28 กุมภา ไม่ใช่วันวาเลนไทน์ของผู้ใด แต่เป็นวันโชคร้ายของข้าพเจ้า เหตุการณ์นี้เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ข้าพเจ้าเริ่มไปทำธุรกรรมทางการเงินที่แบ็งค์ ก.ไก่(นามสมมติ)วันนี้เอง เย็นย่ำอาทิตย์อัศดง ข้าพเจ้าถือสมุดคู่ฝาก(ถือมาปรับบัญชี)ยืนอยู่หน้าแบ็งค์ด้วยความเศร้าโศก(แบ็งค์แถวนิคมอุตสาหกรรมเลิกค่ำเป็นปกติ) โอ...ฟ้าส่งข้าพเจ้ามาเกิดแล้ว ทำไมต้องทำให้ข้าพเจ้าลืมเอาบัตร ATM มากดเงินด้วย... หลังจากที่ยืนทำใจมองธนาคารเล็ก ๆ แต่แออัดไปด้วยผู้ใช้บริการแห่งนั้นเกือบ 5 นาที ข้าพเจ้าก็ทำตัวเป็นแมลงสาบสอดแทรกตัวไปยังพื้นที่อันน้อยนิดเป็นผลสำเร็จ อะโห คิวที่สี่ร้อยหกสิบเอ็ด พระเจ้า แล้วกระผมจะมีโอกาสได้ใช้บริการกับเขาไหมเนี่ย.... เร็วเท่าความคิด ข้าพเจ้าฉกตัวเข้าไปยังตู้บัตรคิวอย่างรวดเร็ว โอ้แม่จ้าว ห้าร้อยสาม ห้าร้อยสามทีเดียวหรือนี่ชีวิตฉันข้าพเจ้าส่งเสียงร้องด้วยความรันทดสุดห้วงดวงจิต โอ...มหาชนผู้ทุกข์ยาก ทำไมจึงมากมายเยี่ยงนี้หนอ?ข้าพเจ้าพยายามสะบัดความขมขื่นออกไปตามประสาของคนสู้ชีวิต เอ...ทำไมเราต้องยืนแกร่วรอคิวในแบ็งค์แน่น ๆ อย่างนี้ด้วยล่ะ หะหาเรายังมีอย่างอื่นที่ต้องทำฆ่าเวลาไปก่อนก็ได้นี่ อย่างเช่นไปซื้อคอนแท็คเลนและจ่ายค่าโทรศัพท์ก่อนเป็นต้นวิญญาณส่วนที่มองโลกในแง่ดีกระซิบกระซาบ เอาเถอะ ยังไงก็เหลืออีกตั้งสี่สิบคิว รีบไปตอนนี้ก็ยังไม่สายหลังจากที่ข้าพเจ้าไปเข้าคิว(อีกแล้ว)จ่ายค่าโทรศัพท์มาเรียบร้อย ข้าพเจ้าก็รีบกลับมาที่แบ็งค์แห่งเดิมเพื่อชะเง้อชะแง้เหลียวแลดูเลขที่คิวของตัวเองอย่างคนมีความรับผิดชอบ สี่ร้อยแปดสิบสาม เวลายังเหลืออีกเพียบเลยนะเนี่ย เอาเถอะแวะไปซื้อลูกกะตาสำรองถอดเก็บได้(คอนแท็คเลน)ก่อนก็น่าจะทันนะหลังจากที่ข้าพเจ้าวิ่งเฟี้ยวฟ้าว ไปหาซื้อของกลับมา ข้าพเจ้าก็มายืนอยู่น่าเค้าน์เตอร์อีกครั้ง ...ขอเชิญหมายเลข สี่ร้อย...เก้า...สิบเจ็ด มารับบริการที่ช่อง...สอง...ค่ะ....ขอเชิญหมายเลข....ข้าพเจ้าฟังเสียงเรียกจอมปลอมที่เปล่งจากปากของเครื่องจักรกลที่ไร้สมองเหล่านั้นอย่างผาสุก เกือบสองชั่วโมงของข้าพเจ้า ในที่สุดก็ใกล้เดินทางมาถึงแล้ว ฮ่าฮ่า ...ขอเชิญหมายเลข สี่ร้อย...เก้า...สิบแปด มารับบริการที่ช่อง...หนึ่ง...ค่ะ....ขอเชิญหมายเลขสี่ร้อย...เก้า...สิบเก้า มารับบริการที่ช่อง...สอง...ค่ะ.... ข้าพเจ้าลุกยืนอย่างผึ่งผาย(ก็มันมีอยู่แค่สองช่องเองนี่) ห้าร้อยสาม ห้าร้อยสามข้าพเจ้านับถอยหลังอย่างเริงร่า ...ขอเชิญหมายเลข ศูนย์...หนึ่ง มารับบริการที่ช่อง...หนึ่ง...