Asssasin วีรบุรุษแห่งเลือด ตอนที่ 4 (V.remake)
[HSM]beelzerbub
บทที่ 4 ตระกูลช่างใหญ่โคโรเนล
แสงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบดวงตาของนักเวทย์สาว เธอรีบลุกขึ้นแล้วมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง ห้องที่เธออยู่หันไปทางหลังโรงแรม เธอมองออกไปแล้วถอนหายใจ เมื่อเห็นว่าเต๊นสีน้ำตาลยังคงอยู่ หน้าเต็นมีแอซซาซินหนุ่มนั่งดูอะไรสักอย่างอยู่บนขอนไม้ที่ใช้แทนม้านั่ง เขาคงเข้ามาอาบน้ำในโรงแรมเรียบร้อยแล้ว เธอเดินเข้าไปอาบน้ำสักพักก็ออกมาเปลี่ยนชุด ชุดเก่าถูกพนักงานของโรงแรมเก็บไปซักล้าง เมื่อแต่งตัวเสร็จเธอก็เดินมาหาลูฟี่ แอซซาซินหนุ่มยิ้มให้เธอก่อนจะก้มหน้าลงอ่านกระดาษแผ่นหนึ่ง
"ทำอะไรอยู่เหรอ" อลิซถาม
"อ๋อ... ก็ภารกิจกำจัดมอนสเตอร์น่ะ คราวนี้รู้สึกว่าจะเป็นเอ่อ... วิสเปอร์ (Whiper) ตัวหนึ่งน่ะออกมาจากเกฟเฟ่นทาวเวอร์ แล้วก็ก่อกวนชาวเมืองวุ่นวายไปหมด ตอนนี้ฉันกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะไปดีรึเปล่า เพราะว่ามอร็อคกับเกฟเฟ่นห่างกันพอสมควร เวลาเดินทางอาจจะเยอะเกินไปหน่อย" ลูฟี่บอกแล้วค่อยๆลุกขึ้นยืน "ไปหาของใช้จำเป็นในตลาดเถอะ" เขาบอกก่อนจะเดินนำไป มีอลิซเดินอยู่ข้างๆ
"นี่ ลูฟี่เมื่อวานนี้ทำไมนายถึงใช้สฟิงซ์เป็นที่ทดลองให้ฉันดูล่ะ" ระหว่างที่เดิน อลิซถามเรื่องที่ค้างคาใจ แม้เขาบอกว่าจะทดลองกาต้าให้เธอดูแต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเข้าไปในสถานที่อันตรายแบบนั้นเลยนี่
"ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่ไม่อยากไปไกลเท่านั้นเอง" พอลูฟี่พูดจบ อลิซก็จ้องหน้าลูฟี่ประมาณว่า 'แค่เพราะขี้เกียจเนี่ยนะ' แต่แอซซาซินหนุ่มกลับหลบตา ทำให้เธอยังรู้สึกสงสัยอยู่ราวกับว่าเขาปิดบังความจริงบางอย่างจากเธอ
"นี่ ลูฟี่นายมีปีกผีเสื้อสักสามอันมั้ย" จู่ๆอลิซก็ถามขึ้นทำเอาลูฟี่สะดุ้ง
"เอ่อ... ก็พอมีอ่ะนะ ทำไมเหรอ" ลูฟี่ถามงงๆ
"งั้นไปเถอะ... ไปเกฟเฟ่นกัน ฉันขอเดินทางไปกับนายด้วย" อลิซพูดอย่างร่าเริง ทำเอาลูฟี่ได้แต่ยืนเกาหัวอย่างไม่เข้าใจ ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าการกระทำของเขาทั้งสองถูกจับตาดูโดยชายคนหนึ่ง ทันใดนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของชายคนนั้น อาภรณ์สีดำปลิวไสวก่อนร่างทั้งร่างจะหายไปทิ้งไว้เพียงเส้นแสง 'สักวันเราคงพบกันแน่'
