๊ะ”
เสียงไอ้กุ๋นร้องเรียกอีกเพื่อให้ไอ้ตี๋เล็กมาร่วมสนุกกับมัน 
เสียงที่ไอ้ตี๋เล็ก
ตะโกนบอกเตือนมันต่างไม่ได้ยินทั้งสิ้น ไอ้ตี๋เล็กว่า
พวกมันกำลังทำอะไร
กันอยู่หามีสระน้ำสาวๆใดๆไม่หรอก  แต่พวกมันไม่ยอม
ฟังคำเตือนกลับพูดว่า
   “ใช่แล้วโว้ยนางคนนี้มึงเอ๋ยนุ่มนวลอย่างบอกใครเชียว
 
รับรองว่าชีวิตนี้มึงไม่เคยพบหรอกกูว่า
แม่ดาแฟนพี่ชวนว่าเป็นสาวสวยแล้วยังเทียบไม่ได้เลยว๊ะ”
   เสียงไอ้วาส ไอ้ชื่น และไอ้ตี๋ใหญ่ต่างเอ่ยสรรพคุณต่างๆนาๆ  
 ไอ้ตี๋เล็กตาแทบถลนปากแทบฉีกขาดเสียให้ได้  
แตมันก็ยังเป็นห่วงอด
     ตะโกนบอกว่าพวกมึงไม่ได้แก้ผ้าเล่นน้ำโว้ยมึงกำลังเล่นกลับฝุ่น
บนทางดินโว้ย  แต่แล้วเสียงมันคล้ายๆกับหายไป
ในสายลมที่พัดเอื่อยๆ
ปนร้อนๆ ทำให้เกิดอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเดี๋ยว
ก็ร้อนเป็นบ้าเดี่ยวก็เย็นจับจิต
แต่เสียงของมันก็หาได้สร้างความหวั่นไหวแก่พวกมันได้  
พากันหัวร่อต่อกระซิกกันหยอกเย้าเหมือนว่าพบของจริงๆ
โดยไม่รู้ตัวนอกจาก
มันคนเดียวเท่านั้นเอง     มันต่างหันซ้ายหันขวา
หาคนช่วยครั้นเหลือบกลับ
ก็แลเห็นภาพดังเดิมคือเป็นสระและสาวสวยต่างร้องเรียกมัน
 มีนางหนึ่งเดินขึ้นมาตรงจะเข้ามาหามัน  
ไอ้ตี๋เล็กเห็นเช่นนั้นก็รีบถอยหลัง
ออกวิ่งหนีทันที  ทันใดนั้นก็เห็นร่างหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่
แถวโคนต้นไม้
รีบถลันออกมาช่วยมันทันที  หล่อนแต่งกายสวยแบบโบราณ
มีสไบเฉียง
ห่มผ้าสีเขียวอ่อน  บอกให้มันมาซ่อนตัวที่นี่  
ดังนั้นไอ้ตี๋เล็กจึงวิ่งไปแอบที่
โคนต้นไม้ใหญ่แต่มันไม่รู้ว่าเป็นต้นไม้อะไร
 จะว่าต้นไทร ต้นตะเคียนก็ไม่ใช่ 
 แล้วร่างหล่อนก็ออกไปรับหน้าสาวคนนั้นแทน 
ซึ่งกำลังวิ่งมาหาเจ้าตี๋เล็ก
แต่หล่อนก็ไม่วายหันหน้ามาสั่งเจ้าตี๋เล็กด้วย
  เกรงว่าเจ้าตี๋เล็กจะออกไป
   “พี่ๆๆมาแอบที่โคนไม้นี้นะ 
 ฉันจะไปรับหน้าแทนเองจ๊ะ”
   “พี่นางๆๆจะเอาเองหรือไงจ๊ะ 
 ถึงได้ออกรับหน้าแทนเช่นนี้”
   “เปล่าหรอกน้อง  พี่พ่วงมาแจ้งว่าล้อเล่น
พอได้แล้วล่ะด้วยเป็นเพื่อนๆๆ
ของอาจารย์เปล่งเขานะ”
   “เหร๋อๆๆ???....พี่????...ดีนะพวกข้า
กำลังคิดจะทำให้พวกเขาตกใจ
กลับกลายร่างหลอกเสียให้เข็ด   จึงรีบออกมาหวังว่าเพียง
เพื่อจะให้เพื่อนอาจารย์คนนี้ไปร่วมสังฆกรรมอีกคนจ้า  โอ้ยๆๆตายแล้ว
 งั้นข้ารีบไปก่อนนะจะได้ไปบอกพวกเราไว้
อย่าทำให้พวกเขาตกใจจ๊ะ”
    “เร็วๆเข้าน้องเดี๋ยวไม่ทันการณ์นะ”
   “จ๊ะพี่ไปเดี๋ยวนี้แหละ”
     กล่าวเสร็จร่างนางก็หันกายกลับเพราะไม่
อาจจะหายตัวเกรงว่าเพื่อน
ของอาจารย์จะตกใจ  
ครั้นนางหายไปแล้ว นางก็หันหลังกลับไปนั่งตรงข้ามตี๋เล็กถามว่า
   “ทำไมไม่ลงไปเล่นน้ำกับเขาด้วยล่ะจ๊ะ”