ค่ะ.... เอ๋ ไม่สิ ไม่ๆๆๆๆ ไม่ใช่มั๊ง มันอาจไม่ใช่อย่างที่เราคิดก็ได้ ยังเหลืออีกตั้งหนึ่งช่องเชียวนะ ...ขอเชิญหมายเลข ศูนย์...สอง มารับบริการที่ช่อง...สอง...ค่ะ.... เฮ้ย ไม่ใช่แล้ว!!!ข้าพเจ้าลุกพรวด เหมือนสุนัขถูกรถเหยียบหาง นี่ๆๆๆๆ เดี๋ยวก่อนครับ ทำไมสี่ร้อยเก้าสิบเก้า แล้วกลายเป็นศูนย์หนึ่ง ศูนย์สองเลยล่ะ แล้วห้าร้อยมันหายไปไหน(ไอ้ห้าร้อยละลายเอ้ย/ข้าพเจ้าคิด) ขอโทษค่ะ เลขห้าร้อยมันไม่มีหรอกค่ะเสียงหวานๆจากเคาน์เตอร์ดังสวนกลับมาฉับพลัน ท่ามกลางคลื่นความตกตะลึงของมหาชน(ห้าร้อยแม่งละลายหายไปจริง ๆด้วย) ก็นี่ไงครับ เลขที่ห้าร้อยสามของผมเนี่ยมันจะไม่มีได้ยังไงข้าพเจ้าพยายามสะกดคำว่า แหกตาดูสิโว้ยไม่ให้หลุดออกจากปากอย่างยากเย็น ขอโทษค่ะ ระบบคงขัดข้อง รบกวนลูกค้าไปกดบัตรคิวใหม่นะค่ะพนักงานท่านนั้นพยายามคลี่คลายสถานการณ์ โดยมีเจ้าหน้าที่(ตำรวจ)ประจำแบ็งค์ช่วยอารีกดบัตรคิวให้ใหม่ ยี่สิบเอ็ด หมายเลขยี่สิบเอ็ด คุณจะบ้าเหรอ ผมรอคิวมาเกือบสองชั่วโมงแล้วนะ คุณจะให้ผมรอคิวใหม่อีกยี่สิบเอ็ดคิวเชียวเหรอ คุณจะมาทำอย่างนี้กับผมไม่ได้นะขีดสุดแห่งความอดทนขาดผึงโดยฉับพลัน บรรยากาศภายนอกเริ่มมืดแล้ว หิวข้าวก็หิวเพราะมัวแต่รอ(พวกมึง)มาตั้งสองชั่วโมงกว่า ขอโทษครับ ผู้จัดการแบงค์อยู่ที่ไหน ผมขอเจรจาด้วยหน่อยซิข้าพเจ้าพยายามเดินเข้าไปยังจุดที่คาดว่ามีผู้จัดการแบ็งค์นั่งอยู่ เดี๋ยวคุณลูกค้านั่งทำรายการโต๊ะนี้เลยก็ได้ค่ะ เชิญค่ะพนักงานท่านหนึ่งพยายามตะล่อมบอก ...เก้า....แปด....เจ็ด...เรามาดีนะ เรามาดี ไม่ได้มาหาเรื่อง....ข้าพเจ้าพยายามนับถอยหลังเพื่อสะกดอารมณ์ ...หก....ห้า...สี่....สาม...ไม่เป็นไรนะไม่เป็นไรของมันผิดพลาดกันได้....ข้าพเจ้าบอกตัวเองเช่นนั้นก่อนส่งมอบสมุดคู่ฝาก พร้อมใบฝากกับใบโอนอย่างละใบวางไว้ที่น่าเคาน์เตอร์ ขอโทษที่นะคะ ที่ให้บริการขัดข้องพนักงานท่านนั้นออกตัวอย่างจืดๆ ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไรขานี้ก็พยายามรักษามารยาทอย่างสุดฤทธิ์เช่นกัน ข้าพเจ้าจับตาดูการคีย์ข้อมูลของพนักงานท่านนั้นเขม็ง(เชื่อเหอะ พนักงานและลูกค้าทั้งแบ็งค์ก็จับตามองเราสองอยู่ด้วยเช่นกัน) รายการเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ค่าโอนเงินสดสองพันสองร้อยบวกค่าธรรมเนียมห้าสิบ ยอดถอนทั้งหมดหนึ่งหมื่นเก้าพันเจ็ดร้อยห้าสิบบาทค่ะเสียงขานรายการดังเป็นรถด่วนขบวนสุดท้าย เดี๋ยวๆๆๆๆ ถ้าทางคงจะมีการเข้าใจผิดกันแล้วล่ะครับผมชะโงกหน้าไปค้านอย่างเร่งด่วน โอ.