ทั้งสองตัดสินใจวาร์ปผ่านบริการคาฟร่ามายังเมืองหลวงพรอนเทร่าก่อน เนื่องจากลูฟี่มีธุระกับญาติคนหนึ่งเป็นช่างตีดาบที่อยู่ในเมืองนี้ ทั้งคู่เดินมาจนกระทั่งถึงบ้านหลังหนึ่งมีป้ายสลัก 'โคโรเนล' สีทองไว้อย่างสวยงามที่ด้านหน้า ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะเปิดประตูลูฟี่ก็ต้องดึงอลิซหลบแม่ค้า (Merchant) คนหนึ่งที่ลากรถเข็นบรรจุของพะรุงพะรังซึ่งสวนออกมา ลูฟี่สังเกตุในรถแล้วส่วนใหญ่เต็มไปด้วยแร่เหล็ก (Steel) และบรรดาหินบรรจุเวทมนต์ (Gemstone) ไว้ พอทั้งคู่เปิดประตูเข้าไป อลิซก็ต้องตะลึงกับความอลังการภายในบ้านหลังนี้ ด้านหน้าประตูเมื่อเปิดเข้ามาจะเป็นเคาร์เตอร์พนักงานต้อนรับตัวใหญ่ตั้งอยู่มีรูปภาพประดับประดาตามฝาผนังซึ่งแต่ภาพคงมีราคาแพงนาดูทีเดียว ตุ๊กตาของมอนสเตอร์ชนิดต่างๆที่ถูกทำโดยช่างฝีมือเพียงไม่กี่คน ถูกจัดใส่ตู้ไว้อย่างสวยงาม ลูฟี่พาอลิซไปนั่งรอที่ม้านั่งติดกับประตูทางเข้า เมื่อลูกค้าเหลือน้อยลงเรื่อยๆจนหมด ก็มีชายหน้าบากร่างใหญ่เดินมา เขาทำท่าเหมือนจะเดินผ่านลูฟี่ไปแต่ก็หันกลับมามอง
"ลูฟี่รึ..." เขาถามอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
"ครับผม" ลูฟี่ยืนขึ้นตอบอย่างนอบน้อม
"โอ้...ไอ้หลานรัก หายไปไหนมาเสียตั้งหลายอาทิตย์หึ... ข้ารำคาญเสียงบ่นเจ้าจีจี้แค่ไหนเจ้าคงนึกไม่ออกแน่ ว่าแต่นักเวทย์สาวคนนั้นมาทำอะไรรึ ตอนนี้คิวว่างแล้วนะ แต่วัตถุดิบในการซ๋อมอาวุธหมดเสียแล้ว" ชายหน้าบากหันมาคุยกับอลิซแทน
"ไม่ใช่หรอก เธอมากับผม อลิซนี่ลุงโจนาธาน ลุงครับนี่อลิซ เอ่อ... เราสองคนเจอกันเมื่อวานนี้ตอนที่ผมไปช่วยกองทัพน่ะครับ" คำพูดของเขาทำเอาอลิซสะดุ้งหันมามองหน้าลูฟี่
"ชะ... ช่วยกองทัพงั้นเหรอ งั้นนายก็คือวีรบุรุษแห่งเลือดที่เขาลือกันน่ะสิ" อลิซพูดและหยิกแขนตัวเอง ราวกับว่าเธอกำลังฝัน แต่สิ่งที่ได้ตอบแทนคือความเจ็บแปล็บและรอยหยิกที่เกิดขึ้นบนแขนเธอ
