อทิสมานกาย ๕๑ ครั้นสินชัยผละจากสารวัตรแล้ว ก็นำกำลังเขาทั้งหมดมุ่งหน้าเดินฝ่าแนวกระสุนปืน ของฝ่ายตรงกัน ข้ามเขาเดินไปหาแสงสีทันที พลางเอ่ยขึ้นว่า “พี่แสงสี นายเราสั่งไว้ให้ผมนำกำลังมาช่วยพี่ด้วย ทางโน้นเรียบร้อยแล้ว นายเรามาด้วยพร้อมกับอาจารย์แม่นางอัปสรทั้งสองแต่มาร่างกายทิพย์ ไม่มีใครเห็นหรอก เรียกผมไปให้รีบมาทางนี้ด้วยทราบว่าพวกลำเลียงไม้จากฝั่งโน้น ส่งคนมาช่วยเหลือจำนวนมาก แต่บัดนี้ที่มาตลบหลังฝ่ายเรานั้นต่างตกตายและถูกจับกุมได้ประมาณสิบคนเห็นจะได้ นอกนั้นตายเรียบหมดพี่” “หรือน้องสินชัย นายเรามาด้วยหรือ ทางนี้ทางฝ่ายเราเท่านั้นที่ได้เปรียบอยู่ ส่วนทางด้านตำรวจพี่ไม่ให้เขาออกมาเนื่องจากไม่ไว้วางใจความปลอดภัยนั่นเอง เหลือคนทางนี้อีกไม่เท่าไหร่แล้วก็จะเรียบร้อย พี่เองตอนแรกก็เวทนามันหรอก เมื่อมาคิดถึงภัยอันใหญ่หลวงแก่แผ่นดินมากนัก จึงระงับไว้เสียนึกว่าเราช่วยขจัดเสี้ยนหนามแผ่นดินก็เป็นบุญกุศลเราอย่างหนึ่ง ที่มองเห็นกำนันยังอยู่อีกสองคนส่วนหัวหน้าฝ่ายลำเลียงไม้มานั้น คงจะเหลืออีก แค่รองๆมันเท่านั้นที่ควบคุมฝ่ายมัน นอกนั้นตายหมดแล้วล่ะ ส่วนหัวหน้าการใหญ่ เสี่ยหว่างนั้นมันหนีรอดไปได้ไม่รู้ว่าจะติดตามอย่างไร??..” “เรื่องนี้นายหญิงสั่งกำชับและบอกหนทางให้แก่ผมแล้วครับพี่ ฉะนั้นผมจะรีบติดตามมันไปด้วยเราไปอย่างไม่ใช่คนธรรมดา ใช้เวลาไม่นานนัก เพียงขึ้นเขาไปสะกัดก็คงจะทันหรอกพี่ ถ้าอย่างงั้นผมจะทิ้งลูกน้องไว้ให้พี่ คอยควบคุมแทนไว้ด้วย ผมเองจะรีบไปกับพวกประมาณสักห้าตนก็คงจะเพียงพอแล้ว จะต้องขึ้นข้ามภูเขาไปดักทางไว้คงทันแน่นอนครับพี่” “ถ้าเป็นอย่างที่นายหญิงเราแจ้งไว้ก็ดี พี่เองจะได้ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลังคิดมาก เจ้ารีบไปเถอะนะ ทางนี้พี่จะคงจัดการได้อีกในไม่ช้านี้แหละ ยิ่งได้พวกเรามาล้วนแต่ชำนาญอาวุธทั้งสิ้น คิดว่าเวลาคงจะกำจัดได้ไม่นานนัก เห็นลูกน้องของน้องพี่นำเอาปืนอาก้ามาเกือบทั้งหมด คงอีกไม่ถึงชั่วโมงหรอก พี่ก็จะจัดการได้เรียบร้อยแล้ว น้องไปเถอะอย่าให้พลาดได้เชียวนะเดี๋ยวนายหญิงจะเสียใจ” แสงสีกล่าว “ครับพี่ผมจะสั่งลูกน้องผมก่อนแล้วจะคัดคนไปแล้วรีบเดินลัดข้ามภูเขาไป ด้วยหนทางนี้ต้องอ้อมตามไหล่เขาวกวนไปมา พวกมันคงใช้เวลานาน กว่าจะถึงทางสายตรง” สินชัยกล่าว พลางหันไปสั่งลูกน้องและคัดคนออกมาห้าคน ให้ทุกๆคนฟังคำสั่งพี่แสงสี ทุกๆครั้งด้วย ทางลูกน้องของสินชัยหัวหน้าเริ่มได้สั่งลูกน้องให้ทราบทุกๆคน หัวหน้าพ่วงฝ่ายแสงสีก็หันมาไหว้สินชัย พลางเอ่ยขึ้นว่า “ทางนี้ไม่ต้องห่วงหรอกครับนาย ผมคิดว่าไม่นานหรอกก็จะจัดการได้ เรียบร้อยแล้วด้วย ตอนนี้พวกมันต่างกลัวพวกเราอีก ต่าง ขวัญหนีดีฝ่อไปตามๆกัน มันกำลังคิดหาหนทางหนีอย่างเดียว ผมได้คุยกันกับหัวหน้าเริ่มแล้วว่าจะแยกย้ายกัน ตีตลบหลัง ด้านหน้าผมเองจะเข้าตลุยส่วนด้านตลบหลังนั้นหัวหน้าเริ่มจะอ้อมไป ทางแม่น้ำแล้ววกกลับตีตลบหลังอีกทีครับ” เจ้าพ่วงรายงาน “ อืมๆๆๆ....นับว่าเป็นแผนการณ์ที่ใช้ได้ทีเดียวแหละมันจะได้หนีไปกันไม่ได้ ขอบใจมากนะพ่วง เอาล่ะเดี๋ยวข้าจะรีบออกเดินทางไปสะกัดเจ้าหว่างเสียหน่อยนะ” สินชัยเอ่ยขึ้น “ครับนายไม่ต้องห่วงหรอก ผมจะทำตามแผนที่เจ้าพ่วงบอกไว้ครับ” ทั้งสองเอ่ยตอบ พลางหันหน้าไปทางแสงสี พลางเอ่ยบอกกล่าวทันที “พี่แสง ผมจะออกเดินทางไปเดี๋ยวนี้นะครับ หากเสร็จกำจัดมันได้หมดแล้ว จะรีบเดินทางมาสมทบทันที” “ ไปเถอะน้องรัก คิดว่าแค่นี้ไม่พอมือน้องหรอก ข้ามภูเขาทางด้านทิศใต้ นั่นแหละเห็นว่าเหมาะสมที่สุดด้วยพี่เองก่อนนั้นเคยไปสำรวจมาแล้วล่ะ” แสงสีตอบน้องมัน ดังนั้นเจ้าสินชัยก็เรียกคนที่มันคัดมาห้าคนออกเดินทางด้วยอำนาจ ที่มีพลังงานอีกมิติหนึ่งนั้นทั้งหมดก็หายตัวข้ามเขาไปทางทิศใต้ ก็เห็นไหล่เขาเป็นทางผ่านที่คดเคี้ยวไปๆมาๆ จึงนำลูกน้องมันลงยังด้าน ก่อนทางจะลงไปยังทางทอดลงไปยังที่ราบเข้าสู่ตัวเมือง ครั้นถึงแล้วก็สั่งให้คนนำขอนไม้แห้งใหญที่วางไว้ข้างทางมาขวางกั้นรถบน ถนนทันที รอคอยมาของรถยนต์ สินชัยก็พลันนึกได้ว่าทำไมรถของเจ้าเสี่ยชั่วร้ายนี้ ถึงได้ฝ่าวงล้อมออกมาได้ คงจะไม่ใช่รถธรรมดาแน่นอน หรือว่าเอ๊ะ???.... ใช่แล้วรถมันคงจะเป็นรถแบบหุ้มเกราะป้องกันกระสุนนาๆชนิดได้ จึงหันไปทางลูกน้องมันว่า “เจ้าสองคนนี่ให้รีบไปนำขอนไม้มาวางกั้นไว้อีกชั้นหนึ่งก่อน