เหตุการณ์ ณ วันเดินทาง 17 ก.พ. 49 วันนี้แล้วสินะ วันเดินทาง ดูจากโปรแกรมนัดกันบ่ายสองโมงที่สนามบินดอนเมือง หนูหิ่ง ฯ กะคุณแม่กลัวรถติด ไปถึงตั้งกะสิบเอ็ดโมง แฮ่.... ไม่เห่อเลยเนอะ ^_^ เราสองคนแม่ลูกร้องเพลงรอ ร้อ รอ.... รอเพื่อนร่วมชะตาเดียวกัน จนกระทั่งต่างคนต่างทะยอยกันมารวมถึงพี่สาวของหนูหิ่ง ฯ เพื่อน (โอ) และแฟนของเพื่อน (พี่อ้อ) มาถึงบ่ายโมง ส่วนเจ้าหน้าที่บริษัททัวร์มาถึงบ่ายสองโมงตรงเด๊ะ แหม อะไรจะรักษาเวลาขนาดน้าน ! กลุ่มนี้แบ่งลูกทัวร์ออกเป็น 4 กลุ่ม โดยใช้ริบบิ้นเป็นสัญญลักษณ์ผูกกระเป๋าสัมภาระเดินทาง เพื่อความสะดวกในการจำ หนูหิ่ง ฯ อยู่ในกลุ่ม BUS 3 ริบบิ้นสีฟ้า (สีฟ้า น่ารัก ^_^) แฮ่.... อย่างกะรู้เลยว่าหนูหิ่ง ฯ ชอบสีฟ้า เมี้ยว ๆ ๆ แถมยังได้รับแจกกระเป๋าสีฟ้าจากบริษัททัวร์อีกคนละ 1 ใบ หนูหิ่ง ฯ เคยเจอพี่บอย ไกด์ที่น่ารักหลายครั้งแล้ว ก็ค่อนข้างสนิทกัน เห็นริบบิ้นมีเยอะ ก็นึกขึ้นได้ หนูหิ่ง ฯ " พี่บอย หนูขอริบบิ้นอีก 2 เส้นได้หรือเปล่าคะ " พี่บอย " ได้สิ แล้วน้องจะเอาไปทำอะไรล่ะ " หนูหิ่ง ฯ " ครือว้า.... จาเอาไปผูกผมค่ะ จาได้ไม่หายไงคะ ^_^ " พี่บอย " ? ? ? ? " พี่บอย " เอามาเซ็นต์รับกระเป๋าให้พี่ด้วยนะ " หนูหิ่ง ฯ " ดั้ยค่ะ ^_^ ...... อ้าว !!!! พี่บอย ไหงงี้ล่ะคะ ? " พี่บอย " อะไรน้อง ? " หนูหิ่ง ฯ " ก็นี่ไง หมายเลข 25 หนูหิ่ง ฯ ไม่มีที่พัก แล้วนู๋จะทำไงล่ะ ? " พี่บอย " เฮ้ย ! เป็นไปได้ไง ไหนดูสิ .... นี่เขาอ่านว่าไม่มีคู่พักตะหากล่ะ " หนูหิ่ง ฯ " อ้าวหรอ แหะ ๆ ๆ ขออภัย นู๋อ่านผิดอ่ะ เมี้ยว ๆ ๆ " โอ " เฮ้ย ไอ้หนูหิ่ง ฯ ทัวร์กรุ๊ปนี้ไปกันตั้ง 158 คน ไหงแกคนเดียวไม่มีคู่พักฟะ ? " พี่อ้อ " นั่นสิ ตัวจริงก็ไม่มีคู่อยู่แล้ว นี่ขนาดไปเที่ยวยังไม่มีคู่อีกหรือเนี่ย ^_^ " คณะทัวร์ " ฮา.... เจ๋งจริง เจ้าหน้าที่ทัวร์จัดห้องพักเหมือนรู้เลย ^_^ " หนูหิ่ง ฯ " แง้ ๆ ๆ อย่าพูดเรื่องจริงดิ เศร้าอ่ะ *_~ " ' ฮึ่ม ! ฝากไว้ก่อนนะเจ้าโอ
และแล้วก็ถึงเวลาบ่ายสามโมง นำสัมภาระไป X-Ray หนูหิ่ง ฯ จัดการเรียบร้อยแล้วก็เข็นรถไปประตูตรงข้ามที่เขาเขียนติดว่า สำหรับตรวจเอกสารเดินทาง หนูหิ่ง ฯ " พี่คะ หนูต้องเข็นกระเป๋าเข้าไปในนี้หรอคะ คือว่าหนูจะโหลดกระเป๋าน่ะค่ะ ไม่ได้หิ้วขึ้นเครื่อง " เจ้าหน้าที่สนามบิน " ไม่ได้แล้วน้อง เช็คอินแล้วโหลดไม่ได้แล้วหละ ต้องหิ้วขึ้นเครื่อง " หนูหิ่ง ฯ และอีก 4 คน " ? ? ? ? อ้าว ซวยล่ะสิ กระเป๋าตั้ง 7 ใบ ใครจะหิ้วไหวพี่ " โอ " ไอ้หนูหิ่ง ฯ ไปถามพี่บอยป่ะ ว่าทำยังไงกะกระเป๋าทั้งหมดนี่ " หนูหิ่ง ฯ " พี่บอย กระเป๋าทำไงล่ะ เจ้าหน้าที่ไม่ให้หนูโหลดกระเป๋าค่ะ " พี่บอย " โธ่.... ใครเขาให้หนูเข็นไปที่ประตูฝั่งโน้นล่ะ เอากลับมาที่เค้าเตอร์ 10 นี่ โหลดตรงนี้ " หนูหิ่ง ฯ " หรอคะ แฮ่.... แล้วก็ไม่บอกซะตั้งกระแรกนิ " พี่บอย " แล้วก็นี่ แปะสติ๊กเกอร์แล้วก็ไปหาอะไรกินซะไป๊ ฟรีจ้ะ ฟรี ไม่ต้องมามองหน้าพี่ " หนูหิ่ง ฯ " พี่จิ้งคะ ตะกี้พี่บอยบอกว่าติดสติ๊กเกอร์แล้วไปกินของฟรี ^_^ " พี่จิ้ง " อดซะแล้วน้องเอ๋ย เขากินกันที่ด้านนอกจ้ะ เข้ามาในนี่แล้วอด " หนูหิ่ง ฯ และอีก 4 คน " ? ? ? ? อ้าว ไม่เห็นพี่บอยบอกเลย *_~ ไม่เป็นไร (ฟะ) มีตังค์ซื้อกินก็ได้ พี่อ้อ " ฮื่อใช่ โอ ไปซื้อน้ำกะของกินมาให้หน่อยสิ ชักหิวแล้วหละ " โอ " นี่ชาเขียวขวดละ 90 ซาละเปา 5 ลูก 100 ขนมจีบ 6 ลูก 75 " หนูหิ่ง ฯ และอีก 3 คน " ? ? ? ? ไหงแพงอย่างงี้เนี่ย ? ? ? ? " เวลาบ่ายสามโมงครึ่ง เวลาเครื่องออก " ท่านผู้โดยสารที่จะเดินทางไปกุ้ยหลินเที่ยวบินที่ TG 618 โปรดทราบ เนื่องด้วยการจราจรทางอากาศไม่สะดวก ทางสายการบินขอแจ้ง ให้ท่านทราบว่ากำหนดการเดินทางถูกเลื่อนออกไป และจะแจ้งให้ท่านทราบอีกที " พี่คำแปง " เอาล่ะสิ จะได้บินกันกี่โมงนี่ หิวแล้วด้วยสิ โอไปซื้ออะไรมารองท้องอีกดีกว่า ' แพงหน่อยช่างมันเนอะ ' " นั่งรอ รอ รอ จนเวลาผ่านไปถึงสี่โมงเย็น " ท่านผู้โดยสารที่จะเดินทางไปกุ้ยหลินเที่ยวบินที่ TG 618 โปรดทราบ สายการบินขอแจ้งให้ท่านทราบว่า กำหนดการเดินทางเลื่อนไปเป็นหนึ่งทุ่ม ขอให้ทุกท่านนำตั๋วโดยสารมารับคูปองรับประทานอาหารที่ประตูทางออกหมายเลข 41 " พี่อ้อ " โห รอแง็กเลยล่ะสิ แต่ก็ยังดีนะ ที่ไม่ปล่อยให้เราอด " หนูหิ่ง ฯ " แหมจะแจ้งก่อนก็ไม่ได้ หนูหิ่ง ฯ อิ่มซะแล้วนิ " เฮ้อ ! และแล้วก็ถึงกุ้ยหลินเวลาท้องถิ่นเที่ยงคืน (เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) อากาศหนาวสุด ๆ 4 - 10 องศา บรืออ์อ์อ์อ์อ์อ์อ์ *_~
กุ้ยหลิน มีชื่อนี้เพราะว่าที่นี่มีดอกกุ้ยฮัวเยอะมาก มีคนชี้ให้ดูว่านี่เป็นดอกกุ้ยฮัว แต่หนูหิ่ง ฯ ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะว้า....... คนที่บอกก็ไม่เคยเห็นดอกกุ้ยฮัวมาก่อนครือกัน ^_^
คณะได้พักที่โรงแรมระดับ 5 ดาว เป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในเขตปกครองตนเองกวางสี ชื่อว่าโรงแรม วอเตอร์ฟอล เป็นโรงแรมที่สร้างน้ำตกเทียมได้ใหญ่ที่สุดในโลก โดยจะปล่อยน้ำตกสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ๆ ละประมาณ 10 นาที - 30 นาทีค่ะ
18 ก.พ. 49 ล่องแม่น้ำหลีเจียง ตื่นตีห้า ลงไปทานอาหารหกโมงเช้า ออกเดินทางเจ็ดโมงขึ้นรถไปท่าเรือ เพราะว่าเรือออกเก้าโมงตรงเด๊ะ วันนี้ได้พบไกด์จีนด้วย ชื่อคุณหมา คุณหมามีชื่อไทยว่า วันลบ (คุณหมาบอกว่าเขียนแบบนี้ค่ะ ชื่อนี้มีที่มา หนูหิ่ง ฯ จะเล่าให้ฟังก่อนปิดกระทู้นะเจ้าคะ) คุณหมา " ตองนี้ได้เวลารถออกแล้วนะครับ เราจะรอสมาชิกอีกแค่ 5 นาทีนะครับ ถ้าช้ากว่านี้ไปไม่ทันเรือ ทั้งกรุ๊ปต้องว่ายน้ำไป " หนูหิ่ง ฯ ' อ่ะจึ๊ย ! 4 องศาเนี่ยอ่ะนะ ว่ายน้ำไป ' คุณหมา " ที่กุ้ยหลิน และเมืองจีนทั้งประเทศบังคับให้ขับรถได้ไม่เกิน 60 กม./ชม.นะครับ จากกุ้ยหลินไปท่าเรือใช้เวลาชั่วโมงกว่า ๆ ครับ " คุณหมา " เอาล่ะครับสมาชิกครบแล้ว ออกรถเลย ระหว่างนี้ผมขอเล่าเรื่องกุ้ยหลินให้ฟังกันนะครับ กุ้ยหลินมีชื่อนี้เพราะว่ามีดอกกุ้ยฮัวเยอะ เป็นดินแดนแห่งขุนเขามากถึง 33,333 ยอด วันนี้เราจะไปล่องแม่น้ำหลีเจียง ในสมัยก่อนแม่น้ำสายนี้มีแค่สายเดียว แต่ต่อมาได้ขุดให้แยกเป็นสองสาย จึงมีชื่อว่าหลีเจียง หลีในภาษาจีนแปลว่าแยก " คุณหมา " ในการมาเที่ยวที่นี่หากจะซื้อของจะสู้ราคากันด้วยพลังจิ้ม (เครื่องคิดเลข ) นะครับ ^_^ เย็นนี้จะพาไปดูตลาดใต้ดินหลังโรงแรม ท่านใดต้องการของปลอมแท้ ๆ ก็ต่อรองราคาได้ 50 - 70 % นะครับ " หนูหิ่ง ฯ " ทำไมคุณหมาพูดไทยเก่งจังคะ " คุณหมา " ผมเรียนภาษาไทยเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน สมั้ยนั้นทั้งประเทศจีนมีนักเรียนทั้งประเทศแค่ 16 คน แต่สมัยนี้เฉพาะในกุ้ยหลินมีนักเรียนเรียนภาษาไทยถึงปีละ 500 คน
คุณหมา " ที่นี่มีนักท่องเที่ยวฝรั่งมาเยอะ ก็มีฝรั่งมาเรียนภาษาจีน มีฝรั่งคนหนึ่งเรียนภาษาจีนอยู่อาทิตย์หนึ่งแล้วไปเที่ยวที่ห้าง เห็นสาวจีนคนหนึ่งก็นึกชอบ จึงเข้าไปทักทาย ฝรั่ง " หนี้เห่ามา ===> คุณสบายดีหรือ " สาวจีน ' เงียบ ' ฝรั่งนึกว่าพูดผิด จึงพูดใหม่ว่า " หนี้มาเห่า ===> แม่คุณสบายดีหรือ " เอ้า เอาเข้าไป ^_^ สาวจีน ' ยึ่งเงียบไปใหญ่ ' ฝรั่งจึงพูดใหม่ว่า " มาหนี้เห่า ===> CROT แม่เธอ เหรอ " อ่ะจ๊าก ! กลายเป็นคำด่าไปซะนิ *_~ คุณหมา " เป็นความเข้าใจผิดทางภาษา ปรกติแล้วคนจึนจะไม่ทักคนที่ไม่รู้จัก ดังนั้นเมื่อฝรั่งคนนี้มาทัก สาวจีนคนนั้นจึงไม่ตอบ " คุณหมา " ที่หลีเจียงจะมีชนเผ่าหนึ่งเชื่อกันว่ามีเชื้อสายเดียวกับคนไทย ชื่อว่าเผ่าจ้วง เผ่าจ้วงมีคำศัพย์สองร้อยกว่าคำที่คล้ายกับคำในภาษาไทย เช่น มันหว้าน ===> มันหวาน, เผื๊อก ===> เผือก, กึ้น ===> กิน ฯลฯ แถมยังมีข้าวหลาม และประเพณีลอยกระทงเหมือนเมืองไทยด้วย ชาวจ้วงเป็นคนที่ชอบร้องเพลงมาก