"อ้อ... น่าจะใช่มั้ง ก็มีแอซซาซินร่วมกองทัพไปคนเดียวนี่ รู้สึกว่าที่ได้ฉายานี้เพราะบัดดี้โลวของลูฟี่เปื้อนเลือดทั่วใบมีดแทบจะอาบไปทั้งเล่มเลยตอนที่การต่อสู้ยุติลง ตอนนั้นทหารเห็น..." ระหว่างที่โจนาธานกำลังพูดอยู่นั้นก็มีเสียงแทรกขึ้นมา
"พี่ลูฟี่ พี่จิน พี่เจน พี่ลูฟี่กลับมาแล้ว" เด็กผู้หญิงคนหนึ่งในชุดสีชมพูน่ารักเปิดประตูเข้ามาเห็นเขาพอดี เธอตะโกนเรียก มีพ่อค้าหนุ่มคนหนึ่งกับแม่ค้าสาวอีกคนหนึ่งตามเข้ามา เด็กหญิงวิ่งเข้ามาเกาะขาของลูฟี่อย่างยินดี ลูฟี่ย่อตัวลงเพื่อคุยกับเด็กหญิง
"ว่าไงจีจี้ เป็นไงบ้างฮะเรา ดื้ออีกล่ะสิ ลุงเขามาบอกพี่แล้วนะ คราวหน้าพี่ไม่พาไปกินเยลลี่ที่อิซลูด (Izlude) แล้วนะ" ลูฟี่ตอบ จีจี้ทำแก้มป่อง แล้วยกนิ้วโป้งใส่ลูฟี่
"ก็พี่ลูฟี่น่ะ อยู่ดีๆก็ออกจากร้านไปเฉยๆ ทั้งๆที่สัญญาว่าจะพาหนูไปกินตั๊กแตนทอดที่อิซลูดแท้ๆ หนูโป้งแล้วด้วย" แล้วเธอก็ทำท่าเมินใส่ลูฟี่ แม้หน้าจะแกล้งหันหน้าไปทางอื่นแต่สายตายังมองมาที่ลูฟี่ราวกับว่ารอว่าเมื่อไหร่ชายหนุ่มจะง้อ
"อ้าว... เหรอ แป่ว... จริงๆด้วยสินะ พี่ขอโทษจีจี้ งั้นคืนนี้พี่จะพาไปนะ พี่สัญญา เกี่ยวก้อยๆ" ลูฟี่ยืนนิ้วก้อยออกมา จีจี้หันมองมาก่อนจะยิ้มแล้วยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวไขว้กันไว้
"สัญญาแล้วนะ" เด็กหญิงทำท่าดีใจกระโดดไปรอบๆลูฟี่ มีอลิซยืนมองดูทั้งสองอยู่ห่างๆพลางอมยิ้ม ลูฟี่หันไปหาสองเมอร์แชน
"ว่าไงจิน เจน" ลูฟี่ทักทายทั้งคู่ ทั้งคู่ยิ้มตอบแต่ไม่พูดอะไร ซึ่งเขาก็รู้ว่าทั้งคู่เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เล็กแล้ว เพราะว่าแม่ของทั้งสาเสียไปตั้งแต่จีจี้เกิด ทั้งสามจึงอาศัยอยู่พ่อเพียงสี่คน แต่ตระกูลโคโรเนลไม่ใช่ตระกูลเล็ก แต่เป็นตระกูลใหญ่ขึ้นชื่อด้านการตีอาวุธและซ่อมแซมชุบเกราะทุกชนิด และที่เป็นเอกลักษณ์เด่นของตระกูลนี้มีสองข้อใหญ่ๆคือ ทุกคนในตระกูลนี้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการค้าทั้งหมดและชื่อทุกคนในตระกูลนี้ขึ้นต้นด้วย 'จ'
"นี่ พี่สาวคะ พี่เป็นแฟนพี่ลูฟี่หรอ" จีจี้ที่ไม่รู้ว่าไปหาอลิซตอนไหน กำลังดึงผ้าคลุมเธอแล้วถามด้วยเสียงที่ได้ยินเพียงสองคน อลิซมองจีจี้อย่างเอ็นดูในความไร้เดียงสาของเด็กหญิง
