หลายคนคงเคยได้อ่านเรื่อง นิทานดวงดาวหรือ นิทานจากท้องฟ้ากันมาแล้ว เป็นนิทานที่อ่านแล้วรู้สึกประทับใจมากๆมีหลากหลายเรื่องราวให้ได้ซึมซับและสัมผัสตัวอักษร แต่ลองมาอ่านนิทานท้องฟ้าจากคนธรรมดาคนหนึ่ง อีกแง่มุมหนึ่งดูนะคะว่าจะเป็นไง แนะนำตัวละคร ตะวัน จันทรา เมฆ ดวงดาว ...................................... คนส่วนใหญ่มักจะจับคู่ ตะวัน กับ จันทรา เข้าด้วยกัน เหมือนเป็นตัวแทนของ ชาย หญิง หรือ พระเอก กับ นางเอก แต่กลับมองข้ามความจริงข้อหนึ่งไปว่า คู่แท้ คือคนที่อยู่เคียงข้างเราตลอดเวลาต่างหาก ความจริงแล้ว ตะวัน มีคู่ที่อยู่เคียงข้างตลอดมา นั่นคือ เมฆขาวบนท้องฟ้านั่นเอง แต่คนเรามักจะจับคู่ให้ตะวันกับจันทราเสมอเพราะเป็นคู่ที่ใครๆดูแล้วต่างลงความเห็นว่าเหมาะสม ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีเคมีที่เข้ากันได้เลยแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็น เวลา ที่แยกชัดเจนระหว่าง กลางวัน กับ กลางคืน ร้อน กับ เย็น มืด กับ สว่าง ทั้ง ตะวัน และ จันทรา ต่างไม่มีช่วงเวลาที่ดีทำร่วมกัน หรือไม่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันเลย เพราะจริงๆแล้วในใจของทั้งคู่นั้นรู้ดีว่าทั้งคู่เป็นแค่เพียงเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้นเอง แต่เนื่องจากคนส่วนใหญ่ต้องการให้ตะวัน และ จันทรา เป็นสัญลักษณ์ของความรักที่มั่นคงแม้จะมีอุปสรรค จึงทำให้ทั้งคู่ต้องตกกระไดพลอยโจนไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และทำให้คู่แท้ต้องหลุดลอยไป เมฆขาวที่ล่องลอยไปตามสายลมอย่างไร้ทิศทาง ยิ่งนานวันความรู้สึกบางอย่างยิ่งแจ่มชัด ตะวันฤาจะควรคู่กับเมฆที่ต่ำต้อยอย่างเรา...เมฆขาวจึงน้อยใจร้องไห้ออกมาเป็นสายฝนหล่นลงสู่แม่น้ำ...แต่ด้วยความอาลัยรักต่อตะวันทำให้กลั่นตัวเป็นไอกลายเป็นกลุ่มเมฆอีกครั้ง เพราะต้องการที่จะอยู่เคียงข้างตะวันถึงแม้จะรู้ดีว่าตะวันไม่เคยหันมอง แต่สิ่งหนึ่งที่เมฆขาวไม่รู้คือ ตะวันได้จับตาดูทุกความเคลื่อนไหวของเมฆขาวเสมอ และรอคอยว่าวันหนึ่งเมฆขาวคงจะกลับคืนสู่อ้อมกอดของตะวันอีกครั้ง เช่นเดียวกับดวงดาว ที่มักจะพยายามส่องแสงกระพริบเพื่อต้องการให้จันทรามองเห็นว่ามีตัวเองอยู่ใกล้ๆเสมอนะ เป็นความพยายามของดวงดาวที่ถึงแม้จะรู้ตัวว่าไม่อาจเทียบได้กับแสงตะวัน ก็ยังอยากให้จันทรารู้ว่าเขามีตัวตน แต่สิ่งหนึ่งที่ดวงดาวไม่รู้คือจันทราแอบอมยิ้มให้กับความรู้สึกเล็กๆที่เรียกว่า"รัก"ของดวงดาวอยู่ทุกค่ำคืน จะมีสักกี่คู่นะที่เป็นคู่แท้....ที่ไร้ซึ่งข้อแม้ผูกมัด...หากแต่จัดวางความรักให้แน่นหนักในใจ ========================================================
22 กุมภาพันธ์ 2554 21:33 น. - comment id 122535
น่านๆๆๆ .... เอาความลับของท้องฟ้ามาเปิดเผย... ดีจร้า...อาคุงฝน.... ตกลงตะเอง เป็นน้ำตา อ่ะดิเนี่ยะ...อิอิ มีกลั่นตัว...ระเหย...ล่องลอย...ด้วย... ไหนทำท่าล่องลอยดิ...เจ้าแม่อุโมฯ...จ๊ากกกก...