เค. ดูใบถอนนี่นะครับ ผมต้องการถอนเงินสดสองหมื่นสองพันบาทออกจากบัญชีนี้ข้าพเจ้าพูดเสร็จก็หยิบใบโอนขึ้นมา และผมก็ขอโอนเงินอีกสองพันสองร้อยบาทจากในบัญชีนี้ไปยังอีกบัญชีนึงด้วยข้าพเจ้าเน้นถ้อยคำอย่างชัดเจน พร้อมสบตาทุกครั้งที่พูด ก็นี่ไงคะ คุณถอนเงินสดจากในบัญชีสองหมื่นสองพันบาทพร้อมโอนเป็นเงินสดสองพันสองร้อยบาทบวกค่าธรรมเนียมอีกห้าสิบบาท คงเหลือเป็นเงิน.... เดี๋ยวๆๆๆๆ คุณฟังผมอีกครั้งนะ คือว่าวันนี้ ผมต้องการใช้เงินสดสองหมื่นสองพันบาทข้าพเจ้าชี้ไปที่ใบเบิก และ นี่ ผมต้องการโอนเงินจากบัญชีนี้...ข้าพเจ้าชี้ไปที่รอยขีดในช่องเงินโอนของใบโอน ผมต้องการโอนเงินจากบัญชีนี้ ไม่ใช่จากเงินสด คุณเข้าใจมั้ยว่าผมไม่ได้ติ๊กช่องเงินสดข้าพเจ้าพยายามสะกดความรู้สึกขุ่นมัวที่ทะยานพุ่งปรี๊ดอย่างสุดความสามารถ แต่มันก็มีค่าเท่ากัน.... มันไม่เท่ากันหรอก(โว้ย)คร๊าบ เพราะผมต้องการใช้เงินสองหมื่นสองพันบาทวันนี้ ไม่ใช่หมื่นเก้าอย่างที่คุณเข้าใจ โอ.เค.งั้นคุณเขียนใบเบิกอีกใบใหม่ข้าพเจ้าหัวเราะหึหึ จรดปลายปากกาเขียนใบเบิกใหม่อีกรอบ แต่เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ เมื่อกี๊คุณว่าค่าโอนเท่าไหร่นะ ห้าสิบบาทค่ะ ห้าสิบบาท...ค่าโอนมะเขืออะไร(วะ)ตั้งห้าสิบบาทเสียงข้าพเจ้าดังลั่น มันไม่ใช่ความรู้สึกโกรธแล้ว แต่เป็นความรู้สึกตกใจที่สุดในโลกมากกว่า ค่ะ ห้าสิบบาท ถ้าคุณถอนเงินในนี้ แต่ถ้าคุณใช้บัตร ATM กดเงินจากภายนอกจะถูกกว่านี้ค่ะในหัวข้าพเจ้ามองเห็นบัตร ATM กำลังนอนเยาะเย้ยข้าพเจ้าอยู่ที่บ้าน พร้อมด้วยดวงวิญญาณครึ่งหนึ่งของเงินห้าสิบบาทกำลังลอยละล่องโบยบินจากไป ท่านอาจจะรู้สึกแปลกใจ ทำไมข้าพเจ้าไม่วีนใส่พนักงานแบ็งค์ผู้นั้น ทั้ง ๆ ที่ข้าพเจ้ากำลังโกรธ แบ็งค์ ก.ไก่ อย่างเหลือล้นพ้นประมาณ เพราะมันไม่ใช่ความผิดของพนักงานที่ปล้นเงินจากความไม่รู้ในกระเป๋าของข้าพเจ้า มีความผิดพลาดต่างๆ มากมายเกิดขึ้นในแบ็งค์แห่งนี้ แต่ทุกความผิดพลาดที่เกิดขึ้นข้าพเจ้าเชื่อมั่นโดยสุจริตใจว่าไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของพนักงาน ข้าพเจ้าอาจโมโหพนักงานเหล่านั้นบ้าง แต่ไม่ใช่ความโกรธเด็ดขาด แต่ตอนนี้ข้าพเจ้ารู้สึกโกรธแล้ว ข้าพเจ้าไม่ได้โกรธพนักงาน(ที่เป็นพนักงานกินเงินเดือนเหมือนข้าพเจ้า) แต่ข้าพเจ้ากำลังโกรธธนาคาร ก.ไก่ !!! คุณปล้นเงินของประชาชน คุณปล้นเงินจากความไม่รู้ของประชาชน วันวันหนึ่งคิดเป็นกี่สิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน แล้วตอนนี้ สคบ.