"ไม่ใช่จ้ะ พี่บังเอิญเดินทางไปทางเดียวกันน่ะ" อลิซตอบ จีจี้ทำแก้มป่องแล้ววิ่งไปหาลูฟี่ที่กำลังคุยอยู่กับจิน เธอสะกิดที่ขาเด็กหนุ่ม ลูฟี่หันมามอง เด็กหญิงกวักมือให้ลูฟี่ย่อตัวลง เขาย่อตัวอย่างว่าง่าย เด็กหญิงกระซิบที่ข้างหูแอซซาซินหนุ่ม อลิซจ้องมองทั้งคู่อยู่ เธอไม่ได้ยินว่าทั้งสองคุยอะไรกัน แต่เธอสังเกตุจากสีหน้าของลูฟี่ เธอสังเกตุเห็นใบหน้าของลูฟี่แดงขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่าเด็กหญิงน่าจะถามเรื่องเดียวกับที่ถามเธอ ลูฟี่หันมามองอลิซ แต่เธอแกล้งมองไปทางอื่นเสียก่อน เขาจึงก้มไปกระซิบอะไรสักอย่างกับเด็กหญิง
แล้วเย็นวันนั้น ลูฟี่ก็เสนอตัวเป็นเจ้ามือพาทุกคนไปทานอาหารที่ร้านอาหารที่เมืองอิซลูด จีจี้ทำตาโตเมื่อเห็นขาตั๊กแตน (Rocker) ชุบแป้งทอดสีเหลืองน่ากิน ที่เมืองนี้มีอาหารแปลกๆอีกมากมายที่ทำจากมอนสเตอร์พื้นเมืองที่หาได้ง่ายทั้งหนวด (tentacle) ที่เป็นอาวุธของไฮดร้า (Hydra) วัชพืชที่โตในเกาะหัวกระโหลกบิบาลัน (Bybalan) ที่นำมาทำเป็นเยลลี่ เนื้อกระต่าย (Lunatic) ทอด น้ำผลไม้ชนิดต่างๆจากเมืองพาย่อน แล้วที่ดูจะขึ้นชื่อที่สุดในร้านแห่งนี้คือหนอน (Faber) ผัดราดซอส ทั้งหกทานอาหารกันอย่างออกรส ซึ่งจีจี้ก็ดูจะเจริญอาหารเป็นพิเศษ ตอนนี้ภายในร้าน มีคนอยู่สองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือกลุ่มของลูฟี่ ส่วนอีกกลุ่มดูแล้วน่าจะเป็นนักเดินทางพเนจรมากกว่าคนในเมือง ด้วยการแต่งตัวแบบเรียบๆ หมวกสีเขียวบนหัวบ่งบอกความเป็นนักดนตรีพเนจร (Bard) ส่วนหญิงสาวในกลุ่มก็แต่งตัวค่อนข้างหวาบหวิวซึ่งก็คือนักเต้น (Dancer) กลุ่มนักเดินทางสังเกตุดูแล้วออกจะเยอะไปสักนิด มีประมาณ 7-8 คน อาจจะกำลังไปจัดการแสดงที่ไหนสักแห่ง ในขณะที่ทั้งหมดกำลังทานอาหารกันอยู่นั่น ลูฟี่และชายคนหนึ่งในกลุ่มนักดนตรีพเนจรรับรู้ถึงจิตมุ่งร้ายอย่างแรงกล้า ทั้งคู่เพ่งมองไปยังทางเข้าร้าน ลุงโจนาธานน่าจะรู้ตัวแล้วเช่นกัน เพราะเขาคายเนื้อกระต่ายทอดที่กำลังเคี้ยวอยู่ในปากออกมาพลางก้มลงไปหาอาวุธคู่กาย แต่บุคคลที่เหลือยังไม่รับรู้ถึงอันตรายที่กำลังเกิดขึ้น อลิซเงยหน้าขึ้นมองลูฟี่จึงสำนึกถึงสิ่งผิดปกติ เธอมองไปยังโต๊ะนักเดินทาง ก็สบเข้ากับตาคู่หนึ่งที่กำลังจ้องมา
จบบทที่ 4 ตระกูลช่างใหญ่โคโรเนล