22 กุมภาพันธ์ 2554 21:45 น. - comment id 122537
แม้จะไม่เคยเจอกัน แต่ตะวันก็จะมารอจันทราที่เดิม เวลาเดิมทุกวัน
22 กุมภาพันธ์ 2554 21:56 น. - comment id 122538
ความลับของดาว น้องดาวเอง อิอิ ตอนอายุสิบหก... เคยคิดว่าตัวเองเป็นดาว... และเขาคนนั้นเป็นดวงจันทร์... จะมีช่วงเวลาที่ได้อยู่ใกล้กันมาก ๆ หากมนุษย์เรามอง ทุกวันที่ครบรอบ น้องดาวมหาลัย(อิอิ) ก็จะออกไปนอกบ้าน เพื่อมองดูดาวได้เคียงจันทร์ นิทานความรักครั้งแรก ของน้องดาวมหาลัยเองค่ะ อิอิ
22 กุมภาพันธ์ 2554 22:38 น. - comment id 122546
"แต่สิ่งหนึ่งที่เมฆขาวไม่รู้คือ ตะวันได้จับตาดูทุกความเคลื่อนไหว ของเมฆขาวเสมอ และรอคอยว่าวันหนึ่ง เมฆขาวคงจะกลับคืนสู่อ้อมกอดของตะวันอีกครั้ง" ทำให้รู้สึกเหมือนมีคนแอบมองตลอดเวลา เป็นภาษาที่สวยงามนะคุณฝน " เช่นเดียวกับดวงดาว ที่มักจะพยายามส่องแสงกระพริบ เพื่อต้องการให้จันทรามองเห็น ว่ามีตัวเองอยู่ใกล้ๆเสมอนะ เป็นความพยายามของดวงดาว ที่ถึงแม้จะรู้ตัวว่าไม่อาจเทียบได้ กับแสงตะวัน ก็ยังอยากให้จันทรารู้ว่า เขามีตัวตน " ทำให้นึกถึงประโยคที่ว่า " ดวงดาวที่กระพริบแสงไกลโพ้น แม้ไม่อาจ ส่องแสงเป็นทางสัญจรได้ แต่อย่างน้อยก็ ทำให้ใครๆรู้ว่ามันคือดวงดาว " แม่หญิงหัวใจละเอียดอ่อน ไม่น่าเป็นลิงเป็นค่างไปจับเจ้าฉางน้อยเล้ย เฮ้อ ...... อ่านแล้วไปหาคู่แท้ดีกว่า อิอิ ลืมตัวไปค่ะ มีอยู่แล้วนี่นา!!!! ตัวเองในกระจกไง มองทีไรเหมือนทุกที
22 กุมภาพันธ์ 2554 22:40 น. - comment id 122547
กรต ไงล่า อาคุงกีฯฟามลับจากน่านฟ้าเลยนะ อิอิ อ่า....เปงน้ำตาดีอ๊ะเป่านะ......แต่ก็ยังดีกว่าน้ำลายล่ะเนอะ ลอยๆๆๆฟั่บๆๆๆ ไม่เหงยากเลย...อิอิ ..................... boytilldie อาคุง พีรเดช จะทำให้จันทราใจอ่อนได้นะเนี่ยถ้ามาอ่านเจอข้อความจากตะวัน ..อิอิ แปลกดีเนาะ จินตนาการทำให้คนเราหันมองสิ่งรอบตัวและหยิบจับมาเป็นวัตุดิบทางอารมณ์ได้ นี่คงเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของงานเขียนกระมัง .................... แมงกุ๊ดจี่ อิอิ...ตำนานดาวมหาลัยแบบป๊อบปี้เลิฟนี่เอง น่ารักดีน๊าไม่เศร้าแต่สดใส
22 กุมภาพันธ์ 2554 22:50 น. - comment id 122548
พี่มัสขาาาาาาาาาาา แม่หญิงละเอียดอ่อนก็มีมุมบ๊องๆได้นะคะ อิอิ เป็นเสน่ห์ของมนุษย์อย่างหนึ่งไงคะ สามารถอยู่ได้ทั้งในโลกจินตนาการที่จับต้องสัมผัสไม่ได้แต่รู้สึกได้ และอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่สัมผัสจับต้องได้แต่ไม่สามารถเติมแต่งจินตนาการได้ ถ้ารวมสองโลกเข้าด้วยกันเมื่อไหร่ชีวิตเราก็จะมีแง่มุมที่หลากหลายและผ่อนคลายได้เยอะเลยเนาะ ....................... ไม่น่าเป็นลิงเป็นค่างไปจับเจ้าฉางน้อยเล้ย เฮ้อ ...... ^ ^ ^ ง่า...ประโยคนี้ทำให้ฝนเสียวสันหลังวาบๆ นึกถึงที่ช่วงหลัง ฤทธิ์ ศรีดวงแซวบ่อยๆ แต่เป็นลิงเป็นค่างก็มีมุมโรแมนติกน๊าพี่ ดูอย่างคู่ลิงที่ไซร้เห็บหมัดให้กันดิ หวานซ้า....หวานปาก ตัวที่หา...ฮาา พี่มัส...โชคดีมากเลยค่ะ คู่แท้ของพี่มัส อยู่เคียงข้างตลอดเวลา... ไม่ต้องการอะไรจากโลกนี้อีกแล้วเนาะพี่เนาะ....ฮิ้ววว
23 กุมภาพันธ์ 2554 00:14 น. - comment id 122552
ปริศนานี้ตีออกเธอบอกว่า ดวงดารามอบรักภักดีให้ จันทร์อมยิ้มเอ็นดูอยู่ภายใน เพราะโคลอนมีใจดาวฤกษ์งาม ได้เวลาลั่นกลองรบแลวละ อิอิ
23 กุมภาพันธ์ 2554 01:06 น. - comment id 122556
โห.......คุณฤกษ์ กล้าวางระเบิดไว้รึ??? ใครๆก็กลัวกลุ่มอิทธิพล ลิง ค่าง บ่าง ชะนี (สงสัยจะต้องเรียกรถพยาบาลไว้แล้วเรา....) ขอให้โชคดีนะคุณฤกษ์ มัสลินเป็นห่วง ฮ่า (จั่วหัวไว้ว่า ล้อมวงตรงเข้ามา ด้วยสิ) ไม่น่ารอดนะงานนี้ รักษานานแน่ เด็กๆ นี่เป็นคำสั่ง..... ขอแค่เบาๆ เบาะๆนะจ๊ะ เว้นลมหายใจไว้นิ๊ดดดดนึง แค่พอสั่งเสีย ไปล่ะ แว๊บ........... ปล. หายห่วงแระ ฟื้นก็ไม่เหมือนเดิม
23 กุมภาพันธ์ 2554 07:20 น. - comment id 122557
ในคืนพระจันทน์เต็มดวง มีอานุภาพลึกลับ ซ่อนเร้นอยู่บางคนไม่อาจสู้แสงจันทน์ได้ (กลายเป็นหมาป่า) บางคนถูกขโมยหัวจายไป ในคืนพระจันทน์เต็มดวง
23 กุมภาพันธ์ 2554 07:58 น. - comment id 122558
10 จำใจ๊ จำใจ
23 กุมภาพันธ์ 2554 08:04 น. - comment id 122559
อืม...เข้าใจคิดแกร.. ตรูให้ 1 แปะ แต่เป็นแปะยาวๆนาเฟร้ย คราวหน้า...ลงล่างบ้างดิ..