   “ไม่หรอกจ้า ด้วยสังหรณ์ใจอย่างไรไม่ถูก
 จึงปฏิเสธไปจ้า”
   “ดีแล้วจ้า ถ้าอย่างนั้นก็นั่งคอยเพื่อนก่อนนะจ๊ะ 
 ฉันเองจะไปทำธุระ
ทางโน้นก่อนนะ”
   “ตามสบายเถอะจ้า  ฉันจะคอยเพื่อนอยู่แถวนี้
แหละ”
   “เดี๋ยวเขาก็จะมีคนพามาหาแหละจ้า ไปก่อนนะ”
    กล่าวแล้วนางก็เดินหายไปทางพุ่มไม้หลังโคนต้นไม้ใหญ่  
นั่งเอนหลังพิง
ต้นไม้คอยการมาของเพื่อนๆมัน
    ที่บริเวณสระนั้น หญิงสาวก็รีบลงมาแอบแจ้งแก่เพื่อนๆ
หล่อนทันที ดังนั้น
ไม่ช้าพวกหล่อนก็หันไปยิ้มกับบรรดาชายหนุ่ม 
พร้อมโบกมือลาแล้วหายตัว
ไปทันที   เล่นเอาบรรดา ตี๋ใหญ่ ชื่น วาส และกุ๋น 
ต่างตกใจตลึงพรึงเพริศไป
ด้วยกันทั้งสิ้น  ต่างหันมามองหน้ากัน
เหมือนแลเห็นสาวๆทั้งหมดหายวับไป
มันทั้งหมดรีบมองไปในบริเวณสระ 
 บัดนี้ไม่มีสระมีแต่ถนนลูกรังที่เต็มไป
ด้วยฝุ่นแดงขาวทั้งสิ้น   พวกมันต่างตกใจ
ที่ต่างแก้ผ้ากันหมดทุกๆคนมา
ว่ายเล่นฝุ่นอยู่ผมบนหัวต่างเปื้อนฝุ่นลูกรังสีแดงไปสิ้น
 เนื้อตัวมอมแมม
   “อะไรกันโว้ย!!!!!?????.... เอ้ยๆๆๆพวกเรา
เป็นอะไรไปว๊ะ????.......”
ทุกๆคนยืนขึ้นมองหน้ากันตาเหลิกหลั่กๆไปตามกัน
พากันหัวร่อที่ต่างแลเห็น
ของลับแต่ละคนต่างลืมกลัวไปหมด  แล้วพากันชี้ชวน
ให้ดูกันและกัน ครั้น 
พอนึกขึ้นได้ต่างรีบกุมมือของลับไว้แล้ววิ่งไป
ที่มันถอดทิ้งไว้  มันมองไม่
เห็นต่างพากัน ช่วยกันค้นจนพบ แล้วรีบคว้าแยกย้ายกันนำ
เสื้อผ้ารีบนุ่งกันอย่างรีบเร่ง   แล้วหันซ้ายแลขวา
หาไอ้ตี๋เล็กกันแต่ไม่เห็น
เนื้อตัวมันต่างมอมแมมกันไปหน้าตามันเปื้อนด้วยฝุ่นแดงกันทุกๆคน
ผมเผ้าต่างกระเซิงกันไปๆมาๆทุกๆคน
  มันต่างรีบมารวมตัวกันเพื่อจะค้นหา
เจ้าตี๋เล็กซึ่งหายไป  จะได้รีบออกจากที่นี้ด้วยกัน
ถึงอย่างไรมันก็ไม่ยอมทิ้งกัน
   ทันใดมันก็เห็นหญิงสาวนุ่งผ้าห่มสไบเฉียงสีเขียวอ่อน
เดินเข้ามา แล้วร้อง
บอกว่า
   “เพื่อนพวกคุณนั่งรออยุ่ที่โคนต้นไม้  
ตามฉันมาจะพาไปพบเขานะ”
กล่าวแล้วหญิงสาวนางนั้น  ก็หันหลังกลับเดินไป
 บรรดาชายหนุ่มต่างรีบเร่ง
เดินตามไปทันใด  ครั้นเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาสักพัก
ก็เห็นไอ้ตี๋เล็กกำลังเอนกายพิง
กับโคนไม้ใหญ่   หล่อนก็ชี้มือให้พวกนั้นดูแล้ว
ก็รีบออกเดินลับหายไปทาง
พุ่มไม้ข้างทางทันที
    ไอ้ตี๋เล็กเมื่อแลเห็นก็อ้าปากหัวร่อลั่น
เมื่อแลเห็นบรรดาพรรคพวกรูปร่าง
หน้าตาต่างมอมแมมไปทุกๆคน  
ไม่เปล่าต่างชี้มือไปพลางหัวร่อไปพลาง
ด้วยเพื่อนมันบางคนสวมเสื้อกลับกันบ้าง
ล้วนแล้วแต่สกปรกทั้งสิ้นพลาง
เอ่ยว่า
   “เฮ้ยๆๆๆเป็นอย่างไรว๊ะอาบน้ำสบายดีหรือว๊ะ 
 ไหงเป็นลูกหมาคลุกฝุ่น
ไปเสียล่ะ???ฮ่าๆๆๆๆ!!!.....”
   “ไอ้เหี้..ย...เสือกหัวร่อทำหาตีนหรือไงว๊ะ
