อทิสมานกาย ๖๔ เช้าวันรุ่งขึ้นคนในบ้านกำนันมั่นต่างตื่นกันหมดแล้ว ส่วนบรรดาสามสาวๆก็รีบเดินทางกลับบ้าน ไปเอารถมาเพื่อนำนางสร้อย ไปหาหมอที่อนามัยเย็บบาดแผล คงเหลือ พวกสาวบางคนเท่านั้นที่ยังยืน ดูสภาพบ้านพร้อมกับกำนันมั่นและพวกไอ้แม้น ไอ้สน ไอ้เบี้ยว ทุกๆคน ต่างได้รับบาดเจ็บไปตามๆกัน แม้แต่กำนันมั่นเอง เมื่อได้รับการรักษา บาดแผลที่ไม่มากนัก กำนันมั่นก็เอ่ยขึ้นว่า “ฉิบหายกันหมดแล้วบ้านมันพังทะลายทั้งหลัง เหลือเพียงหลังเล็กๆ ที่ไม่ติดกับบ้านใหญ่หลังเดียว ใช้เป็นที่เก็บของเสียด้วย” กำนันบ่นให้พวกๆที่ยืนมองดู ครั้นมองดู หันซ้ายมองขวาก็เหลือบแลเห็น ก็ตะโกนเรียกลูกชายซึ่งกำลังคุยอยู่กับเพื่อนๆของมัน “ไอ้แม้นโว้ย???... มึงรีบพาพวกมึงมาหากูด่วนด้วย” กำนันนึกถึงของที่ยังซุกซ่อนอยู่ที่ห้องใต้ดินที่บ้านมันพังทับอยู่ได้ หากมีตำรวจหรือพวกอำเภอมาตรวจพบเรื่องก็จะบานปลายขึ้นไปอีก “มีอะไรหรือพ่อ???...” เสียงไอ้แม้นตะโกนตอบ พร้อมมันและพรรคพวก ก็รีบเดินมาหา “มึงกับพวกรีบรื้อบ้านโดยด่วน ของทั้งหมดยังเก็บไว้ในห้องใต้ดินใต้บ้านอยู่ ให้มึงรีบขนนำไปไว้ที่อื่นชั่วคราวก่อน ประเดี๋ยวพ่อมึงก็คงจะมาแน่นอนด้วย เสียงมันระเบิดดังลั่น ป่านนี้ชาวบ้านคงจะรีบแห่มาดู แล้วอาจจะถึงพวกอำเภอ หรือตำรวจด้วยว๊ะ” กำนันมั่นรีบสั่งลูกชายมันทันที ครั้นไอ้แม้นได้รับฟังพ่อมันพูดก็นึกขึ้นได้ว่า ห้องใต้ดินที่เก็บของนั้นอยู่ในห้องเล็กติดกับบ้านใหญ่ที่พังทะลายลงมาพร้อมๆ กันด้วยใต้ซากบ้านที่พัง ทับห้องเล็กๆนั้น ใช้เป็นที่เก็บของมีห้องใต้ดินอีกทีหนึ่งเอาแคร่นั่งมาวางบังไว้ เวลาจะเอาของก็งัดเอาฝาที่ทำไว้ใต้แค่ออกจะเป็น ทางเดินไปยังห้องใต้ดินใช้เป็นที่เก็บยาเสพย์ติดจำนวนมากล้วนเป็นชนิดชั้นดีๆ และยังมีอาวุธปืนต่างๆอีกมาก ไอ้แช่มกับไอ้อ๊อดมันอาศัยอยู่ดูแลของนั้นๆ บัดนี้ห้องเล็กๆนั้นถูกบ้านใหญ่พังทะลายมาทับด้วย ห้องเล็กนั้นอยู่ใต้พื้นบ้าน ชั้นบน ดังนั้นมันจึงเรียกไอ้สน ไอ้เบี้ยว ไอ้แช่มและไอ้อ๊อดซึ่งได้รับบาดเจ็บ แค่ผิวกายเท่านั้น มาแล้วแจ้งให้พวกมันทราบ “ไอ้สน ไอ้เบี้ยว ไอ้แช่ม ไอ้อ๊อด พวกมึงมานี่เร็วๆ รีบลงไปยังห้องใต้ดิน นำของไปแอบซ่อนที่ในป่าก่อนโว้ย