จะใช้เพลงในการจีบสาว เวลาจะจีบสาว หนุ่มชาวจ้วงจะถามว่า " ที่บ้านมีปลากี่ตัว " เนื่องจากว่าหากบ้านไหนที่มีลูกสาวในวันครบรอบวันเกิดจะทำปลาส้มไว้ 1 ตัว โดยไม่กิน แต่จะเอามากินในวันแต่งงาน ===> เป็นการถามอายุของผู้หญิง ^_^ ส่วนสาวชาวจ้วงก็จะถามว่า " ที่บ้านมีควายกี่ตัว " ถ้าชายหนุ่มคนไหนมีควายเยอะ ก็จะได้ทำงานสบายไม่ต้องทำงานหนัก สาวชาวจ้วงตลอดชีวิตจะตัดผมแค่ครั้งเดียวเท่านั้นคือตอนอายุ 16 และได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 3 ของบ้าน ซึ่งจะปลูกประดับต้นไม้และเปิดหน้าต่างไว้ เพื่อให้ชายหนุ่มมาร้องเพลงจีบ " คุณหมา " สาว ๆ บนรถนี้ถ้าเทียบกับสาวชาวเขาแล้วไม่มีใครสวยเลย " ลูกทัวร์ " อ้าว ! ไหงงั้นล่ะคุณหมา " คุณหมา " สาวสวยของทางนี้ หนึ่ง ต้องปากใหญ่ ===> เอาไว้ตะโกนเรียกสามีมากินข้าว สอง ต้องก้....ใหญ่ ===> จะได้มีลูกเยอะ ๆ สาม ต้องเท้าใหญ่ ===> คนเท้าใหญ่จะเป็นคนขยัน ลูกทัวร์ " ฮา ใครขืนมาอยู่แถว ๆ นี้ มีหวังหาซะมีบ่ได้เน่อ ^_^ " ก่อนลงรถเพื่อไปขึ้นเรือคุณหมาท่องกลอนให้ฟังอยู่สองวรรค " น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา แหวกว่ายปทุมาอยู่ไหวไหว " ^_^
มุมหนึ่งที่เรือล่องผ่าน
เรือลำหลังที่แล่นตามมา ^_^
ทิวเขาสองฝั่งแม่น้ำ
น้ำใสจริง ๆ เรือจอดนิ่ง ๆ เพื่อให้คณะทัวร์มองเห็นภาพภูเขาสะท้อนในน้ำ ทิวเขาแถวนี้เป็นฉากการแสดงสด แสง - สี - เสียง โดยผู้กำกับ (จางอี้หมง) ที่กำกับหนังจีนเรื่องจอมโจรบ้านมีดบิน ^_^ ช่วงนี้นักแสดงกลับบ้าน เนื่องจากกลับบ้านในช่วงเทศกาลตรุษจีนและอากาศหนาวเกินไป ที่เมืองจีนจะแบ่งสภาพภูมิอากาศออกเป็น เย็น = 15 - 25 องศา ต่ำกว่า 15 องศาลงมาถือว่าหนาวค่ะ
ถ่ายที่โรงแรมก่อนออกไปล่องเรือเช้าวันที่ 18 ก.พ. 49 แจกันในรูป ===> หมายถึง ความปลอดภัยค่ะ
ที่แม่น้ำหลีเจียง จะมีนกชนิดหนึ่ง เป็นนกจับปลา ไม่ทราบว่าฉลาดหรือว่าโง่เนอะ ^_^ จับแต่ปลาอย่างเดียว อย่างอื่นม่ายอาว (ไกด์บอกอ่ะ) นกชนิดนี้ชาวประมงจะจับมาฝึกประมาณ 3 เดือน แล้วให้ไปช่วยจับปลา โดยผูกเชือกไว้ที่คอ หากว่านกจับได้ปลาตัวใหญ่จะกลืนลงคอไม่ได้ ถ้าได้ปลาตัวเล็ก ๆ ก็ให้เป็นรางวัล นาน ๆ ไปนกก็จะเริ่มฉลาดขึ้นเพราะจะไม่จับปลาตัวใหญ่เลย จับแต่ปลาเล็ก ๆ ^_^ แฮ่.......... ในรูปปรากฎว่าอาแป๊ะที่หว่านแห ไม่ได้ปลาสักกะตัว แต่อาแป๊ะที่ใช้แรงงานนก ได้ปลาไปกระบุงเบ้อเร่อเลยนิ ^_^
ฉายเดี่ยว ยิ้มสู้ลมหนาวเจ้าค่ะ (ถอนเสื้ออกตัว-กลัวไม่สวย คิก ๆ ๆ ๆ ) ^_^
ยืมพี่จิ้ง (ไกด์ Bus 4) มากอดหน่อย ( ก็พี่อ้อ กะโอเขากอดกันให้อิจฉาตำตา ตำใจนิ ^_^ )