23 กุมภาพันธ์ 2554 09:00 น. - comment id 122566
สงกาสัยกะลังอินเลิฟตามคุณอ้อยมาติดๆนะค่ะน้องฝน
23 กุมภาพันธ์ 2554 09:29 น. - comment id 122568
ล้อมวงด้วยคนครับ พึ่งรู้ว่าเมฆ แอบรักตะวัน แล้วน้อยใจ ร้องไห้เป็นสายฝน ดังนั้น "ฝน" เกิดจากความน้อยใจ ของเมฆเหรอ เท่าที่รู้ เมฆากับวาตะ จึงเป็นของคู่กัน อย่างแท้จริง อ้างอิงจาก เรื่อง ฟงหวิน
23 กุมภาพันธ์ 2554 11:19 น. - comment id 122572
น่ารักจังค่ะ อ่านแล้วอมยิ้มเล็กๆ ... เคยแต่งเรื่องของท้องฟ้าเหมือนกันเมื่อประมาณเกือบสิบปีที่แล้ว นิทานสายน้ำดวงดาว
23 กุมภาพันธ์ 2554 11:20 น. - comment id 122573
นั่งอ่านนิทานของพี่โคลอนซ้ำไปซ้ำมาอีกที เออเนอะ ...เหมือนกับเรื่องความรักที่เกิดขึ้นจริงกับชีวิตเสี้ยว เพียงแต่ว่า สุดท้ายแล้วมันไม่สมหวัง แค่นั้นเอง อ่านรอบที่สองแล้วเศร้าจังค่ะ
23 กุมภาพันธ์ 2554 12:31 น. - comment id 122574
สงกะสัยว่า คนเขียนกำลังมีฟามรักแห๋มๆๆ ไม่รู้อะ หากจะมี ต้องมาผ่านกรรมการบ้านกลอนก่อน ว่าคุณสมบัติเหมาะกับสาวสวยป่าว ทำไมหยดไปหยดลงสายธาร คราวหน้าฝนหยดน้ำตาลงดอกหญ้าจิ จะรอรับ และโอบกอดเธอ
23 กุมภาพันธ์ 2554 12:58 น. - comment id 122575
^ ^ ^ ช่ายที่หนายยยย...อิอิ อาคุงกุ๊กๆ ตอนแรก คุงฝน...เธอจะเขียนว่า... ล้อมวง...ตรงงงงง...เข้ามะเข้ามา..เร้วววว...ๆๆ เทขาย...เทขาย... ล้างสะต๊อก...สะแต๊ก...จร้า...
23 กุมภาพันธ์ 2554 14:57 น. - comment id 122590
เอ...วันนี้เมฆขาวลอยมาร้องให้แถวๆ นี้ด้วยล่ะ
23 กุมภาพันธ์ 2554 15:15 น. - comment id 122594
.......เอ้าๆๆใครอยากฟังนิทานจากพี่เมี่ยงมั่ง เร่เข้ามาๆๆ เดี๋ยวเล่าให้ฟัง นิทานท้องฟ้าจากพี่เมี่ยง ฮี่..ฮี่..
23 กุมภาพันธ์ 2554 15:18 น. - comment id 122595
20........ ขอก่อง ก่องที่ลชร จะมาแย่ง
23 กุมภาพันธ์ 2554 15:23 น. - comment id 122596
9.....น้านนท์ๆๆ อย่าพูดถึงหัวใจดิ อยากกิงก๋วยเตี๋ยวที่ร้านแถวๆบางลำภูอีกอ่ะ ตับ หัวใจ ฮี่..ฮี่.. เซียงจี้ มีป่าววน๊อ .................................................. ลิงๆๆ ตรูพูดจินๆนาเฟร้ย ฟังป่าว นิทานท้องฟ้าจากพี่เมี่ยงอ่ะ จะเล่าให้ควัง เอ้ย ฟัง
23 กุมภาพันธ์ 2554 17:07 น. - comment id 122603
ยัยช้างน้อย....... มากรุงเทพสิ่งแรกที่ต้องเอามาคือ ลูกประดอง และก็มานั่งกินกันสองคน ห้ามเอาพี่เมี่ยงคำ พี่ส้มตำ หรือพี่ต้มยำมา พอกินเสร็จแล้ว ค่อยให้มา อิอิ ทางใต้ฝนตกป่าว แล้วทำอีท่าไหนให้เน็ตล่ม บอกแล้วอย่ายิงปืนใกล้สายเคเบิ้ล ก็ไม่เชื่อ
23 กุมภาพันธ์ 2554 18:13 น. - comment id 122607
สวัสดีเย็นวันพุธที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ค่า ฤกษ์(ไม่ได้ล๊อกอิน) ว๊า...อาคุง ฤกษ์ตีปริศนาผิดอ่ะ "โคลอน" ไม่ใช่จันทราซะหน่อยนึง แต่เป็น เมฆขาวตะหาก เอาใจช่วยให้ลั่นกลองลบสำเร็จนะคะ ............................ พี่มัส ๘ ฮ่าๆ พี่มัสอ่า....เสียหายๆ ว่าแต่ติดต่อ เฮียปอ ได้ยังคะพี่ ...อิอิ ...................... พี่อานนท์ โห...ยังกะนั่งอ่านหนังสือ ทไวไลท์นิวมูนอยู่แน่ะพี่อาฯ....อิอิ .................. ลคส ๑๐ โห...ตรูเชื่อจริงๆว่าแกรจำใจ....ดูหน้าตอนท้ายมังดิ หมั่นไส้ชิกเหย ................ ลคส ๑๑ แทงคิ้ว แทงปาก แทงตะหมูก แกรๆ...ค่อดขำเลยฟร่ะลงล่าง ทำไมตรูต้องลงอีกฟระ ตรูชอบเล่นของสูงเฟร้ย แต่เดี๋ยวรออารมณ์ดีๆจะลองแต่นิทานตามใบสั่งแกรดู ค่าเข้าชมเก็บเฉพาะแกร ห้าร้อย มัดจำ สี่ร้อยห้าสิบ แกรจะได้จำตรูไปนานๆ ................. พี่พิมฯ สงสัยแปลว่า...ยังไม่กล้าฟันธง... เฮ้อ...โล่งอก ...อิอิ .................... พี่สืบฯ ฝนว่า มีคู่ผิดฝาผิดตัวเยอะเลยนะพี่ ในโลกนี้...ฮา ขนาดธรรมชาติยังมีกิ๊ก....แล้วมนุษย์อย่างเราจะเหลือเหรอ...ใช่ป่ะพี่...ใช่ป่ะพี่ (วางระเบิดไว้) ...................... เสี้ยว๑๔ - ๑๕ บางทีความไม่รู้ ก็อาจจะทำให้ความรักยาวนานในหัวใจมากกว่าการรู้น๊า เหมือน เมฆขาว และ ดวงดาว ที่ไม่ล่วงรู้ความในใจของ ทั้งตะวัน และ จันทรา สุดท้ายก็คิดว่า แค่ได้อยู่ใกล้ๆก็มีความสุขแล้วไม่หวังอะไรตอบแทน สุดท้ายแล้วความไม่รู้ อาจจะเป็นตัวกำเนิด ความรักที่บริสุทธิ์...ก็ได้จ๊ะ พี่คิดงั้นนะ ดีใจที่เสี้ยวกลับมาจ้า ................ แบมฯ สงสัยอีกคนแระ...แน่จริงฟันธงมาเลยแบมเอ๊ย...ฮ่า กรรมเกิน เอ๊ย กรรมการบ้านกลอนมีใครมั่งอ่า... น่ากลัวชะมัด หวังว่าคงไม่มีไอ่ลิงสองตัวนั่นอยู่ด้วยนะแบม ... น่ากลัวๆ น่ากลัวจะต้องกลายเป็นรักหย๊บหย๊บ ซะแระ .................... กรต ๑๗ แน่ะ...นำฟามลับราชเกิน เอ๊ย ราชการมาเปิดเผยอีกแระอาคุงกีฯ เดี๋ยวเลื่อยขาเก้าอี้เลยนี่ ................... เอื้องคำ นั่นสิคะ ลอยมาแถวนี้ด้วย ท่าทาง ตะวัน จะทำอะไรให้น้อยใจอีกแระเนาะ ................ ฉาง ๑๙ ล้อมกรอบๆ เอ๊ย ล้อมวงๆ ........... ฉาง ๒๐ น่าน...ดูดู๊ดู ดูเธอทำ ................ ฉาง ๒๑ โห...ตรูอุตส่าห์ลุ้นตั้งนาน มังจั่วหัวซะยังกะจะเล่ายาวๆ ที่ไหนได้ เกริ่นนำ...แล้วข้ามไปบทสรุปเลย กลับมาเล่าใหม่เลยนะ..ก่อนที่ตรูจะกิง ตับ ไต ไส้ พุง หัวใจ แกร .................. พี่มัส ๒๒ เอ...หน้าตาเปงไงหนอ "ลูกประดอง" คล้าย "ลูกปะคำ" ป่ะคะพี่