ด้วยรถของเจ้าเสี่ยนี้ไม่ใช่รถธรรมดาและยิ่งวิ่งหนีมาด้วยความเร็วเช่นนี้ คงจะชนกับขอนไม้ให้นำขอนไม้มาขวางอีกชั้นหนึ่งด้วยพร้อมหินดันไม้ไว้ หากมันผ่านชั้นแรกไปก็ต้องปะทะกับชั้นสองดังนั้นรถมันต้องตกเขาแน่นอน ให้เจ้าสองคน พลางชี้มือไปสั่ง ให้ลงไปรอยังเบื้องล่างของเขา หากรถมันตกไม่ระเบิดขึ้น ก็ให้จัดการส่งมันไปเกิดใหม่ทันที” เจ้าทั้งห้าพอฟังคำของสินชัยพลางเอ่ยว่า “ครับนาย ผมจะดำเนินการเดี๋ยวนี้เลยครับ “ แล้วมันทั้งสี่ก็แยกย้ายกันไปทำงาน สองคนด้านซ้ายมือก็รีบไปเอาขอนไม้มาขวางกั้นอีกชั้นหนึ่งพร้อมนำก้อนหินก้อนใหญ่ มาหกก้อนวางระหว่างหัวท้ายและตรงกลางอีกด้วยดันไม้ไว้ด้านในกันไหลของไม้ได้ แล้วรีบเดินมารายงานผลให้สินชัยหัวหน้าใหญ่มันทันที ส่วนอีกสองคนก็รีบลงไปยังตีนเขาแล้วพากัน ต่างแยกย้ายกันหลบยังต้นไม้ใหญ่ แต่ไม่ห่างไกลกันมากนัก คอยรอจังหวะดูอยู่ เมื่อการสั่งงานของสินชัยเห็นลูกน้องมันทำงานอย่างว่องไวเรียบร้อยแล้ว มันจึงสั่งให้อีกสามคน หลบไปยังไหล่เขาหาที่กำบังรวมทั้งตัวสินชัยเองด้วย ต่างแยกย้ายหาที่หลบซ่อน เพื่อมิให้รถของเจ้าเสี่ยหว่างรู้ ในขณะเดียวกันเจ้าสินชัยนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึง ตะโกนเรียกหุ่นตนหนึ่ง ออกมาพบเข้าทันที ครั้นหุ่นที่ถูกเรียกมายืนตรงหน้าเขาแล้ว เจ้าสินชัยก็เอ่ยขึ้นว่า “ หากมันแลเห็นท่อนไม้ขวางหน้ามันคงจะชะลอรถแน่นอน พวกเราจะยิงมัน นอกรถก็ไม่มีประโยชน์อันใด หากมันมิได้ออกมานอกรถจะยุ่งยากแก่พวกเรา ฉะนั้นเอ็งจงแฝงกายไปด้านหลังรถมันแล้วระดมยิงไปรถของมันทันที พวกมันจะได้ตกใจรีบขับหนีอย่างรวดเร็วคงนึกว่า ตำรวจแอบแฝงตัวไว้หากเป็นเช่นนี้ มันก็จะรีบขับรถหนีไปอย่างสุดแรงเกิด ก็จะมาปะทะด้วยเบรครถไม่ทันคงจะเป็น ไปตามแผนเราแน่นอน” สินชัยวางแผนเอ่ยขึ้น “ครับนายผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” แล้วร่างมันก็เดินหายลับไปทันที ครั้นแสงสีเห็นน้องสินชัยของมันนำคนออกเดินทางไปแล้ว ก็กวักมือเรียกหัวหน้าเริ่ม และหัวหน้าพ่วง มาแล้วนั่งลงเขียนแผนที่ต่างๆลงบนพื้นดินทันที อธิบายให้หัวหน้า ทั้งสองทราบ ครั้นต่างเข้าใจกันแล้ว