บนเรือไม่ได้ถ่ายรูปกะคุณแม่และพี่สาวเลย เนื่องจากทั้งคู่ไม่ยอมขึ้นข้างบน เพราะหนาวสุด ๆ ค่ะ ก่อนไปทานอาหารกลางวัน แวะถ่ายรูปกะก้อนหินสลักชื่อท่าเรือค่ะ ^_^
มุมหนึ่งของถ้ำเงิน ใช้เป็นที่หมักเหล้า ^_^ เสียดายหนูหิ่ง ฯ มีตังค์ติดตัวแค่ 100 เหรียญ และพลัดหลงกะธนาคาร ( พี่สาว ^_^ ) ไม่งั้นจะขอซื้อมาสักไห ^_^
ถ่ายกะพี่จิ สาวชาวชลบุรี แห่ง BUS 4 ที่เดินตามหนูหิ่ง ฯ มาขึ้น BUS 3 เมี้ยว ๆ ๆ พี่เขาหลงรถอ่ะค่ะ ^_^
18 ก.พ. 49 เหตุการณ์ตอนไปช็อปที่ถนนคนเดินช่วงกลางคืน วันนี้ก็ยังคงหนาวเช่นเดิม ได้โอกาสฉลองเสื้อใหม่ เพราะเสื้อที่เอามาอุ่นไม่พอ เมื่อคืนไปซื้อกันหนาวสีชมพูมา 3 ตัว ถุงมือ 2 คู่ ในราคาที่สู้กันด้วยภาษาจีน งู ๆ ปลา ๆ ของหนูหิ่ง ฯ แปลเป็นไทยได้ดังนี้ (หนูหิ่ง ฯ สปีคภาษาจีนได้นิดหน่อยเจ้า ) เหตุที่ได้เสื้อถึง 3 ตัว ^_^ หนูหิ่ง ฯ " เสื้อนี่ราคาเท่าไหร่คะ " เจ้าของร้าน " 95 เหรียญ " หนูหิ่ง ฯ ' คูนด้วย 5.25 บาท แพงจังนิ คุณหมาบอกว่าต่อราคาได้ถึง 70 % ' " แพงเกินไป ลดราคาหน่อยสิคะ " เจ้าของร้าน " 80 ละกันนะ " หนูหิ่ง ฯ ' เอาหละ เพื่อให้ได้ของถูก ลองตามที่คุณหมาบอกละกัน แฮ่.....' " 30............ เอา 3 ตัว นะ นะ นะ " หนูหิ่ง ฯ ' จริง ๆ แล้วกลัวถูกตืบ คำว่า 3 ตัว จึงหลุดมา เมี้ยว ๆ ๆ ' เจ้าของร้าน " เพิ่มให้หน่อยน่า " หนูหิ่ง ฯ " งั้นไม่เอา " ว่าแล้วก็เดินไป ' จริง ๆ แล้วกะไม่เอาน่ะแหละ กลัวได้ซื้อ 3 ตัวอ่ะ ' เจ้าของร้าน " เดี๋ยว ๆ ๆ เอา 30 ก็ 30 " หนูหิ่ง ฯ ' แง้ ๆ ๆ จำต้องซื้ออ่ะ *_~ กลัวถูกตืบ' ตัวนี้พี่คำแปงจ่ายมา 30 ไม่เบี้ยว และก็ใส่รุ่งขึ้นทันที ไม่เห่อเลยนิ ^_^
ตัวนี้หักคอพี่อ้อมา 30 ไม่น้อยหน้ากันสักเท่าไหร่ ใส่ทันทีเหมือนกันค่ะ ^_^
ตัวนี้จ่ายเอง *_~ ใส่เลยเหมือนกัน เด๋วแพ้เขาค่ะ เมี้ยว ๆ ๆ
ทีนี้ก็เหลือถุงมือ เพราะว่าหนาวสุด ๆ มือแข็งไปหมดแย้ว หนูหิ่ง ฯ " นี่ราคาเท่าไหร่คะ " ชี้ไปที่ถุงมือ เพราะนึกไม่ออกว่าในภาษาจีนเรียกว่าอะไรอ่ะค่ะ ^_^ เจ้าของร้าน " 30 " หนูหิ่ง ฯ ' เฮ้ย ! แพงจัง ราคาเท่าเสื้อเลยนิ ลองใช้วิชาคุณหมาละกัน ต่อดะ ได้ไม่ได้ก็ว่ากันอิ๊กที ' " 5 เหรียญ " เจ้าของร้าน หน้าหงิก " ไม่ได้ เพิ่มราคาให้หน่อยสิ จะปิดร้านแล้ว " หนูหิ่ง ฯ " งั้นไม่เอา เดี๋ยวเดินดูร้านอื่นก่อนนะคะ " แล้วหนูหิ่ง ฯ ก็วิ่งตามหลังไกด์ เจ้าของร้าน " เดี๋ยว ๆ ๆ น้อง กลับมาก่อน " ไกด์ " จะซื้ออะไรหรอน้อง " หนูหิ่ง ฯ " ถุงมือน่ะคะ หนูต่อราคาไป 5 เหรียญ แหะ ๆ ๆ ^_^ " ไกด์ " งั้นรีบกลับไปซื้อเลย พี่จะซื้อด้วย ตะกี้ลูกทัวร์ BUS 4 ฝากซื้อ 4 คู่ " หนูหิ่ง ฯ " เอาสองคู่นี้ค่ะ " เจ้าของร้าน " แบบนี้ 8 เหรียญ " หนูหิ่ง ฯ " อ้าว ! ตะกี้บอก 5 เหรียญ นินา " เจ้าของร้าน " แบบนี้ตะหาก 5 เหรียญ แบบนั้นหนากว่า ก็เลยแพงกว่าจ้ะ " หนูหิ่ง ฯ " 6 เหรียญละกัน หนูเอา 2 คู่ แล้วพี่คนนี้ก็จะซื้อด้วยเหมือนกัน " ' โมเมยัดเงินใส่มือเจ้าของร้าน ' เจ้าของร้าน " เอามานี่ จะใส่ถุงให้ " หนูหิ่ง ฯ ' อ้าว ดันให้ซะอีกนิ หนูหิ่ง ฯ นึกว่าไม่ให้ เมี้ยว ๆ ๆ '
19 ก.พ. 49 ณ ถ้ำขลุ่ยอ้อ คุณหมา " ปรกติคนจีนจะดูสิ่งต่าง ๆ เป็นตัวอักษร ผลไม้ และสัตว์ ดูหินข้างบนโน่นคล้าย ๆ เห็ดหลินจือ " หนูหิ่ง ฯ " หนูหิ่ง ฯ ว่าดูไปดูมา.....เหมือนเขียงมากกว่าค่ะ ^_^ "
คุณหมา " ตรงนี้มืชื่อว่าเสาค้ำฟ้า สังเกตุดูดี ๆ หินงอกกับหินย้อยด้านบนสุดยังไม่เชื่อมกัน คาดว่าอีกประมาณ 90 ปีก็จะเชื่อมเป็นต้นเดียวกัน เอาไว้เรามาพบกันที่นี่ในเวลานั้นนะ ^_^ " หนูหิ่ง ฯ ' แง่ง ๆ ๆ ใครจะอยู่ถึง 90 ปี (ฟะ) *_~ '
หนูหิ่ง ฯ ชอบรูปนี้มากกว่า เป็นด้านในสุดของถ้ำ พื้นน้ำใสเหมือนกระจก มองเห็นภาพสะท้อนอยู่ในน้ำ
คุณหมา " เอาหละให้เวลาเดินเที่ยว แล้วไปเจอกันที่รถบ่ายสองนะ " หนูหิ่ง ฯ " พี่คะ นี่ก็สองโมงครึ่งแล้วค่ะ ^_^ " คุณหมา " อ้าวเหรอ ^_^ งั้นเป็นบ่าย 3 ละกันนะ " " จะขึ้นไปข้างบนก็ได้ แต่อย่าไปถึงยอดนะ ไปแค่ศาลาข้างบนนั่นก็พอ " หนูหิ่ง ฯ โอ และพี่อ้อ " ค่ะ - ครับ " ปา-กด-ว้า....... พวกเราชาว BUS 3 เชื่อไกด์ทุกคนเลย ไปถึงยอดเขากันอย่างครบครัน ^_^
หนูหิ่ง ฯ ขอแอ็คเป็นคนแรก ฐานที่ขึ้นไปถึงก่อน โย่ ๆ ๆ ^_^
ต่อด้วยโอกะพี่อ้อ
หนูหิ่ง ฯ เองเจ้าค่ะ วิ่งไปถ่ายรูปที่หน้ารถ แล้วก็ขึ้นรถก่อนใครเพื่อน เพราะว่านู๋หนาวจิง ๆ *_~
19 ก.พ. 49 ช่วงเช้าที่ถ้ำขลุ่ยอ้อ ช่วงบ่ายก็ได้เวลาไปเขาอูฐค่ะ
พี่อ้อกะรูปปั้นปีจอ ที่ทางเข้าเขาอูฐ แหม..... คนสวยก็เป็นได้เนอะ ^_^
ถ่ายรูปหมู อู๊ด ๆ กันที่เขาอูฐ เขาลูกนี้ห้ามปีนจ้า ^_^
อูฐของจริงก็มีค่ะ
ก่อนกลับที่พัก BUS 3 & BUS 4 ก็ถูกพาไปที่โรงงานผลิตยา ส่วน BUS 1 & BUS 2 ไปที่ร้านไข่มุก ( หนูหิ่ง ฯ คิดว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะหารายได้เข้าประเทศมากที่สุด ) แต่ยาของประเทศจีนส่วนใหญ่จะสกัดมาจากธรรมชาติ เช่น ผู้สาธิต " บัวหิมะ เป็นยาทา มีสรรพคุณรักษาโรคผิวหนังทุกชนิด กลาก เกลื้อน แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก รักษาริดสีดวง และกันแดก ได้ด้วย ราคากระปุกละ 250 เหรียญ " หนูหิ่ง ฯ ' ? ? ? ? เจ้ คืนนี้ใครเป็นจ้าว อย่าลืมซื้อไปสักกระปุกนะ กันแดกได้ด้วยหละ เมี้ยว ๆ ๆ ^_^ ' ผู้สาธิต " กอเอี๊ยะ เป็นกอเอี๊ยะที่ลดการปวด บวม อักเสบของกล้ามเนื้อ นักกีฬาทีมชาติจีนนิยมใช้ กันน้ำได้ แกะง่าย ขนจะไม่หลุดติดออกมาเวลาแกะ " (ราคานู๋จำม่ายได้แย้ว ) แฮ่..... เจ่เจ้ของหนูหิ่ง ฯ ซื้อมาแค่ 2 อย่าง หนูหิ่ง ฯ ก็เลยจำได้แค่ 2 อย่างนี้อ่ะ ^_^ และแล้วก็เย็นพอดี ^_^ ถึงเวลากลับโรงแรม ( ไวอย่างกะโกหกเลยนิ ) ตอนที่ถึงโรงแรมเห็นอะไรแว๊ป ๆ นั่นคู่บ่าวสาวนินา ทำไมมารอรับแขกอยู่ข้างนอกเลยล่ะ มองด้วยความงง หยิบกล้องมาถ่ายรูปเก็บไว้อิจฉาเล่น ๆ แช๊ะ ๆ ^_^
พอเดินผ่านเข้าไปในโรงแรม ? ? ? ? จ๊ะเอ๋ เจอข้างในอีก 2 คู่ โอ้โห ! วันนี้คงเป็นวันดีนะ เฉพาะโรงแรมนี้แต่งกันทีเดียว 3 คู่เลย หยิบกล้องมาถ่ายเก็บไว้เป็นหลัก และ ฐาน อีก แช๊ะ ๆ ๆ ๆ ^_^
คู่สุดท้าย น่ารักทุกคู่เลยเนอะ ^_^
20 ก.พ. 49 ก่อนเดินทางกลับไทย ช่วงเช้าก็ไป เขางวงช้าง
โอ " ไอ้หนูหิ่ง ฯ ถ้าแกขืนถ่ายรูปจนลืมเดินตามขบวนล่ะก็ เห็นทีแกจะต้องเดินกลับไทยนะเฟ้ย " หนูหิ่ง ฯ " ก็ไม่เห็นยาก แค่นี้ก็ไปได้แระ ^_^ " เหิรฟ้าาาาาาาาาาาาา ^_^
ริมน้ำที่เขางวงช้าง มีแม่ค้าขายอาหาร มีเผือก - นก - กุ้ง - ปู - หอย - ปลา ชุบแป้งทอด
หนูหิ่ง ฯ ชอบเผือกที่ซู๊ด เผือกที่นี่เป็นเผือกที่ลือกันว่าอร่อยที่สุดในโลกเลยค่ะ
แพที่นี่น่ากลัวหล่นจังนิ ^_^
ก่อนทานอาหารเที่ยงก็ไปดูหยก ๆ เป็นอัญมณีที่คนจีนนิยมมากที่สุด สมัยก่อนในประเทศจีนคนที่จะใช้หยกได้มีแต่ฮ่องเต้เท่านั้น หยกที่ดีจะเย็นและใส หนูหิ่ง ฯ ให้คุณหมาดูหยกที่นิ้ว ได้มาจากอ.แม่สอด จ.ตาก คุณหมาบอกว่าเป็นหยกแท้ ไม่ปลอม แต่เป็นหยกที่เกรดไม่ดี ทางพม่าเรียกว่าหินหยก มีแต่หยกสวย ๆ งาม ๆ ราคาก็งามตามไปด้วย นู๋ซื้อม่ายหวายเจ้า ^_^
บ่ายวันที่ 18 ก.พ. 49 ไปถ้ำเงิน ถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำที่พบในปี 1999 รัฐบาลใช้เวลา 2 ปี จึงเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว ก่อนเข้าถ้ำเงิน ได้โอกาสถ่ายรูปหมู 3 สาว แม่ - ลูก ^_^
ภายในถ้ำเงิน สวยมาก ๆ สามารถมองเห็นภาพสะท้อนในน้ำด้วยค่ะ ^_^
แล้วก็ไปต่อที่ร้านผ้าไหม ๆ ที่นี่จะไม่ใช้การย้อมสี แต่จะให้ตัวไหมกินสารเคมีเข้าไป เวลาที่พ่นใยออกมาก็จะออกมาเป็นสีโดยไม่ต้องนำไปย้อม ดังนั้นผ้าไหมที่นี่สีจะไม่ตก ที่นี่จะมีไหมอยู่ 2 อย่างด้วยกันคือ 1 รังจะมีตัวไหม 1 ตัว และ 1 รังจะมีตัวไหม 2 ตัว เป็นคู่แฝด ไหมแฝดจะพ่นไหมออกมาพันกัน เวลาดึงไหมก็จะขาด ทำให้ไม่สามารถนำมาใช้งานได้ จึงคิดหาจนพบวิธีนำมาใช้ โดยการนำไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง เนื่องจากรังไหมแข็งมาก แล้วก็แกะเอาตัวไหมออก (ตัวไหมก็นำไปทำอาหารได้ค่ะ อาหย่อย ^_^) ใยไหมที่ได้เป็นก้อน ๆ ก็จะนำไปทำเป็นหมอนและดึงเป็นผ้าห่มขนาด 6 ฟุต ต้องใช้ผู้ชำนาญในการดึงเพื่อนให้ได้ขนาดที่สม่ำเสมอ ผ้าห่มนี้ไม่ต้องซัก ให้นำไปตากแดดสัก 1 - 2 ชั่วโมงก็พอ ให้ซักแต่ปลอกผ้าห่ม คุณสมบัติพิเศษก็คือ เบา ให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว เย็นสบายในฤดูร้อน ไม่เป็นที่สะสมของไร ฝุ่น และกลิ่นอับ ถ้าส่วนไหนสกปรกก็ราดน้ำลงไป แล้วก็ซับให้แห้ง นำไปตากแดด ตีให้ฟูกลับคืนสภาพเดิมเป็นอันใช้ได้ คณะทัวร์ได้ขนซื้อกันมาเพรียบเลยนิ ^_^ ที่เวทีแสดงแฟชั่นโชว์ ระหว่างที่นั่งรอนางแบบ พวกเราก็ได้นางแบบจำเป็นขึ้นไปเรียกน้ำย่อย ^_^ โห.... คนไข้มาเห็นคงตึ่งตะลึ่งตึ่งแฉ่.... ^^"
" ฉานทำไปได้ไงเนี่ย ^_^ "
ปิดท้ายกระทู้ ว่าด้วยชื่อของคุณหมา ^_^ เมื่อสามสิบกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งประเทศจีนเรียนภาษาไทยทั้งหมด 16 คน ช่วงแรก ๆ ก็สอนโดยครูชาวจีน แต่ต่อมารัฐบาลจีนได้จ้างครูคนไทยมาสอนเป็นเวลา 3 เดือน ปรากฎว่านักเรียนแทบทุกคนไม่ชอบครูคนนี้ ( ยกเว้นคุณหมา ) สาเหตุเพราะว่าครูคนนี้สอนทั้งวัน ไม่เหมือนครูคนจีนสอน 2 - 3 ชั่วโมงก็ให้กลับไปหอพักอ่านหนังสือเอง เด็กนักเรียนไม่พอใจและไม่ชอบครูคนนี้ จึงไปเขียนว่าครูต่าง ๆ นา ๆ ที่ในห้องน้ำ จนครูไปเห็นเข้า ก็มาบอกให้นักเรียนไปลบ ปรากฎว่าไม่มีใครยอมไปลบ ครูจึงเรียกนักเรียนคนหนึ่งให้ไปลบ เพื่อน ๆ บอกว่าไม่ให้ลบ ถ้าใครลบเป็นหมา ตกลงนักเรียนคนนั้นก็ไปลบ จึงถูกเพื่อน ๆ เรียก ไอ้หมา ๆ ๆ หมาจึงกลายเป็นชื่อเรียกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก่อนกลับเมืองไทย ครูได้ตั้งชื่อไทยให้กับนักเรียนทุกคน พอมาถึงคุณหมา ครูก็ถามว่า คุณแช่อะไร คุณหมา บอกว่า แช่เหวิน เหวิน == > วัน ฮื่อ ๆ คล้ายกัน และเคยไปลบหนังสือในห้องน้ำให้ครู ตกลงเธอชื่อ " วันลบ" ละกันนะ ^_^ นี่แหละคือที่มาของชื่อ หมา & วันลบ ^_^ ขอปิดกระทู้ด้วยประการะฉะนี้ พบกันใหม่เมื่อคิดถึง เด้อค่ะเด้อ ปล. ย่อรูปจนมือง่อย อิ ๆ ๆ ๆ
2 พฤษภาคม 2554 13:10 น. - comment id 123606
สนุกมากค่ะ......... ชอบเวอร์ชั่นพวกนี้มากกว่า หนูหิ่งเล่าเรื่องบรรยายภาพได้ดีค่ะ.........
2 พฤษภาคม 2554 21:16 น. - comment id 123612
สวัสดีเจ้า คุณโอ้ละหนอ : ดีใจที่ชอบนะคะ ยังมีอีกหลายเรื่องค่ะ แต่ไม่ค่อยมีเวลาค่ะ ยากตรงที่ต้องไปงมหารูปนี่ล่ะค่ะ ^^