23 กุมภาพันธ์ 2554 22:52 น. - comment id 122618
อ่านแล้วทำให้นึกถึงวลีบทหนึ่งที่เขียนโดย Og Mandino เค้าเขียนไว้ว่า I will love the light for it shows me the way, yet I will endure the darkness for it shows me the stars. ฉันจะรักแสงสว่างเพราะมันส่องสว่างทางให้ฉัน กระนั้นฉันจะผ่านทนความมืดเพราะมันแสดงดวงดาราแก่ฉัน ขอให้คุณฝน สุขสมหวังนะคะ
23 กุมภาพันธ์ 2554 23:44 น. - comment id 122620
ลิงฝน......ลูกประดอง เป็นลูกยาวๆ หาในเน็ตดูได้......กินอร่อยมาก มัน มัน ที่กินเป็นเพราะไปอยู่ที่สุราษฎร์ตั้งสิบเอ็ดปี นึกแล้วอยากกิน โล่งโต้ง เคยกินป่ะ ไปหาทางเน็ตดูนะ.....มีแต่ของอร่อย ผัดไทท่าฉาง อาหารร้านลักกี้ ร้านเรือนไทย อีมมม ไม่อยากเซด อร่อยทั้งนั้นเลย
24 กุมภาพันธ์ 2554 10:16 น. - comment id 122626
มามะ..ล้อมวงเหล้าเข้ามา. มาฟังนิทานแถวบ้านเรา.อิอิ นิทานแถวบ้านเราเขาบอกว่า ตะวันกะจันทรานะเป็นอริกัน คอยแข่งรัศมีแข่งกันอยู่ร่ำไร แล้วทุกๆสี่ปีกํจะมาปะทะกันซึ่งๆหน้า เพื่อเทียบว่ารัศมีใครเด่นกว่าใคร เพียงเพื่อจะอวดคู่รักของตนคือเมฆ โดยที่ทั้งคู่หารู้ไม่ว่า แท้จริงแล้ว เมฆแอบเป็นกิ๊กกับทั้งตะวันและจันทราเสมอมา ในที่สุดเมื่อตะวันและจันทรารู้ว่าเมฆแอบหลายใจ จึงหมดสิ้นความรักที่เคยมี ทำให้เมฆต้องช้ำใจแอบร้องไห้เพื่อร้องขอทั้ง ตะวันและจันทราให้กลับมารักเหมือนเดิม แต่ทั้งตะวันแลจันทราต่างก็ไม่ยกโทษให้เมฆเลย เมฆจีงได้แต่โศกาน้ำตาไหลรินจนลมมาเห็นเข้าเกิดสงสารเมฆ จึงสาบานกับโลกว่า ข้าสายลมจะมิมีวันทิ้งเมฆไปไหนตลอดกาล... อวกัลปวสาน 555
24 กุมภาพันธ์ 2554 10:37 น. - comment id 122629
ลิงฝน ลองเข้าไปอ่านเรื่องสั้นนี้นะ เป็นของฝากจากปักษ์ใต้ ลูกประดองให้ตรูกิน ส่วนลูกประคำให้แกรกินไอ่ลิงฝน 555555 .. http://thaipoem.com/forever/ipage/story10409.html ไปอ่านๆๆๆๆๆ
24 กุมภาพันธ์ 2554 10:57 น. - comment id 122630
สวัสดีวันพฤหัสบดีที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ค่า ปาลิน อืมมม...เป็นวลีที่คมมากเลยค่ะ ขอให้ปาลิน สุข สดใส สมหวังเช่นกันน๊า ............... พี่มัสขาาาาาาาาาาาาาาาา (หยอดๆ) อิอิ (มีคนแอบค้อนควับ) ฝนเพิ่งจำได้ว่า ฉางเคยลงเรื่องสั้นไว้ตามลิ้งค์ข้างล่างอ่ะค่ะ ฝนยังไปคุยเปงตุเปงตะตั้งหลายเม้นท์...ฮา... อายชะมัดเลย...แสดงว่ามัวแต่คุยเนาะ...เลยลืมเนื้อหาหมด...แหะ ............ โหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห พี่มัส เคยอยู่สุราษฎร์ตั้ง สิบเอ็ดปีเลยเหรอคะ โอ้ววววววววววววววววววววววว ฝนเชื่อแล้วว่าโลกเรากลมจริงๆค่ะพี่ มิน่าล่ะครั้งแรกที่ฝนเห็นพี่กับฉาง....ฝนถึงได้สะดุดตานัก พรหมลิขิตแน่ๆเลยพี่....พรหมลิขิตล้วนๆ วันหลังเขียนเรื่องสั้นเกี่ยวกับ สิบเอ็ดปีที่อยู่สุราษฎร์ให้อ่านหน่อยสิคะพี่ฯ...อยากอ่านๆๆ(อ้อนๆ) แบบนี้ต้องเรียก"พี่ลิงสุราษฎร์" ย่อว่า พ"ลสร คริ ............................ ยกป แกรนี่...พอตรูบอกว่า ตรูเปงเมฆ แกรยัดข้อหา ซ่อนกิ๊ก ให้ตรูเฉยเลยนะ...เดี๊ยะๆ นิทานที่เล่ามาทำให้ตรูนึกถึงหนังเรื่อง "เราสองสามคน" เลยฟร่ะแกร...อิอิ แล้ว สายลม ก็ไปกิ๊กกับ ดอกหญ้า อีกป่ะแกร ดอกหญ้าเลยช้ำใจ ตกลงสู่พื้นดิน....และมอบหัวใจให้ ดิน เอาล่ะเฟร้ย...ชักจะไปใหญ่แระแกร ตรูว่าเล่าไปเล่ามาจบไม่ลงแหงๆ ................ ฉาง ๒๗ อิอิ.......เมื่อกี้เข้าไปอ่านมาอ่ะแกร สมัยนั้นยังพูดจากันสุภาพนิ่มนวลอยู่เลยนะแกร คุณฝนงั้นงี้ ฉางงั้นนี้ ไหงกลายมาเปง "ตรู" กับ "แกร" "ไอ่ลิง" ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ฟระแกร ไม่รู้ตัว อ่านไปก็ขำไป....นินทาเพื่อนบ้านไว้อีกตรู อายประชาชีเค้ามั๊ยนี่
24 กุมภาพันธ์ 2554 11:20 น. - comment id 122631
24 กุมภาพันธ์ 2554 11:22 น. - comment id 122632
30
24 กุมภาพันธ์ 2554 11:22 น. - comment id 122633
๒๙ ทำไรแกร...เหงนะ
24 กุมภาพันธ์ 2554 11:24 น. - comment id 122634
30.............
24 กุมภาพันธ์ 2554 11:25 น. - comment id 122635
โฮะๆ.............. เดจาวู
24 กุมภาพันธ์ 2554 11:27 น. - comment id 122636
ห๋า ๆๆ ไอ่ลิง แกรตายยยยยยยยยย......พี่เมี่ยงขา ไอ่ลิงฝนแกล้งหลานวาของน้านนท์แว้วว แกรๆ ทำกะตรูได้นะ รู้ยู่ว่า เน็ตตรูช้า ตรุอ่อยเหยื่อหน่อยเดียว มังมาแระ
24 กุมภาพันธ์ 2554 11:33 น. - comment id 122638
34 วะฮะฮ่า........ดูมัง ทำร้องเสียงหลงเชียวนะ เดี๋ยวตรูจะเชือดลิงให้ไก่ดู เปงขวัญตา แม๊.........ทำเปงอ่อยเหยื่อ... แกรใช้ไรเปงเหยื่ออ่ะ
24 กุมภาพันธ์ 2554 11:43 น. - comment id 122642
คู่นี้ไง น้ำฝนกับต้นกล้า หรือจะเป็นคู่นี้ ฝน (โคลอน)คู่กับบ้านกลอนไง รู้สึกดีจังที่ได้อ่าน บายดีหรือป่าว
24 กุมภาพันธ์ 2554 11:49 น. - comment id 122643
พี่แจ้นขาาาาา ว้าว...น้ำฝน คู่ ต้นกล้า เป็นคู่ที่มีแต่การเจริญเติบโตว่าป่ะคะพี่...อิอิ ว่าแต่ ต้นกล้า ที่ว่า นี่ เป็น กล้าอะไรอ่ะคะพี่ฯ ฝน โคลอน คู่กับบ้านกลอน ว้าวๆๆ อย่างหลังนี้ดูเปง ผีบ้านผีเรือนไงไม่รู้เนาะพี่...ฮา ขอบคุณที่มานะคะพี่ ....
24 กุมภาพันธ์ 2554 18:57 น. - comment id 122664
24 กุมภาพันธ์ 2554 18:57 น. - comment id 122665
24 กุมภาพันธ์ 2554 18:57 น. - comment id 122666
24 กุมภาพันธ์ 2554 18:58 น. - comment id 122667
40
24 กุมภาพันธ์ 2554 19:00 น. - comment id 122670
เจ้ย แกรๆ ตรูก้าวยาวไปนิด แกรดูดิ๊.. แน่จิงลบทิ้งเดะ
25 กุมภาพันธ์ 2554 02:29 น. - comment id 122700
ล้อมวงเหล้า ภาค ๒ หลังจากที่เมฆไม่ได้ความรักจากตะวันและจันทรา เหลียวซ้ายแลขวาก็เห็นแต่สายลมที่เป็นเพื่อน น้ำตาของเมฆที่รินไหลลงบนดิน ทำให้ดินที่หลับใหลสะดุ้งตื่นแหงนมองขึ้น ก็เห็นภาพเมฆที่รักตะวันและจันทรา จนลืมสายลมที่คอยอยู่เป็นเพื่อน ดินผู้โดดเดี่ยวแม้นตะวันจันทราเมฆหรือสายลมก็มิเคยเหลียวแลได้แต่มองคนบนฟ้าเขาหมายมาดความรักกันโดยไม่รู้ว่าดอกหญ้าเเกะกาะอยู่บนกบาลเขานานเท่าไรแล้ว จนกระทั่งวันนึง ที่น้ำตาของเมฆไหลมามิขาดสาย จนปลายใบหญ้าเข้ามาแทรกที่ตาของดิน ดินถึงได้รู้สึก เขามิได้โดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว เพราะเขามีรากหญ้าเป็นเพื่อน...อิอิ รากหญ้ายอดรัก.....555 (มั่วได้สมนโยบายตูเลยนะเนี่ย)
25 กุมภาพันธ์ 2554 02:40 น. - comment id 122701
ปล. ไอ่ ลคส มังจาเอาไข่ทั้ง 40 และ 41 ทำด๋อยไรฟะเนี่ย สงสัยแค้นไข่แฝดบ้านตัวเองหาย ...จุ๊กกรู๊ววว
25 กุมภาพันธ์ 2554 15:17 น. - comment id 122722
ล้อมวงกินไข่ เอ๊ย สุรา 555
25 กุมภาพันธ์ 2554 16:24 น. - comment id 122725
ลคส ๓๘ - ๔๑ แว๊กก..แกร๊กิงไข่ตรู ปล.แกรไม่ต้องมาฟอร์มท้าลบเฟร้ย...ตรูเหงนะแกรซ่อนธูปเทียนไว้หลัง . ............... ยกป ๔๓ แกรนี่.......อารมณ์ไหนฟร่ะยา ยกป ๔๔ ......... จวว ๔๕
28 กุมภาพันธ์ 2554 14:24 น. - comment id 122757
ตะวันอ่อนรอนแสงสู่สนธยา ล้วนเมฆาลอยล่องท้องฟ้าไสว จันทรารอตะวันกลับฟ้าไป ดาราไล้โลมเรียงเคียงฝนพร่ำ ก.ไข่ไก่
1 มีนาคม 2554 20:08 น. - comment id 122773
กไก่ไข่
2 มีนาคม 2554 09:29 น. - comment id 122782
เมฆอารมณ์ร้ายคลั่งชังน้ำหน้า มืดบังฟ้าตะวันหลบหวั่นไหว ผลก่อเกิดพอเห็นสิ่งเป็นไป เบิกฟ้าตะวันใหม่เมฆใสงาม
2 มีนาคม 2554 16:18 น. - comment id 122790
50
2 มีนาคม 2554 18:43 น. - comment id 122793
ลุงจุด ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือนถึงเรือนชานค่า ............... ยกป ๕๐ ไข่คนป่วยเอาไประวังติดนะแกร ทางที่ดีเอามาคืนล่วยๆข้างๆอาคุงกีฯเลย