  เดี๋ยวพวกกูจะเตะมึงหรอก 
 ทำไมมึงไม่บอกกูว่าอะไรมันเป็นอะไรว๊ะ”
   “กูก็ร้องบอกมึงทั้งหมดแหละ แต่พวกมึงไม่ยอมฟังกู
 ครั้นกูเห็นมึงกำลัง
ว่ายเล่นฝุ่นก็บอกแล้ว แต่ไม่มีสาวๆที่ไหนเลย 
กูก็เลยวิ่งหลบมาพบแม่นาง
ดีนะที่มันเดินมาจะเรียกกูไปเล่นด้วย แต่แม่นางเขาห้ามไว้
กูถึงได้รู้เรื่องว๊ะ”
   ทั้งหมดมองหน้ากันด้วยรู้นิสัยใจคอพวกมันดีว่า แต่ก็อดถามไม่ได้
  “แล้วแรกๆมึงทำไมไม่ลงไปกับพวกกูล่ะ
โว้ย!!!!!????...”
  “กูสังหรณ์ใจชอบกล อะไรว๊ะในป่าที่พี่แสงสี
เขาบอก ก็ไม่คิดอะไรมาก
หรอกแต่มา คิดๆดูว่าทำไมดันมีสระน้ำและดอกไม้สวยๆ
ดอกบัวเอยอะไรๆ
อีกสวยๆผิดสักเกตุ  กูก็เตือนพวกมึงแล้วแต่พวกมึงไม่ฟังกู
ก็เห็นสาวๆสวยๆ
แต่กูยังมีสติไม่บ้ากามเหมือนพวกมึงนี่หว่า เกิดลางไม่ดีแน่
ก็เตือนแล้วเตือน
พวกมึงอีกแต่พวกมึงดันแก้ผ้าลงไปเล่นน้ำ 
ตอนแรกกูก็เห็นว่าเป็นน้ำสาวๆ
แก้ผ้าเล่นน้ำเหมือนกันแหละโว้ย แต่แรงสังหรณ์ใจ
มีมากกว่าจึงแกล้งบอกว่า
ไม่สบาย รอดตัวไป  เป็นไงล่ะกูได้ยินว่าสนุกสนานจริงโว้ย
 แล้วสนุกมากไหม
ล่ะ!!!....ฮ่าๆๆๆๆ พวกมึงต่างดูหน้ากันเอาเองก็แล้วกัน
หน้าเหมือนคนไหม”
    กล่าวแล้วไอ้ตี๋เล็กก็หัวร่อลั่นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
ไปทั่วบริเวณ เล่นเอา
พวกมันทำหน้าตาพิกลไปตามๆกัน  
ทุกๆคนมองหน้าตัวกันแล้วจริงของมันพูด
พลันก็ได้ยินไอ้ตี๋เล็กเอ่ยขึ้นอีกว่า 
 จนพวกมันต้องรีบหันมารับฟังมันพูด
   “ไอ้กุ๋นบอกว่าโอ้ยนุ่มมือจริงโว้ย  ไอ้วาสกับพวกบอกว่า
เนื้อมันนิ่มจริงๆ กูมองดูพวกมึงก็ยังย้ำเตือนบอกว่าไม่ใช่โว้ย
แต่มึงไม่ยอมฟัง
เห็นมึงกำลังขย้ำก้อนหินอยู่ ส่วนไอ้วาสนกอดกับท่อนไม้เล็กๆอยู่ว๊ะ
ส่วนคนอื่นๆต่างคว้าหากิ่งไม้มากอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน
  แย่งกันด้วยว๊ะถึงได้
แน่แก่ใจว่า  ฉิบหายล่ะโดนผีหลอกกลางวันจึงรีบถอยหลังมา
 พอดีอีนางมัน
ขึ้นจากสระหมายมาเอากูลงไปเล่นด้วย 
 ก็ก็วิ่งหนีมานั่งคอยพวกมึงที่นี่แหละ
ว๊ะ....ฮ่าๆๆๆๆๆ.......”
    ไอ้ตี๋เล็กพูดไปหัวร่อไป  เล่นเอาพรรคพวกมันทั้งหมด
ต่างมองหน้ากัน
            ทันใดนั้นก็มีร่างชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหามัน 
 พลางเอ่ยปากว่า
   “พวกคุณไปเถอะ อาจารย์กำลังอยากพบตัว
  กำลังนั่งคอยอยู่นะ”
ทั้งหมดต่างร้องขึ้นว่า
   “อาจารย์ๆๆๆๆ!!!!!!????.....ใครว๊ะ????...
อาจารย์????.....”.............
                    แก้วประเสริฐ.
( เพื่อฝึกสมาธิื ลองทายซิว่า หญิงที่เต้นระบำนั้น หมุนทางซ้ายกี่รอบ
และหมุนทางขวากี่รอบครับ เพื่อความสนุกสนานครับ หากใครทราบ
ถือว่าผ่านวิชาเพ่งกสิณไปได้ครับ )

1139348gm3744qpip.gif				
comments powered by Disqus
  • เอื้องอังกูร

    9 พฤษภาคม 2554 11:32 น. - comment id 123732

    หวัดดีครับ
       ได้อ่านอทิสมานกาย  ก่อนทานข้าวอีกแล้ว
    สนุกขึ้นทุกทีครับ..รูปที่โพสมาให้ยล.3 อนงค์
    ก้องามมากครับ..ทำให้จินตนาการลึกลงไปใน
    น้ำเลยครับ 
        ขอบคุณมากครับ16.gif36.gif
  • แก้วประเสริฐ

    9 พฤษภาคม 2554 14:33 น. - comment id 123734

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ เอื้องอังกูร
    
        สวัสดีครับ ผมเองเป็นคนรักษาคำพูดตัว
    เองครับ อย่างไรว่าต้องให้จบแต่หากจะให้
    กระชับเกินไปก็จะไม่เร้าใจ ถึงแม้ว่ายังไม่
    ถึงสิ่งนั้น แต่ก็ค่อยๆไปครับ ขอบคุณที่เป็น
    กำลังใจเสมอนะครับ   รักเสมอครับ
    
               16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • กิ่งโศก

    13 พฤษภาคม 2554 10:50 น. - comment id 123797

    มาติดตามงานครูครับ
     โอ้..รูปประกอบ  555
  • แก้วประเสริฐ

    13 พฤษภาคม 2554 13:16 น. - comment id 123798

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
         ภาพที่สองนั้นครูนั่งพิจารณาดูเห็นว่าดี
    มาก ไม่ใช่เพราะภาพหล่อนเปลือยกายนะ
    แต่การหมุนนั้น ใช้ฝึกสมาธิได้ดีจ้า จึงได้
    เขียนไว้ตอนท้าย ว่าหล่อนหมุนซ้ายกี่รอบ
    ขวากี่รอบ ฮ่าๆๆ  ลองเพ่งมองดูซิอย่ากระพริบ
    ตาหากกระพริบตาจะไม่ทันการหมุนของ
    หล่อนจ้า  ฮ่าๆๆๆ  รักศิษย์เรามากๆเสมอจ้า
    
               16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน