ทำไมพุทธโพธิสัตว์จึงโปรดสัตว์ไม่ได้ทั้งหมด?...
คีตากะ
ปราศรัยโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่
ที่ศูนย์ซีหู ฟอร์โมซา
วันที่ ๕-๗ สิงหาคม ๒๕๓๔ (ต้นฉบับเป็นภาษาจีน)
ถวายเงิน ๑ เหรียญ
มีคนคนหนึ่งขี้เหนียวมาก ไม่เคยบำเพ็ญอะไรเลย เพราะเขาไม่เคยบริจาค ดังนั้นจึงกลัวพระมาบิณฑบาต ภรรยาเป็นผู้ชอบธรรมชอบสวดมนต์ ชอบบำเพ็ญ แต่เขาไม่ชอบเลย วันหนึ่ง มารดาของเขาได้ตายไป ภรรยาจึงบอกว่า “ตอนนี้พวกเราควรจะไปไหว้ที่สุสาน แล้วไปทำพิธีที่ริมแม่น้ำคงคา อธิษฐานขอให้พุทธโพธิสัตว์ให้พร ทำเช่นนี้แม่ของพวกเราจึงจะหลุดพ้น” สามีกล่าวว่า “ตกลง! แต่พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องไปไกลเช่นนั้น มันจะเปลืองเงิน พวกเราไปที่ใกล้ๆ ก็พอ”
ระหว่างทางที่จะไปที่สุสาน ตัดสินใจจะไปที่วัดแห่งหนึ่ง แต่กลัวว่าจะมีพระสงฆ์อยู่ที่นั่น ก็ต้องถวายเงิน มันเป็นประเพณี ดังนั้นพวกเขาจึงรอจนพระสงฆ์จำวัดแล้วจึงเข้าไป ขณะที่พวกเขาไปถึงวัด ไม่เห็นคนสักคน มีเพียงรูปปั้นของพระพุทธรูปกับพระโพธิสัตว์ตั้งอยู่เท่านั้น
พระโพธิสัตว์กวนอิมทราบว่า คนผู้นี้ขี้เหนียวมากจึงได้แปลงร่างเป็นพระสงฆ์ นั่งอยู่ที่นั่น คนผู้นั้น หลังจากไหว้พระเสร็จแล้ว หันมา จึงเห็นมีพระสงฆ์อยู่ที่นั่น รู้สึกตกใจ! พระสงฆ์ที่พระโพธิสัตว์แปลงร่างมาจึงบอกกับเขาว่า “ประสกมาไหว้พระที่นี่ ขออนุโมทนาด้วย! ต้องการให้อาตมาทำพิธีสวดไหม?” คนผู้นั้นบอกว่า “ไม่ต้อง! ไม่ต้อง! ข้าพเจ้าทำเอง” พระสงฆ์จึงบอกว่า “ไม่เป็นไรอาตมาทำให้ได้ ท่านไม่ต้องถวายเงินให้เดี๋ยวนี้ อีกสักครู่ค่อยถวายก็ได้ แต่ท่านต้องบอกมาก่อนว่าจะถวายเท่าไร?” ปกติผู้เลื่อมใสศรัทธา เมื่อมาไหว้พระที่วัด ก็จะถวายเงินให้ มันเป็นประเพณีของวัดนั้น
คนผู้นั้นคิดในใจว่า “ไม่เป็นไร ข้าพเจ้าจะรับปากท่านก่อน อีกสักครู่ค่อยหลบหนีไป ท่านก็จะหาข้าพเจ้าไม่พบ” ดังนั้นเขาจึงบอกว่า “ดีแล้ว ข้าพเจ้าจะถวายเงินให้ ๑ เหรียญ” พระสงฆ์จึงตอบว่า “ตกลง! ถวาย ๑ เหรียญก็ได้ ขอเพียงให้ท่านให้ด้วยความตั้งใจ” แล้วพระสงฆ์ก็ทำพิธีสวดมนต์ให้หลายบท เมื่อทำพิธีเสร็จแล้ว เขาก็บอกกับภรรยาว่า “ขณะนี้ทำพิธีเสร็จแล้ว ไหว้สุสานเสร็จแล้ว ไหว้พระแล้ว และมีพระสงฆ์มาช่วยพวกเราสวดมนต์ พรุ่งนี้พวกเราก็จะกลับบ้าน”
เมื่อกลับไปถึงบ้าน อีก ๒-๓ วัน พระสงฆ์รูปนั้นก็มาหาที่บ้าน ภรรยาจึงเข้าไปบอกสามีว่า “พระสงฆ์ที่วัดนั้นมารออยู่ข้างนอก ครั้งนั้นเธอรับปากว่าจะถวายเงิน ๑ เหรียญ เวลานี้ท่านมารับเงิน” สามีตกใจมาก บอกว่า “โธ่เอ๋ย! ข้าพเจ้าไม่อยากให้เงินท่าน ๑ เหรียญ เธอออกไปบอกกับท่านว่า ข้าพเจ้ากำลังเจ็บหนัก ไม่สามารถรับแขกได้ ขอให้เขากลับไปก่อน” ภรรยาเข้าใจถึงความขี้เหนียวของสามี จึงออกไปบอกกับพระสงฆ์ว่า “ต้องขอโทษด้วย สามีข้าพเจ้าเจ็บหนัก ไม่สามารถรับแขก ขอให้ท่านกลับไปก่อน”
พระสงฆ์จึงบอกว่า “เขาเจ็บป่วยหรือ! อาตมาต้องทำหน้าที่ให้ได้ (ทุกคนหัวเราะ) อาตมาจะช่วยสวดมนต์ให้ช่วยให้เขาหายเร็วๆ “ ดังนั้น ภรรยาจึงเข้าไปบอกกับสามี สามีบอกว่า “โธ่เอ๋ย! ไม่เอา! ไม่เอา! เธอออกไปบอกกับท่านว่า “ข้าฯตายไปแล้ว (ทุกคนหัวเราะ) บอกให้ท่านกลับไป” ภรรยาจึงออกไปอย่างเสียมิได้ บอกกับพระสงฆ์ว่า “ขออภัย! สามีข้าพเจ้าได้ตายเสียแล้ว ขอให้ท่านกลับไปก่อน” พระสงฆ์รูปนั้นก็แสนจะขยัน มิเพียงไม่ยอมกลับไป หากยังบอกว่า “ถ้าเช่นนั้น อาตมาต้องเข้าไปสวดมนต์เพื่อให้เขาหลุดพ้น”
ตอนนั้นสามีตายแล้ว พูดไม่ได้แล้ว (คนหัวเราะ) ภรรยาจึงจำใจต้องให้พระสงฆ์เข้าไปสวดมนต์ ท่องพระสูตรทำพิธีมากมาย แล้วจึงนำตัวเขาใส่ลงไปในโรงศพ ส่งไปที่เมรุเตรียมเผา ขณะที่กำลังจะนำโรงศพไปเผา เขาจึงรีบกระโดดออกมา กล่าวว่า “ยังๆ ๆ! อย่าเผา อย่าเผา! ข้าฯยังไม่ตาย!”
ขณะนั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมจึงได้แปลงร่างกลับสู่ร่างเดิม แล้วบอกกับชายผู้นั้นว่า “อาตมาเห็นท่านไปสุสานต้องลำบากและจริงใจ อาตมาดีใจมาก ขณะนี้ท่านสามารถขออะไรก็ได้ อาตมาจะช่วยให้ท่านสมหวัง” ชายผู้นั้นคุกเข่าลงแล้วร้องไห้ พวกเธอทราบไหมว่า เขาขออะไร? เขาขอว่า “พระโพธิสัตว์กวนอิม ให้อภัยกับข้าพเจ้าด้วย ขอให้ท่านยกเลิกการถวายเงิน ๑ เหรียญ!” (ทุกคนหัวเราะ) พระโพธิสัตว์กวนอิมก็ส่ายหน้าแล้วเดินจากไป สรรพสัตว์ก็เป็นเช่นนี้ ต่อให้พุทธโพธิสัตว์มาโลกนี้ ก็ไม่มีประโยชน์...
Be Veg, Go Green 2 Save The Planet