ขโมยกลายเป็นผู้บำเพ็ญ....
คีตากะ
ปราศรัยโดยท่าน Suma Ching Hai, ฟอร์โมซา
๑๙ กุมภาพันธ์ ๑๙๙๕ (เดิมเป็นภาษาจีน)
ครั้งหนึ่ง ขณะที่ขโมยคนหนึ่งกำลังพยายามจะขโมยของในพระราชวัง เขาก็แอบได้ยินการสนทนากันระหว่างขันทีสองคนว่า “พระราชาของเราอยากจะให้เจ้าหญิงแต่งงานกับนักบวชที่กำลังบำเพ็ญอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา เรื่องนี้เธอคิดว่าอย่างไร?”
ขันทีอีกคนก็พูดว่า “ก็ดีนี่! ดีแล้ว! เจ้าหญิงเป็นบุคคลที่มีค่ามากที่สุดในประเทศนี้ และพวกนักบวชที่กำลังบำเพ็ญอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคาก็เป็นบุคคลที่หาได้ยาก, มีคุณธรรม และประเสริฐสูงส่งในโลกนี้เช่นกัน ฉันก็ย่อมจะยินดีและเห็นด้วยกับความคิดนี้เป็นธรรมดา!” พอได้ยินคำพูดเหล่านี้เข้า ขโมยคนนั้นก็เลิกล้มความคิดที่จะลักขโมย แล้วก็แอบหลบกลับไปเป็นนักบวชแทน (มีเสียงหัวเราะ)
เขารีบโกนผมแล้วก็ใส่ชุดนักบวชแล้วก็ไปนั่งสมาธิปะปนกับนักบวชเหล่านั้น หวังใจว่าเจ้าหญิงจะกลายมาเป็นภรรยาของตน
หลายวันต่อมา พระราชาก็ส่งขันทีไปยังชายฝั่งแม่น้ำคงคาจริงๆ เพื่อถามนักบวชเหล่านั้นว่าอยากแต่งงานกับเจ้าหญิงหรือไม่ โดยถามไปทีละคน พอได้รับคำตอบปฏิเสธก็ถามคนต่อไปเรื่อยๆ
พวกนักบวชเป็นผู้บำเพ็ญที่ดี และไม่สนใจอะไรในตัวเจ้าหญิง ดังนั้นทุกคนจึงปฏิเสธกันหมด มีขโมยคนนั้นคนเดียวที่ยังไม่ได้ถูกถาม กำลังนั่งใจเต้นตุ้บๆ แทบจะบ้าอยู่แล้ว ในใจเขาส่งเสียงร้องโหวกเหวกอยู่ว่า ฉันอยู่ที่นี่! มาถามฉันเร็วๆ เข้าซี (มีเสียงหัวเราะ) ในที่สุดขันทีก็เข้าไปถามเขา พอขันทีคนนั้นถามเขา เขาก็นั่งเงียบเฉยอยู่ (มีเสียงหัวเราะ) ไม่พูดอะไรเลยสักคำ คนอื่นๆ ทุกคนบอกว่าเขาไม่ต้องการจะแต่งงานกับเจ้าหญิง แต่เขาไม่พูดอะไรเลย มันก็แตกต่างกันมากอยู่แล้ว
ขันทีก็ดีใจมากไปรายงานให้พระราชาทราบว่า “มีนักบวชที่บำเพ็ญอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคาคนหนึ่งดูเหมือนกับคิดว่าจะแต่งงานกับเจ้าหญิงเหมือนกัน คือเราถามเขาแล้วเขาไม่ได้ปฏิเสธ ซึ่งก็หมายความว่าเขายินยอมถึง ๙๐ เปอร์เซ็นต์แล้ว เพียงแต่ว่าเขายังไม่ได้ตัดสินใจพูดออกมาว่ายินยอมด้วยจริงๆ เท่านั้นเอง ในระหว่างนักบวชทั้งหมดที่เราถามดูแล้ว มีเขาคนเดียวที่ไม่ได้ตอบปฏิเสธ”
ด้วยความยินดีกับข่าวดีนี้มาก พระราชาก็คิดว่าพระองค์ควรจะไปด้วยตัวเองและก็เอาของขวัญบรรณาการไปให้เยอะๆ แล้วนักบวชนั้นก็จะยอมแต่งงานกับเจ้าหญิงแน่นอน
พระราชาจึงพาแม่ทัพนายกองและเสนาบดีทั้งหมดของพระองค์รวมทั้งขันทีด้วย เดินทางไปยังแม่น้ำคงคาที่ขโมยกำลังนั่งสมาธิอยู่ แล้วพระองค์ก็ขอร้อง “นักบวช” นั้นด้วยความเคารพยกย่องมากให้แต่งงานกับเจ้าหญิง เนื่องจากพระราชาก็บำเพ็ญปฏิบัติเช่นเดียวกัน ดังนั้นพระราชาจึงไม่อยากให้เจ้าหญิงแต่งงานกับคนธรรมดาทั่วไป พระราชาอยากให้พระธิดา แต่งงานกับผู้บำเพ็ญมากกว่า เพื่อที่เธอจะได้บำเพ็ญไปด้วยพร้อมกับสามีที่ดี, ครูที่ดี พระราชาจะพอใจมากที่ได้ลูกเขยที่สามารถสอนวิธีทำสมาธิและวิธีเป็นคนที่มีคุณธรรมแก่เจ้าหญิงได้ ดังนั้นพอได้ยินว่ามีผู้บำเพ็ญคนหนึ่งที่กำลังบำเพ็ญสมาธิอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคาจะยอมแต่งงานกับเจ้าหญิงพระองค์จึงดีใจมาก ก้มกราบแสดงความเคารพเขาอย่างยกย่องมาก และขอให้เขาแต่งงานกับพระธิดา
ขโมยคนนั้นรู้สึกพึงพอใจมากแต่แล้วเขาก็คิดขึ้นมาว่า ฉันเพิ่งจะโกนผมแล้วก็แต่งตัวชุดนักบวชปลอมตัวเป็นนักบวชผู้บำเพ็ญมาไม่นานเอง แต่พระราชากับเสนาบดีของพระองค์ทุกคนยังปฏิบัติต่อฉันอย่างเคารพนับถือมากขนาดนี้ แล้วก็เสนอทรัพย์สมบัติมีค่ามากมายให้แก่ฉันด้วย ฉันนึกไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นไปได้ขนาดไหนถ้าฉันจะกลายเป็นนักบวชจริงๆ เป็นผู้บำเพ็ญคนหนึ่งจริงๆ! ”
หลังจากนั่งคิดพิจารณาดูแล้ว เขาก็ไม่อยากจะแต่งงานกับเจ้าหญิงอีกต่อไป! (มีเสียงหัวเราะ) เขากลับเริ่มต้นบำเพ็ญอย่างเอาจริงเอาจังแทน ตอนแรกเป็นการแกล้งทำ แต่ตอนนี้เขากลายเป็นนักบวชจริงๆ คนหนึ่งไปแล้วเพราะเขาได้รู้ได้เข้าใจถึงประโยชน์ของการบำเพ็ญแล้ว นับแต่นั้นมา ขโมยคนนั้นก็นั่งสมาธิและบำเพ็ญอย่างจริงใจมาก จนในที่สุดเขาก็ได้รู้แจ้งและกลายเป็นพุทธะ เป็นผู้บำเพ็ญที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่ง...
ฺBe Veg, Go Green 2 Save The Plane