เดี๋ยวพวกพ่อๆมึงจะมา หากเจอฉิบหายกันใหญ่ว๊ะ” ไอ้แม้นหันไปกล่าวกับพรรคพวกทันที “ไอ้แช่ม ไอ้อ๊อด มึงรีบไปเอาชะแลงและของที่ในห้องเล็กๆ ที่ไม่พังข้างบ้านนั้นมาเร็วๆด้วยโว้ยมาช่วยรื้อของออก เอาแค่ทางเดินไปยังห้องใต้ดินที่พวกมึงพักนั้น ส่วนข้ากับไอ้เบี้ยวจะไปช่วยกันลากเศษไม้ที่ทำได้ก่อนว๊ะ” ไอ้สนกล่าว “มิฉนั้นเรื่องมันจะยุ่งกันใหญ่ แล้วเสร็จก็ให้รีบขนถ่ายไปกองไว้ในป่าข้างบ้าน ชั่วคราวไว้ก่อนด้วยนะโว้ย” ไอ้แม้นกำชับอีกที โดยมีกำนันมั่นคอยควบคุมดูแล ครั้นไอ้แช่มและไอ้อ๊อดรู้เรื่องนี้ด้วยมันนอนเฝ้าอยู่ทุกๆคืนวัน จึงรีบเดินออกไป เพื่อเอาของมาเพื่อรื้อซากที่พังไปนำของที่ห้องใต้ดินออกมา มันรู้ว่าหากช้าอะไร จะเกิดขึ้นแก่พวกมัน แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร เสียงรถยนต์หลายคันก็วิ่งเข้ามาในบ้านทันที กำนันมั่นถึงกับตกตลึงจังงังไปเลย ด้วยรถนั้นเป็นรถของทางอำเภอและของตำรวจสี่ห้าคัน ร่างที่ก้าวลงมาคนแรกคือสารวัตรชัชวาลย์ ตามติดมาด้วยผู้กองทั้งสองและตำรวจอีกหลายๆนายทะยอยกัน ลงมาจากในรถ พร้อมๆกับทางด้านอำเภอ นายอำเภอคนใหม่และพวกก็ทะยอยต่างเดินมายังสถานที่เกิดเหตุทันที กำนันเห็นดังนั้นใบหน้าก็ซีดเผือดทันทีแต่ก็พยายาม ทำสีหน้าให้เป็นปกติ ก้าวเดินเข้าไปหานายอำเภอและเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายอำเภอคนใหม่ก็ถามขึ้นทันที “กำนันมั่น เกิดอะไรขึ้นหรือบ้านถึงได้พังทะเลายลงมาเช่นนี้???...” นายอำเภอถาม สารวัตรชัชวาลย์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆก็เอ่ยขึ้นบ้างว่า “กำนันขอให้ทุกๆคนออกจากบริเวณซากบ้านนี้ให้หมด ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจจะได้ชัณสูตร หาหลักฐานด้วยนะ” “ครับท่านนายอำเภอและสารวัตร” กำนันมั่นตอบ แต่ดวงตาและสีหน้าค่อนข้างจะเปลี่ยนสี แต่ก็ระงับไว้ได้ตามนิสัยที่เคยมีประสบการณ์มา พลางหันไปทางเด็กๆทันที “เฮ้ยๆๆๆๆ!!!..... พวกมึงทั้งหมด ออกจากซากบ้านได้แล้วโว้ย เจ้าหน้าที่เขาจะได้มาตรวจสภาพเพื่อประกอบหลักฐานต่อไป” ครั้นไอ้แม้นไอ้สนไอ้เบี้ยวและพรรคพวก ได้ยินพ่อกำนันกล่าวเช่นนี้ มันรู้แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไอ้แม้นก็กล่าวกับพรรคพวกว่า “เฮ้ย!!!???... พวกเราเหตุการณ์ชักไม่สู้ดีแล้วโว้ย เพราะหากตำรวจค้นก็จะเจอของแน่นอนว๊ะ ฉะนั้นพวกเราหาทางหลบไปก่อนจะดีกว่า ทางนี้ให้พ่อกูจัดการเอง” “จริงของมึงว๊ะไอ้แม้น แล้วค่อยหาทางแก้ไขทีหลังก็ยังไม่สายไป หากตรวจค้นเจอมึงเอ๋ย???....ทั้งหมดเลยนะโว้ย” ไอ้สน ไอ้เบี้ยวเอ่ยขึ้น ดังนั้นทั้งหมดจึงเดินหลีกเลี่ยงออกไปทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ผ่านตำรวจ ที่กำลังใช้ผ้าแถบสีล้อมรอบบริเวณบ้านที่พังทะลายทันที มันทั้งหมดค่อยทะยอยแล้วหันไปทางนางแจ๋วแช่ม ช้อย พลอยที่ยืน จับกลุ่มคุยกันนั้นมันทั้งหมดเดินเข้าไปทำเป็นคุยด้วย แล้วบอกให้ ทุกๆคนต่างหาทางหลบหนีไปก่อน ทั้งหมดจึงได้จูงมือคนละคู่ ค่อยๆเลี่ยงออกจากบ้านไป แต่ไอ้แช่มกับไอ้อ๊อดก็สะดุ้งสุดตัว เมื่อได้ยินเสียงกำนันเรียกมัน “มึงไอ้แช่มไอ้อ๊อดมาหากูเป็นเพื่อนหน่อยโว้ย มาช่วยกูพยุงตัวด้วยว๊ะ” ไอ้แช่มไอ้อ๊อดต่างหันมามองหน้ากัน นึกในใจว่าซวยกูแล้วล่ะว๊ะ แต่ไม่พูดอะไรเดินเข้าไปพยุงร่างกำนันที่รู้สึกว่าสะโพกคราก แล้วเดินนำหน้านายอำเภอตำรวจไปชี้ที่เกิดเหตุทันที นายอำเภอและสารวัตรเดินตามกำนันไปเพื่อฟังกำนันอธิบายให้ฟัง “ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับท่านว่าเป็นเรื่องอะไร กำลังนอนอยู่ ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียง ระเบิดบนหลังคาบ้าน ประมาณสองสามลูกได้ครับ แล้วมันก็เกิดระเบิด มีลูกหนึ่งทะลุพื้นบ้านลงไปข้างล่างถึงจะระเบิดครับ ผมต้องรีบเผ่นหนีออกมาทันที ไม่รู้ว่าใครมันคิดจะปองร้อยผม ทั้งๆที่ผมเองก็ไม่เคยผิดใจกับใครๆเลย” กำนันมั่นตอบพร้อมทั้งอธิบายชี้ไปยังซากสลักหักพังด้วยกัน “อ้าวไม่ผิดใจกับใครบ้างเชียวหรือ กำนันลองนึกทบทวนดูซิกำนัน” สารวัตรเอ่ยขึ้น “รับรองครับสารวัตรผมไม่เคยมีเรื่องกับใครๆทั้งสิ้น ทำหน้าที่กำนันด้วยความยุติธรรมเสมอๆ” “เอ๊!!!!....