แสงสีก็ยกเท้าขึ้นลบแผนที่ต่างๆนั้นแล้วออกเดินไป หัวหน้าเริ่มก็รีบนำกำลังพลมันทั้งหมดตีฝ่าวงล้อมหนีออกไปทางแม่น้ำทันที พร้อม พากันเดินเลาะไปตามริมฝั่งน้ำ โดยกระจายคนออกวกขึ้นไปตามไหล่เนินเขาอีกครั้งหนึ่ง ทุกๆคนต่างคืบคลานโดยมีปืนอาก้าอยู่ด้านหลัง หัวหน้าเริ่มก็ค่อยๆคืบคลานตลบวกเข้า หาพวกมัน เมื่อถึงเห็น พวกมันต่างกระจายกำลังออกต่อสู้ทางด้านหน้าอยู่ จึงยกมือขึ้น เพื่อให้สัญญาณแก่พวกเขาทันที แสงสีครั้นเห็นหัวหน้าเริ่มนำกำลังออกไป ประมาณพักใหญ่ ก็ให้หัวหน้าพ่วงนำกำลัง เข้าโจมตีอีกครั้งหนึ่ง ทุกๆตนต่างเดินหน้าเข้าหาฝ่ายทางโน้นย่อร่างก้มพร้อมอยู่ในท่ายิง ครั้นได้ระยะผลก็พลางสาดกระสุน เสียงดังพรืดๆๆๆไม่ขาดสายออกไปยังเหล่าร้ายที่เห็น สลับไป ข้างหน้าเป็นข้างหลัง ข้างหลังเป็นข้างหน้า ฝ่ายกำนันบางกำนันแช่มและรอง หัวหน้าฝ่ายลำเลียงไม้กำลังปรึกษาหารือกันอยู่ถึงแผนการหลบหนีนั้น พลันสายตาของกำนันบางแลเห็นฝ่ายแสงสีซึ่งนำโดยหัวหน้าพ่วง กำลังรุกคืบเข้า โจมตี ก็รีบแจ้งให้พรรคพวกทราบถึงการรุกโจมตีของตำรวจเกิดขึ้นอีกแล้ว “ เฮ้ยๆๆๆ!!!....มันมากันอีกแล้วโว้ย แยกกันเลยว๊ะ พวกใครพวกมันหนีโว้ย” “ไอ้ว๊อกๆ มึงรีบนำคนไปทางริมแม่น้ำ หาทางลัดเลาะหนีไปอีกทางหรือหาที่ข้าม แม่น้ำไปทางฝั่งโน้นก็ได้แล้วมาพบกันที่หมู่บ้านก็แล้วกัน กูจะอยู่ยิงสะกัดมันให้มีงนำ กำลังส่วนใหญ่ไปเดี๋ยวนี้เลย” กำนันแช่มกล่าว “ครับกำนัน” แล้วไอ้ว๊อกก็หันไปทางพรรคพวกนำกำลังส่วนใหญ่เพื่อจะหนีไปทาง แม่น้ำทันที ฝ่ายลำเลียงไม้ล่องมาจากฝั่งโน้นและอีกฝั่งเขตติดต่อกัน ก็รีบแจ้งให้พรรคพวกรีบ หนีไปทางทิศตรงข้ามกับพวกตำรวจยิงชลอไว้แล้วหาทางหลบหนีไป ทั้งหมดก็กระจายกำลังออกเป็นสามฝ่ายนำกำลังคนเข้าต่อสู้แต่พวกมันทั้งหมด เพื่อสะกัดกันให้พวกตนหลบหนีไป หมดกำลังใจกันเสียแล้วด้วยลูกปืน ไม่สามารถทำอะไรกับพวกเหล่านั้นได้เลย แค่ชลอเวลาไว้ช้าๆลง เมื่อพวกมันที่วางแผนการหลบนี้ได้กำหนดไว้ว่าให้ต่างตีฝ่าวงล้อมไป คนละทิศทางกัน ตามเหตุสิ่งแวดล้อมและเหตุการณ์อาศัยภูมิประเทศคอยช่วยเหลือ พยายามสั่งลูกน้องอย่าได้ปะทะกับฝ่ายชาวบ้าน ที่แปลกประหลาดนั้นๆ ให้รีบนำกำลังคนออกหลบหนีให้ไกลๆที่สุด ตามแผนการหลบหนีไว้ที่แจ้งให้รู้แล้ว กำนันแช่มก็หันไปทางคนสนิทสั่งให้รีบนำกำลังพลส่วนใหญ่หนีหลบไปทางเขาเลียบ ชายเขาหาทางพาพวกหลับหนี ส่วนมันและพวกอีกจำนวนหนึ่งจะคอยยิงสะกัดกันไว้ให้ ระหว่างที่กำนันบางกำลังยิ่งสะกัด ฝ่ายหุ่นที่นำโดยแสงสีก็ใกล้ถึงตัวที่เสียเวลาด้วยแรง ของกระสุนนั้นทำให้มิสามารถรุกคืบหน้าไปได้เร็วถึงว่าจะไม่เป็นอันตรายก็ตามที ด้านหลัง ผู้กองจรัสก็นำตำรวจทะยอยมาสบทบด้วยเป็นจำนวนมากร่วมเข้าต่อสู้กัน ที่มั่นของกำนันบางขณะยิงสะกัดอยู่นั้น มันก็ต้องสะดุ้งสุดตัวด้วยร่างมันพรุน ไปด้วยกระสุนยามที่มันยืนสั่งการให้พวกหลบหนีไป ร่างมันเต้นเร่าๆตามแรงของกระสุนจนกระเด็นไปชนกับแนวฝากระต๊อบเบื้องหลัง แล้วฟุบร่างมันสิ้นชีวิตกองอยู่กับพื้นทับด้วยฝากระต๊อบที่ล้มครืนลงมา ทับร่างมันอีกที ที่กำลังสะกัดต่างตกอกตกใจกัน พากันลุกขึ้นหมายจะวิ่งหนีคนละทาง แต่แล้วทุกๆคนก็ต่างร่วงผล๊อยๆ กระเด็นไปตามแรงของกระสุน ที่มีอานุภาพรุนแรง ไม่มีใครสามารถหนีเอารอดไปได้สักคนเดียว ร่างมันกระเด็นไปในสถานที่ต่างๆกัน ด้านฝ่ายลำเลียงไม้เถื่อนนั้น มันนำพวกตีฝ่าวงล้อมหมายจะไปที่แม่น้ำที่แห้ง พอจะใช้ข้ามไปยังฝั่งโน้นได้ก็ปะทะกับฝ่ายตลบหลังมันชะงักรีบหลบเข้าโคนต้นไม้ แต่แล้วรองหัวหน้ามันก็ต้องสังเวยชีวิตอันโสมมไว้ในผืนแผ่นดินไทยอีกคนหนึ่ง ติดตามพร้อมหรือใกล้เคียงพวกของมันไปล้วนทิ้งร่างไร้วิญญาณฝากลง บนผืนแผ่นดินนี้ เลือดสาดหลั่งไหลนองไปทั่วบริเวณแนวป่าจนทำให้พุ่มไม้แดง เต็มไปด้วยรอยเลือดตามสุมทุมพุ่มไม้ไปทั่วๆหมด ในเวลาไล่เลี่ยกันเมื่อยามปะทะกับคนหัวหน้าเริ่มที่คอยสะกัดตีตลบหลังอยู่ พวกมันล้วนแล้วมาสังเวยชีวิตในป่าด้านแถบริมน้ำทั้งสิ้น ไม่มีใครเล็ดรอด หนีไปได้แม้แต่สักคนเดียว ด้านกำนันแช่มได้ให้ลูกน้องคนสนิทมันช่วยยิงสะกัดกั้นไว้ นำกำลังคน เพื่อจะหลบหนีไปทางตามไหล่เขาเพื่อขึ้นเนินแล้ววกเลาะเลี้ยวไปยังหนทางที่มัน ค่อนข้างชำนาญบ้าง แต่แล้วเมื่อหันหลังกลับไปมองพวกคนสนิทของพวกมัน ที่เสียงปืนเงียบหายไป ก็รู้ทันที่ว่าคนสนิทของมันนั้นได้ตายไปหมดแล้ว รีบพากัน