ไปซุกหัวอยู่ที่ไหน ทำไมไม่คิดจะ(แหก)ตาดูบ้าง ว่าการที่ธนาคาร(ที่มีรัฐบาลเป็นประกัน) แอบงุบงิบขึ้นค่าธรรมเนียมธุรกรรมลักษณะเดียวกัน ต่างกันก็แต่โอนแบ็งค์กับโอนตู้โดยไม่แจ้งให้ประชาชนทั่วไปรับทราบได้ถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์นั้น จัดเป็นการฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ ถ้าคุณ(มึง)แน่จริง ทำไมไม่ติดประกาศหน้าธนาคารไปเลยล่ะว่าค่าธรรมเนียมที่แบ็งค์กับที่ตู้ไม่เท่ากัน ปัดโธ่เอ้ย ไอ้ธนาคาร ก.ไก่... มืดแล้ว ข้าพเจ้าออกไปเกือบเป็นคนสุดท้ายของแบ็งค์ แต่ความขุ่นมัวคงติดตาตรึงใจของข้าพเจ้าไปอีกนาน ขอบอกเลยว่าความซวยของข้าพเจ้ายังมีอยู่ไม่หมดสิ้นแต่เพียงเท่านี้ เพราะความฉุนขาดของข้าพเจ้าเลยเผลอลืมคอนแท็คเลนไว้ที่หน้าเคาน์เตอร์ธนาคารแห่งนั้นด้วย วันนี้คงไปเอาไม่ทันแล้ว พรุ่งนี้คงหน้ามืดตามัวเหมือนเคยไปทั้งวัน
1 มีนาคม 2554 21:31 น. - comment id 122777
โอ๋ๆๆๆๆ เลยนะคะ พี่ใบไม้.. อะไรกันจะขนาดนั้น..แซมอ่านแล้วทั้งเหนื่อย..ทั้งร้อน..ทั้งหิวแทนเลยนะคะ.. พี่ใบไม้มีความอดทนสูงมากๆ เป็นแซมคงโวยลั่นธนาคารไปแล้ว.. (แซมจอมโวย..ไม่ค่อยวีนค่ะ...) ขนาดมีครั้งหนึ่ง แซมไปต่อบัตรประชาชนที่อำเภอ..แล้วพนักงานงี่เง่ามากๆ แซมพูดเสียงดังเลยว่า นี่ขนาดแซมมีความรู้ จบปริญญา เมืองนอกเมืองนาก็ได้ไปเรียน..ยังไม่เข้าใจระบบของคุณท่าน.. แล้วตาสี ตาสา ยายมา ยายมี จะทำยังไงกันล่ะเนี่ยะ..ในที่สุดท่านหัวหน้าก็มาปรองดอง..ดันจบมาจากที่เดียวกับแซม..พี่ท่านบอกว่า แหมน่าจะบอกแต่แรกว่ามาจากรั้วเดียวกัน... แซมนึกในใจว่า ยังมีหน้ามาเสนอให้ใช้เส้นอีกนะ... บางครั้งก็ต้องทนกับระบบที่ไม่มีระเบียบแบบนี้แหละค่ะ.. มิหนำซ้ำ เวลาแซมมาไทย..เข้าคิวทำไรๆ...ถูกแซงคิวประจำเลย...หลังๆ ต้องหัดแทรกๆๆๆๆบ้าง.... คราวหน้าอย่าลืมบัตรนะคะ.. แล้วสั่งคอนแท็คเลนส์ตาโต จากเกาหลี เค้าส่งให้ถึงบ้านจะได้ไม่ไปลืมไว้ไหนอีก... เสียใจด้วยนะคะ....พรุ่งนี้ขอให้เป็นวันที่ดีๆของพี่ใบไม้...(เพราะตามัว คงไม่ต้องเห็นในสิ่งที่ไม่อยากจะเห็น...นี่ถ้าหูหนวกอีกอย่างจะดีมาก....) คิดถึงพี่ใบไม้ตอนหน้ามุ่ย.... มะขิ่น De Calif.
2 มีนาคม 2554 09:54 น. - comment id 122785
อ่านไปลุ้นไป อืม...ใจเย็นมากเลยค่ะ ถ้าเป็นพิม คงนั่งหน้าหงิก อิอิ แต่ไม่กล้า โวยวายหรือวีนค่ะ ปกติ การโอนเงินจะมีค่าใช้จ่าย อัตรา 20 บาทและค่าธรมเนียมโอนเงิน หมื่นละ10 บาทถ้าไม่ถึงหมื่นก็ 10 บาท แต่ทำไมโอนแค่ 2,000 คุณเสียเงิน 50 บาท ความเป็นจริง 30 บาท เท่านั้นค่ะพิมก็ยังงงๆอยู่ หรือว่า เขาปรับใหม่แล้ว... ปล.พิมรู้แล้วว่าคุณใส่คอนแทคเลนเหมือนพิม