ก็แปลกนะอยู่ๆคนจะมาถล่มบ้านได้หรือ???... แต่ดูตามสภาพแล้วต้องเป็นอาวุธร้ายแรงเสียด้วยซิกำนัน” “นั่นซิกำนันลองนึกทบทวนดูหน่อยนะ” นายอำเภอเสริมทันที “สารวัครครับ มาทางนี้ดูอะไรหน่อยครับ???...” เสียงผู้กองร้องเรียก “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ สงสัยจะพบหลักฐานเพิ่มเติมอีกครับ” สารวัตรกล่าว แล้วก็รีบเดินผละไปหาผู้กองจำลองทันที ผู้กองจำลองยื่นปลอกอาวุธต่างๆ พร้อมหลักฐานบางอย่างให้สารวัตรดู “นี่มันปลอกอาวุธเอ็ม 79 นี่นา อ้าวแล้วนี่ก็เป็นปลอกลูกปืนอาก้า ทั้งหมด นี่หลักฐานอะไรหรือคุณลองพิจารณาดูหน่อยซิผู้กอง” สารวัตรกล่าว “ปลอกอาวุธนั้นใช่ครับด้วยผมเคยไปผจญมาแล้วเมื่อครั้งไป จับกุมไม้เถื่อนมา ส่วนอันนี้มันทำตกหล่นไว้ ผมยังไม่ได้แก้ดูเลย นำมาให้สารวัตรดูก่อน” ผู้กองเอ่ย พร้อมก็ค่อยๆแกะห่อผ้าที่ล่วงทำหล่นไว้ ข้างในเป็นกระดาษพับสี่เหลี่ยม หลายๆชิ้น จึงแกะเอามาชิ้นหนึ่ง ปรากฏว่าภายในเป็นผงสีขาวๆ จึงนำมาดมและแตะยังริมฝีปาก พลางอุทานขึ้นมา “ยาเสพย์ติดครับสารวัตร เป็นผงเฮโรอินครับ” ผู้กองจำลองเอ่ย “หรือว่าจะมีการหักหลังกันขึ้นในเรื่องนี้แน่นอน มันถึงได้มาถล่มบ้านกำนัน อาวุธร้ายแรงนี้ไม่ใช่ของทางฝั่งเรา นิยมใช้ในฝั่งโน้นเสียด้วย ชัดเจนแน่นอนผู้กอง กำนันคนนี้ต้องร่วมมือทำงานผิดกฏหมายแน่ ผู้กองสั่งให้เจ้าหน้าที่ค้นให้ละเอียด ผมสงสัยในซากนั้นอาจจะมีที่ซุกซ่อน อีกก็ได้ไม่แน่นะ” สารวัตรเอ่ย “แต่เรื่องนี้ผู้กองเก็บซ่อนไว้ก่อนอย่าให้กำนันรู้ ให้นำกำลังที่ ตรวจคนรอบนอกมาช่วยกันรื้อซากบ้านออกดูก่อนซิ มีพิรุธอะไรบ้าง???...” ครับสารวัตร แล้วผู้กองก็เดินไปกระซิบกับผู้กองจรัสทันที ดังนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่กำลังค้นหาหลักฐานด้านนอก ก็เข้ามาช่วยกันรื้อซากบ้านทันที สารวัตรก็เดินไปหานายอำเภอกระซิบ เบาๆ นายอำเภอก็ให้ปลัดคอยคุยกับกำนันก่อน เดินหลีกออกมากับสารวัตร พอห่างกับกำนันคิดว่าพอควรแล้ว สารวัตรก็ควักเอายาเสพย์ติดออกมา ให้นายอำเภอดู พร้อมปลอกกระสุนต่างๆ เมื่อนายอำเภอเห็นและดมเท่านั้นก็ไม่กล่าวอะไรเพียงหันไปยิ้ม แล้วพยักหน้ารู้กันระหว่างสารวัตรทันที กระซิบเบาๆว่าสารวัตรจัดการได้เลยครับผมจะเป็นพยานให้ แล้วก็ผละไปหาปลัดอำเภอประวิงเวลาคุยกับกำนันต่อไป สารวัตรก็เดินไปหาผู้กองจรัสให้นำคนเข้าไปคุยกับนายอำเภอ เพื่อประกบตัวกำนันไว้และกระซิบบอกเรื่องราวต่างให้ผู้กองจรัสทราบ ดังนั้นสารวัตรก็ทำเป็นเดินเตร่ไปเตร่มาทำเป็น ตรวจสอบสถานที่ ผู้กองจรัสก็กระซิบกับตำรวจสามนายพร้อมเดินยิ้มไป หานายอำเภอและปลัดอำเภอ กำนัน ต่างคุยกันในเรื่องทำไม เหตุใดกำนันถึงโดนถล่มเช่นนี้ พลางทำเป็นหัวร่อพลาง “ผมคิดว่ากำนันนี่ดีออกอย่างนี้ที่พูดไว้นั้น ไม่น่าเลย อาจจะมีการเข้าใจผิดกันก็ได้นะหรือว่า นายอำเภอ คุณปลัดคิดว่าอย่างไรหรือ???” ผู้กองจรัสเอ่ย ทำให้น้ำขุ่นค่อยๆใสขึ้นบ้าง “นั่นซิครับผู้กองผมเองก็ไม่เคยไปมีเรื่องอะไรนอกจากช่วยเหลือ คนในหมู่บ้านตามฐานะที่พอจะช่วยเหลือครับ งานวัดหรือก็ทำบุญทอดกฐินแทบจะทุกๆปีเชียวครับ” “อ๋อๆๆๆใจบุญสุนทานด้วยนะกำนัน นั่นซิผมก็นึกไม่ออกจริงๆ มันมาถล่มบ้านกำนันไปทำไมกันในเมื่อกำนันเป็นคนดีนี่นา” ผู้กองเอ่ยขึ้น “ผมก็ว่าคงเป็นการเข้าใจผิดกระมังผู้กอง” นายอำเภอเสริมทันที เมื่อกำนันมั่นได้ยินการสนทนาเช่นนี้ใบหน้าก็เริ่มจะดีขึ้นด้วยคิดว่า ทางตำรวจและด้านนายอำเภอคงไม่รู้เรื่องราวอะไร จึงวางใจที่เชื่อคำพูดมัน มันจึงแสดงอาการออดอ้อนทันที “คิดดูซิครับผู้กองนายอำเภอ ใครเดือดร้อนขัดสนเงินทอง ผมมีผมก็ให้ทุกๆคนไม่เคยเกี่ยงอะไรเลย เขาจะเอาที่ดินมาวางจำนำผม ผมบอกว่าไม่ต้องเราคนหมู่บ้านเดียวกัน เดือดร้อนก็พึ่งพาอาศัยกันเงินทองแค่นี้มีแล้วค่อยเอามาคืน ผมก็ช่วยไปหลายสิบรายแล้วครับ ไม่น่าเลยจะมาถล่มบ้านผมได้คงจะไม่ใช่ คนในหมู่บ้านนี้แน่นอนครับท่าน” กำนันเอ่ย “ผมมาคิดๆดูก็คล้อยตามกำนันนั่นแหละ หรือว่าไงครับนายอำเภอ” ผู้กองยิ้มแย้มกล่าวไปทางนายอำเภอ “นั่นซิเมื่อกี้นี้สารวัตรก็ให้ผมดูแล้วหลักฐาน ปลอกอาวุธ มันเป็นของพวกฝั่งโน้นทั้งหมด ก็หมายความว่ามันอาจจะจำคนผิดก็ได้นา” “อืมมๆๆๆ????.....แปลกจริงนะนายอำเภอ ผมก็งงต่อเหตุการณ์นี้ด้วย” “กำนันแล้วลูกชายกำนันชื่ออะไรหรือ???...” ผู้กองถาม “อ้อๆเขาชื่อแม้นครับ แต่มันเป็นเด็กดีนี่ครับไม่ค่อยได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย นอกจากช่วยพ่อแม่ทำงานในไร่เท่านั้น ผู้กองเชื่อใจได้ลูกคนนี้ครับ” กำนันมั่นเอ่ย แล้วพร้อมจรรนัยสิ่งต่างๆให้ผู้กองและนายอำเภอฟัง “ยิ่งแปลกเข้าไปกันใหญ่ แล้วบรรดาสาวๆล่ะกำนันมามัวสุมที่บ้านกำนันด้วย หรือแล้วมาทำอะไรหรือกำนัน ” ผู้กองซักถามต่อ ด้วยเห็นบรรดาสาวๆค่อยทะยอยกันออกจากบ้านไปกับหนุ่มๆ ด้วย จนเหลือกำนันและพวกสองคนเท่านั้น “เขามารับจ้างช่วยทำงานบ้านให้ครับผู้กองและเด็กๆหนุ่มที่ผู้กองเห็นนั้น ปกติทำงานในไร่ เขาตกใจก็มาดูเหตุการณ์คงเห็นเจ้าหน้าที่มา ตรวจสอบก็จึงได้เลี่ยงกันกลับบ้านไปแล้วครับ” “นั่นนะซิพอเห็นพวกผมมาก็ค่อยทะยอยเดินเป็นคู่ๆออกไปกันสังเกตุเห็น” “เขาคงคิดว่าคงไม่ใช่ธุระสำคัญอะไรจะทำงานได้อีกแล้ว ด้วยบ้านผมมันพังไป เลยไม่ได้มารับจ้างทำงานครับ” กำนันเอ่ย แล้วหันหน้าเหลียวซ้ายแลขวา เพื่อมองหาลูกชายมัน ก็ได้ยินเสียงถามมาอีก “อ้าวแล้วลูกชายกำนันชื่อแม้นนะไปไหนเสียล่ะ บ้านพังแบบนี้น่าจะอยู่ดูแลพ่อนะ” “ตอนตีห้าผมให้ไปดูที่ไร่ครับ ด้วยไม่มีคนมารับของมีพ่อค้ามารับของ หากเสร็จ ก็คงจะมาแหละครับ ผมใช้มันไปเองปกติมันจะคอยเก็บเงินค่าของในไร่แล้วนำมา ให้ผมครับ” “อืมมมๆๆ...นับว่าเป็นเด็กที่ใช้ได้นะ แต่ไม่เป็นไรหรอกมีกำนันเพียงคนเดียวก็พอ” “นับได้ว่ากำนันเป็นคนทำมาหากินโดยสุจริตจริงนะท่านนายอำเภอ” ผู้กองหันไปสนทนากับนายอำเภอ นายอำเภออมยิ้มไม่ได้ว่ากล่าวอะไรก็พยายามหา เรื่องสนทนากับกำนันมั่น ส่วนตำรวจสามนายที่ยืนข้างหลังผู้กอง ต่างแยกกันคุมเชิงอยู่ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ บ้างก็ควักบุหรี่มาสูบ บ้างก็ชี้ให้พวกดู ตำรวจที่กำลังรื้อเศษไม้เพื่อค้น หาหลักฐานเพิ่มเติม “เอ้ๆๆๆ...ทำไมตำรวจต้องรื้อไม้ถึงขนาดนี้ล่ะครับ” กำนันชักเอ๊ะใจขึ้นมาบ้าง หันไปถามผู้กอง “อ้อๆๆ...ไม่มีอะไรหรอกกำนันคงจะหารอยสะเก็ดระเบิดที่กำนันบอกว่ามันหล่นจาก หลังคาบ้านทะลุพื้นมาระเบิดข้างล่างนะ ว่าเป็นระเบิดอะไรถึงได้รุนแรงยิ่งนัก” “นั่นซิผมเลยชักสงสัย อ้อแบบนี้นี่เอง” กำนันตอบพลางหันไปมองการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สาระวนในการค้นหาตรวจสอบ ทันใดนั้นเสียงตำรวจที่กำลังรื้อค้นก็ร้องตะโกนบอกสารวัตรทันที “สารวัตรครับที่พื้นห้องมีห้องใต้ดินอีกครับ จะให้เข้าไปทำการตรวจค้นไหมครับ???...” “จัดการเข้าไปได้เลยจ่า นำพวกลงไปด้วยนะ” สารวัตรสั่งทันที “โอ้โฮๆๆ....