วิ่งพลางตะโกนพลางให้พวกรีบหลบหนีอย่าหมายปะทะตำรวจอีกต่อไป พอมันระหว่างยืนชี้มองสั่งให้ลูกน้องมันไปทางโน้นเพื่อข้ามเนินไปก็ต้องมีอันถูก กระสุนร่างมันฟุบหงายล่างปะทะกับขอนไม้เสียชีวิตติดตามเหล่ากำนันและพวก ทั้งหลายไปทันที ทุกๆร่างต่างชโลมไปด้วยเลือดที่หลั่งออกมาตามรูกระสุนปืน บรรดาลูกน้องหมู่บ้านโนนสูงครั้นเห็นกำนันมันตาย ต่างร้องบอกต่อๆกัน บางคนใจเซาะก็ทิ้งอาวุธปืน ขึ้นเพื่อจะเข้ามอบตัวแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะรักษาชีวิตมันไว้ ขณะที่ทิ้งอาวุธนั้นพวกมันที่เห็นต่างก็ระดมยิงร่างที่ใจเซาะ ของมันทันที เสียงปืนดังระงมไป ร่างที่หมายที่จะมอบตัวต่างเต้นเร่าๆกันสิ้นชีวิต ด้วยน้ำมือจากปืนของพวกพ้องมันกันเอง “ไอ้ห่า!!!!....คิดเอาตัวรอดอย่างนี้หากมันรอดก็จะแจ้งว่ามีใครบ้างร่วมมือ ซิว๊ะ ยิงแหม่งมันเล๊ยพวกเรา” เสียงคำพูดยังไม่สิ้นเสียงทั่วร่างมันก็ถูกกระสุนพรุนตาเหลือกค้างไปหงายร่างทิ้งยังพื้น สิ้นใจไปอีก พวกที่เห็นดังนั้นก็ต่างลุกขึ้นวิ่งหนีไปคนละทางที่มันคิดว่าสามารถเอาตัว รอดจากที่นี่ได้ แต่แล้วก็ถูกฝ่ายตลบหลังยิงใส่จนกระทั่งพวกมันสิ้นชีวิตไปทั้งหมด เสียงปืนทางด้านนี้เงียบเชียบ ตำรวจและพวกหุ่นทั้งหลายก็เข้าเคลียร์ยังพื้นที่ทันที ด้วยความระมัดระวังตัวอย่างระมัดระวังไว้ด้วย ภายในกระต๊อบที่อยู่ติดกับริมป่าด้านท้ายสุด ครั้นพวกหุ่นเข้าไปตรวจสอบดู ก็เห็นร่างชายสองสามคน แต่ไม่มีอาวุธใดๆกำลังแนบร่างฟุบทำเป็นตาย มันสามารถหลอกพวกผู้คนอื่นได้ แต่กับพวกหุ่นนี้ที่สร้างจากพวกผีทั้งหลายไม่ได้ ดังนั้นมันจึงถูกเตะกระทืบร่างมัน ครั้นทนเจ็บไม่ไหวก็ลุกขึ้นและถูกจับกุม เดินออกมา ข้างนอกกระต๊อบมีประมาณ สามคนทั้งหมดล้วนเป็นพวกป่าไม้ร่วมมือทำผิดกฏหมายทั้งสิ้น และได้นำถูกตัวมามอบให้แก่ตำรวจซึ่งสารวัตรและผู้กองเองก็ยืนสั่งงานอยู่ใกล้บริเวณที่สุม เต็มไปด้วยกองไม้แปรรูปทั้งยังยึดได้ตราที่ใช้ตีประทับไม้พร้อมด้วยหมึกที่หล่นใกล้ กับกองไม้แปรรูปที่กระจัดล้มทับระเนระนาดไป จากการปะทะกันทั้งสองฝ่าย ไม้เหล่านี้ต่าง เป็นรอยกระสุนทะลุบ้างไม่ทะลุบ้าง ฉีกขาดบ้าง เปื้อนรอยเลือดต่างๆเต็มไปหมด