สารวัตรครับของเพียบเลยครับ แน่นไปหมดครับ” เสียจ่าตะโกนขึ้นมา “งั้นเอาออกมาตรวจสอบหลักฐานให้หมด นายดาบให้นำกำลังพลลงไปช่วยขนด้วยนะ” สารวัตรหันไปสั่งนายดาบทันที ผู้กองและนายอำเภอมองหน้ากันแล้วอมยิ้ม ทันใดนั้นเองตำรวจสามนายก็พุ่งตัวเข้า ชาร์ทกำนัน ไอ้แช่มและไอ้อ๊อดทันที เสียงฉับๆๆ ดังนั้น ร่างของกำนันบัดนี้หน้าตาซีดไม่มี สีเลือดเอาเสียเลย ส่วนไอ้แช่ม ไอ้อ๊อดพยายามดิ้นรนเพื่อหาทางหลบหนีไป หน้ามัน ก็ซีดเผือด มันรู้ว่าตำรวจได้พบอะไรบ้าง มันนึกในใจฉิบหายก็คราวนี้แหละ ไม่น่าเลยทำเป็นหวงไม่ยอมนำไปเก็บที่อื่น คิดว่าตัวเองใหญ่โตคงจะไม่มีอะไรกับแก กูก็พลอยซวยไปด้วยมันนึก ของทั้งหมดนำออกมารวมๆกันไว้ยังที่ลานกว้างเป็นพวกยาเสพย์ติดต่างๆสุมกองโตตลอด จนอาวุธปืนต่างๆอีกมากมาย พวกตำรวจก็พากันถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานทันที สารวัตรสั่งงานให้ผู้กองจำลองคอยตรวจนับสิ่งของ แยกอาวุธกับยาเสพย์ติดออกจากกัน แล้วเดินเข้ามาหานายอำเภอปลัดและกำนันทันที “ว่าไงกำนันของทั้งหมดนี้เป็นของกำนันหรือเปล่าล่ะ เห็นบอกว่าเป็นคนทำงานสุจริตนี่นา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ทำบุญสุนทานตลอด แล้วลูกชายและพรรคพวกลูกชายหายไปไหนหมดล่ะ ผู้กองจรัสสอบปากคำรายละเอียดคนในบ้านให้หมดทุกๆคนด้วยนะ เดี๋ยวผมจะนำนายอำเภอ และคุณปลัดไปดูของสักหน่อย” “ครับสารวัตร” แล้วนำตัวกำนันและพวกแยกออกจากกันทำการสอบสวนโดยแบ่งเจ้าหน้าที่ออกสอบสวน ทันที สักครู่หนึ่งพวกนักหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นและจังหวัดก็นำรถวิ่งเข้ามาในบริเวณบ้าน แล้วพากันถ่ายรูปของที่ยึดมาได้ ถ่ายรูปกำนันและพวก ตลอดบริเวณบ้านและนายอำเภอ ปลัดอำเภอ ตลอดจนสารวัตรผู้กองทั้งสอง พร้อมขอสัมภาษณ์ทันที “พวกคุณรอก่อนนะครับให้ผมทำงานเสร็จก่อนแล้วจะให้สัมภาษณ์ครับ” สารวัตรเอ่ย ดังนั้นพวกหนังสือพิมพ์ต่างก็แยกย้ายติดตามาสารวัตรผู้กองนายอำเภอปลัดไปติดๆถ่าย ภาพไปด้วย เมื่อนายอำเภอและปลัดเห็นดังนั้นก็ให้เจ้าหน้าที่อำเภอทำการถ่ายภาพและ เขียนรายงานอย่างละเอียดเพื่อจะได้เสนอผุ้บังคับบัญชาชั้นสูงต่อไป........... * แก้วประเสริฐ. *