หลังจากทุกๆอย่างสงบเรียบร้อยแล้ว สารวัตรก็ให้สำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นใน การปะทะกันร่วมกับผู้กองพบว่า ฝ่ายทางผิดกฏหมายต่างเสียชีวิตกันเกือบหมด ยกเว้นพวกที่มอบตัวที่จับกุมได้ก่อนแล้วเท่านั้น ส่วนฝ่ายตำรวจนั้นได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยด้วยตำรวจเหล่านี้ไม่ได้นำเอาพระเครื่อง ที่ได้รับการปลุกเสกมาใหม่นำติดตัวมา เนื่องจากไม่ค่อยจะเชื่อถือเห็นเป็น พระพึ่งปลุกเสกมาใหม่ๆ คงห้อยแต่พระรุ่นเก่าๆเท่านั้น สารวัตรและผู้กองก็ให้หน่วยพยาบาลเป็นทั้งหน่วยจู่โจมในตัวเสร็จพันบาดแผล แก่พวกตำรวจหลายสิบนาย บ้างถูกกระสุนฝังในจนต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อ ผ่าตัดเอากระสุนออก บ้างขาหักแต่ร่างกายไม่ได้รับบาดแผลแต่อย่างใด ส่วนที่บาดเจ็บ นั้นล้วนถูกที่ไม่สำคัญทั้งๆสิ้น ร่างผู้ก่อการผิดกฏหมายที่เสียชีวิตต่างนำมาสุมรวมกัน ในลานใกล้ๆกับกองไม้แปรรูปที่ขจัดขจายไปทั่วบริเวณ ส่วนผู้ถูกจับกุมได้แยกออก เป็นสองฝ่ายระหว่างเจ้าหน้าที่ป่าไม้และฝ่ายทางฝั่งที่ลำเลียงไม้เถื่อนมา ทุกๆคนถูก ผูกติดกับเสาหลักไม้ที่ทำขึ้นภายหลังใกล้ๆกับกองศพที่สุมๆกันหลายกองเป็นร่างที่ ไร้วิญญาณทั้งสิ้น ข้างๆกองสุมไปด้วยกองอาวุธปืนนานาชนิดสุมสูงพร้อมกระสูนปืน ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนก็กำลังถ่ายรูปกันเป็นการยกใหญ่ตามสถานที่ต่างๆกัน รวมถึงบริเวณทั้งหมด ทั้งภายในลานและนอกลานที่ใช้ทำงานฝ่ายผิดกฏหมายตลอด จนฝ่ายที่ถูกจับกุมไว้ด้วย ส่วนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ถ่ายใบหน้าที่ให้เงยหน้าแต่บางคน ไม่ยอมต้องใช้วิธีจับเงยหน้าขึ้นเพื่อถ่ายรูป เพื่อใช้ดำเนินคดีประกอบหลักฐานต่อไป.... * แก้วประเสริฐ. *
19 ธันวาคม 2553 21:43 น. - comment id 120618
มีตำรวจเก่งๆยังงี้บ้านเมืองถึงจะอยู่รอดนะคะ
19 ธันวาคม 2553 22:34 น. - comment id 120626
อันที่จริงนั้นตำรวจไทยเราเก่งอยู่แล้ว ล่ะครับ คุณดูซิงานจับกุมได้รวดเร็วนักหาก ไม่มีนอกในแล้ว ไม่เป็นรองใครแหละครับ อิอิ คุณแจ้นเองก็เก่งฮ่าๆๆๆ รักแจ้นเสมอ แก้วประเสริฐ.